แชร์

22

ผู้เขียน: Scince
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-18 20:42:48

ทางด้านเสี่ยวเหลียนหลังจากที่กลับเข้าบ้านก็ไม่ได้กลับเข้าห้อง แต่มานั่งอ่านหนังสือที่ห้องโถง จุดประสงค์หลักก็เพื่อมานั่งรอยายหลิว เผื่อว่าท่านมาถึงจะได้ลุกไปเปิดประตูได้อย่างทันท่วงที

กึก! แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้น หญิงสาวเงยหน้าจากหนังสือที่เพิ่งเปิดอ่าน ในหัวนึกไปถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงเรื่องโจรปล้นบ้าน

“หรือจะเป็นเรื่องจริง” หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ตื่นตูม

ใบหน้าสวยหันมองซ้ายขวา เพื่อดูว่าพอจะมีอะไรใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้บ้าง สายตาไปสะดุดเข้ากับไม้กวาด มือเรียวหยิบไม้กวาดเข้ามาใกล้ตัว จากนั้นก็แง้มประตูบ้านเบาๆ เหมือนว่ามีเงาคนอยู่ ไม่รอช้า ใช้เท้าถีบประตูหวังจะให้บานประตูโดนเข้ากับโจร

ปัง! เสียงดังของประตูตามมาด้วยเสียงร้องที่ออกจะคุ้นหูอยู่สักหน่อย “โอ๊ย”

เสี่ยวเหลียนหลับตาเหวี่ยงด้ามไม้กวาดออกไปเต็ม รับรู้ได้ว่าฟาดโดนอะไรสักอย่าง เธอกำลังออกแรงจะฟาดเข้าไปหลายๆ ที แต่กลายเป็นว่าขยับไม่ได้ เลยลืมตาขึ้นมาดู

ตรงหน้าของเธอพบว่ามีผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง กำลังยืนทำหน้านิ่ง แต่พอหันมาสบตากับเธอริมฝีปากติดคล้ำนิดๆ กลับยกยิ้มแล้วยักคิ้วขึ้นมาข้างหนึ่ง

“ไง”

“จ้าวเสี่ยวเหลียน ที่เธอต้อนรั
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป
บทที่ถูกล็อก

บทล่าสุด

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   24

    สะใภ้รองเห็นหน้าคนมาใหม่แล้วถึงกับกลืนน้ำลาย สุดท้ายแล้วบ้านหลี่ก็ถูกพ่อจางเชิญไปร่วมโต๊ะอาหารด้วย แม้ว่าจะเกินจำนวนที่จองเอาไว้ ทว่าระดับท่านนายพลแล้วไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ทุกคนได้ที่นั่งหมดแล้วก็เงียบ จางเสวี่ยอวี้รับหน้าที่ในการสั่งอาหาร ส่วนคุณนายจางเวลานี้ไม่แม้แต่จะมองหน้าคนบ้านหลี่ เพราะรู้สึกว่าพวกเขาทำกับลูกสะใภ้เกินไป แต่ท่านไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเหลียนก่อนหน้าที่ยายหลิวจะมาถึงเดิมทีเสี่ยวเหลียนปฏิเสธที่จะไปกับสองหนุ่มแล้ว แต่บังเอิญว่ายายหลิวมาถึงพอดี พวกเลยพาท่านมาด้วย แต่เพราะต้องการซื้อชุดให้เสี่ยวเหลียนใหม่ เลยพายายหลิวมารอที่ร้านอาหารก่อน แล้วทั้งสามคนก็ไปเดินเลือกชุดให้กับหญิงสาว“แม่ยายมาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ เห็นแม่เฟินเอ๋อร์บอกว่าจะมาถึงในอีกสองสามวัน” หลี่เจียงพูดทำลายความเงียบ“สักพักแล้วล่ะ ถ้ามาช้ากว่านี้ก็คงจะไม่รู้ว่าหลานสาวของฉันถูกทิ้งให้อยู่บ้านคนเดียว” ยาย

