“เลน่า” เสียงเขาเริ่มไม่พอใจที่เธอไม่เข้ามาให้เขาสอดใส่เสียที “ไหนบอกว่าไม่กลัวแล้วไง” นี่เราเคยกลัว...แน่ละถ้าเห็นครั้งแรกก็ต้องกลัวเป็นเรื่องธรรมดา เลน่าขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นถึงมือเขาง่าย
ควับ! “แฉะแล้ว” เมื่อเลน่าขึ้นคร่อมนั่งตัก เขาใช้ปลายนิ้วไล้สัมผัสกลางกลีบฉ่ำแฉะสะกิดกวัดแกว่งติ่งสาว กระตุ้นแรงตอดรัดเพิ่มน้ำให้หลั่งออกมา อาร์สสส พวกเขาเหมือนกันมากคือความชำนาญการใช้นิ้ว...
อู้ยยย อาร์สสสส “เสียว...พี่ ฉัน...เสียว เสียวมาก”
“อย่าเสร็จนะ” เสียงเขาเข้มขึ้น มาวินตอนนี้แตกต่างในยามปกติก่อนนี้ยังรู้สึกว่าเขาเป็นเทพบุตรแต่ทำไมตอนนี้เขาดูแข็งกร้าวร้ายกาจอย่างกับปีศาจเลย “คงเจ็บไม่มาก”
อื้มมม เขาสอดใส่เข้าไปอย่างช้าๆ ทำไมเหมือนว่าร่างกายเธอจะแตกเป็นเสี่ยงๆ “สะ...เสียวจัง”
“อย่างพึ่งตอด...” เสียงเขาแหบพร่า ใบหน้าเขาชุ่มไปด้วยเหงื่อ เส้นเลือดปูดโนนเป็นแนวตั้งแต่ขมับเรื่อยลงมา แม้จะเสียวและไร้ประสบการณ์แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขาเจ็บปวด แต่หาใช่ความทรมานเสียทั้งหมด
“ที่รัก...พี่ไหวมั้ยคะ” เธอลูบใบหน้าเขา เขาจึงผ่อนคลาย
“เลน่าชอบมั้ย” เลน่าพยักหน้า แก้มเธอแดง ตัวเธอก็แดง เธอรู้สึกเจ็บแต่น่าแปลกว่าความเจ็บปวดนี้ทำให้เธอเสียวจนยากจะบรรยายให้ใครเข้าใจ “ใจเต้นแรงเสมอเลย” เขากอบกุมเนินอกข้างซ้ายของเธอและบีบมัน “พี่รู้สึกได้ และชอบมากเลย”
เลน่ายิ้มและก้มมองความใหญ่ที่หายเข้าไปเพียงแค่ครึ่งเดียว สิ่งที่ฝังอยู่ในลำเนื้อของเขามันคืออะไร มันจะใช่สิ่งนั้นจริงๆมั้ย ถ้าใช่มันจะทำให้ผู้หญิงมีความสุขมาก...แต่ทำไมเขาต้องทำถึงขนาดนี้ด้วย
…เพื่อความสุขของเธอเหรอ โอ้ววว เสียงครางของเขาและเธอ เมื่อเขาขยับดันเข้าไปสุดลำ “รู้สึกดีเหมือนเดิมมั้ย” เฮ่อ เฮ่อ “ค่ะ...ไม่ค่ะ ดีกว่ามาก” มาวินยิ้มอย่างพอใจ
“เลน่าตอดพี่แรงไปแล้ว”
“ก็มันเสียว...ซี๊ดดดด...มากจริงๆค่ะ...ดีกว่านิ้ว”
“เอาของพี่ไปเทียบกับนิ้วเหรอ...” เลน่ายิ้มกว้าง สองแขนคล้องกอดคอเขาและเป็นฝ่ายโน้มเข้าหากลีบปากสีชมพูของเขา ปลายลิ้นละเลียที่ริมฝีปากเขาและค่อยแทรกลิ้นผ่านรอยแยกริมฝีปากไปอย่างช้าๆ ลิ้นเจอลิ้น ทั้งสองร่วมกันกวัดแกว่งละเลงใส่กันและกัน สะโพกกลมขยับย่ำยีเขา
อ๊ะ อ๊ะ อาร์สสส เสียงครางก้องกังวาลดังก้อง สำหรับเลน่าประสบการณ์แบบนี้เธอไม่เคยเป็นมาก่อน เธอกรีดร้องด้วยความบ้าคลั่ง สะโพกยังคงขยับ...
