LOGINก๊อก ก๊อก ก๊อก
“ย่าครับ ย่ารดา”
น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูดังเรียกชื่อของหญิงชราที่กำลังนอนอยู่ภายในห้อง ทำให้คุณหญิงย่าของวังตื่นขึ้นมากลางดึก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วตั้งตัวลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงกับหัวนอน นัยน์ตาสวยของหญิงวัยเจ็ดสิบเหลือบมองนาฬิหาแขวนตรงผนังห้องที่บอกเวลาตีสอง พลันในหัวก็สงสัยว่าทำไมหลานชายของตนถึงมาเคาะประตูเรียกดึกดื่นป่านนี้
“ย่าครับ” คามินเรียกย่าของตนอีกครั้งเพราะยังไม่มีเสียงใดตอบกลับ
หญิงสูงวัยในห้องเลยเคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งบนวีลแชร์แล้วใช้พลังที่มีบังคับรถเข็นเปิดประตูออกมาที่หน้าห้อง
แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า…
แต่กระนั้นคนสูงวัยกลับไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เธอเลือกที่จะใช้พลังของตนบังคับรถเข็นที่นั่งอยู่มุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่หน้าวัง คงเพราะรู้ดีว่าเวลานี้ไม่มีคนของวังอยู่แล้ว และเธอก็ได้กำชับคนงานทั้งหมดให้เปิดไฟให้สว่างจนทั่วก่อนเลิกงาน
บรรยากาศโดยรอบไม่ได้ดูน่ากลัวแต่ด้วยความเงียบงันเลยทำให้รู้สึกวังเวงอยู่ภายในใจไม่น้อย…มือเหี่ยวย่นขยับเพียงไม่นานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงโถงกลางของวังระหว่างบันไดทั้งสองข้างที่ด้านบนเคยเป็นห้องนอนของตนและอีกฟากหนึ่งที่เป็นห้องนอนของหลานชายในปัจจุบัน
แก๊ก แก๊ก แก๊ก ฟีดดดด
เสียงเหมือนคนกำลังหั่นอะไรสักอย่างดังขึ้นให้ได้ยินชัดเจน มือเหี่ยวๆ ไม่รอช้าบังคับทิศทางของรถตรงไปในห้องครัวของวังทันที ล้อที่หมุนแกว่งเป็นวงกลมมาหยุดลงที่หน้าประตูทางเข้าครัวเพราะสายตาของหญิงชราปะทะเข้ากับร่างสูงของหลานชายตัวเองที่กำลังยืนหันหลังหั่นอะไรสักอย่างอยู่โดยมีหม้อต้มน้ำเดือดจัดอยู่ข้างตัวเขากับเสียงของไอน้ำพวยพุ่งจนฝาหม้อที่ปิดอยู่ขยับโยกไปมา
“คามิน ลงมาทำอะไรเวลานี้ลูก” ผู้เป็นย่าเอ่ยทักหลานชายของตัวเอง
“โอ๊ย!!!”
เสียงร้องของชายหนุ่มดังขึ้นทำให้ย่ารดารีบตรงเข้าไปหาเขาทันทีโดยไม่ใส่ใจว่าชายหนุ่มจะหันกลับมาเห็นการใช้พลังแปลกๆ ของตัวเองหรือสงสัยว่าทำไมย่าของเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
“ไหน ให้ย่าดูหน่อย เจ็บมากไหม” มืออ้วนที่มีริ้วรอยตามอายุคว้าจับเข้าที่มือของหลานชาย
หลานของเธอโดนมีดบาดจนเลือดอาบไปทั่วทั้งสามนิ้ว…นี่มันลึกเกินไปไหม?
“เจ็บมากไหมคามิน ไปโรงพยาบาลดีกว่า” เสียงของหญิงชราถามซ้ำแต่ก็ยังไม่มีการตอบกลับจากหลานของตัวเอง เธอเลยเงยหน้าเพื่อมองเขา
“คะ…คามิน”
ดวงตาของย่ารดาเบิกโพลงเพราะตอนนี้ใบหน้าของชายหนุ่มเต็มไปด้วยเลือดจนมองไม่เห็นสีของผิวเนื้อ เสื้อที่เขาใส่อยู่ก็เปียกชุ่มจนแทบลืมว่าก่อนหน้ามันเป็นสีอะไร
ทะ ทำไม…มันเหมือนครั้งนั้นที่เธอฝันเห็นคามินประสบอุบัติเหตุเลยล่ะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“คุณหญิงย่า…คุณหญิงย่าคะ ย่ารดา ได้ยินหนูไหมคะ”
เฮือก!!!
