“ พี่กรทำไมทุกคนถึงทำแบบนี้กับน้ำมนต์คะ ไม่สงสารน้ำมนต์กันบ้างเหรอคะ ยุคสมัยนี้แล้วยังมีอีกเหรอที่ต้องแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่เลือกไว้ให้ ฮือ! “ น้องสาวเอ่ยถามพี่ชายเสียงสั่นเครืออยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ เธอไร้ซึ่งแสงสว่างในหัวใจแล้วตอนนี้ทุกอย่างมืดดับไปหมด
” น้ำมนต์อย่าคิดแบบนั้นสิ ทุกคนรักและหวังดีกับน้ำมนต์นะคุณปู่คิดทุกอย่างมาดีแล้ว พี่เชื่อว่าสักวันไอ้ดินมันต้องแพ้ให้กับความน่ารักของน้องสาวพี่แน่นอน “ มือหนาลูบไปที่เรือนผมสวยของน้องพลางเอ่ยบอกออกไป ” น้ำมนต์ไม่ได้ต้องการให้พี่เขามารักนะคะน้ำมนต์แค่ไม่อยากแต่งงาน “ น้ำมนต์เอ่ยบอกพี่ชายออกไป “ น้ำมนต์มากับพี่ ” กรที่เห็นน้องสาวเอาแต่ร้องไห้ มือหนาจูงมือเรียวเล็กของน้องเดินตรงไปห้องพระที่อยู่บนชั้น 2 ของบ้าน มือหนาเปิดประตูห้องพระเข้าไปภายในมีพระพุทธรูปและพระดังๆมากมาย รวมทั้งภาพของปู่ยา ตายายของทั้งสอง “ ฮือ… คุณปู่คะ สัญญาอะไรเหรอคะที่คุณปู่ถึงกับต้องให้น้ำมนต์แต่งงานกับพี่เขาคุณปู่บอกน้ำมนต์หน่อยได้ไหมคะ “ สองขาเรียวทรุดกายลงนั่งตรงหน้ารูปภาพของปู่ที่ล่วงลับไปแล้วทันที พลางเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ น้ำมนต์ คนนี้ที่ตอนเด็กๆน้ำมนต์เคยถามพี่ตลอดว่าเป็นใครจำได้ไหม “ นิ้วแกร่งของผู้เป็นพี่ชี้ไปยังรูปภาพที่วางอยู่ไม่ไกลจากภาพปู่ของเขามากนัก ” น้ำมนต์ดูดีๆสิหน้าท่านเหมือนใคร “ พี่ชายเอ่ยถามน้องสาวขึ้นอีกครั้ง กระบอกตาสวยจ้องมองภาพนั้นผ่านม่านน้ำตาจากที่เธอไม่รู้มันก็ค่อยๆเฉลยออกมาในความรู้สึกของเธอ ” พี่ดินแดน “ น้ำมนต์เอ่ยขึ้นทันทีเมื่อนึกขึ้นได้ว่าคนในภาพหน้าตาเหมือนกับว่าที่เจ้าบ่าวของเธอราวกับแกะ ” ใช่ลูก นั่นคือคุณปู่เตโซเป็นปู่ของพี่ดินแดนทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันบริษัทของเราเกิดขึ้นได้เพราะคุณปู่ทั้งสองช่วยกันสร้างขึ้นมา “ เสียงของผู้เป็นพ่อเอ่ยพูดขึ้น เขาเห็นลูกชายพาน้องเดินเข้ามาในนี้เลยเดินตามเข้ามาด้วย ” แล้วทำไม… “ ” ทำไมหนูถึงต้องแต่งงานกับพี่ดินใช่ไหม “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยถามลูกสาวขึ้น ” ค่ะ “ ~หลานปีก่อนที่น้ำมนต์ยังมีอายุเพียง 28 สัปดาห์~ “ ไอ้คินทางนี้เว้ย “ เสียงคุณปู่เตโชเอ่ยเรียกปู่ภาคินเสียงดังลั่นที่ลานจอดรถของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดัง “ หลานกูหรือหลานมึงวะเนี่ยมึงเล่นมาถึงก่อนกูอีก ” คุณปู่ภาคินเอ่ยถามเพื่อนรักออกไปเมื่อวันนี้เป็นวันที่ลูกสะใภ้จะต้องมาพบหมอตรวจครรภ์ตามนัดสองปู่ที่อยากมีหลานสาวมากลุ้นยิ่งกว่าลูกตัวเองปู่ทั้งสองบ้านจะมาด้วยทุกครั้งที่ลูกสะใภ้มาหาหมอตามนัด “ หลานมึงก็เหมือนหลานกู หลานสาวคนแรกของเราเลยนะเว้ยดินละลูกตื่นเต้นเหมือนปู่ไหม ” ฝ่ามือที่เริ่มเหี่ยวย่นของปู่เตโชมาเฟียที่ทรงอิทธิพลมากๆในเวลานั้นจูงมือเล็กของหลานชายไว้แน่นพลางเอ่ยถามหลานชายคนแรกของบ้านที่มีอายุ 2 ขวบปลายๆ “ ครับ แต่ไม่ใช่น้องดิน น้องของกร ” ดินแดนที่พูดเก่งมากๆในตอนนั้นเพราะกำลังเตรียมเข้าเรียนในชั้นอนุบาลแล้วเอ่ยบอกปู่ออกไปนิ้วป้อมๆชี้ไปยังกรที่ยืนอยู่กับผู้เป็นพ่อ “ งั้นเอางี้ไหม ต่อไปดินโตดินก็แต่งงานกับน้องเลย “ ปู่เตโชนั่งย่องๆลงพลางเอ่ยถามหลายชาย ” ครับ เดี๋ยวดินโตดินจะแต่งงานกับน้องของกรน้องจะได้มาอยู่บ้านเราคุณปู่ก็จะได้มีหลานผู้หญิงครับ “ ดินแดนที่ยังไม่ประสีประสารู้แค่ว่าปู่อยากมีหลานผู้หญิงมากแต่แม่เขาก็ไม่คลอดน้องผู้หญิงออกมาสักทีเอ่ยบอกปู่ออกไป ฮ่า…ฮ่า…ฮ่า… ผู้ใหญ่ทั้งที่หมดที่ยืนกันอยู่ระเบิดหัวเราะเสียงดังออกมากับประโยคนั้นของเด็กน้อย “ ไปเถอะวะพาหลานไปหาหมอกัน ” คุณปู่เตโชเอ่ยชวนทุกคนออกไปมือหนากับชับมือหลานชายแน่นสาวเท้าหมายจะเดินเข้าไปในโรงพยาบาล ทว่าในจังหวะนั้นเอง บรื้น! บรื้น! ปัง! ปัง! อ๊ะ! “ ไอ้เตชินระวัง ! ” ชายชุดดำสองคนขับมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่ขับมาด้วยความเร็วก่อนที่คนซ้อนท้ายจะเล็งปลายกระบอกปืนมายังปู่เตโชแต่ปู่ภาคินเห็นเข้าซะก่อนเอ่ยบอกเพื่อนเสียงหลงและสาวเท้าวิ่งเข้าไปรับกระสุนปืนแทนเพื่อนรักกับหลานชาย ชายชุดดำหมายจะเอาชีวิตทั้งปู่เตโชและดินแดนในเวลานั้น เพื่อตัดอำนาจและทายาทมาเฟียของตระกูล “ พ่อ ! ” “ ไอ้คิน ! ไอ้คินมึงทำแบบนี้ทำไมวะ ” ท่านเตโชเอ่ยถามเพื่อนเสียงหลงร่างหนาคุกเข่าลงไปประคองเพื่อนเพียงคนเดียวขึ้นมาไว้บนตักแกร่ง “ มึงทำแบบนี้ทำไมวะ มึงตอบกูมาสิ ” “ มึงคือเพื่อนรักของกู กลับกันถ้าเป็นกูมึงก็ทำแบบนี้กูรู้ แค่ก! ” เลือดสีแดงสดมากมายที่ไหนออกมาจากบาดแผลที่หน้าท้องแกร่งของเพื่อนรัก “ ไอ้คิน มึงไม่น่าทำแบบนี้เลย ฮือ! ” ท่านเตโชมาเฟียที่ยิ่งใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในตอนนั้นปล่อยโฮออกมา “ กูฝากหลานกูด้วย หลานสาวของมึงกับกู ” ปู่ภาคินเอ่ยบอกเพื่อนด้วยนำ้เสียงแผ่วเบา “ ได้เพื่อนกูสัญญากูจะดูแลหลานสาวของมึงให้อย่างดี กูขอละลายเลือดของมึงกับกูให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้ไหมวะ “ ท่านเตโชเอ่ยถามเพื่อนที่กำลังเจ็บหนักทั้งน้ำตา ” ได้สิ กูฝากหลานกูด้วย ” “ ปะ ปู่ฝากน้องด้วยนะดิน แค่กๆ ” “ ครับ ดินจะดูแลน้อง ดินจะแต่งงานกับน้อง “ “ กูเป็น หนี้ มึงไอ้คิน กูเป็น หนี้ชีวิตมึง “ ท่านเตโชเอ่ยกับเพื่อนที่อยู่ในอ้อมกอดมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลในตอนนั้นรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมากกับเหตุการณ์ตรงหน้า ดินแดนในเวลานั้นก็ตกใจเป็นอย่างมากเช่นกันกับเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่ตรงหน้าถึงเขาจะเป็นหลานมาเฟียจะต้องขึ้นมาเป็นมาเฟียรุ่นต่อไปแต่คนที่กำลังเจ็บอยู่ตรงหน้าคือปู่อีกคนของเขา สิ้นประโยคนั้นของดินแดนปู่ภาคินก็สิ้นลมไปทันที กระสุน 2 นัดจากคนที่ลอบทำร้ายเขาพรากชีวิตของเพื่อนรักเพียงคนเดียวของท่านเตชินไปอย่างไม่มีวันกลับ ไม่มีใครคาดคิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในวันนี้ทุกคนมาโรงพยาบาลด้วยความหวังๆจะมาดูหลานสาวที่ปู่ๆเฝ้ารอคอย ปู่ทั้งสองร่วมกันทำธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารและการลงทุนมากมายจนเติบโตและยิ่งใหญ่อยู่ในวงการนักธุรกิจทั้งสองถือหุ้นมากมายในเครือย่อยอีกนับสิบบริษัท ความร่ำรวยของสองตระกูลเป็นอันดับ 1 ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ~ ภายในห้องพระ ~ ” เพราะปู่ทั้งสองสัญญากันไว้ก่อนตายว่าอยากหลานได้แต่งงานกันปู่คงเสียใจถ้ารู้ว่าสิ่งที่ปู่เลือกให้มันทำให้หลานไม่มีความสุขขนาดนี้ น้ำมนต์คือหลานสาวเพียงคนเดียวที่ปู่ทั้งสองรักมากนะลูก “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกสาวออกไป เขาคิดทบทวนดีแล้วถ้าลูกไม่ยอมเขาก็จะไม่บังคับลูกอีก เพราะเขาก็รักและสงสารลูกสาวเขามากเหมือนกัน น้ำมนต์นิ่งเงียบไปทันทีเมื่อได้ยินเรื่องเล่าจากปากผู้เป็นพ่อ ~ อีกด้าน ~ รถตู้หรูขับออกจากบ้านหลังใหญ่ของน้ำมนต์ ร่างหนายังนั่งนิ่งอยู่ในรถไม่เอ่ยหรือพูดอะไรออกมา ในใจนึกไปถึงคำพูดของน้องกับสายตาที่มองเขามันดูเมินเฉยทำราวกับเขาเป็นศาลพระภูมิจริงๆแตกต่างจากเวลาที่เธอยิ้มแย้มเป็นอย่างมาก “ ระหว่างรอฤกษ์ดินก็หาเวลาพาน้องไปไหนมาไหนบ้างนะลูกทำความรู้จักกับน้องเอาไว้ หนูน้ำมนต์น่ารักเหมาะกับลูกที่สุดแล้วเรื่องผู้หญิงที่ควงอยู่ไม่ซ้ำหน้าก็หยุดซะคิดถึงหน้าตาของบ้านนู้นบ้าง ” ผู้เป็นแม่ที่นั่งหมั้นไส้ลูกชายมานานเอ่ยบอกขึ้น “ ทำไมผมต้องหยุด ก็ในเมื่อผมกับยัยเด็กนั่นไม่ได้เป็นอะไรกัน อยากให้แต่งผมก็แต่งแล้วไงครับแต่ชีวิตก็ยังเป็นของผมเหมือนเดิม ผมจะอยู่ยังไง เป็นยังไงก็สิทธิ์ของผม ยัยเด็กนั่นอยู่ได้หรือไม่ได้ก็เรื่องของยัยนั่นไม่เกี่ยวกับผม “ ดินแดนเอ่ยเถียงคอเป็นเอ็นเมื่อโดนผู้เป็นแม่บีบบังคับหนักขึ้น ” ถ้าแกไม่ทำตามที่แม่บอกฉันจะถอนทุกหุ้นของแกออกจากบริษัท “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชายหัวดื้อ น้ำเสียงเข้มๆนั้นทำเอาคนขับรถต้องมองนายน้อยผ่านกระจกมองหลังอย่างนึกเป็นห่วง ” หนูน้ำมนต์น่ารักมากแค่ไหนแกก็เห็น “ ผู้เป็นแม่เอ่ยขึ้นอีก ” ถ้าน่ารักมากแม่ก็แต่งเองสิครับจะมาให้ผมแต่งทำไม “ เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! มือเรียวของผู้เป็นแม่ฟาดไปที่ต้นแขนแกร่งของลูกชายหนักๆราวกับจะสั่งสอนกัน ” แม่ผมเจ็บนะครับ “ ” สมควร ปากเหรอที่พูดออกมา “ คุณหญิงที่โมโหลูกชายเป็นอย่างมากเอาแต่หอบหายใจหนักๆเข้าปอด “ ก็แค่ลูกหนี้ที่ไม่มีเงินมาจ่ายคืนจะอะไรกันนักหนาครับ ” ดินแดนที่เข้าใจมาตลอดว่าครอบครัวของน้ำมนต์ติดหนี้ครอบครัวเขาเอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ หึ! ลูกหนี้เหรอวะ ยังมีอีกหลายอย่างที่แกยังไม่เข้าใจ ” ผู้เป็นหัวเราะเบาๆในลำคอแกร่งพลางเอ่ยบอกลูกชายออกไป “ แล้วอะไรละครับที่ผมไม่เข้าใจพ่อกับแม่ก็อธิบายให้ผมเข้าใจสักทีสิ ” ดินแดนเอ่ยขึ้น คิ้วคมขมวดเข้าหากันอย่างต้องการคำตอบ “ สักวันแกจะเข้าใจเอง แล้วจำเอาไว้สัญญาที่คุณปู่เอามาผูกมัดแกมันคือสิ่งที่ดีที่สุด เขาได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับแกแล้ว ” “ นี่เหรอครับสิ่งที่ดีที่สุดของปู่ สำหรับผมดีที่สุดคือสิ่งที่ผมเลือกเอง ” ดินแดนที่ไม่คิดยอมเอ่ยสวนผู้เป็นพ่อออกไปทันที “ ดีของแกคือไอ้พวกผู้หญิงที่แกควงเหรอวะ ” ท่านธีระเอ่ยขึ้นด้วยความโมโหที่ลูกชายไม่คิดจะยอมรับฟังอะไรเลย คนขับรถของบ้านที่เห็นผู้เป็นนายกับนายน้อยทะเลาะกันเสียงดังลั่นรถก็รีบเหยียบคันเร่งให้เร็วขึ้นหวังให้ไปถึงบ้านเร็วๆศึกระหว่างพ่อ แม่ ลูกจะได้จบลงสักที ^^@บริษัท Star Group เอี๊ยด! รถสปอร์ตหรูขับเข้ามาจอดยังช่องจอดรถของผู้บริหาร ร่างหนาลงจากรถมาเงียบๆคนที่โดยสารมาด้วยก็รีบลงตามมาเงียบๆด้วยเช่นกัน