"จันทราไม่เคยทำให้ผิดหวังจริงๆ ฉันอยากจะบ้าตาย..." อิงดาวแผดเสียงด้วยความท้อใจกับการสรุปหัวข้อรายงานตามคำสั่งของอาจารย์วัยกลางคนที่มอบหมายให้ทำ ทั้งสี่คนรวมตัวกันทำงานที่คอนโดของเอวาตั้งแต่เช้าจนเวลาผ่านไปก็ยังคงไร้ซึ่งวี่แววของความคืบหน้า
"คู่แกไปถึงไหนแล้ว?..." อิงดาวหันมาถามทางเอวากับคีรันที่อยู่คู่กัน ก้มหน้าก้มตากันทำงานหวังจะให้งานเสร็จเร็วๆ โดยที่ไม่แม้แต่จะคุยกัน
"ยังไม่ถึงไหนเลย ข้อมูลยังไม่มากพอ" เอวาผละออกจากกองหนังสือ น้ำเสียงเริ่มรู้สึกท้อไม่แพ้ไปกว่าอิงดาว เรือนร่างสวยเอนไปนอนพิงหลังกันด้วยความรู้สึกหมดแรงกับการรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาสรุปงาน
"พวกนาย...ค่อยทำต่อได้ไหม ฉันตาลายไปหมดแล้ว" อิงดาวเอ่ยด้วยท่าทีเว้าวอน กระพริบตาปริบๆ มองหน้าคู่ทำงานของตัวเอง
"กูว่าก็ดีเหมือนกัน เริ่มเมื่อยแล้วเหมือนกัน" คีริวเอ่ยสมทบหันไปพูดกับพี่ชาย ทำให้รอยยิ้มจางๆ เริ่มผุดขึ้นบนใบหน้าสวยของสองสาว คราวนี้ความหวังในการหยุดพักของพวกเธอจึงตกไปอยู่ที่คีรัน อิงดาวและเอวาหันไปทางเพื่อนสนิทอีกคนเพื่อกดดันในคำตอบ จนกระทั่ง...
"อืม" คีรันเค้นเสียงตอบพร้อมกับปิดหนังสือเรียนที่อยู่ตรงหน้า
"เยส!!!" คำตอบของคีรันทำให้หญิงสาวสองคนยืดตัวตรงแล้วแปะมือพูดพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย ความอ่อนแรงที่มีในตอนแรกจางหายไปในพริบตา
"บรรยากาศแบบนี้ต้องหาอะไรมากระแทกปากหน่อยแล้ว~" สิ้นเสียงของอิงดาว ทั้งสามคนที่เหลือก็หันมามองที่เธอเป็นตาเดียว เพื่อนสนิทมักรู้ดีว่าอิงดาวชอบสรรหาอะไรมาทำแปลกๆ อยู่เสมอ
"กระแทกปาก...ไม้หน้าสามเหรอ" ก่อนที่จะเป็นเสียงของคีริวที่พูดอย่างตั้งใจกวน
"เอามาตะบันหน้าหน้านายก่อนเป็นอันดับแรก..."
"...ฉันหมายถึงเหล้าเว้ย! แอลกอฮอล์เท่านั้นที่ทำให้เลือดสูบฉีด ร่างกายซาบซ่า" อิงดาวยกยิ้มออกมาด้วยความภาคภูมิใจในความคิดของตัวเอง
"งานวันนี้คงไม่เสร็จแน่ๆ"
"ตามนี้นะ ไอริวนายต้องไปซื้อกับฉัน"
"ทำไมต้องฉัน"
"นายจะให้ฉันกับเอวาไปกันสองคนหรือไง ผู้หญิงตัวเล็กบอบบางแบบพวกฉันยกกันเองไม่ไหวหรอก นายไปกับฉันน่ะดีที่สุด"
"เธอก็ไปกับไอรันมันดิ ฉันขี้เกียจ...อยากนอน"
"แต่ฉันจะไปกับนาย ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้!" ทั้งอิงดาวและคีริวต่างพากันฉุดกระชากกันไปมา โดยที่มีเอวาและคีรันที่นั่งมองเพื่อนสนิทที่ชอบตีกันด้วยความเอือมระอา จนสุดท้ายเสียงนั้นก็หายเงียบไปเมื่อสุดท้ายคีริวก็ต้องตามอิงดาวไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ครืดดดด!
เสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์เครื่องหรูดังขึ้น เอวาปรายตาไปมองยังที่มาของเสียง ก่อนที่จะรีบคว้ามันมาไว้กับตัวด้วยความรวดเร็ว
"เดี๋ยวฉันมานะ" เธอหยัดตัวจากโซฟาแล้วเดินออกไปทันทีที่เอ่ยกับเพื่อนตัวสูงจบ
คีรันมองตามแผ่นหลังเล็กที่เดินหายเข้าไปในห้องนอนจนสุดสายตา ใบหน้าคมคายเริ่มฉายสีหน้าไม่ชอบใจที่ปลายสายทำให้เอวายิ้มกว้างออกมาจนแทบปิดไว้ไม่อยู่ โดยที่เขาเองไม่ทันได้เห็นว่าเป็นใครที่โทรเข้ามา
ติ๊ด.
(เอวาลูก) ปลายสายรีบกรอกเสียงทันทีที่มือเรียวกดรับสาย เสียงหวานที่ได้ยินทำให้เอวายิ้มกว้างด้วยความดีใจ
"ค่ะแม่ หนูกำลังคิดถึงแม่อยู่พอดีเลย"
(วันหยุดยาวหนูกลับบ้านมาหาแม่ไหม แม่คิดถึงหนูมากเลย)
"หนูยังไม่รู้เลยค่ะแม่ ไว้หนูจะบอกแม่อีกทีนะคะ ถ้าไม่ติดงานอะไรหนูจะรีบกลับไปกอดแม่เลย"
(ถ้าไม่ว่างก็ค่อยกลับก็ได้ อย่าหักโหมมากนัก แม่รักหนูนะลูก)
"ค่ะแม่"
ปลายสายถูกตัดไปหลังจากที่ได้คุยธุระกันเสร็จ เอวาหมุนตัวหมายจะเดินกลับออกไปนั่งที่เดิม ทว่าเสียงสั่นข้อความกลับดังขึ้นทำให้เธอต้องชะงักเท้าอีกครั้ง
ทิวเขา : เอวา...วันเสาร์หน้าว่างหรือเปล่า ออกมาเจอกันหน่อยได้ไหม พี่คิดถึงเธอนะ
Read.
"อ่าส์...รสชาติของความสุข~" อิงดาวแผดเสียงหวานออกมาเมื่อแอลกอฮอล์ได้เข้ามาอยู่ในร่างกายตามที่เธอต้องการ มือเรียวกางออกมาแสดงทีท่าด้วยความเวอร์วัง การได้ปลดปล่อยความตึงเครียดจากการทำงานทั้งวันลงกับแก้วน้ำสีอำพันมันช่างมีความสุขและหอมหวานเสียจริงๆ
"นี่...ฉันคิดอะไรออกแล้ว พวกเรามาหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีกว่า"
"อะไรของเธออีก แค่นั่งดื่มยังสนุกไม่พออีกเหรอ"
"นั่งเงียบๆ กันสี่คนมันจะไปสนุกอะไร ฉันว่าเรามาเล่นเกมกันดีกว่า"
"เกมอะไร"
"เกมพระราชา" อิงดาวเอ่ยพร้อมกับลุกไปหยิบอุปกรณ์ เธอจัดแจงทุกอย่างโดยที่ไม่ได้เอ่ยถามถึงความสมัครใจของเพื่อนคนอื่นๆ
"เกมอะไรของเธอ ฉันเล่นไม่เป็น" คีริวมองการกระทำของเพื่อนตัวเล็กที่กำลังทำสลากด้วยความตั้งใจ
"ในนี้มีสลากอยู่สี่ใบ จะมีสลากที่เป็นสลากเปล่าไม่ได้เขียนอะไรอยู่สามใบ และสลากใบสุดท้ายจะเขียนคำว่าพระราชา หากใครจับได้สลากพระราชาคนนั้นจะมีสิทธิ์ออกคำสั่งกับคนในวงหนึ่งคน และถ้าใครขัดคำสั่งคนนั้นก็จะต้องถูกลงโทษ"
"ฉันขอถอนตัว" เอวาพูดค้านขึ้นทันทีที่ได้ฟังอิงดาวอธิบายกติกาจนจบ เกมพระราชาที่ไม่เหมาะกับคนมีความลับและมีความกล้าไม่มากพอ ซึ่งเอวามีครบทั้งสองข้อที่กล่าวมา เธอจึงเลือกที่จะขอถอนตัวเพื่อป้องกันตัวเอง หากจะให้ถูกลงโทษทุกครั้งที่โดนคำสั่งก็คงไม่ไหว...เธอไม่ได้คอแข็งมากพอ
"ไม่ได้! ทุกคนต้องเล่น" อิงดาวรีบตอบเสียงดัง
"เอาหนา...ก็เพื่อนกันทั้งนั้น ไม่มีใครใช้คำสั่งที่โหดร้ายเกินไปหรอก"
"งั้นเริ่มเลยนะ..."
