แชร์

อาคมฟื้นฟู

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 22:32:59

ความเงียบสงัดเข้าแทนที่เสียงกรีดร้องโหยหวนและเสียงการต่อสู้อันดุเดือด แสงสว่างจ้าที่เล็ดลอดเข้ามาจากรอยแตกบนผนังของห้างร้างที่ถูกทำลายโดยการปะทะครั้งสุดท้าย ได้ส่องลงมาต้องร่างของเคนตะที่ทรุดตัวอยู่บนพื้นอย่างหมดแรง คาซิมิคลานเข้าไปหาเขาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อและความกังวล

“เคนตะ! คุณบาดเจ็บหนักมาก” เธอพูดเสียงสั่น มือของเธอสัมผัสไปตามรอยแผลและรอยช้ำบนตัวของเขา เคนตะหายใจหอบถี่ พลังอาคมที่เคยเรืองรองในตัวบัดนี้มอดดับลงจนเกือบหมดสิ้น

เคนตะพยายามยิ้มให้เธอ “ก็...ต้องแลกกันหน่อย” เขาไอเบาๆ พลางรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่แล่นไปทั่วร่าง “แต่เราชนะแล้วนะคาซิมิ...เราจัดการราชินีเงาได้”

“ใช่ค่ะ...เราทำได้” คาซิมิรู้สึกโล่งใจอย่างที่สุด แต่ความโล่งใจก็ถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกผิดที่เห็นเขาต้องบาดเจ็บหนักขนาดนี้ เธอวางมีดอาคมของเขาลงข้างๆ แล้วควักขวดยาฟื้นฟูทั่วไปที่เตรียมมา แต่เคนตะส่ายหน้าเบาๆ

“มันไม่พอหรอกคาซิมิ” เขาพูดเสียงแผ่ว “รอยแผลข้างในมันลึกกว่าที่เห็น...ฉันโดนไอความมืดของเกราะดำและแรงบีบคั้นของหอคอยดำเข้าจังๆ”

คาซิมิพยักหน้า เธอรู้ดีว่ายาธรรมดาไม่อาจรักษาความเสียหายที่เกิดจากอาคมปีศาจได้ เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ เธอต้องรวบรวมพลังอาคมที่เหลืออยู่เพื่อทำสิ่งที่เธอทำได้ดีที่สุด

“ฉันจะใช้ คาถาฟื้นฟูขั้นพื้นฐาน ให้คุณค่ะ” คาซิมิบอก เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้นเหนือบาดแผลที่ร้ายแรงที่สุดของเคนตะที่บริเวณหน้าอกและไหล่ “มันจะช่วยสมานบาดแผลภายในได้ แต่คุณต้องทนหน่อยนะคะ...มันอาจจะเจ็บนิดหน่อย”

เคนตะมองเข้าไปในดวงตาที่มุ่งมั่นของเธอ “ไม่เป็นไร...เริ่มเลยคาซิมิ”

คาซิมิหลับตาลง เธอเริ่มร่ายคาถาฟื้นฟู เสียงของเธอแผ่วเบาแต่ก้องกังวานด้วยพลังงานที่อ่อนโยน พลังอาคมสีเขียวมรกตเริ่มเรืองรองออกจากมือของเธอ แสงสีเขียวนั้นแผ่ซ่านลงไปในบาดแผลของเคนตะ ร่างกายของเคนตะเกร็งเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวดที่มาพร้อมกับการสมานเซลล์และเส้นประสาทที่ถูกทำลาย

“ฮึ่ก...” เคนตะกัดฟันแน่น แต่ก็ไม่ส่งเสียงร้องออกมา

คาซิมิมองเห็นภาพเรืองรองของพลังงานที่บิดเบี้ยวจากบาดแผลของเคนตะด้วยคาถา ‘นิมิต’ ที่ยังคงติดตัวเธออยู่ พลังงานสีเขียวของเธอค่อยๆ ขับไล่เศษซากของพลังงานความมืดที่ตกค้างออกไป แล้วเยียวยารอยฉีกขาดของเนื้อเยื่อภายใน

