مشاركة

ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไป

last update آخر تحديث: 2025-01-01 23:44:50

ตอนที่ 2 มารดาเปลี่ยนไป

หรงผิงใช้เวลาในการตั้งสตินานหลายชั่วโมง

ก่อนจะลุกขึ้นสำรวจบ้านซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสองห้องนอน หนึ่งห้องส้วม หนึ่งห้องอาบน้ำ หนึ่งห้องครัว และหนึ่งห้องโถง จากที่รับรู้ ถือว่าบ้านหลังนี้ดีกว่าบ้านหลังอื่น ๆ ในหมู่บ้านเสียอีก

คนส่วนใหญ่ค่อนข้างยากจนจึงสร้างบ้านด้วยดิน มีการทำงานตามหน่วยคอมมูน ทำงานรับจ้าง และทำงานโรงงาน หรงผิงไม่แน่ใจว่ายุคนี้มันเป็นยุคไหน เพราะโลกที่เธอจากมาไม่ได้มียุคสมัยแบบนี้ หรือหากจะมีก็น่าจะย้อนยุคและผ่านมานานแล้วจนเธอไม่รู้

ยังดีที่เธอมีความทรงจำของร่างเดิม ยังพอที่จะปรับตัวได้บ้าง ไม่อย่างนั้นอาจทำให้ลำบากมากกว่านี้แน่ ๆ หรงผิงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ บ้านที่ดูดีกว่าบ้านคนอื่น แต่กลับรกจนไม่รู้จะรกอย่างไรแล้ว

"เสื้อผ้าของตัวเองยังดูดี แต่ลูกกลับใส่เสื้อผ้าขาด ๆ " หรงผิงบ่นพึมพำเกี่ยวกับเจ้าของร่างเดิม

หรงผิงตัดสินใจจัดการสิ่งของทุกอย่างที่อยู่ในห้อง จัดทุกอย่าง และแยกเสื้อผ้าทั้งหมดออกมา เพราะจากที่ดูแล้วมันต้องซักใหม่ทั้งหมด หรงผิงเก็บของ ทำความสะอาดบ้านไปด้วย พลางนึกถึงร่างเดิมว่าร้ายขนาดไหน ขนาดไม่สบายหลับไปสามวันยังไม่มีใครมาดูดำดูดี

คงร้ายขั้นสุด!! ญาติพี่น้องหรือคนรู้จักก็ไม่มาหา!!

"พี่ใหญ่ แม่เป็นอะไรมากไหม... แม่ทำงานบ้านเอง" ซือหงที่แอบดูแม่ทำงานบ้านหันมามองพี่ชายอย่างสงสัย เพราะปกติต้องเป็นพวกเธอที่ทำ ไม่อย่างนั้นจะไม่ได้กินข้าว!!

"พี่ใหญ่ เราต้องไปทำงาน ไม่อย่างนั้นเราจะไม่ได้กินข้าว!! " เมื่อนึกขึ้นได้ก็เริ่มทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ รีบดึงพี่ชายออกไปห้ามไม่ให้แม่ทำงาน

"มะ แม่ หนูทำเอง" ซือหงรีบวิ่งออกไปบอกแม่ พร้อมทั้งก้มหน้าเม้มปากแน่น กลัวว่าจะมีอะไรลอยมาหรืออาจโดนแม่ตบได้

"กินอิ่มแล้วเหรอ" หรงผิงถามเจ้าตัวเล็กที่ยืนเกร็งอย่างเห็นได้ชัด

หรงผิงรู้ว่าทำไมเด็กน้อยถึงมีอาการแบบนี้ เพราะยัยแม่ตัวร้ายโยนของใส่ ไม่ก็ตบจนล้มกลิ้ง มีอะไรอยู่ในมือก็ฟาดทันที เท่านั้นยังไม่พอ หากไม่ทำงานก็ไม่ให้กินข้าว ยังดีที่เด็กทั้งสองคนนี้แอบไปบ้านย่าเพื่อขอข้าวกินบ่อย ๆ ไม่อย่างนั้นก็ไม่ได้กินอะไรเลย