เสียงลมหายใจหอบหนักดังขึ้นพร้อมกับร่างกายของหญิงวัยเจ็ดสิบที่ลุกพรวดขึ้นนั่งทันทีหลังจากเหมือนถูกกระชากให้ตื่นขึ้นมา
“…ฉันแค่ฝันไปสินะ” เธอพึมพำกับตัวเองเบาๆ
“ย่ารดาคะ คุณหญิงย่า” เสียงของสาวใช้ในวังยังคงดังเรียกชื่อเธออยู่ที่หน้าห้อง
“เดี๋ยวฉันออกไป อีกสามสิบนาที” หญิงชราเค้นเสียงบอกให้ดังกว่าปกติ
“ได้ค่ะ หนูรออยู่หน้าห้องนะคะ”
“…”
คนสูงวัยไม่ได้ตอบอะไรอีก เธอนั่งนิ่งอยู่บนที่นอนแบบนั้นเพราะในหัวยังคาใจกับสิ่งที่ตนเองฝันไม่หาย แต่คงไม่มีอะไรหรอกอาจจะคิดมากไปอย่างที่คามินว่า อีกอย่างหลานฉันจะไปเข้าครัวทำกับข้าวแล้วโดนมีดบาดลึกอย่างนั้นหรอ…เป็นไปไม่ได้
สามสิบนาทีผ่านไป…
“คุณหญิงย่านอนดึกหรอคะหรือว่านอนไม่หลับ อยากให้คนครัวเตรียมอะไรเป็นพิเศษไหมคะ”
เสียงของสาวใช้เอ่ยถามขึ้นเพราะวันนี้ผู้อาวุโสของวังตื่นสายกว่าเวลาปกติไปมากโข เธอเลยอดไม่ได้ที่จะถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอก ฉันแค่นอนเพลินไปหน่อยน่ะ”
“อ๋อ ค่ะ ถ้าอย่างนั้นไปตรงโถงหน้าวังเลยนะคะ”
“อืม”
พอได้รับคำตอบจากผู้มีอำนาจหญิงสาวด้านหลังก็เข็นรถพาหญิงชราสูงศักดิ์ไปที่ด้านหน้าของพระราชวังทันที ใช้เวลาไม่นานวีลแชร์ก็ถูกเคลื่อนมาใกล้จะถึงโถงเพดานสูงตรงกลางระหว่างบันได
“เอามีดกรีดแบบนี้หรอป้าช่อ แต่ต้องปอกเปลือกมันออกก่อนใช่ไหม”
“ใช่จ้ะ แบบนั้นแหละ”
เสียงของคนคุยกันดังให้ได้ยินตั้งแต่ที่ตัวของย่ารดายังไปไม่ถึงจุดหมาย
“นี่ รีบเข็นหน่อยสิ นั่นเสียงคามินใช่ไหม” ประโยคที่เพิ่งได้ยินทำให้ใจของคนมีอายุร้อนลนขึ้นมา
“ค่ะ คุณคามินลงมาแต่เช้า”
“มัวแต่พูดทำไม เข็นเร็วๆ หน่อย!” ย่ารดาเอ็ดสาวใช้ด้วยความใจร้อน
“ค่ะๆ คุณหญิงย่า”
“โอ๊ย!!!”
