LOGINชั้นในตัวบางลายเรียบร้อยถูกสวมใส่คืนเข้าที่ ย่างกายไปอีกฝั่งมีบลาสีเข้ากันวางกองอยู่บนพื้น มิวท์บรรจงสวมทุกอย่างคืนสู่ร่างเปลือยตนเองด้วยความเคอะเขิน ถึงนี่จะไม่ใช่ครั้งแรกแต่เธอก็ยังไม่ชินกับพฤติกรรมเสื่อมทรามคาวโลกีย์นี้เสียที กิจกามเริงสวาทของเธอและเปรมจบลงไปแล้ว โพรเดียมเต็มไปด้วยคราบเหงื่อ ส่วนโต๊ะเมนตรงกลางก็เกรอะกรังไปด้วยสารคัดหลั่งจำพวกน้ำหล่อลื่นและซากอสุจิ
.
บางทีพวกเขาอาจจะเร่งเกินไป ความรุนแรงเกินห้ามใจทำให้อะไร ๆ จบลงเร็วกว่าที่คิด จึงไม่เป็นผลดีต่อความรู้สึกลึก ๆ ภายในใจสักเท่าไหร่ มิวท์ยังไม่เสร็จนั่นคือความจริง เธอค้างเติ่งกลางอากาศดูจากรอยย่นบนใบหน้าก็รู้ว่าเธอไม่สบอารมณ์นัก
.
“คลิ๊ก”
สะบัดบลาติดตะขอคืนด้วยตนเอง นวลนมดีดเด้งเข้าที่ตามติดมาด้วยการก้มลงคว้าเอาชุดเดรสกับเสื้อสูทอันแสนภูมิฐาน ขึ้นมากลัดกระดุมคืนตำแหน่งเดิม
.
“บ้าบอชะมัด! ใครกันที่โทรมาขัดอารมณ์ตอนนี้ , หึ๊ยยย! , น่าโมโหจัง!”
สะบัดผมมุ่ยหน้ามองบน มิวท์เดินย้อนกลับมายังโต๊ะเมนตรงกลาง ที่ซึ่งมีเปรมกับร่างเปลือยของเขากำลังนอนคุยโทรศัพท์กับใครบางคนอยู่
.
“ให้ตายเถอะ! ก็จริงอยู่ว่าฉันอาจจะปลอดภัยจากการติดเชื้อไปได้สักระยะ แต่ฉันยังไม่เสร็จนี่นา ฉันยังไม่ถึงจุดสุดยอดเลยด้วยซ้ำโถ่เอ๊ย!”
.
มิวท์ไม่ได้แค่คิดในใจแต่ยังใช้ตากลมสวยสุดบ่องแบ้ว ชำเลืองมองแกนแข็งของเปรมไปพร้อมกัน มันยังคงตั้งตระหง่านชูชันต่อให้พยายามบังหรือปิดป้องเธอก็ดูออกอยู่ดี โดยสถิติแล้วอสุจิจากกระบอกดุ้นจะพุ่งน้ำออกมาได้มากกว่านี้มาก เปรมยังใส่ได้อีกหลายดอกแต่เขาจำเป็นต้องหยุดลงกลางครันและขอให้มิวท์เลิก เพราะบทสนาที่ดังก้องอยู่ในสายโทรศัพท์
.
“เช๊อะ! ไงคะพี่เปรมคุยเสร็จรึยังมิทราบ?!”
กระแหนะกระแหนสุดฤทธิ์ มิวท์นั่งลงบนโต๊ะด้วยชุดเก่าชุดเดิม เธอเค้นเสียงเข้มพลางจิกสายตาประชดประชันสุดเหยียด
.
ทำเอาฝ่ายชายที่นอนคุยอยู่ต้องสปริงตัวขึ้นมา เปรมรีบใช้สันนิ้วจ่อเข้าที่ริมฝีปากตัวเองเป็นสัญญาณบอกให้มิวท์เงียบ
.
“ชู่ววว!!!”
“เงียบก่อนมิวท์นี่เรื่องสำคัญนะ!”
.
“หึ! พี่ก็เป็นงี้ทุกทีได้หลายครั้งแล้วนี่เน๊อะ จะทำหรือจะทิ้งก็ได้พวกทำทิ้ง ๆ ขว้าง ๆ ก็งี้!”
