ดวงตากลมโตลอบมองผู้ชายที่นั่งอยู่บนพื้นพรมขนกระต่ายฝั่งตรงข้ามซึ่งกำลังรัวนิ้วลงบนแป้นพิมพ์ของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กราคาแพง วันนี้เธอกับเขามีนัดมาทำรายงานกันที่โต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟาในห้องรับแขกของคอนโดมิเนียมสุดหรูของเขาเหมือนเดิม
นึกอยากขอบคุณคืนซวยๆ คืนนั้นที่เหวี่ยงให้เขาโผล่มาช่วยเธอจากผู้ชายเลวๆ นั่นได้ทัน และทำให้เธอกับเขาได้มาสนิทสนมกันจนถึงวันนี้
สองปีแล้วสินะ ที่เธอได้นั่งเรียนข้างเขา พูดคุยกับเขาทุกวัน กินข้าวด้วยกันแทบทุกมื้อ ไปเที่ยวด้วยกันบ่อยๆ รวมถึงตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา
อันที่จริงก็ไม่ได้มีแค่เธอกับเขาหรอก ที่ตัวติดกันตลอดเวลา ในกลุ่มของเธอยังมีเพื่อนผู้หญิงอีกหลายคน และหนึ่งในนั้นคือ เกรซ เกศริน เจ้าเก่าเจ้าเดิมที่พยายามอย่างยิ่งยวดในการยุยงส่งเสริมให้เธอบอกความในใจกับเขา แต่เธอก็ไม่กล้าเสียที
แม้จะไม่แน่ใจว่าเขาพอจะมองออกหรือเปล่า ว่าเธอคิดอย่างไรกับเขา แต่ในเมื่อเขายังคงทำตัวเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้ดูมีท่าทีคิดอะไรเกินเลยกับเธอแม้แต่น้อย ทำให้เธอไม่กล้าที่จะสารภาพความในใจออกไป เพราะกลัวว่าถ้าเขาไม่คิดอะไร เธอจะสูญเสียเขาไปตลอดกาล
ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเธอที่เกิดขึ้นมาตลอดสองปีนี้ มันทำให้เธอมีความสุขมาก แม้บางครั้งจะเซ็งสุดๆ ที่พี่ชายฝาแฝดของเขาชอบโผล่หน้ามากวนประสาททุกครั้งที่เธอมาทำรายงานหรือมากินข้าวที่ห้องนี้ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้ก็เช่นกัน
“อะไรวะ แม่ง น่ารำคาญฉิบหาย ก็บอกว่าไม่เอาแล้วไง เราเลิกกัน ไม่เข้าใจหรือไงวะ”
เสียงปึงปังดังขึ้นในห้องนอนของผู้ชายกวนประสาทคนนั้น ตามด้วยผู้หญิงสาวสวยในชุดนักศึกษารัดรูปถูกลากออกมาโยนลงบนพื้นในห้องนั่งเล่นท่ามกลางเสียงกรีดร้องและสายตาอีกหลายคู่ที่พุ่งตรงไปยังหนุ่มสาวคู่นั้น ซึ่งกำลังยื้อยุดฉุดกระชากกันนัวเนีย
“ไม่นะพี่ฟืน พี่จะทิ้งปอยแบบนี้ไม่ได้ ปอยไม่ยอม”
สาวสวยลุกขึ้นวิ่งไปกอดเขาไว้แน่น แต่คนใจร้ายที่ดวงตาดุดันน่ากลัวคนนั้นกลับผลักเธอออกห่างอีกครั้ง
“ไม่ยอมแล้วจะทำอะไรได้ ก็ไม่เอาแล้วไง วุ่นวายฉิบหาย คราวนี้จะไปตามตบใคร หรือจะไปนอนอ้าขาให้ใครเอาก็เรื่องของเธอนะ ฉันไม่เกี่ยว”
“ก็พี่ไปเอากับอีปลา ทำไมปอยจะไปเอากับเพื่อนพี่ไม่ได้”
เขาจับได้ว่าเธอแอบมีอะไรกับเพื่อนของเขาในห้องน้ำของตึกคณะ ในขณะที่เขาเองก็แอบกินเพื่อนสนิทของเธอไปสองสามครั้ง เขาบอกเลิกเธอทันทีที่รู้เรื่องแต่เธอไม่ยอม แถมยังตามไปตบเพื่อนรักของตัวเองแล้วตามมาง้อเขาให้วุ่นวายไปหมด น่ารำคาญฉิบ
“ฉันจะเอากับใครมันก็เรื่องของฉันไง แต่เธอไม่มีสิทธิ์ ฉันเคยนอนกับผู้หญิงคนเดียวด้วยเหรอ ไหนก่อนจะคบกันเป็นแฟนบอกว่ารับได้ไง ถ้ารับไม่ได้จริงๆ ก็เลิกกันไปสิวะ ฉันเอาเธอไม่ลงแล้วว่ะ ออกไปจากห้องฉัน แล้วก็อย่าเสนอหน้ามาที่นี่อีก”
“กรี๊ดดดดด ไอ้ฟืน ไอ้เหี้ย”
“เออ กูมันเหี้ย คราวหลังจะอ้าขาให้ใครเอา ก็เลือกให้มันดีๆ หน่อย จะได้ไม่โดนเอาฟรีๆ อีก”
“กรี๊ดดดดด”
ผู้หญิงคนนั้นออกจากห้องไปแล้ว คนต้นเรื่องจึงเหลือบตามายังน้องชายฝาแฝดและผู้หญิงอีกสองคนที่มองเขาด้วยสายตาที่แตกต่างกันไป
แต่แววตาชิงชังขยะแขยงจากดวงตากลมโตคู่นั้นที่มันพุ่งตรงมาทิ่มแทง ทำให้เขาแสบๆ คันๆ ไปทั้งหัวใจ
เกือบสองปีที่ผ่านมา เขาเจอหน้าเธอบ่อยๆ ที่ห้องของเขา แต่ทุกครั้งที่เธอมา เธอไม่ได้มาหาเขา แต่กลับตัวติดกันกับน้องชายฝาแฝดของเขาตลอดเวลาจนเขาอดหมั่นไส้ไม่ได้
เขาดูออกว่าเจ้าหล่อนแอบชอบไอ้ไฟบรรลัยกัลป์ ด้วยหลงในภาพลักษณ์สุภาพบุรุษผู้แสนอบอุ่นของมันที่ซ่อนเขี้ยวเล็บและหางของจิ้งจอกตัวร้ายไว้อย่างมิดเม้น
นั่นไม่ใช่เพราะว่ามันตั้งใจจะจับเจ้าหล่อนละเลียดกินให้เหลือแต่กระดูกอย่างที่เขาอยากจะทำหรอกนะ แต่เพราะบุคลิกของมันเป็นแบบนั้นเองต่างหาก มันถึงตกผู้หญิงที่ชอบสไตล์คุณชายรูปหล่อที่ดูผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วเข้ามาตายคาอกของมันจนนับไม่ถ้วน
เขายกยิ้มมุมปากให้เธอเล็กน้อย แล้วเดินกลับเข้าห้องนอนของตัวเองไป คนตัวบางแสนเย้ายวนจึงลอบเบะปาก ก่อนจะหันหลังมาพูดกับเพื่อนต่างคณะที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนโซฟาตัวยาว ซึ่งเธอบังเอิญได้รู้จักในตอนที่มาห้องนี้เมื่อเกือบสองปีก่อน
“เพื่อนรักของนุ๊ก โสดอีกแล้วนะ”
สาวสวยร่างบอบบางในชุดเสื้อช็อปของคณะวิศวะกรรมศาสตร์ สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา เด้งตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเพื่อนใหม่ลุคคุณหนูหันมาพูดด้วย ผมยาวที่รวบเอาไว้อย่างลวกๆ หลุดลุ่ยปรกใบหน้าทำให้ดูน่ารักไปอีกแบบจนคนตัวโตซึ่งนั่งอยู่บนพื้นพรมฝั่งตรงข้ามใจเต้นกระตุก
“มันก็โสดของมันประจำ เราชินแล้วล่ะ”
