หน้าหลัก / แฟนตาซี / 5/B ห้างร้างต้องคำสาป / มหาศึกเงาไร้จุดสิ้นสุด

แชร์

มหาศึกเงาไร้จุดสิ้นสุด

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-10-31 22:28:03

เกราะอาคมสีเงินที่แผ่ออกมาจากเคนตะส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิดของห้างร้าง มันไม่ใช่แสงที่ทำให้มองเห็น แต่เป็นพลังงานที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าที่ขับไล่ความมืดและเงาปีศาจที่บีบรัดออกไปชั่วคราว คาซิมิยืนอยู่เบื้องหลังเคนตะ ดวงตาของเธอจ้องมองภาพเรืองรองของพลังงานปีศาจด้วยคาถา ‘นิมิต’ อย่างแน่วแน่

“ไปค่ะเคนตะ! ทางด้านขวา! เลี้ยวขวาตรงซากเสานั้น!” คาซิมิออกคำสั่ง เสียงของเธอหนักแน่นแม้จะแฝงไว้ด้วยความเหนื่อยล้า เธอต้องใช้สมาธิอย่างหนักเพื่อคงคาถาไว้และมองผ่านกลุ่มเงาปีศาจที่บิดเบี้ยวเพื่อนำทางเคนตะ

เคนตะพุ่งทะยานไปตามทิศทางที่คาซิมิบอก แสงอาคมจากตัวเขาสร้างช่องทางเล็กๆ ท่ามกลางวงล้อมของปีศาจ เงาปีศาจที่ถูกแสงพลังงานปะทะดูเหมือนจะกรีดร้องเงียบๆ ก่อนจะสลายตัวไปชั่วขณะ แต่พวกมันก็กลับมารวมตัวกันใหม่อย่างรวดเร็ว

“ใกล้ถึงแล้วค่ะ! ตรงไปอีกนิด! มันอยู่ข้างหน้า!” คาซิมิเร่งเร้า

ทันใดนั้นเอง ปีศาจที่ถูกขับไล่ไปก็เริ่มรวมตัวกันและโจมตีกลับอย่างเป็นระบบ พวกมันไม่ได้เข้ามาเพียงตัวเดียว แต่เป็นฝูงที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง

“มาแล้วเคนตะ! ตัวที่ 1: อสูรคลื่น (The Wave)! มาจากด้านซ้าย!”

การปะทะครั้งที่ 1: อสูรคลื่น (The Wave)

ลักษณะ/ขนาด: เงาปีศาจรูปร่างแบนราบและยืดหยุ่นได้เหมือนผิวน้ำ มันมีความกว้างราว 3 เมตร และสูงประมาณ 1.5 เมตร เคลื่อนไหวเหมือนคลื่นที่ซัดสาดไปตามพื้น

ความสามารถ: สามารถเปลี่ยนรูปร่างและขนาดได้ทันที และพยายามจะคลุมเหยื่อให้ขาดอากาศหายใจ

เงาปีศาจตัวแรกพุ่งเข้าใส่เคนตะเหมือนคลื่นยักษ์ที่กำลังจะกลืนกิน เคนตะตะโกนลั่น!

“หลบไม่ทันแล้ว!” เคนตะใช้พลังอาคมทั้งหมดที่มีรวบรวมไว้ที่เท้า แล้วกระโดดถอยหลังไปด้านบนสุดแรงเกิด ทำให้เขาเกือบชนกับคาซิมิ

“ระวัง!” คาซิมิใช้มือที่ว่างอยู่ผลักหลังเคนตะเพื่อให้หลุดจากระยะโจมตีของคลื่นเงาได้ทันท่วงที

อสูรคลื่นพุ่งผ่านจุดที่พวกเขายืนอยู่เมื่อครู่ก่อนจะกระทบกับกำแพงอย่างรุนแรง

“ไม่เป็นไรค่ะ! ไปต่อเลย!” คาซิมิตะโกน

การปะทะครั้งที่ 2: หอคอยดำ (The Dark Spire)