"ฉันเป็นพระราชา" คีริวยกยิ้มมุมปากเมื่ออำนาจของเกมได้ตกมาอยู่ในมือของเขา สายตาคู่คมเบนไปทางอิงดาวโดยอัตโนมัติ
"จะสั่งอะไร" อิงดาวรีบพูดออกมาโดยที่ไม่ต้องรอให้พระราชาต้องเลือก เธอรู้ดีว่าการส่งสายตาของคีริวยังไงก็หนีไม่พ้นเธอ
"ฉันจะสั่งให้เธอทำรายงานของจันทราคนเดียวให้เสร็จ"
"ฉันไม่ยอมหรอก ยังไงนายก็ต้องมาทำรายงานชดใช้กับฉัน" ว่าจบอิงดาวก็กระดกดื่มเหล้าเพียวๆ ที่ตั้งตรงหน้าจนหมดเพื่อเป็นการลงโทษ เรื่องอะไรเธอจะให้คีริวนั่งสบายๆ โดยที่มีเธอเป็นคนทำแค่คนเดียว
"ในที่สุดสวรรค์ก็เข้าข้าง ฉันเป็นพระราชา" อิงดาวพูดขึ้นพร้อมกับแสดงหลักฐานเพื่อให้เพื่อนๆ ต้องยอมจำนนให้เธอ
"เอวา" เรียวปากเล็กของอิงดาวเอ่ยเรียกเพื่อนตัวเล็กอีกคนพร้อมกับยกยิ้ม
"หะ ห้ะ ฉันเหรอ?" มือเรียวชี้เข้าหาตัว
"ฉันจะสั่งให้แกตอบคำถามฉัน" รอยยิ้มร้ายกาจถูกฉายขึ้น อิงดาวหรี่ตามองเพื่อนตัวเล็กด้านข้างจนเอวาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองไม่ปลอดภัย
"สายตาแกไม่น่าไว้ใจเลยอะ"
"แกกับพี่ทิวเขาเลิกกันเพราะอะไร?..." คำถามของอิงดาวทำให้เธอชะงัก เอวาเม้มปากเข้าหากันแล้วส่งสายตาดุใส่เพื่อนสนิทที่ตั้งใจถามถึงทิวเขาที่เป็นแฟนเก่าของเธอ
"..." เงียบ ทั้งโต๊ะตกในความเงียบงัน ทุกสายตามองไปที่เอวาราวกับต้องการคำตอบและอยากรู้ไม่แพ้กัน เธอไม่เคยพูดถึงสาเหตุการเลิกรากับแฟนเก่า แม้ว่าอิงดาวจะหลอกถามถึงบ่อยครั้งแต่เอวาก็ปิดปากเงียบมาตลอด
ปึก!
