ตึก...ตึก...ตึก
ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทอย่างเป็นทางการเดินเข้ามาในงานเลี้ยงแห่งหนึ่งที่เต็มไปด้วยบรรดานักธุรกิจมากมายและคนมีชื่อเสียงในวงการจำนวนมาก รวมถึงบรรดานักข่าวที่มารอถ่ายรูปกับคนมีชื่อเสียง ไม่เว้นแม้แต่เขา
ตั้งแต่ที่ร่างสูงเดินเข้ามานั้นบรรดาหญิงสาวมากมายที่อยู่ในงานเลี้ยงนั้นต่างมองตามเขาตลอดทางอย่างหลงใหลในรูปลักษณ์ที่ดูดี และต่างสงสัยว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร เพราะพวกเธอไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน
แชะๆๆ
"ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ"
"ช่วยหันมาทางนี้ด้วยครับ"
แชะๆๆ
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจกล้องแม้แต่อย่างใด เขาเพียงแค่ปรายตามองคนที่ถ่ายเท่านั้น ก่อนจะเหลือบไปมองลูกน้องของตัวเอง
"อย่าให้คนปล่อยรูปออกไปได้!"
"ครับ"
พรึ่บ!
ระหว่างนั้นเขาก็เดินมาหยุดที่หน้างาน นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหญ่วัยกลางคนก็เดินเข้ามาทักทายเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ในงานเลี้ยงที่เขาเป็นคนจัด
"สวัสดีครับ เป็นเกียรติอย่างยิ่งนะครับที่ลูกชายคุณคริสเตียนมาร่วมงานของเราในคืนนี้"
"เป็นเกียรติเหมือนกันครับที่ได้มาร่วมงานที่จัดอย่างยิ่งใหญ่แบบนี้ หึ!" ชายหนุ่มพูดพร้อมกับแสยะยิ้มออกมา จนทำให้ชายวัยกลางคนถึงกับนิ่งไป และหลบสายตาของลูกชายผู้มีพระคุณของเขา
"เอ่อ...แล้วคุณคริสเตียนไม่มาเหรอครับ?"
"ไม่มาครับ ท่านฝากมาแสดงความยินดีกับคุณด้วยครับ" เขาตอบอย่างสุภาพพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญให้กับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของนักธุรกิจรุ่นใหญ่ที่เคยเป็นอดีตเลขาคนสนิทของพ่อเขา
"ขอบคุณครับ เชิญคุณตามสบายนะครับ"
"พอดีผมมีงานต่อ ขอตัวก่อน"
"คุณพ่อคะ"
"นี่ลูกสาวคนเดียวของผมครับ ปรางค์ฉาย"
"สวัสดีค่ะคุณ..."
"ขอตัวนะครับ" ชายหนุ่มไม่รอช้า เขาเดินเลี่ยงออกมาออกมาโดยไม่สนใจใคร
"ฉันจะไปบริษัท ไม่ต้องตามมา!"
"ครับ"
หลังจากที่ชายหนุ่มออกคำสั่งกับลูกน้องคนสนิท เขาก็ขับรถออกไปทันที...
__________
บรื้นนนน!
รถหรูขับแล่นไปตามท้องถนนที่เต็มไปด้วยแสงไฟยามราตรี แต่ทว่า...สายตาชายหนุ่มเหลือบมองไปที่กระจกก็เห็นว่ามีรถสองคันขับตามมาทำให้คิ้วเขาขมวดขึ้นมาทันที แต่ก็ทำเพียงแค่แสยะยิ้มเท่านั้น
"หึ! เล่นไม่ซื่อจริงๆ"
พรึ่บ!
บรื้นนนน!
บรื้นนนน!
ชายหนุ่มขับหักหลบเลี้ยวเข้าซอยมืดไปในทางที่เปลี่ยวและไม่มีคน แต่ถึงอย่างนั้นรถของพวกนั้นก็ยังคงตามเขามาตลอดและมันทำให้เขาเร่งความเร็วมากขึ้นกว่าเดิมก่อนที่จะขับมุ่งตรงไปเรื่อยๆ จนไปถึงทางตันที่มืดสนิท ตามข้างทางมีเพียงบ้านร้างและโรงงานร้างเท่านั้นที่อยู่ในซอยนั้น
เอี๊ยดดด!
เอี๊ยดดด!
รถทั้งหมดจอดขวางทางทั้งหมดและตามด้วยคนจำนวนมากที่เดินลงมาพร้อมกับปืนในมือที่จ่อมาทางชายหนุ่ม
พรึ่บ!
