บทที่ 7 มาเปลี่ยนบ้านหลังน้อยให้ดูอบอุ่น Cozy cozy กันเถอะ.
หยางชิงโม่ทิ้งเจ้าเสี่ยวเฮยเอาไว้กับเด็กๆ เธอลุกเก็บถ้วย จาน แก้วไปล้างที่ด้านหลังบ้าน..และได้เวลาสำรวจบ้านช่องกันแล้ว...เธอหันมองไปรอบตัวของเธออย่างช้า ๆ บ้านอิฐคับแคบและมืดมน เตียงไม้เก่า ๆ ตู้เก็บของที่อับชื้น มีโต๊ะกลมเล็ก ๆ ที่สีถลอก และเก้าอี้โทรม ๆ สาม สี่ตัวตรงมุมห้อง แต่สิ่งที่เตะตาเธอที่สุดคือปฏิทินติดผนัง
เมื่อเข้าไปมองใกล้ ๆ เธอก็รู้ว่าตอนนี้เป็นกลางเดือน 7 ปี 1978 ใกล้จะเข้าหน้าหนาวเข้าไปทุกทีแล้ว อากาศเริ่มลดมา เธอต้องเตรียมความพร้อมให้กับลูกๆ ของเธอก่อน สภาพของบ้านเธอแบบนี้หน้าหนาวจะต้องทรมานมากแน่ๆ เธออยากทำบ้านใหม่ให้ทันหน้าหนาวที่จะมาถึงในอีกไม่ถึง 2 เดือนนี้ แต่กลัวว่าการสร้างบ้านต้องใช้เวลานานกว่านั้น ดังนั้นในตอนนี้ที่ทำได้น่าจะแค่ซ่อมแซมหลังคาและตัวให้แน่นหนาก่อนและดูว่าถ้าเธอจะให้ทำเตาผิงในโถงบ้านจะทำได้หรือไม่ อย่างน้อยถ้าในบ้านมีเตาผิงพวกเธอ 4 แม่ลูกยังมานอนในห้องโถงได้ถ้าอากาศหนาวจัด
หยายชิงโม่เดินดูรอบ ๆ บ้านว่าจะต้องซ่อมแซมอะไรบ้าง หลังจากหมดหน้าหนาวค่อยหาทางสร้างบ้านใหม่หรือขยับขยายออกไป.เมื่อเดินดูพื้นที่รอบๆ บ้านเสร็จเธอจึงเดินเข้ามาในบ้าน.....สิ่งที่เธอเห็น คือกองๆหนึ่งที่นอนอยู่บนเตียงเตาหลังเล็กของเธอคือ 3 เด็ก 1 แมว นอนหลับกันไปคนละทิศละทางกันเลยทีเดียว
มือเจ้าเล็กจับหางของเจ้าเสี่ยวเฮย ส่วนขาก็ก่ายหน้าท้องของเจ้าใหญ่ ส่วนเจ้ารอง นอนขดอยู่ที่ปลายเท้าของเจ้าเล็ก....หยางชิงโม่มองดูเด็กๆ แล้วถอนหายใจ เดินเข้ามาในห้อง เธอหยิบผ้าห่มออกมาจากมิติ 3 ผืนคลุมให้แต่ละคน ลูกๆ ของเธอคงจะกลัวมากตอนที่เธอยังไม่เข้าร่างนี้ เมื่อตอนนี้เธอกลับมาแล้วเด็กๆ คงรู้สึกปลอดภัยและหลับไปอย่างง่ายดายเช่นนี้..
“เสี่ยวเฮย..”
เธอเรียกเจ้าเสี่ยวเฮย มันหรี่ตามองเธอเล็กน้อย
“ความจริงที่ฉันต้องย้อนเวลามาอยู่ที่นี้เป็นเพราะแก่ใช่ไหม ? ไม่อย่างนั้นทำไมแก่ถึงได้ย้อนเวลาตามมาได้ละ และดูเหมือนแกจะไม่ได้ตื่นเต้นตกใจอะไรเลยนะที่ได้มาที่นี่”
เสี่ยวเฮยมองเธอเล็กน้อยแล้วเลียเท้าของมัน 3-4 ครั้ง มันลุกขึ้นขยับหมุนตัว 2-3 ครั้งแล้วล้มตัวลงนอนบนพุงของเจ้าเล็กแล้วหลับตา ไม่สนใจเธออีกต่อไป..