โอ้ววว เสียงครางทุ่มต่ำ ก้องสะท้อนไปกับท่วงจังหวะย่ำยีที่บ้าคลั่งของเลน่า ยิ่งเธอรุนแรงมากแค่ไหนเขาก็ยิ่งทั้งเสียว ทั้งมันส์ ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่ลองของเขาแล้วจะไม่ละทิ้งความเขินอาย พวกเธอจะหลงลืมตัวตนความเป็นตัวเองกลายเป็นปีศาจสาวกระหายเซ็กส์ กรณีนี้แม้แต่เลน่าก็ไม่ได้รับการยกเว้น ซี๊ดดดด ปั่บปั่บ น้ำเสียวไหลเยิ้มออกมามากมาย แน่นอนว่ามันเป็นของเลน่า น้ำเธอเยอะมาก ยิ่งเสียวมากก็จะหลั่งเยอะมาก
พั่บพั่บ อ๊ะอ๊ะ เธอเร่งจังหวะเร็วขึ้น เธอใกล้แล้ว เขาเองก็เช่นกัน อาร์สสสส กรี๊ดดดดด เลน่ากรีดร้องออกมา ควับ! เธอแอ่นสะโพกเบียดกลืนกินเขาขยี้ตอดเขาแน่น “อย่าพึ่งปล่อย” เขาบอกให้เธอตอดเขารีดน้ำในตัวเขาต่อไป อ้าร์ ซี๊ดดดด มาวินพ่นน้ำรักพวยพุ่งใส่เต็มช่องท้องน้อยอัดแน่นในตัวเธอ “ถ้าดึงออก น้ำจะไหลออกมาไม่น้อย” เขาพูดเสียบปนหอบ เลน่าไม่ได้เอ่ยอะไรต่อ เพราะเธอเหนื่อยจนร่างกายเต็มไปด้วยเหงื่อ เฮ่อ เฮ่อ ร่างกายเธอเหมือนคนที่ขาดอากาศหายใจไปชั่วขณะ
“เราคงต้องคาไว้แบบนี้สักพัก...ได้เวลาแข่งแล้ว” เลน่าซบใบหน้าซุกซอกคอเขาและผล็อยหลับไปในทันที จุดเชื่อมประสานยังแนบแน่นเหมือนเดิม ควับ! มาวินหมุนเก้าอี้มายังแป้นคีย์บอร์ดและหน้าจอปุ่มต่างๆ ใบหน้าเปลี่ยนไปเป็นมุ่งมั่นสมาธิจดจ่อที่หน้าจอตรงหน้า สองแขนกางออกอ้อมร่างที่อ้อมอก ไปเตรียมพร้อมบนแป้นคีย์บอร์ด
“ลีโอ” เขากดปุ่มสีแดงและเอ่ยเรียก
“ชัดเจน” ลีโอตอบกลับมา
“ดี”
“เลน่า เลน่าที่รัก”
“เธอหลับไปแล้ว”
“หลับไปแล้ว...เฮ้! นี่นายรุนแรงใส่เธอใช่มั้ย” หึ!
“พูดใหม่ให้ถูก ฉันต่างหากที่ถูกเธอทำรุนแรง”
“ว้าววว!! เลน่ายามเร้าร้อนน่ารักที่สุด เสียดาวที่ไม่เห็นแบบพื้นที่จำกัด เธอจะน่ารักน่าหลงใหลมากแค่ไหน อยากเห็นอยากเห็น...”
