แชร์

ตอนที่ 17 เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม

ผู้เขียน: มายารัตติกาล
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-09-12 13:30:45

เช้าวันรุ่งขึ้นซุยหลันซีตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเติ้งเว่ยหมิง หญิงสาวถึงกับเขินอายและทำตัวไม่ถูก เธอรีบลุกออกไปจากเตียงเงียบๆ โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มผู้ที่ตกลงว่าจะเป็นสามีแต่เพียงในนามของเธอนั้นตื่นก่อนเธอนานแล้ว แต่เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจระหว่างพวกเขา ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นยังไม่ตื่น

ซุยหลันซีตบหน้าเรียกสติตนเองอยู่สองสามทีก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองเหมือนทุกวันที่ผ่านมา นั่นก็คือทำอาหารและเตรียมของให้เติ้งเว่ยหมิงไปทำงาน

ทั้งคู่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่บรรยากาศกลับไม่ได้น่าอึดอัดอย่างที่คิด เติ้งเว่ยหมิงมีรอยยิ้มแต้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ส่วนซุยหลันซีก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าอย่างเงียบๆ

หลังจากที่ชายหนุ่มออกไปทำงาน ซุยหลันซีถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มลงมือทำงานบ้าน ซักผ้าแล้วไปปลุกเด็กชายเล่อเล่อ ล้างหน้าให้เด็กชาย ดูแลให้เด็กน้อยกินอาหารเช้า เสร็จแล้วก็มานั่งทำงานออกแบบลายผ้า

เล่อเล่อนั่งเล่นคนเดียวอย่างเงียบๆ เด็กชายชินแล้ว เขาจะไม่เข้าไปกวนเวลาพี่สาวคนสวยทำงาน เพราะแม่ของเขาสั่งมาว่าห้ามกวนพี่สาวคนสวย ไม่อย่างนั้นจะต้องไปอยู่กับยายหวังคนเลี้ยงเด็กของตึกนี้ เขาไม่ชอบเพราะเด็กคนอื่นชอบล้อว่าเขาเป็นเด็กไม่มีพ่อ การได้อยู่กับพี่สาวคนสวยดีกว่าเป็นไหนๆ

เหตุการณ์เป็นแบบนี้จนเข้ามาถึงวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด ซุยหลันซีตื่นมาในอ้อมกอดของเติ้งเว่ยหมิงเหมือนกับทุกวัน แต่ที่ต่างออกไปคือวันนี้เธอกลับไม่สามารถขยับตัวเพื่อลุกออกไปอย่างเงียบๆ เหมือนเช่นทุกวันที่ผ่านมา แค่เพียงขยับตัวออกไปก็ถูกอ้อมแขนแข็งแกร่งของชายหนุ่มกอดเอาไว้แน่น

ซุยหลันซีเงยหน้าขึ้นมองก็พบว่าสายตาของเขามองมาที่เธออยู่ก่อนแล้ว มุมปากของเขาผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แต่กลับดูมีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ

“พี่เว่ยหมิง ปล่อยค่ะ ฉันต้องลุกไปทำอาหารแล้ว”

ซุยหลันซีขยับตัวดิ้นหนีออกมาจากอ้อมแขนของเขา ชายหนุ่มรีบพูดด้วยเสียงแหบพร่า เพราะร่างในอ้อมแขนกำลังปลุกบางสิ่งบางอย่างให้ตื่นตัว

“หยุดดิ้นก่อน”

ซุยหลันซีหยุดดิ้นทันทีโดยไม่ต้องให้เติ้งเว่ยหมิงบอกเป็นครั้งที่สอง หญิงสาวนอนนิ่งไม่ขยับ เธอไม่ได้ไร้เดียงสาถึงขนาดนั้น แม้จะไม่เคยมีประสบการตรงด้วยตนเองมาก่อน แต่สมัยเรียนพวกเพื่อนหญิงก็มักจับกลุ่มพูดคุยเรื่องพวกนี้อย่างถึงพริกถึงขิง จนกระทั่งมาทำงานก็ยังต้องพึ่งพาสารคดีผู้ใหญ่มาเติมเต็มงานเขียนกับงานวาดของตัวเอง

“หลันหลัน เราลองมาคบกันดูดีไหม พวกเราอาจจะเริ่มต้นได้ไม่ดี แต่ว่าตอนนี้พวกเราก็แต่งงานกันแล้ว มาลืมเรื่องในอดีตกันไปให้หมด แล้วเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ดีไหม?”

เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่นมั่นคง ไม่ได้บ่งบอกว่าเขากำลังล้อเล่น

ได้ยินคำพูดของเติ้งเว่ยหมิงซุยหลันซีก็อึ้งงันไปชั่วครู่ ความจริงแล้วเธอไม่ได้เกลียดเขาแม้แต่น้อย กลับแอบชอบเขาเสียอีก

นับตั้งแต่อาศัยอยู่ร่วมกันมา นับว่าเขาเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง แม้จะไม่ค่อยชอบเธอ แต่ก็ไม่เคยปฏิบัติไม่ดีหรือพูดจาไม่ดีกับเธอเลยสักครั้ง การกระทำของเขาบ่งบอกได้ว่าเขาเป็นคนดีคนหนึ่ง

ที่สำคัญตอนนี้เขาเอ่ยปากแบบนี้ เรื่องอะไรจะปฏิเสธล่ะ หน้าตาหล่อเหลา รูปร่างยั่วยวนใจขนาดนี้ ถ้าเธอยังปฏิเสธอีกก็โง่เต็มทีแล้ว

อีกอย่างยังไงก็กลับไปยังยุคสมัยที่จากมาไม่ได้แล้ว จะใช้ชีวิตคนเดียวในยุคนี้ดูแล้วจะยากลำบากยิ่งกว่า ไม่สู้รับปากเขาแล้วช่วยกันทำมาหากิน... แล้วยังจะได้กินเขาอีกด้วย

“พี่เว่ยหมิง พี่แน่ใจใช่ไหม? พี่ชอบฉันเหรอคะ?”

“ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะเห็นด้วยกับที่ผมพูด แต่ว่าผมชอบที่คุณเป็นแบบนี้ เป็นคนที่ห่วงใยคนอื่น เป็นคนที่พูดเพราะ เป็นคนที่มีน้ำใจ เป็นคนที่พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับผม แล้วคุณล่ะ คิดยังไงกับผม?”

เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยตอบ เขาก็ไม่แน่ใจว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไร แต่ว่า หลังจากวันนั้นที่เขาเผลอล่วงเกินเธอ ภายในใจก็ไม่สงบ กระวนกระวายมาตลอด ที่ทำหน้านิ่งๆ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรนั้น เขารู้ว่าตัวเองต้องแข็งใจมากแค่ไหน

ยิ่งพยายามไม่คิดแต่ในใจกลับนึกถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากกายเธอที่แนบชิดอยู่ทุกคืน ไม่ต้องให้บอกว่าเขาทรมานมากแค่ไหน

แม้ก่อนหน้านี้จะเต็มไปด้วยความสงสัยในพฤติกรรมอันแปลกประหลาดของเธอ แต่การเปลี่ยนแปลงอย่างคาดไม่ถึงของเธอกลับค่อยๆ ละลายความสงสัยในใจของเขาลง

รอยยิ้มยามเช้าของเธอตลอดหนึ่งเดือนมานี้ทำให้เขาหวั่นไหว จนกระทั่งอดใจไม่ไหวเผลอใจจูบเธอในวันนั้น

“พี่เว่ยหมิง เมื่อก่อนฉันคงเป็นผู้หญิงที่แย่มากเลยใช่ไหมคะ?”

“อย่าไปพูดถึงเรื่องในอดีตเลย พูดถึงเรื่องของเราตอนนี้ดีกว่า ผมอยากรู้คำตอบว่าคุณคิดยังไงกับผม?” เติ้งเว่ยหมิงไม่ตอบคำถามแต่กลับย้ำคำถามเดิม พร้อมกับกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

“ฉันก็ไม่ได้รังเกียจพี่ค่ะ...” ซุยหลันซีตอบเสียงเบาจนแทบจะเป็นเสียงกระซิบ

“อย่างนั้นหมายความว่าเรายกเลิกข้อตกลงเดิม เปลี่ยนจากสามีภรรยาในนามมาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ ใช่ไหม?”

เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นเล็กน้อย ซุยหลันซีพอได้ยินว่าเป็นสามีภรรยากันจริงๆ เธอก็คิดไปไกลไหนต่อไหนแล้ว ความคิดลามกนั้นทำให้หญิงสาวก้มหน้างุดซบกับอกของเขาอย่างเขินอาย

“ถ้าไม่ตอบผมจะถือว่าคุณตกลงแล้วนะ”

เติ้งเว่ยหมิงเชยใบหน้าจิ้มลิ้มของเธอให้เงยสบตากับตนเอง

เหมือนกับคำโบราณกล่าวไว้ หน้าต่างเป็นดวงตาของหัวใจ ทั้งคู่มองสบตากัน ความหมายมากมายสื่ออยู่ในนั้น

เติ้งเว่ยหมิงเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ตอบคำถาม จึงถือเอาว่าซุยหลันซีตอบตกลงแล้ว ชายหนุ่มก้มใบหน้าลงไปประกบจูบอย่างอ่อนหวาน

บรรยากาศตอนเช้าของวันอาทิตย์ วันพักผ่อนของหลายครอบครัวที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้พวกเขาต่างก็อยากจะนอนขี้เกียจอยู่บนที่นอน วันนี้ตื่นสายหน่อยคงไม่เป็นไร

ในห้วงเวลาแห่งความอบอุ่นยามเช้า เติ้งเว่ยหมิงและซุยหลันซีได้เริ่มต้นบทใหม่แห่งชีวิตคู่ด้วยความรักที่บริสุทธิ์และจริงใจ สองหัวใจที่ราวกับแม่เหล็กขั้วเดียวกันมาตลอด บัดนี้ได้กลายเป็นแม่เหล็กคนละขั้วดึงดูดกันและกัน ผ่านการสัมผัสที่แผ่วเบาแต่เต็มไปด้วยความหมาย

ม่านแห่งรุ่งอรุณค่อยๆ เลื่อนขึ้น แสงแดดอ่อนๆ ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในห้อง เป็นพยานแห่งความรักที่กำลังเบ่งบาน เสียงกระซิบรักและลมหายใจที่สอดประสานกันเป็นทำนองแห่งความสุข ความเขินอายค่อยๆ ละลายไปกับไออุ่นของร่างกายที่แนบชิด

ช่วงเวลาแห่งความสุขผ่านไปวินาทีแล้ววินาทีเล่า ทั้งคู่ดื่มด่ำกับช่วงเวลาแห่งการค้นพบตัวตนของกันและกัน ผ่านสัมผัสที่อ่อนโยนและคำพูดที่เต็มไปด้วยความรัก ความรู้สึกผิดและความขมขื่นในอดีตได้ถูกชะล้างออกไป เหลือไว้เพียงความหวานชื่นและความหวังในอนาคตที่จะร่วมเดินไปด้วยกัน

เมื่อทุกอย่างจบลง ทั้งคู่นอนกอดกันอย่างมีความสุข ไม่มีคำพูดใดที่จำเป็นอีกต่อไป เพราะดวงตาที่สบประสานกันนั้นได้บอกเล่าทุกสิ่งที่อยู่ในใจแล้ว

ซุยหลันซีและเติ้งเว่ยหมิงรู้ดีว่านี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางอันแสนยาวไกล แต่พวกเขาพร้อมที่จะก้าวไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเจออุปสรรคใดๆ ในวันข้างหน้า 