"อันนี้จะซักเหรอครับ" จือหมิงชี้ไปที่กองผ้า แล้วก็นึกท้อแท้ว่าต้องขนไปซักมากมายขนาดนี้ และตอนนี้อากาศก็เย็น ซักผ้าแต่ละครั้งมือแตกและเจ็บมากอีกด้วย

"เอาไว้อย่างนี้แหละ แม่จะทำเอง" วันนี้เธอรับรู้เรื่องราวชวนหดหู่หลายอย่างเหลือเกิน พอเห็นเด็กแฝดก็มีแต่ภาพที่ถูกทำร้าย

หากเธอไม่รับรู้ความทรงจำจริง ๆ ของร่างเดิม คงคิดว่าเด็กทั้งสองคนนี้ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่นี่เธอรับรู้ทั้งหมด มันเลยทำให้เศร้าใจและหดหู่กับสิ่งที่แม่แท้ ๆ กระทำกับลูกทั้งสองคน

"แต่ว่า... " ซือหงกลัวไม่ได้กินข้าวเย็น แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป

"นั่งรอแม่อยู่ตรงนี้ก่อน" หรงผิงบอกลูกก่อนจะเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง แล้วเอากุญแจที่พกติดตัวเปิดตู้ออกมา เธอสายตากวาดมองสิ่งของที่อยู่ในตู้ ก่อนจะหยิบนมมอลต์และหยิบข้าวสารกับไข่ไก่ออกมาวางไว้

"อาหง… อาหมิง... เข้ามาหาแม่หน่อย" หรงผิงเรียกเด็กแฝดทั้งสอง

"ช่วยแม่ถือของพวกนี้เข้าไปในครัว" หรงผิงส่งของต่าง ๆ ที่อยู่ในตู้ให้สองแฝดถือเข้าครัว เธอรู้ดีว่าร่างเดิมเก็บซ่อนไว้กินคนเดียว แต่เธอจะไม่ทำแบบร่างเดิมเป็นอันขาด

เธอจะเอาของพวกนี้มาทำอาหารให้เด็กแฝดได้กิน หากให้ถามว่ามีความรู้สึกรักสองคนนี้ไหม เธอก็ตอบได้ทันทีว่าไม่ได้รัก ความรู้สึกของเธอนั้นยังเหมือนเดิม ยังเป็นหรงผิงที่มาจากวันสิ้นโลก แต่ที่ทำแบบนี้เพราะเธอเห็นใจเด็กทั้งสองคน

หากใครมาเห็น มารับรู้อย่างที่เธอรับรู้... เชื่อเถอะว่าต้องทำแบบเดียวกันกับเธออย่างแน่นอน...

การทำอาหารง่าย ๆ เป็นอะไรที่เธอถนัดอยู่แล้ว ตอนที่ในวันสิ้นโลก ทุกอย่างต้องทำอย่างรวดเร็ว จะชักช้าไม่ได้เด็ดขาด ต้องระวังทั้งคนและระวังฝูงผีดิบอีกด้วย เพราะเหตุนี้ข้าวต้มไข่ง่าย ๆ พร้อมกับนมมอลต์คนละแก้วจึงเสร็จเรียบร้อยในเวลาอันรวดเร็ว

เด็กแฝดต่างมองหน้ากันและหันไปมองแม่ที่กำลังทำอาหาร กลิ่นที่ลอยมาทำให้ต้องสูดกลิ่นความหอมของข้าวต้มไข่เข้าไปเยอะ ๆ ได้แต่คิดว่า หากได้สักครึ่งชามมาแบ่งกันกินสองคนก็ยังดี

"กินได้เลย" หรงผิงวางข้าวต้มให้คนละชามและนมคนละแก้ว

"กินได้เหรอครับ" จือหมิงทำใจถามออกไป หวังว่าชามที่อยู่ในมือแม่จะไม่กระแทกหน้ากลับมาก็พอ

"กินได้ ตอนนี้กินเท่านี้ก่อน ตอนเย็นค่อยกินอีกรอบ" หรงผิงบอกก่อนจะเดินออกไปข้างนอก เพราะหากเธอยังอยู่คงไม่มีใครกล้ากินอย่างแน่นอน

