ตั้งแต่เถียงกันที่ร้านอาหารน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนเลย ทั้งที่พยายามขับรถตามก็แล้ว วิ่งตามเข้าบ้านก็แล้ว ทำทุกอย่างแล้วจนหมดหนทางถึงได้ยืนมองประตูห้องนอนอยู่แบบนี้ เหล่าคนรับใช้หลายคนอยากจะช่วยแต่ดูท่าจะเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เนื่องจากจินฮวนเป็นคนที่โกรธยากและหายยากด้วยเช่นกัน การจะตามง้อได้นั้นต้องมีความอดทนสูงมากทีเดียว คงได้แต่ภาวนาขอให้คุณชายเล็กให้อภัยคุณชายใหญ่โดยเร็ว
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
"ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม จินฮวน"
ยังคงไร้เสียงตอบกลับมาเช่นเคย ไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกจากห้องแม้แต่น้อย ยิ่งเงียบยิ่งเดาทางได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนั้น ดวงตากลมโตมองผ่านตาแมวแล้วเห็นว่าพี่ฝาแฝดตนเองทำแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ถึงจะทำแบบนั้นก็ไม่มีทางหายเด็ดขาด คนเราควรรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากยังสำนึกผิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก
ไม่รู้ว่าคนภายนอกจะมองเขายังไง แต่ตอนนี้เขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือล่วงหน้าเตรียมรับมือกับการเรียนการสอนที่จะมีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ไหนจะงานรับน้องที่ต้องคอยทำกิจกรรมอะไรอีกหลายอย่าง เดือนแรกน่าจะวุ่นวายเรื่องนี้จนไม่ค่อยได้เรียนอย่างแน่นอนเพราะฉะนั้นการเรียนด้วยตนเองคือวิธีรับมือที่ดีที่สุดในขณะนี้ ร่างสูงโปร่งยังคงตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือต่อไปพร้อมทั้งจดโน๊ตที่สำคัญเอาไว้เป็นลำดับ การมีสมาธิของเขาน่ากลัวตรงที่ว่าหากเข้าภวังค์ไปแล้วจะไม่รับรู้อะไรจากโลกภายนอกทั้งนั้น จะตั้งหน้าตั้งาทำอย่างเดียวจนกว่าจะเสร็จสิ้นความคิด
ซึ่งเป็นดั่งที่ใครหลายๆ คนคาดการณ์เอาไว้ คือคุณชายเล็กน่าจะมัวแต่อ่านหนังสือจนลืมไปแล้วว่ายังโกรธคุณชายใหญ่อยู่ ยิ่งอีกฝ่ายมีสมาธิมากขนาดนี้ การส่งเสียงเข้าไปในห้องแทบจะไม่ได้ผลเลย เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างช้า ถึงคุณชายใหญ่จะทำงานตามที่นายหญิงกับท่านชายมอบหมายให้ แต่สภาพจิตใจก็ล่องลอยไปถึงไหนต่อไหนไม่มีใครรู้ได้ แฝดบางคนหากไม่สนิทกันก็จะไม่ชอบขี้หน้ากันเลย แต่ถ้าใครสนิทกันก็จะถึงขั้นที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งทำตัวติดกันจนเหมือนคนๆ เดียวกัน ระยะเวลาล่วงเลยไปสามวันทำให้เหล่าคนรับใช้เริ่มเป็นห่วงเรื่องอาหารการกินเสียแล้ว
เพราะภายในห้องนอนมีอาหารที่กักตุนเอาไว้โดยฝีมือคุณชายเล็กถึงเจ็ดวัน หากเป็นเวลาปกติก็จะไม่มีใครเป็นห่วงอะไรมากมาย แต่ว่าทั้งสองยังทะเลาะกันอยู่เลยทำให้สถานการณ์ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้นไปอีก อีกคนก็ติดน้องชายจนไม่เป็นอันทำงานทำการ จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว อีกคนก็ติดหนังสือจนลืมโลกภายนอกไปเสียแล้ว ขอให้อาหารที่กักตุนไว้มีเพียงไม่กี่วันด้วยเถอะ ทั้งสองจะได้ออกมาพบหน้ากันเสียที
แอ๊ด!
เสียงเปิดประตูห้องของจินฮวนเหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด เพราะทุกคนกำลังรอคอยการกลับมาของคุณชายเล็ก ร่างสูงโปร่งเดินออกมาด้วยชุดนอนสีขาวสะอาด ใส่รองเท้าสำหรับใช้เดินในบ้านด้วยพื้นกำมะหยี่ แถมยังคงใส่แว่นกันแสงจากการอ่านหนังสือ นั่นหมายความว่าอาหารที่กักตุนไว้ในตู้เย็นเล็กหมดนั่นเอง แบบนี้โอกาสที่จะได้เจอกันนั้นมาถึงแล้ว
หมับ!
