LOGIN“เฮ้อออ...เฮียภีมขา ทำไงดีคะ หนูลืมเอาคีย์การ์ดคอนโดมา ว้า~ แย่จัง...ลืมของสำคัญได้ไงน้า~”
เสียงหวานของเกวรินเอ่ยขึ้นเหมือนรู้สึกผิดเต็มประดา ทว่ามุมปากกลับยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
“เกี๊ยว...เฮียไม่เล่น” ภากรกดเสียงต่ำ หันไปมองเด็กสาวที่นั่งทำตาปริบๆ อยู่ข้างๆ อย่างคาดโทษ
“โถ่...เฮียอะ ให้หนูไปค้างห้องเฮียแค่ไม่กี่วันเอง แป๊บเดียวก็สิ้นเดือนแล้ว นะๆๆๆ”
“ไปติดต่อนิติ ขอคีย์การ์ดอันใหม่”
“ไม่เอา~”
“งั้นไปนอนโรงแรม”
“ง่ะ...เฮียให้หนูไปนอนด้วยน้า~”
ว่าแล้วก็กอดแขนล่ำๆ ของอีกฝ่ายไว้แน่น มองเขาตาแป๋วอย่างน่าสงสารเผื่อเขาจะใจอ่อนบ้าง
“ไม่ได้”
“แต่แม่ฝากหนูไว้ให้เฮียดูแลแล้วนะ ถ้าเฮียผิดคำพูดมันจะไม่ดีเอานา~”
“นี่วางแผนมาแล้วใช่ไหม?” เขาหรี่ตาลงมองคนตัวเล็ก รู้ดีว่านี่ต้องเป็นแผนการของเด็กสาวอย่างแน่นอน
รอบก่อนที่มาเล่นในห้องเขาก็แกล้งหลับไม่ยอมกลับห้อง จนต้องอุ้มออกไปส่งที่คอนโดด้วยตัวเอง แต่เธอก็ไม่วายงอแงตลอดทาง จะนอนค้างกับเขาให้ได้
ให้ตาย...ทำไมนับวันยิ่งดื้อแบบนี้!
“ปะ เปล่านะคะ”
“โทรไปบอกน้าภาดีไหมว่าเด็กดื้องอแงจะไปค้างห้องเฮีย?”
“เฮียอ่า~ อย่าขู่หนูสิคะ ปกติหนูก็ไปเล่นห้องเฮียอยู่แล้ว แค่ไปค้างนิดหน่อยไม่เห็นจะต้องปฏิเสธกันเลย คนกันเองทั้งนั้น...อีกอย่างหนูก็คิดถึงเฮียด้วย”
“ไปนั่งเล่นกับนอนค้างมันไม่เหมือนกัน”
“เหมือนกันสิคะ แบ่งให้หนูยืมนอนห้องเดียวจะเป็นอะไรไป หรือว่าเฮียรังเกียจหนู...” สิ้นเสียง เกวรินก็มองเขาอย่างคนน้อยใจ ในเมื่อลูกอ้อนใช้ไม่ได้ ก็ต้องใช้ไม้ตายนี้เท่านั้น
“เฮียไม่ได้...”
“เฮียรังเกียจหนู อึก...เฮียรำคาญหนูใช่ไหม”
“เฮ้อออ...มันไม่ใช่แบบนั้น” เขาถอนหายใจพรืดใหญ่ แล้วยกมือขึ้นลูบผมนุ่มของเธอไปมาอย่างอ่อนโยน แม้จะรู้ว่าเธอแกล้งเบะเพราะอยากไปนอนห้องของเขา แต่พอเห็นเด็กสาวน้ำตาคลอเบ้าก็ใจอ่อนทุกที
“งั้นให้หนูไปค้างคอนโดเฮียด้วยนะคะ” เกวรินมองเขาด้วยสายตาออดอ้อน บีบน้ำตาเรียกคะแนนความสงสารเต็มที่
“แล้วห้ามได้ที่ไหนล่ะ?”
“อิอิ เฮียภีมของหนูน่ารักที่สุดเลย!”