"พี่ใหญ่... แม่เปลี่ยนไป" ซือหงกระซิบบอกพี่ชายเสียงเบาทันทีที่แม่ออกไป

"อย่ากิน ไม่รู้ว่าแม่ใส่อะไรในนี้ไหม จำที่ย่าบอกได้ไหม" ถึงข้าวต้มจะน่ากิน นมมอลต์จะหอมแค่ไหนก็ทำได้แค่กลืนน้ำลายลงคอเพียงเท่านั้น

ย่าเคยบอกว่าแม่เป็นคนที่ใจร้ายมาก ๆ หากให้กินอะไรง่าย ๆ อย่ากินเป็นอันขาด เพราะอาจถูกวางยาได้ และวันนี้เขากับน้องสาวยังไม่ได้ทำอะไรเลย แต่แม่กลับทำข้าวต้มและยังมีนมให้กินอีกด้วย

"แต่มันหอมมาก" ซือหงกลืนน้ำลายดังเอื้อกแล้วมองข้าวต้มกับนมด้วยสายตาละห้อย

หรงผิงได้ยินในสิ่งที่ทั้งสองพูดคุยกัน เธอไม่โกรธเลย... ดีใจด้วยซ้ำที่เด็กทั้งสองเชื่อฟังย่า เพราะไม่รู้ว่ายัยแม่ตัวร้ายมันจะเป็นบ้าขึ้นมาตอนไหนบ้าง สอนแบบนั้นถูกแล้ว เธอเข้าใจดีเลยแหละ

"แม่ไม่ได้ใส่ยาอะไรทั้งนั้น" หรงผิงเดินเข้ามามองสองแฝดที่ก้มหน้าไม่กล้ามองสบตา

หรงผิงเลยเดินเข้าไปหยิบช้อนแล้วค่อย ๆ ตักข้าวต้มชิมทั้งสองชาม เพื่อให้เด็กแฝดรู้ว่าเธอก็กินข้าวต้มชามนี้เหมือนกัน ก่อนจะยกนมมอลต์ขึ้นจิบทีละแก้วจนครบสองแก้วเพื่อยืนยันอีกครั้ง

"เชื่อหรือยัง แม่ยังกล้ากินของในชามเลย หากแม่ใส่ยาลงไปคงไม่กล้ากิน พากันกินได้แล้ว จะได้มาช่วยแม่ทำงานบ้าน" หรงผิงบอกก่อนจะออกไป และแน่นอนว่าหลังจากที่เธอพิสูจน์แล้ว ทั้งสองก็รีบกินข้าวต้มกับนมทันที

"แม่เปลี่ยนไป" ซือหงกินไปด้วย บอกให้พี่ชายรับรู้ไปด้วย

"ตาของแม่สวย ไม่น่ากลัวเหมือนแต่ก่อน" เธอจำได้ดี แต่ก่อนตาแม่จะดุมากกว่านี้

"อือ... รีบกิน จะได้ไปช่วยแม่ทำงาน" จือหมิงก็คิดเหมือนกันกับน้องสาว

แม่ไม่พูดเสียงดัง แม่ค่อย ๆ พูด หากแม่เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ก็คงจะดีมาก ๆ เขาชอบที่แม่ใจดีแบบนี้มากกว่าแม่ที่ใจร้าย ชอบทุบตีเขากับน้องสาว เขาไม่อยากได้แม่แบบนั้นอีกแล้ว...

