บทที่ 9 ครัวครอบสามีดีเกินไปนะผิดกับธรรมเนียมนิยม นิยายย้อนอดีตส่วนใหญ่
หลังจากหยางชิงโม่เดินดูรอบบ้านและจัดแต่งบางส่วนของบ้านเพื่อให้อยู่ได้ก่อนในช่วงนี้ และเธอได้ค้นดูในตู้ใบเก่าพบว่า หยางชิงโม่คนเก่ามีเงินเก็บเอาไว้ถึง 180 หยวนเลยที่เดียว ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ถือว่ามีเงินมากพอสมควร นี้หยางชิงโม่คนเก่าคนไม่เคยใช้เงินเลยแน่ๆ ถึงมีเงินเก็บมาขนาดนี้ และคงจะเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เธอป่วยและเสียชีวิตเพราะประหยัดเกินไปไม่ยอมซื้อของมาบำรุงตัวเอง แบบนี้ก็ไม่ไหวนะ ตัวเองอดแล้วยังให้ลูกอดด้วย จะเก็บเงินเอาไว้ทำไมหากว่าลำบากมาก เอาออกมาใช้สิ ..หยางชิงโม่คิดบ่นเจ้าของร่างเดิม จากนั้นเธอก็เก็บเงินเอาไว้ในมิติ
เช้าวันต่อมาหลังเธอได้ไปหาพ่อสามีและพี่ชายสามีและน้องสามี และได้บอกให้พวกเขามาช่วยเปลี่ยนหลังคาที่ชำรุด 2-3 แห่ง ทำห้องอาบน้ำ และห้องน้ำให้เธอใหม่ โดยเธอนำชักโครกออกมาและบอกวิธีการติดตั้งให้พวกเขาซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานพวกเขาก็สามารถทำได้แล้ว โดยเธอได้ให้ค่าจ้างไปคนละ 20 หยวน ซึ่งพ่อสามีและพี่ชายสามีไม่อยากจะรับมาแต่เธอไม่ยอมและให้เหตุผลว่า ตอนนี้พี่สะใภ้เฉินเจียวกำลังตั้งครรภ์จำเป็นต้องใช้เงิน และตอนนี้ครอบครัวของเธอที่เซี่ยงไฮ้ได้ส่งเงินมาให้เธอเกือบทุกเดือนประกอบกับเงินเดือนของสามีที่ส่งมา ทำให้เธอและเด็กๆ ไม่ลำบากมากแล้ว เธอจำเป็นต้องหาเหตุผลในการใช้จ่ายเงิน เพราะเธอวางแผนที่จะนำของที่มีในมิติไปขายด้วย จึงต้องหาแหล่งที่มาของเงินเอาไว้เผื่อทางบ้านใหญ่สงสัยเอา พวกเขาใช้เวลา 3 วันในการซ้อมแซ่มและทำห้องน้ำให้หยางชิงโม่ใหม่เมื่อทำเสร็จก็เย็นมากแล้ว หยางชิงโม่จึงเดินมาหาพวกเขาขณะที่พวกเขากำลังเก็บของเตรียมจะกลับบ้าน
“คุณพ่อ พี่ใหญ่กับน้องสามรับไปเถอะค่ะ เพราะตอนนี้ค่าใช้จ่ายต่างๆ ก็มากขึ้น ไหนจะพี่สะใภ้ที่จะคลอดอีกไม่กี่เดือนและยังเจ้าเสี่ยวตงฟางที่ไม่สบายบ่อยๆ ด้วย”
หยางชิงโม่คะยั้นคะยอให้พี่ใหญ่เฉินต้าหานรับเงินไป..