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   23

    ทางด้านบ้านหลี่ก็เดินเที่ยวเล่นกันตามประสาคนทำงานหนักไม่ค่อยได้ใช้เงิน โดยเฉพาะสะใภ้รอง เพราะย่าหลี่ยกเงินเดือนของแต่ละคนในเดือนนี้ให้สำหรับใช้จ่าย“คุณไม่ซื้ออะไรสักหน่อยเหรอ ดูสะใภ้รองสิ” หลี่เจียงพยักหน้าไปทางน้องชายที่ช่วยภรรยาถือของจนล้นมือ“ไม่ล่ะค่ะ เก็บเงินไว้ให้ลูกเรียนหนังสือดีกว่า” หลิวซือส่ายหน้าสำหรับเธอเสื้อผ้าซื้อปีละชุดก็ถือว่าดีมากแล้ว เพราะชีวิตส่วนมากแล้วใส่แต่ชุดโรงงาน อีกอย่างไม่ได้ออกงานสังคม ไม่จำเป็นต้องใส่ไปอวดใครหลี่เจียงส่ายหน้าให้กับความประหยัดของภรรยา แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาเองก็พอใจ เพราะถ้าให้ใช้เงินมือเติบแบบน้องสะใภ้ก็คงจะไม่ไหว“อาโหยว นั่นมันจ้าวเสี่ยวเหลียนไม่ใช่เหรอ” สะใภ้รองแสร้งพูดเสียงดังให้คนอื่นได้ยินด้วยหลิวซือรีบเดินมาข้างหน้าเพื่อดูว่าใช่ลูกสาวของตัวเองหรือเปล่า ในใจเชื่อไปแล้วห้าส่วน อาจจะเพราะเห็นแค่ข้างหลัง แต่ดูจากชุดที่อีกฝ่ายสวมใส่แล้วไม่มีทางเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย“ใช่ที่ไหนกันละคะ” เธอรีบปฏิเสธให้ลูกสาว เพราะตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินอยู่กับผู้ชายถึงสองคน ถ้าเป็นความจริงอย่าว่าแต่เรื่องแต่งงานเลย แค่งานหมั้นก็ไม่รู้ว่าจะได้เกิด

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   22

    ทางด้านเสี่ยวเหลียนหลังจากที่กลับเข้าบ้านก็ไม่ได้กลับเข้าห้อง แต่มานั่งอ่านหนังสือที่ห้องโถง จุดประสงค์หลักก็เพื่อมานั่งรอยายหลิว เผื่อว่าท่านมาถึงจะได้ลุกไปเปิดประตูได้อย่างทันท่วงทีกึก! แต่แล้วก็มีเสียงดังขึ้น หญิงสาวเงยหน้าจากหนังสือที่เพิ่งเปิดอ่าน ในหัวนึกไปถึงคำพูดของพ่อเลี้ยงเรื่องโจรปล้นบ้าน“หรือจะเป็นเรื่องจริง” หญิงสาวอุทานออกมาเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ตื่นตูมใบหน้าสวยหันมองซ้ายขวา เพื่อดูว่าพอจะมีอะไรใช้เป็นอาวุธป้องกันตัวได้บ้าง สายตาไปสะดุดเข้ากับไม้กวาด มือเรียวหยิบไม้กวาดเข้ามาใกล้ตัว จากนั้นก็แง้มประตูบ้านเบาๆ เหมือนว่ามีเงาคนอยู่ ไม่รอช้า ใช้เท้าถีบประตูหวังจะให้บานประตูโดนเข้ากับโจรปัง! เสียงดังของประตูตามมาด้วยเสียงร้องที่ออกจะคุ้นหูอยู่สักหน่อย “โอ๊ย”เสี่ยวเหลียนหลับตาเหวี่ยงด้ามไม้กวาดออกไปเต็ม รับรู้ได้ว่าฟาดโดนอะไรสักอย่าง เธอกำลังออกแรงจะฟาดเข้าไปหลายๆ ที แต่กลายเป็นว่าขยับไม่ได้ เลยลืมตาขึ้นมาดูตรงหน้าของเธอพบว่ามีผู้ชายตัวสูงคนหนึ่ง กำลังยืนทำหน้านิ่ง แต่พอหันมาสบตากับเธอริมฝีปากติดคล้ำนิดๆ กลับยกยิ้มแล้วยักคิ้วขึ้นมาข้างหนึ่ง“ไง”“จ้าวเสี่ยวเหลียน ที่เธอต้อนรั

