... เวลาเที่ยงตรง...
“จะไปแล้วเหรอลูก”
“ค่ะแม่ ไปถึงนู่นก็น่าจะเกือบบ่ายโมงพอดี”
“เดินทางดี ๆ นะลูกขึ้นแท็กซี่คนเดียวอย่าลืมที่แม่บอกนะ”
“รับทราบค่ะ”
“จุ๊บ”
“หืม ลูกสาวคนนี้นิ จริง ๆ เลย”
“หนูไปก่อนนะคะ ถ้าสัมภาษณ์เสร็จเร็วหนูจะรีบไปหาแม่ที่บาร์นะคะ”
“จ้ะ ขอให้หนูได้งานนะลูก”
“แม่ก็เดินทางไปทำงานดี ๆ นะคะ เดี๋ยวหนูถึงที่แล้วจะโทรหาค่ะ”
สองแม่ลูกล่ำลากันแบบนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะเธอมีแค่แม่เท่านั้นตั้งแต่เกิดจนอายุเกือบสามสิบปี เป็นทั้งแม่ ทั้งพ่อ ทั้งพี่ เพื่อน เธอมีแค่แม่จริง ๆ
ริสารีบเรียกรถแท็กซี่และบอกปลายทางว่าต้องการไปที่ไหน ในระหว่างเดินทางเธอเองก็ภาวนาให้ได้งานนี้จริง ๆ ไม่รู้เพราะอะไรทำไมเธอถึงต้องการที่จะทำงานนี้ แม่เธอเคยบอกไว้ว่าให้เรานึกถึงสิ่งที่เราอยากได้ แล้วเราจะได้มันเอง
ไม่นานรถแท็กซี่ก็มาจอดที่รั้วบ้านขนาดใหญ่โต นี่เขาไม่เรียกว่าบ้าน นี่เขาเรียกว่าวังหรือเปล่า คงรวยมากเลยใช่ไหมเนี่ย
“นี่ค่ะลุงไม่ต้องทอนนะคะ” ริสายื่นแบงก์สีแดงให้คุณลุง
“โห่นี้มันวังชัด ๆ แล้วดูเราแต่งตัวสิ เอาไงดีล่ะเนี่ย”
“หื้ม สู้สิวะอีริสา เป็นไงเป็นกันละงานนี้”
หญิงสาวสวมชุดด้วยเสื้อเชิ้ตคอปกสีฟ้าอ่อนลายทางขาวกับกางเกงขายาวสีดำ สะพายกระเป๋าข้างสีขาวยืนอยู่หน้าบ้านหลังใหญ่ ก่อนที่จะกดกริ่งเรียกให้คนมาเปิดประตูบ้าน
ไม่นานก็มีเสียงหญิงสูงวัยดินออกมา พร้อมกับเอ่ยถามขึ้น
“มาหาใครเหรออีหนู”
“อ่อ หนูมาสัมภาษณ์งานค่ะ ที่ติดต่อไว้ค่ะ”
“งั้นเข้ามาเลยจ้ะ คุณหญิงท่านอยู่ในบ้านพอดี”
“ขอบคุณค่ะคุณป้า” ริสายกมือไหว้เป็นการขอบคุณ ก่อนที่จะเดินเข้าไปพร้อมกับป้าแม่บ้านที่มาเปิดประตูให้
หญิงสาวเดินเข้าไปอย่างตัวเกร็งไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวแบบไหน เพราะเธอเองไม่เคยเข้าบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้มาก่อน สีหน้าแววตาของเธอในตอนนี้ประหม่าอย่างเห็นได้ชัดเลย
“คุณหญิงคะ คุณครูสอนพิเศษมาถึงแล้วค่ะ”
“ให้เขาเข้ามาเลย แล้วก็ให้ยกน้ำมาเสิร์ฟแขกด้วย”
“เข้ามาเลยหนู...”