“เราครอบครัวเดียวกันจะให้เงินให้ทองทำไม เรื่องซ่อมแซมบ้านนี้ก็เล็กน้อยเท่านั้นพี่กับเจ้ารองและพ่อทำไม่กี่วันเอง” เฉินต้าหาน ยังคงปฎิเสธที่จะรับเงินจากเธอ หยางชิงโม่รู้สึกดีที่เธอย้อนเวลามาและเจอกับครอบครัวสามีที่ดีและสามัคคีกันดีเช่นนี้ และเธอจะไม่เปรียบพวกเขาแน่นอน ยิ่งเธอขนของมาเต็มมิติ เธอยิ่งต้องการจะให้และช่วยเหลือญาติสามีเช่นนี้มากขึ้น รอแค่เวลาและหาเหตุผลที่ดีพอที่จะเอาของต่างๆ มาแบ่งปันเท่านั้น
(แม้จะรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ครอบครัวสามีไม่เป็นเหมือนพิมนิยมของนิยายย้อนเวลาที่ตัวเอกส่วนใหญ่ต้องมาเจอกับครอบครัวสามี แม่สามี พี่น้องที่ร้ายกาจและเห็นแก่ตัว 5555)
“รับไว้เถอะเจ้าใหญ่ เจ้าสาม พ่อรู้ว่าตอนนี้ทุกบ้านต่างก็มีความจำเป็นต้องใช้เงินและอีกอย่างสะใภ้รองก็ตั้งใจจะให้แล้ว ไว้วันหน้าค่อยมาดูแลซ่อมรั่ว ด้านข้างกับด้านหลังให้เพิ่มอีกก็ยังได้”
คุณพ่อเฉินกล่าวขึ้นเมื่อลูกชายคนโตตั้งใจจะไม่เอาเงินจริงๆ
“ใช่ค่ะพี่ใหญ่ฉันวางแผนว่าจะสร้างบ้านใหม่หลังจากหน้าหนาวด้วยพอถึงตอนนั้นพี่มาช่วยก็ยังไม่สายค่ะ น้องสามด้วยนะ รับไปเถอะ เดี๋ยวตอนกลับเอาเนื้อหมูน้ำตาลทรายแดงกับผักกาดขาวกลับไปให้น้องสะใภ้ทำกับข้าวด้วยนะ พี่เตรียมไว้ให้แล้ว ของคุณพ่อกับพี่ใหญ่ก็มีนะคะ เอากลับไปด้วยเลย”
หยางชิงโม่เดินเข้าไปในบ้านแล้วหยิบของที่เตรียมไว้ให้ทั้ง 3 คนเอากลับบ้าน ซึ่งเธอได้แยกให้ทุกคนเท่ากัน ถึงแม้คุณพ่อเฉินจะอยู่กับพี่ใหญ่เพราะเป็นพี่คนโต พ่อแม่จะอาศัยอยู่ด้วยตามที่นิยมกันที่นี่ แต่คุณพ่อเฉินก็มาช่วยงานด้วยทุกวันเช่นกันดังนั้นเธอจึงทำเป็นชุดให้ทุกคนเลย สบายใจดี (ของมีเยอะนะอยากแบ่งปัน 5555)
ขณะที่หยางชิงโม่มองดูพ่อสามีและพี่น้องสามีเดินจากไป เธอก็อดยิ้มไม่ได้ที่ได้เจอครอบครัวที่อบอุ่นเช่นนี้ เธอนึกถึงนิยายย้อนเวลาที่เคยอ่านในยุคปัจจุบัน ที่ตัวเอกมักจะต้องเจอกับครอบครัวสามีที่เอารัดเอาเปรียบ แย่งชิงสมบัติ หรือกลั่นแกล้งต่างๆ นานา
"โชคดีจังที่ไม่เป็นแบบในนิยาย" เธอพึมพำกับตัวเอง พลางมองดูลูกๆ ที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในลานบ้าน เด็กๆ ในยุคนี้ช่างไร้เดียงสา ไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่มีเกมออนไลน์ มีแต่เสียงหัวเราะและการละเล่นแบบเด็กๆ
เธอเดินเข้าไปในครัว มองดูหม้อดินใบเก่าที่วางอยู่บนเตาถ่าน ต่างจากหม้อไฟฟ้าทันสมัยที่เธอเคยใช้ในชาติก่อน แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่นแปลกๆ กลิ่นควันไฟจากเตาถ่าน กลิ่นอาหารที่เคี่ยวด้วยฟืน ทุกอย่างช่างเรียบง่ายแต่มีเสน่ห์
"พรุ่งนี้จะทำอะไรดีนะ" เธอคิด พลางนึกถึงสูตรอาหารสมัยใหม่ที่เธอรู้ "คงต้องดัดแปลงวิธีทำใหม่ให้เข้ากับยุคนี้"
แม้จะไม่มีเรื่องราวดราม่าเหมือนในนิยาย แต่การปรับตัวให้เข้ากับชีวิตในยุค 80 ก็เป็นความท้าทายที่น่าตื่นเต้นไม่แพ้กัน เธอมีมิติวิเศษ มีความรู้ทางการแพทย์ และมีใจที่พร้อมจะช่วยเหลือทุกคน นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวที่แตกต่าง - เรื่องราวของการสร้างความสุขและความเปลี่ยนแปลงให้กับทุกคนในครอบครัว
