(แรงบันดาลใจจากเพลงรู้ทั้งรู้-big d2b)
♪…แค่เธอพูดจา และหันมายิ้มให้
ฉันก็คิดไปไกลถึงเธอ เก็บไปฝัน ว่าเธอแค่ทักทาย แบบเพื่อนทั่ว ๆ ไป… ไม่ได้มีอะไรมากมายกว่านั้น...🎶“ล็อค Killjoy อีกแล้วเหรอพี่คิมิ...”
เสียงของฝันเฟื่องดังขึ้นพร้อมกับหน้าจอเอเจนท์ในเกม Valorant ที่ปรากฏภาพคิมิเลือกตัวเดิมอีกครั้งในรอบค่ำคืนนี้
“เล่นตัวอื่นไม่เป็นนี่นา…” คิมิตอบยิ้ม ๆ เสียงเบาเหมือนลมพัดผ่านหูตนเองมากกว่าจะพูดให้ใครฟัง
“เล่นไม่เป็นก็ต้องฝึกไง จะได้ไม่แจกแต้ม!”
คราวนี้เป็นเสียงของ ฝัน—เธอคนนั้นที่คิมิไม่ควรรักเสียงของฝันไม่ได้ดุ ไม่ได้โกรธด้วยซ้ำ มันคือเสียงเรียบ ๆ ตรง ๆ แบบที่เธอมักพูดเสมอ แต่แค่ได้ยินแบบนั้น หัวใจคิมิก็เหมือนโดนบีบแน่นในอก ฝันไม่ได้ตั้งใจให้เจ็บ แต่คำพูดที่ไม่แต่งเติม กลับซัดเข้าใจกลางความรู้สึก
คิมิเงียบ ไม่ใช่เพราะโกรธ แต่เพราะคำพูดนั้น… ทำให้เธออยากร้องไห้
คืนนี้พวกเขานัดเล่นกันห้าคนเหมือนเดิม
ฝัน, พอล, ปาย, เฟื่อง, และเธอ—คิมิแมพ Ascent โหลดเสร็จ ภารกิจฝั่ง Defend คิมิเลือกวาง Turret ตรงทางเข้า A site แต่เธอวางพลาด และโดนเรน่าของอีกฝั่งยิงสวนหลังมาอย่างง่ายดาย
ตายคนแรก... ในสิบวินาทีแรกของเกม
“โอ๊ยยย พี่คิมิ!!”
เสียงฝันเฟื่องลากยาวอย่างเหนื่อยใจพอลถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ตายก่อนอีกแล้วนะเนี่ย”
“ขอโทษ...” คิมิพึมพำเสียงเบา
เธอกัดริมฝีปากตัวเองแน่นแม้แต่ ปาย ที่ไม่เคยพูดแรงกับเธอเลย ก็ยังเอ่ยขึ้นเบา ๆ ในไมโครโฟน
“ให้ฉันเล่นตัวนี้แทนไหมคิมิ... เธออาจจะเหมาะกับซัปพอร์ตมากกว่านะ”
ไม่มีใครว่าเธอด้วยถ้อยคำรุนแรง แต่คิมิรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบถล่มลงตรงหน้า โดยเฉพาะเมื่อสายตาเธอเหลือบไปมองชื่อ ฝัน บนหน้าจอ
ฝันไม่ได้พูดอะไรเพิ่ม แต่แค่นั้นก็ทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเอง… ไม่มีค่าอะไรเลย
♪…อยากทำใจให้ลืมให้ลืมให้ลืม
แต่ทำไม่ได้ หัวใจมันยิ่งจำ ยิ่งเจอแล้วใจก็ยิ่งรัก...🎶เกมดำเนินต่อไป
คิมิพยายามตั้งใจให้มากขึ้น แต่ความรู้สึกในใจมันกลับตีกันจนทำให้มือไม้อ่อน“คิมิ เดี๋ยวเธอเล่นหลังให้ดี ๆ หน่อยนะ เราจะดันหน้า”
เสียงของฝันดังขึ้นอีกครั้งระหว่างวางแผนรอบใหม่“อื้ม...” คิมิพยายามไม่ให้เสียงสั่น
มือเธอสั่นเล็กน้อยตอนวางอุปกรณ์ ทั้งที่ห้องแอร์เย็นพอดี แต่ฝ่ามือเธอเย็นเฉียบ เธอกำลังสู้กับความรู้สึกของตัวเอง ความรู้สึกที่เธอ… รู้ทั้งรู้ ว่าไม่มีวันสมหวัง
