"แกเลิกยิ้มแบบนั้นสักทีจะได้ไหม ตั้งแต่วางหูโทรศัพท์มาแกทำตัวแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว บอกตามตรงว่าฉันสยองมาก" ไคชัวร์บอกด้วยท่าทางหวาดผวาน้องชายฝาแฝดตนเอง รู้อยู่ว่าคนเรามีความสุขก็ต้องยิ้มแต่นี่มันยิ้มเหมือนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมายขนาดนั้น
"พี่เขาน่ารักมากว่ะ ฉันจะทำยังไงดีวะ"
"ฉันว่ากลับบ้านไปต้องพาแกไปหาหมอแล้วว่ะ"
"ทำไมวะ"
"หน้าแกแดงมากเหมือนคนเป็นไข้เลย ฉันกลัวแกจะน็อคตาย"
นี่หน้าของเขาแดงถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตว่าถ้าเวลามีความรักขึ้นมาจะมีสีหน้าแบบนี้ ให้ตายเถอะ! ไคชาร์นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาตลอดการเดินทางเพราะมัวแต่คิดหนักเรื่องความรักรวมถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความจริงควรคิดถึงเรื่องที่โดนเรียกตัวมาในวันนี้เหมือนพี่ชายฝาแฝดแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น
"ตัวอยู่ไต้หวันแต่ใจอยู่เกาหลีสินะ" ไคชัวร์แซวออกมาทันทีเพราะเห็นน้องชายตนเองเงียบมาสักพักแล้ว แทนที่มันจะห่วงเรื่องทางนี้แต่กลับคิดถึงอีกคน ถ้าที่บ้านรู้จะทำแบบไหนไม่รู้ใครรู้เลยจริงๆ
ณ คฤหาสน์
"ยินดีต้อนรับคุณชายไคชัวร์ขอรับ / ค่ะ"
"ยินดีต้อนรับคุณชายไคชาร์ขอรับ / ค่ะ"
ทันทีที่ร่างของทั้งสองลงมาจากรถหรูก็มีเสียงต้อนรับของเหล่าพ่อบ้านและแม่บ้านออกมาต้อนรับกันทันที ช่างเป็นบรรยากาศต้อนรับที่อบอุ่นหากไม่ใช่การเรียกตัวมาด่วนเพื่อคุยเรื่องบางอย่างและทำให้การทำงานหลายอย่างต้องหยุดชะงักลง เรื่องนี้ใครๆ ก็รู้ดีเพราะมันเป็นข่าวไปทั่วเรื่องที่ว่าคุณชายเล็กจะถอนหมั้นกับคุณหนูอีกตระกูล ข่าวออกไปแบบนี้แต่ข้อมูลเท็จจริงแค่ไหนไม่มีใครรู้เลย
"มาถึงกันแล้วเหรอ" พ่อของพวกเขาถามด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง ท่าทางนิ่งสงบเยือกเย็น สมเป็นหัวหน้าตระกูล
"มีอะไรจะอธิบายให้พ่อกับแม่ฟังไหม อีกไม่นานครอบครัวของอีกฝ่ายจะเดินทางมาถึงที่นี่" แม่ของพวกเขาเริ่มตั้งคำถามต่อมาทันที ท่าทางทั้งสองจะไม่สมอารมณ์เป็นอย่างมากเพราะมันทำให้เกิดผลกระทบกับบริษัทในอนาคต เนื่องจากทั้งสองบ้านจะตกลงเซ็นสัญญาในธุรกิจใหม่ด้วยกันในอีกไม่กี่เดือน หากมีการถอนหมั้นแปลว่าธุรกิจนั้นจะไม่เกิดขึ้น
"นี่คือเอกสารที่ผมหามาทั้งหมด ขอรบกวนให้เปิดดูทั้งหมดแล้วค่อยตัดสินครับ" ไคชัวร์หยิบแฟ้มเอกสารทั้งหมดออกมาแล้วยื่นให้
"ครอบครัวทางนั้นเดินทางมาถึงแล้วขอรับ"