.
ส่ายหน้าไม่สนใจเปรมก้าวเท้าลงจากโต๊ะแล้วคุยสายต่อ ขณะที่สายตาก็มองหาชุดเสื้อผ้าของตัวเองไปพร้อมกันด้วย
.
"/ไงต่อนะครับด็อกเตอร์ เมื่อกี้ผมไม่ค่อยได้ยิน/”
.
“/ได้ตัวอย่างเลือดสูตรใหม่แล้วเหรอครับ?/”
.
“/เลือกของพวกวิปริต พวกกระเทยที่มีฮิโมโกลบินเป็นประจุลบที่เข้ากับเลือดของผมได้/”
“/เยส!/”
“/แจ่มเลยด็อกเตอร์!/”
.
“/อ่า.. ฮะ/”
.
“/ครับ/”
.
“/รับทราบครับ/”
.
มิวท์ได้แต่มองตามอย่างน่าสงสาร นี่สินะที่เขาเรียกว่าโดนฟันแล้วทิ้งอย่างชัดแจ้ง เปรมไม่สนใจเธอเลยสักนิดเขาเอาแต่โทรศัพท์แล้วก็แสดงออกชัดผ่านทางใบหน้าที่มีแต่รอยยิ้ม ดูเขาจะฟินเหลือเกินปลายสายน่าจะเป็นคุณหมอสักคนหนึ่ง ฟังจากน้ำเสียงที่ลอดออกมามิวท์เดาว่าน่าจะเป็นด็อกเตอร์คนที่รับผิดชอบโครงการ covid หมอคนนี้แหละคือคนที่เปลื่ยนให้เปรมเป็นกึ่งคนกึ่งโรบอท ไม่มีหมอคนนี้แม้แต่มิวท์เองก็อาจจะตายเพราะติดเชื้อตามพ่อกับแม่ไปแล้ว
.
น้ำกามของเปรมช่วยยื้อชีวิตเธอไว้ ก๊าซจากฝ่ามือเขาก็ช่วยเหลือพลเมืองได้เป็นหมื่น ๆ คน แม้จะต้องแลกกับการสังเวยเลือดของ LGBT เป็นจำนวนมาก แต่พอคิดในแง่ของธุรกิจและมูลค่าทางการตลาดแล้วล่ะก็ ก็นับว่าคุ้มค่ากับการเข้ามาลงทุนของบริษัท AP อยู่ และกับตอนนี้ที่ทุกอย่างอยู่ในมือมิวท์ทั้งหมดด้วยแล้ว พอมีเปรมมาร่วมหัวจมท้ายด้วยอะไร ๆ มันก็เลยลงล็อคไปหมด
.
ยกเว้นการกระทำที่กำลังเป็นอยู่ซึ่งมิวท์ไม่ชอบมันเลย ใครจะอยากเป็นม้ากระดกที่โดนโยกโครม ๆ แล้วทิ้งไปเล่นกระดานลื่นกันล่ะ นี่ชีวิตคนนะไม่ใช่สนามเด็กเล่น เธอก็เลยต้องโต้ตอบความไม่พอใจกลับไป
.
“พี่เปรมคะ!”
สาวเจ้าตะโกนลั่นห้อง
.
“หืม..?”
“/แป๊บนะด็อกเตอร์/”
เขาใช้ฝ่ามือป้องโทรศัพท์ไว้พลันตวัดหน้ากลับหลังหันด้วยสภาพนุ่งลมห่มฟ้า ดูทรงแล้วเปรมน่าจะตื่นเต้นกับการสนทนากับด็อกเตอร์มากจริง ๆ
.
“พี่ไม่ต้องใส่แล้วนะคะเสื้อผ้าอ่ะ!”
“ตอนนี้มิวท์เก็บทุกอย่างมากองไว้ตรงนี้หมดแล้ว"
"หยุดคุยซะที! ไม่งั้นมิวท์จะโยนมันลงหน้าต่างแล้วทิ้งพี่ไว้ในนี้คนเดียว!”
.
