“แกร๊ก! ๆ , แอ๊ดดด!”
.
ดูท่าจะไม่ทันการณ์ซะแล้ว เพราะทันทีที่สายถูกตัดไปประตูไม้หน้าบ้านก็อ้ากว้างออกแทบจะทันที หญิงสาวผงะหงายหลังให้แก่ชายร่างโย่งคนหนึ่ง ที่แม้จะเคยเห็นหน้ากันมาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่การพบกันแบบประจันหน้าสองต่อสองในลักษณะนี้ แพรวจึงพยายยามเลี่ยงด้วยการชูโทรศัพท์ขึ้นมาประกบนาบกับสองฝ่ามือ แล้วผงกหัวไหว้ไปแบบส่ง ๆ พอเป็นพิธี
.
“สะ.. สวัสดีค่ะคุณพ่อ.. พอดีหนูว่าจะมาหาพีแต่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่อยู่?”
.
“อะ.. แฮ่ม.. ม.. ม.. อืม พีไม่อยู่จริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่เธอเป็นใคร? ฉันไม่เห็นจำได้ว่าเราเคยรู้จักกัน.. อืม.. ม.. ม..”
เสียงอู้อี้ในลำคอซุ่มเสียงสำเนียงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมาเต็มขั้น นี่ถ้าไม่ได้วงกบประตูค้ำไว้ล่ะก็ป่านนี้พ่อของพีคงล้มกระเท่เร่ไปแล้ว
.
“คือหนูเป็นเพื่อนพีค่ะ.. เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งแล้วตอนที่พ่อมาเคลียร์กับด่านตรวจโควิดให้ แต่ถ้านึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรนะคะคือหนูจะกลับแล้ว บังเอิญมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ขอโทษที่มารบกวนจริง ๆ ค่ะคุณพ่อ..”
โน้มตัวลงสนทนาอย่างสุภาพอ่อนน้อม และต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นไอ้ขี้เหล้าเมายาแต่อย่าลืมกันสิว่าถ้านับตามศักดิ์แล้วล่ะก็ เขาคนนี้ก็คือพ่อผัวเธอเลยทีเดียว แพรวไม่มีทางผละตัวออกไปแบบไม่มีสัมมาคาราวะหรอก ถ้าไม่โดนแตะเนื้อต้องตัวซะก่อน!
.
“หมับบบ!”
.
“อุ๊ย!”
.
“เฮ้!.. เดี๋ยวเซ้!.. จะรีบไปไหนล่ะสาวน้อย! เธอต้องเป็น Grab ส่งอาหารที่ปลอมตัวมาแน่ ๆ อื้มมม.. ม.. ม.. อั๊ก.. ก.. ก.. ฉันจำชุดยูนิฟอร์มได้ ถึงตอนปกติมันจะไม่อูมตูมเบิ้ม ๆ นมเป็นนมแบบนี้ก็เถอะ ฮั่ว.. ฮ่า.. ฮ่า.. ฮ่า”
.
เป็นเรื่องจริงที่คุณพ่อจำแพรวไม่ได้สักนิด ทรวดทรงสุดสะบึมของเธอล้วนถูกปกปิดไว้ด้วยเสื้อผ้าตัวใหญ่ที่หยิบแบบมั่วซั่วมาจากห้องของพี แต่ก็มิวายอำพรางอะไรได้สักเท่าไหร่ มิหนำซ้ำตอนนี้หน้าสวย ๆ ของเธอก็ยังมาอยู่ใต้หน้ากากครอบแก้วรูปร่างคล้ายหมวกกันน็อคซะอีก ก็เลยไม่แปลกที่คนแก่เมา ๆ จะมาทำลามกใส่
.
“หืมมม.. ”
“ฉันจำได้แล้วล่ะ! ว่าฉันสั่งกับแกล้มเป็นชุดเอ็นไก่ทอดไป ก็ไม่คิดนะว่าคนที่มาส่งจะเป็นสาวสะโพกใหญ่ที่น่าตีก้นสักป๊าบ! อั๊ก.. ก.. ก.. อืมมม.. ม.. ม.. ม..”