ในช่วงเช้าของวันภายในตึกมีพนักงานที่กำลังเดินทางมาทำงานค่อนข้างเยอะร่างหนาเดินสาวเท้าเร็วๆเข้าไปในตึกท่ามกลางสายตาพนักงานมากมาย น้ำมนต์ที่เห็นอีกคนรีบก็คิดไปว่าเขาคงไม่อยากให้เธอเดินใกล้เลยเดินเลี่ยงไปยังร้านคาเฟ่ชื่อดังที่อยู่ในตึกหวังจะรอให้เขาขึ้นไปก่อนเธอค่อยเดินตามเขาขึ้นไป “ ลูกค้ารับอะไรดีครับ ” เจ้าของคาเฟ่ที่วันนี้มีพนักงานลาหาคนแทนไม่ได้ก็เลยต้องมาช่วยขายเองเอ่ยถามลูกค้าที่เปิดประตูเข้ามาอย่างมีมารยาท ชานนท์นิ่งไปทันทีเมื่อเห็นใบหน้าแสนน่ารักของลูกค้า “ เอาชาเขียวหวานน้อย 1 ค่ะ ” น้ำมนต์เอ่ยบอกออกไป ชานนท์ก็ยังยืนมองใบหน้าสวยใสนิ่งราวกับโดนมนต์สะกดไม่ได้ยินในสิ่งที่ลูกค้าสั่ง “ พี่ค่ะ เป็นอะไรรึเปล่าคะ ” น้ำมนต์เอ่ยเรียกเมื่อเห็นอีกคนนิ่งไป “ คุณนนท์คะ คุณนนท์ ” พนักงานอีกคนที่กำลังล้างอุปกรณ์อยู่ที่ซิ้งค์เอ่ยเรียกเจ้านายเบาๆ “ อะ อ๋อ…ครับ รับอะไรนะครับ ” ชานนท์เอ่ยถามออกไปอีกครั้ง “ ชาเขียวหวานน้อย 1 ค่ะ ”
~ เช้าวันใหม่ ภายในบ้านพักของดินแดน ~ คนที่เพิ่งตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวสาวเท้าลงมาจากชั้น 2 ของบ้านเพื่อเตรียมตัวไปทำงานอย่างเช่นทุกวัน “ นายครับทำไม… ” ภูมิเอ่ยถามเมื่อเห็นสภาพนายเหมือนคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน “ กูนอนไม่หลับ ไอ้เหี้ยปวดหัวชิบหาย ” มือหนายกขึ้นมาคลึงๆนวดๆที่ขมับตัวเองกว่าเขาจะได้ขึ้นไปนอนก็เกือบเช้าของอีกวันในสมองมันมีแต่ภาพน้ำมนต์จนทำให้เขานอนไม่หลับ “ นายเครียดเรื่องที่จะต้องแต่งงานเหรอครับ” ภูมิเอ่ยถามอย่างนึกเป็นห่วง “ ไม่ แม่ให้แต่งกูก็จะแต่ง ” ดินแดนเอ่ยบอกภูมิ เพราะเขารู้ดีว่ายังไงพ่อกับแม่ก็ต้องไม่ยอม “ ก็ดีงั้นวันนี้ลูกไปรับหนูน้ำมนต์พาน้องไปบริษัทด้วย ” ดินแดนรีบหันไปมองตามเสียงก็เห็นผู้เป็นแม่เดินเข้ามาในบ้าน ” ทำไมต้องพาไป ? “ ดินแดนเอ่ยถามด้วยความสงสัยแค่ให้แต่งงานด้วยก็แย่พอทนนี่ให้พาไปบริษัทด้วย คืออะไร ” พาน้องไปทุกคนในบริษัทจะได้รู้จักน้อง “ ” จะต้องรู้จักทำไมครับ พาไปทำอะไรก็ไม่เป็นพาไปก็เป็นภาระเกะกะ “ ดวงตาที่เริ่มเหี่ยวย่นจ้องมองลูกชายอย่างเอาเรื่องทันทีเมื่อได้ยินประโยคนั้น “ ครับ ครับ ครับ เดี๋ยวผมไปรับเล
