เพื่อนสาวชวนเอิงเอยไปอาบน้ำแต่งตัวทันที ก่อนที่เอิงเอยจะอาบน้ำเสร็จก่อน เธอเลยใช้เวลาอยู่นานมากในการแต่งตัวและเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ แต่ยังไงวันนี้ เธอก็ตั้งใจะพิชิตใจพี่เจย์สุดหล่อให้ได้!
ทว่าพอแต่งตัวเสร็จ แล้วออกมาเจอเพื่อนสาวเท่านั้นแหละ
“ยัยเอิง อย่าบอกนะว่านี่แกจะแต่งตัวแบบนี้เที่ยวบาร์โฮสต์!” เพื่อนสาวถอนหายใจพลางส่ายหน้า
“ทำไมอ่ามิ้น ฉันว่ามันก็น่ารักดีออก” เอิงเอยหมุนตัวโชว์เพื่อน
ชุดกระโปรงบานสีชมพู เปียสองข้างถักยาวลงมาพร้อมกิ๊บตัวการ์ตูนน่ารัก ๆ เธอคิดว่าตัวเองดูดีมากแล้วนะ ทำไมเพื่อนถึงติกันได้ เทสต์ไม่ถึงแน่ ๆ
“จ้า~ ไอ้น่ารักมันก็น่ารัก แต่แกกำลังจะไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์เว้ย ไม่ใช่ทุ่งดอกไม้ มานี่เลยยัยเอิงฉันแต่งตัวให้ใหม่”
พูดจบเอิงเอยก็โดนเพื่อนซี้ก็พาไปถอดชุดทิ้ง แถมยังแกะเปียที่เอิงเอยตั้งใจถักไว้ออกจนหมด
สิบนาทีต่อมา
เอิงเอยยืนมองตัวเองในกระจกอีกครั้ง หลังจากปล่อยให้เพื่อนได้ทำนั่นนี่กับตัวเองจนพอใจ สภาพการแต่งตัวในตอนนี้คือ ใส่ชุดเกาะอกสีดำกับกระโปรงหนังสีดำสั้นจุ๊ดจู๋ ผมถูกดัดเป็นลอน แถมยังแต่งหน้าเข้มจัดอีก มันเป็นลุคที่เอิงเอยไม่คิดจะแต่งมันเลยด้วยซ้ำในชีวิตนี้
“แก~ มันโป๊ไปเปล่า” เอิงเอยเอ่ยถามด้วยความไม่มั่นใจ
“นี้แหละสวยแล้ว”
“จริงนะ”
“เชื่อมือเถอะน่า แกอยากให้พี่เจย์ปิ้งแกใช่ปะ งั้นก็เชื่อมือฉันเถอะ ปะไปกัน” เพื่อนของเอิงเอยดันหลังให้ออกจากที่พัก ก่อนจะพามุ่งตรงไปยังคลับดังแห่งหนึ่ง
#คลับฟินิกซ์ไฟเยอร์
กว่าสองสาวจะมาถึงก็เกือบร่วมชั่วโมง เอิงเอยถูกเพื่อนสาวจูงเข้ามาข้างใน เธอถึงกับมองผู้คนด้วยความตื่นตาตื่นใจ เห็นผู้คนพากันเต้นโยกย้ายอย่างสนุกสนาน
พอมาถึงที่นี่เธอก็เลยเพิ่งเก็ตว่า ทำไมยัยมิ้นถึงให้เธอแต่งตัวแบบจัดเต็มขนาดนี้ เพราะที่นี่มีแต่คนแต่งตัวคล้าย ๆ เธอ แต่ดูแต่งตัวแรงกว่าเป็นสิบเท่า เอิงเอยได้แต่มองซ้ายมองขวาอ้าปากค้างกับความแซ่บของสาว ๆ ในผับนี้
“เสียงโคตรดังอะแก แก้วหูจะแตก” เอิงเอยตะโกนพูด กับยัยมิ้นแข่งกับเสียงเพลงที่ดังกระหึ่ม ในขณะที่นางกำลังจูงมือพาเอิงเอยเดินเข้าไปข้างใน แสงไฟหลากสีสันสาดไปทั่วทั้งผับ แถมเสียงเพลงก็ดังสนั่นจนแสบแก้วหูไปหมด มิหนำซ้ำยังมีกลิ่นแอลกอฮอล์กับบุหรี่ตีพุ่งขึ้นมา จนเอิงเอยถึงกับย่นจมูก
“แก...ฉันว่าเรากลับกันเหอะ”
“มาถึงแล้วจะกลับเนี่ยนะ ยัยเอิง”
“แต่แก...”
“เพื่อนสาวคะ ที่นี่ไม่ใช่วัดนะคะ แต่มันคือคลับค่ะ” มิ้นหันมาทำตาดุใส่เอิงเอย
“แต่แก~ ก็ฉันไม่ชินนี่นา”
“น่า งี้แหละแก นั่งไปสักพักเดี๋ยวแกก็ชินไปเอง” มิ้นเอ่ยตอบก่อนจะจูงมือเอิงเอยไปนั่งที่โต๊ะตัวที่อยู่ด้านหน้าใกล้กับเวที
บาร์โอสต์แห่งนี้เต็มไปด้วยผู้คนหลากหลายความชอบมีทั้งชายและหญิงปะปนกันไป แม้จะเป็นบาร์เกย์ที่จะมีผู้ชายเยอะมากกว่าก็ตาม แต่ผู้หญิงก็ชอบมาเหมือนกัน
เพื่อนสาวบอกกับเอิงเอยว่า
เพราะโฮสต์ของที่นี่มันแซ่บสุด
“วู้วววว~ สวัสดีคร้าบ ทุกคนขอต้อนรับทุกคนเข้าสู่คลับฟิลิกซ์ไฟเยอร์วู้วววววว~” เสียงดีเจประกาศสลับกับจังหวะดนตรีบีทมันส์ ๆ
เอิงเอยเงยหน้าขึ้นไปมองบนเวที ที่มีพิธีกรอีกคนหนึ่งกำลังเดินขึ้นมาพูดบนเวทีอย่างสนใจ นี่เป็นครั้งแรกของหญิงสาวเลยก็ว่าได้ที่เคยมาสถานที่แบบนี้ พอหันไปมองรอบ ๆ ทุกคนต่างส่งเสียงโห่ร้องดังด้วยความสนุกสนาน เว้นก็แต่เอิงเอยที่เพียงมองตาปริบ ๆ ด้วยความตื่นเต้น
“เอิงแกดื่มปะ” มิ้นหันมาหาเพื่อนที่ส่งเครื่องดื่มให้กับเอิงเอย
“ไม่เอาอะ แกดื่มเลย” เธอรีบปฏิเสธเพราะไม่ชอบดื่มเนื่องจากมันไม่อร่อยและขมบาดคอมาก ก่อนจะหันไปสนใจบนเวทีอีกครั้ง
ตอนนี้พิธีกร เชิญหนุ่มโฮสต์ทั้งหมดขึ้นเวที ส่วนเอิงเอยก็มองหากวาดสายตาหาพี่เจย์ของเธอ แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เจอ
“เราจะเริ่มประมูลดื่มด้วยน้องซันกันนะครับ” เสียงพิธีกรประกาศอีกครั้งในขณะที่เอิงเอยพยายามชะเง้อจนคอยืด
“มิ้น แล้วไหนพี่เจย์ของฉันอะ?”
“แหม รอก่อนสิยะหล่อน ของดีก็ต้องเก็บไว้ที่หลังอยู่แล้วปะ”
มิ้นเอ่ยตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะยกเหล้าขึ้นดื่ม เอิงเอยเลยหันไปสนใจหนุ่ม ๆ บนเวทีต่อ ก่อนจะเห็นผู้คนรอบข้างที่เริ่มประมูลดื่มกันอย่างสนุกสนาน จนเริ่มนึกสนุกไปกับคนอื่น ๆ ด้วยเหมือนกัน นับว่าเป็นการเปิดหูเปิดตาที่น่าตื่นเต้นในชีวิตมาก ที่ได้มาเที่ยวที่แบบนี้
“เอาล่ะครับเราก็มาถึงดาวเด่นของงานขอเชิญคุณเจย์เดย์หรือพี่เจย์ของเราขึ้นเวทีหน่อยเร๊วววว~”
กรี๊ดดดดดดดด
เอิงเอยร้องกรี๊ดลั่น พร้อมกันกับเสียงร้องคนอื่น ๆ ที่ดังไม่แพ้กัน มือเรียวยกขึ้นมาปรบมือเชียร์อย่างดีใจ รอยยิ้มฉีกกว้างด้วยความตื่นเต้น
เสียงหัวใจของเอิงเอยเต้นแรงแข่งกับจังหวะบีทบนเวที เพราะนาทีนี้แสงสปอตไลต์กำลังส่องไปที่ใบหน้าของผู้ชายที่เอิงเอยแอบกรี๊ด ก่อนที่เขาจะส่งยิ้มอย่างอ่อนโยนให้กับทุกคนพร้อมโบกมือทักทายไปด้วย
ตายเลยนาทีนี้…ละลายหมดแล้วใจ
หล่อ สุขุม อ่อนโยน เบ้าหน้าฟ้าประทาน แผงอก กล้ามแขน ท่อนขา โอย….ทั้งหมดที่เอิงเอยชอบมันรวมอยู่ในตัวผู้ชายคนนี้หมดแล้ว
“วันนี้เจย์ของเรามาในลุคสบาย ๆ นะครับทั้งเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงสีดำรองเท้าหนังอย่างดีส่วนใบหน้าก็แหม...หล่อครบเครื่องเชียว” พิธีกรบนเวทีประกาศ
หัวใจของเอิงเอยเต้นถี่รัวจนแทบจะหลุดออกมาจากอก รีบส่งยิ้มและโบกมือทักทายเจย์ที่ยืนยิ้มอยู่บนเวที แม้เจ้าตัวจะไม่เห็นเอิงเอยเลยก็ตาม ^ ^!
“ผมหวังว่าวันนี้ จะได้ดูแลคุณนะครับ:) ”
“กรี๊ดดดดดดดด”
หล่อยันเสียง
เอิงเอยกรี๊ดออกมาอีกรอบ เพราะทันทีที่ความหล่อแบบตัวเป็น ๆ ของเจย์พุ่งเข้ามากระแทกตา หัวใจก็หลุดลอยไปตรงหน้า
แถมน้ำเสียงทุ้มนุ่มที่พูดออกมานั่นอีก มีตรงไหนที่ไม่หล่อ…
โอยยยยย คุณแม่ขา.... หนูรักเค้าาาาาา
“กรี๊ดดดดดดดด”
“เก็บอาการหน่อยยัยเอิงโต๊ะข้าง ๆ มองแกกันหมดแล้ว”
มิ้นเอ่ยเตือนสติเอิงเอย แต่ถามว่าฟังไหม ตอบเลยว่าไม่ค่ะ เอิงเอยแค่เพียงหันมายิ้มให้กับเพื่อนสาวแป๊บเดียวเท่านั้น ก่อนจะหันไปสนใจบนเวทีต่อ
🐇🐇🐇
ห้าปีต่อมา“เดซี่”“พ่อคะแม่คะ” ใบหน้าสวยหวานโบกมือทักทายผู้เป็นพ่อกับแม่ด้วยรอยยิ้มใสเด็กตัวน้อยที่หน้าตาน่ารักเหมือนนางฟ้านางสวรรค์คนนี้มีชื่อว่าเดซี่และแน่นอนว่าเอิงเอยคือลูกสาวของเอิงเอยและเจย์“ขอบคุณพ่อกับแม่นะครับที่ดูแลเดซี่ให้” เจย์เอ่ยขึ้นมองพ่อกับแม่ที่เริ่มแก่ลงแต่ก็ยังมาคอยช่วยเลี้ยงหลานในวันที่เขาและเอิงเอยติดธุระ“ไม่เป็นไรลูกแล้วเอิงเอยไปไหนล่ะ” ผู้เป็นแม่เอ่ยถาม“หลับน่ะครับสงสัยเดินเยอะแล้วคงจะเพลีย” เจย์เอ่ยบอกพร้อมกับหอมแก้มลูกสาวตัวน้อยด้วยความคิดถึง“ดูแลกันดีๆ นะลูกพ่อกับแม่ขอตัว” เจย์โบกมือลาพ่อกับแม่รวมถึงเดซี่ที่ยิ้มส่งลาทั้งคู่อย่างน่ารัก“แม่หลับเหรอคะ” เดซี่เอ่ยถาม“ครับสงสัยน้องน่าจะกวนทั้งคืน” เขาเอ่ยบอกด้วยรอยยิ้มวันนี้เขาพาเอิงเอยไปตรวจครรภ์ครบแปดเดือนมา ท้องของเอิงเอยใหญ่มาก เนื่องจากใกล้จะคลอดเต็มที่เด็กในท้องเป็นผู้ชายร่างกายสมบูรณ์และคึกมากๆ เพราะเจ้าตัวถีบท้องเล่นตลอดจนเอิงเอยต้องตื่นกลางดึกอยู่บ่อยครั้ง“น้องดีน่ะเหรอคะ” คำพูดของลูกสาวทำเขาขมวดคิ้วเล็กน้อยก่อนจะวางเดซี่ลงนั่งบนโซฟาและเดินไปหาน้ำมาให้ลูกสาวดื่ม“น้องดีเหรอใครเป็นคนตั้งชื่อ” เขาเอ่
วันต่อมา“พ่อคะแม่คะ หนูพาลูกเขยพ่อกับแม่มาหาแล้วนะ” เอิงเอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสดใสกับหลุมศพของพ่อกับแม่ซึ่งเจย์ก็ได้แต่ยืนนิ่งแม้จะรู้ว่าเอิงเอยในตอนนี้กำลังยิ้มอยู่แต่ภายในของเอิงเอยก็คงเศร้ามากอย่างแน่นอน“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมเจย์ครับ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงสุภาพก่อนจะวางดอกไม้เป็นการเคารพทั้งสองท่านเอิงเอยยิ้มและปัดไปที่รูปภาพเล็กๆ ของทั้งสองอย่างคิดถึง“ไม่ต้องห่วงหนูนะคะหนูใช้ชีวิตอย่างดีมาโดยตลอดและต่อไปนี้หนูก็จะมีคนมาดูแลด้วย” เอิงเอยพูดพร้อมหันไปหาเจย์ที่ส่งยิ้มและบีบมือของเอิงเอยอยู่“คิดถึงนะคะ..นะ..หนูคิดถึงฮึกก....พะพ่อกับแม่มากๆ เลย” เจย์มองเอิงเอยที่เริ่มร้องไห้ออกมาเขาโอบไหล่บางเป็นการปลอบเอิงเอยเข้มแข็งมากที่อยู่ตัวคนเดียวได้บนโลกใบนี้“ตะต่อไปฮึกหนูก็จะคิดถึงพ่อกับแม่อีกฮึกถ้าชาติหน้ามีจริงหนูขอเกิดมาเป็นลูกพ่อกับแม่อีกนะคะ” เอิงเอยเอ่ยขึ้นพร้อมรอยยิ้มเศร้าเจย์ดึงเอิงเอยมาก่อนพร้อมกับลูบผมของเอิงเอยอย่างแผ่วเบา ปล่อยให้เอิงเอยร้องไห้ออกมาจนพอใจก่อนจะผละตัวออกไป“พี่สัญญาว่าต่อจากนี้พี่จะเป็นคนดูแลเราแทนพ่อกับแม่ของเอิงเอง” เจย์พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะกดจู
“พร้อมไหม?” เจย์เอิงถามกับเอิงเอยตอนนี้ทั้งคู่มายืนอยู่หน้าบ้านของเจย์แล้ว สายตาคมจ้องมองบ้านตัวเองที่ไม่ได้มานาน ไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะแก่ไปมากขนาดไหนซึ่งก่อนมาเขาก็ฝากบอกน้องชายให้บอกพ่อกับแม่ไว้แล้ว“ค่ะ!” เอิงเอยเอ่ยตอบด้วยรอยยิ้มเจย์ประหลาดใจเล็กน้อยที่เอิงเอยดูไม่ได้ตื่นเต้นมากเท่าไหร่ และทั้งสองก็พากันเดินเข้าไปในบ้านทันที“ลูก/เจย์” ใบหน้าหล่อมองบุคคลทั้งสองด้วยความคิดถึง เอิงเอยปล่อยมือให้เจย์ได้เข้าไปกอดกับพ่อแม่ทั้งสามยืนกอดกันและเป็นแม่ของเจย์ที่ร้องไห้ออกมาด้วยความคิดถึงลูกชายส่วนเจย์ก็ยิ้มดีใจที่ได้กลับมาเจอพ่อกับแม่อีกครั้ง“ผมขอโทษนะครับ” เจย์เอ่ยขึ้นอย่างรู้สึกผิดแต่ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้เขาก็คงจะเลือกหนีออกจากบ้านเหมือนเดิมเพราะเขาคงทนอยู่ด้วยความอับอายกับความโง่เขลาของตัวเองไม่ได้เหรอ“ไม่เป็นไรลูกผิดพลาดแล้วก็ช่างมัน” แม่ของเจย์เอ่ยขึ้นอย่างอบอุ่นพร้อมกับกอดเจย์อีกครั้ง ส่วนพ่อของเขาก็ยกมือขึ้นลูบผมลูกชายด้วยความรักเช่นกันเอิงเอยมองภาพอบอุ่นด้วยน้ำตาคลอเบ้า เธอเองก็อยากกอดพ่อกับแม่แบบนี้บ้างจัง“แล้วแม่สาวน้อย..”“สวัสดีค่ะหนูชื่อเอิงเอยค่ะ^^” เอิงเอยเอ่ยขึ
เคร้ง!คำพูดของเอิงเอยทำเขาถึงกับทำช้อนตกใส่จานอาหาร เอิงเอยถึงกับหัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจย์ทำท่าช็อก“พูดอะไรเนี่ย!” เจย์เอ่ยขึ้นพร้อมหัวเราะอย่างไม่เชื่อหู มีที่ไหนผู้หญิงจะขอผู้ชายแต่งงานก่อน“ไม่แต่งเหรอคะหนูให้สินสอดพี่เยอะๆ เลยก็ได้” เอิงเอยยังคงพูดต่อ เธอเกรงใจที่เจย์ต้องไปๆ มาๆ ที่คอนโดกับที่บ้านเอิงเอย สู้ย้ายมาอยู่บ้านเธอให้เป็นเรื่องเป็นราวก็สิ้นเรื่อง“เอิงครับ พี่สิต้องเป็นคนขอ ไม่ใช่เรา” เจย์เอ่ยตอบเสียงเรียบ“นี่มันสมัยไหนกันแล้วค่ะไม่สำคัญหรอกว่าใครจะเป็นคนขอก่อน นะๆ แต่งงานกันนะคะ พี่เจย์จะได้ย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านเอิงไง”เจย์ผ่อนลมหายใจด้วยความเหนื่อยใจต้องเป็นเขาสิที่เป็นคนขอเอิงเอยแต่งงานและต้องเป็นเขาสิที่ต้องพาเอิงเอยย้ายมาอยู่ด้วยกัน“น้าๆ ~” เอิงเอยยังคงเว้าวอนไม่เลิกดวงตาสวยกะพริบกันถี่ ๆ จนคนเจย์อมยิ้มออกมา“ไหนแหวนล่ะ” เขาเอ่ยถามเอิงเอยชะงักไปทันทีเพราะไม่ได้เตรียมมา“อะเอ่อเป็นจุ้บ ๆ ขัดไว้ก่อนได้ไหมคะแหะ ๆ ^^” เจย์มองเอิงเอยที่จำแห้งเขาลุกขึ้น ก่อนจะเชยคางเอิงเอยมาจูบอย่างดูดดื่มเอิงเอยจูบตอบด้วยรอยยิ้มเขินในทันทีไม่นานเจย์ก็ผละจูบออกไปสองสายตามองกันพร้อมกับ