ผ่านไปประมาณสิบนาที คาซิมิก็หอบหายใจอย่างหนัก เธอเปิดตาขึ้น แสงสีเขียวมรกตก็หายไป บาดแผลภายนอกของเคนตะสมานตัวและดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แม้จะยังคงมีร่องรอยอยู่ก็ตาม

“พอแล้วค่ะ...ถ้ามากกว่านี้ฉันคงไม่ไหว” คาซิมิกล่าวด้วยความเหนื่อยล้า เธอรู้สึกเหมือนถูกสูบพลังออกไปจนหมด

เคนตะลองขยับตัว เขาลุกขึ้นนั่งได้โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงเหมือนเมื่อครู่ “ดีขึ้นมากเลยคาซิมิ! พลังของเธอ...มันน่าทึ่งจริงๆ” เขาจับมือเธอที่อ่อนล้าแล้วบีบเบาๆ “ขอบคุณนะ ถ้าไม่มีเธอ...ฉันคงไม่รอด”

คาซิมิยิ้มอย่างเหนื่อยอ่อน “เราต้องรอดทั้งคู่สิคะ”

ทั้งคู่นั่งพักเงียบๆ ครู่หนึ่ง เพื่อฟื้นฟูพลังกายและพลังอาคมที่เหลืออยู่ เคนตะมองไปยังขวดกักเก็บวิญญาณที่คาซิมิถืออยู่ ตอนนี้มันเต็มไปด้วยวิญญาณปีศาจทั้งหมด 12 ดวง (รวมสองตัวแรก) โดยมีดวงวิญญาณของราชินีเงาที่ใหญ่ที่สุดอยู่ในนั้น

“เราได้วิญญาณมาเยอะเลย” เคนตะพูด “แต่ภารกิจของเรามันไม่ใช่แค่การปราบปีศาจ”

คาซิมิพยักหน้า “ใช่ค่ะ...ผ้ายันต์ทั้งห้าผืน”

เคนตะถอนหายใจ “ลุงซาโตรุบอกว่าผ้ายันต์นี้คือสิ่งเดียวที่จะผนึกประตูมิตินี้ได้อย่างสมบูรณ์ และป้องกันไม่ให้มิติปีศาจขยายตัวเข้าสู่โลกของเราได้”

“แต่ทำไมต้องห้าผืนล่ะคะ? แค่ผืนเดียวไม่พอเหรอ?” คาซิมิถามด้วยความสงสัย

เคนตะส่ายหน้า “ลุงซาโตรุบอกว่า ผ้ายันต์แต่ละผืนทำหน้าที่เป็น เสาหลักของธาตุทั้งห้า ที่จะช่วยตรึงมิติไว้ ผืนแรกคือผ้ายันต์แห่งดิน (Earth) ที่จะตรึง ‘แกน’ ของสถานที่เอาไว้ก่อน ถ้าเราไม่ผนึกมัน...พวกปีศาจจะกลับมารวมตัวกันได้อีก”

คาซิมิมองไปรอบๆ ห้างร้างที่ยังคงมืดมิดและน่าขนลุก “แล้วผ้ายันต์ผืนแรกอยู่ที่ไหนคะ?”

เคนตะหยิบไฟฉายที่ตอนนี้กลับมาใช้การได้แล้วขึ้นมาส่องสำรวจ เขาเดินไปที่มุมหนึ่งของห้องที่พวกเขาเพิ่งต่อสู้กับราชินีเงา เขาเห็นร่องรอยของพลังอาคมที่เข้มข้นบางอย่างที่พื้น

“ตามตำราของลุงซาโตรุ...สถานที่ที่ผ้ายันต์ถูกผนึกไว้มักจะมีความเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณกับธาตุที่มันเป็นตัวแทน” เคนตะอธิบายพลางใช้ปลายนิ้วสัมผัสรอยอาคมที่พื้น “ผ้ายันต์แห่งดิน...ต้องอยู่ที่ จุดศูนย์กลางของมวลและรากฐาน”

คาซิมิครุ่นคิดตาม “จุดศูนย์กลางของมวล...ห้างสรรพสินค้าแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออะไรคะ?”

