คิมิเป็นคนที่มีดนตรีอยู่ในหัวใจเสมอ ทุกเช้าเธอมักเปิดเพลง“เส้นบาง ๆ” ของ Indigo เหมือนเป็นธรรมเนียมเล็ก ๆ ที่ทำให้หัวใจเธอยังเต้นเป็นจังหวะที่คุ้นเคย
แม้ในวันที่ไม่ได้กดเปิดเพลงนั้นก็ยังเล่นอยู่ในหัวเบา ๆ แทรกซึมไปกับลมหายใจ กับความทรงจำ แม้แต่ในตอนที่เธอได้คุยกับสานฝัน เพลงนั้นก็ยังไม่เคยเงียบหายไป มันเหมือนกับว่า บทเพลงนั้นคือความรู้สึกที่ไม่มีใครได้ยิน ยกเว้นเธอและใจของเธอเอง
♪…ได้อยู่กับเธอแค่ตอนที่เธอคิดถึงกัน
เจอกันได้นะ ถ้าเธอต้องการ แต่ไม่ใช่ทุกเวลาที่อยากเจอ...🎶แสงแดดอ่อนยามเย็นลอดผ่านม่านโปร่งของหน้าต่างบานเล็ก ห้องของคิมิยังคงเงียบสงบ มีเพียงเสียงเครื่องฟอกอากาศและลมหายใจแผ่วเบาของเจ้าของห้องที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงาน ไมโครโฟนสีดำวางอยู่ตรงหน้า แท็บเล็ตสำหรับวาดภาพเปิดค้างไว้บนโหมดสเกตช์โนเวล และหน้าจอโน้ตบุ๊กแสดงหน้าต่างของโปรเจกต์นิยายเสียงที่ยังเว้นว่าง ไม่มีถ้อยคำใดถูกพิมพ์เพิ่มอีกหลายวัน
เสียงแจ้งเตือนจากแอปแชตดังขึ้นเบา ๆ
สานฝัน: "วันนี้เล่นเกมมั้ย คิดถึงแกอะ"
คิมิมองข้อความนิ่ง ๆ หัวใจเต้นช้าแต่หนัก สัมผัสแผ่วของความคิดถึงเคลือบด้วยรอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้า เธอวางมือบนคีย์บอร์ด ตอบกลับด้วยความคุ้นชิน
คิมิ: "ได้สิ แป๊บนะ กำลังเปิดสตรีมแป๊บเดียว"
ใช่ มันไม่ใช่ครั้งแรกที่สานฝันทักมาแบบนี้ และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย แต่ทุกครั้ง มันก็เหมือนนิ้วแตะที่แผลเก่า เจ็บแปลบเล็ก ๆ ที่ซ่อนอยู่ลึกในอก คิมิรู้ดีว่าสานฝันมีแฟนแล้ว — พอล ชายหนุ่มที่ดูอบอุ่นและเข้าใจสานฝันเสมอมา แต่เธอก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ห้ามหัวใจที่ดื้อด้านไม่เคยเชื่อฟัง
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน คิมิ สานฝัน ปาย และฝันเฟื่อง เคยอยู่ในกลุ่มสตรีมเมอร์เล็ก ๆ กลุ่มหนึ่ง ชื่อของกลุ่มไม่มีอะไรหรูหรา แต่เปี่ยมด้วยมิตรภาพ ทุกคืนเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ดราม่าจากเกมออนไลน์ และการคุยกันยาวจนฟ้าสาง
คิมิหลงรักเสียงหัวเราะของสานฝันตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน มันไม่ใช่เสียงที่หวานหรือน่ารักแบบที่หลายคนคาดหวัง แต่มันจริงใจ เป็นธรรมชาติ และปลุกหัวใจเธอให้เต้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
♪…ต้องบอกใครใครที่ถามว่าเราเป็นเพื่อนกัน
ยังต้องเว้นระยะห่าง อยู่ระหว่างฉันและเธอ...🎶แต่เธอไม่เคยบอกออกไป ไม่เคยแสดงอะไรเกินคำว่าเพื่อน เพราะรู้ว่าอีกฝ่ายมีพอลอยู่แล้ว เธอเพียงเลือกที่จะเฝ้าดูอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แม้จะรู้ว่าไม่มีวันได้มากกว่านั้น
มีแค่ปายเท่านั้นที่รู้ความลับของเธอ
คืนหนึ่ง ปายถามขึ้นอย่างตรงไปตรงมา ระหว่างเล่นเกมกันอยู่ใน Discord
ปาย: "คิมิ แกแน่ใจเหรอว่าจะทนแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหน?"
