LOGIN22:30น.ไมอานั่งมาสก์หน้าอยู่บนโซฟาตัวนุ่มหน้าทีวีภายในห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่อยู่ระหว่างครัวทำขนมกับอีกฟากหนึ่งเป็นโต๊ะทานอาหาร หลังจากกลับมาจากไปส่งขนมให้อาธเนศที่บริษัทเมื่อช่วงบ่ายถึงร้านก็เย็นแล้ว เธอเลยตัดสินใจปิดร้านเพราะขนมก็ขายหมดเกลี้ยงตู้ไปตั้งแต่เช้าเลยเลือกจะเอาเวลาที่เหลือไปเตรียมวัตถุดิบทำขนมสำหรับวันถัดไปแทน ทำให้พรุ่งนี้เธอไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมของ…จะนอนตื่นสายให้ชื่นใจเลย!ครืดดดด ~ร่างเล็กนั่งอยู่ในชุดนอนละสายตาออกจากหน้าจอตรงหน้ามาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่สว่างวาบขึ้นมาก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งให้ชัด ถึงเห็นเป็นสายของย่ารดาที่โทรเข้ามาทำให้เธอไม่ลังเลที่จะกดรับมัน“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักปลายสายก่อน(ไมอานอนหรือยังลูก)“ยังค่ะ กำลังนั่งดูทีวีอยู่ค่ะ ย่ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอถามออกไปเพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ย่ารดาจะโทรมาหาเธอดึกดื่นขนาดนี้เพราะล่าสุดก็ตอนที่ให้เอาชาคาโมมายล์ไปให้(เอ่อ พอดีย่ามีเรื่องจะรบกวนหนูนิดนึง) เสียงปลายสายฉายความเกรงใจออกมาจนรู้สึกได้“ได้สิคะ บอกมาได้เลย ย่าไม่ต้องเกรงใจไมอานะ” เสียงหวานย้ำบอก เพราะเธอเต็มใจช่วยผ
หญิงชราวัยเจ็ดสิบปีหรือย่ารดาผู้อาวุโสสูงสุดของวังเปรมเดินกลับออกมาจากสวนดอกไม้ด้านหลังวังพร้อมกับสาวใช้นับสิบคนเดินตามหลังของหญิงผู้มีอำนาจ ถึงแม้อายุจะแตะเลขเจ็ดแล้วแต่สุขภาพของเธอยังคงแข็งแรงดี ขาที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นให้เห็นเด่นชัดก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นจนพาตัวเองมายืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง“เพิ่งตื่นหรอคามิน ลงมาซะสายเลย” เสียงทุ้มพร่าของคนอายุมากทักหลานชายที่เพิ่งโผล่มาให้เห็นหน้าเป็นครั้งแรกของวัน“ครับ เมื่อคืนกว่าจะหลับก็เกือบตีสองแหนะ” ปากหนาคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะก้าวขาเดินลงบันไดฝั่งห้องของตนนัยน์ตาที่ยังคงสวยไม่สร่างมองตามร่างแกร่งก้าวเดินลงบันไดมาทีละขั้นเพื่อรอหลานลงมาคุยกันด้านล่างวืดดด ปั่ก ปั่ก ปั่ก!!“ว้ายยยย / กรี๊ดดดดด”เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนออกมาด้วยความตกใจดังขึ้นทันทีที่องค์รัชทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลก้าวพลาดเสียหลักแล้วหงายหลังลงหัวฟาดเข้ากับขั้นบันไดอย่างจังจนชายหนุ่มหมดสตินอนคอพับไปตรงนั้น…“คามิน!! มัวยืนงงอะไรกัน เรียกรถพยาบาลสิ!!!”ผู้มีศักดิ์เป็นย่ารีบวิ่งเข้าไปหาหลานของตนแล้วจับตัวของเขาด้วยความระมัดระวังเพื่อสังเกตอาการเบื้องต้น ก่อนจะหันไปตะคอ