"ทำไมมันขมแบบนี้เนี่ย..." เอวากระแทกแก้วเหล้าที่ดื่มลงบนโต๊ะเมื่อเธอได้ขัดคำสั่งของพระราชา ใบหน้าสวยทำสีหน้าเหย่เกไปกับรสชาติเหล้าเพียวๆ ที่เธอไม่เคยดื่ม
"ฮ่าๆ แค่แก้วเดียวก็หน้าแดงแล้วเหรอ" อิงดาวหัวเราะชอบใจที่เห็นใบหน้าแดงระเรื่อของเอวา ทั้งที่ตอนนี้ใบหน้าของเธอก็เริ่มที่จะแดงระเรื่อไม่ต่างไปจากเอวาเลยสักนิด
"เล่นต่อๆ"
"ไออิง...แกอีกแล้วเหรอ ทำสลากโกงป่าววะ" คีริวพูดขึ้นเมื่ออิงดาวยกยิ้มคลี่กระดาษให้เพื่อนสนิทได้ดูว่าเธอได้เป็นพระราชาอีกครั้ง
"ฉันจะเลือกคนเดิม เอวา"
"ยัยอิง...แกโกรธอะไรฉันหรือเปล่า" เอวาเริ่มพูดตอบโต้เมื่อเป้าหมายของอิงดาวยังคงตกมาอยู่ที่เธอ
"รอบนี้พระราชาจะเล่นเบาๆ เพื่อนรักไม่ต้องกลัว"
"ในฐานะที่เพื่อนรักมีคนเข้ามาจีบเยอะแยะมากมายจนเพื่อนคนนี้รู้สึกอิจฉาตาร้อน ฉันจะขอสั่งให้แกเต้นเพลงอะไรก็ได้ที่รู้สึกว่ามันน่าเกลียดโพสต์ลงในไอจีของแก"
"ให้ตายเถอะยัยอิง...อะไรคือเบาๆ ของแก"
"ฮ่าๆ เอายังไงเพื่อนรักจะทำหรือจะดื่ม"
อึก! เอวายกแก้วขึ้นมากระดกดื่มในรวดเดียว เธอส่งตาขวางใส่อิงดาวที่ตั้งใจแกล้งเธอไม่หยุด ขณะที่อิงดาวก็หัวเราะชอบใจอย่างมีความสุข เธอรู้อยู่แล้วว่ายังไงเอวาก็ไม่ยอมทำตาม เอวานับว่าเป็นคนดังของมหาวิทยาลัย เธอเป็นดาวมหาลัยตอนปีหนึ่งทำให้ไอจีของเธอมียอดติดตามที่เยอะพอสมควร แน่นอนว่าการเต้นทำท่าน่าเกลียดพวกนั้นจะไม่มีทางได้ลงไปอยู่ในพื้นที่สาธารณะพวกนั้นโดยเด็ดขาด
"ตาฉันแล้ว~" ใบหน้าสวยที่แดงก่ำของเอวาพูดขึ้นทันทีที่คลี่กระดาษออก น้ำเสียงของเธอทำให้เพื่อนอีกสามคนรู้ได้ทันทีว่าฤทธิ์ของแอลกอฮอล์เริ่มทำงานแล้ว
"ฉันจะขอถามคีริว..." เอวามองไปทางคีริวด้วยแววตาฉ่ำเยิ้ม เพียงแค่แอลกอฮอล์เพียวๆ สองแก้วทำให้เธอเริ่มเปลี่ยนเป็นคนละคน
"ว่า?" คีริวเลิกคิ้วอย่างไม่เกรงกลัวในคำถาม เขาไม่เคยมีความลับ ทุกอย่างที่ทำเพื่อนทุกคนล้วนรู้ดี
"ทำไมนายถึงไม่มีแฟนสักที นายกำลังแอบชอบใครอยู่หรือเปล่า~"
"ถึงมันจะมีสองคำถามแต่ฉันก็จะตอบให้ ที่ฉันไม่มีแฟนเพราะฉันไม่อยากมีพันธะ ทำไมฉันต้องดึงอีกคนเข้ามาในชีวิตเพื่อรั้งการมีชีวิตที่มีความสุขของฉัน และสุดท้ายฉันไม่ได้แอบชอบใคร"
"ฉันก็อยากจะเป็นเหมือนนาย ฉันไม่อยากแอบชอบใคร ไม่อยากมีพันธะเพื่อขัดขวางความสุขของตัวเอง แต่จะทำยังไงได้ในเมื่อฉันดันเผลอตกหลุมนั้นไปแล้ว มันเลยคำว่าชอบเป็นความรักไปแล้ว~" คนเมาพูดต่อประโยคของคีริว ดวงตากลมที่ใกล้ปิดเต็มทีหรี่ไปมองยังคีรันขณะที่เธอกำลังร่ายยาวพูดความในใจ เช่นเดียวกับคีรันที่มองไปที่เธอด้วยสายตาที่ยากจะคาดเดาในความรู้สึกของเขา เขาไม่แม้แต่จะโต้ตอบกลับแม้จะรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังพูดถึงเขา มันชัดเจนทุกอย่างทั้งคำพูดและการกระทำจนเป็นอย่างอื่นไม่ได้นอกจาก...เธอกำลังสารภาพรักกับเขา
"..."