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 18 ผู้ชายกินจุ

    เวลาบ่ายสองโมง เสียงเคาะประตูบ้านดังขึ้นทำให้เติ้งเว่ยหมิงรีบวางผ้าเช็ดตัวผืนเล็กลงในกะละมังแล้วลุกไปเปิดประตู ปรากฏว่าหลี่ชิงหรง เพื่อนบ้านยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าประตู“อาหมิง หลันหลันอยู่บ้านไหม พี่มีเรื่องจะมาบอก”“อยู่ครับ แต่ว่าตอนนี้หลันหลันน่าจะไม่สะดวกพบพี่นะครับ” เติ้งเว่ยหมิงแจ้งด้วยน้ำเสียงสุภาพ“ไม่สะดวกเจอ หลันหลันเป็นอะไรหรือเปล่า”หลี่ชิงหรงถามกลับด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล“เป็นไข้ครับ ผมเลยให้นอนพัก”“อ้อ อย่างนี้นี่เอง ตอนเช้าพี่มาเคาะประตูรอบหนึ่งแล้ว แต่ไม่มีใครออกมาเปิด เลยมาอีกทีตอนบ่าย พี่อุตส่าห์เตือนแล้วเชียวว่าอย่าหักโหมทำงานหนัก เพิ่งย้ายมาได้ไม่นาน อาจจะยังปรับตัวไม่ค่อยได้ ไม่เป็นไร รอให้หลันหลันหายดีก่อนก็แล้วกัน ฝากบอกหลันหลันด้วยละกันว่าพี่มาหา” หลี่ชิงหรงบ่นอุบอิบถึงเพื่อนบ้านรุ่นน้องที่เธอก็รักไม่ต่างกับน้องสาวตนเองจริงๆ“ครับแล้วผมจะบอกให้ ถ้าหลันหลันค่อยยังชั่วแล้วจะให้ไปหาพี่ชิงหรงนะครับ”“ได้ งั้นพี่กลับบ้านก่อนละกัน”หลี่ชิงหรงกลับไปแล้ว เติ้งเว่ยหมิงจึงปิดประตูเดินกลับเข้าไปในห้องนอน ทรุดตัว

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 17 เริ่มต้นกันใหม่ได้ไหม

    เช้าวันรุ่งขึ้นซุยหลันซีตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเติ้งเว่ยหมิง หญิงสาวถึงกับเขินอายและทำตัวไม่ถูก เธอรีบลุกออกไปจากเตียงเงียบๆ โดยหารู้ไม่ว่าชายหนุ่มผู้ที่ตกลงว่าจะเป็นสามีแต่เพียงในนามของเธอนั้นตื่นก่อนเธอนานแล้ว แต่เพื่อไม่ต้องการให้เกิดความกระอักกระอ่วนใจระหว่างพวกเขา ดังนั้นเขาจึงแสร้งทำเป็นยังไม่ตื่นซุยหลันซีตบหน้าเรียกสติตนเองอยู่สองสามทีก่อนจะทำหน้าที่ของตนเองเหมือนทุกวันที่ผ่านมา นั่นก็คือทำอาหารและเตรียมของให้เติ้งเว่ยหมิงไปทำงานทั้งคู่นั่งกินข้าวเช้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครพูดอะไรออกมา แต่บรรยากาศกลับไม่ได้น่าอึดอัดอย่างที่คิด เติ้งเว่ยหมิงมีรอยยิ้มแต้มมุมปากอยู่ตลอดเวลา ส่วนซุยหลันซีก็ก้มหน้าก้มตากินอาหารเช้าอย่างเงียบๆหลังจากที่ชายหนุ่มออกไปทำงาน ซุยหลันซีถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก แล้วเริ่มลงมือทำงานบ้าน ซักผ้าแล้วไปปลุกเด็กชายเล่อเล่อ ล้างหน้าให้เด็กชาย ดูแลให้เด็กน้อยกินอาหารเช้า เสร็จแล้วก็มานั่งทำงานออกแบบลายผ้าเล่อเล่อนั่งเล่นคนเดียวอย่างเงียบๆ เด็กชายชินแล้ว เขาจะไม่เข้าไปกวนเวลาพี่สาวคนสวยทำงาน เพราะแม่ของเขาสั่งมาว่าห้ามกวนพี่สาวคน