♪…รู้ทั้งรู้ว่าเธอรักใคร
รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ก็จะรัก ขอแค่ได้รัก…🎶เธอรู้ดีว่า ฝัน กับ พอล คบกัน รู้มาตั้งแต่วันแรกที่เธอเริ่มรู้สึกพิเศษกับฝัน แต่ความรักมันไม่ฟังเหตุผล
ความรู้สึกที่มีให้ฝัน มันไม่เคยหยุด แม้จะเจ็บ แม้จะทรมาน
เธอก็ยังยอมอยู่ข้าง ๆ แม้จะต้องเก็บไว้เงียบ ๆ ก็ตามปาย นั่งเงียบอยู่ในห้องแชท ไม่พูดอะไร แต่ก็ไม่ออกจากเกม คิมิรู้ว่าปายก็รู้ รู้ว่าเธอรักฝันและยิ่งกว่านั้น… คิมิรู้ว่าปายก็รักเธอ
รักอย่างเงียบ ๆ แบบเดียวกับที่เธอรักฝัน
♪…รู้ทั้งรู้ว่าใจต้องเจ็บ
รู้ว่าเป็นได้แค่เพื่อน เพื่อนเท่านั้น ไม่มีค่า… มากไปกว่านั้น…🎶“รอบนี้เราชนะ!” เสียงเฟื่องตะโกนลั่น สกอร์สุดท้าย 13–7
ทุกคนดีใจ คิมิยิ้มตาม แม้ K/D ของเธอจะต่ำที่สุดในทีม
แต่ชัยชนะก็ทำให้เธอโล่งใจนิดหน่อยเธอถอดหูฟังเบา ๆ ปล่อยลมหายใจออกยาว เธอไม่พูดอะไร
แค่ปล่อยให้เสียงหัวเราะของคนอื่น ๆ ไหลผ่านไปเสียงหัวเราะของ ฝัน, เฟื่อง, พอล, และ ปาย มันดังชัดเจน…
และทิ้งเธอไว้ในความเงียบเหมือนเดิม“พี่คิมิ… ไหวมั้ย?” เป็นเฟื่องที่ทักขึ้นหลังจากทุกคนออกจากดิสคอร์ดไปหมด
“ไหวสิ พี่สนุกดี…” คิมิพิมพ์ตอบไป ทั้งที่น้ำตาคลอขอบตา
เธอไม่ใช่คนเก่ง ไม่ใช่คนสำคัญ และไม่ใช่คนที่ ฝัน จะหันมารัก เธอรู้ รู้ทุกอย่าง แต่ก็ยังรักอยู่ดี
♪…ขอเธอให้รู้ ไม่ว่าวันไหน
เพื่อนเธอคนนี้จะขอรักเธอต่อไป…🎶หน้าจอคอมดับลง แสงสะท้อนจากหน้าจอว่างเปล่าเผยให้เห็นใบหน้าคิมิที่มีหยดน้ำตาเงียบ ๆ
เธอเดินไปหยิบหูฟังที่วางพาดไว้บนโต๊ะ วางมันลงในกล่องเก็บ พร้อมกับถอนหายใจอีกครั้ง
ในหัวของเธอ มีเสียงหนึ่งดังก้องตลอด เป็นเสียงของเพลงหนึ่ง—เพลงที่เธอฟังมานับครั้งไม่ถ้วน
"รู้ทั้งรู้ว่าเธอรักใคร
รู้ว่าเป็นไปไม่ได้ ก็จะรัก ขอแค่ได้รัก..."คิมิหยิบสมุดเล่มเล็กขึ้นมา เขียนข้อความไว้หน้าแรก
“วันนี้ก็ยังรักฝันเหมือนเดิม
แม้รู้ว่าไม่มีวันได้รักตอบ”ในห้องเงียบสนิท แต่หัวใจของเธอยังคงร้องเพลงนั้นซ้ำ ๆ
ไม่ว่าจะเจ็บแค่ไหน… เธอก็ยังขอเป็นคนที่ “รู้ทั้งรู้” และรักต่อไปอยู่ดี