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   21

    ตุลาคม 1975วันนี้เป็นวันหยุดยาวเนื่องจากเป็นวันชาติ จ้าวเสี่ยวเหลียนเลยไม่ได้ไปเรียน ชีวิตในโรงเรียนของเธอถือว่าเป็นไปด้วยดี แม้ว่าจะวุ่นวายไปสักหน่อย เพราะจางปินไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้เธอเลย นอกจากเพื่อนผู้หญิง ทว่ากลับกลับเป็นว่าเพื่อนผู้หญิงเข้าหาเธอเพราะอยากจะอยู่ใกล้จางปิน เรื่องวุ่นๆ เลยเกิดขึ้นไม่เว้นวัน“ว่างหรือเปล่า ขอคุยอะไรด้วยหน่อยสิ” หลิวซือเข้ามาหาลูกสาวที่ห้อง“มีเรื่องอะไรเหรอคะ” เสี่ยวเหลี่ยนเงยหน้าขึ้นจากหนังสือที่อ่าน“เดือนกว่าแล้วสินะที่ยายกลับซูโจว ได้ติดต่อกลับมาบ้างหรือเปล่า”เสี่ยวเหลียนพยักหน้า จากนั้นก็พับหนังสือเก็บกลับเข้ากอง คาดว่าอาจจะต้องคุยกันยาวถ้าพูดเรื่องนี้“เฟินเอ๋อร์เองก็โตมากแล้ว ตอนแรกห้องนี้เป็นของน้อง แต่เห็นว่าแกกับยายมาอยู่ด้วยก็เลยย้ายให้กลับไปนอนห้องนอนใหญ่ แต่ว่าตอนนี้ยายไม่อยู่แล้วเลยอยากจะให้น้องย้ายกลับ”“เอาสิคะ” เธอไม่ได้ใจแคบอยู่แล้ว“อืม แล้วก็อีกเรื่อง ยายได้บอกหรือเปล่าว่าจะกลับมาวันไหน จะได้จัดการเรื่องงานหมั้นให้จบๆ ไปสักที”“รีบขนาดนั้นเลยเหรอคะ”“เสี่ยวเหลียน แม่ไม่ปิดบังเธอหรอกนะ บ้านหลังนี้น่ะใช้สิทธิ์ของพ่อแกแล้วก็อารองได้

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   20

    หลังจากตกลงกันได้แล้ว คุณนายจางและสามีก็กลับไปแจ้งข่าวให้ลูกชายที่ปฏิบัตินอกพื้นที่ได้รับทราบ รวมถึงจัดเตรียมสินสอดสำหรับเป็นของหมั้นให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วย“ดูเหมือนว่าลูกสาวคุณว่าพวกผมจะไปเอาสินสอดของหล่อนมากเลยนะครับ” หลี่เจียงอดที่จะพูดเหน็บลูกเลี้ยงไม่ได้“ไม่หรอกค่ะ คุณก็รู้ว่าเสี่ยวเหลียนรักแม่มากแค่ไหน” หลิวซือไม่ได้คิดแบบนั้น เพราะรู้ดีว่าในใจของลูกสาวมีแต่ผู้เป็นยาย กระทั่งแม่แท้ๆ อย่างเธอก็ยังสู้ไม่ได้“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ อย่างน้อยๆ ก็ไม่ควรพูดหักหน้าแม่ผมแบบนั้น มีบ้านไหนบ้างที่จะยกสินสอดให้กับบ้านเดิมของแม่ ตามธรรมเนียมก็ต้องอยู่กับย่าอยู่แล้ว”“แต่แม่ฉันเป็นคนเลี้ยงเสี่ยวเหลียนมานี่คะ” หลิวซือเถียง คิดจะชุบมือเปิบกันสินสอดของลูกสาวเธออย่างนั้นเหรอ ไม่มีวันเสียหรอก“ผมก็เลี้ยงมาคุณลืมไปแล้วเหรอว่าเราแต่งงานกันตอนนั้นลูกสาวคุณอายุเท

  • 1975 ชีวิตนี้ฉันขอลิขิตเอง   19

    5 กันยายน 1975วันนี้เป็นวันประกาศผลคัดเลือกห้อง จ้าวเสี่ยวเหลียนยังไม่ทันได้ไปดูประกาศด้วยซ้ำ ก็มีผู้หวังดีมาบอกถึงบ้านว่าเธอได้อยู่ห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องเด็กนักเรียนระดับหัวกะทิ ส่วนหวังหลินนั้นอยู่ห้องห้า“ความจริงหลินหลินน่าจะทำได้ดีกว่านี้ แต่วันนั้นแกบอกว่าอ่านหนังสือดึกเกินไปเลยปวดหัว สงสัยจะตื่นเต้นน่ะค่ะ” อาสามพูดขึ้น“ดีแล้วๆ ห้องไหนก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอก” ย่าหลี่พยักหน้ายิ้มๆ แม้จะรู้สึกเสียดายอยู่บ้าง เพราะหลานชายอย่างหลี่เทียนก็อยู่ห้องเดียวกันกับเสี่ยวเหลียน เพราะเขาได้รับโควตามา หรือแม้แต่หลี่เฟินเองก็ได้อยู่ห้องหนึ่งแม้จะเป็นมัธยมต้นก็เถอะ“ขอบคุณอาสามนะคะที่อุตส่าห์มาบอก” เสี่ยวเหลียนพูดขอบคุณ เพราะเธอก็เตรียมที่จะไปดูประกาศเหมือนกัน“ไม่เป็นไร” อาสามฝืนยิ้มความจริงที่มาเพราะต้องการมาแก้ต่างให้ลูก

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status