@คอนโดภากร
“เกี๊ยวนอนห้องนี้นะ ผ้าห่มเดี๋ยวเฮียเอามาเพิ่มให้” ภากรลากกระเป๋ามาให้เด็กสาวในห้องนอนเล็กที่อยู่ในคอนโดของตน ก่อนจะปลีกตัวกลับไปเอาผ้าห่มอีกผืนในห้องเพราะรู้ดีว่าเธอเป็นเด็กขี้หนาวมากแค่ไหน
“ได้ค่ะ ขอบคุณนะคะ” เกวรินยิ้มแฉ่ง ก่อนจะหมุนตัวไปที่เตียงขนาดควีนไซซ์แล้วกระโดดทิ้งตัวลงนอนอย่างมีความสุข
เยส! ในที่สุดก็ได้มาค้างกับเฮียสักที!
ร่างอวบอิ่มนอนพลิกตัวกลิ้งไปมาอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะนึกอะไรดีๆ ออก รอยยิ้มมุมปากจึงดูเจ้าเล่ห์มากว่าปกติ
“เกี๊ยว ไปอาบน้ำแล้วมานอนได้...ละ แล้ว...”
เสียงทุ้มแผ่วลงในช่วงท้ายเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วพบว่าตอนนี้บนตัวของเด็กสาวมีเพียงผ้าขนหนูสีขาวตัวเดียวพันรอบกาย เผยให้เห็นผิวเนื้อขาวอมชมพูน่ามอง โดยเฉพาะเนินอกใหญ่ที่โผล่พ้นแทบจะทะลักออกมาด้านนอกนั่น
เกวรินเป็นเด็กสาวผิวขาวหน้าตาน่ารักมาก เขาชินตากับการเห็นเธออยู่ในชุดเดรสสีสันสดใสสมวัย ไม่สั้น ไม่โป๊จนเกินไป
ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เด็กน้อยของเขาโตเป็นสาวได้ขนาดนี้...
แถมยัง ‘โต’ มาอย่างดีเสียด้วย...
“กำลังจะไปอาบพอดีเลยค่ะเฮีย ขอบคุณนะคะ”
ตอนนี้แม้จะเขินกับสายตาที่เขามองมา ทว่าเกวรินก็ไม่ยอมล้มเลิกแผนการอ่อยว่าที่คู่หมั้น ค่อยๆ เดินเข้าไปหาร่างสูงช้าๆ ให้เขาได้เห็นอะไรๆ เต็มตา จังหวะที่รับผ้าห่มมาก็แอบลูบมือหนาของเขาอย่างอ้อยอิ่ง
“เกี๊ยว...ยังจะเล่นอีก ไปอาบน้ำได้แล้วไป” ภากรกดเสียงต่ำดุคนตัวเล็กที่สูงเพียงแค่อก มุมนี้ทำให้เขาเห็นเต้าใหญ่ขาวๆ ของเธอได้อย่างเต็มตา
พอรู้ตัวว่าเผลอจ้องนานเข้าก็รีบหันหน้าไปทางอื่น ฝืนกลั้นอารมณ์บางอย่างที่กำลังปะทุขึ้นมากลางเป้ากางเกงอย่างสุดความสามารถ
“เฮียอยากอาบด้วยกันไหมคะ” เกวรินยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ จากตัวเขา เผลอสูดดมเข้าไปเต็มปอดแล้วแอบกรี๊ดคนเดียวในใจ
“ไร้สาระ...”
สิ้นเสียง ร่างสูงเกือบ 190 เซนติเมตรก็หมุนตัวออกไปจากห้องพร้อมปิดประตูให้เธอเสร็จสรรพ ราวกับว่าเรือนร่างยั่วยวนและคำเชิญชวนเมื่อครู่มันไม่มีผลอะไรกับเขาทั้งสิ้น
“ชิ...ใจแข็งไปเถอะค่ะ คอยดูนะ สักวันหนูจะทำให้อย่างอื่นแข็งกว่านี้อีก!”
วันต่อมา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เกี๊ยว ตื่นหรือยัง?”
ภากรเคาะประตูเรียกหน้าห้อง พอไม่ได้ยินเสียงขานรับจึงกดมือถือโทรหาเธอ เพราะตอนนี้มันก็สายมากแล้ว กลัวว่าเด็กกินจุแบบเธอจะปวดท้องเอาถ้าไม่ได้ทานอะไรตอนเช้า
“หรือว่าจะยังไม่ตื่น...เกี๊ยว! ถ้าไม่รีบออกมาเฮียกินหมดนะ” เขาตะโกนเรียกอีกรอบหลังจากโทรไม่ติด เตรียมจะเคาะประตูอีกครั้ง ทว่าไม่นานประตูก็เปิดออก
แอดดดด
“มอนิ่งค่ะเฮียภีม~”
“กะ เกี๊ยว...” ภากรถึงกับชะงักไปครู่ใหญ่เมื่อมองร่างเย้ายวนตรงหน้า
วันนี้เธอสวมเสื้อยืดโอเวอร์ไซซ์คลุมก้นสีขาว ด้านในเห็นเป็นชุดชั้นในลูกไม้สีขาวทั้งบนและล่าง ซึ่งเสื้อตัวนี้มันบางมากจนเห็นทะลุปรุโปร่งไปทั้งตัวอวดทรวดทรงองค์เอวที่อวบอึ๋มไปทุกส่วน จนเขาเผลอกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ในลำคอก็รู้สึกแห้งผากไปหมด
“เฮียภีมทำอะไรเหรอคะ หอมจัง” เกวรินเห็นว่าแผนอ่อยของตัวเองได้ผลก็ยิ้มกริ่ม ค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้ แล้วเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบแก้มเขาเบาๆ
จุ๊บ!
“เกี๊ยว!”
“แค่มอนิ่งคิสเองค่ะ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุขนาดนั้นเลย” เธอยู่ปากน้อยๆ อย่างไม่สำนึกผิด ก่อนจะเดินทอดน่องไปที่ห้องอาหารซึ่งส่งกลิ่นหอมจนเธอรู้สึกน้ำลายสอขึ้นมา จนเกือบลืมปฏิบัติการอ่อยว่าที่คู่หมั้นไปแล้ว
“ยังกินไม่ได้”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ?”
“ลุกไปเปลี่ยนชุดใหม่เดี๋ยวนี้ เฮียไม่ชอบ” ภากรเอ่ยเสียงเข้ม กอดอกมองเด็กดื้อตรงหน้าที่หาเรื่องให้เขาหายใจไม่ทั่วท้องตั้งแต่เมื่อคืน
“จริงเหรอคะ...เมื่อกี้หนูว่าเฮียดูชอบออก”
“เกี๊ยว”
“ขา~ เรียกหนูทำไมเหรอคะ”
ว่าแล้วร่างอวบอิ่มของเด็กสาวก็ลุกขึ้นแล้วเดินไปกอดเอวเขาไว้หลวมๆ พร้อมเอาคางเล็กเกยหน้าท้องแข็ง เงยหน้ามองเขาด้วยสายตาแพรวพราว
“อย่าดื้อได้ไหม ไปหัดแต่งตัวแบบนี้มาจากไหน”
“ไม่ได้ดื้อสักหน่อย...เฮียไม่ชอบให้หนูแต่งแบบนี้จริงเหรอคะ หนูว่าเซ็กซี่ดีออก”
“ไม่ชอบ” เขาตอบกลับไปทันควัน พร้อมหันหน้าไปทางอื่น พยายามสะกดกลั้นอารมณ์ดิบเถื่อนของตัวเองไว้สุดความสามารถ ทว่าคนตัวเล็กก็ยังหาเรื่องให้เขาใจสั่นได้ไม่หยุดไม่หย่อนด้วยการบดเบียดเต้าใหญ่นุ่มนิ่มเข้าหาเขาอย่างจงใจ จนอะไรๆ ด้านล่างของเขามันปวดหนึบไปหมด
อ่าส์...เย็นไว้ไอ้ภีม...
เย็นไว้...
“เสียดายจัง...อุตส่าห์ตั้งใจใส่มายั่วเฮียเลยนะคะ”
“เลิกเล่นไร้สาระได้แล้วเกี๊ยว รีบไปเปลี่ยนชุดใหม่เลย ไม่งั้นไม่ต้องกินข้าว”
“ง่ะ...เฮียอย่าเอาเรื่องนี้มาขู่สิคะ”
“หรือจะไม่กิน?” เขาหันกลับมาถามเธอเสียงเข้มโดยพยายามไม่เหลือบไปมองเต้าใหญ่ด้านล่างที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา
“ชิ...กินสิคะ” เกวรินยู่ปาก ยอมปล่อยแขนออกจากเอวสอบของเขาแล้วเดินไปเปลี่ยนชุดใหม่เป็นชุดที่มิดชิดกว่านี้
ฮู่ววว...