สิ้นเสียงแม่บ้านเธอก็เดินเข้าไป ข้างนอกว่าสวยแล้วข้างในคืออลังการมากจริงเธอเดินตัวเกร็งเข้าไปนั่งที่โซฟาก่อนที่จะหย่อนตูดลงไปนั่งข้าง ๆ หญิงสูงวัยที่ท่าทางน่าเกรงขาม
“เธอใช่ไหมที่เป็นครูสอนพิเศษ”
บทสนทนาเริ่มเกิดขึ้น เธอนั่งตัวเกร็งจนแทบไม่อยากที่จะหายใจ ผู้หญิงตรงหน้าช่างน่าเกรงขามจริง ๆ
“ใช่ค่ะ หนูเอง”
“ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่”
“สวัสดีค่ะ หนูชื่อริสา กมลวงศาอายุ 29 ปี ค่ะ”
“มีคนแนะนำเธอมาเหรอ ถึงกล้าโทรมาขนาดนี้”
“รุ่นพี่แนะนำมาค่ะ หนูเห็นว่ารายได้ดี เลยลองติดต่อมาค่ะ”
“ฉันดูจากประสบการณ์การสอนแล้วก็ไม่เท่าไหร่ จะสอนลูกชายฉันไหวไหม”
“หนูจะพยายามค่ะ ถึงแม้ว่าหนูประสบการณ์ยังน้อย แต่ยังไม่อยากให้คุณหญิงตัดสินใจ หากหนูสอนแล้วผลการเรียนไม่ดีขึ้น หนูจะลาออกเองค่ะ” ริสาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ถึงแม้ว่าเธอจะมาเป็นครูสอนพิเศษไม่กี่ปี แต่เด็ก ๆ ที่เคยได้เรียนกับเธอก็ผลการเรียนดีขึ้นทุกคน เธอจึงขอโอกาสให้เธอได้ลองสอนก่อน
“ได้ ฉันจะคอยดู นี่เป็นรายละเอียดและข้อตกลงต่าง ๆ”
“ขอบคุณค่ะ “
ริสาจับมาอ่าน รายละเอียดหนึ่งหน้ากระดาษเต็ม ๆ ซึ่งมันก็ปกติของการเรียนการสอน แต่ที่ตกใจคือค่าจ้างที่ลงไว้กับในใบนี้ไม่เหมือนกัน
“อ่านแล้วมีปัญหาตรงไหนหรือเปล่า”
“หนูว่าค่าจ้างสูงไปนะคะ”
“ถ้าเธอทำได้จริงฉันสามารถให้ได้มากกว่านี้อีก”
หญิงสาวนั่งอึ้งไปชั่วขณะ นี้สินะคนรวย รวยแล้วจะทำอะไรอย่างไรก็ได้ แค่ตอนนั้นมันก็มากแล้ว ถ้าได้ตามในใบนี้จริง ๆ เธอสามารถเลี้ยงแม่เธอได้เลยโดยที่แม่เธอไม่ต้องออกไปทำงานบาร์อีก
“ตกลงตามนี้ โอเคไหม”
“ค่ะคุณหญิง”
“สะดวกเริ่มงานวันไหน”
“พรุ่งนี้ได้เลยค่ะ “
“โอเค เธอกลับบ้านได้ เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะฝากใบสัญญาจ้างไว้ที่แม่บ้าน เธอมาถึงก็กดกริ่งได้เลย”
“ขอบคุณนะคะ ที่รับหนูเข้าทำงาน”
คุณหญิงพยักหน้า พร้อมกับเอ่ยกับแม่บ้านให้ส่งแขกที่ประตู
เธอตื่นเต้นจนลืมโทรหาผู้เป็นแม่ไปเลย นี่ก็จะบ่ายสองแล้ว แม่เธอน่าจะอยู่ที่บาร์แล้วอย่างนั้นไปบอกกับตัวเลยดีกว่า หญิงสาวโบกแท็กซี่เพื่อจะไปขึ้นรถประจำทางไปหาแม่เธอ ตอนนี้เธอทั้งตื่นเต้นและดีใจมาก ๆ ถ้าแม่เธอรู้คงจะดีใจไม่น้อย
“อ้าวหนูสาเห็นแม่บอกไปสัมภาษณ์งานทำไมกลับมาไวจังเลยลูก”
เธอลงจากรถได้ก็โผล่เข้ามาในบาร์แห่งนี้ทันที ทันทีที่เข้ามาก็เจอกับป้าสมพิษ ป้าเลยเอ่ยทักเธอขึ้นเพราะนี่มันพึ่งจะบ่ายสามโมงเอง
“หนูสัมภาษณ์เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะป้า แม่อยู่ไหนคะ”
“อยู่ในห้องพักลูก”
“ขอบคุณค่ะป้า”
หญิงสาวเดินเข้าไปด้วยท่าทางดีอกดีใจ วันนี้เธอมีความสุขเป็นอย่างมากอีกไม่นานเธอคงไม่ได้มาที่แห่งนี้อีกแน่นอนและคงจะให้แม่ได้พักจากการทำงานได้แล้ว
“จ๊ะเอ๋ จ๊ะ..”
“ตาเถร หกตกกระได... หนูสาทำไรแบบนี้ลูก ถ้าแม่หัวใจวายทำไง”
“ขอโทษค้า แม่ตกใจแบบนี้แอบคุยกับหนุ่มที่ไหนหรือเปล่า”
“ทำไมกลับมาเร็วจังเลยอะลูก นี่พึ่งจะบ่ายสามเองนะ”
“หนูได้งานแล้วค่ะแม่ เย่ เย่...”
สองแม่ลูกกระโดดดีอกดีใจเป็นอย่างมาก
“เดี๋ยววันหยุดเราไปกินหมูกระทะกันนะแม่ ชวนป้าสมพิษไปด้วย”
ป้าสมพิษเดินเข้ามาในห้องพักพอดี ตั้งแต่เกิดจนตอนนี้อีกคนหนึ่งที่เธอจะไม่มีวันลืมพระคุณเลยก็คือป้าสมพิษ หัวหน้าฝ่ายครัวที่ช่วยเหลือเธอกับแม่ทุกอย่างแถมยังจิตใจดี คอยมารับส่งแม่อยู่ตลอดตั้งแต่ทำงานที่บาร์แห่งนี้
“ดีใจด้วยนะสา เก่งจังเลยหลานป้าเนี่ย”
“แล้วเขาให้เงินเดือนเท่าไหร่เหรอลูก เห็นหนูอยากทำงานนี้จังเลย”
“นี่ค่ะแม่ อันนี้เป็นรายละเอียดต่าง ๆ”
ริสายื่นเอกสารให้ผู้เป็นแม่ของเธอดู เพราะเธอไม่อยากที่จะปกปิดอะไรอยู่แล้ว
“ห้ะ ให้อะไรตั้งห้าหมื่นต่อเดือน นี่มันงานอะไรกัน
“ไม่หรอก กูไม่ทำให้มึงเดือดร้อนหรอกไอ้เลโอเจอกันนะที่เดิม”“ (เค ๆ นอนได้แล้วมึงอะ จะตี 1 แล้ว) ““เคฝันดีมึง”ครามนั่งคิดทบทวนก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำในห้องน้ำ อย่างไรเขาก็ไม่เรียนและใช่ครับผมนัดเพื่อนไว้แล้วด้วยถือเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้แม่จ้างมาสอนแม่ก็มานั่งเรียนเองสิครับ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำ และล้มตัวลงนอนบนที่นอนขนาดใหญ่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ......เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องของชายหนุ่ม ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงแล้ว วันนี้เขามีคลาสช่วงสายเลยต้องตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย เทอมนี้จำเป็นต้องเข้าเรียนทุกคาบเพราะอยากที่จะจบหมดแล้ว เข้าเรียนพร้อมเพื่อนจบพร้อมเพื่อนไม่เกินจริงครามหยิบผ้าขนหนูพาดบ่าเดินเข้าไปในห้องน้ำภายให้องนอนส่วนตัว เวลาราว ๆ สามสิบนาทีชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับพันผ้าขนหนูสีขาวยาวถึงต้นขาอ่อนเดินออกภายในห้องนอนที่ไม่มีใครอยู่ ชายลูกครึ่งสูงยาวเข่าดี ดีกรีนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย กล้ามท้องมีลูกคลื่นเป็นมัด ๆ มันช่างน่าสัมผัสจริง ๆชายหนุ่มสวมชุดนักศึกษาเต็มยศ ผูกเนกไท สวมแว่นตาสีใส พร้อมกับฉีดน้ำหอมราคาแพงตามร่างกาย ฟุ้งห้องนอน และเดินออกมาจากห้