จนกระทั่ง...
"เลิกเล่น...เอวาเริ่มไม่ไหวแล้ว" เรียวปากหนาของคีรันเป็นคนพูดขึ้นทำลายความเงียบ เขาหยัดตัวจากที่นั่งเดินเข้าไปหมายจะประคองเอวา ทว่า...
"เลิกได้ยังไง...ในนี้มีแค่นายที่ยังไม่โดนพระราชาสั่ง นายจะหนีไปไหนไม่ได้~" คนเมาตัวเล็กกลับโต้ตอบพร้อมกับขัดขืน เธอใช้แววตาหวานฉ่ำมองคีรัน ก่อนที่จะดึงมือเขาให้ลงมานั่งด้านข้างเธอ
"ไออิงลุกขึ้นเดี๋ยวฉันไปส่ง" เช่นเดียวกับคีริวที่พูดสมทบขึ้นอีกคนมือหนาคว้าร่างเล็กของอิงดาวไว้
"ไม่กลับ ฉันจะเล่นต่อ..." อิงดาวเริ่มขัดขืนไม่แพ้กัน เธอปัดมือของคีริวออกแล้วคว้าแก้วเหล้าเพียวที่เป็นบทลงโทษมาดื่มราวกับกำลังมอมตัวเอง
"เฮ้ย...ไออิง!" คีริวรีบคว้าแก้วออกจากมือของเธอ ทว่ามันกลับไม่ทันความรวดเร็วของอีกคน น้ำสีอำพันได้ถูกกระดกจนหมดแก้วภายในเวลาไม่กี่วินาที
"เหลือของพวกนายแล้ว~" เอวาพยักพเยิดไปทางสลากที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนที่คีริวและคีรันจะยื่นมือไปหยิบให้มันจบๆ เรื่องไป
"คิคิ...ฉันได้เป็นพระราชา" อิงดาวเพ่งไปที่กระดาษตัวหนังสือที่เขียนบนนั้นทำให้รู้ว่าเธอได้มีอำนาจในการออกคำสั่งอีกครั้ง
"ฉันขอเลือกคีรัน" นิ้วมือเรียวชี้ไปทางคีรันที่นั่งด้านข้างของเอวา ดวงตาคมจ้องมองอิงดาวเรียบนิ่งเพื่อรอคำสั่ง
"ฉันจะสั่งให้นายตอบคำถามฉัน..."
"...นายคิดกับเอวามากกว่าเพื่อนหรือเปล่า?"