คิมิ: "...อะไรของแก...เราก็แค่เพื่อนกันทั้งนั้นแหละ"
ปาย: "แต่ใจแกไม่ได้คิดแบบนั้นใช่มั้ย แกแม่ง...รู้อยู่แล้วว่าสานฝันมีแฟน"
คิมิไม่ตอบ ปายถอนหายใจอย่างแรง วางหูฟังดังปึง แล้วกดออกจากแชตโดยไม่แม้แต่จะบอกลา
♪…ไม่มีสิทธิ์หวง
ไม่มีสิทธิ์หึง ถ้าคิดถึงก็ได้แค่นั้น...🎶คืนนั้นคิมิยังเปิดไมค์ไลฟ์สตรีมตามปกติ แฟนคลับแซวว่าเสียงเธอสั่นเหมือนเป็นหวัด เธอหัวเราะกลบเกลื่อน และพูดถึงนิยายเสียงใหม่ที่จะอัปโหลดลงช่อง “คิมิ.ฟุกุ.ยุเมะ”
ไม่มีใครรู้ว่า หลังจบไลฟ์ เธอนั่งร้องไห้อยู่หน้าจอจนฟ้าสาง…
ในกลุ่มเกม พอลมักไม่ค่อยโผล่มา คิมิจึงได้ใช้เวลากับสานฝันมากขึ้น ได้พูดคุย ได้หัวเราะ ได้แบ่งปันเรื่องไม่สำคัญทุกคืน ความรู้สึกที่ควรถูกห้ามกลับยิ่งเติบโต
♪…ไม่มีคำนิยามว่าฉันและเธอสถานะคืออะไร
แค่ใกล้เคียงคำว่าคนรัก แต่เรียกที่รักก็ไม่ได้...🎶คืนหนึ่ง สานฝันส่งข้อความมากลางดึก
สานฝัน: "อยากฟังเสียงแกอ่านนิยายก่อนนอนอ่ะ ได้มั้ย? แบบที่แกเคยอ่านตอนแต่งนิยายจริงใจนั่นแหละ"
คิมินั่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพิมพ์ตอบ
คิมิ: "เอาสิ รอแป๊บ"
เธอเปิดไมค์ อ่านด้วยเสียงที่ผ่านการฝึกฝนมานับปี ถ้อยคำในนิยายถูกส่งออกไปพร้อมเสียงของเธอที่แผ่วเบา อบอุ่น ละเอียดอ่อน เธอหยุดนิ่ง ก่อนจะพูดขึ้นมาเบา ๆ เหมือนเสียงกระซิบในความมืด
"ฝันดีนะ สานฝัน...อยากให้คืนนี้...เราเป็นมากกว่าเพื่อนนะ..."
เงียบ...
ไม่มีเสียงตอบกลับ ไม่มีการพิมพ์ใด ๆ
คิมิถอนหายใจ ปิดไมค์ แล้วกดลบประโยคสุดท้ายในคลิปไฮไลต์ไลฟ์ทันที
วันต่อมา ปายทักมาในแชตส่วนตัว
ปาย: "แกยังไม่เลิกคิดเลยใช่มั้ย แกมันเห็นแก่ตัวว่ะ คิมิ"
คิมิ: "เราไม่ได้ทำอะไรผิดซะหน่อย...เราก็แค่รู้สึก"
ปาย: "แต่แกก็ยังอยู่ข้าง ๆ ทั้งที่รู้ว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์"
คิมิ: "...งั้นเราจะถอย พอใจยัง?"
ปาย: "ไม่ต้องทำเพื่อใคร ขอแค่เลิกทำร้ายตัวเองก็พอแล้ววะ"
♪…แค่ความสัมพันธ์ที่คล้ายคำว่ารัก
แค่เส้นบางบางที่ฉันไม่เคยจะข้ามมันได้เลย...🎶นั่นคือวันแรกที่คิมิเริ่มห่างออกจากกลุ่มทีละน้อย ปิดเสียงแจ้งเตือน Discord หันมาทำช่อง VTuber อย่างเต็มตัว เริ่มอ่านนิยายเสียงคนเดียว พูดกับตัวเองผ่านไมค์ พูดในโลกที่ไม่มีใครโต้ตอบ ไม่มีใครคอยทักมาว่า “คิดถึง”
♪…เป็นได้แค่คนใกล้ใกล้เธอ
แต่ไม่สามารถเรียกว่าคนรัก จะมีสักวันบ้างหรือเปล่า...🎶ในโลกของความเป็นจริง สานฝันยังอยู่กับพอลอย่างมีความสุข เธอยังโพสต์ภาพคู่กันใน I* สตอรี่ในวันครบรอบ คิมิยังคงดูอยู่เงียบ ๆ ไม่กดไลก์ ไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ ยกเว้นน้ำตาที่ไหลตอนที่เธอนั่งดูคนเดียว
ปายยังคงเป็นเพื่อนที่ห่วง แต่ไม่เข้าใจหัวใจที่ดื้อรั้นของเธอ
เพราะในโลกของคนรักไม่ได้ คิมิได้แต่เป็น "คนที่เธอคิดถึงเมื่อไม่มีใคร" เป็นเงาที่ซ่อนอยู่หลังหน้าจอ เป็นเสียงที่เธอได้ยินตอนเหงา
และเป็นความรู้สึกที่ไม่มีชื่อเรียกในพจนานุกรมใด♪…วันหนึ่งที่เธอให้ฉันแบบคนที่รักกัน
หรือไม่มีวันนั้นอยู่จริง...🎶หากต้องมีคำนิยามของความรักแบบคิมิ มันคงเป็นความรักที่ไม่ต้องการครอบครอง ไม่ต้องการคำตอบ ไม่แม้แต่จะมีคำว่า “แฟน” หรือ “คนคุย”