“เย็นไว้ไอ้ภีม” เขาพ่นลมหายใจออกมาพรืดใหญ่ พยายามทำให้ภีมน้อยที่ไม่น้อยด้านล่างสงบลง แต่ก็ช่างยากเย็นเหลือเกิน
“เสร็จแล้วค่า~”
ไม่นานก็ได้ยินเสียงใสของเด็กสาวตามมาด้วยร่างอวบอิ่มในชุดเสื้อครอปตัวเล็กสีชมพูกับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน แม้จะไม่ได้มิดชิดนักทว่าก็ยังดีกว่าเมื่อครู่ไม่น้อย
“มากินข้าว แล้วต่อไปนี้ก็ห้ามใส่ชุดแบบเมื่อกี้อีก เข้าใจไหม?”
“ทำไมล่ะคะ ก็หนู...”
“เข้าใจไหม?” เขาถามย้ำเสียงเข้ม เกวรินจึงยอมพยักหน้าตอบตกลงอย่างจำใจ
ไม่เป็นไรค่ะเฮีย...
ถึงจะไม่ให้ใส่ชุดนั้น...แต่หนูก็ยังเหลือชุดแซ่บๆ อีกเพียบ!
“วันนี้อยากไปเที่ยวที่ไหนไหม”
พอเห็นว่าเด็กสาวว่าง่ายเขาก็ถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง พร้อมตักอาหารไปวางไว้บนจานของเธออย่างเคยชิน
“อ้าว วันนี้เฮียไม่เข้าบริษัทเหรอคะ”
ปกติเธอเห็นเขายุ่งตลอดเวลา กว่าจะอ้อนให้เขาพาไปเที่ยวไม่ใช่เรื่องง่าย สายตาที่มองเขาในตอนนี้จึงเต็มไปด้วยประกายของความดีใจจนคนตัวโตหลุดยิ้มออกมาอย่างนึกเอ็นดู
“ไม่เข้า หรือว่าอยากให้เฮียทำงาน?”
ที่จริงประธานบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเขาไม่ได้มีเวลาว่างนัก แต่เมื่อคืนนี้เขาส่งข้อความบอกเลขาให้แคนเซิลตารางงานทั้งหมดเพราะอยากจะใช้เวลาอยู่กับเธอ
“ไม่อยากค่ะ! วันนี้เราไปดูหนังกันนะคะ หนูไม่ได้ดูหนังกับเฮียตั้งนานแล้วอ่า~”
“เอาสิ...รีบกินเร็ว จะได้ไปเดินห้างกันด้วย”
“งุ้ยยย เฮียใจดีที่สุดเลยค่ะ”
ริมฝีปากอวบอิ่มฉีกยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี ตักของโปรดใส่จานให้เขาบ้างอย่างเอาใจ เพราะกว่าจะได้ใช้เวลากับเขานั้นไม่ง่าย ตอนกลับไปบ้านช่วงปิดเทอม ก็แทบไม่ได้เจอกันเพราะเขามาส่งแล้วก็กลับไปทำงานต่อ พอเธอใกล้จะเปิดเทอม เขาก็ไปค้างที่บ้านครอบครัวของเขาหนึ่งวัน จากนั้นก็รับเธอกลับมาที่กรุงเทพฯ เลย
ฉะนั้นวันนี้จึงเป็นวันดีเพราะเธอจะได้เริ่มแผนการอ่อยในขั้นต่อไป!
