“งั้นเรามาเริ่มประมูลดื่มของเจย์กันครับเริ่มต้นที่500ดื่มครับ”
“700ดื่มค่ะ!”
“1200ดื่มครับ!”
“1500ดื่มค่ะ!”
“มะ มิ้น ไอ้ดื่ม ๆ มันคืออะไรเหรอ?” เอิงเอยหันไปถามเพื่อนทันทีหลังทุกคนต่างแย่งกันซื้อดื่ม ก่อนที่ยัยมิ้นจะส่ายหัว เบา ๆ แล้วเริ่มอธิบาย
“มันก็เหมือนกับซื้อตัวเขามาอยู่ด้วยนั่นแหละแต่เขาจะเรียกเป็นดื่มกัน ซึ่งแต่ละคนราคาก็จะต่างกันออกไป ส่วนพี่เจย์ของแกอะหนึ่งดื่มก็น่าจะเท่ากับเงินหลักพันแล้วมั้ง”
เอิงเอยเบิกตากว้างทันทีเมื่อได้ฟัง
ถ้าหนึ่งดื่มเท่ากับหลักพันและตอนนี้ที่จำนวนดื่มอยู่หลักพันงั้นเท่ากับว่า 1500 ดื่มก็เป็นเงินหลักล้านแล้วงั้นสิ! O _ O
“3000 ดื่มครับ”
เกิดเสียงโห่ร้องวี๊ดวิ้วขึ้นทันที เอิงเอยมองชายหนุ่มสุดหล่อที่อยู่บนเวที เห็นเขาส่งยิ้มให้กับผู้ชายหน้าตาดีอีกคนหนึ่งที่พึ่งจะประมูลเจย์ไปสามพันดื่ม และใช่...เท่ากับว่านั่นเป็นเงินกว่าสามล้านบาท!
โห…นี่เขาแค่ทำงานวันเดียวก็ได้เงินหลักล้านแล้วเหรอเนี่ย!
“มีใครให้เพิ่มอีกไหมครับเราจะเริ่มนับถอยหลังที่สามพันดื่มนะครับ!”
หัวใจของเอิงเอยเต้นถี่แรง แข่งกับจังหวะดนตรีบีทบนเวที เธอหันไปมองผู้ชายคนที่เพิ่งประมูลพี่เจย์ไปในราคา3000 ดื่มที่ดูจะมั่นอกมั่นใจว่า ต้องชนะประมูลแน่
หญิงสาวหันกลับมองไปยังบนเวที เห็นพี่เจย์สุดหล่อของเธอกำลังส่งยิ้มให้กับผู้ชายคนนั้นอยู่
พลันความเสียดายที่พี่เจย์ของเธอ ต้องตกเป็นของตาเกย์นั่น ความฮึกเหิมของเอิงเอยก็พุ่งทะยานขึ้นสุด มือเรียวยกขึ้นท่ามกลางความเงียบของทุกคน ก่อนจะตะโกนไปสุดเสียงว่า
“5พันดื่มค่ะ!”
หลังจากที่เธอตะโกนประมูลดื่มออกไปสุดเสียง ทุกคนในผับก็เงียบกริบ!
ก่อนที่สายตาทุกคน จะหันมาหาเอิงเอยเป็นตาเดียว
เธอยิ้มแหย ค่อย ๆ หดมือลง ก่อนจะเงยหน้าไปมองเจย์ที่ยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ พลันใบหน้าก็ฉีกยิ้มกว้างด้วยความเขิน
เย้...ในที่สุด พี่เจย์ก็เห็นเธอแล้ว
“หะ..ห้าพันดื่มนะครับวู้วววววว พึ่งเคยเจอเลยมีใครให้มากกว่าแม่สาวน้อยตรงนั้นอีกรึเปล่าครับถ้าไม่มีเราจะเริ่มนับถอยหลังพร้อมกันนะครับ!”
“ยะ ยัยเอิงงงง~ บ้าไปแล้วเหรอห้าพันดื่ม มันห้าล้านบาทเลยนะเว้ย!!” มิ้นทำตาเหลือกหันมาหาเอิงเอยที่กำลังนั่งฝันหวาน
ทำยังไงได้…
รักเค้า…
หลงเค้า…
พร้อมเปย์สุด ๆ...