หน้าแดงแปร๊ดโกรธเดือดปุด ๆ ทว่าก็ยังแลดูน่ารักเหมือนเด็ก ๆ อยู่ดี มิวท์ทำท่าทางน่ากลัวแบบนั้นไม่ขึ้นหรอก เธอทั้งดูอ่อนโยนและน่าปกป้อง เปรมมองปราดเดียวก็รู้ว่าเธอกำลังงอนและต้องการให้เขากลับมาสนใจ เขาก็เลยต้องตัดสายจากด็อกเตอร์ไปพลางก่อน
.
“/เอิ่ม../”
“/อย่างงี้ครับด็อกเตอร์ พอดีตอนนี้ผมมีธุระนิดหน่อย/”
“/ด็อกเตอร์ดำเนินการเบื้องต้นไปก่อนเลยนะครับ พยายามยื้อชีวิตเขาไว้ให้ได้ห้ามให้ตายเป็นอันขาด/”
“/ผมขอเวลาไม่เกิน 5 นาที จะบินเฮลิคอปเตอร์ไปหาถึงสถาบันเลย/”
.
“/ครับ/”
.
“/ได้ครับ.. ตามนั้นเลย/”
.
“/โอกาสหนึ่งในล้านเราตามหาตัวคนแบบเขามานานแสนนาน ในที่สุดก็เจอซะทีเรามีโอกาสชนะศึกนี้แล้วใช่ไหมครับ/”
.
แว่วเสียงคุยจากปลายสายตอบกลับมาอีกหลายคำ แต่ก็ไม่น่าจะดังเท่ากับเสียงดังต่อไปนี้
.
“กึก! ๆ , แอ๊ดดด!”
มันคือเสียงหมุนลูกบิดประตูคลายล็อคออก มิวท์กำลังจะเดินหอบเสื้อผ้าของเปรมออกจากห้องไป แบบไม่รอห่าเหวอะไรอีกแล้ว
.
“เฮ๊ย! มิวท์อย่าเพิ่งโอเค ๆ ๆ พี่วางแล้ว!”
“นี่ไงเห็นไหม? สไลด์โชว์เลยว่าวางสายแล้วหยุดคุยแล้วโอเค๊?!”
“ใจเย็นก่อนสิ!”
กระโดกกระเดกตกใจชายหนุ่มทำตามอย่างว่าง่าย ก่อนจะจำใจตัดสายทิ้งในที่สุด
.
ทว่าดูเหมือนสาวนักบริหารจะโกรธจริงเพราะแทนที่จะพูดคุยด้วยดี ๆ มิวท์กลับเลือกที่จะเปิดบทสทนาด้วยการปาเสื้อผ้าที่หอบอยู่ทั้งหมดใส่เปรมแทน
.
“พรึบ!”
.
“อุ๊บ!?”
.
“เอาเลยสิคะ! ใส่ซะแล้วจะไปไหนก็ไป! มิวท์หมดอารมณ์กับพี่แล้วเหอะ ด็อกเตอร์นั่นก็คนของมิวท์เหมือนกันบ้าบอที่สุด เจ้านายของเขาก็เป็นได้แค่ผู้หญิงสำส่อนที่นอนให้ผู้ชายปล้ำสินะ มิวท์มันไม่มีค่ามีราคาเลยงั้นหรอ! พี่เห็นมิวท์เป็นอะไรกันแน่พี่เปรม?!”
.
เสื้อไปทางกางเกงไปทางกางเกงในหล่นอยู่ใกล้สุด เปรมทำได้เพียงก้มหน้าก้มตาฟังแล้วก็ฟัง สลับกับการหยิบอาภรณ์แต่ละชิ้นขึ้นมาสวมใส่ เขาเองก็หมดอารมณ์จะร่วมรักกับมิวท์แล้วเช่นกัน ในหัวมีแต่ภารกิจเพราะข้อมูลที่ได้มาเมื่อครู่คือสิ่งที่จะเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์โลกได้เลย มนุษยชาติกำลังต้องการเขา แล้วเขาจะมัวมาเสียเวลาอยู่ที่นี่กับผู้หญิงขี้บ่นได้ยังไงกัน แต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จเปรมก็เลยตรงดิ่งพุ่งเข้าชาร์ทมิวท์ทันที
.
“ฟุบ!!!”
.
“ว๊ายยย!!!”
.
“ชู่ววว!.. เงียบเถอะคนดี”
.