“….” หยางชิงโม..
เธอถอนหายใจแล้วเดินสำรวจภายในบ้านอีกครั้ง
ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์ใดๆ ก็เก่าเกือบจะผุพังหมดแล้วถึงหยางชิงโม่คนเก่าจะรักสะอาดและทำความสะอาดมันตลอด แต่สภาพของมันไม่น่าใช้เลยจริงๆ แต่จะให้เปลี่ยนทุกอย่างภายในคืนเดียวลูกๆ ของเธออาจจะสงสัยเอาได้ ดังนั้นเธอจึงเริ่มนำของเล็กๆ น้อยๆ ออกมาจัดวางก่อน หลังจากนั้นเธอจะจัดห้องโถงให้น่าอยู่ Cozy Cozy สำหรับหน้าหนาวที่จะมาถึง...
แต่ว่าโซฟาตัวยาวหนานุ่มต้องมานะ ไม่อย่างนั้นเวลานั่งเวลานอนใกล้เตาผิงมันจะไม่สบายพอ ไหนจะหมอนใบใหญ่หนานุ่มอีกที่ต้องเอาออกมาพร้อมกัน ปูพรมหน่อยดีกว่าพื้นจะได้ไม่เย็นมาก เด็กๆจะได้นั่งนอนเล็กบนพื้นได้ เอาโต๊ะญี่ปุ่นตัวเตี้ยออกมาด้วยดีกว่าจะได้มีที่วางแก้วกาแฟ และให้เด็กวางแก้วนม ตรงมุมเอาเบาะเจ้าเสี่ยวเฮยมาวางด้วยดีกว่ามันจะได้เฝ้าเด็กๆ ได้ด้วย ส่วนเตาผิงเดี๋ยวเธอจะทำให้มันใหญ่กว่านี้จะได้ใส่ถ่านใส่ไม้ได้เยอะห้องจะได้อุ่นมากขึ้น
เมื่อจัดการนำทุกอย่างออกมาหยางชิงโม่ถึงกับกุมศีรษะ เพราะว่าของที่เธอนำออกมานั้นมันแบบจัดเต็มมาก ไม่ได้ค่อยๆ เอาออกมาที่ละน้อยอย่างที่ตั้งใจเอาไว้แต่แรกเลย แต่ว่าช่างมันเถอะหากเด็กๆ ถามเธอก็จะนิ่งไม่ตอบ ใครจะทำไมจริงไหม!!!!
ในเมื่อเอาของออกมาแล้วก็เอาออกมาเลยก็แล้วกันจากนั้นก็เอาของแต่งบ้านบางชิ้นที่ไม่สะดุดตามากออกมาไหนจะตู้ชั้นหนังสือหยางชิงโม่นำของตกแต่งออกมาหลายอย่างและค่อยๆ จัดวางเอาไว้ ก็นะ..ไหนๆ เธอก็เป็นเจ้าของบ้านหลังนี้แล้วเธอก็ต้องทำให้มันดูดีและน่าอยู่สิ…..