“หยุดไร้สาระได้แล้ว ตั้งใจแข่ง”
“บันทึกชัยชนะของฉันไว้ แล้วพวกเราจะดูพร้อมกันอีกครั้ง” อืม มาวินขานรับสั้นๆ แม้จะมีร่างอ้อนแอ้นถูกเขาชอนไชเสียบคาไว้ มาวินก็ไม่ได้เสียสามาธิกับการแข่งของลีโอ
โค้งหน้าปรับองศาพวงมาลัยมาสี่สิบเจ็ดไม่ต้องลดความเร็วในตอนแรก พื้นถนนตรงนั้นพึ่งปรับปรุงความหนืดสูง โอเค ลีโอตอบรับสั้นๆ
ตอนนี้คู่แข่งตามนายอยู่สี่สิบวินาทีแล้ว...ช่วงโค้งนายทำเวลาได้ดีมาก คู่แข่งตามหลังเป็นห้าสิบสองวินาที รักษาความเร็ว รอบที่สองรักษาระดับไว้ ต้องห่างกันถึงนาทีได้แน่...เตรียมรับชัยชนะได้เลยสำหรับยกแรก เข้าใจแล้ว ลีโอตอบรับด้วยความยินดี
“ถ้าฉันไม่มีนาย ชัยชนะของฉันก็แค่ชัยชนะ คงไม่มีความสวยงามสมบูรณ์แบบถึงเพียงนี้” อืม ฮ่าฮ่า มาวินขานรับสั้นๆไม่ถ่อมตัวเลย ลีโอจึงหัวเราะเสียงใส
แต่เดิมลีโอสนแต่ชัยชนะ แต่ตั้งแต่ที่มาวินเข้ามาในชีวิตเขา มาวินผู้มีแบบแผน เขาสามารถบอกได้เลยว่าลีโอจะชนะหรือไม่ วิธีการของพวกเขาไม่ใช่การโกง แต่เป็นการสอดแนมคู่แข่ง และประเมินสิ่งแวดล้อมตัวแปรภายนอกทั้งหมด เคยมีเหมือนกันว่ามาวินเคยเตือนว่าโอกาสชนะเป็นแค่ศูนย์จุดเก้าเปอร์เซ็นต์ และการแข่งครั้งนั้นก็ทำลีโอเลือดตาแทบกระเด็นแต่ในที่สุดเขาก็คว้าชัยชนะมาได้ เพื่อรักษาระดับของตัวเองไว้
“เลน่าโอเคมั้ย” จู่ๆเสียงหัวเราะสดใสของลีโอก็เปลี่ยนเป็นเสียงเคร่งขรึม
“นายก็สังเกตุเห็นด้วยเหรอ” อืม ลีโอขานรับ เข้ารอบที่สองแล้วระวังดัวย มาวินเตือนแทรกบทสนทนาหลัก “เป็นไปได้มั้ยว่าเลือดเธอ...”
“ก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้”
“ให้ยาเธอเร็วขึ้นได้มั้ย”
“บำรุงร่างกายฮูหยินสามให้ดีๆ หลังจากนี้ฮูหยินต้องดื่มยาต้มนี้เป็นประจำ คงจะสามารถให้นางยังคงอยู่ต่อไปได้สักอย่างน้อยครึ่งปีหรือถ้าโชคดีก็อาจจะถึงหนึ่งปีขอรับ” หมอเอ่ยกับนายท่านจางและฮูหยินจาง ก่อนจะขอตัวจากไป“เขียนจดหมายส่งไปให้เหวินฉู่ เขาควรได้รู้เรื่องนี้และรีบรุดกลับมาให้เฉียวเฉี่ยวได้เห็นหน้าเป็นครั้งสุดท้าย” ฮูหยินจางพยักหน้าพร้อมซับน้ำตา ในวันนี้มีทั้งเรื่องยินดีและเรื่องไม่นายินดี นางได้หลานเพิ่มมาอีกสองคนแต่กำลังจะเสียสะใภ้เล็กไปแม้จะรู้ว่าการเสียสะใภ้ไปหนึ่งคนในสังคมนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร บุตรชายนางยังหนุ่มแน่นสามารถแต่งสะใภ้คนใหม่เข้าจวนได้ก็ตาม แต่สิบเดือนมานี้ เฉียวเฉี่ยวจัดว่าเป็นสะใภ้ที่ดีและน่ารักคนหนึ่ง แถมยังเป็นแม่ที่มีหัวอกความเป็นแม่เต็มเปี่ยมแม้การเลือกชีวิตครั้งนี้เฉียวเฉี่ยวจะไม่มีสิทธิ์ตัดสินใจยามเวลาความเป็นความตายว่าจะรักษาใครไว้ นายท่านจางกลับเลือกหลานๆ ทั้งสองไว้ทางด้านเหวินฉู่กับซิงซิง ทันทีที่ทั้งสองเดินทางออกพ้นประตูเมือง เหวินฉู่ก็ดึงร่างบางขึ้นสู่หลังม้าเขาควบม้าห่างประตูเมืองและกำแพงเมืองไปอย