เสียงของชายหนุ่มร้องดังขึ้นในจังหวะเดียวกันกับที่รถเข็นของย่ารดามาหยุดอยู่ตรงกลางห้องโถงพอดี มือของหญิงชราที่กำลังง้างเพื่อจะใช้พลังของตนปัดมีดที่ชายหนุ่มถืออยู่ให้หลุดออกไปก็ต้องชะงักค้าง เพราะสายตาของผู้เป็นย่าเห็นร่างแบบบางของไมอายืนถือมีดปอกผลไม้ไว้ในมือแทน และหลานชายของเขาก็ไม่มีบาดแผลใดๆ
“นี่! คุณจับมีดแบบนั้นปอกผลไม้อะนะ เดี๋ยวนิ้วก็ได้ขาดกันพอดี ใครเขาสั่งเขาสอนให้ทำแบบนั้นกันนะ”
ไมอาลดมีดในมือแล้วหันปลายแหลมของมันทิ่มลงพื้นส่วนปากอวบอิ่มก็พูดบ่นไปด้วยอย่างลืมตัว
“แล้วอยู่ดีๆ มาแย่งมีดไปจากคนอื่นเนี่ยนะ ใครเขาสั่งเขาสอนให้ทำแบบนี้”
คามินลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหันหน้ามาเผชิญกับสาวร่างเล็กที่สูงเพียงอกของเขาเท่านั้น
“นี่! เมื่อกี้ถ้าฉันไม่ดึงออกมาจากมือคุณ มีหวังมีดได้ปาดเข้าเนื้อนิ้วแหว่งไปแล้วมั้ง!” นัยน์ตาสวยจ้องเขม็งอย่างคนไม่ยอม
“เหอะ ใครขอล่ะ!” ตาคมจ้องกลับอย่างไม่ยอมเช่นกัน
“พอเลยๆ เถียงกันเป็นเด็กๆ ไปได้” ผู้เป็นย่าเอ่ยขัดคนทั้งคู่แล้วก็แอบลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ คนเดียวอย่างโล่งอก เพราะเหตุการณ์ที่เธอฝันไม่เกิดขึ้นจริง
“สวัสดีค่ะคุณย่า…วันนี้หนูมีทาร์ตไข่สูตรหวานน้อยกับดอกกุหลาบมาฝากค่ะ”
แขนเล็กยกของในมือขึ้นเพื่ออวดหญิงผมขาวตรงหน้าเธออย่างภาคภูมิใจก่อนที่ป้าช่อและต้นอ้อจะมาเอาไปจัดใส่จาน และเอาดอกไม้ใส่แจกันให้
“ขอบคุณไมอานะลูก ที่ช่วยคามินไว้เมื่อกี้” มือของย่าเอื้อมมาคว้ามือเล็กๆ ของหญิงสาวใบหน้าสวยไปประคองไว้ทั้งสองมือ
“ไม่เห็นต้องขอบคุณไมอาเลยค่ะคุณย่า…”
“จริง ย่าไม่เห็นต้องขอบคุณเลย ใครเขาขอให้ช่วย” เสียงทุ้มของคามินดังแทรกทำให้ไมอาหันหน้ากลับไปมองเขาตาขวางแบบไม่สนสายตาใคร
“…นี่เรามีแผลเป็นที่มือด้วยหรอ?”
หญิงสูงวัยจับมือข้างซ้ายของไมอาขึ้นมาแล้วลูบรอยแผลเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยวของเธอพลางจ้องมองมันอย่างพินิจ
“ค่ะ อุบัติเหตุทางรถยนต์สมัยเด็กที่พ่อกับแม่ของไมอาเสีย”
“อ่อ อย่างนั้นหรอ…” รดาวรรณพยักหน้าน้อยๆ
ถึงว่าล่ะ ทำไมถึงรู้สึกเหมือนเคยเห็นที่ไหนอีกแต่ไม่ใช่กับคามิน…เป็นหนูไมอาเองสินะ