"หายโกรธพี่นะ พี่ขอโทษ พี่จะไม่ทำอีกแล้ว การรออะไรแบบนี้มันทำให้พี่เหมือนจะขาดใจตาย อย่าหนีหายไปจากพี่อีกได้ไหม" จินฮานขอโทษเป็นชุดพลางกอดด้วยความโหยหาตามประสาคนติดน้อง ร่างทั้งร่างสั่นไปด้วยความคิดถึง ส่วนอีกคนยังคงทำหน้านิ่งเหมือนเดิมและหยิบอาหารในตู้เย็นต่อไป
"ถ้าไม่ยอมพูดกับพี่แบบนี้ พี่จะร้องไห้แล้วนะ หายโกรธเถอะ! พี่ขอร้อง" จินฮวนหันมามองด้วยแววตาที่ว่างเปล่า สายตาเย็นชาถูกส่งออกมาอย่างเห็นได้ชัด นี่คือท่าทีตอนโกรธของคุณชายเล็กที่น้อยครั้งจะได้เห็น ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครอยากจะเห็นมันแน่
"คนที่พี่สมควรขอโทษไม่ใช่ผม แต่เป็นไคชาร์" เสียงทุ้มนุ่มตอบกลับมาพลางทำอาหารด้วยตนเองอย่างรามยอน
"ทำไมพี่ต้องขอโทษมันด้วย ในเมื่อคนที่โกรธพี่คือน้อง"
"เพราะว่าพี่ทำไม่ถูกไงครับ จนป่านนี้แล้วยังไม่รู้อีกเหรอว่าตัวเองผิดอะไร ทำไมช่างสมองช้าขนาดนี้ครับ นี่น่ะเหรอ! ผู้บริหารของตระกูล" เหมือนคำเปรียบเปรยเสียดแทงจิตใจจนเจ็บช้ำไปหมด หรือมันจะเป็นเวรกรรมที่เขาชอบไล่คนที่มาตามจีบน้องตนเองตั้งแต่เด็กกันนะ
"ผมจะพูดอีกครั้ง พี่ต้องขอโทษไคชาร์"
"แต่พี่ไม่มีอะไรที่จะติดต่อไคชาร์ได้เลยนะ แบบนี้จะให้ทำยังไง"
"ผมให้เวลาจนกว่าจะกินรามยอนเสร็จ โทรไปขอโทษไคชาร์แล้วผมจะหายโกรธ" เสียงทุ้มนุ่มบอกด้วยท่าทางจริงจังและยื่นมือถือของตนเองให้พลางกดรายชื่อเบอร์ของคนที่อยากจะให้พี่ชายตนเองขอโทษ แค่กดโทรออกก็สามารถพูดคุยได้แล้ว
จินฮวนรับโทรศัพท์มาอย่างจำยอมพลางมองใบหน้าที่คล้ายคลึงกับตนเองไปด้วย ทำไมต้องไปขอโทษคนกะล่อนแบบมันด้วยนะ! ในขณะที่เขากำลังใช้ความคิดอยู่นั้น น้องชายฝาแฝดก็ทำท่าทางว่ากำลังจะกินรามยอนแล้วนะ หากกินเสร็จแล้วยังไม่โทรไปคือน่าจะยากกว่านี้อย่างแน่นอน เขาได้แต่ระงับความโกรธแล้วกดโทรหารายชื่อที่ไม่อยากจะกดมากที่สุด
ตรู๊ด... ตรู๊ด...
(ไคชาร์)
"ฮัลโหลครับพี่ แปลกใจจังที่โทรหาผมก่อน มีอะไรหรือเปล่าครับ" ระหว่างรออาหารจู่ๆ ก็มีเบอร์ที่อยากคุยด้วยที่สุดโทรมาซะงั้น คิดถึงกันก็ไม่บอกนะ ท่าทางดีอกดีใจออกนอกหน้าของไคชาร์ทำให้ทุกคนในบ้านรู้ว่าใครโทรมา
"นี่ฉันเอง ไม่ใช่คนที่แกอยากคุยด้วยหรอก" เมื่อเสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่บุคคลที่คาดหวังทำให้สีหน้าของไคชาร์เปลี่ยนไปทันที
"ครับพี่จินฮาน มีอะไรหรือเปล่า ทำไมถึงเอาเบอร์พี่จินฮวนโทรมา"
"ฉันจะโทรมาขอโทษแก ที่ด่าไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว" สัปดาห์ที่แล้วงั้นเหรอ... อ๋อ! หมายถึงตอนที่แย่งโทรศัพท์ไปคุยนั่นเอง ว่าแต่ทำไมถึงมาขอโทษเขากันล่ะ มันเป็นเรื่องปกติที่จะโกรธกันนะ
"ตั้งแต่วันนั้นจนตอนนี้น้องฉันยังไม่ยอมคุยกับฉันเลย แล้วต้องมาขอโทษแกก่อนเพราะยังไม่รู้จักกันให้ดีจะไปตัดสินคนจากเปลือกนอกไม่ได้" น่ารัก! ทำไมพี่จินฮวนเป็นคนน่ารัก เวลาโกรธยังน่ารักเลย
"ครับ ผมไม่โกรธอะไรพี่เลย" เพราะความน่ารักของพี่จินฮวนที่โกรธแทนเขา แต่จากใจจริงคือไม่ได้โกรธอะไรทั้งสองคนเลยสักนิด ดูยังไงก็เหมือนแมวขู่มากกว่าเสือ
"งั้นก็ดี ฉันวางล่ะ"
ติ๊ด!
"ใครโทรมาหาแก หน้าบานขนาดนี้" ไคชัวร์ถาม
"พี่ชายของพี่เขาโทรมาขอโทษที่ด่าผมเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว เห็นว่าพี่จินฮวนโกรธจนไม่ยอมคุยด้วยเป็นอาทิตย์ คนอะไรน่ารักเสียจริง"
มองจากดาวอังคารก็ยังรู้ว่าไคชาร์เป็นคนที่ชอบใครแล้วเหมือนจะอวยคนนั้นมากเป็นพิเศษ เพราะสังเกตได้จากการที่อีกฝ่ายโกรธแทนแบบนี้ก็ยิ่งชอบ แถมยังบอกว่าน่ารักอีกต่างหาก คนเราตอนโกรธมันจะไปน่ารักได้ยังไงกันล่ะ
หลังจากที่เตรียมการมาอย่างดีงานในพิธีก็เริ่มต้นขึ้นเหมือนงานจัดแสดงโชว์ทั่วไป แต่จู่ๆ จินฮานก็มาสะกิดให้เดินตามไป ร่างสูงโปร่งเดินตามออกไปโดยที่ไม่รู้ว่าธีมงานจัดแสดงเป็นแนวอียิปต์โบราณและชุดเครื่องเพชรที่ใส่แสดงคู่กับนางแบบชุดฟินนาเล่คือตนเอง แล้วจินฮวนก็โดนทีมงานหลายชีวิตรุมจับแต่งตัวด้วยความเร็วแสงโดยที่ไม่ได้ฟังคำพูดใดๆ ของเจ้าตัวเลยแม้แต่น้อย"เสร็จแล้วครับคุณชายใหญ่ เป็นยังไงบ้างครับ" ภาพที่ปรากฎแก่สายตาของจินฮวนคือผู้ชายที่สวมชุดสีขาวสะอาดตาแนวโบราณ เสื้อแหวกลงไปถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องเล็กน้อยแต่ด้วยรูปร่างที่ดีอยู่แล้วทำให้ทีมงานพากันมองตาเป็นมันส์เลยทีเดียว"น้องผมหล่อมาก ขอบคุณที่ช่วยแต่งตัวให้ดีขนาดนี้" สายตาอาฆาตถูกส่งมาอย่างชัดเจนว่ากำลังด่าทอในใจมากมายจนรู้สึกได้"ทำไมพี่ฮานทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ จู่ๆ ให้คนมาจับผมแต่งตัวได้ยังไง ถึงผมจะมีกล้ามท้องบ้างนิดหน่อยแต่ไม่ได้เอามาโชว์ให้ใครดูนะ" สีหน้าโกรธนั้นออกมาทั้งแววตา ท่าทางทั้งหมดแต่ในสายตาของจินฮานมันเหมือนแมวกำลังขู่เสียมากกว่าเพราะความน่ากลัวของจินฮวนไม่ได
"ไม่คิดว่าอาหารของร้านนี้จะหวานขนาดนี้นะ คิดแบบนั้นไหม ไคชัวร์" ไคซีถามน้องชายฝาแฝดคนโตพลางมองไปยังน้องชายฝาแฝดคนเล็ก"ผมเองก็คิดแบบนั้นครับ เหมือนว่าพ่อครัวของที่นี่จะใส่น้ำตาลมากเกินไป""พ่อเองก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน""แม่เองก็คิดว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นด้วยกับทุกคน""ทำไมทุกคนต้องพากันมองมาที่ผมครับ ไม่มีอะไรสักหน่อย" ไคชาร์พูดพลางกินอาหารต่อไป"แกกล้าพูดเหลือเกินนะ ชมเขาซะขนาดนั้น มองดูก็รู้ว่าหลงขนาดไหน""แกก็พูดเกินเหตุไคชัวร์ ฉันไม่ได้ขนาดนั้นไหม""เลิกเถียงกัน ว่าแต่พวกลูกๆ จะกลับกันเมื่อไหร่""ผมว่าจะกลับพรุ่งนี้เลยครับแม่ อีกไม่กี่วันก็จะเปิดเทอมแล้ว" ไคชาร์ตอบโดยไม่ได้มองสายตาอาฆาตแค้นมาจากทางด้านหลังเลยแม้แต่น้อย คือมันไม่จำเป็นต้องกลับพร้อมกันก็ได้ไง ถ้าอยากจะนอนตายอยู่ที่นี่ใครจะไปว่าอะไรล่ะ! แต่เขาอยากกลับเกาหลีเพราะมันมีอะไรที่น่าสนุกกว่าการอยู่ที่นี่เยอะเลย แถมตอนกลับมาก็เพื่อมาจัดการธุระทางนี้ให้เรียบร้อ
ตั้งแต่เถียงกันที่ร้านอาหารน้องชายฝาแฝดของเขาก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องนอนเลย ทั้งที่พยายามขับรถตามก็แล้ว วิ่งตามเข้าบ้านก็แล้ว ทำทุกอย่างแล้วจนหมดหนทางถึงได้ยืนมองประตูห้องนอนอยู่แบบนี้ เหล่าคนรับใช้หลายคนอยากจะช่วยแต่ดูท่าจะเป็นเรื่องยากกว่าที่คิด เนื่องจากจินฮวนเป็นคนที่โกรธยากและหายยากด้วยเช่นกัน การจะตามง้อได้นั้นต้องมีความอดทนสูงมากทีเดียว คงได้แต่ภาวนาขอให้คุณชายเล็กให้อภัยคุณชายใหญ่โดยเร็วก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!"ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม จินฮวน"ยังคงไร้เสียงตอบกลับมาเช่นเคย ไม่มีเสียงอะไรเล็ดรอดออกจากห้องแม้แต่น้อย ยิ่งเงียบยิ่งเดาทางได้ยากว่าเกิดอะไรขึ้นภายในห้องนั้น ดวงตากลมโตมองผ่านตาแมวแล้วเห็นว่าพี่ฝาแฝดตนเองทำแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว ถึงจะทำแบบนั้นก็ไม่มีทางหายเด็ดขาด คนเราควรรู้ว่าอะไรควรหรือไม่ควร หากยังสำนึกผิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาคุยกันอีกไม่รู้ว่าคนภายนอกจะมองเขายังไง แต่ตอนนี้เขากำลังตั้งใจอ่านหนังสือล่วงหน้าเตรียมรับมือกับการเรียนการสอนที่จะมีในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าแล้ว ไหนจะงานรับน้องที่
แอ๊ด!"พี่ยังไม่ทันได้ฟังเลย ไหนลองเล่าใหม่ได้ไหม" ไคซี พี่สาวคนโตของตระกูลเพิ่งได้ทางมาจากฝั่งอเมริกาเหนือ ซึ่งต่อให้ใช้เครื่องบินเจ็ท อย่างน้อยก็ใช้เวลานานกว่าสิบสองชั่วโมงอยู่ดี ทำให้มาไม่ทันเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นทั้งหมด"ผมจะเล่าแบบง่ายๆ เลยพี่ซี ไอ้ชาร์ถูกคู่หมั้นตัวเองนอกใจมาเป็นปีแต่ว่าไม่ยอมเลิกกับมันซึ่งเรื่องนี้มีแค่ผมที่รู้ แล้วก็พยายามตามสืบอยู่นานจนมีหลักฐานครบกะจะโทรไปบอกมันแต่มันดันไปเจอช็อตเด็ดเข้าพอดีเลยร้องไห้เสียใจเหมือนอกหักเพราะว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์โดนหักหลังมาก่อน เลยร้องไห้เสียใจเรียกแท๊กซี่ไปส่งที่ไหนไม่รู้ หลังจากนั้นให้มันเล่าเองแล้วกัน" ไคชัวร์เล่าไปได้สักพักก็ส่งไม้ต่อให้แฝดน้องแทนเพราะดูท่าเล่าต่อไปอาจจะทำให้ทะเลาะกันด้วยเรื่องไร้สาระอีก"หลังจากนั้นผมเจอแมวที่น่ารักมากและอยากให้มาเป็นครอบครัวเดียวกับพวกเรา แล้วที่สำคัญคือส่งใบทะเบียนจดสมรสอันนั้นไปต่างประเทศในรัฐที่ให้ผู้ชายจดทะเบียนด้วยกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่ามันจะได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที ส่วนพี่เขาก็ดูเหมือนจะไม่ได้ปฏิเสธผมแบบตรงๆ
"แกเลิกยิ้มแบบนั้นสักทีจะได้ไหม ตั้งแต่วางหูโทรศัพท์มาแกทำตัวแบบนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว บอกตามตรงว่าฉันสยองมาก" ไคชัวร์บอกด้วยท่าทางหวาดผวาน้องชายฝาแฝดตนเอง รู้อยู่ว่าคนเรามีความสุขก็ต้องยิ้มแต่นี่มันยิ้มเหมือนมีเรื่องราวดีๆ เกิดขึ้นในชีวิตมากมายขนาดนั้น"พี่เขาน่ารักมากว่ะ ฉันจะทำยังไงดีวะ""ฉันว่ากลับบ้านไปต้องพาแกไปหาหมอแล้วว่ะ""ทำไมวะ""หน้าแกแดงมากเหมือนคนเป็นไข้เลย ฉันกลัวแกจะน็อคตาย"นี่หน้าของเขาแดงถึงขนาดนี้เลยเหรอ ไม่เคยรู้มาก่อนในชีวิตว่าถ้าเวลามีความรักขึ้นมาจะมีสีหน้าแบบนี้ ให้ตายเถอะ! ไคชาร์นิ่งเงียบไม่พูดไม่จาตลอดการเดินทางเพราะมัวแต่คิดหนักเรื่องความรักรวมถึงความรู้สึกของตนเองที่มีต่อฝ่ายตรงข้าม ซึ่งความจริงควรคิดถึงเรื่องที่โดนเรียกตัวมาในวันนี้เหมือนพี่ชายฝาแฝดแต่มันกลับไม่เป็นเช่นนั้น"ตัวอยู่ไต้หวันแต่ใจอยู่เกาหลีสินะ" ไคชัวร์แซวออกมาทันทีเพราะเห็นน้องชายตนเองเงียบมาสักพักแล้ว แทนที่มันจะห่วงเรื่องทางนี้แต่กลับคิดถึงอีกคน ถ้าที่บ้านรู้จะทำแบ
หลังจากที่เจ้าเด็กห่มหนังแกะพาผมไปนั่นไปนี่ให้เกิดประเด็นต่างๆ มากมายในมหาวิทยาลัย เริ่มมีสายตามากมายมองมายัง จินฮวนว่าเด็กคนนี้คือใคร ทำไมถึงได้มารู้จัก คิวบ์บอยของมหาลัยได้ อยากจะบอกเหลือเกินว่าไม่ได้เต็มใจแต่มันบังคับให้มาก็เลยต้องมาด้วยกันพอไม่มาก็ยกเรื่องจดทะเบียนสมรสมาว่าจะรีบมาบอกโดยไม่ทำตามขั้นตอนให้ดี ถามหน่อยว่าการแอบเอาใบทะเบียนไปขึ้นที่ต่างประเทศมันเรียกว่าถูกต้องหรืออย่างไร แต่พูดไปก็เท่านั้นเพราะห้ามอะไรไม่ทัน ได้แต่เลยตามเลยไปเท่านั้น"ลูกแม่! มาแล้วเหรอ ไหนมาหาแม่สิ" แดฮานบอกพลางอ้าแขนออกแล้วอีกฝ่ายก็ต้อนรับด้วยการอ้าแขนรับนั่นเอง เป็นเพื่อนที่หน้าหวานกว่าเขาแต่ไม่ได้รับผลโหวตที่เท่ากันอาจจะเป็นเพราะภาพลักษณ์ออกสาวจริงแต่นิสัยดุมากเลยทำให้มีความขัดแย้งกันในตนเอง ถึงเขาจะไม่ได้ปากร้ายแบบนั้นแต่ก็พูดตามความสมควรที่ควรจะเป็น ไม่พูดจาไปเรื่อยให้ฟังดูขาดความน่าเชื่อถือ"แกก็ชอบทำเหมือนมันเป็นลูก จนอีกทีฉันคิดว่าแกคลอดมันออกมาแล้วนะ" ซองอึนเห็นแล้วอดแซวไม่ได้ คือไอ้จินฮวนน่ารักน่าเอ็