หน้าหลัก / แฟนตาซี / 5/B ห้างร้างต้องคำสาป / ความสิ้นหวังและการเตรียมพร้อม

แชร์

ความสิ้นหวังและการเตรียมพร้อม

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 22:46:16

เคนตะและคาซิมิเดินมาได้ไม่กี่ก้าวจากจุดที่เคนตะช่วยเหลือเธอได้สำเร็จ ร่างกายที่บาดเจ็บซ้ำแล้วซ้ำเล่าจากการต่อสู้อันยาวนานกับปีศาจ 9 ตน และการใช้พลังอาคมที่หักโหมเกินขีดจำกัดก็เริ่มส่งผลร้ายอย่างรุนแรง

“เราไปต่อไม่ไหวแล้วเคนตะ” คาซิมิพูดด้วยความเป็นห่วงขณะที่เห็นเคนตะเดินโซซัดโซเซ

“ไม่...ไม่เป็นไรคาซิมิ” เคนตะพูดเสียงแหบพร่า “แค่...แค่พยุงฉันไว้หน่อย...เราต้องไปถึงชั้นดาดฟ้าให้ได้...”

แต่ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ครืน! เขาก็เซถลาและล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง มีดอาคมหลุดออกจากมือไปไกล ดวงตาของเขาปิดลงอย่างช้าๆ ร่างกายของเขาหยุดนิ่ง

“เคนตะ! เคนตะ!” คาซิมิเขย่าเขาอย่างแรงด้วยความตื่นตระหนก แต่เคนตะไม่ตอบสนอง

คาซิมิรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่แค่ความเหนื่อยล้าธรรมดา พลังอาคมที่ใช้ไปอย่างหนักหน่วงผนวกกับไอความมืดที่สะสมในร่างกายทำให้เคนตะเข้าสู่ภาวะ ‘อาคมดับ’ ซึ่งเป็นอาการที่ร้ายแรงสำหรับนักปราบปีศาจ คาซิมิไม่มีเวลาให้สิ้นหวัง เธอต้องลงมือทำทันที

เธอใช้แรงทั้งหมดที่เหลืออยู่พยุงร่างหนักของเคนตะไปตามทางเดินที่มืดมิด เธอเลือกห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งที่เคยเป็นห้องเก็บของของห้างร้าง มันถูกซ่อนอยู่ด้านหลังป้ายโฆษณาที่ล้มลง และมองเห็นได้ยากจากภายนอก

เมื่อพาเคนตะเข้าไปได้สำเร็จ คาซิมิก็เริ่มปฏิบัติการป้องกันอย่างรวดเร็ว เธอหยิบ ชอล์กอาคม ที่ทำจากกระดูกสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาจากย่ามของเธอ และรีบขีดเส้นรอบตัวเคนตะเป็นวงกลมขนาดใหญ่สามชั้น พร้อมกับร่ายคาถาป้องกันพื้นฐาน

“โอม! สรรพศัตรู วิชัยโช!” เธอร่ายคาถาป้องกันภัยและบังตา “ม่านอาคมพรางตา” ห่อหุ้มห้องเก็บของไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ปีศาจที่อาจจะตามมามองเห็นหรือสัมผัสถึงพลังงานของพวกเขาได้

หลังจากนั้น คาซิมิก็รีบควักตำราอาคมโบราณที่เธอพกติดตัวออกมา เธอเปิดไปที่หน้าของ ‘คาถาฟื้นฟู’ แล้วเริ่มทำพิธีฟื้นฟูขั้นพื้นฐาน เธอร่ายคาถาแล้วคาถาเล่า แสงสีเขียวมรกตที่อ่อนโยนส่องออกมาจากมือของเธอเข้าสู่ร่างของเคนตะ แต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีผลใดๆ

“ทำไมล่ะ...ทำไมไม่ฟื้น!” คาซิมิกระซิบด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ น้ำตาเริ่มคลอเบ้า เธอพยายามร่ายซ้ำอีกครั้งและอีกครั้ง แต่เคนตะก็ยังคงสลบไสล

เธอตัดสินใจเปิดตำราอาคมโบราณที่ละเอียดกว่าเดิม หน้าหนังสือเล่มเก่าเผยให้เห็นบทคาถาที่เธอไม่เคยกล้าใช้มาก่อน

> “อาคมฟื้นฟูชีวิตและจิตวิญญาณขั้นสูง: พิธีพลีกรรมแห่งแสง 99 ดวง”

