ฉันชื่อคิมิเคยเป็นสายเกมเมอร์มาก่อน มีเพื่อนร่วมทีมที่เล่นเกมไปด้วยกันทุกวัน จนวันหนึ่ง… ฉันเผลอไปรักเพื่อนคนหนึ่งเข้า ทั้งที่รู้ว่าเขามีเจ้าของอยู่แล้ว และเพราะความรู้สึกนั้น ฉันจึงตัดสินใจออกจากกลุ่มเงียบ ๆ
จากคนที่เคยอยู่ในโลกเกม ฉันผันตัวมาเป็นวีทูบเบอร์ในชื่อ คิมิ.ฟุกุ.ยุเมะ ทำช่องเล่าเรื่องนิยายเสียง ถ่ายทอดความรู้สึกผ่านตัวละคร และเขียนนิยายเรื่อง “รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ภาคมอปลาย” เพื่อบอกเล่าเรื่องที่เก็บไว้ในใจตลอดมา
แต่ดูเหมือนโชคชะตาจะไม่ใจดีนัก… วันที่ฉันไปตรวจสุขภาพประจำปีเป็นครั้งแรก หมอกลับพบว่าฉันเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ฉันเลือกที่จะไม่รักษา… และหมอบอกว่าฉันเหลือเวลาอีกแค่ 30 วันเท่านั้น
30 วันที่ฉันเลือกเอง…
ในเวลาที่น้อยนิดนี้ ฉันเฝ้าถามตัวเองซ้ำ ๆ ถ้าเหลือโอกาสสุดท้ายที่จะได้พูดคุยกับใครสักคน... คนคนนั้นจะเป็นใครกันนะ?
สิบปีแล้ว...
ตั้งแต่เรียนจบ ม.6 จากโรงเรียนสหศึกษาแห่งหนึ่งในขอนแก่น
สิบปีที่ไม่เคยทักไป
สิบปีที่ไม่เคยลืม
คิมินั่งอยู่ในห้องนอนอันเงียบสงบ มีเพียงเสียงพัดลมกับเสียงใจตัวเองที่ดังก้องในอก
“น้ำ...” เธอกระซิบชื่อเบา ๆ เหมือนทบทวนบางอย่าง
แล้วเลื่อนนิ้วไปยังกล่องไม้เก่า ๆ ที่เธอเรียกว่า "กล่องเก็บความทรงจำ"
ข้างในมีกระดาษโน้ตเล็ก ๆ ที่เขียนด้วยลายมือของน้ำเมื่อสิบปีก่อน
คิมิยิ้มทั้งน้ำตา ตอนนั้นเธอไม่รู้ใจตัวเองด้วยซ้ำ รู้แค่ว่าอยากอยู่ใกล้น้ำ อยากทำให้น้ำหัวเราะ อยากเห็นรอยยิ้มจากคนที่พูดตลกบ้างไม่ตลกบ้าง แต่กลับกลัวจะเสียมิตรภาพ กลัวว่าถ้าพูดอะไรผิดไป จะไม่ได้อยู่ในสายตาน้ำเลยแม้แต่นิดเดียว
เธอลุกไปหยิบโทรศัพท์ ก่อนจะเปิดแอปแชตที่ไม่ได้เปิดนาน หน้าจอ แสดงชื่อกลุ่มเก่า ๆ กลุ่มหนึ่งว่า "กลุ่มสามเพื่อนซี้ น้ำ ฟ้า คิมิ"
“ฟ้า...” คิมิพึมพำชื่ออีกคนที่หายไปจากกลุ่มหลังเรียนจบไม่นาน
ฟ้าเคยพูดว่า “ถ้าเธอไม่บอกเขา ก็อย่ามาบ่นเสียดายนะคิมิ”
ตอนนั้นคิมิหัวเราะ แล้วเปลี่ยนเรื่อง
ตอนนี้เธอไม่ขำแล้ว
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนจากอินบ็อกซ์ I*******m ดังขึ้น
“ฟ้า: ฟังนิยายแล้วร้องไห้เลย เธอยังรักน้ำอยู่ใช่ไหม?”
คิมิพิมพ์ตอบกลับแค่คำว่า
“ใช่”
...ก่อนจะเพิ่มอีกว่า
“แต่ตอนนี้ฉันแค่อยากให้เขารู้”
คิมิเปิดอีเมลร่างจดหมายที่เขียนค้างไว้เป็นปี
หัวข้อ: “จากเพื่อนคนนั้นที่เธอมองข้าม”
เธอลังเลเล็กน้อย ก่อนพิมพ์บรรทัดแรกลงไป...