-------------------------------------------------------------------------------------
ไรท์ว่าจริงนะ มันผิดพิมนิยมที่ส่วนใหญ่ตัวเอกมาถึงอดีต จะต้องต่อสู้ดิ้นรนมากมายกว่าจะได้แยกบ้านใช้แผนสารพัดเลยนะ
แต่พอคุณหมอหยางชิงโม่มาถึงบ้านก็แยกให้แล้ว ยังไม่ได้ต่อสู้เลย รู้สึกอะไรขาดหายไปนะคะ 55555
เป็นเหงา...
ถ้าชอบใจคุณหมอ พี่ๆ น้องๆ สามารถคอมเมนต์เป็นกำลังใจให้ไรท์ปั่นๆ ได้นะคะ
with love..
บทส่งท้าย ส่งต่อแหวนมิติ2 วันต่อมาคู่สามีภรรยาหลังจากที่พากันไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงขับรถไปที่บริเวณที่เป็นเรือนสี่ประสานที่พวกเขาเคยอยู่ตั้งแต่ในยุค 70 เมื่อขับรถผ่านและจอดมอง พวกเขาเห็นเรือนสี่ประสานที่ยังคงงดงามและมีมนต์เสน่ห์เช่นเดิม นั้นสามารถบอกได้ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขานั้นดูแลเรือนหลังนี้เอาไว้อย่างดี พวกเขาจอดรถและเฝ้ามองอยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้าไม่นานก็เห็นรถโรลส-รอยซ์สีขาวคันใหญ่ค่อยๆ ขับออกมาขณะที่รถคันนั้นกำลังจะขับผ่านพวกเขาไป รถโรลส-รอยซ์คันนั้นก็หยุดกะทันหันเพียงไม่นานประตูก็เปิดออก คนที่ออกมาจากประตูรถเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งกายเหมือนชุดอนุบาลเรียบร้อย เธอเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านทันที ประตูเรือนสี่ประสานยังไม่ทันได้ปิดก็มีร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งรีบวิ่งมาในมือของเขานั้นมีกล่องเล็กอยู่ 2 สอง ดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องข้าว เขายื่นกล่องข้าวใบเล็กนั้นให้กับเจ้าเด็กน้อยจากนั้นก็เดินจูงเธอมาและเปิดประตูรถให้เธอเมื่อเสร็จก็ยกมือขึ้นบ๊ายบาย 2-3 ครั้งก่อนจะปิดประตู และยืนมองจนกระทั่งรถคนนั้นหายไปจากสายตา เขากำลังจะกลับเข้าไปที่บ้านแต่เหมือนว่าเขา
บทที่ 103 จากฮีโร่สู้ผู้ร้ายเช้าวันต่อต่อมาเกิดข่าวใหญ่ที่สะเทือนเมืองหลวงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยวนเปียวน้องของภรรยารองของท่านผู้นำ จากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาคือฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือท่านผู้นำจนตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการเป็นตายเท่ากัน มาวันนี้อาการของเขากลับมาดีขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย และที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมนั้นก็คือ เขาขอให้ทางหมอและพยาบาลช่วยอัดคลิปให้ ตอนแรกพวกหมอและพยาบาลนึกว่าเขาจะอัดคลิปเพื่อบอกให้คนที่เป็นห่วงเขาไม่ต้องห่วงเขาสบายดี แต่ที่ไหนได้คลิปที่เขาอัดกลับกลายเป็นการสารภาพความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำมา รวมทั้งการวางแผนกับพี่สาวของตัวเองซึ่งก็คือภรรยารองของท่านผู้นำเพื่อที่จะสังหารเขานั้นเอง และยังได้บอกอีกว่าพวกเขาคือ ผู้ร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนานแล้ว และรอเพียงเวลาที่จะลงมือสังหารท่านผู้นำนั้นเองเมื่อคลิปการสารภาพของเขากระจายออกไป ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ขึ้นในสังคมทันที เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบเข้าเพื่ออารักขาท่านผู้นำและพวกเขาได้รวบตัวของภรรยารองของท่านผู้นำเอาไว้เพื่อสอบสวนต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะปฎิเสธทุกข้อหาที่น้องชายของเธอพูดก็ตาม ตอ
บทที่ 102ความทรงจำที่หวนคืนเมื่อหยางชิงโม่ออกจากห้องของเฉินหวังตงได้ เธอก็รีบยกหูโทรหาน้องสาวจางหมี่ของเธอทันที“พี่หมอให้หยดน้ำทิพย์ไปเขากินหรือคะ” จางหมี่เอ่ยถามมาตามสาย“ใช่แล้วน้องหมี่ พี่ก็เลยจะถามน้องว่าน้ำทิพย์จะมีผลต่อความทรงจำของเขาหรือไม่นะสิ”หยางชิงโม่เอ่ยออกมาเธอออกจะเป็นกังวลเล็กน้อย“มีผลค่ะ นั้นคือหากว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ เขาก็จะกลับมาจำได้อย่างแน่นอน แต่หากว่าเขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่แล้ว น้ำทิพย์ก็เพียงจะทำให้เขาเฉลียวฉลาดมากขึ้นเท่านั้นเอง”จางหมี่บอกคุณสมบัติของน้ำทิพย์สวรรค์ของเธอให้กับพี่หมอหยางชิงโม่ไป ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำทิพย์เพื่อกระตุ้นความทรงจำเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะจำเธอได้แล้ว แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาดีๆ ในชีวิตไป จางหมี่คิด“เช่นนั้นแสดงว่าหากเขาเป็นเฉินหวังตงของพี่จริงๆ เขาก็จะจำพี่ได้แล้วใช่หรือไม่?"หยางชิงโม่ยังต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วค่ะ เขาจะจำพี่ได้แน่นอน ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับพี่หมอแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ฉันก็อยากจะบอกพี่หมอเหมือนกันว่า คู่ชีวิตที่ดีนั้นหาไม่ได้ง่ายน
บทที่ 101 เป็นแฟนกันเถอะนะครับหยางชิงโม่ที่อยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ยืนมองดูร่างของคนไข้ที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเพื่อพยุงชีวิตเขาเต็มไปหมด หมอที่มาตรวจดูอาการของเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการงวยงง กันมาก เพราะว่าแผลของเขาที่รับนั้นมันเล็กมาก ไม่ถึง10 เซนติเมตรด้วยซ้ำแต่ว่าอาการของเขานั้นมีหลายครั้งที่ถึงกลับมีอาการหัวใจล้มเหลว พวกเขาต่างพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตของคนไข้รายสำคัญคนนี้ของท่านผู้นำเอาไว้ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับข่าวสารเรื่องการที่เขาเป็นผู้ช่วยเหลือท่านผู้นำเอาไว้จากผู้ร้ายหยางชิงโม่นั้นก่อนที่จะมาที่นี่เธอได้โทรหาน้องสาวจางหมี่แล้ว โดยถามว่ายาที่เธอให้มานั้นจะเกิดอาการอย่างไรกับคนที่โดนซึ่งจางหมี่ก็ได้บอกรายละเอียดมาจนครบและเด็กสาวคนนั้นยังบอกอีกว่าหากจะรักษาให้หายเพียงให้หยดน้ำทิพย์เข้าปากเพียง1หยดเท่านั้นเอง และหากว่าอยากจะให้คนร้ายสารภาพและซัดทอดไปถึงผู้บงการจำเป็นต้องมียาอีกตัวที่จะทำให้ประสาทของคนไข้หลอนและสารภาพออกมาเอง โดยการที่เขาจะสารภาพนั้นอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วันหลังจากที่เขาอาการดีขึ้น โดยที่พวกเธอไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนว่าตอนนี้ยาเม็ดนั้นอยู่ในมือของเ
