Se connecterคฤหาสน์ชวัลกร
ฉันมองตัวเองในกระจกอย่างพึงพอใจ ก่อนจะหยิบลิปสติกสีเชอร์รีออกมาทาทับลิปสติกสีหวาน ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่มแดงระเรื่อน่าสัมผัส เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินไปหยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพาย ก่อนจะเปิดประตูออกจากห้องเป็นจังหวะที่ซินเซียเปิดประตูออกมาพอดี
“ตื่นสายอีกแล้วเหรอ?”
“อืม มัวแต่เล่นกับเสี่ยวไป๋” ซินเซียเสยผมสีบลอนด์ไปข้างหลัง ก่อนจะเดินมาคว้าแขนฉันให้เดินลงไปข้างล่างด้วยกัน
“สารภาพมาว่าดูซีรีส์ ได้โปรดอย่าโยนขี้ให้กับเสี่ยวไป๋แมวน้อยแสนน่ารักของฉัน” เสี่ยวไป๋คือแมวสก๊อตติชที่ซินเซียเก็บได้ข้างทาง บางทีอาจจะเป็นพรหมลิขิตที่ทำให้ทั้งคู่มาเจอกัน
คิดดู แมวสก๊อตติชเลยนะ ไม่ใช่แมวที่จะเจอได้ตามข้างทาง
“อืม ติดซีรีส์ พอใจยัง” ซินเซียทำปากคว่ำ
“ก็แค่เนี้ย”
“เนี่ยพอบอกให้กลับมาเป็นตัวเองเอาใหญ่เลยนะ คำพูดคำจาไม่อ่อนหวานแล้วเหรอคะคุณหนูไซซี”
“ก็น่ารักเหมือนเดิมนะ เพิ่มเติมคือความแซ่บ!” พูดจบแล้วสะบัดผมหางม้าให้อีกหนึ่งกรุบ วันนี้พวกเราไปเรียนด้วยกัน แน่นอนว่าเป็นซินเซียที่ขับ
ระหว่างทางไปมหา’ลัยฉันหยิบมือถือออกมาเช็กข่าวสารในโซเชียลอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะเพจเมาท์มอยเซเลบมอแอล ซึ่งจะสรรหาแต่ข่าวของคนดังอย่างเช่นแก๊งหนุ่มฮอตเป็นต้น!
รวมถึงตัวฉันเองที่มีตำแหน่งเป็นดาวมหา’ลัยในปีนี้ แน่นอนว่าไม่ใช่แค่ความสวยแต่รวมถึงความสามารถ ความพร้อมใช้งาน โพสต์แรกในวันนี้เป็นรูปถ่ายและข้อความจับจิ้นระหว่างฉันกับครามเพื่อนชายที่สนิท รวมถึงเพื่อนที่ต้องทำงานร่วมกัน ครามเป็นเดือนมหา’ลัยในปีนี้ เราสนิทกันตั้งแต่ประกวดเพราะเป็นดาวเดือนคณะคู่กัน
“คนจิ้นฉันกับไอ้ครามอีกแล้ว”
“ยังไม่ชินอีกเหรอ ก็ปกติของดาวเดือนมหา’ลัย ว่าแต่เพจเมาท์อะไรแกอีก” ซินเซียขับรถไปพลางถามไปด้วย พร้อมกับเสียงเพลงที่เราเปิดเบา ๆ บนรถ
“ก็เมื่อวานมีงานน่ะ ก็เลยเดินไปหาครามที่ช็อปโยธา ขากลับครามเลยพาเดินไปเอารถ”
“เอ๋ ช็อปโยธา ไม่ใช่ว่าแก!” ซินเซียหันมามองอย่างรวดเร็วเหมือนสงสัย และฉันก็พยักหน้าให้กับเธอเป็นการยืนยัน งานน่ะไม่เท่าไร แต่ไปเพราะเริ่มแผนการแล้วไงเลยไปยั่วเล็ก ๆ น้อย ๆ
“ร้ายมากนะแกน่ะ”