***ขนของมาเยอะก็ต้องนำมาใช้สิ.****
บทส่งท้าย ส่งต่อแหวนมิติ2 วันต่อมาคู่สามีภรรยาหลังจากที่พากันไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงขับรถไปที่บริเวณที่เป็นเรือนสี่ประสานที่พวกเขาเคยอยู่ตั้งแต่ในยุค 70 เมื่อขับรถผ่านและจอดมอง พวกเขาเห็นเรือนสี่ประสานที่ยังคงงดงามและมีมนต์เสน่ห์เช่นเดิม นั้นสามารถบอกได้ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขานั้นดูแลเรือนหลังนี้เอาไว้อย่างดี พวกเขาจอดรถและเฝ้ามองอยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้าไม่นานก็เห็นรถโรลส-รอยซ์สีขาวคันใหญ่ค่อยๆ ขับออกมาขณะที่รถคันนั้นกำลังจะขับผ่านพวกเขาไป รถโรลส-รอยซ์คันนั้นก็หยุดกะทันหันเพียงไม่นานประตูก็เปิดออก คนที่ออกมาจากประตูรถเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งกายเหมือนชุดอนุบาลเรียบร้อย เธอเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านทันที ประตูเรือนสี่ประสานยังไม่ทันได้ปิดก็มีร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งรีบวิ่งมาในมือของเขานั้นมีกล่องเล็กอยู่ 2 สอง ดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องข้าว เขายื่นกล่องข้าวใบเล็กนั้นให้กับเจ้าเด็กน้อยจากนั้นก็เดินจูงเธอมาและเปิดประตูรถให้เธอเมื่อเสร็จก็ยกมือขึ้นบ๊ายบาย 2-3 ครั้งก่อนจะปิดประตู และยืนมองจนกระทั่งรถคนนั้นหายไปจากสายตา เขากำลังจะกลับเข้าไปที่บ้านแต่เหมือนว่าเขา
บทที่ 103 จากฮีโร่สู้ผู้ร้ายเช้าวันต่อต่อมาเกิดข่าวใหญ่ที่สะเทือนเมืองหลวงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยวนเปียวน้องของภรรยารองของท่านผู้นำ จากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาคือฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือท่านผู้นำจนตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการเป็นตายเท่ากัน มาวันนี้อาการของเขากลับมาดีขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย และที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมนั้นก็คือ เขาขอให้ทางหมอและพยาบาลช่วยอัดคลิปให้ ตอนแรกพวกหมอและพยาบาลนึกว่าเขาจะอัดคลิปเพื่อบอกให้คนที่เป็นห่วงเขาไม่ต้องห่วงเขาสบายดี แต่ที่ไหนได้คลิปที่เขาอัดกลับกลายเป็นการสารภาพความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำมา รวมทั้งการวางแผนกับพี่สาวของตัวเองซึ่งก็คือภรรยารองของท่านผู้นำเพื่อที่จะสังหารเขานั้นเอง และยังได้บอกอีกว่าพวกเขาคือ ผู้ร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนานแล้ว และรอเพียงเวลาที่จะลงมือสังหารท่านผู้นำนั้นเองเมื่อคลิปการสารภาพของเขากระจายออกไป ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ขึ้นในสังคมทันที เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบเข้าเพื่ออารักขาท่านผู้นำและพวกเขาได้รวบตัวของภรรยารองของท่านผู้นำเอาไว้เพื่อสอบสวนต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะปฎิเสธทุกข้อหาที่น้องชายของเธอพูดก็ตาม ตอ
บทที่ 102ความทรงจำที่หวนคืนเมื่อหยางชิงโม่ออกจากห้องของเฉินหวังตงได้ เธอก็รีบยกหูโทรหาน้องสาวจางหมี่ของเธอทันที“พี่หมอให้หยดน้ำทิพย์ไปเขากินหรือคะ” จางหมี่เอ่ยถามมาตามสาย“ใช่แล้วน้องหมี่ พี่ก็เลยจะถามน้องว่าน้ำทิพย์จะมีผลต่อความทรงจำของเขาหรือไม่นะสิ”หยางชิงโม่เอ่ยออกมาเธอออกจะเป็นกังวลเล็กน้อย“มีผลค่ะ นั้นคือหากว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ เขาก็จะกลับมาจำได้อย่างแน่นอน แต่หากว่าเขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่แล้ว น้ำทิพย์ก็เพียงจะทำให้เขาเฉลียวฉลาดมากขึ้นเท่านั้นเอง”จางหมี่บอกคุณสมบัติของน้ำทิพย์สวรรค์ของเธอให้กับพี่หมอหยางชิงโม่ไป ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำทิพย์เพื่อกระตุ้นความทรงจำเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะจำเธอได้แล้ว แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาดีๆ ในชีวิตไป จางหมี่คิด“เช่นนั้นแสดงว่าหากเขาเป็นเฉินหวังตงของพี่จริงๆ เขาก็จะจำพี่ได้แล้วใช่หรือไม่?"หยางชิงโม่ยังต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วค่ะ เขาจะจำพี่ได้แน่นอน ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับพี่หมอแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ฉันก็อยากจะบอกพี่หมอเหมือนกันว่า คู่ชีวิตที่ดีนั้นหาไม่ได้ง่ายน