กลิ่นหอมของโกโก้ร้อนลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องหลังจากที่ไมอาเพิ่งเดินไปชงมันมากับมือแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าว เธอวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วจับช้อนส้อมตักข้าวไข่พะโล้ที่เธอเป็นคนทำเองเช่นกันเข้าปาก ในขณะเดียวกันตากลมสวยก็นั่งมองจอไอแพดขนาดใหญ่ที่กำลังฉายซีรีส์เรื่องโปรดอยู่อย่างจดจ่อ เช้านี้เป็นเช้าที่ไม่เร่งรีบของเธอเพราะไม่ต้องเอาขนมเข้าไปส่งในวังอย่างที่เคยทำ เนื่องจากย่ารดาบอกว่าวันนี้ทุกคนจะออกไปทำธุระกันข้างนอกเลยไม่มีใครอยู่ แต่ร้านของเธอก็ยังเปิดให้บริการเป็นปกติเลยต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาอบขนม ดีหน่อยที่พอมีเวลาเหลือระหว่างรอขนมออกจากเตาเลยได้มานั่งเพลิดเพลินอยู่กับซีรีส์สุดฟินตรงหน้าติ๊ง!เสียงของเครื่องอบขนมดังบอกว่าเธอควรไปเอามันออกมาจากตู้อบได้แล้ว ร่างบางจัดการกับอาหารตรงหน้าหมดพอดีเลยรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดเตาก่อนจะใส่ถุงมือกันความร้อนและเอาขนมที่เพิ่งอบใหม่ๆ ออกมาวางตรงถาดที่วางรออยู่ก่อนแล้วบนเคาน์เตอร์ครัว กลิ่นหอมของมันโชยเข้าจมูกรั้นจนหญิงสาวอดไม่ได้หยิบหนึ่งชิ้นขึ้นมาเป่าแล้วส่งเข้าปากเล็กของตัวเองไป“อื้ม อร่อย ~” ใบหน้าสวยยกยิ้มออกมาอย่างพอใจกับรสชาติหวานละมุนของมัน
“คุณย่าอยู่นี่นี่เอง วันนี้เข้ามาในสวนแต่เช้าเลยหรอคะ” เสียงของไมอาที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกระถางดอกไม้ในมือหลังจากที่เธอแวะฝากขนมไว้กับต้นอ้อที่หน้าวังเรียบร้อยแล้ว“ใช่จ้ะ อากาศในสวนช่วงเช้ามันร่มรื่นดีน่ะ…แล้วนั่นเอาอะไรมาด้วย” หญิงสูงวัยตอบก่อนจะถามถึงสิ่งที่สาวน้อยอุ้มมันอยู่ในอ้อมอก“กุหลาบเรนนี่บลูค่ะ พอดีหนูได้เมล็ดพันธุ์มาเลยลองเพาะดูที่สวนหลังร้านแล้วต้นของมันแข็งแรงดีจนใกล้จะออกดอกแล้วเลยเอามาให้ย่า คิดว่าอยู่ในสวนสวยๆ แบบนี้คงเหมาะมากกว่า”“สวยเชียว…งั้นเราปลูกไว้ตรงไหนกันดีล่ะ”“ริมเสาตรงศาลานี้ดีไหมคะ เพราะกุหลาบพันธุ์นี้เป็นไม้เลื้อยออกดอกเป็นพวงสีม่วงอ่อนๆ น่าจะตัดกับเสาสีขาวนี่ออกมาสวยเลย อีกอย่างกลิ่นของมันไม่ฉุนจนเวียนหัวด้วยค่ะ”ย่ารดามองนัยน์ตาคู่สวยของไมอาที่กำลังพูดอธิบายด้วยแววตาเป็นประกาย มันยิ่งทำให้เธอดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของหญิงชราเป็นไหนๆ“อื้ม เอาสิ ตามใจเราเลย ใครจะไปรู้ดีเท่าคนปลูกล่ะ…จริงไหม?” ผู้อาวุโสของวังปล่อยให้เด็กสาวทำตามอำเภอใจพร้อมกับหัวเราะออกมาน้อยๆ ด้วยความอารมณ์ดีฟึบ ฟึบเสียงพลั่วตักดินดังขึ้นด้วยแรงของไมอาที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขุดด
ร่างหนาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานกลางห้องแล้วบิดคอไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสายหลังจากที่เขานั่งทำงานมาตั้งแต่ช่วงเช้าของวันจนตอนนี้ก็ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มสาวเท้าเดินตรงไปที่หน้าต่างบานใหญ่ในห้องของตัวเอง ที่สูงกว่าตัวเขาถึงสองเท่าก่อนจะกรีดนิ้วแกร่งแง้มม่านให้เปิดกว้างออก พลันสายตาคมก็ปะทะเข้ากับนนท์และไมอาที่กำลังยืนหัวเราะคุยกันอยู่ที่ด้านล่างหน้าวังพอดี ใบหน้าหล่อไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ แสดงออกมาเขาเลื่อนสายตาไปมองด้านหลังของร้านหอมละมุนเป็นที่ถัดไป เพราะถ้ามองจากห้องของเขามันจะตรงกับหลังร้านของยัยนั่นพอดีเช่นกัน…ว่างงานขนาดที่มายืนคุยเล่นกันอยู่ตรงนี้เลยหรอก๊อก ก๊อก ก๊อก“คุณย่ารดาให้ต้นอ้อเอาของว่างมาเสิร์ฟค่ะ” เสียงใสดังขึ้นที่หน้าประตู“เชิญ” คามินตอบพร้อมกับปล่อยม่านให้ทิ้งตัวปิดลงตามเดิมหลานสาวของป้าช่อเดินเข้ามาภายในห้องนอนของเขาด้วยท่าทางเก้ๆ กัง เธอเดินตรงไปวางของทานเล่นที่ว่าลงบนโต๊ะทำงานของเขาก่อนจะหมุนตัวหันมาหาเจ้าชายเพียงคนเดียวของที่นี่“เอ่อ…มีผลไม้รวมปอกพร้อมทานกับเค้กแครอทของพี่ไมอาค่ะคุณคามิน”“อืม ขอบใจ” ตาคมมองหญิงสาวหน้าตาสดใสตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจ“คุณคามินต้องการอะไรเพิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ย่าครับ ย่ารดา”น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูดังเรียกชื่อของหญิงชราที่กำลังนอนอยู่ภายในห้อง ทำให้คุณหญิงย่าของวังตื่นขึ้นมากลางดึก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วตั้งตัวลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงกับหัวนอน นัยน์ตาสวยของหญิงวัยเจ็ดสิบเหลือบมองนาฬิหาแขวนตรงผนังห้องที่บอกเวลาตีสอง พลันในหัวก็สงสัยว่าทำไมหลานชายของตนถึงมาเคาะประตูเรียกดึกดื่นป่านนี้“ย่าครับ” คามินเรียกย่าของตนอีกครั้งเพราะยังไม่มีเสียงใดตอบกลับหญิงสูงวัยในห้องเลยเคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งบนวีลแชร์แล้วใช้พลังที่มีบังคับรถเข็นเปิดประตูออกมาที่หน้าห้องแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า…แต่กระนั้นคนสูงวัยกลับไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เธอเลือกที่จะใช้พลังของตนบังคับรถเข็นที่นั่งอยู่มุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่หน้าวัง คงเพราะรู้ดีว่าเวลานี้ไม่มีคนของวังอยู่แล้ว และเธอก็ได้กำชับคนงานทั้งหมดให้เปิดไฟให้สว่างจนทั่วก่อนเลิกงานบรรยากาศโดยรอบไม่ได้ดูน่ากลัวแต่ด้วยความเงียบงันเลยทำให้รู้สึกวังเวงอยู่ภายในใจไม่น้อย…มือเหี่ยวย่นขยับเพียงไม่นานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงโถงกลางของวังระหว่างบันไดทั้งสองข้างที่ด้านบนเคยเป็นห้องนอนของตนและอีกฟากหนึ่งที่เป็นห้องนอนของห