"ไม่เจอกันนานเลยนะไคชาร์ หล่อขึ้นเยอะเลย" พ่อของฝ่ายหญิงทักทาย
"ขอบคุณครับคุณลุง รบกวนดูเอกสารทั้งหมดที่พี่ชายของผมหามา แล้วหลังจากนั้นพวกเราค่อยคุยกันครับ"
ทุกคนได้เห็นเอกสารพร้อมกันทั้งหมด หลักฐานการนอกใจของฝ่ายหญิงมีให้พบเห็นมากมายจนนับไม่ไหว รวมถึงครั้งล่าสุดที่ได้เจอกับตาของตัวเอง หากไม่เห็นกับตาภาพพวกนี้น่าจะเป็นการตัดต่อขึ้นมาอย่างแน่นอน ทำไมไม่มีการพูดคุยออกมาสักประโยคเพราะตอนแรกจะมาต่อว่าฝ่ายชายว่าทำไมถึงอยากจะขอถอนหมั้นแต่พอเห็นแบบนี้ถึงกับพูดไม่ออกไปตามๆ กัน เป็นแผนการที่ถูกวางเอาไว้เพื่อรับมือทั้งครอบครัวตนเองและครอบครัวอีกฝ่าย ทีนี้มาดูกันว่าจะพูดอะไรออกมาบ้าง รอฟังจนอดใจไม่ไหวเลยล่ะ
"ถ้าไม่มีใครพูดอะไร ผมขอพูดตรงนี้เลยว่าพฤติกรรมดังกล่าวไม่เหมาะสมที่จะมาเป็นคนของตระกูลเรา และผมไม่ชอบอย่างยิ่งที่จะให้น้องชายตนเองโดนสวมเขาครั้งแล้วครั้งเล่าราวกับคนโง่ ทั้งที่เขาทำตัวดีและให้เกียรติฝ่ายหญิงมาโดยตลอด" ไคชัวร์พูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด ช่างเหมาะสมกับหัวหน้าตระกูลคนต่อไปเสียจริง
"หวังว่าจะจากกันด้วยดีนะครับ ขอให้พวกเราถอนหมั้นกันเงียบๆ โดยไม่มีการขุดคุ้ยอะไรขึ้นมาอีก มิฉะนั้นแล้ว...ผมจะนำหลักฐานทั้งหมดออกมาเผยแพร่กับนักข่าวว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร และขอให้แถลงการว่าฝ่ายหญิงยินดีถอนหมั้นกับทางเราด้วยเหตุผลส่วนตัวและจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับทางเราอีก ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในรูปแบบใดก็แล้วแต่ เข้าใจที่พูดไหมครับ"
"ไคชาร์ ลูกทำแบบนั้นมันแรงมากเลยนะ" แม่ของพวกเราไม่พอใจทันทีกับท่าทีของผม แต่เรื่องแบบนี้ไม่เข้าใครออกใครหรอกนะ หากไม่ตัดความสัมพันธ์แบบนี้ไปทั้งหมดแล้วเมื่อไหร่จะจบสิ้นกันสักที หากยังมีเรื่องเกี่ยวข้องกันไม่พาทำให้ก่อเชื้อไฟงั้นรึ ไม่อยากจะทำให้เกิดข่าวลือเรื่องรีเทิรน์อะไรทั้งนั้น
"เอาเป็นว่าป้าจะทำตามทุกอย่างที่หลานขอเอาไว้ จากนี้ไปดูแลตัวเองดีๆ แล้วพวกเราจะไม่มาวุ่นวายอีก" แม่ของฝ่ายหญิงตัดสินใจพูดออกมาหลังจากเงียบอยู่นาน เพราะไม่อยากขายหน้าไปมากกว่านี้อีกแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างมันควรจบลงที่นี่ ไม่ควรสานต่ออะไรทั้งนั้น
"ถ้างั้นลุงจะจัดการเรื่องทั้งหมดให้ภายในหนึ่งสัปดาห์ หลานรอได้ไหม"
"ได้ครับ ขอเพียงให้ทุกอย่างจบลงด้วยดีทั้งสองฝ่ายและไม่มีความสัมพันธ์ใดๆ ร่วมกันอีก"
แกร๊ก!