ลักษณะ/ขนาด: เป็นเงาปีศาจที่สูงชะลูดและผอมบางกว่า 4 เมตร มีรูปร่างคล้ายหอคอยที่กำลังจะล้มลง เคลื่อนไหวช้า แต่มั่นคง

ความสามารถ: สร้างแรงกดดันทางจิตใจและทำให้เหยื่อรู้สึกสิ้นหวังจนขยับไม่ได้

ขณะที่เคนตะกำลังจะวิ่งต่อ เงาปีศาจตัวที่สองก็ปรากฏตัวขึ้นขวางทางเดิน หอคอยดำแผ่รังสีแห่งความสิ้นหวังออกมาอย่างรุนแรง มันไม่ได้โจมตีด้วยกำลัง แต่ใช้พลังจิตบีบคั้น

“โอ๊ย!” เคนตะร้องออกมาเมื่อรู้สึกเหมือนมีน้ำหนักนับร้อยกิโลกรัมกดทับอยู่บนไหล่ ความคิดที่ว่า ‘สู้ไปก็ไร้ประโยชน์’ เริ่มแทรกซึมเข้ามาในหัว

“เคนตะ! อย่าหยุด!” คาซิมิเห็นภาพเรืองรองของพลังงานที่บีบคั้นเคนตะ “มันแค่ลวง! อย่าไปฟังมัน!” เธอเขย่าแขนเขาอย่างแรง

เคนตะกัดฟันกรอด เขารวบรวมพลังอาคมอีกครั้งเพื่อขับไล่ความรู้สึกสิ้นหวัง “ไม่! ฉันจะไม่ยอมแพ้!”

เขาวิ่งฝ่าแรงกดดันนั้นไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับหวดมีดอาคมที่คาซิมิถืออยู่ไปด้านหน้า! ฟุ่บ! ปลายมีดเฉียดหัวของหอคอยดำไปอย่างฉิวเฉียด แต่ก็ยังไม่เข้าสู่จุดตาย

“เร็วเข้า!” คาซิมิเร่ง

การปะทะครั้งที่ 3: ปิศาจมือ (The Claws)

ลักษณะ/ขนาด: เป็นปีศาจที่มีแต่ส่วนแขนขนาดใหญ่และอุ้งมือที่ยาวผิดปกติ ขนาดยาวประมาณ 5 เมตร เคลื่อนไหวด้วยการคลานไปกับพื้นด้วยความเร็วสูง

ความสามารถ: สามารถยืดและหดอุ้งมือได้ตามต้องการเพื่อคว้าหรือบดขยี้เหยื่อ

ทันทีที่พวกเขาพ้นจากรัศมีของหอคอยดำ ปีศาจมือสองตัวก็พุ่งตามมาจากด้านหลัง!

“หลังเราค่ะเคนตะ! สองตัว!” คาซิมิไม่ทันได้ตั้งตัว มือปีศาจตัวหนึ่งยื่นออกมาคว้าข้อเท้าของเคนตะอย่างรวดเร็ว

“อ๊าก!” เคนตะล้มลง มีดอาคมหลุดจากมือคาซิมิไปไกล

“เคนตะ!” คาซิมิกรีดร้อง เธอเห็นมือปีศาจอีกตัวกำลังง้างอุ้งมือขนาดมหึมาเตรียมจะบดขยี้พวกเขา

ในสถานการณ์คับขัน คาซิมิรวบรวมพลังอาคมทั้งหมดไว้ที่มือซ้ายของเธอ แล้วส่งคลื่นพลังสีฟ้าอ่อนๆ เข้าใส่ปีศาจมือที่จับข้อเท้าเคนตะอยู่

แป๊บ!

เกิดเสียงคล้ายไฟฟ้าช็อต ปีศาจมือกรีดร้องอย่างเงียบๆ แล้วปล่อยเคนตะ คาซิมิรีบหยิบมีดอาคมขึ้นมา

“ตอนนี้ค่ะเคนตะ!” คาซิมิแทงมีดอาคมเข้าที่หัวของปีศาจมือตัวที่กำลังง้างอุ้งมืออยู่ทันที!

ฉัวะ!

ร่างกายของมันแตกสลายเป็นดวงวิญญาณสีดำ เคนตะที่ลุกขึ้นได้รีบพุ่งเข้าไปแทงหัวของปีศาจมืออีกตัวที่กำลังพยายามจับพวกเขา! ฉัวะ! ดวงวิญญาณตัวที่สองปรากฏขึ้น

“คาซิมิ!” เคนตะตะโกน

คาซิมิรีบร่ายคาถาและเปิดขวด! ฟุ่บ! ฟุ่บ! วิญญาณสองดวงถูกกักเก็บอย่างรวดเร็ว

“เราต้องไม่หยุด! พวกมันกำลังเข้ามาอีก!” เคนตะหอบหายใจอย่างหนัก

การปะทะครั้งที่ 4: นักล่าเงา (The Shadow Hunter)

ลักษณะ/ขนาด: มีรูปร่างคล้ายมนุษย์ขนาดปกติ แต่มีปีกคล้ายค้างคาวที่ฉีกขาด เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงและเงียบกริบ

ความสามารถ: สามารถหายตัวและปรากฏตัวใหม่ในจุดที่มองไม่เห็นได้ (Teleportation)

ทันทีที่พวกเขาวิ่งต่อ นักล่าเงาตัวที่ 4 ก็ปรากฏตัวขึ้นด้านหน้าอย่างกะทันหัน! มันพยายามจะแทงเคนตะด้วยกรงเล็บแหลมคม

“ขวาค่ะเคนตะ!” คาซิมิเตือน แต่ช้าไป! เคนตะโดนกรงเล็บข่วนเข้าที่แขนอย่างจัง เลือดไหลซิบๆ

เคนตะใช้มีดอาคมเฉือนเข้าไปที่อกของมัน แต่มันกลับวูบหายไปก่อนที่คมมีดจะถึงตัว

“มันหายไปแล้ว!” เคนตะมองไปรอบๆ อย่างระแวดระวัง

“ข้างหลังคุณค่ะ!” คาซิมิร้องเตือน! นักล่าเงาปรากฏตัวด้านหลังเคนตะแล้ว!

เคนตะหันกลับไปไม่ทัน คาซิมิตัดสินใจใช้พลังอาคมของตัวเองสร้างกำแพงแสงสีฟ้าอ่อนๆ กั้นไว้

ปัง!

นักล่าเงาชนเข้ากับกำแพงแสงอย่างจัง แต่กำแพงก็แตกสลายไปทันที อย่างไรก็ตามมันทำให้ปีศาจเสียจังหวะ เคนตะฉวยโอกาสนั้นพุ่งมีดเข้าใส่หัวมัน! ฉัวะ!

“เก็บวิญญาณ!”

การปะทะครั้งที่ 5: พ่อมดเงา (The Shadow Shaman)

ลักษณะ/ขนาด: รูปร่างผอมสูง มีไม้เท้าคล้ายกระดูกที่ถืออยู่ในมือ ขนาดยาว 2 เมตร

ความสามารถ: สามารถทำให้สิ่งของรอบตัวเคลื่อนที่ได้เอง (Telekinesis) และยิงกระสุนเงา

เมื่อเก็บวิญญาณเสร็จ ทั้งคู่ยังไม่ทันได้หายใจ พ่อมดเงาก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับไม้เท้าของมัน!

“ดูนั่นเคนตะ! มันกำลังร่ายคาถา!” คาซิมิเห็นพลังงานสีดำไหลเวียนจากไม้เท้าของมัน

ทันใดนั้นเอง เศษซากปรักหักพังรอบตัวพวกเขาก็เริ่มลอยขึ้นและพุ่งเข้าใส่พวกเขาเหมือนกระสุน!

“หลบ!” เคนตะดันคาซิมิเข้าที่กำบัง แต่ก็ไม่พ้น เศษหินก้อนใหญ่พุ่งเข้าชนเกราะอาคมของเคนตะอย่างจัง ปัง! ทำให้เขากระอักเลือดเล็กน้อย

“คุณโอเคไหมคะเคนตะ!”