22:30น.ไมอานั่งมาสก์หน้าอยู่บนโซฟาตัวนุ่มหน้าทีวีภายในห้องนั่งเล่นขนาดกลางที่อยู่ระหว่างครัวทำขนมกับอีกฟากหนึ่งเป็นโต๊ะทานอาหาร หลังจากกลับมาจากไปส่งขนมให้อาธเนศที่บริษัทเมื่อช่วงบ่ายถึงร้านก็เย็นแล้ว เธอเลยตัดสินใจปิดร้านเพราะขนมก็ขายหมดเกลี้ยงตู้ไปตั้งแต่เช้าเลยเลือกจะเอาเวลาที่เหลือไปเตรียมวัตถุดิบทำขนมสำหรับวันถัดไปแทน ทำให้พรุ่งนี้เธอไม่จำเป็นต้องตื่นแต่เช้ามาเตรียมของ…จะนอนตื่นสายให้ชื่นใจเลย!ครืดดดด ~ร่างเล็กนั่งอยู่ในชุดนอนละสายตาออกจากหน้าจอตรงหน้ามาเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเองที่สว่างวาบขึ้นมาก่อนจะหยิบมันขึ้นมาดูอีกครั้งให้ชัด ถึงเห็นเป็นสายของย่ารดาที่โทรเข้ามาทำให้เธอไม่ลังเลที่จะกดรับมัน“สวัสดีค่ะ” เสียงหวานเอ่ยทักปลายสายก่อน(ไมอานอนหรือยังลูก)“ยังค่ะ กำลังนั่งดูทีวีอยู่ค่ะ ย่ามีอะไรหรือเปล่าคะ?” เธอถามออกไปเพราะไม่บ่อยครั้งนักที่ย่ารดาจะโทรมาหาเธอดึกดื่นขนาดนี้เพราะล่าสุดก็ตอนที่ให้เอาชาคาโมมายล์ไปให้(เอ่อ พอดีย่ามีเรื่องจะรบกวนหนูนิดนึง) เสียงปลายสายฉายความเกรงใจออกมาจนรู้สึกได้“ได้สิคะ บอกมาได้เลย ย่าไม่ต้องเกรงใจไมอานะ” เสียงหวานย้ำบอก เพราะเธอเต็มใจช่วยผ
หญิงชราวัยเจ็ดสิบปีหรือย่ารดาผู้อาวุโสสูงสุดของวังเปรมเดินกลับออกมาจากสวนดอกไม้ด้านหลังวังพร้อมกับสาวใช้นับสิบคนเดินตามหลังของหญิงผู้มีอำนาจ ถึงแม้อายุจะแตะเลขเจ็ดแล้วแต่สุขภาพของเธอยังคงแข็งแรงดี ขาที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นให้เห็นเด่นชัดก้าวขึ้นบันไดทีละขั้นจนพาตัวเองมายืนอยู่ในห้องโถงใหญ่ของพระราชวัง“เพิ่งตื่นหรอคามิน ลงมาซะสายเลย” เสียงทุ้มพร่าของคนอายุมากทักหลานชายที่เพิ่งโผล่มาให้เห็นหน้าเป็นครั้งแรกของวัน“ครับ เมื่อคืนกว่าจะหลับก็เกือบตีสองแหนะ” ปากหนาคลี่ยิ้มออกมาก่อนจะก้าวขาเดินลงบันไดฝั่งห้องของตนนัยน์ตาที่ยังคงสวยไม่สร่างมองตามร่างแกร่งก้าวเดินลงบันไดมาทีละขั้นเพื่อรอหลานลงมาคุยกันด้านล่างวืดดด ปั่ก ปั่ก ปั่ก!!“ว้ายยยย / กรี๊ดดดดด”เสียงกรีดร้องและเสียงตะโกนออกมาด้วยความตกใจดังขึ้นทันทีที่องค์รัชทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลก้าวพลาดเสียหลักแล้วหงายหลังลงหัวฟาดเข้ากับขั้นบันไดอย่างจังจนชายหนุ่มหมดสตินอนคอพับไปตรงนั้น…“คามิน!! มัวยืนงงอะไรกัน เรียกรถพยาบาลสิ!!!”ผู้มีศักดิ์เป็นย่ารีบวิ่งเข้าไปหาหลานของตนแล้วจับตัวของเขาด้วยความระมัดระวังเพื่อสังเกตอาการเบื้องต้น ก่อนจะหันไปตะคอ