> ต้องกระทำในยามที่ชีวิตเกือบดับสิ้น พลังกายและอาคมถูกทำลาย ต้องใช้การหลอมรวมของพลังบริสุทธิ์จาก เทียนศักดิ์สิทธิ์ 99 เล่ม วางเป็นวงกลมสามชั้น และต้องร่ายคาถาต่อเนื่องไม่ต่ำกว่าชั่วโมง เพื่อเรียกขวัญและพลังอาคมให้คืนกลับมา

>

คาซิมิถอนหายใจยาวด้วยความสิ้นหวัง “เทียน 99 เล่ม...จะหาได้จากที่ไหนในห้างร้างแห่งนี้”

เธอเหลือบมองเคนตะที่ใบหน้าซีดเผือด “ฉันต้องไปแล้ว...เขาต้องการมัน”

คาซิมิรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี เธอยื่นมือไปจับมีดอาคมของเคนตะที่วางอยู่ข้างๆ แล้วเก็บไว้ในย่าม เธอรู้ว่ามันคือการตัดสินใจที่บ้าคลั่งที่สุดในชีวิต แต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

เธอมองเคนตะอีกครั้ง “อดทนไว้ก่อนนะคะเคนตะ...ฉันจะรีบกลับมา”

คาซิมิก้าวเท้าออกจากห้องเก็บของอย่างเงียบกริบ เธอใช้คาถา ‘นิมิต’ เพื่อตรวจสอบทิศทาง เธอพบว่าโซนขายของใช้และเครื่องประดับอยู่ไม่ไกลจากบริเวณนี้

การจู่โจมของเงาปีศาจยักษ์

คาซิมิพยายามเดินไปตามทางเดินที่มืดมิดอย่างเงียบที่สุด เธอเดินผ่านแผนกเสื้อผ้าที่ถูกทำลายและชั้นวางของที่ล้มระเนระนาด เธอเกือบจะถึงทางเข้าแผนกเครื่องใช้ในบ้าน ซึ่งน่าจะมีเทียนอยู่

เปรี้ยง!

ทันใดนั้นเอง! กระจกหน้าต่างและผนังกระจกทั้งหมดของห้างสรรพสินค้าก็ระเบิดแตกเป็นเสี่ยงๆ อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย! เศษแก้วขนาดใหญ่ปลิวว่อนไปในอากาศราวกับพายุ คาซิมิรีบใช้มือป้องกันใบหน้า แล้วร่ายคาถาป้องกันอย่างรวดเร็วเพื่อปกป้องตัวเองจากเศษแก้วที่คมกริบ

ครืนนนนน!

สิ่งที่ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าของคาซิมิคือ เงาปีศาจยักษ์ ที่มีความสูงกว่า 8 เมตร! มันโผล่เข้ามาทางช่องว่างของหน้าต่างที่แตก มันคือ ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียน (The Candle Warden) ที่ถูกส่งมาเพื่อหยุดยั้งพิธีฟื้นฟูขั้นสูง

บอส: ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียน (The Candle Warden)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจยักษ์ที่ทำจากเงา มีรูปร่างคล้ายผู้คุมร่างใหญ่ มีดวงตาสีแดงฉานและร่างกายที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการเผาไหม้ ขนาดยักษ์ 8 เมตร

ความสามารถหลัก: สามารถควบคุมและสร้างปีศาจรอง (Minions) จากเงามืดของตัวเองได้ และโจมตีด้วยคลื่นพลังงานความร้อนสูง

“เจ้าเด็กโง่! คิดจะรื้อฟื้นพลังของนักล่าอาคมงั้นรึ!? ข้าไม่มีทางปล่อยให้เจ้าทำสำเร็จ!” ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนคำราม เสียงของมันดังกึกก้องไปทั่วทั้งชั้น

ทันใดนั้นเอง! เงาที่อยู่ใต้เท้าของมันก็เริ่มบิดเบี้ยวและแยกตัวออกมากลายเป็น ปีศาจลูกสมุน 6 ตัว ที่พุ่งเข้าใส่คาซิมิทันที

คาซิมิรู้ว่าเธอไม่สามารถต่อสู้กับบอสยักษ์ตัวนี้ได้โดยมีลูกสมุนเข้ามาขวางทาง เธอต้องจัดการลูกสมุนทั้งหมดก่อน!