“ไม่เป็นไร! มันใช้พลังมากเกินไปในการควบคุมสิ่งของ! ฉันจะเข้าถึงตัวมันให้ได้!” เคนตะบอก เขารวบรวมพลังอาคมแล้วพุ่งเข้าไปหามันอย่างรวดเร็ว พ่อมดเงายิงกระสุนเงาสีดำเข้าใส่เคนตะไม่ยั้ง แต่เคนตะหลบหลีกได้อย่างชำนาญ

“ตอนนี้ค่ะ!” คาซิมิตะโกน

เคนตะพุ่งมีดเข้าแทงหัวมันสำเร็จ! ฉัวะ!

“คาซิมิ! เร็วเข้า! ฉันรู้สึกว่าพวกมันกำลังเพิ่มขึ้น!”

การปะทะครั้งที่ 6: เกราะดำ (The Black Armor)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจที่มีรูปร่างคล้ายนักรบหุ้มเกราะหนัก มีขนาด 2.5 เมตร เคลื่อนไหวช้า แต่มั่นคงและแข็งแกร่ง

ความสามารถ: มีผิวหนังที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กและสามารถปล่อยไอความร้อนมืดออกมาได้

“ตัวที่ 6! เกราะดำ! มันแข็งแกร่งมากค่ะเคนตะ!” คาซิมิเตือน

เกราะดำเดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างช้าๆ ไอความร้อนมืดที่มันปล่อยออกมาทำให้พวกเขารู้สึกแสบร้อนที่ผิวหนัง

“มันช้า! ฉันจะอ้อมไปจัดการมันเอง!” เคนตะใช้ความเร็วเข้าอ้อมด้านหลังของมัน เขาพยายามแทงมีดเข้าไปที่หลังคอของมัน แต่คมมีดกลับทำได้แค่สร้างรอยขีดข่วนเล็กน้อยบนผิวหนังที่แข็งแกร่งของมัน

“ไม่ได้ผลค่ะเคนตะ! ผิวของมันแข็งเกินไป!” คาซิมิบอก เธอมองหาจุดอ่อนด้วยคาถา ‘นิมิต’

“ตรงข้อต่อ! ลองแทงที่ข้อต่อของมัน!” คาซิมิเห็นจุดเชื่อมต่อของพลังงานที่ไหลเวียนในร่างกายของมัน

เคนตะพยักหน้า เขาพุ่งมีดเข้าแทงที่ข้อต่อเข่าของเกราะดำอย่างรวดเร็ว แคว๊ก!

มันส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวและล้มลง เคนตะพุ่งเข้าไปแทงที่หัวมันทันที! ฉัวะ!

การปะทะครั้งที่ 7: กายสลับ (The Doppelganger)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจเงาที่สามารถลอกเลียนรูปร่างของเหยื่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีขนาดเท่าเคนตะ

ความสามารถ: ลอกเลียนความสามารถของเหยื่อได้ และสร้างภาพลวงตา

“เคนตะ...ระวัง!” คาซิมิร้องเตือนด้วยความสับสน เพราะเบื้องหน้าเธอมี เคนตะสองคน ยืนอยู่!

“ฉันคือเคนตะ! อย่าไว้ใจมันคาซิมิ!” เคนตะตัวจริงตะโกน

“ไม่! ฉันคือเคนตะตัวจริง! อย่าหลงกลคาซิมิ!” เคนตะอีกคนก็ตะโกนเสียงเดียวกัน

คาซิมิพยายามใช้คาถา ‘นิมิต’ เพื่อแยกแยะ แต่ปีศาจตัวนี้ลอกเลียนพลังงานอาคมของเคนตะได้เกือบสมบูรณ์แบบ!