ตอนที่ 9: อีกไกลแค่ไหนคือใกล้ (วันที่ 2 ของ 21 วัน) ประกอบเพลง: ไกลแค่ไหนคือใกล้ – Getsunova“วันนี้มีเวลาไหม เราอยากคุยกับแก”ข้อความจากคิมิส่งผ่านแชท LINE ไปยังน้ำในช่วงค่ำวันเสาร์ แสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือสว่างวาบขึ้นในห้องที่มีเพียงเสียงพัดลมตั้งโต๊ะหมุนเอื่อย ๆ กับลมหายใจเบา ๆ ของคนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนเตียงคิมิส่งข้อความไปแล้วก็กอดเข่าตัวเองแน่น ก้มหน้าหลบสายตาจอโทรศัพท์ราวกับกลัวมันจะตอบกลับมาด้วยความเงียบ ความเงียบนั่นแหละ...ที่เธอกลัวที่สุดแต่เพียงไม่กี่นาทีต่อมา...&ldqu
(แรงบันดาลใจจากเพลง “เธอ ๆ เพื่อนเราชอบ”)“มันจะมีเพื่อนคนนึงที่พอไปรักใคร ก็ไม่เคยทักไป มันจะมีเพื่อนคนนึงที่กินแห้วมาตลอด มันจะมีเพื่อนคนนึงที่เธอไม่สนใจ ที่เธอมองข้ามไป เพื่อนคนนี้ไม่เคยจะอยู่ในสายตาเธอเลย…”เสียงจากนิยายเสียงดังแผ่วเบาผ่านไมค์คอนเดนเซอร์สีพาสเทลที่ตั้งอยู่บนโต๊ะไม้ในห้องนอนของคิมิ เธอกำลังบันทึกตอนใหม่ในช่อง YouTube ชื่อ Kimi.Fuku.Yumeเสียงของเธอในนิยายเสียงตอนนั้น ไม่ได้อ่านจาก
ตอนที่ 7 – หนังสือรุ่นของเราเสียงฝนปรอยเบา ๆ กระทบขอบหน้าต่างในยามเช้า ราวกับเคาะประตูหัวใจที่ยังเปิดค้างไว้ คิมินั่งอยู่บนพื้นห้องใต้ห่มผ้านวมบาง ๆ มือยังจับแก้วโกโก้ที่อุ่นเพียงน้อย แต่กลับไม่ได้ยกดื่ม เธอเอาแต่จ้องหน้าจอโน้ตบุ๊กที่กำลังเปิดโปรเจกต์ตัดต่อเสียงพากย์นิยายเสียงเรื่อง รักวุ่น ๆ ของจริงใจ ตอนล่าสุดอยู่เสียงของเธอที่พากย์เป็น “จริงใจ” ดังแผ่วในห้อง“รูปถ่ายเก่า ๆ มันไม่ได้แค่บันทึกภาพ แต่มันบันทึกใจ บันทึกวันเวลาที่... ไม่ย้อนกลับมาแล้ว”เธอกดหยุดเสียงพากย์ตรงจุดนั้น หัวใจเหมือนถูกดึงกลับไปในอดีตพร้อมเสียงของตัวเอง ภาพในหัวไม่ได้เป็นฉากนิยาย แต่เป็นภาพของเธอ…เมื่อหลายปีก่อนคิมิถอนหายใจเบา ๆ ก่อนจะลุกขึ้น เดินตรงไปยังมุมหนึ่งของห้อง ที่ตรงนั้นเธอไม่เคยแตะต้องมันมานาน ตู้ไม้เก่าใบหนึ่งที่เธอใช้เก็บของที่ “ไม่จำเป็นตอนนี้” ไว้เธอเปิดลิ้นชักชั้นล่างสุด หยิบกล่องพลาสติกเก่า ๆ ออกมาวางบนพื้น แล้วไล่เปิดดูของด้านในกล่องที่มีทั้งกล่องดินสอเก่าๆ, กล้องฟิล์มที่ใช้ไม่ได้แล้ว, สมุดโน้ตจดคำพูดของเพื่อน ๆ ในห้องเรียน และสิ่งหนึ่งที่อยู่ล่างสุด — หนังสือรุ่นของ ม.6เธอหยิบมันขึ้นมา