“เหมือนแกไงแม่คนดี ฉลาดไปหมดแต่ทำตัวซื่อ ๆ ใส ๆ ตบตาคนอื่น” ฉันน่ะแสดงออกมาตรงกับใจต่างกับซินเซีย เพื่อนไม่ได้เป็นคนโง่แต่เป็นคนใจเย็นและใช้สมอง มีน้อยครั้งที่จะระเบิดอารมณ์เหมือนอย่างที่ทะเลาะกับเฮียโซ่ช่วงเทอมก่อน
“ดีแล้วรีบเริ่มแผนการ อีกไม่กี่เดือนพวกพี่เขาจะจบกันแล้ว ไม่รู้พี่ไนต์จะอยู่ไทยไหม”
“หมายความว่ายังไง!!” นี่เป็นข้อมูลใหม่เลยนะ ที่จริงรู้แค่ว่าพี่เขาเป็นญาติกับฝาแฝดอิลแอลเพื่อนในกลุ่มเรา แต่ก็รู้แค่นั้น ที่จริงแทบไม่รู้อะไรเลย
“ได้ยินพี่เสือเล่าให้ฟัง พอเรียนจบแต่ละคนก็จะแยกย้ายไปทำงานที่บ้าน ส่วนพี่เสืออาจจะทำสนามจริงจังและอู่กับพี่ไฟ ส่วนผับพวกพี่เขาคงจะดูแลน้อยลงเพราะไม่ว่างกัน” ฉันถอนหายใจทันที รู้สึกใจหายมากที่พวกพี่เขาจะเรียนจบกันแล้ว รวมถึงเรื่องพี่ไนต์ด้วย
“อะไร! เศร้าเลย แค่นี้ทำเศร้า ใช้เวลาที่มีให้คุ้มค่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ว่าเขาจะรักหรือไม่รักก็ลองดู” ซินเซียเอ่ยอย่างให้กำลังใจ
“แน่นอนคนนี้ฉันจอง ที่เงียบกำลังฝันอยู่ ถ้าคบกันฉันจะไปอยู่กับเขาเอง ฮ่า ๆ” พูดไปอย่างนั้นแหละ ที่จริงใจซึมอย่างกับส้วม!
“อย่างกับอาสามจะให้ไป” อาสามก็คือป๊าฉันเอง
“ฉันอนุญาตตัวเองย่ะไม่ต้องถามป๊า”
พวกเราสนิทกันจนแทบตบหัวกันได้ เมื่อคุยกันเสร็จฉันก็เล่นมือถือต่อ ก่อนจะสะดุดตากับโพสต์หนึ่งในเพจที่มีหน้าคู่อริแปะอยู่
“นี่มัน!”
ไซซียกยิ้มเมื่อในข่าวกล่าวถึงบทสัมภาษณ์ของดาน่า สาวสวยดาวคณะแพทย์เกี่ยวกับเรื่องทั่วไป จนกระทั่งนัยน์ตากลมโตทรงเสน่ห์เบิกกว้างเมื่อดาน่าพูดถึงเรื่องหัวใจ และดาน่าประทับใจรุ่นพี่หนุ่มฮอตอันดับแปด เธอจะไม่หัวเสียเลยถ้าคนนั้นไม่ใช่พี่ไนต์
“ตลกละ คนอย่างพี่ไนต์เหรอจะสนใจเธอ!” ไซซีพึมพำอย่างไม่พอใจ พลางกดปิดหน้าจอและกอดอกทำหน้าไม่สบอารมณ์
“เป็นอะไรอีก”
“จำยัยดาน่าได้ปะ!”
“อืม จำได้ ที่ชอบแขวะแกตอนประกวดดาวเดือนเทอมที่แล้วใช่ไหม”
“ใช่ ยัยนี่อยู่ดี ๆ ก็ไปให้สัมภาษณ์ว่านางปลื้มพี่ไนต์ และยังพูดว่าพี่ไนต์น่ารักอย่างนั้นอย่างนี้ทำราวกับว่ารู้จักเขาดี” จะไม่ให้โมโหได้ยังไง พี่ไนต์เป็นของเธอนี่ จับตามองตลอดไม่มีทางที่ยัยสตรอว์เบอร์รีจะมาใกล้ชิดเขาได้
“มโนหรือเปล่า” เห็นไหมขนาดซินเซียยังคิดเหมือนกับเธอเลย พี่ไนต์น่ะเขาไม่สุงสิงกับใครเป็นพิเศษหรอก ขนาดเธอจีบเขามานานเขายังให้แตะแค่ศอก คิดแล้วก็เศร้า!