"ซูดดดด! หอม.. ม.. ม.. ม.. ตัวหอมดีจัง.. ง.. ง.. ง.."
.
“ไม่นะคะคุณพ่อ! ไม่ใช่หนู! เข้าใจผิดไปกันใหญ่แล้ว ปล่อยมือหนูเถอะค่ะได้โปรดเถอะ”
“กรี๊ดดดดด! อย่าค่ะคุณพ่อ!”
.
ลมโชยโบยลำตัว ฤทธิ์ความเมาบวกกับความหื่นในหัวทำให้คุณพ่อหน้ามืด แกไม่สนดินสนฟ้าอะไรทั้งสิ้น ต่อให้ด้านนอกจะละม้ายคล้ายพายุเข้าแกก็ไม่สนใจ ไวรัสห่าเหวอะไรล่ะ พายุฝนปนกับเชื้อร้ายจะขยายอาณาเขตเพิ่มเติมยังไง ก็ไม่ใช่กงการอะไรของแก พ่อของพีรู้แค่ว่าต้องดึงนังหนูนี่เข้ามาในบ้านให้ได้ กลิ่นกายสาปสาวนั่นทำให้แกฉุดคิดถึงใครบางคน
.
“ฉันไม่ทำอะไรหรอกน่าาา.. เข้ามาก่อน.. แค่นั่งคุยกันเอง ฉันบวกทิปค่าเสียเวลาให้ด้วยก็ได้ คิดซะว่าเป็นบริการเสริมที่รู้กันแค่เราสองคนไง!”
.
“ก็บอกแล้วไงคะว่าหนูไม่ใช่ Grab หนูเป็นเพื่อนลูกคุณนะ! ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้!”
“ไม่งั้นจะกรี๊ดให้คนช่วยจริง ๆ ด้วย!"
.
จากที่ฝนทำท่าเหมือนจะตั้งเค้า จู่ ๆ ฟ้าก็ผ่าโครมลงมาฉาดใหญ่ บรรยากาศสลัวเทาขึ้นมาอย่างน่ากลัว ย้อมทุกสิ่งรอบตัวให้เต็มไปด้วยแรงกดดัน ถึงคราวที่แพรวจะต้องสู้กับวิกฤตบ้าง อสุจิคนเป็นลูกยังไม่ทันฝังตัวจะมาโดนของพ่อเข้าไปสมสู่อีกก็กระไรอยู่ หล่อนจึงดิ้นลนอย่างสุดกำลัง ทั้งสะบัดทั้งตีทั้งตบ เกิดเป็นการยื้อยุดฉุดกระชากที่พอจะสู้กันไหว
.
เพราะคนเมาก็ไม่ต่างจากคนพิการ ลำพังยืนยังลำบากเรี่ยวแรงของแพรวจึงพอจะงัดได้ ฝนเริ่มลงเม็ดถี่รัวฟ้าคำรามน่ากลัวถี่ขึ้น แล้วยิ่งเป็นแบบนี้การจะตะโกนเรียกใครให้ช่วยยิ่งเป็นไปไม่ได้เลย ต่างคนต่างเห็นแก่ตัวที่จะเอาตัวรอด โควิดโดนฝนมีแต่จะซึมเข้าผิวหนังได้ไวกว่าปกติ บรรดาเพื่อนบ้านก็เลยพากันเก็บตัวเงียบ มิหนำซ้ำบางหลังยังถูกปล่อยทิ้งร้าง เนื่องจากชาวเมืองต่างพากันอพยพออกจากเมืองหลวงกันไปหมด
.
“โครมมม! , โครมมม! , ครื้มมม! , โครมมม!”
.
“กรี๊ดดดดด!!!”
“นี่ฉันควรจะกลัวอะไรก่อนดีเนี่ยะ! ช่วยด้วยค๊าาา! ช่วยหนูด้วยมีคนจะข่มขืนหนู!”
“กรี๊ดดดดด!!!”
.