“ฮูหยินน้อยสามอย่าโมโหนะเจ้าค่ะ ไม่ดีต่อครรภ์” ดั่งเป็นระฆังเตือนสติ ตอนนี้นางตั้งครรภ์ ทายาทของเขา ให้เขาต้องจากไปอย่างไรเขาก็ต้องกลับมา ไม่กลับมาหานางก็ต้องกลับมาหาทายาทของเขา ซึ่งเรื่องนี้เฉียวเฉี่ยวประเมิน เหวินฉู่สูงเกินไปเฉียวเฉี่ยวตัดสินใจไปหาเหวินฉู่ในที่สุด ตลอดเดือนมานี้นางอยู่อย่างสงบ วันๆ นางแถบไม่เห็นเขาเลย จะได้เจอกันอีกทีก็ยามหัวค่ำที่เขาต้องการสมสู่กับนาง ต้องการหรือเปล่าตอนนี้นางไม่เชื่อมั่นในตัวเองเสียแล้ว มีตรงไหนบ้างที่นางไม่ดีกับเขา นางตามใจเขาทุกอย่าง มีอยู่ครั้งหนึ่งที่นางเผลอตื่นมาตอนกลางดึก ทำให้นางรู้ว่าเขาไม่เคยนอนอยู่ข้างกายนางเลย เขาไปนอนที่ไหนกันซึ่งเรื่องนี้นางก็ไม่กล้าจะเอ่ยถามเขา แสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องไม่รู้ราวมาโดยตลอด เขาหลงใหลสาวใช้ห้องข้างของเขามากเลยเหรอไร
นางเปลี่ยนจากตื่นสายมาตื่นตอนเช้าทำงานเยี่ยงบ่าวทั้งงานหนักงานเบาไม่ปริปากบ่นสักคำ ยามกลางดึกสงัดเหวินฉู่เมื่อบำเรอดูแลฮูหยินน้อยเสร็จสมหลับใหลไปแล้ว เขาก็จะใช้ประตูเชื่อมเข้ามาในห้องสาวใช้ห้องข้างซิงซิง ก็แสนทรหด นางไม่ขัดขืนต่อความต้องการชายหนุ่มเลยสักนิด เขาต้องการให้นางทำอะไรนางก็กระทำให้อย่างไม่มีข้อแม้ซี๊ดดดด เหวินฉู่ ครางกระเซ่าเมื่อช่วงล่างของเขากำลังถูกซิงซิงใช้ปากดูดเคล้น เสียงจ๊วบจ๊าบ เนื่องจากคืนนี้ซิงซิงมีฤดู เหวินฉู่จึงไม่อาจทำอะไรนางได้ แต่เขาก็ยังต้องการใกล้ชิดนางมากกว่าแค่นอนกอดในแต่ละคืนสภาพสถานการณ์ในเรือนฉู่เป็นแบบนี้คืนแล้วคืนเล่า แม้เหวินฉู่จะไม่พอใจที่ซิงซิง ต้องทำงานหนักเยี่ยงบ่าวในตอนกลางวัน แต่ทว่าซิงซิงช่างดื้อนัก เขาสั่งห้ามนางก็ไม่ยอมฟัง เขาจึงจำใจต้องยินยอม แต่ก็เก็บความรู้สึกเคลือบแคลงไว้เช่นกันเฉียวเฉี่ยว ที่เคยรู้มาก่อนหน้านี้ว่าเหวินฉู่มีสาวใช้ห้องข้าง ซึ่งนางพยายามให้บ่าวสาวทั้งสองที่ติดตามนางมาไปสืบว่าเป็นผู้ใดบ่าวสาวทั้งสองทั้งๆ ที่รู้ว่าผู้นั้นคือใคร แต่พวกนางกลับให้คำตอบไปว่า “พวกบ่าวยังสืบหาไม่ได้เ
“ท่านต้องการอะไร!!” ซิงซิงใช้แรงกายอันน้อยนิดขัดขืนเขา ทั้งปัดมือเขาออกจากการลูบไล้ที่หยาบกระด้าง“ลองเดาดูสิ” ริมฝีปากทั้งสองบดเบียดกันอย่างบ้าคลั่ง ความรุนแรงที่เหวินฉู่กระทำกับซิงซิง สร้างความเจ็บปวดกายทรมานใจให้กับซิงซิงเป็นอย่างมากริมฝีปากทรมานนางยังไม่พอ ฝ่ามือกำยำยังกระทำชำเราเรือนกายอันบอบบางไม่หยุดหย่อน เขากระชากชุดสาวใช้ประจำเรือนจนขาดไม่เป็นชิ้นดี ซิงซิงก่นด่าเขาไม่หยุดเมื่อปากนางได้รับอิสระ แต่เพราะเสียงที่ไม่เป็นมงคลเหวินฉู่ไม่ชอบฟังเขากำจัดเสียงนั้นด้วยการอุดปากนางด้วยปากและลิ้นของเขาในทันทีเฮ่อเฮ่อ ลมหายใจหอบกระชั้นของทั้งสองเมื่อสายตาเว้นระยะห่างให้ช่องอากาศได้ผ่าน ดวงตาชายหนุ่มกวาดมองไปทั่วร่างบางใต้แสงสลัว เมื่อครู่เขาคงรุนแรงกับนางจริงๆ สินะ หลายๆ ตำแหน่งตามร่างกายนางมีรอยถลอกที่เกิดจากการเสียดสีของชิ้นผ้าที่เขากระชากออกไปอย่างบ้าคลั่งฝ่ามือหยาบกระด้างไล้สัมผัสผิวเนียนตั้งแต่แก้มไล่มาถึงลำคอเรียวเล็ก มีส่วนไหนของนางที่เขาไม่เคยแตะต้องอีกเหรอ แน่นอนย่อมไม่มีเขาสัมผัสแล้วทุกตารางนิ้วแต่เท่าไหร่ก็ไม