มือหนาสอดเข้าโอบรัดเอวกิ่ว พลันดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดติดกาย แล้วประกบริมฝีปากจุมพิตเธอด้วยความมันเขี้ยว
.
“จุ๊บ , จ๊วบบบ , จุ๊บ , จุ๊บ , จุ๊บ”
.
สอดลิ้นพัลวันดูดดื่มเปรมมีเวลาแค่ 3 นาทีเท่านั้น แล้วมันก็ได้ผลเพราะนอกจากมิวท์จะใจเย็นลงแล้ว ตัวเธอยังอ่อนเหลวหมดเรี่ยวหมดแรงลงไปเลย แผ่นหลังถูกดันไปชนเข้ากับบานประตู ปลายนิ้วกร้านเอื้อมลงมากดล็อคก่อนที่ต่อมาจะลากเลื้อยขึ้นมาขย้ำลงที่ฐานปทุม มันเต่งตึงขึ้นสู้มือและระหว่างที่เปรมพยามจะสอดนิ้วเขาไปในร่องกระดุมเพื่อเขี่ยยอดถัน จู่ ๆ มิวท์ก็มีปฏิกิริยาขึ้น
.
“อื้อ~!”
“ไม่ค่ะ! ไม่ใช่แบบนี้!”
“ไม่เอา!”
“จ๊วบบบ!!!”
.
จูบสั้น ๆ สุดท้ายจากเธอก่อนจะแฉลบหน้าหลบ กลายเป็นภาพของคนสองคนที่เชยคางอยู่บนไหล่ของกันและกัน ต่างคนต่างนิ่งคนหนึ่งก็รีบและอยากจะสงเคราะห์คู่นอนให้ถึงสวรรค์จะได้จบ ๆ ส่วนอีกคนก็รับรู้ได้ว่านี่ไม่ใช่ความรัก มันไม่ใกล้เคียงแม้แต่ความเสี้ยนแต่มันเหมือนสัตว์ร้ายที่จ้องจะข่มขืนกันซะมากกว่า เปรมจึงเริ่มกอดมิวท์ใหม่อีกทีแบบเบา ๆ พลันเอ่ยคำขึ้นนุ่ม ๆ
.
“พี่ขอโทษนะเจ็บใช่ไหม? ร้องไห้ด้วย?”
.
“เจ็บใจมากกว่าค่ะ..”
มิวท์ตอบ
.
ก่อนที่ทั้งสองจะผละตัวออกจากกันแล้วกลับมานั่งพูดกันด้วยเหตุผลดี ๆ ตรงโต๊ะตัวเดิมที่เคยใช้เป็นลานประลองรักมาก่อน บัดนี้มันถูกทำความสะอาดแบบหยาบ ๆ มีเปรมนั่งอยู่ด้านบน และมีมิวท์นั่งอยู่ข้าง ๆ พวกเขาอยู่ในชุดเสื้อผ้ามิดชิดเรียบร้อย ก่อนที่เปรมจะค่อย ๆ เล่าสิ่งที่เขาพูดในโทรศัพท์ให้มิวท์ฟัง พวกเขาเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจกันแล้วนี่นา จึงไม่ดีแน่ถ้าจะทำอะไรแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ และมีความลับต่อกันแบบเมื่อครู่อีก
.
ซึ่งบางทีเปรมก็ควรจะรีบซะหน่อย ไหนบอกด็อกเตอร์ว่าขอเวลาแค่ 3 นาที ถ้ารู้ว่ากระเทยที่ถูกจับตัวมาคือ “พี” เขากับมิวท์จะยังคงนั่งชิวกันอยู่แบบนี้ไหมนะ
หน้าท้องแบนราบบดนาบเข้าหากัน มิวท์อยู่บนเจนิสอยู่ล่างการสั่นเทิ้มดังกล่าวค่อย ๆ ทุเลาลง แล้วก็ดูเหมือนว่าเรี่ยวแรงที่ใช้ห้ามหั่นจะเอาชีวิตของมิวท์ก็เริ่มอ่อนแรงลงเช่นกัน เธอค่อย ๆ กลับคืนสู่สภาวะของคนปกติ จุกหัวถันชูชันเกร็งเสียว และแม้แต่กงเล็บที่ยื่นยาวออกมาก็เริ่มหดสั้นกลับลงไป."พี่มิวท์คะ.."เจนิสกระแอมถามทั้งที่ใบหน้ายังคงบี้อยู่กับร่องนมของมิวท์ เธอผินหน้าเอียงเปลี่ยนมุมไปมาพอให้มิวท์ตื่นตัว สลับกับการแลบลิ้นเลียที่ฐานเต้าด้านล่างพลันลากวนโค้งไปตามความอวบอูมของบัวตูมคู่."แผล็บ.. บ.. บ.. บ!"."อ่าาา..า..า..า..า.."รุ่นใหญ่เผลอหลุดครางออกมาแผ่วเบา ลมหายใจร้อนผ่าวพ่นพรูออกมาทดแทนไอแห่งความเหม็นสาปจากเชื้อโควิด ตามติดมาด้วยผิวพรรณที่กลับมามีน้ำมีนวลเป็นสีชมพูบานสะพรั่งอีกครั้ง นี่คือผิวแบบลูกคุณหนูขนานแท้ มันคงผ่านการทำสปาร์มาจากหลายสถาบัน จึงไร้ซึ่งรอยด่างรอยดำ กระจ่างใสราวกับหลุดออกมาจากกระปุกครีม ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอะไรที่โคตรจะน่าฟัด!.ทว่าพอต้องมานอนคร่อมร่างของเด็กมัธยมอยู่แบบนี้ จิตใต้สำนึกของมิวท์ก็ต้องทำหน้าที่ของมันผ่านการปกป้องตัวเอง ทำให้สาวเจ้าต้องตัวกระตุกอีกหน พลั
จากด้านหนึ่งสู่อีกด้านหนึ่ง สาวน้อยวัยมัธยมเร่งฝ่ามือกระโจนโผทะยานไปสู่ตำแหน่งที่คิดว่าได้ยินเสียง พลางผงะเข้ากับรอยโหว่บนตัวเครื่องที่เกิดจากบานประตูที่กระเด็นออกไป แสงสว่างจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมาเป็นลำ นาทีนั้นแม้แต่แท่งไฟในมือเธอก็คงจะไม่จำเป็นซะแล้ว."มีการต่อสู้กันงั้นเหรอ?"เจนิสกระซิบ.พูดกับใครก็ไม่รู้ในเมื่อก็อยู่ตัวคนเดียว เหมือนเธอกำลังประเมินสถานการณ์ ข้างหน้ามีศพ ข้างหลังประตูพัง แล้วเมื่อกี้ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ด! นั่นอาจจะเป็นเสียงของมิวท์ก็ได้ บางทีเธออาจจะอยู่ในสภาวะวิกฤต."หรือมีผู้ติดเชื้อบุกเข้ามาทำร้ายพี่มิวท์?!".คราวนี้ไม่คิดแล้วแต่เหวี่ยงร่างกายเข้ามาในเครื่องเลย! โดยไม่สนหน้าอินท์หน้าพรหม เจนิสใช้แรงเหวี่ยงจากกระเป๋าเป้ตวัดทีเดียวร่างบางของเธอก็ม้วนหน้าเข้ามาด้านในราวกับนักยิมนาสติก เสี่ยงตายไม่ว่ามารยาทไม่ต้องทุกสิ่งที่ทำล้วนมาจากความต้องการจากหัวใจ ทว่าสิ่งที่เธอเห็นก็คือ...มิวท์ในเวอร์ชั่นผู้ติดเชื้อ.. ที่ยืนจังก้าเล็บยาวเฟื้อยลากมากับพื้น.!.หากย้อนกลับไปอ่านสักหน่อย จะเห็นเลยว่าบุคลิกของมิว์นั้นใกล้เคียงกับเปรมตอนที่รอเย่อร์เธอในห้องกระจกมาก