"พ่อไม่คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะกลับกลายเป็นแบบนี้ เรื่องนี้เกิดขึ้นนานหรือยัง" ในที่สุดพ่อของพวกเขาก็ตัดสินใจถามออกมา นึกว่าจะช็อคจนไม่กล้าพูดอะไรเสียแล้ว
"เกิดขึ้นมาเกือบปีแล้วครับ แต่ว่าหลักฐานที่รวบรวมได้น่าจะประมาณสามเดือนแล้วกำลังจะบอกไคชาร์แต่ว่าน้องดันไปเห็นเองก่อน" ไคชัวร์ตอบตามความจริงที่ว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าไว้ใจตั้งแต่แรกแล้ว ถึงได้ส่งคนไปตามสืบตลอดจนรู้เรื่องและคิดว่ามันหนักข้อขึ้นทุกวันจนตัดสินใจที่จะบอกความจริงกับน้องชายฝาแฝดแต่เจ้าตัวดันมาเห็นเองเสียก่อนมันเลยลงล็อคทุกอย่าง
"ผมเองตอนรู้ก็ตกใจมากครับ เสียใจมากด้วย เพราะคิดว่าเริ่มจะชอบเธอเข้าแล้วจริงๆ ก็เลยกลายเป็นว่าเจ็บปวดเจียนตายเลยล่ะ แต่ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายเลยเจอแมวน่ารักเข้าพอดี"
"ลูกหยุดทำไม เล่าให้แม่ฟังต่อสิ"
"พี่เขาน่ารักดีครับ เจอกันตอนผมสภาพเละเทะพอสมควรเลยทีเดียวและเป็นคนจัดแจงเรื่องที่พักและอาหารการกินให้ตลอดสามวันที่ผมพักที่นั่น"
"หมายความว่าเด็กคนนั้นเป็นลูกชายเจ้าของที่พัก" พ่อเริ่มจับทางได้ว่าลูกชายคนเล็กจะสื่ออะไร
"ใช่ครับ แต่เพิ่งทำความรู้จักกันได้ไม่นานเลยยังไม่รู้ว่าความสัมพันธ์จะไปในทิศทางไหน แต่พี่เขาน่ารักมากจริงๆ "
ไคชาร์ไม่รู้ตัวเลยว่าระหว่างที่กำลังพูดถึงจินฮวนนั้น ทั้งสีหน้า แววตา ท่าทาง ดูมีความสุขจนน่าประหลาดใจเป็นอย่างมาก แววตาเหมือนคนเจออะไรดีๆ เข้า ท่าทางตื่นเต้นอยู่ตลอด ไหนจะสีหน้าเขินอายนั่นอีก ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าชอบอีกฝ่ายมากแค่ไหน สิ่งที่อยากรู้ต่อมาคือเป็นลูกของใคร หน้าตาเป็นยังไง ถึงได้กุมหัวใจลูกชายคนเล็กที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใครมากนักได้
หลังจากที่เตรียมการมาอย่างดีงานในพิธีก็เริ่มต้นขึ้นเหมือนงานจัดแสดงโชว์ทั่วไป แต่จู่ๆ จินฮานก็มาสะกิดให้เดินตามไป ร่างสูงโปร่งเดินตามออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าธีมงานจัดแสดงเป็นแนวอียิปต์โบราณและชุดเครื่องเพชรที่ใส่แสดงคู่กับนางแบบชุดฟินนาเล่คือตนเอง แล้วจินฮวนก็โดนทีมงานหลายชีวิตรุมจับแต่งตัวด้วยความเร็วแสงโดยที่ไม่ได้ฟังคำพูดใดๆ ของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย"เสร็จแล้วครับคุณชายใหญ่ เป็นยังไงบ้างครับ" ภาพที่ปรากฎแก่สายตาของจินฮวนคือผู้ชายที่สวมชุดสีขาวสะอาดตาแนวโบราณ เสื้อแหวกลงไปถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องเล็กน้อยแต่ด้วยรูปร่างที่ดีอยู่แล้วทำให้ทีมงานพากันมองตาเป็นมันส์เลยทีเดียว"น้องผมหล่อมาก ขอบคุณที่ช่วยแต่งตัวให้ดีขนาดนี้" สายตาอาฆาตถูกส่งมาอย่างชัดเจนว่ากำลังด่าทอในใจมากมายจนรู้สึกได้"ทำไมพี่ฮานทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ จู่ๆ ให้คนมาจับผมแต่งตัวได้ยังไง ถึงผมจะมีกล้ามท้องบ้างนิดหน่อยแต่ไม่ได้เอามาโชว์ให้ใครดูนะ" สีหน้าโกรธนั้นออกมาทั้งแววตา ท่าทางทั้งหมดแต่ในสายตาของจินฮานมันเหมือนแมวกำลังขู่เสียมากกว่าเพราะความน่ากลัวของจินฮวนไม่ได