“เธอจะทำยังไงคาซิมิ?” เคนตะตัวจริงถาม

คาซิมิหลับตาลง เธอไม่สามารถเชื่อสิ่งที่เห็นได้ เธอต้องเชื่อในสิ่งที่เธอรู้สึก

“เคนตะตัวจริง...คุณจะไม่มีวันขอให้ฉันเชื่อในสิ่งที่เห็น!” คาซิมิพุ่งเข้ากอดเคนตะตัวจริง!

“คาซิมิ! คุณบ้าไปแล้วหรือ!” เคนตะตัวปลอมตะโกนด้วยความตกใจ

คาซิมิยิ้มทั้งน้ำตา “มีดอาคมอยู่ที่ฉัน! ถ้าคุณเป็นเคนตะตัวจริง...คุณจะไว้ใจให้ฉันทำหน้าที่ของฉัน!” เธอพูดจบ เธอก็เปิดขวดกักเก็บวิญญาณแล้วชี้ไปที่เคนตะตัวปลอม

เคนตะตัวปลอมรู้ตัวว่าถูกจับได้ มันพุ่งเข้ามาหมายจะทำร้ายคาซิมิ แต่เคนตะตัวจริงผลักเธอหลบไป และพุ่งมีดเข้าแทงหัวมัน! ฉัวะ!

การปะทะครั้งที่ 8: ผีดูดกลืน (The Absorber)

ลักษณะ/ขนาด: เงาปีศาจที่มองไม่เห็น มีรูปร่างคล้ายหมอกควันที่ลอยอยู่เหนือพื้นเล็กน้อย

ความสามารถ: สามารถดูดกลืนพลังงานอาคมและความแข็งแกร่งทางกายภาพของเหยื่อได้

ขณะที่พวกเขากำลังเก็บวิญญาณ ผีดูดกลืนก็โจมตี! มันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า และคาถา ‘นิมิต’ ก็แทบจะมองไม่เห็นมันเช่นกัน

“ฉันรู้สึกเหมือนโดนอะไรบางอย่างดูดพลังงาน!” เคนตะร้องออกมา พลังอาคมของเขาลดลงอย่างรวดเร็ว

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ!” คาซิมิรู้สึกอ่อนแรงลงอย่างมากจนแทบจะยืนไม่ไหว

เคนตะรู้ว่าเขาต้องจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด เขาใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ทั้งหมดรวบรวมไว้ที่กำปั้น แล้วชกเข้าไปในอากาศตรงหน้าอย่างแรง! ปัง!

เสียงกรีดร้องเงียบๆ ดังขึ้น ผีดูดกลืนถูกโจมตีด้วยคลื่นพลังอาคมโดยตรง เคนตะไม่รอช้า พุ่งมีดเข้าแทงในจุดที่เขาชกไปเมื่อครู่! ฉัวะ!

การปะทะครั้งที่ 9: อสูรเสียง (The Howler)

ลักษณะ/ขนาด: มีลักษณะเป็นปากขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางอากาศ ขนาดยาวประมาณ 1.5 เมตร

ความสามารถ: ปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงที่สร้างความเสียหายต่อโสตประสาทและระบบประสาทของเหยื่อ

ทันทีที่วิญญาณถูกกักเก็บ อสูรเสียงก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ดังสนั่น!

“อ๊ากกก!” เคนตะและคาซิมิยกมือขึ้นปิดหูด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส คลื่นเสียงนั้นรุนแรงจนทำให้ผนังห้างสั่นสะเทือน

“คาซิมิ! ใช้คาถาปิดกั้นเสียง!” เคนตะพยายามตะโกนฝ่าคลื่นเสียง

คาซิมิทนความเจ็บปวด เธอร่ายคาถาป้องกันเสียงอย่างรวดเร็ว แสงสีฟ้าอ่อนๆ ห่อหุ้มตัวพวกเขาไว้ ทำให้เสียงกรีดร้องเบาลงอย่างมาก

เคนตะฉวยโอกาสที่คลื่นเสียงลดลง เขาพุ่งเข้าหามันโดยไม่ลังเล และแทงมีดเข้าที่กลางปากของมัน! ฉัวะ!