เรือนร่างฉันถูกจับพลิกตัวให้นอนราบไปกับโซฟาหรู ก่อนที่มือหนาจะจับเอวคอดไว้แล้วดันให้บั้นท้ายฉันกระดกขึ้นตั้ง หันหน้าไปมองทางประตูระเบียงแล้วเอื้อมมาล็อกมือฉันไว้แน่น"วิวสวยไหม?" คีริวถามพร้อมกับลูบไล้ต้นขาอ่อนฉันเบาๆ เขาเอ่ยเสียงแหบแห้งเพิ่มความเร่าร้อนในจินตนาการของฉันที่เริ่มคิดไปไกลว่าเขาจะลงโทษร่างกายฉันอย่างหนัก"สะ สวย…" ฉันตอบเสียงสั่นเครือ ตัวลอยไปตามแรงเคลิบเคลิ้มของสัมผัสยั่วอารมณ์จากฝ่ามือหนาที่ลูบไล้ก้นงอนของฉันด้วยความเบามือ"วันนี้อิงแสบมากรู้ตัวหรือเปล่า…""ระ รู้…""ริวเตือนอะไรไม่เคยฟังเลย""ฟังแล้ว…""ฟังแล้วทำไมยังดื้ออยู่อีก"เพียะ!ทันทีที่เขาพูดจบฝ่ามือหนาจากที่ลูบไล้กลับฟาดลงบนแก้มก้มฉันเสียงดังจนฉันสะดุ้งโหยงหลุดออกจากห้วงภวังค์ของความวาบหวาม"จะ เจ็บนะ" ฉันหันกลับมาจะลุกหนีแต่คีริวกลับจับเอวมั่นแล้วจัดการฟาดก้นฉันอีกครั้งอย่างไม่ยั้งแรงเพียะ!"สำหรับเด็กดื้อ" อย่างนี้มันหลอกกันนี่นา ฉันคิดว่าเขาจะปล่อยผ่านเรื่องนี้ไปเสียแล้ว เขาทำดีเพื่อทำให้ฉันชะล่าใจ สุดท้ายก็กลับมาตีก้นฉันเป็นการลงโทษโดยที่ฉันไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกเขาล็อกไว้ทุกทาง"งื้อ…เจ็บ ไหนริวบ
"อิงมีเหตุผลที่ทำไปนะ ไม่ได้ทำเพราะอยากแกล้งสักหน่อย" ทันทีที่เข้ามานั่งในรถฉันก็รีบพูดแก้ต่าง ปรายตามองคีริวที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัยเพื่อที่จะขับรถมุ่งหน้ากลับคอนโด"ว่าอะไรหรือยัง" เขาตอบโดนไม่มองหน้า ลดกระจกยิ้มให้พ่อกับแม่ฉันแล้วรถก็เคลื่อนขับออกไปจากหน้าบ้าน"งั้นก็แสดงว่าริวไม่โกรธอิงเหรอ?""ถ้าบอกว่าโกรธ?""อิงทำเพราะทดสอบ ริวต้องห้ามโกรธ""แล้วฉันเลือกอะไรได้ สุดท้ายฉันก็โกรธเธอไม่ได้อยู่ดี""อย่าพูดแบบนั้นสิ…" ฉันตอบเสียงหงอย ผิดคาดที่คิดว่าขึ้นมาในรถแล้วเขาจะโกรธและโวยวายใส่ ไม่คิดว่าเขาจะมาแนวดราม่าตัดพ้อแบบนี้ เจอแบบนี้ยัยอิงดาวถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว"คาดเข็มขัดด้วย" เขาเหลือบมามองฉันแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าฉันเอาแต่สนใจที่จะแก้ต่างจนลืมคาดเข็มขัดนิรภัย เจ้าตัวก็รีบพูดขึ้นทันที"ขับไหวหรือเปล่า สลับให้อิงขับไหม""ไม่เป็นไร นอนเถอะ ถึงห้องเดี๋ยวฉันปลุก""ไม่เอาจะนั่งเป็นเพื่อน" ฉันรีบส่ายหัว แบมือไปตรงหน้าตักเขาจนเจ้าตัวก้มมามอง"อะไร?""ไม่โกรธก็ขอจับมือหน่อย""จับมืออะไรขับรถอยู่เห็นไหม?"โกรธชัวร์…"ทีตอนอื่นริวยังให้จับเลย" ฉันทำหน้าหงอยมองเขา เฮ้อ…มีหลายคดีตามติดตัวมาต