“ยิ้มอะไรคนเดียวน่ะ”
“อ้อ...เปล่าค่ะ แค่มีความสุขเวลาได้อยู่กับเฮีย”
“หึ...เด็กน้อย รีบกินได้แล้ว”
“ค่าๆ เข้าใจแล้วค่า~”
ร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสั้นสายเดี่ยวสีดำหมุนตัวไปมาหน้ากระจกอย่างพอใจ ปกติเกวรินไม่ค่อยใส่ชุดรัดรูป แหวกหลัง โชว์เนินอกแบบนี้เท่าไหร่ แต่เพราะคืนนี้เธอวางแผนบางอย่างกับเพื่อนรักเอาไว้แล้ว เลยต้องเปลี่ยนลุคให้ดูเซ็กซี่มากกว่าปกติแชะ แชะ“ลงรูปนี้แล้วกัน...” เกวรินโพสต์ท่าถ่ายรูปหน้ากระจก จงใจโน้มตัวลงต่ำเล็กน้อย แล้วถ่ายมุมสูงให้เห็นร่องอกขาวชัดๆ แล้วลงสตอรี่ในไอจี พร้อมกับแท็กสถานที่ที่เธอนัดกับของขวัญเอาไว้TrrrrrrrrTrrrrrrจังหวะที่เธอหยิบกระเป๋ากลิตเตอร์สีดำขึ้นมา เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นพอดี เกวรินจึงกดรับสายแล้วใส่รองเท้าส้นสูงไปด้วย[ออกมายัง]“ใกล้ถึงแล้ว”[ถึงไหน]“ถึงหน้าประตูห้องฉันเนี่ยแหละ” เกวรินตอบกลับไปกวนๆ จากนั้นก็ได้ยินเสียงพ่นลมหายใจแรงๆ จากเพื่อนรักอย่างที่คิดเอาไว้แกล้งยัยขวัญนี่สนุกจริงๆ ~[ไม่กวนสักวันได้ไหมยัยเกี๊ยว?]“ชิ...ให้ฉันมีความสุขบ้างเหอะ ฉันร้องไห้มาเยอะแล้ว”[ความสุขแกคือการแกล้งชาวบ้าน?]ได้ฟังแบบนั้นเธอก็ฉีกยิ้มกว้างแล้วตอบกลับไปทันควัน“ถูก!”[…….]“ชิ ไม่แกล้งแล้วก็ได้...แล้วนี่แกถึงไหนแล้วอะ”ตอนนี้ต้องให้เพื่อนตัวดีช่วย เธอเลยยอมหยุดกวนประสาทชั่
หลายวันต่อมา@มหาวิทยาลัย“โอเคไหมแก” ของขวัญถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นสภาพหมดอาลัยตายอยากของเพื่อนรักที่แม้จะมาเข้าเรียน แต่เหมือนจะลืมเอาวิญญาณมาด้วย“แกคิดว่าไงล่ะ” เกวรินหันไปคุยด้วยช้าๆ เบะปากเตรียมจะร้องไห้ แต่โดนชี้นิ้วห้ามไว้เสียก่อน“หยุดค่ะ! ไม่ต้องร้องแล้ว!”“อึก...ไม่ได้ร้อง~”“เฮ้อออ...มานี่เลยแก อายชาวบ้านเขา”ว่าแล้วก็ดึงข้อมือเล็กของเกวรินให้เดินตามไปที่ศาลาใต้ร่มไม้ใหญ่แห่งหนึ่งนอกอาคาร ซึ่งบริเวณนี้ค่อนข้างเงียบสงบ คนไม่พลุกพล่านเหมือนตอนอยู่ในโรงอาหารเมื่อครู่“เอาเลย ทีนี้อยากร้องก็ร้องเลย”“อึก...บอกแล้วไงว่าไม่ได้ร้อง” เธอตอบกลับไปเสียงอ้อมแอ้ม ยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาลวกๆ ทีหนึ่ง แล้วสูดน้ำมูกกลับคืนแรงๆ ราวกับเด็กน้อยก็ไม่ปานหลังจากเกิดเรื่องคืนนั้น ตอนเช้าเขาแค่มาส่งที่คอนโดแล้วก็กลับไป เธอรู้ว่าเขาโกรธ แต่เธอก็น้อยใจเขาเหมือนกัน เลยไม่ได้โทรไปง้อหรือคุยกับเขาเลยสักคำจนตอนนี้ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว...“จ้ะ ไม่ร้องเลย”“ฮึก...แกว่าเฮียภีมเขารังเกียจฉันไหม”“ฉันว่าไม่นะ”“แต่เฮียไม่ให้ฉันไปหาที่ห้องแล้วนะ...”“เดี๋ยวก็หายโกรธเองแหละน่า แกอย่ากังวลไปเลย ฉันไม่เคยเห็นเฮี