“ ฉันขี้เกียจมานั่งอธิบายกับคนหัวดื้ออย่างแกอีกแล้ว อย่างเดียวที่แกต้องทำคือแต่งงานกับหนูน้ำมนต์แล้วอย่าลืมกลับไปคิดทบทวนทุกอย่างดูให้ดีๆแกรู้ทุกอย่างอยู่แก่ใจ “ ผู้เป็นพ่อเอ่ยบอกลูกชายของตัวเองออกไป นั่นยิ่งทำให้ดินแดนสงสัยหนักเข้าไปใหญ่ เพราะความดื้อรั้น เอาแต่ใจ และมีแนวคิดแบบฝรั่งมันเลยทำให้ดินแดนไม่ฟังใคร เขาอิสระทางความคิด การใช้ชีวิตมาโดยตลอดทำให้ผู้เป็นพ่อกับแม่เบื่อที่จะพูดคุยกับลูกชายตัวเองเต็มแก่ ~ ย้อนกลับไปหลังจากเกิดเหตุการณ์เลวร้ายกับปู่ภาคิน ~ @วัดแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมือง งานศพของปู่ภาคินถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติโดยมีท่านเตโชเป็นคนดำเนินการทุกอย่างให้เพื่อนเพียงคนเดียวของเขา ผู้คนหลังไหลกันมาร่วมแสดงความเสียใจอย่างหนาแน่นทุกคืน หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นภายในงานมีบอดี้การ์ดนับร้อยชีวิตคอยดูแลความปลอดภัยให้กับทายาทตระกูลมาเฟียนั่นคือ ดินแดน และมันก็เป็นช่วงเวลาเดี๋ยวกันกับที่ดินแดนจะต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อเตรียมตัวเข้าศึกษาในชั้นอนุบาล “ ปู่คินครับ ดินจะต้องเดินทางแล้วดินโตดินจะกลับมาแต่งงานกับน้องนะครับ ” ร่างเล็กของเด็กชายในวัย 2 ขวบปลายๆ เดินไปนั่งหน้าหี
“ พี่กรทำไมทุกคนถึงทำแบบนี้กับน้ำมนต์คะ ไม่สงสารน้ำมนต์กันบ้างเหรอคะ ยุคสมัยนี้แล้วยังมีอีกเหรอที่ต้องแต่งงานกับคนที่ผู้ใหญ่เลือกไว้ให้ ฮือ! “ น้องสาวเอ่ยถามพี่ชายเสียงสั่นเครืออยู่ในอ้อมกอดอุ่นๆ เธอไร้ซึ่งแสงสว่างในหัวใจแล้วตอนนี้ทุกอย่างมืดดับไปหมด ” น้ำมนต์อย่าคิดแบบนั้นสิ ทุกคนรักและหวังดีกับน้ำมนต์นะคุณปู่คิดทุกอย่างมาดีแล้ว พี่เชื่อว่าสักวันไอ้ดินมันต้องแพ้ให้กับความน่ารักของน้องสาวพี่แน่นอน “ มือหนาลูบไปที่เรือนผมสวยของน้องพลางเอ่ยบอกออกไป ” น้ำมนต์ไม่ได้ต้องการให้พี่เขามารักนะคะน้ำมนต์แค่ไม่อยากแต่งงาน “ น้ำมนต์เอ่ยบอกพี่ชายออกไป “ น้ำมนต์มากับพี่ ” กรที่เห็นน้องสาวเอาแต่ร้องไห้ มือหนาจูงมือเรียวเล็กของน้องเดินตรงไปห้องพระที่อยู่บนชั้น 2 ของบ้าน มือหนาเปิดประตูห้องพระเข้าไปภายในมีพระพุทธรูปและพระดังๆมากมาย รวมทั้งภาพของปู่ยา ตายายของทั้งสอง “ ฮือ… คุณปู่คะ สัญญาอะไรเหรอคะที่คุณปู่ถึงกับต้องให้น้ำมนต์แต่งงานกับพี่เขาคุณปู่บอกน้ำมนต์หน่อยได้ไหมคะ “ สองขาเรียวทรุดกายลงนั่งตรงหน้ารูปภาพของปู่ที่ล่วงลับไปแล้วทันที พลางเอ่ยถามออกมาด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ น้ำมนต์ คน