กึก!
"คืนนี้กูจะส่งมึงไปลงนรก!"
หมับ!
พรึ่บ!
ชายหนุ่มที่เร็วกว่า เขาจัดการหักมือของคนที่เอาปืนจ่อเขาอย่างรวดเร็วก่อนที่จะจับตัวมันไว้เป็นตัวประกันแล้วเอาปืนจ่อไปที่ศีรษะของมันไว้
"เฮ้ยย!"
"ถ้ามึงไม่อยากให้เพื่อนมึงตาย ก็เชิญ!" เสียงเข้มเอ่ยขึ้นอย่างดัง โดยไม่มีความกลัวอะไร
"พวกมึงอย่านะเว้ย!" เสียงคนที่ถูกล๊อกตัวตะโกนบอกคนของตัวเองอย่างกลัวๆ
"แต่พวกเราต้องเก็บมันให้ได้! พวกเราจัดการมันซะ!"
"นี่พวกมึง...อึก!"
ปัง!
ปัง!
"คุณไมเคิลสั่งฆ่ามันให้ตาย! อย่าให้มันรอดไปได้!"
ไอ้ไมเคิล!
พรึ่บ!
กึก!
ปัง!
ปัง! ปัง!
ร่างสูงยิงสวนกลับไปทันที จากนั้นจึงเกิดการปะทะกัน เสียงปืนดังสนั่น แต่เพราะฝีมือที่เก่งกาจทำให้เขาจัดการกับพวกมันจนเหลือเพียงแค่คนเดียวและเขาก็ไม่ได้ฆ่ามัน
ตุบ!
"เฮือกกก! มึง!"
หมับ!
มือหนากระชากคอเสื้อคนที่นอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้นอย่างแรง
"อ๊ากกก!"
"กลับไปบอกมันว่าถ้ายังคิดไม่ซื่ออีก!"
"......" แววตาและน้ำเสียงที่นิ่ง แต่แฝงไปด้วยพลังที่มีอำนาจนั้น ทำให้คนที่นอนกองอยู่ที่พื้นถึงกับตื่นกลัวในทันที
"มันนั่นแหละที่จะตาย!!"
พรึ่บ!
"อึก!"
บรื้นนนน!
เอี๊ยดดดด!
ตึก...ตึก...ตึก
เสียงฝีเท้าหลายคู่ที่วิ่งเข้ามาในที่เกิดเหตุหลังจากผู้เป็นนายได้ส่งข้อความหาเขา ซึ่งเป็นคนสนิทที่สุด
"คุณลีวาย!"
"มาแล้วสินะ"
"ครับ นี่มันลูกน้อง..."
"อืม"
"ไอ้ไมเคิล!" เขาพูดด้วยความโกรธ
"เลียมจัดการที่เหลือต่อให้ฉันด้วย!" ลีวายบอกกับลูกน้องคนสนิทด้วยท่าทางนิ่งๆ
"ครับ! แล้วคุณจะให้ผมจัดการไอ้ไมเคิลด้วยมั้ยครับ"
"ไม่ต้อง!"
"แต่ว่า..."
"ปล่อยมันไปก่อน"
"ครับ"
"อย่าลืมส่งลูกน้องมันกลับไปหานายมันด้วยล่ะ!"
หลังจากที่ร่างสูงสั่งลูกน้องเสร็จ เขาก็ขับรถกลับไปทันที เหลือเพียงลูกน้องของตัวเองที่ตามเก็บส่วนที่เหลือ
"ทำไมนายพวกเราถึงได้โหดแบบนี้วะ"
"อย่าพูดมาก รีบๆ ทำให้เสร็จเถอะพวกมึง"
"อยู่มหาลัยจริงๆ เหรอวะ ไม่น่าเชื่อ"
"อายุยังน้อย แต่ความสามารถไม่..."
"หุบปากกันซะ!" เลียมสั่งลูกน้องเสียงเข้ม ก่อนที่เขาจะจัดการทำหน้าที่ของตัวเองต่อ
เลียมมองภาพตรงหน้าที่เต็มไปด้วยเลือดเขาก็ต้องแสยะยิ้มออกมาทันที เพราะคิดว่าไอ้โง่พวกนี้ไม่รู้จักคิดเลยจริงๆ ที่มาเล่นงานคนอย่างลีวาย ผู้ที่มีอิทธิพลต่อวงการธุรกิจ ถึงแม้จะยังอายุน้อยก็ตาม แต่ตอนนี้เขาคืออันดับต้นๆ ทั้งความเก่งกาจและความสามารถมากมายที่ใครต่างยกย่องและชื่นชม.....