استمر في قراءة هذا الكتاب مجانا
امسح الكود لتنزيل التطبيق

أحدث فصل

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 3 วันตรุษจีนของพวกเรา

    ตอนพิเศษ 3วันตรุษจีนของพวกเราณ โรงพยาบาลประจำมณฑล"เราจะได้กลับกี่โมง... ปกติพ่อกับแม่ไม่เคยมารับเราช้า แต่ทำไมวันนี้ถึงช้าได้เล่า" เสียงบ่นดังขึ้นอีกครั้ง พร้อมทั้งชะเง้อมองไปยังเส้นทาง เฝ้ามองว่าคนที่ตัวเองรอจะมารับเมื่อไร"หิว ง่วง หรือว่ายังไง" ซือหงมองเพื่อนที่บ่นเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ เพราะพูดบ่อยมากจนจำไม่ได้แล้ว"หิว วันนี้ที่บ้านต้องมีอาหารมากมายแน่ ๆ " ซือเล่อหันมาบอกเพื่อนอย่างจริงจังซือหงกับซือเล่อเป็นเพื่อนกันตั้งแต่เรียนระดับประถม และเรียนด้วยกันมาตลอดจนถึงตอนทำงานก็ยังทำที่เดียวกันอีกด้วย พวกเธอเป็นเพื่อนสนิทกัน ชอบอะไรคล้าย ๆ กัน แม้แต่อาชีพที่เลือกเรียนยังเหมือนกันเลยสองสาวเป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายที่ต้องมาทำงานในโรงพยาบาลประจำมณฑล อีกไม่นานก็เรียนจบแล้ว แต่ใช่ว่าจะจบเลยทีเดียว ยังมีต่อเฉพาะทางอีก ซึ่งสองสาวยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะต่อด้านไหนดีทั้งสองสนิทกันจนถึงขั้นไปกินไปนอนบ้านของอีกคนได้ โดยที่คนในครอบครัวรับรู้ จนพ่อแม่ของทั้งสองคิดว่ามีลูกสาวเพิ่มเข้ามาในครอบครัวอีกคนแล้ว"หิวหรืออยากเห็นหน้าพี่ใหญ่ วันนี้วันตรุษจีน... " ซือหงพูดพร้อมทั้งหรี่ตาจ้องจับผิ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 2 :: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::

    ตอนพิเศษ 2:: เซียวหรงผิงสาวน้อยจากวันสิ้นโลก ::หรงผิงขดตัวซ่อนอยู่ในมุมอับ ทั้งที่รอบ ๆ พื้นที่เงียบสงัด แต่เจ้าตัวกลับรับรู้ถึงภัยที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา รู้ดีว่าด้านนอกนั้นคือสิ่งใด...เซียวหรงผิง คือชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ ผิงผิง คือชื่อที่พวกท่านชอบเรียกหา แต่นั่นเมื่อนานมาแล้ว ตอนนี้เธอไม่ต้องการให้ใครเรียก ผิงผิง อีกแล้ว เพราะมันทำให้เธอคิดถึงพวกท่านหรงผิงดีใจที่พวกท่านจากไปตั้งแต่ช่วงแรก อาจฟังดูใจร้าย แต่เชื่อเถอะว่าคนที่จากไปในช่วงเชื้อโรคแพร่ระบาด หรือในช่วงแรกนั้น... คนพวกนั้นโชคดีกว่าคนที่อยู่มาถึงทุกวันนี้โลกที่เธออยู่มีความเจริญก้าวหน้าด้วยเทคโนโลยี ทุกอย่างสะดวกสบาย เมื่อมีข้อดีก็ย่อมมีข้อเสีย รวมถึงมีรอยรั่วให้สิ่งแปลกปลอมแทรกซึม เธอไม่รู้ว่าสาเหตุหลักจริง ๆ แล้วเชื้อไวรัสนี้มาจากที่ใด แต่การแพร่ระบาดเริ่มในกลุ่มเล็ก ๆ คนที่ติดเชื้อจะถูกแยกและถูกเจ้าหน้าที่กักตัวไว้เพื่อดูอาการในช่วงแรกทุกคนคิดว่าคนที่ติดเชื้อคือโชคร้าย เธอคือหนึ่งในนั้นที่คิดว่าพ่อกับแม่โชคร้ายที่ติดเชื้อตั้งแต่แรก ท่านทั้งสองถูกส่งเข้าไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยที่ตัวเธอถูกจับตรวจร่างกาย เพื่อหาเ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนพิเศษ 1 :: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::