"อย่าปล่อยให้ผู้ใหญ่รอนาน ไม่มีใครเคยบอกหรือไง?" หลังจากที่นั่งเราสองคนนั่งลงติดเบาะโซฟาข้างกันเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้นทันที พ่อฉันยังคงการแสดงละครยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ไม่เคยผิดหวังที่เกิดมาเป็นลูกของท่านเลยสักนิด"ขอโทษครับ" คีริวเอ่ยเสียงเรียบ ยอมรับโดยไม่มีเถียงอะไรสักคำ"พ่อไม่เห็นต้องว่าริวขนาดนั้นเลย…" ฉันเอ่ยเสียงเบา มองหน้าพ่อกับแม่เลิ่กลั่ก เพราะฉันคิดแต่แผนแกล้งเพื่อทดสอบเขาแต่ฉันไม่ได้คิดว่าต้องเฉลยยังไง…ตอนนี้ไม่อยากแกล้งต่อแล้ว รู้ซึ้งทุกอย่างจนต้องมองหน้าพ่อแม่เพื่อพยายามหาทางออกและหาตัวช่วยแล้ว"ผมซื้อของมาฝากคุณพะ…เอ่อ…คุณอัทธ์ด้วยครับ ขอโทษที่พึ่งเอามาให้ครับ" คีริวที่ปรายตามองของฝากที่อยู่ข้างๆ โซฟาก็รีบยกขึ้นมาไว้บนโต๊ะกลาง เป็นเซ็ตของรังนกแท้กล่องสีทองราคาแพงที่เขาตั้งใจเลือกก่อนมาถึง รีบวางไว้เพราะเจ้าตัวพึ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเอามาฝากด้วย"รังนกของโปรดคุณเลยนี่คะ ขอบคุณนะจ้ะ" แม่ที่เหมือนจะเข้าใจท่าทีของฉันก็พยายามลดใบหน้าที่กำลังตึงใส่คีริว เอื้อมไปหยิบกระเช้าตรงหน้าพร้อมกับยิ้มขอบคุณให้จนคนด้านข้างฉันเหวอไปเลยพึ่งจะชมไปหมาดๆ ว่าการละครบ้านนี้ดีแค่ไหน แต่การที่แม่แสดงแ
"ยังเรียนกันไม่จบ จะเลี้ยงลูกสาวฉันได้เหรอ?" ทันทีที่ฉันเดินมาถึงวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะกลางของโซฟากลางห้อง เสียงทุ้มของพ่อฉันก็พูดขึ้นแสดงละครบทโหดอย่างต่อเนื่อง"ผมช่วยงานป๊าได้รับค่าตอบแทนทุกเดือนครับ" คีริวตอบอย่างไม่ลังเล ฉันหันไปขยิบตาใส่พ่อโดยไม่ให้คีริวเห็น ก่อนที่จะลงไปนั่งบนโซฟาใกล้ๆ คีริวที่กำลังโดนสอบสวนอย่างหนักหน่วง"อิงดาวมานั่งใกล้แม่" ก้นถึงเบาะได้ไม่ถึงหนึ่งวินาทีแม่คนสวยก็เรียกฉันไว้ ฉันแสร้งทำหน้ายิ้มแหย่ๆ หันมามองหน้าคีริวอย่างลำบากใจจนเจ้าตัวพยักหน้าฉันก็เปลี่ยนไปนั่งข้างแม่แทนตีบทแตกกระจายทั้งพ่อและแม่ ลูกคนนี้ภูมิใจมากที่สุดเลย"ช่วยงาน? งานอะไร?" พ่อถามต่อ"ผู้ช่วยผู้บริหารครับ หลังจากที่ผมเรียนจบผมต้องบริหารที่นั้นต่อทันที คุณพ่อวางใจได้ครับ ผมไม่ทำให้อิงดาวต้องลำบากแน่ๆ""ใครพ่อแก!" พ่อฉันรีบตวาดลั่นจนคีริวสะดุ้งโหยง ฉันแทบอยากจะขำกับท่าทีตั้งตัวไม่ทันของคีริวที่ไม่คิดว่าพ่อฉันจะเล่นใหญ่เสียงดังใส่จนตัวเองตกใจแต่ก็ต้องหายใจเข้าหายใจออกลึกๆ ไว้ อดทนไว้ก่อนอิงดาวห้ามขำ แกยังต้องพิสูจน์ในตัวเขาต่อ"ขอโทษครับคุณลุง""ฉันไม่เคยมีน้องชายเป็นพ่อแก" เนียนมากค่ะพ่อ ทำเ