🔶🔶🔶🔶
🌡️ตอนแรกมาแล้ววว
ฝากพี่ลีวายด้วยน๊าาา🥰😘
👍ช่วยกดไลด์ คอมเมนต์ ◻️
เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันได้นะง๊าบบบ
🙏🙏🙏
ตอนนี้ลีวายและของขวัญมาอยู่ที่เกาะแห่งหนึ่งหลังจากใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้นที่เรือออกจากฝั่งแล้วมาถึงที่นี่ ซึ่งเป็นเกาะที่สวยและเงียบสงบมาก จนเธอแอบสงสัยว่าที่นี่ไม่มีคนเลยงั้นเหรอ เพราะเธอเห็นว่ามีที่พักเพียงที่เดียวเท่านั้น ซึ่งมันทั้งใหญ่และสวยมาก แต่บริเวณรอบๆ กลับว่างเปล่าพรึ่บ!"ทำไมถึงไม่มีคนเลยล่ะค่ะ""พี่เข้าเอาของไปเก็บก่อน เรารอพี่อยู่ตรงนี้" ลีวายบอกพร้อมกับยกกระเป๋าสองใบเข้าไปด้านในร่างสูงเหลือบมองหญิงสาวอีกครั้งก่อนที่เขาจะยิ้มออกมาแล้วเดินเข้าไปด้านในทันทีที่จริงเกาะนี้เขาเพิ่งจะซื้อได้ไม่นาน เพราะเขารู้สึกว่าที่นี่สวยและเงียบสงบมาก มันทำให้เขาอยากจะใช้ที่นี่เป็นสถานที่พักผ่อนของเขากับเธอในช่วงวันหยุด ส่วนรีสอร์ตที่เขาเคยพาเธอมานั้นเขาได้ขายไปแล้ว เพราะเขารู้สึกว่ามันเป็นความทรงจำที่เลวร้ายมากสำหรับเธอครืดดด...ครืดดด...ครืดดดจู่ๆ เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังเตรียมอะไรบางอย่างถึงต้องขมวดคิ้วมุ่นทันที"มีอะไร!"(เป็นไงบ้างวะ น้องเขาตกลงมั้ยวะไอ้ลีวาย แล้วมึงจะไม่ให้พวกกูไปร่วมแสดงความยินดี....)"พวกมึงไม่ต้องมา!" ผมรีบพูดขัดไอ้แจ็คกี้ทันที ผมไม่น่
บรื้นนนนน...เอี๊ยดดดด...กึก!"ขอบคุณมากนะเลียม""มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ""นายกลับไปเถอะ เดี๋ยวพี่ลีวายก็คงจะเลิกคุยงานแล้วล่ะ""คุณไม่เป็นไรจริงๆ นะครับ" เลียมถามคนรักของเจ้านายของเขาอย่างอดเป็นห่วงไม่ได้"อื้ม กลับไปเถอะนี่ก็เย็นมากแล้ว ^_^"ร่างบางยิ้มให้กับเลียมเพื่อบอกเขาว่าเธอไม่เป็นไร ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้านเมื่อรถของเขาขับออกไปพรึ่บ!ของขวัญนั่งลงที่โซฟาด้วยความเหนื่อยล้า วันนี้ทั้งวันเธอแทบทำงานไม่ได้เลย เพราะรู้สึกไม่สบายตัว อีกอย่างก่อนที่เธอจะออกจากบริษัทก็เกือบจะเป็นลมล้มลงกับพื้น แต่อยู่ๆ เลียมก็เข้ามาช่วย ทำให้หมอนั่นคงกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีก จึงอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเธอก่อน เพราะวันนี้พี่ลีวายออกไปคุยงานตั้งแต่เช้าและไม่ได้เข้าบริษัทเลย"เฮ้อออ...เป็นแบบนี้อีกแล้วเรา แล้วพรุ่งนี้จะไปเที่ยวกับพี่ลีวายได้มั้ยเนี่ย" เพราะพรุ่งนี้เป็นวันหยุดและพี่ลีวายบอกว่าจะพาเธอไปเที่ยว แต่ไม่ได้บอกเธอเลยว่าที่ไหนทำให้เธอเริ่มกังวลกับเรื่องนี้ร่างบางสะบัดความคิดออก เพราะมันอาจจะทำให้เธอยิ่งปวดหัวหนักขึ้นไปอีก ก่อนที่จะมองนาฬิกาก็เห็นว่าตอนนี้เย็นมากแล้ว จึงลุกขึ้นเดินไปท
พรึ่บ!"พี่จอมคะ""หืม""ขวัญเอารายงานคลังสินค้าของเดือนที่แล้วมาคำนวณดูอีกที ดูเหมือนว่ามันจะไม่ตรงกันค่ะ" ฉันยื่นเอกสารให้กับพี่จอม ที่เป็นคนรับผิดชอบเกี่ยวกับการฝึกงานของฉัน รวมถึงเป็นคนให้ฉันลองคำนวณค่าใช้จ่ายของเดือนที่แล้วให้เธอดูซึ่งมันไม่ตรงกันเลย"ไม่ตรงงั้นเหรอ...""หรือว่าขวัญทำผิดพลาดตรงไหนหรือเปล่าคะ?""ขอพี่ดูก่อนนะ""ค่ะ"หลังจากนั้นร่างบางก็กลับมานั่งโต๊ะของตัวเองพร้อมกับเขียนรายงานต่อตอนนี้ร่างบางเข้ามาฝึกงานที่บริษัทแห่งนี้เป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ซึ่งการฝึกงานในครั้งนี้จะใช้เวลาฝึกงานเพียง 1 เดือนเท่านั้น เป็นการฝึกที่สั้นมากแต่เป็นแบบนี้ทุกคณะในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ทำให้เธอต้องเร่งเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพื่อเอาไว้ใช้ในการทำงานในอนาคตที่กำลังจะจบในเดือนหน้า และที่บริษัทแห่งนี้พนักงานที่นี่น่ารักและเป็นกันเองมาก เธอรู้สึกดีมากที่ได้เข้ามาฝึกงานที่นี่"น้องของขวัญ ท่านประธานเรียกพบจ๊ะ""ขวัญเหรอคะ?""ใช่จ้ะ แต่พี่ไม่รู้หรอกนะว่าท่านเรียกทำไม เรารีบไปเถอะ เดี๋ยวจะโดนว่าเอา""เอ่อ...ได้ค่ะ" ฉันรีบลุกออกไปทันที แต่ทว่า...ก็ถูกพี่พรักงานอีกคนพูดขึ้นมาทำให้ฉันถึงกับต้องแปลกใจ"
พรึ่บ!"นี่ก็เทอมสุดท้าย อย่าลืมส่งเอกสารให้อาจารย์ด้วยนะคะ วันนี้วันสุดท้ายแล้วพรุ่งนี้อาจารย์จะประกาศสถานที่ฝึกงานของแต่ละคนในเว็บบอร์ดของคณะเรานะคะ"นักศึกษาปี 4 ที่กำลังนั่งฟังอาจารย์พูดในเรื่องของการฝึกงานที่ให้เวลาพวกนักศึกษาเลือกแหล่งฝึกเองในเทอมหนึ่งไปแล้วและนี่ก็เป็นวันสุดท้ายที่นักศึกษาทุกคนจะต้องส่งเอกสารสำหรับฝึกงานในปีสุดท้ายก่อนที่จะจบของทุกคนรวมถึงตัวเธอด้วย"พวกแกหาที่ฝึกงานกันได้หรือยัง""ฉันได้แล้วล่ะ ^_^""ฉันรู้อยู่แล้วล่ะว่าแกจะฝึกที่ไหน เพราะคู่หมั้นแกคงไม่ปล่อยให้ไปฝึกงานที่อื่นหรอกยะยัยขวัญ""เอาล่ะค่ะ วันนี้เลิกคลาสได้ค่ะ ขอให้สนุกแล้วก็โชคดีในการฝึกงานค่ะ"พออาจารย์พูดจบก็เดินออกไปทันที ตอนนี้ร่างบางและพวกเพื่อนๆ กำลังคุยกันเรื่องที่จะฝึกงาน เพราะเอกของพวกเธอนั้นสามารถเลือกที่ฝึกงานเองได้ แต่ละแหล่งฝึกจะต้องฝึกได้ไม่เกิน 3 คน"เฮ้อออ...ชีวิตในมหาลัยจะจบลงแล้วเหรอเนี่ย""จบที่ไหนยะยัยแจม เดี๋ยวเราก็ต้องกลับมาสอบอีก แต่ฉันนี่สิไม่อยากฝึกงานบริษัทของที่บ้านเลยอ่ะ" เรนโบว์บ่นทันที "ฉันขอไปฝึกกับแกได้มั้ยอ่ะแจม""แกคิดว่าแกเปลี่ยนที่ได้?""นั่นสิเรน ฉันว่าพ่อแม่
กุกกัก!พรึ่บ!"พี่ลีวายคะ ขวัญเก็บของเสร็จแล้วนะคะ" ของขวัญตะโกนเรียกชายหนุ่มที่กำลังแต่งตัวอยู่ในห้องน้ำวันนี้เป็นวันที่เขาสามารถกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้แล้วหลังจากที่อยู่โรงพยาบาลมา 4 วัน ทั้งหมอและพยาบาลต่างแปลกใจที่แผลของเขาหายเร็วขนาดนี้ แต่นั่นมันก็ทำให้เธอรู้สึกดีมากๆ เพราะไม่อยากเห็นเขาเจ็บอีก"พี่ลีวายคะ"เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเงียบ ไม่ตอบ ทำให้เธอรู้สึกเป็นห่วงเขาจึงรีบเดินไปเคาะประตูที่ห้องน้ำและเรียกเขาเสียงดังอีกครั้งทันทีแกร๊ก!"พี่...ว้าย!"หมับ!พรึ่บ!"เฮือกกก!"ร่างบางตกใจมากที่อยู่ๆ เธอก็ถูกเขากระชากเข้าไปในห้องน้ำทั้งๆ ที่ตัวเองยังไม่ได้ใส่เสื้อเลยทำให้เธอรีบปิดตาตัวเองทันที"พี่ลีวายทำอะไรคะ!" ฉันถามเขาเสียงดังพร้อมกับมือที่ยังคงปิดตาอยู่ด้วยความเขินอาย"เอามือออกได้แล้ว"ลีวายดึงมือของขวัญออก แต่เธอยังคงหลับตาอยู่และนั่นทำให้เขาทำเสียงในลำคออย่างไม่พอใจ ก่อนจะพูดย้ำกับเธออีกครั้ง"ถ้ายังไม่ลืมตาพี่จะทำอย่างอื่นแทน!"พรึ่บ!หมับ!"หยุดๆๆ เลยค่ะ นี่มันโรงพยาบาลนะคะ พี่จะมาหื่นแบบนี้ไม่ได้นะ >.ฉันลืมตาขึ้นมาแล้วรีบจับมือเขาออกเพื่อหยุดการกระทำของเขาจุ๊บ!"อื้อ
พรึ่บ!"พวกพี่จะกลับไปเคลียร์เรื่องทางนั้นก่อน ฝากดูแลไอ้ลีวายด้วยนะครับ""ไม่ต้องเป็นห่วงทางนี้นะคะ เดี๋ยวขวัญจะอยู่ดูแลพี่ลีวายเองค่ะ" ของขวัญพูดกับเพื่อนของลีวาย"เราก็ต้องพักผ่อนด้วยนะของขวัญ ถ้าไอ้ลีวายมันฟื้นขึ้นมาแล้วเห็นเราเป็นแบบนี้มันคงโทษตัวเองแน่ๆ ยิ่งคลั่งรักอยู่ด้วย" แจ็คกี้พูดเล่นกับของขวัญ เพราะไม่อยากให้เธอเครียด"ขอบคุณมากนะคะที่เป็นห่วง แต่ขวัญไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ""งั้นพวกพี่กลับก่อนแล้วกัน เคลียร์ทางนั้นเสร็จจะมาเยี่ยมมันใหม่ อย่าลืมพักผ่อนด้วยนะครับ" คาร์ลพูด"ค่ะ"หลังจากที่คาร์ลและแจ็คกี้เดินออกไปจากห้องพักฟื้น ตอนนี้ภายในห้องจึงเหลือเพียงแค่ของขวัญกับลีวายที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย โดยที่ตั้งแต่ที่เขาถูกนำมาส่งที่โรงพยาบาลจนถึงตอนนี้ยังไม่ฟื้นร่างบางเหม่อมองไปที่ชายหนุ่มอย่างเศร้าใจ เพราะเธอไม่รู้ว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน ถึงแม้หมอจะบอกว่าเขาอยู่ในระยะปลอดภัยแล้วหลังจากที่ผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว แต่ก็ยังคงต้องรอดูอาการต่อไป เธอก็ยังคงอดเป็นห่วงเขาไม่ได้และไม่ยอมไปไหนเลยตั้งแต่เมื่อคืนจนกระทั่งถึงเช้าวันนี้"รีบๆ ตื่นสักทีสิคะพี่ลีวาย...." น้ำเสียงสั่นเครือเอื้อนเ