ตอนที่ 6: กล่องหนึ่งใบ กับความทรงจำที่ยังไม่ลบเลือนเสียงฝนโปรยปรายลงบนกระจกหน้าต่างห้องนอนราวกับกำลังเคาะเรียกหัวใจใครบางคนในยามเย็น คิมิยกแก้วโกโก้ร้อนจิบเบา ๆ กลิ่นหอมหวานคุ้นเคยอวลคลุ้งอยู่รอบตัว แต่กลับไม่สามารถอุ่นหัวใจเธอได้ทั้งหมด หัวใจของเธอ...เหมือนกำลังเรียกร้องบางอย่าง บางอย่างที่เธอไม่ได้แตะต้องมานานหลายปีเธอวางแก้วลง ก่อนจะเดินตรงไปยังมุมห้องที่ไม่ได้แตะต้องมานาน มือเลื่อนเปิดตู้เสื้อผ้าไม้เก่า ล้วงผ่านผ้าห่มหนาที่พับทับกันอยู่ด้านล่างสุด แล้วหยิบกล่องไม้ใบหนึ่งออกมา กล่องธรรมดาใบเล็กที่ฝุ่นจับหนาจนบอกเวลาได้ แต่สิ่งที่สะดุดตาคือ...ลายมือแบบเด็ก ๆ บนฝา“กล่องความทรงจำของคิมิ”เธอวางกล่องลงบนเตียงช้า ๆ ใช้ฝ่ามือลูบฝาเบา ๆ ก่อนจะค่อย ๆ เปิดมัน กลิ่นเก่าของกระดาษเก่า ๆ ลอยขึ้นแตะปลายจมูกสิ่งแรกที่เ
ตอนที่ 5“แค่เพื่อนที่ไม่ควรมีหัวใจ”“ถ้าเป็นได้แค่เพื่อนเธอ... ทำไมไม่บอกฉันตอนนั้น” เสียงเพลงที่ดังแผ่วจากลำโพง บาดลึกลงตรงกลางหัวใจ เธอก็แค่เพื่อน... ที่ไม่ควรหวั่นไหวไปกับรอยยิ้มของเธอคิมินั่งอยู่ในห้องเล็ก ๆ ที่มืดสลัว มีเพียงแสงหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดหน้าโปรเจกต์นิยายค้างไว้เหมือนเดิม สมุดบันทึกเล่มเดิมวางอยู่ข้าง ๆ กล่องโกโก้ที่ละลายไปครึ่งแก้ว เธอมองมันราวกับจะใช้มันเป็นข้ออ้างไม่ให้เขียนต่อวันนี้... เธอเขียนไปเพียงไม่กี่ประโยค แต่กลับใช้เวลาเกือบชั่วโมง“จริงใจยืนอยู่ใต้ต้นกัลปพฤกษ์ มองเงาไม้ทอดบนพื้นหญ้า
ตอนที่ 4: คนที่ไม่ใช่แรงบันดาลใจจากเพลง “คนที่ไม่ใช่” – โอปวีร์เสียงฝนตกกระทบหลังคาดังเป็นจังหวะค่อย ๆ เนิบช้าเหมือนหัวใจของเธอที่กำลังแหลกช้า ๆ ในห้องเงียบ ๆ ที่มีแค่แสงจากหน้าจอมอนิเตอร์ คิมิเอนตัวพิงเก้าอี้เกมเมอร์ สวมหูฟังพร้อมไมค์ จ้องหน้าจอเกม ROV ที่กำลังแข่งแบบจัดอันดับอย่างจริงจัง“คิมิ! มึงจะป้อมแตกแล้ว! ถอยดิ๊!”เสียงของ สานฝัน ดังแว่วจากดิสคอร์ด น้ำเสียงคมชัดจนเหมือนแทงเข้าหัวใจคิมิ เกมรอบนี้ดูจะจริงจังกว่าปกติ ฝันเฟื่อง กับ พอล ยังคงอยู่ในทีม ส่วน ปาย ก็อยู่ด้วย แม้จะไม่พูดอะไรเลยตลอดทั้งเกมคิมิเหลือบดูมินิแมพแล้วกดวาร์ปกลับฐานในเสี้ยววินาทีสุดท้าย ก่อนที่ตัวละครของเธอจะตายเป็นรอบที่สี่ในเวลาแค่สิบห้านาที“ขอโทษ...” คิมิพึมพำเบา ๆ น้ำเสียงราบเรียบเหมือนหัวใจที่ว่างเปล่า“เฮ้อ พี่คิมิ เล่นอย่างนี้ทุกเกมเลย ไม่ไหวอ่ะ”ฝันเฟื่อง บ่นเสียงหงุดหงิด น้ำเสียงไม่ได้รุนแรงเท่าพี่สาว แต่กลับเจ็บลึกไม่แพ้กันคิมิพยักหน้าเบา ๆ ทั้งที่ไม่มีใครเห็น แล้วเงียบลง นิ้วชะงักไม่แตะมือถืออีกต่อไป สายตาเธอเลื่อนลอยไปที่ภาพตัวละครในเกมที่ยืนอยู่เฉย ๆ อย่างไร้จุดหมาย เธอรู้สึกเหมือนตัวเองกำลัง