สองขาแกร่งสาวเท้าเร็วๆเดินตามน้องมายังสวนหลังบ้าน กระบอกตาคมกวาดสายตามองไปรอบๆบริเวณสวนที่มีต้นไม้ ดอกไม้ปลูกเอาไว้สวยงาม “ ฉันก็ไม่ได้อยากแต่งงานกับเธอหรอกนะ เธอควรไปบอกพ่อแม่ของเธอให้ฉีกไอ้สัญญาบ้าๆนั้นทิ้งไปซะ “ เสียงคมเข้มเอ่ยบอกน้องที่นั่งไหล่เล็กสั่นไหวอยู่ ไม่ต้องเห็นหน้าเขาก็รู้ว่าคนที่เอาแต่ยิ้มแววตาสดใสเมื่อกี้กำลังร้องไห้อยู่ “…..” เงียบ น้องเอาแต่นั่งเงียบไม่เอ่ยพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว “ เงียบทำไม ? หรือว่าเธอเองก็อยากจะแต่งงานกับฉันจนตัวสั่น ” ดินแดนเอ่ยพูดขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นน้องเอาแต่นั่งเงียบ เขาไม่ชอบเอามากๆเวลาที่สนทนากับใครแล้วอีกฝ่ายเงียบใส่มีแค่ตัวเขาเองเท่านั้นที่สามารถทำแบบนี้กับคนอื่นได้ “ เอาอะไรมาอยากแต่งค่ะกับคนที่ทำตัวราวกับเป็นศาลพระภูมิแบบพี่ดินแดนนะเหรอที่น้ำมนต์จะอยากแต่งงานด้วย ” แม้จะโกรธในประโยคนั้นของเขาเอามากๆแต่น้องก็ยังไม่ละทิ้งมารยาทที่มีต่อคนอื่นเสมอ “ เธอกล้าดียังไงมาว่าฉันเป็นศาลพระภูมิ ไอ้ผู้หญิงจืดชืด ติ๋มๆแบบเธอแค่คิดว่าจะต้องแต่งงานด้วยฉันก็สะอิดสะเอียนจะแย่ ” ขวับ! ใบหน้านวลสวยหันขวับไปมองยังคนพี่ทางด้านหลังทันที ร่างบ
น้ำมนต์แม้จะยิ้มรับคุณหญิงในใจได้แต่รู้สึกว่า ดวงตาสีนิลคู่นั้นมันเฉยชาแข็งกร้าวสิ้นดี ใบหน้าหล่อเหลาเรียบเฉยดุจผืนน้ำนิ่ง แถมยังนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวกับรูปปั้น… “ คุณหญิงคะ โต๊ะอาหารพร้อมแล้วค่ะ ” ป้าศรีแม่บ้านเดินมาบอกเจ้านายทันทีที่เตรียมทุกอย่างเรียบร้อย “ ไปทานอาหารกันเถอะนะคะ ” คุณหญิงเดือนเอ่ยชวนแขกทั้ง 3 ทุกคนพากันเดินมายังห้องอาหารที่บนโต๊ะมีอาหารหน้าตาน่าทานวางอยู่เต็มโต๊ะทุกจานถูกจัดไว้อย่างสวยงามราวกับเชฟร้านอาหาร 5 ดาวมาจัดเตรียมเอาไว้ “ นี่ฝีมือหนูน้ำมนต์หมดเลยเหรอลูก ” คุณหญิงกาญจนาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามว่าที่ลูกสะใภ้ “ ใช่ค่ะ คุณป้าลองชิมก่อนนะคะว่าอาหารถูกปากรึป่าว ” น้ำมนต์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ดินแดนเอาแต่ยืนมองแม่กับหญิงสาวคุยกันเงียบๆ “ เชิญครับ เชิญครับ ดินนั่งเลยลูก ” ท่านธงชัยเอ่ยบอกแขกคนสำคัญออกไป “ ครับ ” ดินแดนรับคำอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆแม่ของตัวเอง ทุกคนนั่งประจำที่ของตัวเองด้วยเช่นกัน ทว่าในตาคมเอาแต่จ้องมองคนตรงข้ามอยู่บ่อยครั้งเขาแปลกใจมากว่า ทำไมเธอถึงดูเป็นคนสดใส อารมณ์ดี มีแต่รอยยิ้มอยู่ตลอด “ ดินทานเยอะๆนะล