“ฮูหยินน้อยสามยินดีด้วยเจ้าค่ะ” พวกนางทำความเคารพและกล่าวยินดีอย่างพร้อมเพรียงได้น่าดูชมนักเสียงฉอเลาะประจบประแจงกล่าวชื่นชมยินดีหัวเราะต่อกระซิกระหว่างนายสาวกับบ่าวทั้งสองแน่นอนว่าต้องดังไปถึงห้องข้างที่มีสาวใช้ผู้ที่ถูกเก็บไว้อย่างช่วยไม่ได้นอกจากดวงตาที่แดงก่ำเพราะน้ำตาที่คลอหน่วยตาแล้ว เสียงสะอื้นสักนิดก็ไม่มีเล็ดรอดออกมาให้แม้แต่ตัวเองจะได้ยิน“คุณชายสาม” บ่าวสาวทั้งสองทำความเคารพต่อเหวินฉู่ที่กลับเข้าห้องหอมาในที่สุด บนชุดเจ้าบ่าวคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นสุรา เหวินฉู่ที่อยู่ในค่ายทหารมาถึงสี่ปี แม้จะดื่มหนักมาแค่ไหนเขาก็ไม่มีอาการเมามายเลยสักนิด จะมีเพียงสีหน้าและดวงตาที่แดงก่ำเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เท่านั้นพรึ่บ! ชายหนุ่มไม่รั้งรอให้เสียเวลาเขากระชากชุดเจ้าบ่าวสีแดงออกจากเรือนกายไปในทันที เฉียวเฉี่ยวมองชายหนุ่มด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง แก้มเนียนสาวแดงปลั่ง เมื่อได้เห็นรูปร่างเปลือยของสามีของตนจนเต็มตาไร้อาภรณ์เป็นครั้งแรก แม้ก่อนนี้นางจะได้เข้าถึงจุดลี้ลับของชายหนุ่มมาแล้วเมื่อดวงตาไล่ลงไปตามท่อนขาด้านในที่ขาวเนียน เขาช่างมีผิว
ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นตอนที่นางยังเป็นหวานหว่าน ตอนนั้นนางจะรู้สึกอย่างไรกัน คงไม่เสียใจใช่หรือไม่ เพราะหวานหว่านถูกอบรมสั่งสอนมาแล้วว่า ต่อไปนางต้องปรนนิบัติดูแลฮูหยินน้อยสาม เพราะนั่นก็เป็นหน้าที่ของสาวใช้ห้องข้างด้วย แบ่งเบาภาระฮูหยินในการดูแลคุณชายสามแต่ทว่าตอนนี้นางคือซิงซิง ซิงซิงคือหญิงสาวที่ไม่จำเป็นต้องแบกรับตำแหน่งสาวใช้ห้องข้าง แต่นางต้องแบกรับความรู้สึกที่กำลังจะสูญเสียชายผู้เป็นที่รักซิงซิง นางยอมรับกับตัวเองอยู่เงียบๆ ว่า นางเจ็บปวดกับข่าวนี้ หัวใจของนางแตกสลายแล้วจริงๆ ก่อนนี้มันเป็นเพียงรอยร้าวที่ทั้งชีวิตนี้ไม่อาจประสานกลับมาเหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ทว่าตอนนี้รอยร้าวนั้นได้ปริแตกทำหัวใจนางสลายแล้วจริงๆ“อาฉู่” ซิงซิงพยายามเก็บความรู้สึกที่หัวใจแตกสลายไว้ “ปล่อยข้าไปเถอะ ตอนนี้ข้าไม่เหลืออะไรอีกแล้วนอกจากชีวิตของข้า”“ซิงซิง เจ้ายังมีข้า นับจากนี้ข้าจะดูแลเจ้าไปตลอดชีวิตข้า ข้ารักเจ้า เจ้าคือผู้ที่ข้ารัก”ฮาฮา ในตอนนั้นที่นางได้ยินคำรักของผู้ชายคนนี้ นางทำได้เพียงหัวเราะทั้งน้ำตา ความรักของเขาที่มีต่อ