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 16 จับผิดภรรยา

    ในเย็นวันเดียวกันนั้น หลังจากที่กินข้าวเสร็จเรียบร้อย เติ้งเว่ยหมิงช่วยซุยหลันซีเก็บจานล้างทำความสะอาด โดยบอกให้เธอไปอาบน้ำส่วนตัวเขานั่งรออยู่บนเตียง ใบหน้าตึงเครียด คิ้วขมวดอยู่ตลอดเวลาหญิงสาวอาบน้ำเสร็จ ออกมาจากห้องน้ำ เดินไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง ใช้สายตามองชายหนุ่มผ่านทางกระจกบรรยากาศช่างน่าอึดอัดและเงียบจนซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากถาม“พี่เว่ยหมิง พี่เป็นอะไรไปหรือเปล่า? หรือมีปัญหาอะไรที่ทำงานอีกไหม หรือว่าผู้จัดการจางทำอะไรให้พี่ไม่สบายใจ?” ซุยหลันซีหยุดมือที่กำลังหวีผม หันหน้ามาทางเขาที่นั่งอยู่บนเตียง ในแววตาเต็มไปด้วยความสงสัยเติ้งเว่ยหมิงไม่ตอบ เขาเงยหน้าขึ้น จ้องมองหญิงสาวราวกับว่าเธอเป็นคนแปลกหน้าสายตาลุ่มลึกที่มองมาทำให้ซุยหลันซีรู้สึกไม่สบายใจ เธอรู้สึกถึงความผิดปกติ จึงลุกขึ้นเดินไปนั่งข้างๆ ชายหนุ่มก่อนจะร้องออกมาด้วยความตกใจเมื่อเติ้งเว่ยหมิงผลักร่างของซุยหลันซี เธอไม่ทันได้ตั้งตัวล้มลงไปบนเตียงนอนเขาใช้มือข้างหนึ่งจับยึดข้อมือเล็กบางของเธอเอาไว้เหนือศีรษะ มืออีกข้างกดอยู่ที่เอวของเธอ ร่างสูงใหญ่

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 15 ข้อเสนอทางการค้า

    อี้ชุนคุ้นเคยกับเติ้งเว่ยหมิงเป็นอย่างดี เพราะเขาเป็นคนรับชายหนุ่มเข้ามาทำงานด้วยตนเองเนื่องจากเติ้งเว่ยหมิงได้มีโอกาสช่วยชีวิตอี้ชุนขณะที่ถูกคนดักปล้น ซึ่งเป็นช่วงที่เติ้งเว่ยหมิงย้ายมาอยู่ที่เมืองนี้ หลังจากช่วยเหลือกันแล้ว อี้ชุนต้องการตอบแทนบุญคุณ แต่เติ้งเว่ยหมิงปฏิเสธหลังจากพูดคุยกันอยู่พักใหญ่อี้ชุนก็รู้ว่าเขาจบการศึกษาวิศวกรรมศาสตร์มา แล้วยังเคยเป็นทหารมาก่อน และตอนนี้กำลังหางานทำ จึงชวนเติ้งเว่ยหมิงมาทำงานคุมเครื่องจักรในโรงงานของตัวเอง จึงนับว่าทั้งคู่ค่อนข้างมีความสนิทสนมกันอยู่พอสมควร“ซุยหลันซี ภรรยาของผมครับ หลันหลัน คนนี้คือคุณอี้ชุนเถ้าแก่เจ้าของโรงงาน”เติ้งเว่ยหมิงเอ่ยแนะนำให้ทั้งสองคนได้รู้จักกันซุยหลันซีจึงค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนกล่าวทักทาย“สวัสดีค่ะ เถ้าแก่อี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ”“ยินดีที่ได้รู้จักครับ อาหมิงฉันไม่คิดว่านายจะปิดบังเรื่องแต่งงานกับฉัน แต่เธอสวยงามและเหมาะสมกับนายมาก” เถ้าแก่อี้ค้อมหัวเล็กน้อยทักทายเธอกลับ แล้วหันไปพูดกับเติ้งเว่ยหมิง ตัดพ้อเขาเล็กน้อย แล้วเอ่ยชมด้วยความจริงใจซุยหลันซ