มีเพียงความรู้สึกที่พูดไม่ได้ แต่ก็ยังคงอยู่ เหมือนเส้นบาง ๆ ที่กั้นอยู่ระหว่างคำว่า "เพื่อน" กับ "คนรัก"และคิมิ...ยังยืนอยู่ตรงเส้นนั้นทุกวัน
แม้จะไม่มีใครเห็น แม้จะไม่มีใครเข้าใจ
แต่เธอยังคงรักอย่างเงียบ ๆ รักแบบที่เธอเลือกเอง
ตอนที่ 9: อีกไกลแค่ไหนคือใกล้ (วันที่ 2 ของ 21 วัน) ประกอบเพลง: ไกลแค่ไหนคือใกล้ – Getsunova“วันนี้มีเวลาไหม เราอยากคุยกับแก”ข้อความจากคิมิส่งผ่านแชท LINE ไปยังน้ำในช่วงค่ำวันเสาร์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือสว่างวาบขึ้นในห้องที่มีเพียงเสียงพัดลมตั้งโต๊ะหมุนเอื่อย ๆ กับลมหายใจเบา ๆ ของคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงคิมิส่งข้อความไปแล้วก็กอดเข่าตัวเองแน่น ก้มหน้าหลบสายตาจอโทรศัพท์ราวกับกลัวมันจะตอบกลับมาด้วยความเงียบ ความเงียบนั่นแหละ...ที่เธอกลัวที่สุดแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา...&ldqu
(แรงบันดาลใจจากเพลง “เธอ ๆ เพื่อนเราชอบ”)“มันจะมีเพื่อนคนนึงที่พอไปรักใคร ก็ไม่เคยทักไป มันจะมีเพื่อนคนนึงที่กินแห้วมาตลอด มันจะมีเพื่อนคนนึงที่เธอไม่สนใจ ที่เธอมองข้ามไป เพื่อนคนนี้ไม่เคยจะอยู่ในสายตาเธอเลย…”เสียงจากนิยายเสียงดังแผ่วเบาผ่านไมค์คอนเดนเซอร์สีพาสเทลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ในห้องนอนของคิมิ เธอกำลังบันทึกตอนใหม่ในช่อง YouTube ชื่อ Kimi.Fuku.Yumeเสียงของเธอในนิยายเสียงตอนนั้น ไม่ได้อ่านจาก
ตอนที่ 7 – หนังสือรุ่นของเราเสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบขอบหน้าต่างในยามเช้า ราวกับเคาะประตูหัวใจที่ยังเปิดค้างไว้ คิมินั่งอยู่บนพื้นห้องใต้ห่มผ้านวมบาง ๆ มือยังจับแก้วโกโก้ที่อุ่นเพียงน้อย แต่กลับไม่ได้ยกดื่ม เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรเจกต์ตัดต่อเสียงพากย์นิยายเสียงเรื่อง รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ตอนล่าสุดอยู่เสียงของเธอที่พากย์เป็น “จริงใจ” ดังแผ่วในห้อง“รูปถ่ายเก่า ๆ มันไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่มันบันทึกใจ บันทึกวันเวลาที่... ไม่ย้อนกลับมาแล้ว”เธอกดหยุดเสียงพากย์ตรงจุดนั้น หัวใจเหมือนถูกดึงกลับไปในอดีตพร้อมเสียงของตัวเอง ภาพในหัวไม่ได้เป็นฉากนิยาย แต่เป็นภาพของเธอ…เมื่อหลายปีก่อนคิมิถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ที่ตรงนั้นเธอไม่เคยแตะต้องมันมานาน ตู้ไม้เก่าใบหนึ่งที่เธอใช้เก็บของที่ “ไม่จำเป็นตอนนี้” ไว้เธอเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุด หยิบกล่องพลาสติกเก่า ๆ ออกมาวางบนพื้น แล้วไล่เปิดดูของด้านในกล่องที่มีทั้งกล่องดินสอเก่าๆ, กล้องฟิล์มที่ใช้ไม่ได้แล้ว, สมุดโน้ตจดคำพูดของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และสิ่งหนึ่งที่อยู่ล่างสุด — หนังสือรุ่นของ ม.6เธอหยิบมันขึ้นมา