“มโนด้วย พี่ไนต์ไม่มีทางเอาคนอย่างยัยนั่น”
“แต่ก็ไม่แน่นะ แล้วนางจะมโนเป็นตุเป็นตะได้ยังไง ดูประหลาดมาก”
“แกอย่าพูดให้ฉันหวั่นไหวได้ไหมซิน” ใจหายวาบเลย รับไม่ได้จริงนะถ้ามันมีอะไรมากกว่านั้น
“ล้อเล่นฮ่า ๆ”
ซินเซียหัวเราะลั่นรถเมื่อได้เห็นเพื่อนสาวคนสวยอย่างไซซีทำหน้าบึ้งตึงอย่างไม่พอใจเธอ ก่อนจะหุบปากฉับและตั้งหน้าตั้งตาขับรถไปมหา’ลัย เพราะตอนนี้พวกเธอกำลังจะสาย แต่วิชานี้สบายอาจารย์ไม่เคร่ง จะเข้าตอนไหนก็ได้เพราะไม่เช็กชื่อ
คณะวิศวกรรมศาสตร์
การเรียนเทอมสองเข้าสู่วิชาของวิศวกรรมมากขึ้นต่างจากเทอมแรกที่ต้องเรียนแบบพื้นฐาน แต่ก็ไม่ได้ยากจนเกินไป ยังมีวิชาเสริมเพื่อดึงเกรดอยู่บ้าง ที่จริงมาเรียนสาขานี้ก็เพราะซินเซีย เราสนิทกันมาก เธอไม่ได้มีอะไรที่ชอบเป็นพิเศษเลยมาเรียนกับเพื่อนสายวิทย์คณิต แม้จะยากแต่ก็คงไม่เกินความสามารถ นั่นคือความคิดก่อนมาเรียน แต่ตอนนี้น่ะเหรอ...แค่สอบผ่านก็พอ ล้อเล่น ต้องคะแนนไม่แย่ด้วยสิ!!
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนทำให้ฉันละสายตาจากหน้าห้องที่อาจารย์กำลังสอนอยู่มาดูว่าใครทักแชตมา ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นรุ่นพี่สาวสวยต่างคณะทักมา ‘เจ๊เมษา’ รุ่นพี่ที่สนิทอยู่นิเทศปีสาม
เมษา : คืนนี้อีลิทไหม ?
ไซซี : เนื่องในวันอะไรอะ?
เมษา : ไม่มี อยากกินเฉย ๆ
ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิมแม้ว่าเจ๊แกจะขาเที่ยว แต่ช่วงนี้เห็นบ่นว่างานยุ่ง แต่ในเมื่อเจ๊ชวนมีเหรอที่คนอย่างไซซีจะปฏิเสธ
“ซิน คืนนี้อีลิทนะ” และไม่รอให้เพื่อนตอบฉันก็พิมพ์ตกลงเจ๊เมษาไปด้วยเลย เพราะยังไงก็จะลากไปด้วยให้ได้
ไซซี : เจอกันคืนนี้สามทุ่ม
เมษา : โอเค
“โห นี่ชวนหรือบังคับ แกตอบตกลงไปแล้ว” ซินเซียละสายตาจากที่อาจารย์สอน ก่อนจะชะโงกหน้าดูหน้าจอมือถือ เอ่ยปากพลางมองฉันอย่างเอือมระอา
“ระบบบังคับไง ช่วงนี้แกมีเวลาก็ไปหาพี่เสือ ไม่สนใจคนสวยโสดแบบฉันบ้างเลย”
“ย่ะ! ไปก็ไป ว่าแต่ไม่จีบพี่ไนต์แล้ว”
“จีบ วันนี้ทักไปแล้ว”
“ทักว่า?” ซินเซียเบิกตากว้างอย่างกระตือรือร้น
“คิดถึงมาก ๆ ค่ะ”
“โอ๊ย! แค่เนี้ย”
“ก็ไม่เจอหน้าไง”
“ถ้าเจอหน้าทำไง”
“เจอหน้าเหรอ เอาไว้เจอจริงก่อนเถอะ”
“รอชมย่ะ!”