    ตอนพิเศษ 1:: เซียวหรงผิงมารดาตัวร้าย ::เซียวหรงผิงค่อย ๆ ขยับตัว พยายามที่จะเปิดเปลือกตา... เพื่อลืมตาตื่น ความทรงจำบอกว่าเธอตกน้ำเย็นจัด จึงทำให้ป่วยเป็นไข้นอนซมตั้งแต่กลับมาถึงบ้านเมื่อนึกย้อนกลับไปว่าเพราะเหตุใดจึงทำให้ตัวเองตกลงไปในน้ำ ก็ทำให้มีแต่อารมณ์กรุ่นโกรธ!! ไม่พอใจชาวบ้านที่พากันลือพูดข่าวมั่ว ๆ กล่าวหาว่าสามีของเธอกำลังจะกลับมาหย่า!! จะหย่าได้อย่างไร ในเมื่อไม่ยอมหย่าซะอย่าง ใครจะทำไม!!สามีของเธอไม่เคยกล้ากับเธอเลยสักครั้ง ถึงตัวไม่กลับมาแต่ส่งเงินให้ตลอด มีกินมีใช้ไม่เคยขาดมือ ก็ลองปล่อยให้ขาดมือดูซิ!! คนที่ต้องอดก็คือลูกของเขาทั้งสองคนอีกนั่นแหละ!! เธอจำได้ดีว่าโทรเลขไปขู่สามี หากครั้งนี้ยังไม่กลับมา อย่าได้เห็นหน้าลูกอีกเลย"ทำไมมันปวดหัวอย่างนี้วะ!! ไอ้แฝดหายหัวไปไหนหมด ไม่แหกตาดูหรือว่าฉันยังไม่ได้กินอะไรเลย พวกแกสองตัวอยากให้ฉันตายหรืออย่างไร อยากลองดีใช่ไหม แม่จะฟาดให้หลังลายเลย!! " แม้จะรู้สึกได้ว่าเสียงของตัวเองเปลี่ยนไป แต่เพราะรู้ว่าตัวเองไม่สบายอาจทำให้เสียงเปลี่ยนไปเท่านั้นเอง"ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก!! วันนี้พวกแกสองตัวอดข้าวไปเลยนะ อย่าให้เห็นว่ากินอิ่มนอ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 46 บทส่งท้าย (มารดาที่ดี)

    ตอนที่ 46 บทส่งท้าย(มารดาที่ดี)หรงผิงจับลูกสาววัยสิบสองปีทำผมที่เด็กสาวกำลังนิยมในช่วงนี้ ที่ลูกสาวทำผมจัดเต็ม เพราะวันนี้ทางโรงเรียนจัดงานแข่งขันกีฬาสี และยังประกาศผลสอบให้กับนักเรียนอีกด้วย"ทำไมน้องเล็กต้องทำหลายอย่างด้วย" จือหมิงนั่งกินโจ๊กไปด้วยมองน้องสาวไปด้วย"คุณครูประจำชั้นบอกว่าจะมีคะแนนกิจกรรมมอบให้ เลยทำทุกอย่างที่ครูเสนอ" ซือหงตอบไปตามตรง ไม่อยากทำแต่อยากได้คะแนน เพราะผลการเรียนมีผลต่อการที่จะยื่นเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย รุ่นพี่พูดแบบนี้ทั้งนั้น"หากเป็นแต่ก่อน พี่คงคิดว่าน้องเล็กน่าจะถูกหลอก แต่ตอนนี้ไม่น่าจะถูกหลอกง่าย ๆ นอกจากไปหลอกคนอื่นเขามากกว่า" จือหมิงก็ยังคงเย้าแหย่น้องน้อยไปด้วย แต่ที่เขาบอกออกไปนั้นคือเรื่องจริง!!น้องสาวของเขาไม่ใช่เด็กที่ขี้กลัวเหมือนแต่ก่อนแล้ว แม่เป็นแบบไหน น้องสาวของเขาเป็นแบบนั้นเลย และน่าจะร้ายมากกว่าแม่เสียอีก!! เพราะตอนนี้เขาจดจำแม่ปากร้าย แม่ใจร้ายไม่ได้แล้ว เขาจำได้แต่แม่ใจดีถึงแม่จะไม่ค่อยพูด แต่แม่สอนในหลายสิ่งหลายอย่างให้เขากับน้องสาว สอนให้รู้จักเข้มแข็ง สอนให้รู้จักแบ่งปันแก่ผู้อื่นเสมอ และสอนให้สู้คน ไม่ยอมให้คนมารังแก หรือเอา