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ เกวรินก็อ้อนให้ว่าที่คู่หมั้นไปร้านคาเฟ่ดัง ตกเย็นก็แวะซื้อขนมเข้าห้องเล็กน้อย และด้วยความเพลียจากการเดินทางเมื่อวาน บวกกับการเที่ยวเล่นในวันนี้ ระหว่างทางที่ขับกลับคอนโด เด็กสาวจึงผล็อยหลับไปอย่างง่ายดาย กว่าจะตื่นอีกทีก็เป็นตอนที่ภากรอุ้มเธอขึ้นมานอนบนเตียงนุ่มแล้ว“อื้อ~…เฮียภีมขา นอนเป็นเพื่อนหนูหน่อย” เธอปรือตามองคนตัวโตที่กำลังห่มผ้าให้ ดึงข้อมือหนาเต็มไปด้วยเส้นเอ็นของเขาเอาไว้อย่างออดอ้อน“เฮียต้องไปเคลียร์งาน” ภากรตอบเสียงเบา ลูบผมนุ่มของเด็กสาวอย่างอ่อนโยน“ไหนบอกวันนี้ไม่ทำงานไงคะ”“อย่าดื้อสิเกี๊ยว”“แต่ว่า...”“ถ้าไม่ให้ทำงานคืนนี้ พรุ่งนี้เช้าได้อยู่ห้องคนเดียวนะ จะเอาแบบนั้นไหม”“ไม่เอาค่ะ” เกวรินตอบกลับไปทันควัน ยู่ปากน้อยๆ อย่างเสียดาย อยากให้เขานอนเฝ้าเหมือนสมัยเรียนประถมต้น แต่ก็เข้าใจว่าเขามีภาระหน้าที่ของตัวเองที่ต้องจัดการเธอไม่ดื้อแล้วเธออยากเป็นเด็กดีของเฮีย...“งั้นฝันดีนะครับ ค่ำๆ เดี๋ยวปลุกไปอาบน้ำกินข้าว”“อื้อ...สู้ๆ นะคะเฮียภีมคนเก่งของหนู” เธอคลี่ยิ้มหวานส่งไปให้ก่อนจะปิดปากหาววอดแล้วปิดเปลือกตาลงช้าๆ ภากรเห็นแบบนั้นหัวใจแกร่ง
@ห้างสรรพสินค้าขณะที่เดินเข้าไปในห้าง เกวรินก็พิมพ์คุยอะไรบางอย่างในมือถือไม่หยุดจนเกือบจะเดินชนเข้ากับคนอื่นอยู่หลายที จนภากรต้องเป็นฝ่ายจูงมือให้เธอเดินตาม เด็กสาวถึงยอมละความสนใจจากมือถือแล้วเงยหน้าขึ้นยิ้มหวานให้เขา“มือเฮียใหญ่จัง...หนูชอบ”ว่าแล้วก็ประสานนิ้วมือเข้ากับเขาแล้วแกว่งไปมาอย่างอารมณ์ดี ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยมา ไม่บ่อยนักที่เฮียจะเป็นฝ่ายจับมือเธอก่อนแบบนี้ มีแค่เธอที่อ้อนกึ่งบังคับจับมือเขาเองมากกว่า“ไม่เล่นมือถือต่อแล้วหรือไง”“ทำไมคะ น้อยใจเหรอ?”“เปล่า...” เขาปฏิเสธเสียงเรียบ ทว่าใบหน้ากลับแสดงออกอย่างชัดเจนว่าเขาไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นักกับเรื่องเมื่อครู่“หนูคุยกับแม่ค่า~ ไม่ได้คุยกับผู้ชาย เฮียไม่ต้องหึงน้า”“ไร้สาระ...”“ชิ ว่าหนูตลอดเลย” เธอยู่ปากน้อยๆ ไม่ได้แซวอะไรเขาอีก“แล้วได้บอกแม่หรือยังว่ามานอนที่ห้องเฮีย”“บอกแล้วค่ะ แม่บอกว่านอนยาวๆ เลย ไม่ต้องห่วง แม่โอเค”“เกี๊ยว...เอาดีๆ”“แหะๆ ไม่กล้าบอกค่ะ เฮียอย่าบอกแม่นะ หนูกลัวโดนดุ”“แต่ไม่กลัวเฮียดุว่างั้น?”“ถึงเฮียดุ แต่ได้ค้างห้องเฮีย หนูก็ยอมค่ะ” เธอยิ้มแป้นอย่างภูมิใจ แม้จะรู้สึกผิดที่โกหกแม่ แต่เรื่องค