บทที่ 101 เป็นแฟนกันเถอะนะครับหยางชิงโม่ที่อยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ยืนมองดูร่างของคนไข้ที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเพื่อพยุงชีวิตเขาเต็มไปหมด หมอที่มาตรวจดูอาการของเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการงวยงง กันมาก เพราะว่าแผลของเขาที่รับนั้นมันเล็กมาก ไม่ถึง10 เซนติเมตรด้วยซ้ำแต่ว่าอาการของเขานั้นมีหลายครั้งที่ถึงกลับมีอาการหัวใจล้มเหลว พวกเขาต่างพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตของคนไข้รายสำคัญคนนี้ของท่านผู้นำเอาไว้ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับข่าวสารเรื่องการที่เขาเป็นผู้ช่วยเหลือท่านผู้นำเอาไว้จากผู้ร้ายหยางชิงโม่นั้นก่อนที่จะมาที่นี่เธอได้โทรหาน้องสาวจางหมี่แล้ว โดยถามว่ายาที่เธอให้มานั้นจะเกิดอาการอย่างไรกับคนที่โดนซึ่งจางหมี่ก็ได้บอกรายละเอียดมาจนครบและเด็กสาวคนนั้นยังบอกอีกว่าหากจะรักษาให้หายเพียงให้หยดน้ำทิพย์เข้าปากเพียง1หยดเท่านั้นเอง และหากว่าอยากจะให้คนร้ายสารภาพและซัดทอดไปถึงผู้บงการจำเป็นต้องมียาอีกตัวที่จะทำให้ประสาทของคนไข้หลอนและสารภาพออกมาเอง โดยการที่เขาจะสารภาพนั้นอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วันหลังจากที่เขาอาการดีขึ้น โดยที่พวกเธอไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนว่าตอนนี้ยาเม็ดนั้นอยู่ในมือของเ
บทที่ 100 ข่าวเด่นประเด็นร้อนเมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุมตัวของคนร้ายและรถพยาบาลได้นำตัวของหยวนเปียวผู้ที่ได้เข้ามาช่วยท่านผู้นำไปส่งโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย ท่านผู้นำเดินมาหาหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่และมือของเธอข้างหนึ่งก็ถูกเฉินหวังตรงจับเอาไว้แน่น“ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่การมาทานอาหารครั้งนี้ทำให้คุณหมอตกอกตกใจขนาดนี้ ไม่นึกจริงๆ การรักษาความปลอดภัยของผมจะหละหลวมขนาดนี้ ผมคงต้องกลับไปจัดการใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ” ท่านผู้นำกล่าวขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยางชิงโม่พูดขึ้นมา“คุณหมอหยางคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาและร่างของเธอก็ถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง และมือที่ถูกเฉินหวังตงจับเอาไว้แน่นนั้นก็ถูกดึงออก จากมือใหญ่แข็งแรงและมีมือเล็กขาวนวลนั้นก็มาจับเอาไว้แทนเฉินหวังตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจ้าบ้าหรูอี้มาแย่ง ‘แฟน’ ของเขาไปและมันยังพัฒนาถึงขั้นกอด ‘แฟน’ ของเขาอีกหยางชิงโม่ที่ถูกกอดจากด้านหลังก็ตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบมือของจ้าวหรูอี้แล้วปล
บทที่ 99 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 2 เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ หยางชิงโม่และท่านผู้นำและไม้ประดับคู่นั้นก็เริ่มทานอาหาร บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่านผู้นำเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง หยางชิงโม่รู้สึกประทับใจกับความรู้และประสบการณ์ของเขามากจ้าวชุนหยางนั่งทานอาหารมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รอบตัวเขามีเพียงองครักษ์ 2 นาย ยืนประจำการอยู่ห่างๆ บรรยากาศภายในห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟสีนวลสาดส่องลงมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาแต่เมื่อมองไปเห็นเขาเพียงพนักงานที่กำลังถือถาดเพื่อจะนำไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเขาเท่านั้น พนักงานชายคนนั้นเดินมาทางด้านหลังและก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวเขาก็ชักมีดเล่มเล็กออกมาและจ่อไปที่คอของท่านผู้นำประเทศทันที“อย่าขยับไม่อย่างนั้นฉันจะเชือดคอผู้นำของพวกแกแน่นอน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นภาษาจีนแต่ว่าสำเนียงนั้นไม่ชัดเจนเหมือนว่าคนที่พูดเป็นชาวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไรกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนี้แต่ยังมีคนร้ายสามารถเล็ดลอด