Share

5/B ห้างร้างต้องคำสาป
5/B ห้างร้างต้องคำสาป
Author: ยัยแม่มดแสนน่ารัก

ไม่ทันตั้งตัว

last update Last Updated: 2025-05-28 00:50:14

แสงไฟจากประตูมิติบิดเบี้ยวอยู่เบื้องหน้า คาซิมิมองมันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความลังเลอย่างเห็นได้ชัด ความมืดที่รออยู่ด้านหลังบานประตูดูดกลืนทุกสิ่งจนน่าขนลุก เคนตะที่ยืนอยู่ข้างกาย สัมผัสได้ถึงความสั่นเทาเล็กน้อยจากมือที่เขากุมไว้ เขากระชับมือคาซิมิมั่นขึ้นเล็กน้อย พยายามส่งผ่านความอบอุ่นและความมั่นใจไปให้เธอ

“ไม่ต้องกลัวนะ มีฉันอยู่ทั้งคน” เคนตะเอ่ยเสียงนุ่มทุ้ม พยายามให้เสียงของเขาหนักแน่นที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อสยบความกังวลในใจของเธอ

คาซิมิเงยหน้าขึ้นมองเขา ดวงตาคู่สวยสะท้อนความกลัวอย่างปิดไม่มิด “เรา...เราจะได้กลับออกมาอีกไหม” เสียงของเธอสั่นเครือเล็กน้อย ราวกับความหวังที่ริบหรี่กำลังจะมอดดับลง

เคนตะยิ้มบาง ๆ พยักหน้าให้กำลังใจ “ได้สิ ฉันสัญญา เราต้องกลับมาแน่นอน” เขาเน้นคำว่า "สัญญา" เพื่อให้เธอเชื่อมั่นในคำพูดของเขา “แต่ตอนนี้เราต้องไปแล้ว”

คาซิมิพยักหน้ารับช้า ๆ ด้วยแววตาที่ยังคงเต็มไปด้วยความกังวล ก่อนที่ทั้งคู่จะรวบรวมความกล้า ก้าวเท้าผ่านมิติอันบิดเบี้ยวเข้าไป

ทันทีที่ก้าวพ้นธรณีประตูมิติ โลกที่คุ้นเคยก็ถูกแทนที่ด้วยบรรยากาศที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ความหนาวเย็นกัดกินไปทั่วบริเวณ กลิ่นอับชื้นและกลิ่นสนิมลอยคละคลุ้งในอากาศ

ทั้งคู่พบว่าตนเองได้มาอยู่กลางห้างร้างขนาดใหญ่ แสงสว่างเดียวที่มีคือแสงไฟจากไฟฉายในมือของเคนตะที่ส่องสว่างนำทางไปตามทางเดินที่เต็มไปด้วยซากปรักหักพังและเงาตะคุ่มของร้านค้าที่ถูกทิ้งร้าง ร้านรวงที่เคยคึกคักบัดนี้เหลือเพียงความว่างเปล่า หน้าต่างกระจกที่เคยเปล่งประกายบัดนี้แตกเป็นเสี่ยง ๆ เศษซากของชั้นวางสินค้าและหุ่นโชว์เสื้อผ้ากระจัดกระจายเกลื่อนพื้น ความมืดมิดกลืนกินทุกสิ่งจนแทบมองไม่เห็นอะไรนอกจากเงารางเลือนของโครงสร้างอาคารเก่าแก่

“ที่นี่มัน...” คาซิมิเอ่ยเสียงแผ่ว ไม่ทันขาดคำ ทันใดนั้น...

วิ้ง!

เสียงนาฬิกาข้อมือของคาซิมิส่งเสียงร้องเตือนดังลั่นอย่างบ้าคลั่ง เข็มนาฬิกาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ชี้ไปยังทิศทางหนึ่งอย่างบ้าคลั่ง สัญญาณเตือนอันตรายก้องอยู่ในความเงียบงันของห้างร้าง

“เคนตะ! มันมาแล้ว!” คาซิมิร้องเตือน พลางชี้ไปยังความมืดเบื้องหน้า

ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ตั้งตัว หรือแม้แต่หันไปมองตามทิศทางที่นาฬิกาชี้... เงาปีศาจ รูปร่างสูงใหญ่สีดำทะมึนราวกับหมอกควันหนาทึบก็พุ่งทะยานออกมาจากมุมมืด พุ่งเข้าใส่ทั้งคู่ราวกับพายุที่บ้าคลั่ง มันไม่มีดวงตา ไม่มีปาก มีเพียงรูปร่างบิดเบี้ยวที่ดูเหมือนจะไร้ตัวตน แต่กลับเต็มไปด้วยเจตจำนงในการทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัว

“ระวัง!” เคนตะตะโกนลั่น พลางผลักคาซิมิให้หลบไปด้านข้าง ตัวเขาเองพุ่งเข้าขวางทางเงาปีศาจทันที

เงาปีศาจพุ่งเข้าปะทะกับเคนตะด้วยความเร็วสูง กรงเล็บที่ไร้รูปร่างของมันฟาดฟันเข้าใส่เขาอย่างดุดัน เคนตะชักมีดอาคมคู่ใจออกมาจากฝักอย่างรวดเร็ว แสงสีเงินวาววับสะท้อนในความมืด เขากระโจนเข้าแลกหมัดกับปีศาจอย่างไม่ลดละ เสียงโลหะปะทะกับบางสิ่งที่มองไม่เห็นดังสนั่นห้างร้าง ทุกการเคลื่อนไหวของเคนตะเฉียบคมและแม่นยำ เขาร่อนไปรอบ ๆ เงาปีศาจ พยายามหาช่องโหว่เพื่อโจมตี แต่เงาปีศาจก็ว่องไวและอันตรายไม่แพ้กัน

“มันแข็งแกร่งกว่าที่คิด!” เคนตะกัดฟันกรอด พลางรับการโจมตีจากเงาปีศาจที่พุ่งเข้าใส่ไม่ยั้ง เขาต้องใช้แรงทั้งหมดที่มีในการปัดป้องและสวนกลับ

นาฬิกาอาคมบนข้อมือของคาซิมิยังคงส่งเสียงร้องเตือนอย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเธอจับจ้องไปที่การต่อสู้เบื้องหน้าด้วยความเป็นห่วง เธอกำขวดกักเก็บวิญญาณในมือแน่น รอนาทีที่เหมาะสม

การต่อสู้ดำเนินไปอย่างดุเดือด เคนตะต่อสู้กับเงายักษ์อยู่พักใหญ่ การโจมตีของเขาดูเหมือนจะสร้างความเสียหายให้กับปีศาจได้บ้าง แต่มันก็ยังคงพุ่งเข้าใส่ไม่หยุดหย่อน เคนตะรู้สึกได้ถึงความเหนื่อยล้าที่เริ่มเกาะกุม ร่างกายของเขากระตุกเล็กน้อยเมื่อเงาปีศาจฟาดกรงเล็บเข้าใส่ไหล่ของเขา เลือดสีแดงฉานซึมผ่านเสื้อผ้า แต่เขาก็ยังคงยืนหยัด

“ฮึ่บ!” เคนตะคำรามลั่น เขารวบรวมแรงทั้งหมดที่เหลืออยู่ พลังอาคมสีเงินเรืองรองขึ้นมาบนใบมีดของเขา เขากระโจนเข้าใส่เงาปีศาจในจังหวะที่มันกำลังจะพุ่งเข้ามาอีกครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาในครั้งนี้รวดเร็วและเด็ดขาดกว่าทุกครั้ง

ฉัวะ!

ปลายมีดสีเงินแทงเข้าที่ หัว ของเงาปีศาจอย่างจัง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังสนั่นห้างร้าง ร่างกายของปีศาจเริ่มสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

เพียงไม่นาน ร่างของเงาปีศาจก็เริ่ม แตกสลาย กลายเป็นละอองควันสีดำที่ปลิวว่อนไปในอากาศ ก่อนที่จะรวมตัวกันเป็น ดวงวิญญาณสีดำทมิฬ ขนาดเล็กที่ลอยเคว้งอยู่กลางอากาศอย่างสั่นเทา

คาซิมิที่เห็นดังนั้นก็ไม่รอช้า เธอเข้าใจถึงบทบาทของตัวเองเป็นอย่างดี หัวใจของเธอเต้นระรัวด้วยความตื่นเต้นและลุ้นระทึก เธอรีบร่ายคาถาที่ร่ำเรียนมาอย่างคล่องแคล่ว เสียงของเธอเปล่งออกมาด้วยพลังที่มั่นคง แม้จะมีความกังวลฉายอยู่ในแววตา

“จงมา! วิญญาณร้าย จงถูกกักขัง!”

พร้อมกับร่ายคาถา เธอ เปิดฝาขวดกักเก็บวิญญาณ ที่ถืออยู่ในมือออกทันที พลังงานบางอย่างพุ่งออกจากปากขวด ราวกับกระแสลมที่มองไม่เห็น ดูดดวงวิญญาณสีดำทมิฬนั้นเข้าไปในขวดอย่างรวดเร็ว

ฟุ่บ!