"ไม่คิดว่าอาหารของร้านนี้จะหวานขนาดนี้นะ คิดแบบนั้นไหม ไคชัวร์" ไคซีถามน้องชายฝาแฝดคนโตพลางมองไปยังน้องชายฝาแฝดคนเล็ก"ผมเองก็คิดแบบนั้นครับ เหมือนว่าพ่อครัวของที่นี่จะใส่น้ำตาลมากเกินไป""พ่อเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน""แม่เองก็คิดว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยกับทุกคน""ทำไมทุกคนต้องพากันมองมาที่ผมครับ ไม่มีอะไรสักหน่อย" ไคชาร์พูดพลางกินอาหารต่อไป"แกกล้าพูดเหลือเกินนะ ชมเขาซะขนาดนั้น มองดูก็รู้ว่าหลงขนาดไหน""แกก็พูดเกินเหตุไคชัวร์ ฉันไม่ได้ขนาดนั้นไหม""เลิกเถียงกัน ว่าแต่พวกลูกๆ จะกลับกันเมื่อไหร่""ผมว่าจะกลับพรุ่งนี้เลยครับแม่ อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว" ไคชาร์ตอบโดยไม่ได้มองสายตาอาฆาตแค้นมาจากทางด้านหลังเลยแม้แต่น้อย คือมันไม่จำเป็นต้องกลับพร้อมกันก็ได้ไง ถ้าอยากจะนอนตายอยู่ที่นี่ใครจะไปว่าอะไรล่ะ! แต่เขาอยากกลับเกาหลีเพราะมันมีอะไรที่น่าสนุกกว่าการอยู่ที่นี่เยอะเลย แถมตอนกลับมาก็เพื่อมาจัดการธุระทางนี้ให้เรียบร้อ
ตั้งแต่เถียงกันที่ร้านอาหารน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนเลย ทั้งที่พยายามขับรถตามก็แล้ว วิ่งตามเข้าบ้านก็แล้ว ทำทุกอย่างแล้วจนหมดหนทางถึงได้ยืนมองประตูห้องนอนอยู่แบบนี้ เหล่าคนรับใช้หลายคนอยากจะช่วยแต่ดูท่าจะเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เนื่องจากจินฮวนเป็นคนที่โกรธยากและหายยากด้วยเช่นกัน การจะตามง้อได้นั้นต้องมีความอดทนสูงมากทีเดียว คงได้แต่ภาวนาขอให้คุณชายเล็กให้อภัยคุณชายใหญ่โดยเร็วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม จินฮวน"ยังคงไร้เสียงตอบกลับมาเช่นเคย ไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกจากห้องแม้แต่น้อย ยิ่งเงียบยิ่งเดาทางได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนั้น ดวงตากลมโตมองผ่านตาแมวแล้วเห็นว่าพี่ฝาแฝดตนเองทำแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ถึงจะทำแบบนั้นก็ไม่มีทางหายเด็ดขาด คนเราควรรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากยังสำนึกผิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกไม่รู้ว่าคนภายนอกจะมองเขายังไง แต่ตอนนี้เขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือล่วงหน้าเตรียมรับมือกับการเรียนการสอนที่จะมีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ไหนจะงานรับน้องที่
แอ๊ด!"พี่ยังไม่ทันได้ฟังเลย ไหนลองเล่าใหม่ได้ไหม" ไคซี พี่สาวคนโตของตระกูลเพิ่งได้ทางมาจากฝั่งอเมริกาเหนือ ซึ่งต่อให้ใช้เครื่องบินเจ็ท อย่างน้อยก็ใช้เวลานานกว่าสิบสองชั่วโมงอยู่ดี ทำให้มาไม่ทันเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นทั้งหมด"ผมจะเล่าแบบง่ายๆ เลยพี่ซี ไอ้ชาร์ถูกคู่หมั้นตัวเองนอกใจมาเป็นปีแต่ว่าไม่ยอมเลิกกับมันซึ่งเรื่องนี้มีแค่ผมที่รู้ แล้วก็พยายามตามสืบอยู่นานจนมีหลักฐานครบกะจะโทรไปบอกมันแต่มันดันไปเจอช็อตเด็ดเข้าพอดีเลยร้องไห้เสียใจเหมือนอกหักเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนหักหลังมาก่อน