“เพื่อการบริโภค...การพักผ่อน...และความบันเทิง” เคนตะตอบพลางส่องไฟฉายไปตามป้ายที่บิดเบี้ยว

คาซิมิเบิกตากว้าง “โซนเด็กเล่น! มันเป็นโซนที่ถูกออกแบบมาให้เป็นรากฐานของความสนุก! เป็นมวลรวมของความสุขและวัยเยาว์!”

เคนตะพยักหน้า “มีความเป็นไปได้สูง! ถ้าผ้ายันต์แห่งดินถูกซ่อนไว้เพื่อตรึง ‘รากฐาน’ ของมิตินี้เอาไว้...โซนเด็กเล่นที่มีมวลรวมของอุปกรณ์และเครื่องเล่นน่าจะใช่ที่สุด”

“งั้นเราไปกันเลยค่ะ” คาซิมิลุกขึ้นยืนด้วยความมุ่งมั่นที่กลับคืนมา

ทางเข้าสู่เขาวงกต

ทั้งคู่เดินไปตามทางเดินที่มืดมิดของห้างร้างจนกระทั่งมาถึงบริเวณที่ป้ายบ่งบอกว่าเป็น “Wonderland Arcade” หรือโซนเครื่องเล่นสำหรับเด็ก แม้จะถูกทิ้งร้าง แต่สีสันที่เคยสดใสของตู้เกมและเครื่องเล่นที่ถูกคลุมด้วยผ้าใบก็ยังคงมองเห็นรางๆ ในความมืด บรรยากาศของโซนนี้กลับดูวังเวงและหดหู่มากกว่าโซนอื่น ราวกับความสุขทั้งหมดได้ถูกดูดกลืนไปจนหมดสิ้น

“ที่นี่ดูแปลกๆ นะคะ” คาซิมิกระซิบ เธอกระชับขวดกักเก็บวิญญาณในมือแน่น

“ใช่...ความมืดของที่นี่มันหนาแน่นเป็นพิเศษ” เคนตะตอบ เขาก้าวเท้าเข้าไปในโซนนั้นอย่างระมัดระวัง

ทันใดนั้นเอง...

ครืนนนนน!

พื้นห้างเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ตู้เกมและเครื่องเล่นที่เคยคลุมด้วยผ้าใบเริ่มเคลื่อนที่เองโดยไม่ทราบสาเหตุ กำแพงที่เคยเป็นแค่ผนังทึบเริ่มยุบตัวและงอกออกมา สร้างเส้นทางและทางตันใหม่ๆ รอบตัวพวกเขาอย่างรวดเร็ว

“เกิดอะไรขึ้น!” คาซิมิร้องด้วยความตื่นตระหนก

“มันไม่ใช่แค่โซนเด็กเล่นแล้วคาซิมิ!” เคนตะตะโกน “มันเปลี่ยนเป็น เขาวงกต!”

แสงไฟนีออนเก่าๆ ที่เคยดับไปก็กลับมาส่องสว่างอย่างบิดเบือน เป็นสีม่วงและเขียวที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ ทำให้เงาของทุกสิ่งบิดเบี้ยวและเคลื่อนไหวได้เองอย่างน่าขนลุก เสียงดนตรีจากตู้เกมที่เสียดังขึ้นอย่างผิดเพี้ยน เหมือนเสียงกรีดร้องของเด็กที่ถูกทรมาน

“มันกำลังควบคุมพื้นที่รอบตัวเรา! ผ้ายันต์แห่งดิน...มันคงมีกลไกป้องกันที่แข็งแกร่งที่สุด!” เคนตะสังเกตเห็นว่ากำแพงที่งอกออกมานั้นทำจากอิฐและปูนจริง ไม่ใช่แค่ภาพลวงตา

คาซิมิใช้คาถา ‘นิมิต’ เพื่อสำรวจพื้นที่ทันที “แย่แล้วค่ะเคนตะ! เขาวงกตนี้มันซับซ้อนมาก! และมันกำลัง เปลี่ยนทิศทางอยู่ตลอดเวลา!”