ตอนที่ 6: กล่องหนึ่งใบ กับความทรงจำที่ยังไม่ลบเลือนเสียงฝนโปรยปรายลงบนกระจกหน้าต่างห้องนอนราวกับกำลังเคาะเรียกหัวใจใครบางคนในยามเย็น คิมิยกแก้วโกโก้ร้อนจิบเบา ๆ กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยอวลคลุ้งอยู่รอบตัว แต่กลับไม่สามารถอุ่นหัวใจเธอได้ทั้งหมด หัวใจของเธอ...เหมือนกำลังเรียกร้องบางอย่าง บางอย่างที่เธอไม่ได้แตะต้องมานานหลายปีเธอวางแก้วลง ก่อนจะเดินตรงไปยังมุมห้องที่ไม่ได้แตะต้องมานาน มือเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าไม้เก่า ล้วงผ่านผ้าห่มหนาที่พับทับกันอยู่ด้านล่างสุด แล้วหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมา กล่องธรรมดาใบเล็กที่ฝุ่นจับหนาจนบอกเวลาได้ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือ...ลายมือแบบเด็ก ๆ บนฝา“กล่องความทรงจำของคิมิ”เธอวางกล่องลงบนเตียงช้า ๆ ใช้ฝ่ามือลูบฝาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมัน กลิ่นเก่าของกระดาษเก่า ๆ ลอยขึ้นแตะปลายจมูกสิ่งแรกที่เ
ตอนที่ 5“แค่เพื่อนที่ไม่ควรมีหัวใจ”“ถ้าเป็นได้แค่เพื่อนเธอ... ทำไมไม่บอกฉันตอนนั้น” เสียงเพลงที่ดังแผ่วจากลำโพง บาดลึกลงตรงกลางหัวใจ เธอก็แค่เพื่อน... ที่ไม่ควรหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มของเธอคิมินั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่มืดสลัว มีเพียงแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าโปรเจกต์นิยายค้างไว้เหมือนเดิม สมุดบันทึกเล่มเดิมวางอยู่ข้าง ๆ กล่องโกโก้ที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอมองมันราวกับจะใช้มันเป็นข้ออ้างไม่ให้เขียนต่อวันนี้... เธอเขียนไปเพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับใช้เวลาเกือบชั่วโมง“จริงใจยืนอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ มองเงาไม้ทอดบนพื้นหญ้า
ตอนที่ 4: คนที่ไม่ใช่แรงบันดาลใจจากเพลง “คนที่ไม่ใช่” – โอปวีร์เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังเป็นจังหวะค่อย ๆ เนิบช้าเหมือนหัวใจของเธอที่กำลังแหลกช้า ๆ ในห้องเงียบ ๆ ที่มีแค่แสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ คิมิเอนตัวพิงเก้าอี้เกมเมอร์ สวมหูฟังพร้อมไมค์ จ้องหน้าจอเกม ROV ที่กำลังแข่งแบบจัดอันดับอย่างจริงจัง“คิมิ! มึงจะป้อมแตกแล้ว! ถอยดิ๊!”เสียงของ สานฝัน ดังแว่วจากดิสคอร์ด น้ำเสียงคมชัดจนเหมือนแทงเข้าหัวใจคิมิ เกมรอบนี้ดูจะจริงจังกว่าปกติ ฝันเฟื่อง กับ พอล ยังคงอยู่ในทีม ส่วน ปาย ก็อยู่ด้วย แม้จะไม่พูดอะไรเลยตลอดทั้งเกมคิมิเหลือบดูมินิแมพแล้วกดวาร์ปกลับฐานในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนที่ตัวละครของเธอจะตายเป็นรอบที่สี่ในเวลาแค่สิบห้านาที“ขอโทษ...” คิมิพึมพำเบา ๆ น้ำเสียงราบเรียบเหมือนหัวใจที่ว่างเปล่า“เฮ้อ พี่คิมิ เล่นอย่างนี้ทุกเกมเลย ไม่ไหวอ่ะ”ฝันเฟื่อง บ่นเสียงหงุดหงิด น้ำเสียงไม่ได้รุนแรงเท่าพี่สาว แต่กลับเจ็บลึกไม่แพ้กันคิมิพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ไม่มีใครเห็น แล้วเงียบลง นิ้วชะงักไม่แตะมือถืออีกต่อไป สายตาเธอเลื่อนลอยไปที่ภาพตัวละครในเกมที่ยืนอยู่เฉย ๆ อย่างไร้จุดหมาย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง