“แม่ทำไม่เราต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยคะ”
ริสาสาวหน้าสวยที่ตอนนี้ประกอบอาชีพเป็นครูสอนพิเศษเพราะชีวิตเธอกับผู้เป็นแม่นั้นลำบาก แม่เธออายุจะเลขหกแล้วยังต้องทำงานที่บาร์แห่งนี้อยู่
“เราจนไงลูก เราเลือกไม่ได้นะ อะไรที่ได้เงินดีเราจำเป็นต้องทำถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่คนมองไม่ดี”
แม่พูดตอบกลับลูกสาววัยเกือบสามสิบปี ถึงแม้ว่าเธอเองจะไม่อยากพาลูกมาลำบากแบบนี้ เพราะงานบาร์ก็รู้ ๆ กันอยู่ สายตาเหล่าชายที่มาเที่ยวก็แทะโลมลูกสาวตัวเองไม่หยุด แต่จะทำไงได้เพราะอาชีพนี้แหละถึงได้ส่งเสียจนริสาจบการศึกษา
“เราต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหนนะแม่ หนูอยากให้แม่พักผ่อนได้แล้ว”
“แม่ยังไหวอยู่ เราอะกลับไปพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวแม่ให้ป้าอีกคนไปส่ง”
“หนูเป็นห่วงแม่นะคะ เดี๋ยวรอกลับพร้อมกันเลยอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกงานแล้ว”
“ตามใจเราละกัน เข้าไปงีบในห้องได้นะลูก ทำงานมาเหนื่อย ๆ ยังต้องมานั่งรอแม่ทำงานอีก”
หญิงสาวส่งยิ้มให้แม่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพักพนักงาน ตั้งแต่จำความได้ แม่เธอก็ทำงานที่นี่มาโดยตลอดตั้งแต่สาวยังตอนนี้เกือบจะหกสิบแล้วเธอเติบโตมาในบาร์แห่งนี้ จนตอนนี้เธอเองก็จะสามสิบแล้ว ยังไม่สามารถที่จะทำให้ชีวิตแม่เธอสบายได้เลย ริสานั่งคิดถึงอดีตของตัวเอง ครอบครัวของเธอไม่สมบูรณ์แบบคนอื่น ๆ แถมยังต้องดิ้นรนมากเพราะความจนมันน่ากลัวที่สุด เธอกับแม่เคยมีเงินติดตัวแค่เพียงหนึ่งร้อยบาท เพื่อดำรงชีวิตให้อยู่รอด จนถึงตอนนี้ถึงแม้ว่าเธอเองจะเรียนจบมาพักใหญ่แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำงานประจำที่ไหนเป็นหลักเป็นแหล่งสักที
เธอเอาแต่โทษตัวเองที่เกิดมาทำให้ชีวิตแม่ของเธอต้องลำบากขนาดนี้...หากไม่มีเธอแม่เธอคงสบายไปแล้ว ไม่ต้องมาทำงานยืนตอนรับเหล่าชายพวกนี้หรอก หญิงสาวมองออกไปเห็นแม่ของตัวเอง น้ำตาก็ค่อย ๆ ไหลออกมาอย่างห้ามความรู้สึกไม่ได้
....ตี 1....
“ริสาลูก ริสา”
“คะ คะ...คะแม่”
“กลับบ้านกันลูก ตีหนึ่งกว่าแล้ว”
ริสาฟุบหลับไปตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ มารู้ตัวอีกทีตอนที่แม่มาปลุก สงสัยจะคิดมากไปจนเผลอหลับ สองคนแม่ลูกเดินทางกลับมาถึงบ้านพักก็ราว ๆ เกือบตีสอง โชคดีที่มีป้าบัว แม่บ้านที่บาร์คอยมาส่งเธอกับแม่ตลอด ป้าบัวเป็นผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนที่เธอเคารพนับถือมาก ก็ได้ป้านี่แหละที่ค่อยช่วยเหลือครอบครัวของเธอ
เหนื่อยมากเหรอลูก แม่บอกแล้วให้กลับมานอนที่บ้าน ไม่ต้องรอ”
“ก็หนูอยากรอแม่นี่คะ แค่เห็นหน้าแม่หนูก็หายเหนื่อยแล้วค่ะ”
“แล้วพรุ่งนี้ต้องตื่นกี่โมง ให้แม่ทำกับข้าวให้ไหม”
“พรุ่งนี้หนูมีสัมภาษณ์งานใหม่ค่ะ แต่เป็นช่วงบ่าย ๆ”
“งั้นก็ตื่นสายได้แล้วน่ะสิ”
สองแม่ลูกคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสา ก่อนที่จะแยกย้ายเข้านอน นาฬิกาในห้องนอนบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาเกือบตีสามแล้ว เธอกับแม่พึ่งได้นอน ส่วนครอบครัวอื่น ๆ คงเป็นเวลาใกล้จะตื่น เธออยากใช้ชีวิตปกติบ้างแต่มันคงยากเพราะเราไม่มีทางเลือก หญิงสาวหลับตาลงในห้วงของความมืด โดนที่ในหัวมีแต่เรื่องให้คิดมาก
“สักวันหนึ่งฉันจะทำให้แม่สบายให้ได้เลยคอยดู” .....
ช่วงสาย ๆ ของวัน แสงแดดส่องเข้ามากระทบหน้าอันแสนหวานที่นอนหลับปุ๋ยอยู่บนที่นอน วันนี้เธอมีนัดสัมภาษณ์งานใหม่ซึ่งเป็นงานสอนพิเศษประจำเธอเห็นว่าค่าจ้างดีเลยลาออกจากที่เก่าเพื่อที่จะมาสัมภาษณ์งานนี้ หากไม่ได้ก็คงต้องไปหางานอื่น ๆ ทำก่อน เพราะเดี๋ยวสิ้นเดือนจะต้องหาเงินมาจ่ายค่าบ้านอีกตามเคย
“เก้าโมงแล้วเหรอเนี่ย”
หญิงสาวรีบเด้งตัวออกจากที่นอนแล้วลงไปหาผู้เป็นแม่ด้านล่าง ริสา หรือแม่เธอชอบเรียกว่าหนูพิมพ์ ในขณะที่กำลังลงบันไดบ้านกลิ่นกับข้าวหอมฟุ้งชั้นล่างบ่งบอกเลยว่าแม่เธอกำลังทำอาหารอยู่ในห้องครัว
“หืม หอมจัง แม่ใครเนี่ย”
“เรานี่นะ มาไม่ให้ซุ่มให้เสียง แม่ตกใจหมด”
“แม่ทำไรคะเนี่ย กลิ่นหอมไปทั่วบ้านเลย”
“แกงจืดปลาหมึกยัดไส้หมูสับ ของโปรดไม่ใช่เหรอ หรือไม่ใช่แล้ว” ผู้เป็นแม่แกล้งพูดทำนองน้อยใจลูกสาว
“ของโปรดหนูตลอดไปค่ะ แม่ทำอะไรก็ของโปรดหนูหมดทุกอย่างเลย”
“ปากหวานจังลูกคนนี้”
“เดี๋ยวตักข้าวเลยลูก มากินพร้อมกันจัดโต๊ะเลย”
“ค่ะแม่”
หญิงสาวตักข้าวสวยร้อน ๆ ใส่จานสองจานแล้วถือมาวางไว้ตรงโต๊ะเล็ก ๆ หน้าทีวี มุมนี้คือมุมที่เธอกับแม่ใช้กินข้าวเป็นประจำนาน ๆ จะได้กินพร้อมกันสองคนแบบนี้ เพราะปกติเธอต้องตื่นเช้าไปทำงานแล้วกลับมาก็มืดค่ำ นี่เป็นวันที่พิเศษที่สุดของเธอในรอบหลายเดือน
อาหารมาเสิร์ฟแล้วค่าาาา “
“อืม…ทำไม่มันดูน่ากินขนาดนี้”
“เราไม่ได้กินข้าวแบบนี้นานหลายเดือนแล้วนะลูก”
“วันนี้มันช่างพิเศษที่สุดเลย”
หลังจากที่สองแม่ลูกพูดคุยเล่าความหลังกัน ก็เริ่มทานข้าวเช้าอย่างเอร็ดอร่อยกับเมนูโปรดของเธอ ที่ผู้เป็นแม่เป็นคนรังสรรค์ทำขึ้นมา จริง ๆ แล้วริสาเป็นเด็กที่กินง่ายอยู่ง่าย แต่เธอจะชอบอาหารทะเลมาก แต่อย่างที่บอกอะไรที่ประหยัดได้ก็ต้องประหยัดเลยไม่ค่อยได้กินเท่าไร วันนี้วันดีเลยทำของโปรดของลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอ ให้ลูกได้ทาน
“แล้วบริษัทเขาให้ไปสัมภาษณ์ที่ไหนล่ะลูก แม่ยังไม่รู้เลย”
“อ่อ หนูลืมบอก เป็นหมู่บ้านค่ะแม่ เป็นลูกคนรวย แม่เขาต้องการครูสอนพิเศษให้มาสอนลูกเขา”
“หืม แล้วเราจะไปไง”
“เดี๋ยวขึ้นแท็กซี่ไปค่ะ ดูจากระยะทางคงไม่กี่บาท”
“แม่ขออวยพรให้ลูกได้งานนะ ขอให้เขาเอ็นดูลูกสาวแม่คนนี้”
“ขอบคุณนะคะแม่ ถ้าได้งานนี้เราไปฉลองกินหมูกระทะกันนะคะ”
หญิงสาวสวมกอดผู้เป็นแม่พร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ พรอันใดก็ไม่สู้พรจากแม่เธอจริง ๆ ถ้าได้งานนี้เธอคงจะสบายกว่านี้แน่ ๆ เพราะเงินเดือนที่เขาจ้างค่อนข้างสูงกว่าปกติ เธอเลยอยากที่จะได้งานนี้ถึงแม้ว่าจะต้องนั่งแท็กซี่ไปทุกวันก็ยังคุ้ม
“ไม่หรอก กูไม่ทำให้มึงเดือดร้อนหรอกไอ้เลโอเจอกันนะที่เดิม”“ (เค ๆ นอนได้แล้วมึงอะ จะตี 1 แล้ว) ““เคฝันดีมึง”ครามนั่งคิดทบทวนก่อนที่จะลุกขึ้นไปอาบน้ำในห้องน้ำ อย่างไรเขาก็ไม่เรียนและใช่ครับผมนัดเพื่อนไว้แล้วด้วยถือเป็นข้ออ้างที่ดีที่สุดแล้วในตอนนี้แม่จ้างมาสอนแม่ก็มานั่งเรียนเองสิครับ ชายหนุ่มคิดในใจก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องน้ำ และล้มตัวลงนอนบนที่นอนขนาดใหญ่เปิดแอร์เย็นฉ่ำ......เสียงนาฬิกาปลุกดังลั่นห้องของชายหนุ่ม ตอนนี้เป็นเวลาแปดโมงแล้ว วันนี้เขามีคลาสช่วงสายเลยต้องตื่นเช้ากว่าปกติหน่อย เทอมนี้จำเป็นต้องเข้าเรียนทุกคาบเพราะอยากที่จะจบหมดแล้ว เข้าเรียนพร้อมเพื่อนจบพร้อมเพื่อนไม่เกินจริงครามหยิบผ้าขนหนูพาดบ่าเดินเข้าไปในห้องน้ำภายให้องนอนส่วนตัว เวลาราว ๆ สามสิบนาทีชายหนุ่มก็เดินออกมาพร้อมกับพันผ้าขนหนูสีขาวยาวถึงต้นขาอ่อนเดินออกภายในห้องนอนที่ไม่มีใครอยู่ ชายลูกครึ่งสูงยาวเข่าดี ดีกรีนักกีฬาว่ายน้ำของมหาวิทยาลัย กล้ามท้องมีลูกคลื่นเป็นมัด ๆ มันช่างน่าสัมผัสจริง ๆชายหนุ่มสวมชุดนักศึกษาเต็มยศ ผูกเนกไท สวมแว่นตาสีใส พร้อมกับฉีดน้ำหอมราคาแพงตามร่างกาย ฟุ้งห้องนอน และเดินออกมาจากห้
ไม่นานเธอก็ลงมาด้านล่าง มีลูกสาวกำลังนั่งรอทานข้าวอยู่ด้วยริสาโตขึ้นมากแล้วแต่ก็อดที่จะเป็นห่วงลูกไม่ได้อายุป่านนี้เเล้วแต่ไม่มีแฟนสักทีเธอกลัวว่าลูกสาวจะขึ้นคาน อย่างน้อยดูเธอเป็นตัวอย่างบั้นปลายชีวิตเธอยังมีลูกสาว หากริสาทำตัวแบบนี้เธอเกรงว่าลูกจะขึ้นคานแน่นอน“มากินข้าวกันค่ะแม่”“หนูสา แม่ถามอะไรหน่อยได้ไหมลูก”“ได้ค่ะ”“หนูไม่มีแฟนเลยเหรอ ปีนี้ก็ 29 แล้วนะ แม่ว่า....”บทสนทนายังไม่ทันจบเธอก็รีบตัดบทผู้เป็นแม่ในทันที เพราะเธอยังไม่อยากที่จะมีใครในตอนนี้เธอเองยังอยากที่จะอยู่กับแม่อยู่ หากชีวิตของแม่เธอยังไม่สบายเธอก็จะไม่มีใครทั้งนั้น“หนูยังไม่พร้อมค่ะแม่ หนูยังอยากที่จะอยู่กับแม่ก่อน”“แต่แม่ว่าเราก็อายุเยอะละนะ ลอง ๆ คุยกับคนอื่นบ้างก็ได้ลูก”“แม่ไม่อยากอยู่กับหนูเหรอคะ...” หญิงสาวเริ่มมีอาการน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเล็กน้อย ทำไมแม่เธอถึงต้องให้เธอรีบหาแฟนขนาดนั้น“อะ ๆ ไม่ใช่แบบนั้นนะลูก แม่เป็นห่วงหนูมากกว่า อายุเริ่มเยอะขึ้นมันควรที่จะมีคนมาดูแลได้แล้ว ดูแม่สิมีหนูพอแม่อายุเยอะก็มีคนมาดูแลแม่เห็นไหม”“มันไม่เหมือนกันค่ะแม่ ถึงหนูจะไม่มีใครหนูก็สามารถดูแลตัวเองได้ และหนูก็จะอยู่ก
แม่ของเธอตกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นในเอกสารสาไว้ว่าค่าจ้างต่อเดือนห้าหมื่นบาท นี่มันงานสอนพิเศษจริง ๆ เหรอทำไมเขาให้มากมายขนาดนี้“เขาบอกว่าถ้าสอนดี ลูกเขาผลการเรียนดีขึ้น เขาสามารถให้มากกว่านี้อีกค่ะแม่”“แค่สอนพิเศษเองเหรอลูก เขาไม่ได้ให้ไปทำยังอื่นใช่ไหม แม่ว่ามันมากเกินไปนะ”ผู้เป็นแม่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อใจเท่าไรแค่ไปสอนพิเศษวันละไม่กี่ชั่วโมงเองอะไรจะให้เยอะขนาดนี้ เขากลัวเหลือเกินว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวของเขาในอนาคต“ตอนแรกหนูก็ตกใจค่ะ แต่เห็นบ้านเขาคงจะรวยน่าดู หนูว่าเงินเท่านี้เขาคงไม่ได้เครียดอะไร”“แม่คะถ้าหนูอยากจะขออะไรแม่สักอย่างหนึ่งจะได้ไหมคะ”ริสาเริ่มทำหน้าตาจริงจังขึ้น และเปลี่ยนโทนเสียงทันที เพราะเธอเองตั้งใจจะขอให้แม่เธอลาออกจากงานที่ทำอยู่ตรงนี้ เงินในบัญชีตอนนี้ก็พอมีอยู่บ้างหากได้เงินเดือนก้อนแรกมาเธอก็จะแบ่งให้กับแม่ไว้ใช้จ่ายแต่ขอเพียงให้แม่ของเธอหยุดทำงานแล้วไปพักผ่อนที่บ้าน“ขออะไรเหรอลูก”“ถ้าหนูได้เงินเดือนจากงานนี้ก้อนแรก หนูอยากให้แม่ลาออกจากที่นี่ค่ะ”เธออยากที่จะพูดประโยคนี้มานานแล้ว และแล้ววันนี้ก็มาถึงสักที แม่เธออายุมากแล้วต้องมายืนขาแข็งเจ็ดแปดชั
... เวลาเที่ยงตรง...“จะไปแล้วเหรอลูก”“ค่ะแม่ ไปถึงนู่นก็น่าจะเกือบบ่ายโมงพอดี”“เดินทางดี ๆ นะลูกขึ้นแท็กซี่คนเดียวอย่าลืมที่แม่บอกนะ”“รับทราบค่ะ”“จุ๊บ”“หืม ลูกสาวคนนี้นิ จริง ๆ เลย”“หนูไปก่อนนะคะ ถ้าสัมภาษณ์เสร็จเร็วหนูจะรีบไปหาแม่ที่บาร์นะคะ”“จ้ะ ขอให้หนูได้งานนะลูก”“แม่ก็เดินทางไปทำงานดี ๆ นะคะ เดี๋ยวหนูถึงที่แล้วจะโทรหาค่ะ”สองแม่ลูกล่ำลากันแบบนี้เป็นกิจวัตรประจำวัน เพราะเธอมีแค่แม่เท่านั้นตั้งแต่เกิดจนอายุเกือบสามสิบปี เป็นทั้งแม่ ทั้งพ่อ ทั้งพี่ เพื่อน เธอมีแค่แม่จริง ๆริสารีบเรียกรถแท็กซี่และบอกปลายทางว่าต้องการไปที่ไหน ในระหว่างเดินทางเธอเองก็ภาวนาให้ได้งานนี้จริง ๆ ไม่รู้เพราะอะไรทำไมเธอถึงต้องการที่จะทำงานนี้ แม่เธอเคยบอกไว้ว่าให้เรานึกถึงสิ่งที่เราอยากได้ แล้วเราจะได้มันเองไม่นานรถแท็กซี่ก็มาจอดที่รั้วบ้านขนาดใหญ่โต นี่เขาไม่เรียกว่าบ้าน นี่เขาเรียกว่าวังหรือเปล่า คงรวยมากเลยใช่ไหมเนี่ย“นี่ค่ะลุงไม่ต้องทอนนะคะ” ริสายื่นแบงก์สีแดงให้คุณลุง“โห่นี้มันวังชัด ๆ แล้วดูเราแต่งตัวสิ เอาไงดีล่ะเนี่ย”“หื้ม สู้สิวะอีริสา เป็นไงเป็นกันละงานนี้”หญิงสาวสวมชุดด้วยเสื้อเชิ้ตค
“แม่ทำไม่เราต้องมาทำงานแบบนี้ด้วยคะ”ริสาสาวหน้าสวยที่ตอนนี้ประกอบอาชีพเป็นครูสอนพิเศษเพราะชีวิตเธอกับผู้เป็นแม่นั้นลำบาก แม่เธออายุจะเลขหกแล้วยังต้องทำงานที่บาร์แห่งนี้อยู่“เราจนไงลูก เราเลือกไม่ได้นะ อะไรที่ได้เงินดีเราจำเป็นต้องทำถึงแม้ว่ามันจะเป็นงานที่คนมองไม่ดี”แม่พูดตอบกลับลูกสาววัยเกือบสามสิบปี ถึงแม้ว่าเธอเองจะไม่อยากพาลูกมาลำบากแบบนี้ เพราะงานบาร์ก็รู้ ๆ กันอยู่ สายตาเหล่าชายที่มาเที่ยวก็แทะโลมลูกสาวตัวเองไม่หยุด แต่จะทำไงได้เพราะอาชีพนี้แหละถึงได้ส่งเสียจนริสาจบการศึกษา“เราต้องอยู่แบบนี้อีกนานแค่ไหนนะแม่ หนูอยากให้แม่พักผ่อนได้แล้ว”“แม่ยังไหวอยู่ เราอะกลับไปพักผ่อนได้แล้ว เดี๋ยวแม่ให้ป้าอีกคนไปส่ง”“หนูเป็นห่วงแม่นะคะ เดี๋ยวรอกลับพร้อมกันเลยอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เลิกงานแล้ว”“ตามใจเราละกัน เข้าไปงีบในห้องได้นะลูก ทำงานมาเหนื่อย ๆ ยังต้องมานั่งรอแม่ทำงานอีก”หญิงสาวส่งยิ้มให้แม่ก่อนที่จะเดินเข้าไปในห้องพักพนักงาน ตั้งแต่จำความได้ แม่เธอก็ทำงานที่นี่มาโดยตลอดตั้งแต่สาวยังตอนนี้เกือบจะหกสิบแล้วเธอเติบโตมาในบาร์แห่งนี้ จนตอนนี้เธอเองก็จะสามสิบแล้ว ยังไม่สามารถที่จะทำให้ชีวิตแม่