เคนตะมองไปที่ปลายทางเดินที่เพิ่งจะวิ่งเข้ามา เมื่อครู่มันเป็นทางเข้า แต่ตอนนี้มันกลับกลายเป็นกำแพงอิฐทึบ “เราต้องหาผ้ายันต์ให้เร็วกว่าที่เขาวงกตจะกลืนกินเรา!”

การเผชิญหน้าในเขาวงกต

ทั้งคู่เริ่มวิ่งเข้าไปในเขาวงกตที่บิดเบี้ยว เคนตะนำทางด้วยสัญชาตญาณและการสังเกตการณ์ ขณะที่คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ เพื่อมองหาจุดที่พลังงานของผ้ายันต์เข้มข้นที่สุด

“ซ้ายค่ะเคนตะ! มีพลังงานของผ้ายันต์อยู่ตรงนั้น!” คาซิมิชี้ไปยังทางเดินด้านซ้ายที่เต็มไปด้วยตู้คีบตุ๊กตาที่ถูกทำลาย

เคนตะพุ่งตัวไปทางซ้ายทันที แต่ขณะที่เท้าของเขากำลังจะเหยียบพื้น เขาวงกตก็เปลี่ยนทิศทาง! กำแพงด้านซ้ายที่คาซิมิชี้เมื่อครู่พลันหมุนตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ทางเดินนั้นถูกปิดตาย และกำแพงด้านหน้าของพวกเขาก็เปิดออก เผยให้เห็นทางเดินใหม่ที่มืดมิดกว่าเดิม

“หลบ!” เคนตะดึงคาซิมิกลับมาอย่างแรง พวกเขาทั้งคู่ล้มลงกับพื้นอย่างหวุดหวิด

“มันฉลาดมากค่ะเคนตะ! มันจับทางเราได้!” คาซิมิหอบหายใจ “เราต้องคิดให้เร็วกว่ามัน!”

เคนตะลุกขึ้นยืน เขามองไปยังทางเดินใหม่ที่เปิดออก “ถ้าเราวิ่งไปตามทิศทางที่ผ้ายันต์อยู่ เขาวงกตจะปิดทางเรา...เราต้องวิ่งไปยังทิศทางตรงกันข้ามกับที่ผ้ายันต์อยู่!”

“อะไรนะคะ!?” คาซิมิประหลาดใจ “ทำไมล่ะคะ?”

“เขาวงกตถูกตั้งโปรแกรมให้ป้องกันผ้ายันต์ไว้! ถ้าเราวิ่งไปในทิศทางที่พลังงานเข้มข้น เขามันจะปิดทางเพื่อกันเราออกไป แต่ถ้าเราวิ่งไปในทิศทางที่ห่างออกไป มันอาจจะเปิดทางเพื่อหลอกให้เราหลงทาง!” เคนตะอธิบายอย่างรวดเร็ว

คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ ตรวจสอบทิศทางอีกครั้ง “พลังงานอยู่ด้านซ้ายมือของเรา! งั้นเราจะวิ่งไปทางด้านขวา!”

ทั้งคู่พุ่งไปทางด้านขวาอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเอง กำแพงด้านขวาที่เคยเป็นทางตันก็ค่อยๆ เปิดออกเหมือนประตูที่ซ่อนอยู่ เผยให้เห็นทางเดินที่ยาวเหยียด

“ได้ผล!” คาซิมิตะโกนอย่างตื่นเต้น

แต่ความตื่นเต้นก็อยู่ได้ไม่นาน วิ้ง! นาฬิกาอาคมของคาซิมิก็สั่นเตือนขึ้นอีกครั้งอย่างรุนแรง

“ไม่นะ! มีอะไรกำลังตามเรามาแล้วค่ะเคนตะ! สองตัว!” คาซิมิหันไปมองข้างหลังเธอด้วยคาถา ‘นิมิต’

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status