“แย่จังนะคะ พอดีพ่อแม่เอิงทิ้งมรดกไว้ให้เยอะมากเสียด้วยสิ” เอิงเอยเอ่ยพร้อมยกยิ้มที่มุมปากเมย่าได้แต่กำหมัดแน่นด้วยความไม่พอใจ แต่ที่ไม่สามารถเอาชนะผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างเอิงเอยได้แล้วตอนนี้ผู้หญิงตัวเล็กหน้าตาใสซื่ออย่างเอิงเอยก็กำลังควบคุมเอิงเอยจนอยู่หมัดเมย่ามองทั้งสองด้วยความแค้นก่อนจะเอ่ยขึ้น“ฝากไว้ก่อนเถอะ!” เมย่าเอ่ยขึ้นก่อนจะหันหลังเดินจากไป ส่วนเอิงเอยได้ยักไหล่ออกมาอย่างไม่แคร์ “ไม่รับฝากจ้าขี้เกียจถือมันหนักคิกๆ” เจย์ส่ายหน้าให้กับความขี้เล่นของเอิงเอยเขาถอนหายใจออกมาอย่างรู้สึกไม่สบายใจทั้ง ๆ ที่เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ แต่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้กับเข้ามาสะสางปัญหาให้เขาจนหมดสิ้น“ขอโทษนะครับ เรื่องทั้งหมดเป็นเพราะพี่แท้ ๆ” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด เอิงเอยมองใบหน้าหล่อก่อนฉีกยิ้มกว้าง“งั้นเอิงขอกอดจากพี่เจย์แน่น ๆ เป็นของรางวัลได้ไหม?”"แถมให้มากกว่ากอด ทั้งคืนเลยครับ"ใบหน้าหล่อระบายยิ้มออกมาก่อนจะสวมกอดอีกฝ่ายเต็มรัก เอิงเอยจมอยู่ในอ้อมกอดแกร่งด้วยรอยยิ้มและหวังว่าต่อจากนี้ผู้ชายของเอิงเอยจะมีแต่ความสุขในทุกๆ วันหนึ่งเดือนต่อมากระแสคู่จิ้นของเจย์และเควินได้ค่อย ๆ หาย
“นายแบบชิดกับนางแบบหน่อยครับ” เจย์ขยับตามคำสั่งเขาโอบเอวบางอันเปลือยเปล่าของเอิงเอยก่อนจะบีบเคล้นมันเบาๆ เอิงเอยเบ้หน้าด้วยความเจ็บเล็กน้อยเงยหน้ามองเจย์ที่ส่งสายตาดุให้กับเธอ แต่เจ้าตัวก็ได้แต่ส่งยิ้มหวานกลับไป“ดีครับน้องนางแบบขอยิ้มแบบสดใสเลยนะครับ” เอิงเอยทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะปรับเปลี่ยนท่าไปตามที่ช่างภาพบอกทุกคนต่างมองด้วยความอึ้งเพราะทั้งสองดูเข้ากันได้ดีมากประหนึ่งถ่ายแบบคู่รักก็ไม่ปาน“ดีครับเจย์กอดจากด้านหลังได้ไหมครับนางแบบโอเครึเปล่า” ช่างภาพเอ่ยถามเอิงเอยพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มไม่นานเจย์ก็เดินไปทางด้านหลังของเอิงเอย ก่อนจะสวมกอดจากด้านหลังและใช้ใบหน้าหล่อเกยบนไหล่ของเอิงเอย“ดีมากครับยิ้มหน่อยครับนางแบบเอามือ แตะหน้านายแบบ เยี่ยมครับ” ทั้งสองถ่ายอยู่เกือบครึ่งชั่วโมงก่อนจะออกไปรอเปลี่ยนฉากเอิงเอยโดนช่างแต่งหน้าเรียกไปเติมหน้า เช่นเดียวกับเจย์ไม่นานฉากใหม่ก็ถูกจัดขึ้นและทั้งสองต้องลงไปนั่งในบ่อน้ำด้วยกันเอิงเอยลงนั่งเป็นคนแรกระดับน้ำอยู่ตรงช่วงอกของเอิงเอยพอดีไม่นานเจย์ก็เดินตามเข้ามา“กลับบ้านไปเจอแน่” เขาเอ่ยเสียงดุก่อนจะหันไปสนใจช่างภาพอีกครั้ง เอิงเอยที่ได้ยินแบบนั้นก็