คาซิมิกับการต่อสู้เพื่อแสงเทียน

คาซิมิหยิบมีดอาคมของเคนตะออกมาอย่างรวดเร็ว เธอรวบรวมพลังอาคมที่เหลืออยู่ทั้งหมดไว้ที่ปลายมีดและในมือของเธอ

“ฉันจะไม่ยอมให้พวกแกหยุดฉันได้!” คาซิมิตะโกนอย่างกล้าหาญ

1. ลูกสมุน: นักรบเงา (The Shadow Trooper)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจเงารูปร่างมนุษย์ที่สวมชุดเกราะเต็มยศ ขนาด 2 เมตร

ความสามารถ: มีพละกำลังและความเร็วในการโจมตีด้วยดาบเงา

นักรบเงาสองตัวพุ่งเข้าใส่คาซิมิพร้อมกันอย่างรวดเร็ว คาซิมิไม่มีทักษะการต่อสู้ระยะประชิดเท่าเคนตะ เธอจึงใช้ความว่องไวและอาคมสนับสนุน

“คาถาพันธนาการ!” คาซิมิร่ายคาถา! โซ่แสงสีฟ้าอ่อนๆ พุ่งออกไปพันธนาการขานักรบเงาตัวหนึ่งไว้! วิ้ง!

ขณะที่นักรบเงาตัวแรกถูกตรึง คาซิมิก็หลบการโจมตีจากดาบเงาของตัวที่สองอย่างหวุดหวิด แล้วใช้มีดอาคมที่เคลือบด้วยพลังอาคมของเคนตะแทงเข้าที่อกของมัน! ฉัวะ! วิญญาณถูกกักเก็บทันที!

2. ลูกสมุน: ปีกแหลม (The Thorn Wing)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจเงารูปร่างค้างคาวขนาดเล็กที่มีปีกที่เต็มไปด้วยหนามแหลมคม บินได้ว่องไว

ความสามารถ: ยิงหนามเงาออกมาจากปีกเพื่อโจมตีระยะไกล

ปีกแหลมสามตัวบินโฉบลงมาจากเพดานแล้วยิงหนามเงาเข้าใส่คาซิมิอย่างไม่ยั้ง

“เยอะเกินไป!” คาซิมิเห็นว่าการหลบหลีกเป็นเรื่องยาก เธอจึงตัดสินใจร่ายคาถาป้องกันตัวเอง

“คาถา! โล่แสง!” คาซิมิสร้างโล่แสงสีฟ้าอ่อนๆ ขึ้นมาป้องกันตัวเองจากหนามเงา เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ! หนามเงากระทบกับโล่แสงอย่างรุนแรง

คาซิมิไม่มีเวลาจัดการทีละตัว เธอรวบรวมพลังอาคมไว้ที่ปากขวดกักเก็บวิญญาณ แล้วเปิดมันออกเพื่อใช้พลังดูด

“ดูด!” คาซิมิปล่อยพลังดูดออกมาจากขวดอย่างรุนแรง! ปีกแหลมสามตัวถูกดูดเข้าไปในขวดอย่างรวดเร็ว! ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

3. ลูกสมุน: เงาคลุมร่าง (The Cloak Shadow)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจรูปร่างมนุษย์ที่ถูกคลุมด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท มีขนาด 2 เมตร

ความสามารถ: สามารถขโมยพลังงานอาคมของเหยื่อได้จากการสัมผัส

เงาคลุมร่างตัวสุดท้ายพุ่งเข้ามาหาคาซิมิอย่างรวดเร็ว มันต้องการแตะตัวเธอเพื่อดูดพลังอาคมของเธอไปให้หมด

คาซิมิรู้ว่าเธอต้องหลีกเลี่ยงการสัมผัสให้ได้ เธอกระโดดถอยหลังอย่างรวดเร็ว แล้วใช้มีดอาคมฟันไปที่อากาศ

ฉัวะ!

เธอฟันพลาด! เงาคลุมร่างหัวเราะอย่างเงียบๆ แล้วพุ่งเข้าหาเธออีกครั้ง! คาซิมิไม่มีทางเลือกอื่น เธอใช้ คาถาแสงจ้า ที่ใช้พลังอาคมทั้งหมดที่เธอมีสร้างแสงสีขาวจ้าเข้าใส่เงาคลุมร่าง!

วูบ!

แสงจ้าทำให้เงาคลุมร่างกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มันเซถลาไปด้านข้าง คาซิมิรีบใช้มีดอาคมแทงเข้าที่กลางอกของมันทันที! ฉัวะ!