“เฮ้อออ...เฮียภีมขา ทำไงดีคะ หนูลืมเอาคีย์การ์ดคอนโดมา ว้า~ แย่จัง...ลืมของสำคัญได้ไงน้า~”เสียงหวานของเกวรินเอ่ยขึ้นเหมือนรู้สึกผิดเต็มประดา ทว่ามุมปากกลับยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์“เกี๊ยว...เฮียไม่เล่น” ภากรกดเสียงต่ำ หันไปมองเด็กสาวที่นั่งทำตาปริบๆ อยู่ข้างๆ อย่างคาดโทษ“โถ่...เฮียอะ ให้หนูไปค้างห้องเฮียแค่ไม่กี่วันเอง แป๊บเดียวก็สิ้นเดือนแล้ว นะๆๆๆ”“ไปติดต่อนิติ ขอคีย์การ์ดอันใหม่”“ไม่เอา~”“งั้นไปนอนโรงแรม”“ง่ะ...เฮียให้หนูไปนอนด้วยน้า~”ว่าแล้วก็กอดแขนล่ำๆ ของอีกฝ่ายไว้แน่น มองเขาตาแป๋วอย่างน่าสงสารเผื่อเขาจะใจอ่อนบ้าง“ไม่ได้”“แต่แม่ฝากหนูไว้ให้เฮียดูแลแล้วนะ ถ้าเฮียผิดคำพูดมันจะไม่ดีเอานา~”“นี่วางแผนมาแล้วใช่ไหม?” เขาหรี่ตาลงมองคนตัวเล็ก รู้ดีว่านี่ต้องเป็นแผนการของเด็กสาวอย่างแน่นอนรอบก่อนที่มาเล่นในห้องเขาก็แกล้งหลับไม่ยอมกลับห้อง จนต้องอุ้มออกไปส่งที่คอนโดด้วยตัวเอง แต่เธอก็ไม่วายงอแงตลอดทาง จะนอนค้างกับเขาให้ได้ให้ตาย...ทำไมนับวันยิ่งดื้อแบบนี้!“ปะ เปล่านะคะ”“โทรไปบอกน้าภาดีไหมว่าเด็กดื้องอแงจะไปค้างห้องเฮีย?”“เฮียอ่า~ อย่าขู่หนูสิคะ ปกติหนูก็ไปเล่นห้องเฮียอยู่แล้ว แค
แอดดดเสียงเปิดประตูเข้ามา ทำให้เจ้าของใบหน้าน่ารักหันไปมองทางต้นเสียง เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็ฉีกยิ้มหวานส่งไปให้ทันที“เสร็จหรือยังเกี๊ยว พี่เขามานั่งรอสักพักแล้วนะ”“ใกล้เสร็จแล้วค่า~ เดี๋ยวหนูตามลงไปนะคะ”เสียงของ ‘เกวริน’ ตอบรับเสียงใส ก่อนจะหันมามองกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ปัดแก้มและเติมลิปกลอสสีชมพูหวานอย่างเร่งรีบ“อย่าให้รอนานนักล่ะ รีบๆ ลงมาได้แล้ว กว่าเดินทางถึงกรุงเทพ เดี๋ยวก็มืดค่ำเสียก่อน”“ค่าๆ เดี๋ยวรีบตามไปค่า~”ว่าแล้วร่างอวบอิ่มในชุดเดรสสีชมพูแขนตุ๊กตาก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้ หมุนตัวไปมาหน้ากระจกอยู่หลายที จนมั่นใจว่าทุกอย่างเรียบร้อยจึงรีบไปลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ออกจากห้องไปอย่างทุลักทุเลทางฝั่งของ ‘ภากร’ ซึ่งกำลังนั่งคุยกับผู้เป็นแม่ของเด็กสาวอยู่ด้านล่าง พอเหลือบเห็นเจ้าของร่างอวบอิ่มเดินลงมาจากบันได ก็ลุกขึ้นแล้วไปช่วยเธอถือกระเป๋าเดินทางใบนั้นอย่างที่ทำเป็นประจำ“เอามา เฮียช่วย”“อุ้ย...ขอบคุณค่ะเฮียภีม”เกวรินฉีกยิ้มสดใสส่งไปให้ ‘ว่าที่คู่หมั้น’ สุดหล่อของตัวเองอย่างนึกขอบคุณ ทว่าอีกฝ่ายก็ยังคงตีหน้านิ่งเหมือนเดิม และตอบกลับมาว่า ‘อืม’ เพียงคำเดียวเท่านั้นปกติแล้ว