ปลายนิ้วแห้งผากราวกับกระดาษทราย กว่าจะสัมผัสได้ถึงหยดน้ำหยาดแรกกลีบผกาก็ช้ำมากจนออกสีแดงแกมระเรื่อ มิวท์เสียวแค่ในใจแต่ร่างกายกลับไม่เป็นดังที่หวัง เธอเอาแผ่นหลังพิงกับกำแพงห้องโดยสารพลางหลุบสายตามองเรียวขาของตัวเองทั้งสองข้างที่ตั้งชันขึ้นและกำลังสั่นระริก เธอเร่งเกินไปเธอฝืนทั้งที่ไม่ได้เงี่ยนจริง.ตอกย้ำการโกหกตัวเองด้วยการดีดกางเกงผ้ายืดที่พันอยู่กับข้อเท้าออก เธออยากเห็นความงุ้มเกร็งของปลายตีน เผื่อจะทำให้มีอารมณ์กระสันขึ้นมาต้านทานการกลายร่างได้บ้าง."ซีดดดด...จิ๋มแห้งจัดเลยอ่ะโถ่เอ๊ย!".แท่งน้ิวเปลี่ยนจากสองเป็นสาม ชี้ , กลาง , นาง เรียงตัวเป็นขยุมพลันยัดเข้าไปแบบสุดเหยียดก็แล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ผลหล่อนจึงได้รับแต่ความเจ็บปวดกลับมา แรงเสียดสีที่ขาดน้ำหล่อลื่นเป็นอะไรที่ทำร้ายช่องคลอดมาก มิวท์เหมือนกำลังทำทารุณกรรมกับตัวเอง และที่สำคัญที่สุดก็คือ ณ ตอนนี้และเดี๋ยวนี้ มุมมองสายตาของเธอก็เริ่มเห็นเป็นฉากสีแดงและเส้นเลือดยึกยือถักทอขึ้นมาแล้ว!."เรากำลังจะกลายร่าง.. อ่ะ.. อ๊ากกก..ก..ก..ก , อั๊ก..ก..ก!""เด็กผู้หญิงคนนั้นกับแท่งไฟส่องสว่างในมือ ทำให้เชื้อโควิดในตัวเรากำลังจะออกมา..
ภาพในฝันประเดประดังเข้ามาในหัว ภาพของการสังวาชกันในน้ำ ภาพของมิวท์สาวสวยหุ่นงามที่ถูหน้าอกบี้บดกับแผ่นหลังของเธอ สิ่งเหล่านี้ทำเอาเจนิสถึงกับมือไม้สั่น แม้ว่าเธอจะมองไม่เห็นโลโก้ของบริษัท AP ตรงท้ายเครื่องบิน และจากจุดที่ยืนอยู่ก็สูงและมืดเกินกว่าจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้ แต่ด้วยสัญชาตญาณที่ติดตัวมายังไงเธอก็ว่าใช่ นี่ต้องเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ตั้งใจออกมาตามหาแน่นอน."เอาไว้ก่อนเรื่องช่วยเหลือผู้คน เสียใจด้วยนะคะน้า แต่ก็ต้องขอบคุณด้วยเหมือนกันนี่ถ้าไม่ใช่ลูกผัวน้าหนูคงไม่ได้เจอกับเครื่องบิน"."ปั๊ก! , ฟู่..!!!"จากอุปกรณ์จุดไฟในมือกลายเป็นแท่งไฟส่องสว่าง มันถูกกระทุ้งด้วยหัวเข่าและเปล่งแสงสว่างโพลงออกมาทำให้ทั้งสองฟากของซอกเขากลายเป็นสีแดง."รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง" ถ้าจะต้องมีซาวด์ดนตรีประกอบเพลง "เล่นของสูง" ของวงบิ๊กแอสถือว่าเหมาะมาก เพราะเจนิสรู้อยู่แก่ใจว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นเสี่ยงแค่ไหน แท่งความร้อนเรืองแสงที่ถืออยู่จะกลายเป็นตัวล่อชั้นดีให้บรรดาผู้ติดเชื้อพุ่งเป้ามาที่เธอ แต่ก็นะ! จะให้ทำไงได้ล่ะในเมื่อหัวใจเรียกร้อง.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณคิดหาเหตุผลให้กับความรัก เมื่อนั้นก็แปลว่
"ไป! ,ไป! ,ไป!, เดินหน้าเร่งฝีเท้าหน่อยทุกคน! ใกล้จะค่ำแล้วอย่าแตกแถวดูแลกันและกันด้วย!"เสียงหัวหน้าหน่วยหันมากำชับ."อีกราว 500 เมตรก็จะถึงประตูหน้าวิลเลจแล้ว ในนั้นทุกคนจะปลอดภัยสบายใจได้"แกผินหน้ากลับมามองตรงพลางกระชับปืนคู่ใจแนบวงแขน แบกเป้ประทับบ่าเดินจ้ำอ้าวรวดเร็วปานจรวด.ที่ด้านหลังมีสมาชิกกลุ่มเพิ่มจำนวนขึ้นกว่า 20 ชีวิต มีทั้งเด็กและผู้หญิงแล้วก็คนแก่ ทุกคนต่างอยู่ในสภาพเหนื่อยล้าอิดโรย โดยมีสมาชิกหน่วยลาดตระเวนกระจายตัวล้อมรอบพวกเขาไว้อีกชั้นหนึ่ง พวกเขาต่างปฏิบัติหน้าที่อย่างแข็งขันแล้วก็โชคดีมากที่ไม่มีใครเสียชีวิตจากการปะทะกันเมื่อตอนบ่ายเลย.แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ใกล้ค่ำแบบนี้ก็ไม่แน่ ไม่มีใครอยากเสี่ยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อเวอร์ชั่นกลางคืนหรอก หัวหน้าหน่วยก็เลยพยายามย้ำนักย้ำหนาว่าให้ทุกคนเร่งฝีเท้าต้องไปให้ถึงวิลเลจก่อนตะวันตกดินให้ได้ ภาษากายดูจริงจังน่าเกรงขาม แต่ใครเล่าจะรู้ว่าในใจลึก ๆ นั้นหัวหน้าเป็นห่วงเจนิสมากขนาดไหน."โถ่.. เจนิสเอ๊ย! อุตส่าห์บอกแล้วว่าให้รักษาแนวด้านหลังเอาไว้ ทำไมถึงทำอะไรโดยพลการนะ""นี่เธอคิดจริง ๆ เหรอว่าตัวเองเก่งพอจะอาสาไปช่วยเหล
ทิ้งกระเป๋าเป้ปลดสัมภาระที่คิดว่าจะเป็นภาระในภายภาคหน้าไว้ที่พื้น เจนิสทำตามอย่างว่าง่าย เธอไม่มีแม้แต่อารมณ์ขี้งอนหรืองี่เง่าใด ๆ ด้วยเพราะรู้สถานการณ์ดี สิ่งที่ติดตัวมาจึงมีแค่ปืนหน้าไม้กับซองใส่ลูกดอก ในทิศหกนาฬิกาด้านตรงกันข้าม ร่างบางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยการคลานศอก เธอกดตัวให้ต่ำกระดืบ ๆ คืบคลานไปอยู่ในแนวด้านหลังสุดตามที่รุ่นพี่ออกคำสั่ง."เข้าใจแล้วค่ะ.. ไว้ใจหนูได้เลยหนูจะระวังหลังให้เอง ถ้าเจอผู้รอดชีวิตบอกให้ตามมาทางนี้ได้เลยนะคะ!"แม้แต่ซุ่มเสียงก็ดุดันจริงจังขึ้น ตอกย้ำว่าเธอไม่ได้มาเล่น ๆ.ด้วยความสัตย์จริงว่าการบู้นั้นไม่ใช่สไตล์ของเจนิสมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เธอเป็นนักรบสายซับพอร์ตไม่ใช่ตัวแทงค์ และถ้านับสถิติการฆ่าผู้ติดเชื้อแล้วล่ะก็ในแคลนก็คงจะเป็นเธอนี่แหละที่ตัวเลขอยู่ในลำดับต่ำสุด กลับกันแต่ถ้าหากเป็นการหนีเพื่อเอาตัวรอดแล้วล่ะก็ เจนิสก็จะพลิกสถิติกลับขึ้นมาเป็นผู้นำแห่งวงการได้เลย.จากคลานเริ่มค่อย ๆ ลุกขึ้นกระหยิ่มย่อง มือเรียวเกี่ยวตะขอขึ้นสายหน้าไม้เตรียมไว้ พลันกระโดดยิงหนึ่งดอกออกไปเมื่อเห็นเป้าหมายชัดเจน."ฟิ้ววว!"."ปั๊ก!"."หัว" เหมือนกันแต่เป็น "หัวเ