การเผชิญหน้ากับบอสยักษ์

คาซิมิหอบหายใจอย่างหนัก เธอจัดการลูกสมุนทั้งหกตัวได้สำเร็จ แต่พลังอาคมของเธอก็แทบจะหมดเกลี้ยงแล้ว เธอหันกลับมาเผชิญหน้ากับผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียน

ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนยิ้มเยาะ “กล้าหาญดีนี่แม่มดน้อย...แต่มันก็เท่านั้น”

มันยกมือขนาดมหึมาขึ้น แล้วปล่อย คลื่นความร้อนมืด สีแดงดำเข้าใส่คาซิมิอย่างรุนแรง! คลื่นความร้อนนั้นร้อนจัดจนอากาศรอบข้างบิดเบี้ยว

คาซิมิรู้ว่าเธอไม่สามารถป้องกันมันได้! เธอตัดสินใจรวบรวมพลังอาคมที่เหลืออยู่ทั้งหมดแล้วสร้าง คาถาสกัดกั้น ขึ้นมา!

“โอม! อคคิ...อัคคิ...ธัมมัง!”

ปัง!

คลื่นความร้อนมืดปะทะเข้ากับคาถาสกัดกั้นของคาซิมิอย่างจัง! คาถาสกัดกั้นแตกสลายไปทันที แต่ก็ช่วยลดความรุนแรงของคลื่นความร้อนได้เพียงเล็กน้อย คาซิมิถูกแรงกระแทกซัดกระเด็นไปชนกับชั้นวางของที่อยู่ด้านหลังอย่างรุนแรง!

“อ๊าก!” คาซิมิกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด มีดอาคมหลุดออกจากมือไปไกล

ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนเดินเข้ามาหาเธออย่างช้าๆ “จบแล้วแม่มดน้อย...เจ้าจะไม่มีวันทำพิธีนั้นได้สำเร็จ”

คาซิมิพยายามคลานไปหยิบมีดอาคม แต่ร่างกายของเธอไม่ตอบสนอง เธอก้มลงมองย่ามของเธอ และเห็น ผ้ายันต์แห่งดิน ที่เคนตะเพิ่งได้มา

คาซิมิรู้ว่าเธอเหลือทางเดียว เธอต้องใช้ผ้ายันต์นี้!

“แกคิดว่าจะหยุดฉันได้ง่ายๆ งั้นเหรอ!” คาซิมิคว้าผ้ายันต์แห่งดินขึ้นมาแล้วโยนมันขึ้นไปในอากาศ!

“ผ้ายันต์แห่งดิน! จงสำแดงพลัง!” คาซิมิร่ายคาถาปลุกพลังของผ้ายันต์!

ผ้ายันต์สีเหลืองเรืองแสงอย่างเจิดจ้า! ทันใดนั้น! เศษซากปรักหักพังและฝุ่นผงบนพื้นก็รวมตัวกันอย่างรวดเร็ว สร้าง มือดินยักษ์ ขนาดใหญ่เท่าตัวผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียน!

มือดินยักษ์พุ่งเข้าจับขาของผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนไว้แน่น! ผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนคำรามด้วยความตกใจและโกรธเกรี้ยว

“เป็นไปไม่ได้! ผ้ายันต์แห่งดิน!?”

คาซิมิใช้จังหวะนั้นรวบรวมพลังอาคมที่เหลืออยู่เพื่อ พุ่งมีดอาคม ที่ตกอยู่บนพื้นไปที่กลางดวงตาของมัน!

เปรี๊ยะ!

มีดอาคมปักเข้าที่ดวงตาของผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนอย่างจัง! มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส! ร่างกายยักษ์ของมันเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

“ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้!” คาซิมิกล่าวด้วยความมุ่งมั่นสุดท้าย “เคนตะจะต้องรอด!”

มือดินยักษ์บีบขาของผู้พิทักษ์แห่งแสงเทียนแน่นขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งมันระเบิดออก ตูมมมม! ร่างกายยักษ์ของมันสลายตัวกลายเป็นวิญญาณขนาดใหญ่ที่ลอยขึ้นไปบนอากาศ

คาซิมิใช้พลังสุดท้ายเปิดขวดกักเก็บวิญญาณ ฟุ่บ! วิญญาณยักษ์ถูกกักเก็บอย่างสมบูรณ์

เธอทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง แต่เธอก็ทำสำเร็จ! เธอจัดการบอสยักษ์ได้แล้ว!

“เทียน...ฉันต้องไปหาเทียน” คาซิมิกระซิบกับตัวเอง เธอคลานเข้าไปในแผนกเครื่องใช้ในบ้านที่อยู่ไม่ไกล และพบกับชั้นวางที่เต็มไปด้วย เทียนหอมและเทียนไข

เธอเริ่มเก็บเทียนเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว โดยไม่สนใจความเหนื่อยล้าและความเจ็บปวดที่ถาโถมเข้าใส่ร่างกายของเธอ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status