“เราไม่เข้าใจเลย ว่านุ๊กทนคบหมอนั่นมาได้ยังไงตั้งสามปี ทั้งเถื่อน ทั้งหื่น นิสัยก็แย่ ปากก็เสีย ไม่เป็นสุภาพบุรุษสักนิด”
ของขวัญจากพระเจ้าป้องปากเม้าผู้ชายไม่น่าคบคนนั้นกับเพื่อนใหม่ที่ดูไม่ค่อยเป็นผู้หญิงเท่าไรนักเสียงเบา ให้พอได้ยินกันแค่สองคน
“ที่จริงไอ้ฟืนมันเป็นคนดีนะ มันจริงใจ รักเพื่อน รักครอบครัว ถึงแม้มันจะปากหมาไปหน่อย ฟันสาวแล้วทิ้งบ่อยๆ ก็เถอะ”
“สู้ไฟก็ไม่ได้”
นริศราดูออก ว่าเพื่อนใหม่ลุคคุณหนูแอบชอบแฝดน้องลุคคุณชายคนนั้น ก็ดูเหมาะสมกันดี สวยหล่อสง่างามทั้งคู่ แต่เธอก็ไม่ค่อยอยากจะเชียร์เท่าไรนัก อยากให้ของขวัญคนสวยที่นิสัยน่ารัก ไม่ได้ขี้เหวี่ยงขี้วีนเหมือนภาพลักษณ์ที่สร้าง ได้กับผู้ชายที่ดูดีกว่าผู้ชายร้ายกาจชอบสร้างภาพอย่างหมอนี่
บอกตรงๆ แม้ผู้ชายคนนั้นจะหน้าเหมือนเพื่อนรักผู้อยู่ในหัวใจของเธอทุกกระเบียดนิ้ว แต่ท่าทีเจ้าสำอางแบบคุณชาย ท่าทางสุภาพบุรุษแบบเฟคๆ นั่น ไหนจะสายตาที่ชอบมองมาที่เธอแบบแปลกๆ ซึ่งเธออ่านไม่ออกนั่นอีก ยังไม่ต้องพูดถึงความปากเสียที่ชอบพูดจาจิกกัดเธอทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ทำให้เธอไม่ค่อยชอบขี้หน้าหมอนี่เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ
“หึหึ ไอ้คุณชายนั่นก็ไม่ได้ดีแบบที่ของขวัญคิดหรอกนะ รายนั้นก็ฟันสาวแล้วทิ้งเป็นว่าเล่นเหมือนกัน แค่ไม่ได้ทำแบบโจ่งแจ้งเหมือนไอ้ฟืนเท่านั้น”
ขวัญชนกเบิกตากว้าง เธอรู้อยู่หรอก ว่าอัคคีทั้งป๊อปและฮ็อต สาวๆ วิ่งเข้าหาเขาไม่หยุด แต่เธอเองก็ไม่เคยเห็นเขาคั่วกับสาวที่ไหนออกหน้าออกตาเหมือนหมอนั่นสักคน
“นินทาอะไรฉันอยู่ ไอ้นุ๊ก แค่นี้คุณหนูของขวัญก็รังเกียจเพื่อนรักของแกจะแย่แล้วนะ”
คนที่ถูกพูดถึงในด้านไม่ดี เดินออกมานั่งบนโซฟาที่ว่างอีกตัวซึ่งอยู่ใกล้กับคุณหนูของขวัญคนสวย เขาใส่ชุดอยู่บ้านแบบสบายๆ หลังจากที่อาบน้ำลดอุณหภูมิและความเครียดในร่างกายเรียบร้อยแล้ว
คนสวยสะบัดหน้าหนีอย่างไม่ชอบใจ เชิดใบหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วพิมพ์รายงานในส่วนที่เธอได้รับมอบหมายต่อไปโดยมีดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองใบหน้าสวยงามไม่วางตา
“อุบ..แหวะ”อัคราสะดุ้งตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ในวันหยุดเพราะภรรยาคนสวยวิ่งพรวดพราดเข้าไปอาเจียนในห้องน้ำอย่างเอาเป็นเอาตาย“ขวัญครับ ไหวไหม”เขารีบวิ่งมาลูบหลังให้ภรรยาที่อาเจียนจนเหลือแต่น้ำย่อย ก่อนจะส่งแปรงสีฟันให้เธอเพื่อดับกลิ่นน่าเวียนหัวในปากและลำคอ“แปรงฟันก่อนครับ”เธอรับแปรงสีฟันมาแปรง ก่อนจะรีบบ้วนปาก เพราะน้ำย่อยในกระเพาะอาหารมันตีวนขึ้นมาจุกที่คอหอยจนอยากอาเจียนอีกแล้ว“ไม่ไหวแล้ว ขวัญจะอ้วก”“ไปหาหมอไหม อยู่ๆ ก็อ้วก อาหารเป็นพิษหรือเปล่า”“แต่ขวัญไม่ได้ท้องเสีย”“ขวัญยังให้นมลูกอยู่ ถ้าเป็นอะไรเดี๋ยวลูกจะป่วยไปด้วย เราไปหาหมอกันเถอะ”“แต่ขวัญเป็นห่วงลูก”“ที่รักครับ เรามีพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลเด็กๆ แล้วนะ แล้วลูกเราก็ห้าเดือนแล้ว พวกแกเก่งและเข้ากับคนง่ายจะตาย”ที่เขาและเธอต้องหาพี่เลี้ยงเด็ก เพราะในวันหยุด เขาและเธอต้องไปเรียนต่อในระดับปริญญาโทแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ให้แม่ของเขาและแม่บ้านเก่าแก่ของเธอมาช่วยดูแลให้เป็นครั้งคราวในเวลาที่เธอกับเขาไปเรียน“งั้นก็ได้ค่ะ”“ยินดีด้วยนะคะ คุณแม่ตั้งครรภ์ได้สองเดือนแล้วค่ะ”ขวัญชนกชะงักไปเพราะกำลังช็อก แต่อีกคนกลับยิ้มกว้างอย่างยินดี“ขอบค
“ขวัญครับ ผมกลับมาแล้ว”ว่าที่คุณพ่อมือใหม่เลิกงานแล้วก็ตรงไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อของบางอย่างที่เพื่อนแนะนำ“วันนี้ทำไมกลับสายคะ งานเยอะเหรอ”ว่าที่คุณแม่ที่ท้องใหญ่ด้วยอายุครรภ์ห้าเดือนกำลังนอนอ่านหนังสืออยู่ที่พรมขนสัตว์นุ่มฟูที่ห้องนั่งเล่นเพื่อเตรียมตัวสอบเข้าเรียนในระดับปริญญาโท ไม่รู้ว่าปีนี้จะพร้อมจริงๆ หรือเปล่า แต่เธอก็จะลองดู“เยอะเหมือนเดิมครับ ดีนะที่พ่อเห็นใจผมให้มาเรียนรู้งานบริหารแล้ว พ่อบอกจะได้ไม่เหนื่อยมาก เพราะอีกเดี๋ยวขวัญคลอดลูกมาแล้วเราสองคนจะยิ่งเหนื่อย”เพราะเธอกับเขาซื้อบ้านแยกตัวออกมาสร้างครอบครัวกันเองสองคนสามีภรรยา ด้วยอยากใช้ชีวิตแบบไม่ต้องมีใครวุ่นวายหรือต้องเกรงใจใคร โดยเฉพาะการเลี้ยงลูก ซึ่งพ่อแม่มือใหม่อย่างพวกเธอต้องการอิสระและไร้ความกดดัน“ดีจังเลยค่ะ ขวัญดีใจกับฟืนด้วยนะคะ”“อีกอย่าง ผมแวะห้างไปซื้อไอ้นี่มา”ว่าที่คุณพ่อขี้เห่อที่จะต้องมีของติดไม้ติดมือมาแทบทุกวัน ทั้งสั่งออนไลน์และไปเลือกซื้อหามาด้วยตัวเอง และวันนี้ มีของเล่นใหม่มานำเสนอว่าที่คุณแม่วัยใสอีกแล้ว“อะไรอีกแล้วคะ ของเล่นเหรอ ลูกเราเพิ่งห้าเดือนเองนะคะ อีกนานกว่าจะคลอด”“ไม่ใช่ของเ
“ที่รัก ไม่ต้องกลัว ใจเย็นๆ ตอนนี้เราทั้งคู่เรียนจบแล้ว ผมมีงานทำและขวัญก็มีงานรออยู่ เรากำลังจะเรียนโทต่อเพื่ออนาคตของเรา เรียนโทขวัญท้องได้และมีลูกได้ ไม่ได้เป็นปัญหาเลยครับ อีกอย่างผมอยู่ตรงนี้ ไม่ได้หนีไปไหน ผมพร้อมรับผิดชอบขวัญและลูก เราแต่งงานกันนะที่รัก”อัคราดึงขวัญชนกเข้าสู่อ้อมกอด ทั้งยังลูบหลังเพื่อปลอบใจให้เธอคลายความกังวล ดวงตาสับสนวุ่นวายใจคู่นั้นทำเอาเขารู้สึกสงสาร แต่เขาอยากมีลูกและสร้างครอบครัวกับเธอจริงๆ ถึงได้ตัดสินใจทำแบบนั้นลงไป“ฟืนพร้อมแล้วจริงๆ หรือคะ ถ้าฟืนยังไม่พร้อม..ขวัญจะ..”เธอขยับตัวออกจากอ้อมกอด พูดจาลนลานสับสน มือเย็นเยียบกำแน่นด้วยความกดดัน“อย่าแม้แต่จะคิดนะ เขาเป็นลูกของผม ผมตั้งใจทำให้เขาเกิดมา นอกจากขวัญแล้ว ลูกก็เป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิตของผม อย่าเอาเขาไปจากผมเลยนะที่รัก”ทั้งคำพูด น้ำเสียง และแววตาจริงจัง ติดจะดูเศร้าด้วยซ้ำเมื่อเธอคิดจะทำลายเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา มันทำให้เธอเสียใจและรู้สึกผิดมากที่คิดอะไรเอาแต่ได้ชั่ววูบ จนต้องนึกขอโทษลูกในใจ“ฟืนอยากมีลูกจริงๆ เหรอคะ”“อยากมีสิ คิดว่าผมไม่รู้หรือไงว่าการที่ผมแตกในใส่ขวัญทุกครั้งมันจะไม
บนโต๊ะดินเนอร์ที่ตกแต่งด้วยเชิงเทียนและดอกกุหลาบสีขาวนำเข้าช่อโตส่งกลิ่นหอมฟุ้ง ขวดไวน์แดงแช่อยู่ในถังที่มีน้ำแข็งอัดจนเต็ม สเต๊กเนื้อวากิว A5 จานใหญ่ส่งกลิ่นยั่วยวนชวนน้ำลายสอ แต่น่าแปลกที่วันนี้มันกลับทำให้คนตัวบางรู้สึกพะอืดพะอมจนต้องวิ่งไปโก่งคออาเจียนที่ชักโครกเอาอาหารมื้อก่อนหน้านี้ออกมาจนหมดกระเพาะ“ของขวัญ..เป็นอะไรครับ”อัครารีบวิ่งตามแฟนสาวมาลูบหลังให้ด้วยความตกใจ ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ช่วงที่เธออ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบปลายภาคครั้งสุดท้ายของชีวิตนักศึกษา เธอเคร่งเครียดเกินไปหรือเปล่า จนทำให้เธอกลายเป็นโรคกระเพาะอาหารแบบนี้“ขวัญคลื่นไส้ค่ะ มันเหม็น”“เหม็นอะไรครับ ดอกไม้เหรอ มันมียาฆ่าแมลงหรือเปล่า เดี๋ยวผมเอาไปทิ้งให้นะ”“ไม่ได้เหม็นดอกไม้ค่ะ เหม็นสเต๊ก ขวัญว่ามันบูด”อัคราเลิกคิ้วสูงสเต๊กเนื้อวากิว A5 ของโปรดของเธอ มันส่งกลิ่นหอมยั่วยวนออกปานนั้น จะเสียได้อย่างไร อีกอย่างเขาเลือกมาเปิดห้องพักสุดหรูของโรงแรมชื่อดังและให้ทางโรงแรมจัดโต๊ะดินเนอร์ส่วนตัวให้ในห้อง อาหารจานนั้นราคาเหยียบหมื่น ทางโรงแรมไม่มีทางนำเนื้อวัวเสียมาทำอาหารให้กับลูกค้าระดับนี้แน่ๆ“เนื้อไม่บูดหรอกครับขวั
“ทำศพค่ะ ขวัญจะเป็นเจ้าภาพข้าวต้มคืนแรกให้”“โห ที่รักใจร้ายจัง”เขาก้มหน้าลงมาหาเธอที่เงยหน้าขึ้นมองเขาพอดิบพอดี จึงจูบหน้าผากมนอย่างแผ่วเบาครั้งหนึ่ง“ก็ฟืนเป็นของขวัญ ขวัญหวง”เธออมยิ้มแล้วยกตัวขึ้นจูบปลายคางเขาอย่างออดอ้อน การกระทำที่แสนน่ารักของเธอทำเอาหัวใจแกร่งอุ่นวาบไปทั้งดวง“ผมก็หวงขวัญเหมือนกัน ทั้งรักทั้งหวงเลยรู้ไหม”“รู้สิคะ วันนี้ขอบคุณฟืนมากจริงๆ นะ ที่เอะใจเรื่องนี้จนตามไปช่วยขวัญไว้ได้ทัน ตอนนั้นขวัญกลัวมาก ไม่รู้เหมือนกันว่าถ้าโดนมันปล้ำจริงๆ แล้วขวัญจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ยังไง ตอนนั้นขยะแขยงแทบอ้วก”“ขวัญอย่าคิดแบบนี้รู้ไหม ต่อให้ผมตามไปช่วยขวัญไม่ทันแล้วขวัญต้องโดนมันทำอะไรจริงๆ ผมก็ไม่อยากให้ขวัญคิดว่าตัวเองสกปรกไม่มีค่า เพราะขวัญมีค่าสำหรับผมเสมอ และผมไม่ได้สนใจเรื่องนี้ ผมยังรักขวัญเหมือนเดิมและรับได้ทุกอย่าง”“ขวัญโชคดีจังที่คืนนั้นห้าวไปแย่งเหล้าของฟืนมากิน ไม่อย่างนั้นเราก็คงไม่มีวันนี้”“ฮ่าๆๆ ต่อให้คืนนั้นขวัญไม่โดนมอมยา ยังไงเราก็ต้องได้คบกันแบบนี้อยู่แล้ว”“ทำไมล่ะ คืนนั้นฟืนตั้งใจจะปล้ำขวัญอยู่แล้วหรือ”“เปล่าซะหน่อย ถ้าขวัญไม่ยอม ผมก็ไม่ทำหรอก ขวัญก็รู้
เมื่อทุกอย่างกลับเข้าสู่ความสงบอีกครั้งอัคราก็พาขวัญชนกกลับคอนโดมิเนียม เกศรินและอัคคีรอคนทั้งคู่อยู่แล้วที่ห้องชุดของฝาแฝด เขาจึงพาเธอมาหาเพื่อนก่อน“ยัยขวัญ เป็นไงบ้าง ฉันเป็นห่วงแกแทบแย่ เจ็บตรงไหนไหม”เกศรินตรงเข้ามากอดแล้วสำรวจร่างกายบอบบางเพื่อหาร่องรอยการถูกทำร้าย เมื่อเห็นมุมปากแตกยับเริ่มมีสีม่วงช้ำก็รู้สึกโกรธเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ไม่ต่างจากอัคคีเลย“นี่มันตบแกเหรอ ไอ้ชลัชมันชั่วจริงๆ”“ใจเย็นเกรซ ฉันไม่ได้เป็นอะไรแล้ว โชคดีมากที่ฟืนไหวตัวทันโทรหาพ่อ เลยรู้ว่าฉันโดนหลอก ไม่อย่างนั้นฉันต้องตกเป็นเมียของไอ้ชลัชมันแน่ๆ”“ไอ้เลว โดนฟืนยำตีนมันยังน้อยไป แล้วทำไมแกไม่ลากคอมันเข้าคุกไปซะ จะปล่อยให้มันลอยนวลทำไม”“ฉันไม่อยากให้เรื่องมันบานปลาย เกิดถึงหูนักข่าวขึ้นมาก็มีแต่เสียกับเสีย ทั้งบ้านฉันบ้านฟืน ไหนจะคุณตาอีก”“แล้วพ่อแกว่ายังไง”“หย่ากับยัยนั่นแล้ว ตอนนี้พวกนั้นก็กำลังเก็บของออกจากบ้านของฉันอยู่”“ยังดีนะที่คราวนี้พ่อเลือกแก”“ก็หลักฐานมันเห็นคาตาขนาดนั้น ถ้าพ่อยังไม่เชื่อฉันกับฟืนอีกก็ไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว ที่จริงถ้ายัยชนิสากับลูกๆ ไม่เป็นคนแบบนี้ ฉันก็คงปล่อยให้อยู่กับพ่อต่อไ