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดี

    ตอนที่ 45 เป็นลูกที่ดีหรงผิงยืนมองพ่อกับแม่ที่กำลังนั่งรอคิวให้เจ้าหน้าที่เรียกเข้าไปเพื่อตรวจสุขภาพประจำปี ไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมาอยู่ที่โลกใบนี้เกือบ 3 ปีแล้ว การงานของเธอมั่นคง มีโรงงานเป็นของตัวเอง โดยมีครอบครัวเฉินและครอบครัวเซียวดูแลเหมือนเดิมมาตั้งแต่แรกทุกคนช่วยงานกันเป็นอย่างดี เคยเป็นแบบไหนก็ยังเป็นแบบนั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือทุกคนมีรายได้ดี มีเงินเก็บ และลูกหลานทั้งสองบ้านก็ได้เรียนหนังสือทุกคน"ทำไมต้องมาตรวจให้สิ้นเปลืองด้วย" เหลียนฟางมองลูกสาวที่เดินมานั่งใกล้ ๆ ก็อดที่จะบ่นไม่ได้"ไม่อยากอยู่เลี้ยงหลานเลี้ยงเหลนหรืออย่างไร" หรงผิงถามกลับ แกล้งขู่แม่ไปอย่างนั้นเอง"ฉันไม่ได้เป็นอะไร!! " เหลียนฟางรู้ดีว่าลูกสาวหมายถึงเรื่องอะไรความจริงแล้วปากบ่นไปแบบนั้นเอง มันคือความเคยชิน แต่ในใจกลับตื้นตันที่ลูกสาวใส่ใจ ห่วงพ่อแม่พี่ชาย ต้องให้ทุกคนมาตรวจสุขภาพประจำปี เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่มาไม่เคยรู้ว่ามีตรวจสุขภาพประจำปีประจำเดือนด้วย แต่พอลูกสาวคนนี้เริ่มเปลี่ยนไปก็เหมือนเปิดรับสิ่งใหม่ ๆ ให้ครอบครัวได้เรียนรู้อยู่เรื่อย ๆ คำพูดของย่าทวดเป็นจริงเสมอ... ในตอนแรกที่ลูกสาวเปลี่ยนไ

  • 1970s เปลี่ยนมารดาตัวร้ายให้กลายเป็นคนดี   ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++

    ตอนที่ 44 ได้เป็นภรรยาอย่างเต็มตัว Nc+++กว่าทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางก็ผ่านมาอีกสามเดือน จนตอนนี้หรงผิงมาอยู่ที่โลกใบนี้เป็นปีแล้ว จากลูกอายุห้าขวบ ตอนนี้อายุหกขวบกว่า ๆ แล้วตอนนี้เด็กแฝดก็ไปเรียนแล้วด้วย เธอไม่รู้เลยว่ามีหลายอย่างเปลี่ยนไป เพราะว่ามัวแต่จัดการกับงานต่าง ๆ แต่พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางจึงทำให้มีเวลามองย้อนกลับไป จึงได้รู้ว่าทุกอย่างเปลี่ยนไปมาก!!สองครอบครัวมีกินมีใช้ ฐานะดีขึ้น แต่ก็ยังใช้ชีวิตเหมือนเดิมไม่ฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การที่สองครอบครัวสนิทกันมากขึ้น แบ่งปันสิ่งของกันเสมอ และที่เห็นได้ชัดอีกเรื่องคือ... ครอบครัวบ้านเฉินได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันครบทั้งหมดพี่ใหญ่บ้านเฉินลาออกจากการเป็นทหารกลับมาดูแลการผลิตในโรงงานให้เธอ เพราะพี่ชายทั้งสองของเธอต้องเข้ามาทำงานในมิติเลยไม่ได้ไปดูแลโรงงาน ทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำอย่างลงตัวตอนนี้หน้าที่หลักของเธอคือทำบัญชีเองทั้งหมด แม้แต่ค่าแรงที่จ่ายให้ทุกคน เธอก็คือคนตัดสินใจ แต่ส่วนมากจะขอความคิดเห็นจากสามี เท่าที่รับรู้เธอจ่ายค่าแรงสูงกว่าราคาการจ้างงานทั่วไปแต่พอปรึกษากันแล้ว คิดว่าคนที่ทำงานให้เป็นญาติพี่น

فصول أخرى
استكشاف وقراءة روايات جيدة مجانية
الوصول المجاني إلى عدد كبير من الروايات الجيدة على تطبيق GoodNovel. تنزيل الكتب التي تحبها وقراءتها كلما وأينما أردت
اقرأ الكتب مجانا في التطبيق
امسح الكود للقراءة على التطبيق
DMCA.com Protection Status