เพราะคืนนี้ยังไงเธอก็ต้องเจอเขา แอบเห็นตารางดูแลผับของเฮียรบหรือนักรบพี่ชายฉันมาแล้ว ลืมบอกว่าอีลิทผับที่เราจะไปเที่ยวกันคืนนี้ มีเจ้าของเจ็ดคนที่ร่วมหุ้นกัน แน่นอนว่าคือแก๊งหนุ่มฮอตวิศวะ พี่ชายของฉันกับซินเซีย พี่ไฟ พี่เพทาย พี่เสือของ ยัยซินและพี่ไนต์ของฉัน!
และแน่นอนว่าคืนนี้พี่ไนต์ต้องเข้าแน่ เจอไซซีเวอร์ชันใหม่ได้เลย หวานแล้วยังเฉย เจอแซ่บหน่อยเป็นไง!
“คืนนี้ไปไหนกัน ได้ยินแว่ว ๆ ไม่คิดจะชวนเพื่อนไปด้วยเลย”
เสียงน้อยอกน้อยใจดังเข้ามาทำให้ฉันจิ๊ปาก พลางกลอกตามองบนก่อนจะหันไปมองเรย์หนึ่งในเพื่อนของฉัน
“ไม่เสือกสักเรื่องได้ปะ?”
“โอ้โห ทีพวกฉันยังชวนไปทุกที่เลย”
“ชวนไปหรือหลอกไปเอาให้แน่ จะได้ฟ้องพี่ชายถูก” ฉันจิกตาใส่ บอกเลยนะว่ายังไม่ลืมเรื่องคราวก่อนที่หลอกฉันกับซินเซียไปสนามแข่งเพราะจะให้เป็นของเดิมพัน ฟังแล้วน่าตบกะโหลกมาก แต่ทุกคนก็ไม่มีใครรู้ว่าสายฟ้าจะตลบหลังแล้วเนียนหนีไปโดยการบอกว่าติดธุระ ฉันกับซินพึ่งมารู้ตอนหลังว่าสายฟ้ามันตอแหล
ส่วนอิล แอล เรย์ก็มั่นใจมากว่ายังไงสายฟ้าก็ชนะและไม่ได้เอะใจเลยให้พวกเราไป แทนที่มันจะบอกดี ๆ ดันมาหลอกแบบนี้ น่าโมโหมาก ดีนะพี่เสือมาช่วยซินทัน ฉันนึกว่าเพื่อนจะได้ลงแข่งเองซะแล้ว
“ขอโทษได้ไหมล่ะ สำนึกผิดไม่ทันเลย ขอโทษนะคนสวย ทีหลังจะบอกดี ๆ จะไม่หลอกแบบนี้อีก แต่อย่าฟ้องพี่ชายพวกเธอเลยนะ” เรย์ยกมือยอมแพ้พร้อมทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
ฉันยกยิ้มมุมปากก่อนจะเอ่ย
“ก็ได้ จะบอกแค่เฮียต้าร์คนเดียว เคปะ?
“ยัยบ้าอยากให้ฉันตายตรงนี้เลยเหรอวะ”
“ก็สมควรอะ”
“ฉันวิ่งออกไปให้รถชนตายตอนนี้ดีกว่าโดนเฮียต้าร์กระทืบอะบอกเลย” เรย์ทำหน้าตาเลิ่กลั่กไม่ไหว
“ทีหลังอย่าคิดมาหลอกอีกนะ...จำไว้!”
“รู้แล้วขอโทษคร้าบบบ”
ฉันยกยิ้มก่อนจะหันกลับมาตั้งใจเรียน ส่วนคนอื่นเขาตั้งใจเรียนกันหมด มีแค่เรย์ที่มันไร้สาระแบบนี้ ที่จริงกลุ่มเราจะมีสายฟ้าอีกคน แต่ตอนนี้หายหัวไปแล้ว ไม่ต้องพูดถึงหรอกเพราะฉันเกลียดมันมาก!!