ไม่นานเธอก็ลงมาด้านล่าง มีลูกสาวกำลังนั่งรอทานข้าวอยู่ด้วยริสาโตขึ้นมากแล้วแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงลูกไม่ได้อายุป่านนี้เเล้วแต่ไม่มีแฟนสักทีเธอกลัวว่าลูกสาวจะขึ้นคาน อย่างน้อยดูเธอเป็นตัวอย่างบั้นปลายชีวิตเธอยังมีลูกสาว หากริสาทำตัวแบบนี้เธอเกรงว่าลูกจะขึ้นคานแน่นอน“มากินข้าวกันค่ะแม่”“หนูสา แม่ถามอะไรหน่อยได้ไหมลูก”“ได้ค่ะ”“หนูไม่มีแฟนเลยเหรอ ปีนี้ก็ 29 แล้วนะ แม่ว่า....”บทสนทนายังไม่ทันจบเธอก็รีบตัดบทผู้เป็นแม่ในทันที เพราะเธอยังไม่อยากที่จะมีใครในตอนนี้เธอเองยังอยากที่จะอยู่กับแม่อยู่ หากชีวิตของแม่เธอยังไม่สบายเธอก็จะไม่มีใครทั้งนั้น“หนูยังไม่พร้อมค่ะแม่ หนูยังอยากที่จะอยู่กับแม่ก่อน”“แต่แม่ว่าเราก็อายุเยอะละนะ ลอง ๆ คุยกับคนอื่นบ้างก็ได้ลูก”“แม่ไม่อยากอยู่กับหนูเหรอคะ...” หญิงสาวเริ่มมีอาการน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมแม่เธอถึงต้องให้เธอรีบหาแฟนขนาดนั้น“อะ ๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก แม่เป็นห่วงหนูมากกว่า อายุเริ่มเยอะขึ้นมันควรที่จะมีคนมาดูแลได้แล้ว ดูแม่สิมีหนูพอแม่อายุเยอะก็มีคนมาดูแลแม่เห็นไหม”“มันไม่เหมือนกันค่ะแม่ ถึงหนูจะไม่มีใครหนูก็สามารถดูแลตัวเองได้ และหนูก็จะอยู่ก
แม่ของเธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นในเอกสารสาไว้ว่าค่าจ้างต่อเดือนห้าหมื่นบาท นี่มันงานสอนพิเศษจริง ๆ เหรอทำไมเขาให้มากมายขนาดนี้“เขาบอกว่าถ้าสอนดี ลูกเขาผลการเรียนดีขึ้น เขาสามารถให้มากกว่านี้อีกค่ะแม่”“แค่สอนพิเศษเองเหรอลูก เขาไม่ได้ให้ไปทำยังอื่นใช่ไหม แม่ว่ามันมากเกินไปนะ”ผู้เป็นแม่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไรแค่ไปสอนพิเศษวันละไม่กี่ชั่วโมงเองอะไรจะให้เยอะขนาดนี้ เขากลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวของเขาในอนาคต“ตอนแรกหนูก็ตกใจค่ะ แต่เห็นบ้านเขาคงจะรวยน่าดู หนูว่าเงินเท่านี้เขาคงไม่ได้เครียดอะไร”“แม่คะถ้าหนูอยากจะขออะไรแม่สักอย่างหนึ่งจะได้ไหมคะ”ริสาเริ่มทำหน้าตาจริงจังขึ้น และเปลี่ยนโทนเสียงทันที เพราะเธอเองตั้งใจจะขอให้แม่เธอลาออกจากงานที่ทำอยู่ตรงนี้ เงินในบัญชีตอนนี้ก็พอมีอยู่บ้างหากได้เงินเดือนก้อนแรกมาเธอก็จะแบ่งให้กับแม่ไว้ใช้จ่ายแต่ขอเพียงให้แม่ของเธอหยุดทำงานแล้วไปพักผ่อนที่บ้าน“ขออะไรเหรอลูก”“ถ้าหนูได้เงินเดือนจากงานนี้ก้อนแรก หนูอยากให้แม่ลาออกจากที่นี่ค่ะ”เธออยากที่จะพูดประโยคนี้มานานแล้ว และแล้ววันนี้ก็มาถึงสักที แม่เธออายุมากแล้วต้องมายืนขาแข็งเจ็ดแปดชั
... เวลาเที่ยงตรง...“จะไปแล้วเหรอลูก”“ค่ะแม่ ไปถึงนู่นก็น่าจะเกือบบ่ายโมงพอดี”“เดินทางดี ๆ นะลูกขึ้นแท็กซี่คนเดียวอย่าลืมที่แม่บอกนะ”“รับทราบค่ะ”“จุ๊บ”“หืม ลูกสาวคนนี้นิ จริง ๆ เลย”“หนูไปก่อนนะคะ ถ้าสัมภาษณ์เสร็จเร็วหนูจะรีบไปหาแม่ที่บาร์นะคะ”“จ้ะ ขอให้หนูได้งานนะลูก”“แม่ก็เดินทางไปทำงานดี ๆ นะคะ เดี๋ยวหนูถึงที่แล้วจะโทรหาค่ะ”สองแม่ลูกล่ำลากันแบบนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะเธอมีแค่แม่เท่านั้นตั้งแต่เกิดจนอายุเกือบสามสิบปี เป็นทั้งแม่ ทั้งพ่อ ทั้งพี่ เพื่อน เธอมีแค่แม่จริง ๆริสารีบเรียกรถแท็กซี่และบอกปลายทางว่าต้องการไปที่ไหน ในระหว่างเดินทางเธอเองก็ภาวนาให้ได้งานนี้จริง ๆ ไม่รู้เพราะอะไรทำไมเธอถึงต้องการที่จะทำงานนี้ แม่เธอเคยบอกไว้ว่าให้เรานึกถึงสิ่งที่เราอยากได้ แล้วเราจะได้มันเองไม่นานรถแท็กซี่ก็มาจอดที่รั้วบ้านขนาดใหญ่โต นี่เขาไม่เรียกว่าบ้าน นี่เขาเรียกว่าวังหรือเปล่า คงรวยมากเลยใช่ไหมเนี่ย“นี่ค่ะลุงไม่ต้องทอนนะคะ” ริสายื่นแบงก์สีแดงให้คุณลุง“โห่นี้มันวังชัด ๆ แล้วดูเราแต่งตัวสิ เอาไงดีล่ะเนี่ย”“หื้ม สู้สิวะอีริสา เป็นไงเป็นกันละงานนี้”หญิงสาวสวมชุดด้วยเสื้อเชิ้ตค
“แม่ทำไม่เราต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยคะ”ริสาสาวหน้าสวยที่ตอนนี้ประกอบอาชีพเป็นครูสอนพิเศษเพราะชีวิตเธอกับผู้เป็นแม่นั้นลำบาก แม่เธออายุจะเลขหกแล้วยังต้องทำงานที่บาร์แห่งนี้อยู่“เราจนไงลูก เราเลือกไม่ได้นะ อะไรที่ได้เงินดีเราจำเป็นต้องทำถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่คนมองไม่ดี”แม่พูดตอบกลับลูกสาววัยเกือบสามสิบปี ถึงแม้ว่าเธอเองจะไม่อยากพาลูกมาลำบากแบบนี้ เพราะงานบาร์ก็รู้ ๆ กันอยู่ สายตาเหล่าชายที่มาเที่ยวก็แทะโลมลูกสาวตัวเองไม่หยุด แต่จะทำไงได้เพราะอาชีพนี้แหละถึงได้ส่งเสียจนริสาจบการศึกษา“เราต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหนนะแม่ หนูอยากให้แม่พักผ่อนได้แล้ว”“แม่ยังไหวอยู่ เราอะกลับไปพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวแม่ให้ป้าอีกคนไปส่ง”“หนูเป็นห่วงแม่นะคะ เดี๋ยวรอกลับพร้อมกันเลยอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกงานแล้ว”“ตามใจเราละกัน เข้าไปงีบในห้องได้นะลูก ทำงานมาเหนื่อย ๆ ยังต้องมานั่งรอแม่ทำงานอีก”หญิงสาวส่งยิ้มให้แม่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพักพนักงาน ตั้งแต่จำความได้ แม่เธอก็ทำงานที่นี่มาโดยตลอดตั้งแต่สาวยังตอนนี้เกือบจะหกสิบแล้วเธอเติบโตมาในบาร์แห่งนี้ จนตอนนี้เธอเองก็จะสามสิบแล้ว ยังไม่สามารถที่จะทำให้ชีวิตแม่