ก็เธออยากให้พี่เจย์มองเธอบ้างนี่นา
“และแล้วเราก็ได้ผู้ชนะวันนี้ เจย์ของเราตกเป็นทาสแม่สาวน้อยแล้วครับวู้ววววว~” เสียงตบมือและเสียงโห่ร้องขึ้นดังก้องแข่งกับเสียงดนตรีที่ดังตุบตึบแข่งกับหัวใจ
“เอ้าพนักงาน ให้น้องคนสวยสแกนจ่ายเงินจำนวนห้าล้านบาทให้กับเจย์ของเราเลยคร้าบบบบ”
พูดถึงเงินปุ๊ป สติกลับมาปั๊ป พอรู้ตัวเองว่าอาจจะต้องเสียเงินห้าล้านในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เอิงเอยถึงกับลอบกินน้ำลายอึกใหญ่
เสียงโห่ร้อง ทำให้เอิงเอยหันไปกวาดสายตามองทุกคน ก่อนจะยิ้มเขินออกมาอย่างทำตัวไม่ค่อยถูก ทว่าพอหันกลับมาก็เห็นพนักงานกำลังเดินเข้ามาหาพร้อมนำเครื่องรูดบัตรมาให้เอิงเอยสแกนชำระเงิน
อึก…เงินห้าล้านของเอิงเอยจะหายไปจากบัญชีแล้ว
ทุกสายตามองกดดัน รวมถึงพนักงานที่อยู่ตรงหน้า เอิงเอยหยิบมือถือขึ้นมาด้วยมือที่สั่นเทา ก่อนจะเงยหน้าไปมองทางเวทีที่เจย์ที่ส่งยิ้มหวานมาให้
แค่นั้นแหละ รอยยิ้มกระชากใจของเจย์ ทำให้มือเรียวของเอิงเอยรีบกดสแกนจ่ายพร้อมกดตัวเลขจำนวนเงินทันที
โอนไว พร้อมเปย์เพื่อผู้ชายสุด ๆ
ทว่าพอเสียงสัญญาณดังติ้ง~ ว่าเงินหายวับเรียบร้อยแล้ว หัวใจก็กระตุกแกว่งไปเหมือนกัน
เมื่อพนักงานกล่าวขอบคุณ เอิงเอยเลยเงยหน้าขึ้นไปยิ้มแห้งให้พนักงานหนึ่งที
แง…ถ้าพ่อกับแม่บนสวรรค์รู้ว่า เธอเอาเงินมาใช้แบบนี้มีหวังต้องโดนตีจนตายอย่างแน่นอน
-คุณพ่อคุณแม่บนสวรรค์อย่าโกรธเอิงเลยนะคะ คุณพ่อคุณแม่คงอยากให้ลูกสาวที่อยู่ตัวคนเดียวมีความสุขใช่ไหมคะ-
“เจย์มีอะไรจะบอกกับการประมูลดื่มครั้งนี้ไหมครับ?”
เมื่อเสียงพิธีกรประกาศอีกครั้ง สติของเอิงเอยก็กลับมาสู่ความเป็นจริงอีกรอบ เอิงเอยมองบนเวทีอย่างตื่นเต้น เมื่อพิธีกรจ่อไมค์ให้เจย์พูดบ้าง
“ขอบคุณมากนะครับ สำหรับน้องคนสวย”
ความเสียดายเงินห้าล้านที่เสียไปเมื่อครู่ หายวับไปทันที เมื่อได้ยินเสียงหล่อ ๆ ของเจย์พูด
เคลิ้มไปเลย~
“นี่เป็นการประมูลที่มากที่สุดที่เจย์เคยได้รับเลยนะครับ เพราะฉะนั้นเจย์ขอมอบสิทธิพิเศษให้กับคุณน้องคนสวย โดยการที่เจย์จะตามใจคุณน้องคนสวยทุกอย่างเป็นเวลาสามวันครับ”
เกิดเสียงกรี๊ดขึ้นมาทันทีเมื่อร่างสูงพูดจบ ทุกคนต่างกรีดร้องด้วยความอิจฉา รวมถึงเอิงเอยที่ตอนนี้ดีใจจนนั่งไม่ติดเก้าอี้แล้วเช่นกัน
กรี๊ดดดด~
“ว้าวววว นี่มันอะไรกันครับเนี่ย ผมละอิจฉาน้องคนสวยมาก ๆ เลย ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมขอปล่อยพี่เจย์เดย์ของเราไปหาแม่สาวน้อยคนนั้นนับตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ”
พิธีกรประกาศอีกครั้ง ก่อนที่เอิงเอยจะฉีกยิ้มกว้างทันที เมื่อเห็นเจย์ส่งยิ้มให้เธอ ก่อนจะเดินลงมาจากเวที
“แก้~ พี่เขากำลังมาหาฉันใช่ปะวะ~”
เอิงเอยถามเพื่อนซี้อย่างตื่นเต้น แต่ตามองจ้องพี่เจย์ของเธอไม่กะพริบ
“เออค่า~ พี่เขากำลังเดินมาหาแกเลยค่า~”
มิ้นตอบเอิงเอย ทำให้เธอหันไปยิ้มหวานให้นาง เห็นเพื่อนสาวส่ายหน้าเบา ๆ เหมือนจะเอือมนิด ๆ เพราะไม่คิดว่าเอิงเอยจะกล้าเปย์เพื่อผู้ชายคนเดียวได้ขนาดนี้
แต่…
เกือบลืมไปเลยว่าพี่เจย์ไม่ชอบผู้หญิง
แง...จะคุ้มกับเงินห้าล้านที่เสียไปหรือเปล่านะ
🐇🐇🐇
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็