เป็นเสียงกรีดร้องที่สะท้อนมุมตึกแต่ก็ไม่สามารถส่งไปถึงใครได้ แพรวเอี้ยวตัวกลับหลังเพื่อเช็คดูท้องถนนที่แต่ก่อนเคยมีวินวิ่งอยู่บ้าง มันคือพาหนะที่มาส่งเธอ แต่ตอนนี้กลับมีเพียงหลักเสาไฟสามถึงสี่ต้น แล้วก็ชุมสายด้านบนที่วูบไหวไปตามแรงลมที่กระหน่ำพัด
.
ไม่เว้นแม้กระทั่งบ้านไม้หลังนี้ที่โดนหางเลขไปด้วย มันตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ระหว่างความทันสมัยของตึกแถวด้านข้าง เป็นบ้านชั้นเดียวที่ทั้งผุแล้วก็พัง สนามหญ้าด้านข้างเต็มไปด้วยความรกชัฏอันขาดการดูแล ที่ด้านหลังกระบะบุโรทั่งคันเดิมที่เคยบึ่งไปช่วยพวกเด็ก ๆ ยังคงจอดแน่นิ่ง แพรวแทบคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าพ่อของพีเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ได้ยังไง คุณลุงหน้าโหดจิตใจดีที่ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ลูก ๆ รอด ทำไมถึงหื่นขนาดนี้เพียงแค่ก๊งเหล้า
.
ประตูหน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดหลอกหลอน พวกมันถูกลมพัดเพราะไมได้ลงกลอนแต่ก็ต้องยอมรับว่าโควิดจากฝน ก็กำลังกัดกินพวกมันอยู่เช่นกัน!
.
“เห็นไหม?! รีบเข้าไปข้างในกับฉันเดี๋ยวนี้ก่อนเราจะติดเชื้อ!”
คุณพ่อร้องเตือน ทั้งที่ร่างกายซวนเซหวิดจะล้ม
.
“ไม่ค่ะ! จะเป็นจะตายก็ไม่เข้าเด็ดขาด! หนูมีหน้ากากกันเชื้อหนูไม่กลัวหรอก”
“ลุงนั่นแหละปล่อยหนูซะที แล้วก็เข้าไปหลบข้างในได้แล้วถ้าไม่อยากตาย คนแก่ติดเชื้อง่ายกว่าวัยรุ่นไม่เคยดูข่าวเหรอคะ!”
พูดไปพลางสะบัดแขนหลุดพรวด
.
ชั่วเสี้ยวอึดใจนั้นนักศึกษาสาวคิดจะกระโดดถีบลุงขี้เมาให้ล้มหงายท้องด้วยซ้ำ เขาเมาจนแทบจะไม่สามารถประคองตัวเองได้แล้ว ดวงตาแดงก่ำยืนโซซัดโซเซหายใจออกมามีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์ ก่อนที่สักพักแกจะทรุดตัวลงไปเอง ณ บริเวณวงกบหน้าประตูบ้าน
.
“ตุบ!"
.
“แอ๊ก.. ก.. ก.. ก.. อั๊ก.. ก.. ก.. อืม.. ม.. ม.."
"ไม่เข้ามาด้วยกันจริง ๆ เหรอ? ในบ้านฉันปลอดภัยกว่าที่เธอคิดมากนะสาวน้อย?”
กวักมือไหว ๆ สภาพไม่ต่างจากคนชราขาดความอบอุ่น
.
“ไม่ค่ะลุง ลุงเลิกยุ่งกับหนูเหอะ หนูไม่อยากทำร้ายร่างกายพ่อเพื่อน”
.
“แต่ฉันหวังดีนะ ทำไมถึงมองโลกในแง่ร้าย?”
.
“ก็ลุงดูชั่วร้ายไงคะหนูไว้ใจลุงไม่ได้หรอก บ้านหลังนี้แข็งแรงซะที่ไหนดูที่หน้าต่างบานนั้นสิ? มันยุ่ยจนไม่เหลือเค้าโครงเดิมแล้ว!”
.
ชายสูงวัยหันตามโดยพลัน แน่นอนว่าบางส่วนของบ้านก็มีความสึกหรอจากโควิดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้เว่อร์จนตรงกับที่แพรวบอก แล้วพอเจ้าตัวผินหน้ากลับมาก็พบว่าเด็กสาวได้กระชับหน้ากากครอบแก้ว แล้วก็เดินตากฝนออกไปจากตัวบ้านไปเป็นที่เรียบร้อย หุ่นเธอยังคงเซี้ยะตูดกลม ๆ ดิ้นดุ๊กดิ๊กน่ารัก ประกอบกับรูปทรงของหน้ากากครอบแก้วที่คล้ายกับหมวกกันน็อค จากด้านหลังตรงนี้ก็เลยยิ่งทำให้พ่อของพีนึกถึงใครบางคนขึ้นมามากกว่าเก่า ถึงตัวเองจะโดนหลอกแต่ก็เต็มใจให้เด็กมันหลอก ไม่ได้โกรธเคืองอะไรเลย
.
ตัดภาพกลับมาเป็นมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ระหว่างที่เดินแบบเริ่ด ๆ เชิด ๆ ออกมาในอารมณ์ของผู้ชนะ แต่แล้วแพรวก็รับรู้ได้ถึงความไม่ปกติ เมื่อระดับโอโซนลดลงอย่างฮวบฮาบจนตัวเลขสถานะขึ้นเป็นสีแดงเถือก มิหนำซ้ำตัวเลขบอกเวลาตรงมุมบนด้านขวาก็ระบุว่า เหลือเวลาอีกแค่ 1 นาทีกับอีก 30 วิเท่านั้น หน้ากากจะหมดอายุ!
.
“ชิบหายแล้ว! ต้องเป็นเพราะเราตกใจมากแน่ ๆ อากาศบริสุทธิ์ข้างในเลยลดระดับเร็ว”
“แล้วนี่ก็เกือบ 3 ชั่วโมงมาแล้วด้วย นับตั้งแต่ที่เราสวมเจ้านี่มาจากตู้อัตโนมัติ"
"บ้าเอ๊ย! ดันลืมไปซะสนิท!”
.
ท่ามกลางฝนที่ลงเม็ดหนาตา พายุกำลังมาไวรัสกัดกินทุกอย่าง เสริมแรงด้วยตัวกลางอย่างน้ำที่แทรกซึมไปได้ทุกที่ แพรวหยุดฝีเท้าลงตรงหน้าบ้าน ถนนแปดเลนโล่งและว่าง ฟ้าผ่า “โครมมมมมม!!!” และเธอโคตรจะกลัว!
ชานระเบียงหน้าบ้านยังคงเปิดรับ แม้จะเป็นบ้านไม้ชั้นเดียวแต่บ้านของพีหลังนี้ก็มีพื้นที่สำหรับรับแขกที่มากในระดับที่น่าพอใจ มันไม่กว้างหรือแคบเกินไปแต่ก็มีข้อดีตรงที่โควิดยังกัดกินเข้ามาไม่ถึงตรงนี้ ฝนที่เริ่มตกหนักบวกกับลมที่พัดรุนแรงถูกหลังคาเสริมเหล็กด้านบนขวางกั้นเอาไว้หมด ด้วยความบริสุทธิ์ใจจากมุมมองภายนอก แพรวเห็นหยดน้ำเป็นสายธารหลากลงมาตามร่องกระเบื้องมุงหลังคา ก่อนจะหยดลงมาเป็นสายตกกระทบชิ่งลงดินเกิดเป็นควันฟดฟู่.“ฟู่~~~~!”.“อ๊ายยย! ถ้าโดนเข้าไปผิวเราเป็นรอยแน่!”นักศึกษาสาวคิดในใจ พลันเบี่ยงตัวตะแคงข้างกระโจนขึ้นไปเหยียบบนชานระเบียงที่คิดว่าน่าจะปลอดภัยที่สุด.โดยลืมไปซะสนิทว่าพื้นดังกล่าวเป็นไม้ ลำพังแค่ก้าวขึ้นไปเหยียบเบา ๆ เหมือนตอนแรก ไม้ระแนงที่รับน้ำหนักตัวก็ส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเลือนลั่นแล้ว แต่นี่เล่นกระโดดขึ้นไปแบบโครม ๆ โถมน้ำหนักตัว คิดเหรอว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นแบบเดียวกัน.“แอ๊ดดดดดด!!! , เอี๊ยดดดดดดด! , แอ๊ดดดดดดด!!!”.“ชิบหายแล้ว!”ดวงหน้าสะบัดปอยผมเปียก ๆ กระพรือสลวยก่อนจะมองไปในทิศเบื้องขวา ณ ตำแหน่งที่ห่างจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ราว 2 - 3 เมตร แน่นอนว่ามันคือจ
“ฟ้า~! ฟ้าไม่ส่งมา~! ให้เธอมีใจ! บอกกันสักคำเป็นไร ว่าเหตุใดเธอมาทำร้าย ♪ ”.เป็นเพลงเก่าของวง Tattoo color ที่เสร่อร้องออกมาแบบผิด ๆ ถูก ๆ เพราะเนื้อแท้แล้วก็แค่อยากจะข่มใจตัวเองไม่ให้กลัว ไหน ๆ ก็อุตส่าห์หนีตาลุงชั่วมาได้แล้ว ครั้นจะหันหลังกลับไปก็ดูจะไม่สมเหตุสมผล นี่คือสิ่งที่แพรวกำลังคิดอยู่ในหัว เธอยังคงเชิดหน้าเดินลัดสนามหญ้าหน้าบ้านออกมา ทั้งที่ภายในหน้ากากยังแสดงตัวเลขแจ้งเตือนว่าอากาศใกล้จะหมดเป็นสีแดงสว่างโพลง .“ไม่รู้ล่ะ! ยังไงซะเราก็ต้องมองหารถสักคันที่พอจะพาเราไปจากที่นี่ได้"แพรวรำพึงในใจ ทว่าฟ้าก็ดันร้องออกมาสอดคล้องกับเม็ดฝน ที่พรมลงมาหนาเม็ดขึ้นเรื่อย ๆ .“ครืมมม! , โครมมม! , ครืมมม! , ครืมมม!” "ซ่าาาา! , ซ่าาาา! , ซ่าาาา!" .“ฝนก็ตก! รถก็ไม่มีสักคัน! โดนกระเทยปล้ำ! แถมยังมาโดนพ่อเขาลวนลามอีก นี่มันวันซวยอะไรของฉันเนี่ยะ แล้วจนป่านนี้ก็ยังหายาคุมฉุกเฉินกินไม่ได้เลย ให้ฉันท้องด้วยเลยไหมล่ะ? ทำไมพระเจ้าถึงไม่เข้าข้างฉันเลย!”.ประชดชีวิตได้แค่แป๊บเดียว ฟ้าเบื้องบนที่ได้ยินคำพูดเมื่อครู่ก็ได้สำแดงเดช ด้วยการผ่าโครมลงมาใส่ตึกแถวที่ขนาบข้างบ้านของพี."เปรี๊ยงงง
“แกร๊ก! ๆ , แอ๊ดดด!”.ดูท่าจะไม่ทันการณ์ซะแล้ว เพราะทันทีที่สายถูกตัดไปประตูไม้หน้าบ้านก็อ้ากว้างออกแทบจะทันที หญิงสาวผงะหงายหลังให้แก่ชายร่างโย่งคนหนึ่ง ที่แม้จะเคยเห็นหน้ากันมาแล้วหนหนึ่ง แต่ก็ไม่ใช่การพบกันแบบประจันหน้าสองต่อสองในลักษณะนี้ แพรวจึงพยายยามเลี่ยงด้วยการชูโทรศัพท์ขึ้นมาประกบนาบกับสองฝ่ามือ แล้วผงกหัวไหว้ไปแบบส่ง ๆ พอเป็นพิธี.“สะ.. สวัสดีค่ะคุณพ่อ.. พอดีหนูว่าจะมาหาพีแต่ตอนนี้เหมือนมันจะไม่อยู่?”.“อะ.. แฮ่ม.. ม.. ม.. อืม พีไม่อยู่จริง ๆ นั่นแหละ ว่าแต่เธอเป็นใคร? ฉันไม่เห็นจำได้ว่าเราเคยรู้จักกัน.. อืม.. ม.. ม..”เสียงอู้อี้ในลำคอซุ่มเสียงสำเนียงไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเมาเต็มขั้น นี่ถ้าไม่ได้วงกบประตูค้ำไว้ล่ะก็ป่านนี้พ่อของพีคงล้มกระเท่เร่ไปแล้ว.“คือหนูเป็นเพื่อนพีค่ะ.. เราเคยเจอกันครั้งหนึ่งแล้วตอนที่พ่อมาเคลียร์กับด่านตรวจโควิดให้ แต่ถ้านึกไม่ออกก็ไม่เป็นไรนะคะคือหนูจะกลับแล้ว บังเอิญมีเรื่องเข้าใจผิดกันนิดหน่อย ขอโทษที่มารบกวนจริง ๆ ค่ะคุณพ่อ..”โน้มตัวลงสนทนาอย่างสุภาพอ่อนน้อม และต่อให้เบื้องหน้าจะเป็นไอ้ขี้เหล้าเมายาแต่อย่าลืมกันสิว่าถ้านับตามศักดิ์แล้วล่ะก็ เขา
ม่านควันจางหายไปคล้ายลมหมอก ทุกอย่างขาวโพลนประหนึ่งชายหนุ่มหญิงสาวที่จูงมือกันในงานวิวาห์สมรส ทว่าตอนนี้กลับไม่ใช่แบบนั้น พีกระเสือกกระสนดึงศีระตัวเองออกมาจากเครื่อง ฝ่าเท้าของเขาประทับแนบกับพื้นคอนกรีตฟุตบาทได้อย่างมั่นคง แม้จะยังมึนหัวอยู่สักหน่อย.ทัศนวิสัยค่อย ๆ ปรับชัดขึ้นทีละนิด ในมุมมองบุคคลที่หนึ่ง (First person) ด้านในหน้ากากครอบแก้วจะมีตัวเลขแสดงค่าความเข้มข้นของโอโซนอยู่ตรงมุมบนด้านขวา ซึ่งจะแทนค่าความบริสุทธิ์ด้วยเฉดสีและตอนนี้มันก็เป็นสีฟ้าน้ำทะเล บ่งบอกว่าภายในหน้ากากทรงหมวกกันน็อคอันนี้คือสะอาดสุด ๆ เชื้อโรคสักตัวก็เข้ามาไม่ได้ เสียอย่างเดียวตรงที่มีกำหนดระยะเวลานับถอยหลังอยู่.“ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก! , ติ๊ก!”.“ฟืดดด.. ด.. ด.. ด.. ด , ฮืดดด.. ด.. ด.. ด , ฮาดดด.. ด.. ด.. ด”พีเร่งสูดลมหายใจโดยพลัน.“ชิ! นี่แหละธุรกิจ! นี่แหละโลกแห่งทุนนิยม! ถ้าใช้ซ้ำได้บริษัท AP ก็คงไม่รวยระเบิดระเบ้อขนาดนี้ ฉันล่ะอิจฉาเธอจริง ๆ เลยมิวท์ รวยขนาดนี้ทำไมถึงเอากับแฟนเพื่อนได้นะ!”คิดในใจไปพลางโดยไม่ฉุดคิดสักนิดว่าตัวเองก็เพิ่งผ่านการมีเพศสัมพันธ์กับเพื่อนมาหยก ๆ พีเร่งอ้าปากงับ
เสียงระเบ็งเซ็งแซ่ของผู้คนหลากหลายหน่วยยังคงอึกทึก รอบตัวมั่วซั่วโกลาหลวิ่งกันให้วุ่นจนพีแทบแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร ชุด PPE ปลอดเชื้อสีเขียวกระจายตัวอยู่กลาดเกลื่อน แล้วก็เป็นความจริงที่ว่าจากที่ซ่อนด้านหลังพุ่มไม้ตรงนี้ สายตากระเทยหนุ่มแทบมองไม่เห็นพลเมืองคนอื่นเลย ทุกคนคงล็อคดาวน์ตัวเองและขังตัวตนหลีกเลี่ยงการติดเชื้อกันหมด และขืนเป็นเช่นนี้ต่อไปสภาวะเสี่ยงสูงจากการโดนจับก็คงตกเป็นของเขา.“แหงล่ะ! ก็ฉันมันสาวประเภทสองนี่นา~! เช๊อะ!”ชายหนุ่มพยายามใช้คำที่สุภาพเมื่อพูดกับตัวเอง เขาให้เกียรติเพศสภาพตัวเองเสมอ แม้ตอนนี้เพื่อนร่วมอุดมการณ์จะถูกจับใส่กรงไม่ต่างจากหมาแลกกะละมังที่เห็นกันตามชนบท.“จริงสิคิดออกแล้ว! บริษัท AP เขามีแอพพลิเคชั่นด้วยนี่นา ถ้าเรากดเข้าไปในแอพจะมีสินค้าของบริษัทวางขายแบบออนไลน์ แล้วในโหมดแผนที่ก็จะมีที่ตั้ง shop ต่าง ๆ อยู่ ที่นั่นมีตู้หน้ากากหยอดเหรียญวางอยู่ด้านหน้าเสมอ”“โป๊ะเช๊ะ! นี่แหละใช่เลย!”.สะบัดต่อไม่รอแล้วนะ ประหนึ่งแสงแห่งชัยชนะพุ่งเสยออกมาจากกอไม้ พีดีใจมากพลันชะเง้อคอมองซ้ายแลขวาเช็คว่ายังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจ ก่อนจะควักโทรศัพท์ปาดนิ้วหาแอพ
“โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. ฮี้.. โฮ่.. โฮ่.. โฮ่!”.ภาพในจินตนาการคือทาซานมาโผล่กลางกรุง แม้รูปร่างตัวเองจะเหมือนกับสัตว์ป่ามากกว่าคน แต่พีก็ไม่สนอะไรอีกต่อไปแล้ว อะดรีนาลีนหลั่งยิ่งกว่าตอนมีเซ็กส์ จับทุกสิ่งทุกอย่างมาผูกรวมกันด้วยเงื่อนพิรอด อันเป็นศัพท์แสงจากวงการลูกเสือที่เคยเรียนมาเมื่อครั้งเป็นเด็ก.“ซ้ายทับขวา.. ขวาทับซ้าย.. แล้วก็ดึง.. สติพี! สติ! อย่าล่กใจเย็นเข้าไว้!”“ชื่อมันก็บอกว่าเงื่อนพิรอด เราต้องรอดสิวะจะมิรอดได้ไง!”.บ่นพึมพำกับตัวเองโดยไม่แคร์ว่าใครจะได้ยินไหม ณ ตอนนี้กล่องลังเบียร์เริ่มจะยุบ มองเข้าไปเห็นแม้กระทั่งดวงตาของคุณหมอที่ส่องทะลุเลนส์แว่นตรวจจับความร้อนสวนออกมา พวกเขาเห็นพีเต็ม ๆ เห็นชัดแจ่มแจ้ง แถมยังวิทยุรายงานเป็นพัลวันว่ามีคนบ้าแก้ผ้าอยู่ตรงระเบียง.“ว๊ายยยย!”“ไม่! เราไม่มีเวลากรี๊ดดด! เราต้องรีบเหวี่ยงตัวลงไปก่อนจะถูกจับ”.ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา กระเทยหนุ่มจัดแจงทิ้งปลายเชือกที่ทำขึ้นจากเสื้อผ้าทั้งหลายลงไปยังระเบียงห้องเด็กด้านล่าง พลางบรรจงใช้ปลายอีกด้านมัดกับราวเหล็กกันตกของห้องตัวเอง โดยหวังจะใช้ประโยชน์จากความยืดหยุ่นของเจ้าสิ่งนั้น.“กางเกงใ