เจ้าสมุทร Talk ผมเกิดและเติบโตในตระกูลมาเฟีย ถูกสอนมาตั้งแต่เด็กว่าต้องแข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์ มีไหวพริบ มีอำนาจ และห้ามอ่อนแอตอนเด็กคือช่วงเวลาที่ผมชอบที่สุด ท่ามกลางบรรยากาศภายในบ้านที่ร้อนราวกับไฟ มีเพียงผู้หญิงใจดีคนหนึ่งคอยมาดูแลและเล่นกับผม พ่อให้เรียกเธอว่า ‘แม่เล็ก’ ซึ่งผมในวัยเด็กก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม่เล็กเป็นผู้หญิงจิตใจดี ท่านดูแลผมจนกระทั่งอายุเจ็ดขวบ แม่อีกคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นมาและยื้อแย่งผมไปดูแลแม่คนนี้ให้ความรู้สึกต่างจากแม่อีกคนโดยสิ้นเชิง เพราะท่านทั้งบังคับ เข้มงวด ดุด่าและกดดัน จนกระทั่งวันหนึ่งผมทนไม่ไหวเลยไปขอร้องพ่อว่าต้องการอยู่กับแม่เล็ก แต่คำตอบของท่านทำให้ผมแทบล้มทั้งยืน“แม่เล็กกับน้องชายจะไม่อยู่ที่นี่อีกต่อไป”ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแม่เล็กต้องไปจากผม แล้วน้องชายคือใครทำไมไม่เคยเห็นหน้าเลย ตอนนั้นรู้สึกสิ้นหวังมากเพราะหลังจากกลับมาถึงห้อง แม่ก็ยืนกอดอกรออยู่ด้วยสีหน้าดุดัน ไม่รู้อะไรทำให้ผมเอ่ยปากถามแม่ออกไป“แม่เคยรักหมุดบ้างไหม”ไม่รอให้แม่ตอบอะไรผมก็รู้คำตอบของท่านจากแววตาร้ายกาจนั้นแล้ว แม่มักใช้มองผมอยู่ตลอดเวลา มองเหมือนกับว่า ‘ไม่ใช่ลูก’ ทำเหมือนกับผมเ
เสียงถอนหายใจของซินเซียทำให้ฉันหันไปมองเพื่อน และเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังทำหน้าเหม่อลอย“พวกนั้นก็พึ่งแต่งงานไปนี่เอง มีแต่เราที่แต่งงานจนมีลูกก่อนพวกเพื่อน”ฉันนึกไปถึงกลุ่มเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันอย่างเรย์ และฝาแฝดอิลแอล หลังเรียนจบแต่ละคนก็ไปหาประสบการณ์ทำงานด้านวิศวกรแล้วค่อยกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้าน ซึ่งแต่ละคนครองตัวเป็นโสดกันนานมากแต่สาว ๆ ไม่เคยจะขาดมือ จนเมื่อต้นปีนี้เรย์และอิลก็ทยอยแต่งงาน ส่วนแอลได้ยินว่ากำลังศึกษาดูใจอยู่กับผู้หญิงคนหนึ่ง“นี่ถ้าไอ้สายไม่เลว บางทีความสัมพันธ์ของเพื่อนอาจจะอยู่ยาวนานกว่านี้ก็ได้นะ”เพื่อนอีกคนที่ได้รู้จักเมื่อตอนเข้ามหา’ลัยก็คือสายฟ้า แน่นอนว่าที่กล้าเอ่ยชื่อออกมาเพราะซินเซียไม่ได้อะไรกับหมอนั่นแล้ว ไม่ว่าจะพูดหรือไม่พูดถึง ซินเซียก็ไม่รู้สึกอะไร“อืม” สาวสวยผมบลอนด์ครางรับในลำคอก่อนจะชวนคุยเรื่องอื่นซึ่งฉันก็เห็นด้วย แม้จะเจอกันบ่อยกว่าคนอื่นแต่ก็ใช่ว่าจะมีเวลาได้คุยกันแบบนี้เพราะลูก ๆ ก็ซนกันมาก จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจนบ่ายแก่ จีซัสและเซริมก็วิ่งเข้ามาในห้อง“หม่ามี้ จีมาแล้ว”จีซัสวิ่งเข้ามาในห้องตามด้วยเซริมที่ถือหมวกกันน็อกขนาดเล็กไว้ในอ