กลิ่นหอมของโกโก้ร้อนลอยตลบอบอวลไปทั่วทั้งห้องหลังจากที่ไมอาเพิ่งเดินไปชงมันมากับมือแล้วเดินกลับมานั่งลงที่โต๊ะทานข้าว เธอวางแก้วลงบนโต๊ะแล้วจับช้อนส้อมตักข้าวไข่พะโล้ที่เธอเป็นคนทำเองเช่นกันเข้าปาก ในขณะเดียวกันตากลมสวยก็นั่งมองจอไอแพดขนาดใหญ่ที่กำลังฉายซีรีส์เรื่องโปรดอยู่อย่างจดจ่อ เช้านี้เป็นเช้าที่ไม่เร่งรีบของเธอเพราะไม่ต้องเอาขนมเข้าไปส่งในวังอย่างที่เคยทำ เนื่องจากย่ารดาบอกว่าวันนี้ทุกคนจะออกไปทำธุระกันข้างนอกเลยไม่มีใครอยู่ แต่ร้านของเธอก็ยังเปิดให้บริการเป็นปกติเลยต้องตื่นแต่เช้าเพื่อมาอบขนม ดีหน่อยที่พอมีเวลาเหลือระหว่างรอขนมออกจากเตาเลยได้มานั่งเพลิดเพลินอยู่กับซีรีส์สุดฟินตรงหน้าติ๊ง!เสียงของเครื่องอบขนมดังบอกว่าเธอควรไปเอามันออกมาจากตู้อบได้แล้ว ร่างบางจัดการกับอาหารตรงหน้าหมดพอดีเลยรีบลุกขึ้นเดินไปเปิดเตาก่อนจะใส่ถุงมือกันความร้อนและเอาขนมที่เพิ่งอบใหม่ๆ ออกมาวางตรงถาดที่วางรออยู่ก่อนแล้วบนเคาน์เตอร์ครัว กลิ่นหอมของมันโชยเข้าจมูกรั้นจนหญิงสาวอดไม่ได้หยิบหนึ่งชิ้นขึ้นมาเป่าแล้วส่งเข้าปากเล็กของตัวเองไป“อื้ม อร่อย ~” ใบหน้าสวยยกยิ้มออกมาอย่างพอใจกับรสชาติหวานละมุนของมัน
“คุณย่าอยู่นี่นี่เอง วันนี้เข้ามาในสวนแต่เช้าเลยหรอคะ” เสียงของไมอาที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมกับกระถางดอกไม้ในมือหลังจากที่เธอแวะฝากขนมไว้กับต้นอ้อที่หน้าวังเรียบร้อยแล้ว“ใช่จ้ะ อากาศในสวนช่วงเช้ามันร่มรื่นดีน่ะ…แล้วนั่นเอาอะไรมาด้วย” หญิงสูงวัยตอบก่อนจะถามถึงสิ่งที่สาวน้อยอุ้มมันอยู่ในอ้อมอก“กุหลาบเรนนี่บลูค่ะ พอดีหนูได้เมล็ดพันธุ์มาเลยลองเพาะดูที่สวนหลังร้านแล้วต้นของมันแข็งแรงดีจนใกล้จะออกดอกแล้วเลยเอามาให้ย่า คิดว่าอยู่ในสวนสวยๆ แบบนี้คงเหมาะมากกว่า”“สวยเชียว…งั้นเราปลูกไว้ตรงไหนกันดีล่ะ”“ริมเสาตรงศาลานี้ดีไหมคะ เพราะกุหลาบพันธุ์นี้เป็นไม้เลื้อยออกดอกเป็นพวงสีม่วงอ่อนๆ น่าจะตัดกับเสาสีขาวนี่ออกมาสวยเลย อีกอย่างกลิ่นของมันไม่ฉุนจนเวียนหัวด้วยค่ะ”ย่ารดามองนัยน์ตาคู่สวยของไมอาที่กำลังพูดอธิบายด้วยแววตาเป็นประกาย มันยิ่งทำให้เธอดูน่ารักน่าเอ็นดูในสายตาของหญิงชราเป็นไหนๆ“อื้ม เอาสิ ตามใจเราเลย ใครจะไปรู้ดีเท่าคนปลูกล่ะ…จริงไหม?” ผู้อาวุโสของวังปล่อยให้เด็กสาวทำตามอำเภอใจพร้อมกับหัวเราะออกมาน้อยๆ ด้วยความอารมณ์ดีฟึบ ฟึบเสียงพลั่วตักดินดังขึ้นด้วยแรงของไมอาที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาขุดด
ร่างหนาลุกขึ้นจากโต๊ะทำงานกลางห้องแล้วบิดคอไปมาเพื่อยืดเส้นยืดสายหลังจากที่เขานั่งทำงานมาตั้งแต่ช่วงเช้าของวันจนตอนนี้ก็ใกล้จะหกโมงเย็นแล้ว ชายหนุ่มสาวเท้าเดินตรงไปที่หน้าต่างบานใหญ่ในห้องของตัวเอง ที่สูงกว่าตัวเขาถึงสองเท่าก่อนจะกรีดนิ้วแกร่งแง้มม่านให้เปิดกว้างออก พลันสายตาคมก็ปะทะเข้ากับนนท์และไมอาที่กำลังยืนหัวเราะคุยกันอยู่ที่ด้านล่างหน้าวังพอดี ใบหน้าหล่อไร้ซึ่งสีหน้าใดๆ แสดงออกมาเขาเลื่อนสายตาไปมองด้านหลังของร้านหอมละมุนเป็นที่ถัดไป เพราะถ้ามองจากห้องของเขามันจะตรงกับหลังร้านของยัยนั่นพอดีเช่นกัน…ว่างงานขนาดที่มายืนคุยเล่นกันอยู่ตรงนี้เลยหรอก๊อก ก๊อก ก๊อก“คุณย่ารดาให้ต้นอ้อเอาของว่างมาเสิร์ฟค่ะ” เสียงใสดังขึ้นที่หน้าประตู“เชิญ” คามินตอบพร้อมกับปล่อยม่านให้ทิ้งตัวปิดลงตามเดิมหลานสาวของป้าช่อเดินเข้ามาภายในห้องนอนของเขาด้วยท่าทางเก้ๆ กัง เธอเดินตรงไปวางของทานเล่นที่ว่าลงบนโต๊ะทำงานของเขาก่อนจะหมุนตัวหันมาหาเจ้าชายเพียงคนเดียวของที่นี่“เอ่อ…มีผลไม้รวมปอกพร้อมทานกับเค้กแครอทของพี่ไมอาค่ะคุณคามิน”“อืม ขอบใจ” ตาคมมองหญิงสาวหน้าตาสดใสตรงหน้าอย่างไม่ใส่ใจ“คุณคามินต้องการอะไรเพิ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก“ย่าครับ ย่ารดา”น้ำเสียงทุ้มคุ้นหูดังเรียกชื่อของหญิงชราที่กำลังนอนอยู่ภายในห้อง ทำให้คุณหญิงย่าของวังตื่นขึ้นมากลางดึก เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ แล้วตั้งตัวลุกขึ้นนั่งเอาหลังพิงกับหัวนอน นัยน์ตาสวยของหญิงวัยเจ็ดสิบเหลือบมองนาฬิหาแขวนตรงผนังห้องที่บอกเวลาตีสอง พลันในหัวก็สงสัยว่าทำไมหลานชายของตนถึงมาเคาะประตูเรียกดึกดื่นป่านนี้“ย่าครับ” คามินเรียกย่าของตนอีกครั้งเพราะยังไม่มีเสียงใดตอบกลับหญิงสูงวัยในห้องเลยเคลื่อนย้ายตัวเองลงมานั่งบนวีลแชร์แล้วใช้พลังที่มีบังคับรถเข็นเปิดประตูออกมาที่หน้าห้องแต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า…แต่กระนั้นคนสูงวัยกลับไม่ได้รู้สึกตกใจอะไร เธอเลือกที่จะใช้พลังของตนบังคับรถเข็นที่นั่งอยู่มุ่งตรงไปที่ห้องโถงใหญ่หน้าวัง คงเพราะรู้ดีว่าเวลานี้ไม่มีคนของวังอยู่แล้ว และเธอก็ได้กำชับคนงานทั้งหมดให้เปิดไฟให้สว่างจนทั่วก่อนเลิกงานบรรยากาศโดยรอบไม่ได้ดูน่ากลัวแต่ด้วยความเงียบงันเลยทำให้รู้สึกวังเวงอยู่ภายในใจไม่น้อย…มือเหี่ยวย่นขยับเพียงไม่นานก็พาตัวเองมาอยู่ตรงโถงกลางของวังระหว่างบันไดทั้งสองข้างที่ด้านบนเคยเป็นห้องนอนของตนและอีกฟากหนึ่งที่เป็นห้องนอนของห





![จิรัติพันประดับ [เซตเกี่ยวรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