เมื่อดวงวิญญาณถูกดูดเข้าไปจนหมด ฝาขวดก็ปิดลงเองโดยอัตโนมัติ แสงเรืองรองสีเงินวูบหนึ่งปรากฏขึ้นบนขวด ก่อนที่จะจางหายไป ความเงียบกลับมาปกคลุมห้างร้างอีกครั้ง เหลือเพียงเสียงหอบหายใจของเคนตะ

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

    หลังจากที่เคนตะกำจัดราชันย์แห่งวิญญาณบาปได้สำเร็จ ทั้งคู่ก็ยืนอยู่หน้า ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ สีทองอร่าม มันลอยอยู่เหนือพื้นเบื้องหน้ารอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ผ้ายันต์ผืนนี้ไม่ได้แผ่พลังธาตุที่รุนแรงเหมือนผืนอื่น แต่มันแผ่ ความสงบและความว่างเปล่า ที่น่าขนลุกออกมาเคนตะเดินเข้าไปใกล้ผ้ายันต์อย่างระมัดระวัง เมื่อเขาแตะมัน พลังอาคมจากผ้ายันต์ทั้งสี่ผืน ที่เขาครอบครองอยู่ก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!> เคนตะ: “คาซิมิ...ฉันรู้สึกว่าพลังงานทั้งหมดกำลัง หลอมรวม กัน! มัน...สมบูรณ์แล้ว!”> ทันใดนั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็เรืองแสงจ้าขึ้น แล้ว เสียงทุ้มลึก ก็ดังก้องอยู่ในหัวของพวกเขา!> เสียงปริศนา: “ยินดีต้อนรับ...ผู้แสวงหาพลังแห่งการผนึก...แต่พลังแห่งวิญญาณนี้...ไม่สามารถถูกนำไปได้โดยง่าย”> การปรากฏตัวของผู้พิทักษ์จากรอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ร่างโปร่งใส ก็ปรากฏตัวขึ้น มันดูเหมือนมนุษย์ แต่ร่างกายของมันหมุนวนราวกับ ฝุ่นดาวและแสง ที่ถูกบิดเบือน!ผู้พิทักษ์: มิธรัส (Mithras - The Guardian of Null)ลักษณะ/ขนาด: ร่างโปร่งแสงที่สูงประมาณ 2 เมตร ไม่มีเพศที่ชัดเจน ร่างกายประกอบด้วยแสงที่สั่นไหว มีดวงตาสองดวงท

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุด

    เคนตะและคาซิมิใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงในการปีนขึ้นสู่ชั้นบนสุดของห้างสรรพสินค้า พวกเขาใช้ พลังแห่งลม (ผ้ายันต์ที่ 4) เพื่อเพิ่มความว่องไว และ พลังแห่งเงา (คาซิมิ) เพื่อหลีกเลี่ยงปีศาจที่ลาดตระเวนอยู่ตามทางเมื่อพวกเขามาถึง ห้องควบคุมระบบศูนย์กลาง ที่ชั้นบนสุด พวกเขาก็ต้องหยุดชะงัก ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยคอมพิวเตอร์และเซิร์ฟเวอร์ถูกทำลายจนหมดสิ้น กลางห้องมี รอยแยกมิติสีม่วงเข้ม ที่แผ่พลังงานมหาศาลออกมา!และที่ด้านหน้าของรอยแยกมิตินั้น ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ ก็กำลังเรืองแสงอย่างเจิดจ้า!แต่ก่อนที่พวกเขาจะก้าวเข้าไป กลิ่นอายของพลังปีศาจที่รุนแรงที่สุด ก็พุ่งเข้าใส่พวกเขา!“คาซิมิ! ระวัง!” เคนตะคำรามจากเงามืดและซากปรักหักพัง ปีศาจทั้งหมด 15 ตัว ก็พุ่งเข้าล้อมพวกเขาไว้! พวกมันคือ อสุรกายที่ถูกส่งมาโดยตรงจากมิติปีศาจ เพื่อปกป้องผ้ายันต์แห่งวิญญาณ!การปะทะครั้งใหญ่: การหลอมรวมเพื่อเอาชีวิตรอดเคนตะและคาซิมิอยู่กลางวงล้อม ปีศาจ 15 ตัวที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าล้วนมีความสามารถที่ซับซ้อนและแข็งแกร่งกว่าปีศาจตัวก่อนๆ ที่เคยเจอมา> เคนตะ: “คาซิมิ! ใช้ นิมิต หาจุดอ่อนที่ซับซ้อนที่สุดของพวกมัน!