> “สวัสดี... น้ำ
ไม่รู้ว่าเธอจะจำเพื่อนคนนี้ได้ไหม
คนที่เคยส่งมุกแป้ก ๆ
คนที่ชอบยืนข้างเธอเวลาถ่ายรูปหมู่
คนที่แค่เห็นเธอยิ้ม ก็เก็บไปฝันทั้งคืน”
> “ตอนนั้นฉันไม่รู้ว่าฉันรู้สึกยังไง
แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้ว ว่าฉันเคยรักเธอ
และอาจจะ... ยังรักอยู่”
ตอนที่ 9: อีกไกลแค่ไหนคือใกล้ (วันที่ 2 ของ 21 วัน) ประกอบเพลง: ไกลแค่ไหนคือใกล้ – Getsunova“วันนี้มีเวลาไหม เราอยากคุยกับแก”ข้อความจากคิมิส่งผ่านแชท LINE ไปยังน้ำในช่วงค่ำวันเสาร์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือสว่างวาบขึ้นในห้องที่มีเพียงเสียงพัดลมตั้งโต๊ะหมุนเอื่อย ๆ กับลมหายใจเบา ๆ ของคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงคิมิส่งข้อความไปแล้วก็กอดเข่าตัวเองแน่น ก้มหน้าหลบสายตาจอโทรศัพท์ราวกับกลัวมันจะตอบกลับมาด้วยความเงียบ ความเงียบนั่นแหละ...ที่เธอกลัวที่สุดแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา...&ldqu
(แรงบันดาลใจจากเพลง “เธอ ๆ เพื่อนเราชอบ”)“มันจะมีเพื่อนคนนึงที่พอไปรักใคร ก็ไม่เคยทักไป มันจะมีเพื่อนคนนึงที่กินแห้วมาตลอด มันจะมีเพื่อนคนนึงที่เธอไม่สนใจ ที่เธอมองข้ามไป เพื่อนคนนี้ไม่เคยจะอยู่ในสายตาเธอเลย…”เสียงจากนิยายเสียงดังแผ่วเบาผ่านไมค์คอนเดนเซอร์สีพาสเทลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ในห้องนอนของคิมิ เธอกำลังบันทึกตอนใหม่ในช่อง YouTube ชื่อ Kimi.Fuku.Yumeเสียงของเธอในนิยายเสียงตอนนั้น ไม่ได้อ่านจาก
ตอนที่ 7 – หนังสือรุ่นของเราเสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบขอบหน้าต่างในยามเช้า ราวกับเคาะประตูหัวใจที่ยังเปิดค้างไว้ คิมินั่งอยู่บนพื้นห้องใต้ห่มผ้านวมบาง ๆ มือยังจับแก้วโกโก้ที่อุ่นเพียงน้อย แต่กลับไม่ได้ยกดื่ม เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรเจกต์ตัดต่อเสียงพากย์นิยายเสียงเรื่อง รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ตอนล่าสุดอยู่เสียงของเธอที่พากย์เป็น “จริงใจ” ดังแผ่วในห้อง“รูปถ่ายเก่า ๆ มันไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่มันบันทึกใจ บันทึกวันเวลาที่... ไม่ย้อนกลับมาแล้ว”เธอกดหยุดเสียงพากย์ตรงจุดนั้น หัวใจเหมือนถูกดึงกลับไปในอดีตพร้อมเสียงของตัวเอง ภาพในหัวไม่ได้เป็นฉากนิยาย แต่เป็นภาพของเธอ…เมื่อหลายปีก่อนคิมิถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ที่ตรงนั้นเธอไม่เคยแตะต้องมันมานาน ตู้ไม้เก่าใบหนึ่งที่เธอใช้เก็บของที่ “ไม่จำเป็นตอนนี้” ไว้เธอเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุด หยิบกล่องพลาสติกเก่า ๆ ออกมาวางบนพื้น แล้วไล่เปิดดูของด้านในกล่องที่มีทั้งกล่องดินสอเก่าๆ, กล้องฟิล์มที่ใช้ไม่ได้แล้ว, สมุดโน้ตจดคำพูดของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และสิ่งหนึ่งที่อยู่ล่างสุด — หนังสือรุ่นของ ม.6เธอหยิบมันขึ้นมา