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 14 จางชุน

    ซุยหลันซีมาถึงโรงงานสิ่งทอจินเซิงที่เติ้งเว่ยหมิงทำงานก็เป็นเวลาพักเที่ยงพอดี โรงงานแห่งนี้มีสวัสดิการอาหารกลางวันให้กับพนักงานทุกคนซุยหลันซีเป็นเพียงคนนอกไม่ได้เป็นพนักงานของโรงงาน เมื่อแจ้งความประสงค์ว่าต้องการขอพบสามีแล้วเธอก็เดินออกมาด้านนอก เพื่อหาอาหารกลางวันรับประทาน เพราะต้องรอให้เติ้งเว่ยหมิงกินข้าวกลางวันเสร็จก่อน เสร็จจากมื้อกลางวันก็เดินกลับเข้าไปที่โรงงานอีกครั้งเธอรออยู่ที่ห้องรับรองของโรงงาน ไม่นานเติ้งเว่ยหมิงก็เดินออกมา“พี่เว่ยหมิงมาแล้วเหรอคะ” ซุยหลันซีลุกขึ้นยืนทันทีที่เห็นเขา“ทำไมคุณถึงมานี่นี่ล่ะ? แล้วที่โรงงานเฟิงหยุนเป็นยังไงบ้าง สำเร็จไหม?”เติ้งเว่ยหมิงรู้ว่าวันนี้เธอไปที่โรงงานตัดเย็บผ้าเฟิงหยุนจึงถามเช่นนี้ แต่ที่เขาไม่เข้าใจก็คือทำไมเธอถึงมาหาเขาที่โรงงานหรือว่าเรื่องนี้จะไม่ง่ายขนาดนั้น?เติ้งเว่ยหมิงขมวดคิ้วแน่น“พี่เว่ยหมิง ฝีมือระดับฉันแล้วจะพลาดเหรอคะ ว่าแต่พี่พอจะพาฉันไปพบเถ้าแก่โรงงานของพี่ได้ไหม ฉันมีข้อเสนอเรื่องธุรกิจจะมาคุยกับเขาค่ะ” ซุยหลันซียืดอกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียง

  • Back to 1985 ฉันกลายเป็นคุณหนูตกอับ   ตอนที่ 13 พันธมิตรคนใหม่

    “คุณซุย ฉันยอมรับว่าชุดที่คุณออกแบบมามันน่าทึ่งมาก คุณสามารถออกแบบชุดเพื่อมาจัดการกับผ้าที่ผลิตผิดพลาดได้ดี ฉันต้องยอมรับในความสามารถของคุณจริงๆ ตั้งแต่ฉันเปิดรับสมัครมาเป็นเวลาสามเดือน มีแบบของคุณซุยนี่แหละที่เข้าตาฉันมากที่สุด” หวงเสี่ยวเหมยเอ่ยขึ้นด้วยความตื่นเต้น“ขอบคุณนะคะที่ชอบชุดของฉัน อันที่จริงที่ฉันทำแบบนี้ก็เพราะต้องการความร่วมมือของคุณค่ะ ฉันใช้ผ้าที่เหลือมาตัดชุดที่ฉันออกแบบ นอกจากชุดที่ฉันตัดมาเป็นตัวอย่างในวันนี้แล้ว ฉันว่าจะออกแบบอีกสักสองสามชุด มีชุดให้ลูกค้าเลือกหลายๆ แบบจะขายได้ง่ายกว่า ร้านค้าส่งที่เป็นคู่ค้าของโรงงานเฟิงหยุนสามารถช่วยขายชุดได้ ฉันเชื่อว่าต้องมีใบสั่งซื้อเพิ่มอีกแน่นอน” ซุยหลันซีโน้มน้าวเถ้าแก่เนี้ยอย่างสุดกำลัง เพราะอยากช่วยแก้ปัญหาให้กับเติ้งเว่ยหมิง นอกจากนี้อาจทำกำไรได้อีกนิดหน่อย“โรงงานเฟิงหยุนยินดีที่จะทำตามที่คุณซุยนำเสนอ แต่ว่าเฟิงหยุนของฉันจะได้อะไรบ้างคะ?” หวงเสี่ยวเหมยแสดงความยินดีที่จะทำตามข้อเสนอของซุยหลันซี แต่ก็ยังคงต่อรองถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ สมกับเป็นเถ้าแก่เนี้ยเจ้าของโรงงานผู้มากประสบการณ์ ที่ไม่เคยเก็บงำเขี้

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status