บรรยากาศบนโต๊ะอาหารมื้อเย็นตกอยู่ในความเงียบงันไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมา ฉันปรายตามองพ่อและแม่ที่กำลังมองมาที่เราสองคนอย่างไม่ละสายตา ตั้งแต่ที่ฉันมาถึงทั้งสองก็ต่างไม่มีใครพูดอะไร เว้นแต่ประโยคชวนจากแม่ฉันเพียงแค่หนึ่งประโยคที่ยังตามให้เรานั่งทานข้าวด้วยกัน"เป็นอะไรกัน?" เสียงนุ่มลึกของคนเป็นพ่อเอ่ยขึ้นกลางวงอาหาร ฉันตกใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่เข้มดุ แต่ดูเหมือนว่าคนด้านข้างฉันจะไม่มีความเกรงกลัวอะไรเลย เขารีบโพล่งตอบแทนฉันทันที"ผมเป็นแฟนอิงดาวครับ" คีริวตอบเสียงฉะฉาน เขากลายเป็นคนที่น่าเชื่อถือเมื่ออยู่ต่อหน้าพ่อกับแม่ฉัน มุมจริงจังที่ยากจะเห็นเขาในมาดนี้ เว้นแต่ตอนที่ดุฉันเท่านั้น"ฉันถามลูกสาวฉัน" เหมือนการทานอาหารครั้งนี้จะไม่ค่อยราบรื่นสินะ พ่อฉันช้อนสายตามองคีริว เข้มดุอย่างเห็นได้ชัด ก่อนที่สายตานั้นจะกลับมามองที่ฉันเพื่อรอคำตอบ"แฟนค่ะพ่อ" ทันทีที่ฉันตอบคีริวก็หันขวับมามอง คงจะตกใจในคำตอบของฉันที่พูดออกไปว่าเป็นแฟนกัน ทั้งที่ทุกครั้งที่เขาขอ ฉันปฏิเสธกลับมาทุกครั้ง"คบกันนานเท่าไหร่แล้ว?" คำถามที่สองมาอีกครั้ง"เรา…""พ่อถามมัน" ขณะที่ฉันกำลังจะอ้าปากตอบ คนที่นั่งหัวโต๊ะกลับพูดด
"อะ โอ้ย…เจ็บ…" เสียงทุ้มร้องลั่นทั่วห้องคอนโดหรูทันทีที่ฉันใช้สำลีที่ชุ่มด้วยแอลกอฮอล์แตะลงที่มุมปากหนาของคีริว ท่ามกลางสายตาของคีรันและเอวาที่กำลังมองมาที่ฉันที่กำลังทำแผลให้ก็พากันหัวเราะชอบใจใหญ่ โดยเฉพาะพี่แฝดของคีริวเอง"หึ สมน้ำหน้า" คีรันหัวเราะในลำคอ ส่ายหน้ามองดูสภาพของน้องชายตัวเอง"ผู้หญิงบ้าอะไรมือหนักชิบ" จนเจ้าตัวเอื้อมมาจับที่มุมปากพร้อมกับตาขวางเมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่ทำให้เขาตกอยู่ในสภาพนี้"ก็สมควรกับที่มึงทำไม่ใช่เหรอ?" คีรันเอ่ยต่อ"ตกลงนายพิสูจน์ให้อิงดาวดูยังไงถึงกลับมาเจ็บตัวแบบนี้" เอวาเอ่ยถาม วันนี้หลังจากที่เราอ่านหนังสือสอบกันมาได้ครึ่งวัน คีริวก็นึกคึกเมื่อเราเถียงกันเรื่องที่เขาไปดูรูปสาวๆ แล้วฉันจับได้ หลังจากนั้นฉันก็ถูกลากให้ไปที่คอนโดที่ไหนสักที่ บอกฉันว่าจะพิสูจน์ให้ฉันมั่นใจว่าเขาเลิกกับผู้หญิงทุกคนแล้วจริงๆ สภาพถึงออกมาอย่างที่เห็น"ก็คงเรียกพวกผู้หญิงของมันมายืนยันให้อิงดาวเข้าใจว่าเลิกกันแล้วจริงๆ" คีรันตอบแทนน้องชาย ซึ่งฉายารู้ใจน้องชายมากที่สุดไม่เกินจริงเลย อย่างที่คีรันบอกทุกอย่าง เขาเรียกอดีตผู้หญิงของเขาเกือบห้าคนมายืนเรียง เพื่อยืนยันให้ฉัน