ตอนที่ 6: กล่องหนึ่งใบ กับความทรงจำที่ยังไม่ลบเลือนเสียงฝนโปรยปรายลงบนกระจกหน้าต่างห้องนอนราวกับกำลังเคาะเรียกหัวใจใครบางคนในยามเย็น คิมิยกแก้วโกโก้ร้อนจิบเบา ๆ กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยอวลคลุ้งอยู่รอบตัว แต่กลับไม่สามารถอุ่นหัวใจเธอได้ทั้งหมด หัวใจของเธอ...เหมือนกำลังเรียกร้องบางอย่าง บางอย่างที่เธอไม่ได้แตะต้องมานานหลายปีเธอวางแก้วลง ก่อนจะเดินตรงไปยังมุมห้องที่ไม่ได้แตะต้องมานาน มือเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าไม้เก่า ล้วงผ่านผ้าห่มหนาที่พับทับกันอยู่ด้านล่างสุด แล้วหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมา กล่องธรรมดาใบเล็กที่ฝุ่นจับหนาจนบอกเวลาได้ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือ...ลายมือแบบเด็ก ๆ บนฝา“กล่องความทรงจำของคิมิ”เธอวางกล่องลงบนเตียงช้า ๆ ใช้ฝ่ามือลูบฝาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมัน กลิ่นเก่าของกระดาษเก่า ๆ ลอยขึ้นแตะปลายจมูกสิ่งแรกที่เ
ตอนที่ 5“แค่เพื่อนที่ไม่ควรมีหัวใจ”“ถ้าเป็นได้แค่เพื่อนเธอ... ทำไมไม่บอกฉันตอนนั้น” เสียงเพลงที่ดังแผ่วจากลำโพง บาดลึกลงตรงกลางหัวใจ เธอก็แค่เพื่อน... ที่ไม่ควรหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มของเธอคิมินั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่มืดสลัว มีเพียงแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าโปรเจกต์นิยายค้างไว้เหมือนเดิม สมุดบันทึกเล่มเดิมวางอยู่ข้าง ๆ กล่องโกโก้ที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอมองมันราวกับจะใช้มันเป็นข้ออ้างไม่ให้เขียนต่อวันนี้... เธอเขียนไปเพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับใช้เวลาเกือบชั่วโมง“จริงใจยืนอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ มองเงาไม้ทอดบนพื้นหญ้า
ตอนที่ 4: คนที่ไม่ใช่แรงบันดาลใจจากเพลง “คนที่ไม่ใช่” – โอปวีร์เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังเป็นจังหวะค่อย ๆ เนิบช้าเหมือนหัวใจของเธอที่กำลังแหลกช้า ๆ ในห้องเงียบ ๆ ที่มีแค่แสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ คิมิเอนตัวพิงเก้าอี้เกมเมอร์ สวมหูฟังพร้อมไมค์ จ้องหน้าจอเกม ROV ที่กำลังแข่งแบบจัดอันดับอย่างจริงจัง“คิมิ! มึงจะป้อมแตกแล้ว! ถอยดิ๊!”เสียงของ สานฝัน ดังแว่วจากดิสคอร์ด น้ำเสียงคมชัดจนเหมือนแทงเข้าหัวใจคิมิ เกมรอบนี้ดูจะจริงจังกว่าปกติ ฝันเฟื่อง กับ พอล ยังคงอยู่ในทีม ส่วน ปาย ก็อยู่ด้วย แม้จะไม่พูดอะไรเลยตลอดทั้งเกมคิมิเหลือบดูมินิแมพแล้วกดวาร์ปกลับฐานในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนที่ตัวละครของเธอจะตายเป็นรอบที่สี่ในเวลาแค่สิบห้านาที“ขอโทษ...” คิมิพึมพำเบา ๆ น้ำเสียงราบเรียบเหมือนหัวใจที่ว่างเปล่า“เฮ้อ พี่คิมิ เล่นอย่างนี้ทุกเกมเลย ไม่ไหวอ่ะ”ฝันเฟื่อง บ่นเสียงหงุดหงิด น้ำเสียงไม่ได้รุนแรงเท่าพี่สาว แต่กลับเจ็บลึกไม่แพ้กันคิมิพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ไม่มีใครเห็น แล้วเงียบลง นิ้วชะงักไม่แตะมือถืออีกต่อไป สายตาเธอเลื่อนลอยไปที่ภาพตัวละครในเกมที่ยืนอยู่เฉย ๆ อย่างไร้จุดหมาย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง