บทนำ
“ฟา... ฟาเบียน!”
“ว่าอย่างไรนะ?” ชายหนุ่มกะพริบตาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อของตนเอง ก่อนที่ชายคู่สนทนาจะถอนหายใจทิ้ง แล้วเอ่ยด้วยเสียงอ่อนลงเมื่อเห็นสีหน้าเหนื่อยล้าของอีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงที่เบาลงอีกครั้งว่า
“ฉันบอกว่างานนี้เงินดีแน่นอน หมื่นยูโรเป็นอย่างต่ำ ได้ยินว่านายกำลังเร่งใช้เงินใช่ไหม? เพราะฉะนั้นงานนี้นายรับไว้น่าจะดีกว่านะ” ชายหนุ่มที่ชื่อ ‘ฟาเบียน’ เม้มปากเมื่อได้ยิน หากให้เทียบเงินยูโรเป็นค่าเงินบาท ก็คงประมาณสามแสนกว่าๆ นัยน์ตาสีดำสนิทหลุบลงมองมือที่กุมบนตัก ก่อนจะเงยหน้ามองลูกพี่ลูกน้องที่เดินทางมาตั้งรกรากที่ประเทศไทยจากประเทศอิตาลี ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงลังเลว่า
“แค่ทำหน้าที่คุ้มกันและขับรถให้ระหว่างเดินทางใช่ไหมครับ พี่กาวีโน่?” กาวีโน่ เป็นชายชาวอิตาลีที่มีคนรักเป็นชาวไทย และย้ายมาทำงานที่นี่เมื่อปีก่อน ซึ่งมีฐานะเป็นญาติของฟาเบียนคนตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงจริงจังว่า
“ใช่ เนื้องานก็เหมือนที่นายเคยทำมาตลอดนั่นแหละ แค่ครั้งนี้จะผิดพลาดไม่ได้เท่านั้น” กาวีโน่พูดเสียงจริงจัง ทำเอาฟาเบียนถอนหายใจบีบมือบนตักแน่น ก่อนจะพยักหน้าแล้วเอ่ยด้วยเสียงที่ตัดสินใจได้ว่า
“โอเค ผมรับงานนี้ แต่พี่กาวีโน่ ผมขอเบิกเงินล่วงหน้าก่อนได้ไหม? พี่ก็รู้ว่าผมกำลังเดือดร้อนเรื่องเงิน?” เมื่อได้ยินกาวีโน่ก็ยิ้มกว้างก่อนจะตบไหล่กว้างของฟาเบียนแล้วเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า
“แน่นอน ฉันจะโอนให้ก่อนห้าพันยูโร แล้วที่เหลือค่อยมารับหลังงานเสร็จในสัปดาห์หน้า?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ยกมือไหว้อีกฝ่ายอย่างขอบคุณ กาวีโน่โบกมือไปมาก่อนจะตบไหล่ฟาเบียนอีกครั้งแล้วลุกขึ้นเมื่อการเจรจาจ้างงานชั่วคราวเสร็จสิ้นลง “แล้วเจอกันอีก 3 วันนะฟาเบียน”
“ได้ครับพี่ ขอบคุณมากครับ” ฟาเบียนยกมือไหว้ลาอีกฝ่าย ก่อนจะเอนหลังพิงพนักพิงเมื่อเห็นว่ากาวีโน่เดินออกจากร้านกาแฟไปแล้ว ฟาเบียนหลุบตาลงหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมามองหน้าจอฯ ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีน เมื่อเห็นยอดเงินโอนเข้าธนาคารระหว่างประเทศราวๆ ห้าพันยูโร หรือประมาณ หนึ่งแสนเก้าหมื่นบาท ฟาเบียนถอนหายใจอย่างโล่งอกก่อนจะถอนหายใจเฮือกเมื่อเห็นว่ามีสายโทรเข้ามา ฟาเบียนไม่ได้กดรับทันทีแต่จ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ขึ้นสายเรียกเข้าอยู่อย่างนั้น ก่อนจะกดรับสายเมื่อคนที่โทรเข้ามาเป็นสายที่สอง
“...............”
[พี่ฟา?] เสียงอ่อนโยนดังมาจากปลายสายเมื่อฟาเบียนกดรับแต่ไม่ยอมพูด ฟาเบียนทำเพียงครางรับในลำคอ เมื่อได้ยินดังนั้นคนปลายสายจึงเอ่ยด้วยเสียงกล้าๆ กลัวๆ ว่า [เรื่องเงิน....] ฟาเบียนมีดวงตาลดลงเมื่อได้ยินคำพูดจากปลายสาย ก่อนจะที่จะกำโทรศัพท์ที่วางไว้แนบหูแน่นแล้วเอ่ยด้วยเสียงทุ้มว่า
“อืม พี่ได้เงินแล้ว ฟ้าเอาไปก่อนแสนหนึ่งได้หรือเปล่า?” ริมฝีปากของฟาเบียนเม้มแน่นพลางกลั้นลมหายใจรอฟังเสียงจากปลาย แล้วกลืนน้ำลายลงคอเมื่อได้ยินคำพูดจากปลายสายที่ว่า
[แสนหนึ่ง? มันก็ได้อยู่หรอกพี่ฟา แต่เงินมันยังขาดอีก-] แต่ยังไม่ทันที่ปลายสายจะเอ่ยจบฟาเบียนก็เอ่ยขัดขึ้นมาก่อนว่า
“ขาดอีกเท่าไร?” ฟาเบียนหลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า พลางเม้มปากแน่น แล้วถอนหายใจเฮือก จนปลายสายเงียบไป ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาเหมือนกระซิบว่า
[อีกแสนกว่าๆ ] เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ลืมตา ก่อนจะยกยิ้มหยันที่มุมปาก แล้วฟาเบียนก็เอ่ยด้วยเสียงคล้ายกำลังหัวเราะหยันว่า
“แล้วทางนั้นเขาไม่ช่วยฟ้าออกหน่อยหรือ ไนว่าเป็นคู่แห่งโชคชะตา?” เมื่อได้ยินฟาเบียนเอ่ยจบ เสียงปลายสายก็เงียบไป ก่อนฟาเบียนจะยกมุมปากยิ้มแต่ดวงตากลับมีแววตาของความราบเรียบไร้อารมณ์ เมื่อได้ยินปลายสายตอบกลับมาว่า
[ฮึก พี่ฟา พี่ก็รู้ว่าเขาโกรธฟ้าเรื่องอะไรอยู่ เขาจะช่วยฟ้าได้อย่างไร ฮึก พี่ฟา?] ฟาเบียนกำโทรศัพท์ที่แนบหูแน่นจนมือแกร่งขึ้นข้อขาว ก่อนจะเบาแรงลงอย่างหมดแรง แล้วเอ่ยด้วยเสียงจริงจังเด็ดขาดเย็นชาว่า
“ถ้าอย่างนั้นนี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่พี่จะช่วยฟ้าแล้วนะ พี่จะโอนให้ก่อนแสนห้า แล้วอีกแสนหนึ่งพี่จะโอนให้สัปดาห์หน้า ถ้าฟ้าไม่โอเคพี่ก็ไม่รู้แล้วว่าจะช่วยฟ้าได้อย่างไร” เมื่อได้ยิน ปลายสายก็ร้องไห้ขอบคุณฟาเบียนยกใหญ่ ก่อนจะที่เจ้าตัวบอกว่าจะรอเงินที่ฟาเบียนจะโอนมาให้ แล้วตัดสายไป ฟาเบียนจ้องมองหน้าจอโทรศัพท์ที่ตัดสายทิ้งไปด้วยสายตาอยากจะคาดเดาอารมณ์ ก่อนจะยิ้มหยันเมื่อเห็นข้อความไลน์ขึ้นมาว่า
Fah :: พี่ฟา พี่จะโอนเงินให้ฟ้าวันนี้ไหม?
ฟาเบียนกดปลดล็อกโทรศัพท์ก่อนจะโอนเงินในบัญชีธนาคารต่างประเทศไปที่บัญชีของฟ้า แล้วส่งข้อความพร้อมสลิปไปทางไลน์ แต่อีกฝ่ายไม่ได้กดอ่านอยู่นาน นานจนกระทั่งพนักงานเสิร์ฟมาถามฟาเบียนว่าต้องการรับอะไรเพิ่มอีกหรือไม่? ฟาเบียนส่ายหน้าปฏิเสธก่อนจะเดินออกจากร้านกาแฟไป ทันได้ยินเสียงพนักงานคุยกันแว่วๆ ว่า
“ลูกครึ่งไหม? หล่อมาก!”
“ใช่ๆ ทั้งหล่อสูงแบบนี้ต้องเป็นอัลฟ่าแน่ๆ เลย!”
อัลฟ่า? ... ฟาเบียนพึมพำในใจเมื่อออกมาจากร้านก่อนจะเดินไปที่รถมอเตอร์ไซค์ดูคาติสีดำด้าน แล้วสวมถุงมือหนัง และหมวกกันน็อกก่อนจะขึ้นคร่อมได้ยินเสียงหวีดเบาๆ ของหญิงสาวและหนุ่มน้อยยามเจ้าตัวขึ้นขี่รถแผ่วเบา ก่อนที่ฟาเบียนจะสตาร์ตรถแล้วขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเสียงหวีดร้องและกลิ่นของท่อไอเสียด้านหลัง
..............................
สนามบินสุวรรณภูมิ 22.52 น. ฟาเบียนในชุดสูทสีดำทั้งตัว ขยับสายหูฟัง แล้วยืนคาบบุหรี่ที่มุมปากขณะยืนพิงรถMercedes-Benz E-Class Saloon ราคากว่าสามล้านเกือบสี่ล้านที่ได้รับมาจากกาวีโน่เพื่อใช้ทำงานในครั้งนี้ ก่อนจะหลุบตาลงแล้วพ่นควันออกจากปากขึ้นท้องฟ้า แล้วขยี้ก้นบุหรี่เมื่อได้ยินเสียงมาจากวิทยุที่หูฟังว่า [นายท่านเดินทางมาถึงแล้ว เตรียมตัว] ฟาเบียนจ้องมองตัวเองที่กระจกหน้ารถเพื่อตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง ก่อนจะหยิบเอาลูกอมรสนมเข้าปากแล้วเข้าไปสตาร์ตรถเพื่อรอออกเดินทาง ฟาเบียนรออย่างสงบราวสิบนาที ร่างของบอดีการ์ดในชุดคล้ายตนเองก็ปรากฏขึ้นเป็นโหล ฟาเบียนรู้สึกประหม่าเมื่อเห็นว่าทางเข้าพิเศษปรากฏร่างของใครหลายคน ก่อนที่ชายคนหนึ่งที่เด่นสะดุดตาจะปรากฏตัวขึ้น
เส้นผมสีทองสว่าง สวมแว่นกันแดดราคาแพง และชุดสูทสีดำเนื้อดีที่ตัดเข้ารูป พร้อมกับบอดีการ์ดมากมายที่รุมล้อมเจ้าตัว ฟาเบียนสูดลมหายใจเข้า ก่อนจะลงจากรถที่สตาร์ตติดเครื่องเพื่อเปิดแอร์รอรับ แล้วลงจากรถเดินไปเปิดประตูด้านหลัง แล้วโค้งตัวคำนับอีกฝ่ายที่เก็บแว่นดำในกระเป๋าเสื้อสูทด้านใน ก่อนจะตวัดดวงตาเย็นชาไร้อารมณ์สีน้ำตาลทองมาจ้องมองตัวเอง แล้วก้มตัวลงไปนั่งด้านใน ฟาเบียนปิดประตู ก่อนจะพยักหน้าให้กาวีโน่ที่เลิกคิ้วทักทายตัวเองแล้วไปขึ้นรถอีกคัน ก่อนที่บอดีการ์ดตัวสูงอีกคนจะขึ้นไปนั่งที่ข้างคนขับทำให้ฟาเบียนต้องเข้าไปที่นั่งคนขับก่อนจะ เอ่ยระหว่างที่เดินไปขึ้นรถว่า “ที่ไหน?”
[โรงแรม XXX] ฟาเบียนครางตอบรับเมื่อได้ยินชื่อโรงแรมหรูของประเทศ ก่อนจะเข้าไปด้านในรถ แล้วเริ่มออกรถเมื่อเห็นว่าดวงตาสีทองนั้นกำลังจ้องมองตนเอง แล้วเอ่ยเป็นภาษาอังกฤษเพื่อถามฟาเบียนว่า
“เบต้าหรืออัลฟ่า?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็กลืนน้ำลายเมื่อเสียงของอีกฝ่ายดูดุดันและเข้มงวดมาก ก่อนจะเอ่ยตอบออกไปอย่างเสียงดังชัดเจนว่า
“อัลฟ่า ผมเป็นอัลฟ่าครับนายท่าน” เมื่อได้ยิน อีกฝ่ายไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่หันไปมองด้านนอกหน้าต่างรถยนต์ ทำเอาฟาเบียนอดประหม่าไม่ได้กับความเย็นชานั้น ก่อนจะขับรถไปส่งอีกฝ่ายไปที่โรงแรม
...........................
ฟาเบียนพรูลมหายใจออก เมื่อเห็นว่าเจ้านายชั่วคราวของตนเองกำลังลงจากรถหน้าทางเข้าสนามบิน ฟาเบียนยืนกุมมือไว้ด้านหน้าจ้องมองแผ่นหลังสูงใหญ่นั่นกำลังเดินเข้าไป ก่อนที่ปลายเท้าของอีกฝ่ายจะหยุดที่หน้าทางเข้า แล้วหันกลับมามองฟาเบียนแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงราบเรียบไร้อารมณ์ว่า “อยากมาทำงานกับฉันไหม?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ตกตะลึง ก่อนจะหัวใจเต้นแรงเมื่อคิดได้ว่าอีกฝ่ายกำลังคิดจะจ้างงานตัวเองระยะยาว ฟาเบียนแอบเช็ดมือที่ชื้นเหงื่อเพราะความประหม่าที่ขากางเกง ก่อนจะยืดหลังตรงแล้วเอ่ยด้วยความยินดีว่า
“ครับ ผมอยากไปทำงานกับนายท่านครับ” เมื่อได้ยินคำตอบ อีกฝ่ายไม่ได้เอ่ยอะไรแต่กระดิกนิ้วให้ฟาเบียนเดินเข้าไปใกล้ ฟาเบียนไม่ลังเลแต่ก้มหัวรอรับฟังคำพูดของอีกฝ่ายอย่างใจเย็น
“ฉันจะให้กาวีโน่ติดต่อไปอีก 2-3 วัน เตรียมตัว และเอกสารเดินทางให้พร้อม รายละเอียดไว้มาคุยเมื่อเดินทางไปถึงอิตาลีแล้ว” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ขยับจมูกเมื่อได้กลิ่นคล้ายไวน์แดงในระยะใกล้ชิด จนไม่ได้ตอบรับในทันที ก่อนจะได้ยินเสียงเข้มดุๆ ที่เอ่ยถามซ้ำด้วยความไม่อดทนว่า “เข้าใจไหม?”
“ครับ รับทราบครับนายท่าน!” ฟาเบียนที่ได้ยินก็รีบตอบรับ จนได้เห็นคิ้วเข้มของว่าที่เจ้านายคนใหม่ขมวดยุ่ง ก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วเดินกลับเข้าไปในสนามบินพร้อมกับบอดีการ์ดคนอื่นๆ ที่พามาด้วยกัน ก่อนที่กาวีโน่จะเดินมาตบไหล่ตนเองแล้วเอ่ยอย่างอารมณ์ดีว่า
“บุญหล่นทับ! โชคดีจริงๆ ไอ้ฟา!”
“ผมก็ต้องขอบคุณพี่นั่นแหละที่แนะนำงานนี้ให้” ฟาเบียนเอ่ยขอบคุณกาวีโน่ ก่อนที่เจ้าตัวจะตบไหล่ฟาเบียนแรงๆ แล้วเอ่ยด้วยเสียงดีใจว่า
“ฮ่าๆ ใครจะคิดว่าฉันจ้างนายมาเป็นคนขับรถให้เจ้านาย แต่เจ้านายกลับจ้างนายไปเป็นลูกน้องจริงๆ ” ฟาเบียนยิ้มแต่ไม่ได้เอ่ยตอบอะไร ก่อนจะคืนกุญแจรถให้กาวีโน่ แล้วเดินทางกลับบ้านด้วยรถโดยสารสาธารณะ ฟาเบียนจ้องมองทิวทัศน์ด้านนอก ก่อนจะหยิบเอาโทรศัพท์ที่สั่นขึ้นมากดดูข้อความ แล้วถอนหายใจเมื่อเห็นว่าใครกำลังส่งไลน์มาหาตัวเอง
Fah :: พี่ฟา พี่จะโอนเงินที่เหลือให้ฟ้าเมื่อไร?
Fah :: ฟ้ารออยู่นะพี่
Fah :: ส่งสติกเกอร์
“แม่ง...” ฟาเบียนเอ่ยสบถเสียงเบาในลำคอ เมื่อเห็นข้อความของฟ้า ก่อนจะกดเข้าแอปพลิเคชันธนาคารแล้วโอนเงินที่เหลือให้ฟ้า ก่อนจะส่งข้อความสุดท้ายพร้อมบล็อกอีกฝ่ายไปด้วยว่า
F :: นี่จะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่พี่จะให้ฟ้า ต่อจากนี้ก็ดูแลตัวเองด้วย ลาก่อน
และใช่ ฟาเบียนตัดสินใจแล้วว่าจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป แต่เลือกที่จะไปทำงานตามคำชวนของเจ้านายคนใหม่แทน และไม่ว่าฟ้าจะพยายามติดต่อฟาเบียนมากแค่ไหนก็ไม่ได้รับการตอบกลับ เพราะในอีกไม่กี่วันต่อมาฟาเบียนก็เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือ และเดินทางไปอิตาลี เพื่อเริ่มต้นงานใหม่ และชีวิตใหม่
+++++
Lady Zombie
19/09/67
ใต้อาณัติครั้งสุดท้าย The grace of our Lord Jesus Christ be with you all. Amen. (Revelation 22:21)ขอให้พระคุณของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของพวกเรา จงดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายทุกคนเถิด เอเมน (วิวรณ์ 22:21)+++++“Sentino Alessio” เสียงของแองเจโลเอ่ยขึ้นในตอนที่รับลูกชายมาจากมือของพยาบาล ที่พาเข้ามาในห้องพักฟื้นหลังฟาเบียนตื่นแล้ว ใช่ ฟาเบียนคลอดโดยการผ่าคลอด ก่อนที่ฟาเบียนจะอมยิ้มจ้องมองลูกชายตัวแดงๆ ย่นๆ ในอ้อมกอดของแองเจโล ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงสงสัยว่า“เซนติโนแปลว่าอะไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอารมณ์ดีว่า“นักบุญตัวน้อย ชื่อน่ารักใช่ไหม?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะใช้นิ้วจิ้มแก้มย่นๆ ของลูกชายก่อนที่คุณหมอมิลเลอร์จะเดินมาส่งผลใบตรวจเพศรองของลูกชายครั้งแรกเกิดให้แด๊ดดี้และป่าป๊าดู ฟาเบียนรับมาก่อนจะมองใบหน้าของแองเจโลที่กำลังกอดลูกด้วยท่าทางมีความสุข ก่อนที่แองเจโลจะเงยหน้ามองฟาเบียนแล้วเลิกคิ้วถามว่ามีอะไร“ผลตรวจเซนติโนเป็นอีนิกม่าครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็พยักหน้ารับ ก่อนจะยกยิ้มกว้าง พลางกดจูบที่หน้าผากของลูกชาย“เก่งมากเจ้าลูกชาย” ฟาเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 19 And Adam knew Eve his wife; and she conceived, and bare Cain, and said, I have gotten a man from the LORD. (Genesis 4:1)และอาดัมได้ร่วมกับเอวาภรรยาของเขา และนางได้ตั้งครรภ์ และคลอดคาอิน และกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้รับชายคนหนึ่งจากพระเยโฮวาห์” (ปฐมกาล 4:1)+++++วันนี้แองเจโลกลับบ้านมาไวกว่าทุกครั้ง แม้งานจะกองท่วมหัว แต่รู้ดีว่าฟาเบียนคงมีเรื่องอยากคุยกับตัวเองต่อแน่ๆ ในระหว่างที่เดินขึ้นชั้นบนก็เอ่ยกับเรโมไปด้วยว่า “วันนี้ฉันจะไม่เข้ากาสิโน กับไปที่คลับ นายจัดการดูแลไปก่อนเลย”“ครับ” แล้วเรโมก็หยุดตามแล้วหมุนตัวเดินไปทางอื่น ในขณะที่แองเจโลยกมือขึ้นดึงเนกไทลง ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสามโดยมีริคกี้ตามมาเฝ้าที่ทางขึ้นบันไดเช่นเดิม และเมื่อเข้าไปในห้องแองเจโลก็นิ่งไปเมื่อเห็นว่าประตูห้องนอนเปิดรออยู่ เลยเดินผ่านห้องนั่งเล่นในห้องนอน เข้าไปในห้องแล้วต้องพรูลมหายใจออกอย่างอึดอัดเมื่อกลิ่นฟีโรโมนกลิ่นกาแฟใส่นมภายในห้องมันคลุ้งไปหมด จนทำเอาเจ้าลูกชายเกือบตื่น ก่อนจะจ้องมองก้อนผ้าห่มบนเตียงด้วยสายตาอ่อนลง แต่ยังไม่ทันก้าวเท้าเข้าไปในห้องเสียงเย็นยะเยือกของคนในผ้าห่มก็ดังขึ้นเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 18 So God created man in his own image, in the image of God created he him; male and female created he them. (Genesis 1:27)ดังนั้นพระเจ้าได้ทรงสร้างมนุษย์ในแบบพระฉายของพระองค์เอง ในแบบพระฉายของพระเจ้าพระองค์ได้ทรงสร้างเขา พระองค์ได้ทรงสร้างพวกเขาให้เป็นชายและหญิง (ปฐมกาล 1:27)+++++เรโมจ้องมองภาพที่ลูกน้องตัวเองเดินขยี้ตาออกมาจากสนามบินพร้อมเจ้านายตัวเองที่กำลังโอบเอวอีกฝ่ายเดินออกมาอย่างรักใคร่ด้วยสายตาปลาตาย ก่อนจะก้มหัวลงเพื่อทำความเคารพเจ้านายที่หนีหายหน้าไปเดือนกว่าโดยไม่บอกใครสักคนนอกจากเลขาจอง ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ ก่อนที่ฟาเบียนจะขืนตัวแล้วเอ่ยเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า “เดี๋ยวผมไปนั่งคันหลัง”“ไม่ต้อง มานั่งกับฉันนี่แหละ” แล้วฟาเบียนก็โดนเจ้านายตัวเองลากไปขึ้นเบาะหลังอย่างงงๆ โดยมีเรโมปิดประตูโบกมือไล่บอดีการ์ดคนอื่นๆ ให้รีบๆ แยกย้ายเตรียมตัวเดินทางกลับคฤหาสน์อะเลสซิโอ โดยที่เรโมขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งข้างคนขับอย่างริคกี้ที่กำลังเหลือบมองตัวเองด้วยสายตาเลิ่กลั่ก เพราะภาพจากเบาะหลังคือ เจ้านายตัวเองกำลังพูดเสียงสองกับฟาเบียนที่กำลังบ่นว่าตัวเองง่วงแค่ไหนด้วยสายตาเ
ใต้อาณัติครั้งที่ 17 He hath led me, and brought me into darkness, but not into light. (Lamentations 3:2)พระองค์ได้ทรงนำข้าพเจ้า และพาข้าพเจ้าเข้ามาในความมืด แต่ไม่เข้าในความสว่าง (เพลงคร่ำครวญ 3:2)+++++“คุณอยากให้ผมใส่เจ้านี่ตลอดเลยใช่ไหมครับ?” ฟาเบียนเอ่ยถามพลางชี้ไปที่ปลอกคอและสายโซ่ที่แองเจโลถืออยู่ในมือ แองเจโลเงยหน้ามองอีกฝ่ายก่อนจะตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“แล้วได้ไหมล่ะ?” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็ดึงสายโซ่มาจากมืออีกฝ่าย ก่อนจะเป็นฝ่ายใส่สายโซ่กับปลอกคอตัวเอง แล้วเอ่ยด้วยเสียงใจเย็นว่า“แล้วผมจะออกไปเดตกับคุณข้างนอกได้อย่างไรครับ?” เมื่อได้ยินแองเจโลก็มองใบหน้าของฟาเบียนก่อนจะเอ่ยตอบด้วยเสียงราบเรียบว่า“ก็ไม่ต้องออกไป ฉันจะดูแลนายทั้งหมดเอง” เมื่อได้ยินฟาเบียนก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเอนศีรษะพิงไหล่แองเจโล ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงเบาว่า“แต่ผมอยากออกไปเดตกับคุณ มีหลายที่เลยที่ผมอยากไปกับคุณ ผมอยากสร้างความทรงจำมากมายกับคุณ มากกว่าการอยู่ในห้องกันสองคนแบบนี้” ใช่ สัญชาตญาณของอัลฟ่าที่อยากกักขังคู่เอาไว้ใต้ปีกทำไมฟาเบียนจะไม่เข้าใจ ตนเองก็เคยมีความคิดนี้ แต่เพราะฟาเบียนไม่ได้ทำไม่ได้หมายความ
ใต้อาณัติครั้งที่ 16 And when the thousand years are expired, Satan shall be loosed out of his prison, (Revelation 20:7)และเมื่อเวลาหนึ่งพันปีนั้นล่วงไปแล้ว ซาตานจะได้รับการปลดปล่อยออกจากคุกของมัน (วิวรณ์ 20:7)+++++แองเจโลจับลำคอของฟ้าที่กำลังฮีตด้วยสีหน้าเย็นชาไร้อารมณ์ ไม่ได้สนใจเลยว่ากลิ่นฟีโรโมนของอีกฝ่ายจะยั่วยวนมากแค่ไหน เพราะสำหรับอีนิกม่าอย่างแองเจโลแล้วนั้น ฟีโรโมนของโอเมก้าก็เหมือนน้ำหอมที่หวานเลี่ยนจนน่าพะอืดพะอมจนอยากอ้วกเพียงเท่านั้น เพราะฉะนั้นแองเจโลจึงไม่ได้รู้สึกอะไรกับฟีโรโมนโอเมก้าที่กำลังฮีต นอกจากความกรุ่นโกรธที่เห็นเมียตัวเองกำลังไปจูบกับคนอื่น ก่อนจะปรายตามองฟาเบียนที่กำลังพยายามยันตัวลุกขึ้นด้วยสีหน้าแดงก่ำ และฟีโรโมนที่กำลังผันผวนอย่างรุนแรง “แองเจโล?” เสียงพึมพำของอีกฝ่ายทำให้แองเจโลจิปาก ก่อนจะลากคอโอเมก้าที่กำลังฮีตออกจากห้องด้วยการคว้าหลังคอ แล้วเหวี่ยงลงกระแทกกับพื้นหน้าห้องนอน จนอีกฝ่ายกลิ้งกระเด็นกับพื้นอย่างหมดสภาพ“ฮึก ฮื่อ” อีกฝ่ายร้องไห้โฮเพราะกลิ่นฟีโรโมนของแองเจโลที่ฉุนจมูกจนน่าขนลุก และไหนจะโดนอีกฝ่ายเหวี่ยงกระเด็นล้มกับพื้นจนเจ็บไปทั้งตัวอีก
ใต้อาณัติครั้งที่ 15 And God shall wipe away all tears from their eyes; and there shall be no more death, neither sorrow, nor crying, neither shall there be any more pain: for the former things are passed away. (Revelation 21:4)และพระเจ้าจะทรงเช็ดน้ำตาทุก ๆ หยดจากตาของพวกเขา และจะไม่มีความตายอีกต่อไป หรือความโศกเศร้า หรือการร้องไห้ และจะไม่มีการเจ็บปวดใด ๆ อีกต่อไป เพราะว่าสิ่งต่าง ๆ ในกาลก่อนนั้นได้ผ่านพ้นไปแล้ว” (วิวรณ์ 21:4)+++++“มีอะไรหรือฟา?” แองเจโลเอ่ยพลางจับแขนของฟาเบียนแน่น เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของเหลือบตามองโอเมก้าที่ตัวเล็กกว่าตัวเองด้วยสายตาอันตรายทำเอาอีกฝ่าย ก้มหน้าหลบตาไม่กล้าสบตากับแองเจโล แต่สีหน้าของฟาเบียนกลับเปลี่ยนไป ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบปกติว่า“ไม่มีอะไรครับ แองเจโลไปหยิบของที่อยากทานก่อนได้เลย เดี๋ยวผมตามไปครับ” เมื่อได้ยินแองเจโลก็ยกยิ้มที่ไปไม่ถึงดวงตา ทำเอาฟาเบียนกลืนน้ำลาย ก่อนที่แรงบีบที่แขนจะแรงขึ้น แล้วหายไปเมื่อเจ้าตัวปลดมือออก แล้วเอ่ยด้วยเสียงราบเรียบเย็นชาว่า“อย่านาน” แล้วแองเจโลก็จ้องเขม็งไปที่โอเมก้าร่างเล็กตรงหน้า แล้วเดินจากไป ทิ้งไว้เพ