บทที่ 100 ข่าวเด่นประเด็นร้อนเมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุมตัวของคนร้ายและรถพยาบาลได้นำตัวของหยวนเปียวผู้ที่ได้เข้ามาช่วยท่านผู้นำไปส่งโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย ท่านผู้นำเดินมาหาหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่และมือของเธอข้างหนึ่งก็ถูกเฉินหวังตรงจับเอาไว้แน่น“ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่การมาทานอาหารครั้งนี้ทำให้คุณหมอตกอกตกใจขนาดนี้ ไม่นึกจริงๆ การรักษาความปลอดภัยของผมจะหละหลวมขนาดนี้ ผมคงต้องกลับไปจัดการใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ” ท่านผู้นำกล่าวขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยางชิงโม่พูดขึ้นมา“คุณหมอหยางคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาและร่างของเธอก็ถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง และมือที่ถูกเฉินหวังตงจับเอาไว้แน่นนั้นก็ถูกดึงออก จากมือใหญ่แข็งแรงและมีมือเล็กขาวนวลนั้นก็มาจับเอาไว้แทนเฉินหวังตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจ้าบ้าหรูอี้มาแย่ง ‘แฟน’ ของเขาไปและมันยังพัฒนาถึงขั้นกอด ‘แฟน’ ของเขาอีกหยางชิงโม่ที่ถูกกอดจากด้านหลังก็ตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบมือของจ้าวหรูอี้แล้วปล
บทที่ 99 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 2 เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ หยางชิงโม่และท่านผู้นำและไม้ประดับคู่นั้นก็เริ่มทานอาหาร บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่านผู้นำเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง หยางชิงโม่รู้สึกประทับใจกับความรู้และประสบการณ์ของเขามากจ้าวชุนหยางนั่งทานอาหารมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รอบตัวเขามีเพียงองครักษ์ 2 นาย ยืนประจำการอยู่ห่างๆ บรรยากาศภายในห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟสีนวลสาดส่องลงมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาแต่เมื่อมองไปเห็นเขาเพียงพนักงานที่กำลังถือถาดเพื่อจะนำไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเขาเท่านั้น พนักงานชายคนนั้นเดินมาทางด้านหลังและก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวเขาก็ชักมีดเล่มเล็กออกมาและจ่อไปที่คอของท่านผู้นำประเทศทันที“อย่าขยับไม่อย่างนั้นฉันจะเชือดคอผู้นำของพวกแกแน่นอน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นภาษาจีนแต่ว่าสำเนียงนั้นไม่ชัดเจนเหมือนว่าคนที่พูดเป็นชาวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไรกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนี้แต่ยังมีคนร้ายสามารถเล็ดลอด