การปะทะครั้งที่ 10: ราชินีเงา (The Shadow Queen)

ลักษณะ/ขนาด: ปีศาจรูปร่างคล้ายผู้หญิงที่สวยงาม แต่มีดวงตาสีแดงฉานและสวมมงกุฎที่ทำจากกระดูก เคลื่อนไหวสง่างาม แต่เปี่ยมไปด้วยพลังอำนาจ

ความสามารถ: ควบคุมเงาทุกตัวที่ปรากฏในพื้นที่ และสร้างภาพลวงตาที่รุนแรงที่สุด

ทั้งคู่มาถึงจุดศูนย์รวมที่คาซิมิเห็นแล้ว และสิ่งที่รอพวกเขาอยู่คือ ราชินีเงา ผู้นำของปีศาจทั้งหมด!

“พวกแกกล้าดียังไงถึงเข้ามาในอาณาเขตของข้า!” ราชินีเงาพูดด้วยเสียงที่เยือกเย็นแต่ทรงพลัง

ทันใดนั้นเอง ภาพลวงตาที่รุนแรงก็ถาโถมเข้าใส่พวกเขา พวกเขาเห็นตัวเองกลับไปอยู่ในบ้านที่แสนอบอุ่นกับครอบครัว พวกเขาถูกหลอกล่อให้ยอมแพ้ต่อความสุขจอมปลอม

“ไม่จริง! นี่ไม่ใช่ของจริงเคนตะ!” คาซิมิกรีดร้อง เธอพยายามใช้พลังอาคมขับไล่ภาพลวงตา

“ฉันรู้คาซิมิ!” เคนตะพูด เขาเห็นพ่อแม่ของเขากำลังเรียกให้เขากลับบ้าน “เราต้องจัดการมัน!”

ราชินีเงายิ้มเยาะ “พวกแกไม่มีทางทำได้หรอก!”

เคนตะและคาซิมิใช้พลังทั้งหมดที่มี พวกเขาพุ่งเข้าใส่ราชินีเงาพร้อมกัน! เคนตะพุ่งมีดเข้าใส่หัวเธอ แต่เธอใช้เงาของตัวเองป้องกันไว้ คาซิมิฉวยโอกาสที่ราชินีเงากำลังป้องกันตัว เธอร่ายคาถาพันธนาการเข้าใส่เธอ!

วิ้ง!

โซ่แสงสีฟ้าอ่อนๆ พันธนาการราชินีเงาไว้ได้ชั่วขณะ!

“ตอนนี้แหละเคนตะ!” คาซิมิใช้แรงเฮือกสุดท้ายในการตะโกน

เคนตะพุ่งมีดอาคมเข้าแทงที่หัวของราชินีเงาอย่างเต็มแรง! ฉัวะ!

ร่างกายที่สวยงามของราชินีเงาแตกสลายเป็นดวงวิญญาณสีดำขนาดใหญ่ที่สุด! คาซิมิเปิดขวดกักเก็บวิญญาณด้วยมือที่สั่นเทา ฟุ่บ! ดวงวิญญาณถูกกักเก็บอย่างสมบูรณ์!

ความมืดมิดในห้างร้างพลันหายไป แสงสว่างจ้าจากภายนอกส่องเข้ามาจากรูโหว่บนกำแพง ความเหน็ดเหนื่อยและความโล่งใจเข้าปะปนกัน พวกเขาสามารถทำสำเร็จ!

เคนตะทรุดตัวลงกับพื้นอย่างหมดแรง คาซิมิรีบเข้าไปประคองเขา

“เรา...เราทำสำเร็จแล้วค่ะเคนตะ” คาซิมิพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโล่งใจและเหนื่อยล้าอย่างที่สุด

เคนตะพยักหน้าเล็กน้อย “ใช่...เราทำได้” เขายิ้มเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองประตูที่แตกหักที่อยู่ไม่ไกลนัก “ตอนนี้...เรามาหาทางออกจากที่นี่กันเถอะ”

หลังจากเผชิญหน้ากับปีศาจทั้งสิบตัวและจัดการราชินีเงาได้สำเร็จ

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status