เลยร้องไห้เสียใจเรียกแท๊กซี่ไปส่งที่ไหนไม่รู้ หลังจากนั้นให้มันเล่าเองแล้วกัน" ไคชัวร์เล่าไปได้สักพักก็ส่งไม้ต่อให้แฝดน้องแทนเพราะดูท่าเล่าต่อไปอาจจะทำให้ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระอีก"หลังจากนั้นผมเจอแมวที่น่ารักมากและอยากให้มาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเรา แล้วที่สำคัญคือส่งใบทะเบียนจดสมรสอันนั้นไปต่างประเทศในรัฐที่ให้ผู้ชายจดทะเบียนด้วยกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ส่วนพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธผมแบบตรงๆ
"แกเลิกยิ้มแบบนั้นสักทีจะได้ไหม ตั้งแต่วางหูโทรศัพท์มาแกทำตัวแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว บอกตามตรงว่าฉันสยองมาก" ไคชัวร์บอกด้วยท่าทางหวาดผวาน้องชายฝาแฝดตนเอง รู้อยู่ว่าคนเรามีความสุขก็ต้องยิ้มแต่นี่มันยิ้มเหมือนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมายขนาดนั้น"พี่เขาน่ารักมากว่ะ ฉันจะทำยังไงดีวะ""ฉันว่ากลับบ้านไปต้องพาแกไปหาหมอแล้วว่ะ""ทำไมวะ""หน้าแกแดงมากเหมือนคนเป็นไข้เลย ฉันกลัวแกจะน็อคตาย"นี่หน้าของเขาแดงถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตว่าถ้าเวลามีความรักขึ้นมาจะมีสีหน้าแบบนี้ ให้ตายเถอะ! ไคชาร์นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาตลอดการเดินทางเพราะมัวแต่คิดหนักเรื่องความรักรวมถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความจริงควรคิดถึงเรื่องที่โดนเรียกตัวมาในวันนี้เหมือนพี่ชายฝาแฝดแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"ตัวอยู่ไต้หวันแต่ใจอยู่เกาหลีสินะ" ไคชัวร์แซวออกมาทันทีเพราะเห็นน้องชายตนเองเงียบมาสักพักแล้ว แทนที่มันจะห่วงเรื่องทางนี้แต่กลับคิดถึงอีกคน ถ้าที่บ้านรู้จะทำแบ
หลังจากที่เจ้าเด็กห่มหนังแกะพาผมไปนั่นไปนี่ให้เกิดประเด็นต่างๆ มากมายในมหาวิทยาลัย เริ่มมีสายตามากมายมองมายัง จินฮวนว่าเด็กคนนี้คือใคร ทำไมถึงได้มารู้จัก คิวบ์บอยของมหาลัยได้ อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ได้เต็มใจแต่มันบังคับให้มาก็เลยต้องมาด้วยกันพอไม่มาก็ยกเรื่องจดทะเบียนสมรสมาว่าจะรีบมาบอกโดยไม่ทำตามขั้นตอนให้ดี ถามหน่อยว่าการแอบเอาใบทะเบียนไปขึ้นที่ต่างประเทศมันเรียกว่าถูกต้องหรืออย่างไร แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะห้ามอะไรไม่ทัน ได้แต่เลยตามเลยไปเท่านั้น"ลูกแม่! มาแล้วเหรอ ไหนมาหาแม่สิ" แดฮานบอกพลางอ้าแขนออกแล้วอีกฝ่ายก็ต้อนรับด้วยการอ้าแขนรับนั่นเอง เป็นเพื่อนที่หน้าหวานกว่าเขาแต่ไม่ได้รับผลโหวตที่เท่ากันอาจจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ออกสาวจริงแต่นิสัยดุมากเลยทำให้มีความขัดแย้งกันในตนเอง ถึงเขาจะไม่ได้ปากร้ายแบบนั้นแต่ก็พูดตามความสมควรที่ควรจะเป็น ไม่พูดจาไปเรื่อยให้ฟังดูขาดความน่าเชื่อถือ"แกก็ชอบทำเหมือนมันเป็นลูก จนอีกทีฉันคิดว่าแกคลอดมันออกมาแล้วนะ" ซองอึนเห็นแล้วอดแซวไม่ได้ คือไอ้จินฮวนน่ารักน่าเอ็