ร่างสูงกางแขนออกเล็กน้อยเป็นเชิงให้ภรรยาสาวสวยเข้ามาช่วยแต่งตัว เธอจึงเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะแตะปลายนิ้วลงบนอกแกร่ง และเลื่อนต่ำลงมาเรื่อย ๆ จนน่าหวาดเสียว“พี่จะให้ซีช่วยจริง ๆ เหรอคะ”“...” ไนต์กัดฟันแน่นเมื่อร่างบางเริ่มออกลายซุกซน“ถ้าช่วยจะนานนะ”“ไม่ช่วยมีตายก่อนพอดี เอาหน่อยถือว่ากินข้าวเช้า”เสียงทุ้มแหบพร่าเอ่ยกระซิบข้างหูร่างบาง ก่อนจะตวัดแขนโอบรัดร่างเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขน และเดินตรงไปยังห้องน้ำโดยไม่ลืมล็อกประตู“ล็อกไว้ก่อนเดี๋ยวมีคนขัดจังหวะ”เมื่อมาถึงห้องน้ำแล้วเขาก็จัดการอุ้มเธอลงอ่างพร้อมปลดเปลื้องพันธนาการทั้งหมดออก จนเผยเรือนร่างบอบบางขาวผ่องอยู่ตรงหน้า“จ้องนานไปแล้ว จะทำไหมคะ?”ริมฝีปากบางยกยิ้มก่อนจะขยับสะโพกนั่งคร่อมบนตักแกร่งภายในอ่าง แขนเรียวยกขึ้นไปคล้องคอแกร่งไว้ก่อนจะกดให้เขาโน้มหน้าลงมา“ไม่ทำตอนนี้ พี่ได้ขาดใจตายแน่”จบคำนั้นริมฝีปากของทั้งคู่ก็ประกบเข้าหากัน ต่างฝ่ายผลัดกันรุกผลัดกันรับ เล้าโลมคลอเคลียกันไม่ห่าง จนพายุสวาทโหมกระหน่ำ แก่นกายแข็งร้อนตอกตรึงใส่ร่องสวาทไม่ยั้ง สร้างความรัญจวนใจให้เธอเป็นอย่างมาก แรงกระแทกทำให้น้ำในอ่างสาดกระเซ็นออกมาตามพื้นเ
5 ปีผ่านไป ฉันนั่งมองภาพงานแต่งงานของตัวเองและพี่ไนต์ที่ผ่านมาแล้วห้าปี ตอนนี้เรามีเรือนหออยู่ระหว่างคอนโดเก่าของเขาและคฤหาสน์ชวัลกร แน่นอนว่าที่คฤหาสน์คุณปู่ก็สร้างบ้านให้อีกหลังเพราะคิดถึงหลาน เวลากลับมาจะได้เจอกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาหลังจากงานแต่งงานเราทั้งคู่ก็ไปฮันนีมูนดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กันเกือบเดือนเลยล่ะ ทุกที่ที่อยากไปเขาไม่เคยอิดออดและยินยอมพาไป นอกจากกิจกรรมที่โลดโผนเพราะฉันยังท้องอยู่หมับ“ทำอะไรอยู่เหรอ”แรงกอดรัดจากข้างหลังมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหู ทำให้ฉันเผลอย่นคอหนีคนร้ายกาจ เขาชอบมาคลอเคลียฉันเหมือนกับแมวจนอดหมั่นไส้ไม่ได้ แต่ก่อนนี่ตั้งท่ารังเกียจกันเหลือเกิน“ซีกำลังดูรูปภาพในงานแต่งของเราค่ะ นี่! ดูสิมีแก๊งของพี่ครบทุกคนเลย หล่อ ๆ ทั้งนั้น”ฉันชี้ไปที่รูปถ่ายครบทั้งแก๊ง ทุกคนหล่อเหมือนออกมาจากนิตยสารถ่ายแบบเลยละ ตำแหน่งหนุ่มฮอตคงไม่มีใครมาโค่นลงได้ง่าย ๆ“ไหน ไม่เห็นจะหล่อเลย” เขาเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์“หล่อสิ โดยเฉพาะคนนี้ หล่อที่สุดในใจของซี”พูดแล้วก็เงยหน้ามองเสี้ยวหน้าคม เมื่อเอ่ยชมเขาแล้วเลยอยากดูปฏิกิริยา และภาพตรงหน้าก็ทำให้ฉันเผลอหัวเราะคิกคัก พี่ไนต์ห