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การฟื้นตัวด้วยแร่รัตนากาล

    ทันทีที่คาซิมิและเคชิกลับมาถึงที่ซ่อน ป้าซาเอะก็เริ่มพิธีรักษาเคนตะทันที ป้าซาเอะใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของเธอเพื่อหลอมรวมแร่รัตนากาลเข้ากับพลังอาคมฟื้นฟูแสงสีทองอ่อนๆ ห่อหุ้มร่างของเคนตะ บาดแผลไฟไหม้ที่แขนของเขาค่อยๆ สมานตัวลงอย่างรวดเร็ว พลังอาคมที่เคยแห้งเหือดก็กลับมาเติมเต็มอีกครั้งในอัตราที่น่าอัศจรรย์หลังจากผ่านไปเพียงไม่กี่ชั่วโมง เคนตะก็ลืมตาขึ้น เขาขยับแขนขวาได้อย่างคล่องแคล่วและรู้สึกแข็งแกร่งกว่าเดิม> เคนตะ: “ฉันรู้สึกดีกว่าที่เคยเป็นมา...นี่คือพลังของแร่รัตนากาลสินะ”> คาซิมิ: “ใช่ค่ะเคนตะ...คุณต้องขอบคุณเคชิและป้าซาเอะ”> เคนตะมองไปที่คาซิมิที่ใบหน้ายังซีดเซียว และเคชิที่เหนื่อยล้า “ขอบคุณมากจริงๆ ฉันจะไม่ทำให้การเสียสละของพวกคุณสูญเปล่า”คำสั่งสุดท้ายก่อนการเดินทางเมื่อเคนตะฟื้นตัวเต็มที่ ป้าซาเอะก็เรียกเขากับคาซิมิมาพบอีกครั้ง> ป้าซาเอะ: “ตอนนี้เจ้ามีพลังอาคมที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ของตระกูลเจ้าแล้วเคนตะ และหนูคาซิมิ...ก็มีพลังจิตที่ได้รับการพัฒนาจนถึงขีดสุด”> ป้าซาเอะ: “แต่การต่อสู้ที่รอพวกเจ้าอยู่ข้างหน้าคือ การต่อสู้ทางกายภาพที่แท้จริง! ผ้ายันต์แห่งวิญญาณ

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การรักษาที่วิกฤต

    เคนตะและคาซิมิกลับมาถึงที่ซ่อนของผู้รอดชีวิตในสภาพที่ย่ำแย่ คาซิมิอ่อนล้าจากการใช้พลังอาคมคนเดียว ส่วนเคนตะก็ทรุดหนักจากการบาดเจ็บที่แขนขวาและภาวะพลังงานอาคมพร่องป้าซาเอะรีบเข้าตรวจอาการเคนตะทันทีด้วยสีหน้าเคร่งเครียด> ป้าซาเอะ: “บาดแผลไฟไหม้ที่แขนขวาของเคนตะลึกมาก...มันไม่ใช่แค่ไฟธรรมดา แต่เป็นการกัดกินของ พลังงานอาคมร้อน ที่ทำลายแกนพลังงานของเขา”> คาซิมิ: “แล้วเราจะทำยังไงดีคะป้าซาเอะ?”> ป้าซาเอะ: “ข้าสามารถเยียวยาบาดแผลภายนอกได้ แต่การซ่อมแซมแกนพลังงานที่เสียหายนั้น...ต้องใช้ แร่รัตนากาล (Chronos Ore)”> แร่รัตนากาลเป็นแร่ในตำนานที่เชื่อกันว่ามีพลังในการฟื้นฟูอาคมบริสุทธิ์และสามารถเร่งการเติบโตของพลังงานอาคมได้> เคชิ: “แร่รัตนากาล...ผมจำได้! มันเป็นแร่ที่ถูกใช้ตกแต่งใน ห้องจัดแสดงอัญมณี ของห้างสรรพสินค้า! มันอยู่ในกล่องนิรภัยเหล็กกล้าที่อยู่ใต้เคาน์เตอร์!”> ป้าซาเอะ: “ใช่! แต่การจะสกัดแร่นั้นออกมาใช้ได้ ต้องใช้ คาถาหลอมรวมแสง ของข้า...และเราต้องมีแร่นั้นก่อน”> ทุกคนรู้ดีว่าห้องจัดแสดงอัญมณีเป็นพื้นที่เปิดกว้างและอันตรายที่สุดแห่งหนึ่งในห้าง> คาซิมิ: “ฉันจะไปเองค่ะ! ฉันยัง

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   บาดแผลและการล่าถอย

    เคนตะและคาซิมิออกจากห้องเตาหลอมพร้อมกับ ผ้ายันต์แห่งลม ในมือ แม้จะได้รับชัยชนะ แต่เคนตะก็ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการถ่ายโอนพลังป้องกันในช่วงท้ายของการต่อสู้ แขนขวาของเขาถูกไอความร้อนกัดกินจนเป็นรอยไหม้พุพอง และร่างกายของเขาก็อ่อนแรงจากการใช้ธาตุคู่เกินขีดจำกัด“เราต้องกลับไปหาเคชิเดี๋ยวนี้เคนตะ!” คาซิมิกล่าวด้วยความเป็นห่วง เธอพยุงร่างของเคนตะไว้เคนตะกัดฟันแน่น “ฉันไหวคาซิมิ...รีบไปกันเถอะ ก่อนที่ปีศาจตัวอื่นจะได้กลิ่นเลือดของเรา”ทั้งคู่ใช้พลังอาคมที่เหลืออยู่ของคาซิมิสร้าง เกราะพรางตัว (Stealth Cloak) ที่มองไม่เห็นและปราศจากกลิ่น เพื่อพยายามหลบหนีออกจากชั้นใต้ดินที่เต็มไปด้วยอันตราย พวกเขาเดินตามทางที่เคชิเคยให้ไว้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ไกลออกไป แต่ปลอดภัยที่สุดกับดักที่คาดไม่ถึงพวกเขาเดินทางผ่านซอกหลืบของโกดังสินค้าที่มืดมิดและเย็นชื้นอย่างเงียบๆ คาซิมิใช้ ‘นิมิต’ สแกนทุกตารางนิ้วของการเดินทาง เธอรู้ดีว่าในสภาพที่เคนตะบาดเจ็บ พวกเขาไม่สามารถต่อสู้ได้อีกแล้วเมื่อพวกเขามาถึงทางแยกสุดท้ายก่อนจะถึงทางเข้าลับของที่ซ่อน คาซิมิก็หยุดชะงักทันที!“เคนตะ...หยุดค่ะ” เธอสั่งเสียงกระซิบอย่างตื่นตร

  • 5/B ห้างร้างต้องคำสาป   การเข้าสู่แดนเพลิง

    เคนตะและคาซิมิมาถึงหน้าห้องเตาหลอมที่ลึกที่สุดของห้างสรรพสินค้า ประตูเหล็กบานใหญ่ที่ปิดอยู่แผ่รังสี ความร้อนที่แผดเผา ออกมาอย่างรุนแรงเคนตะใช้ผ้ายันต์แห่งดิน (ผืนที่ 1) แตะที่ประตูเหล็ก ครืนนน! พลังแห่งดินทำให้ประตูเหล็กเปิดออกอย่างช้าๆ เผยให้เห็น ห้องโถงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวไฟและไอร้อน * สภาพแวดล้อม: ห้องโถงนี้ดูเหมือนเป็นโรงงานเก่าที่ถูกทิ้งร้าง มีเตาหลอมขนาดมหึมาสามเตาตั้งอยู่กลางห้อง ซึ่งส่งแสงสีส้มแดงออกมาอย่างบ้าคลั่ง อากาศร้อนอบอ้าวและเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นไหม้และกำมะถัน * เป้าหมาย: ผ้ายันต์แห่งลม (ผืนที่ 4) คาดว่าจะถูกซ่อนอยู่ใน แกนควบคุมความดัน ที่อยู่เหนือเตาหลอมกลาง“ความร้อนสูงมากเคนตะ!” คาซิมิกล่าวพลางใช้มือป้องใบหน้าจากความร้อนเคนตะหยิบผ้ายันต์แห่งน้ำ (ผืนที่ 2) ออกมา เขารวบรวมพลังอาคมแล้วร่าย คาถา ‘ม่านไอน้ำเย็น’ อย่างรวดเร็ว ฟู่! ไอน้ำเย็นก่อตัวเป็นม่านบางๆ รอบตัวพวกเขา ทำให้ความร้อนที่เข้ามาบรรเทาลงได้ชั่วคราว“เราต้องเร็วคาซิมิ! ม่านไอน้ำจะอยู่ได้ไม่นานในความร้อนขนาดนี้!”การต้อนรับของอสุรกายแห่งความร้อนทันทีที่พวกเขาเดินเข้ามาในห้องโถง เสียงโหยหวน ก็ดังขึ้นจา

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status