กาแฟสวดภาวนาเสียงเบา เธออยากแต่งงานจะแย่แต่ไม่มีทีท่าว่านักรบจะขอเธอแต่งงานเลย จนเธอเรียนจะจบอยู่แล้ว!“ได้แน่นอนค่ะ แล้วพี่ควีนจะลุ้นด้วยไหม”“แต่งไปแล้วไง” ควีนฉีกยิ้มให้ซินเซียจนอีกฝ่ายตาพร่าเมื่อเจอรอยยิ้มหวานหยด“แต่งอีกก็ได้นี่ คิกคิก”“รองานพวกเธอดีกว่า”ควีนพยักพเยิดไปทางกาแฟ พินอิน และซินเซียแทน แต่สาวสวยผมบลอนด์ยกมือปฏิเสธพัลวันเพราะอาจยังไม่พร้อมเท่าไร ก่อนจะฉุกคิดถึงใครบางคน“คิดถึงเจ้เมษามาก” ซินเซียเอ่ยขึ้นมา“นั่นสิ ถ้าไม่ติดสอบเจ้แกมาแล้ว”อิงปิงเอ่ยตอบซินเซียก่อนจะหลบมุมไปยืนข้างมิกิ เพราะเธอไม่มีแฟนเลยไม่รู้จะรอรับช่อดอกไม้ไปทำไม แต่อยู่ ๆ อิงปิงพลันขนลุกซู่เมื่อรู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธออยู่“จะโยนแล้วนะคะ”เสียงหวานใสของไซซีเอ่ยขึ้นมาทำให้อิงปิงสะบัดหัวไล่ความรู้สึกนั้นไป ก่อนจะได้ยินเสียงนับถอยหลังโยนช่อดอกไม้ เพราะสะบัดหัวแรงไปเลยเซไปชนกาแฟที่ยืนอยู่ด้านข้าง และอีกฝ่ายก็ไปชนมิกิอีกทอดเหมือนโดมิโนล้ม3…2…1…“0.0”ใบหน้าสวยน่ารักเบิกตากว้างเมื่อช่อดอกไม้แสนสวยตกลงมาใส่อกเธออย่างแรง ด้วยความตกใจเลยคว้าไว้ รู้ตัวอีกทีทั้งซินเซีย พี่กาแฟ เจ๊อิงปิง พี่พินอ
เสียงไวโอลินบรรเลงเพลงคลาสสิกดังคลอไปทั่วทั้งงาน ดอกไม้สดหลากหลายพันธุ์ถูกจัดตกแต่งได้อย่างสวยงามราวกับสรวงสวรรค์ ฉากหลังคือทะเลสาบภายในอาณาเขตของคฤหาสน์หลังใหญ่ในพื้นที่ร้อยไร่ แขกในงานแบ่งแยกที่นั่งจนเต็ม แม้คนร่วมงานไม่มากเพราะอยากจัดส่วนตัวแต่เต็มไปด้วยบรรยากาศอบอุ่นเสียงเพลงต้อนรับขบวนเจ้าสาวเดินเข้ามาในพิธี นำโดยเด็กชายเด็กหญิงหน้าตาน่ารักสองคน หนึ่งถือพระคัมภีร์และหนึ่งโปรยดอกไม้ ตามมาด้วยบรรดาเพื่อนเจ้าสาวที่แต่งชุดเดรสสีชมพูอ่อนเรียบง่ายชายหนุ่มร่างสูงในชุดเจ้าบ่าวสีดำ ใบหน้าเรียบนิ่งทำให้หลายคนเดาไม่ออกว่าเขาอยากแต่งจริงไหม จนกระทั่งนัยน์ตาคมกริบมองเห็นเจ้าสาวในชุดแต่งงานเดินควงแขนบิดาเข้ามา มุมปากของเจ้าบ่าวยกขึ้นและประกายตายินดีอย่างปิดไม่มิดเรือนร่างบอบบางอยู่ในชุดเจ้าสาวแบบลูกไม้ฟูฟ่อง สวยหวานจนยากจะบรรยาย ใบหน้าแต่งแต้มด้วยโทนสีชมพูอ่อน ผมสีน้ำตาลถูกรวบขึ้นด้วยผ้าลูกไม้เข้าชุดคาดที่ผมอีกทีเธอยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อสบตากับเขา ผู้ชายที่ปักใจตั้งแต่ครั้งแรก นัยน์ตากลมโตร้อนผ่าวเมื่อผู้เป็นบิดาวางมือบางลงบนมือของเจ้าบ่าว และมองเธอด้วยสายตามีความสุขจนยากจะบรรยาย“ป๊ามาส่







