“อยู่ได้แน่นะ ข้าวหอม แม่รู้สึกเป็นห่วง ถ้าไม่ไหวก็กลับบ้านเรานะ” น้ำเสียงของคนเป็นแม่ โทรศัพท์คุยกับลูกสาว ซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยในเมืองกรุง ต้องย้ายบ้านออกจากตจว. เพื่อมาเรียนต่อในช่วงเปิดภาคเรียน
“อยู่ได้สบายมากค่ะแม่ หนูไม่ได้อยู่คนเดียวซักหน่อย หนูอยู่กับเพื่อนผู้หญิงอีกคน เราเพิ่งรู้จักกันตอนมาเช่าหอพักหญิงล้วนด้วยกันจ้า” ข้าวหอมตอบน้ำเสียงร่าเริง ระหว่างเดินไปมาโทรศัพท์มือถือเล่าเรื่องตัวเองให้แม่ฟัง
เธอโตแล้ว อยากจะทำอะไรก็ได้ โตแล้วอยากจะเรียนทีไหนก็ได้ โตแล้วอยากจะอยู่ที่ไหน เที่ยวที่ไหนก็ได้
“เรื่องค่าเทอม ค่าหนังสือ และค่าใช้จ่าย เขียนมาให้ละเอียดนะ ส่งมาให้แม่อ่านด้วย และก็โทรหาทุกวันนะ พ่อแม่คิดถึงเอ็ง” เด็กสาวเลิกหน้าคิ้วสูง พยักหน้าส่ายซ้ายทีขวาที เธอทำได้แน่นอน และพ่อแม่จะไม่รู้อะไรนอกจากที่ขอ
“ได้เลยค่ะ ถ้างั้นหนูต้องขอตัวเข้ากิจกรรมรับน้องนะคะ” ข้าวหอมบอก ซึ่งพ่อแม่ต้องปล่อยสายให้ลูกไปเรียน และร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย
******
ในความเป็นจริง ข้าวหอมไม่มีกิจกรรมรับน้องวันนี้ เพราะเธอจะนอนอยู่ในห้องกับเพื่อนสาวที่พึ่งสนิทกัน เด็กสาวได้ล้มตัวลงนอนกับพื้นเพื่อพักผ่อน หลังจากจัดห้องให้สะอาดเอี่ยมอ่อง แบ่งสัดส่วนคนละครึ่งกับเพื่อนร่วมห้อง
เพื่อนผู้หญิงอีกคนเดินเข้ามาในห้อง ปิดประตูแน่นลงกลอนล็อคห้องอย่างดี เธอแต่งตัวสวยด้วยกระโปรงสั้นเหนือเข่า กับเสื้อตัวใหญ่แขนยาว ผมหน้าม้าปล่อยยาวสยาย เรือนหน้าแต่งอ่อนโทนชมพู พร้อมกับพกอาหารกลับมาเผื่อเพื่อนร่วมห้อง
“มากินข้าวด้วยกันเถอะ ข้าวหอม” น้ำเสียงค่อนข้างโทนใหญ่เข้ม เสียงแหบแทรกมาเล็กน้อยดังกังวาน รอยยิ้มของข้าวหอมเบิกกว้างยิ้มหวาน รออาหารรสแซ่บและเหล้าเบียร์ซึ่ง -เขา- ซื้อกลับมาฝากเธอด้วย
“กินข้าวแกล้มเหล้าเบียร์เสร็จแล้ว เราจะมาเล่นสนุกด้วยกันใช่มั๊ย?” ข้าวหอมตักข้าวกินเยอะๆ เพื่อเพิ่มพลังงานเอาแรง โดยมีเหล้าเบียร์กินอย่างเอร็ดอร่อยๆ ขืนอยู่บ้านกับพ่อแม่ คงไม่มีทางได้กินอะไรแบบนี้แน่ๆ โดยมีเพื่อนสาวนั่งกินข้าวเป็นเพื่อนกับเธอตามลำพัง
“ใช่แล้วจ๊ะ มันส์ๆ สนุกๆ ไง” เธอยิ้มหวานพลางยกเบียร์ขึ้นดื่มรวด ส่งผลให้ลูกกระเดือกเคลื่อนคล้อยยามเมื่อกลืนเบียร์ลงคอ
“เวลาอ๊อฟแต่งเป็นผู้หญิง สวยกว่าตอนเป็นผู้ชายเลยนะ น่าเสียดายที่ไม่ได้เปลี่ยนชื่อจริงไปด้วย” ข้าวหอมบ่นอย่างน่าเสียดาย ในเมื่อเพื่อนชายสมัยเรียนหน้าตาสละสลวย ค่อนข้างสนิทกับเธอซึ่งเรียนม.ปลายมาด้วยกัน
ย้ายมาอยู่หอพักชายไม่ได้ เพราะเขาชอบเป็นผู้หญิง จึงต้องแต่งตัวเป็นหญิงและมาอยู่หอพักเดียวกับข้าวหอม ซึ่งสอบติดมหาวิทยาลัยเดียวกัน แต่คนละคณะ
“ถ้าอยู่ตามลำพังเรียกอ๊อฟได้นะ แต่ถ้าอยู่ข้างนอกใส่กระโปรงก็เรียกอ๊อฟฟี่ อย่าลืมนะ ข้าวหอม ถ้าความแตกคงจะไม่ได้เช่าอยู่ที่นี่ต่อ เธอจะแย่เอานะ”
สาวประเภทสามหน้าตาสละสลวย แก้มแดงนวลระเรื่อ ยังคงกินข้าวกับเพื่อนร่วมห้องต่อไป ในเมื่อความเป็นจริง เขายังไม่ได้แปลงเพศ อารมณ์และความต้องการของเขายังคุกกรุ่นมากด้วย เมื่อมีเบียร์ตกถึงท้อง
“ไม่ลืมหรอก... อิ่มแล้วล่ะ... ขอบใจนะ สำหรับเลี้ยงข้าวมื้อนี้” ข้าวหอมเริ่มทยอยเก็บของ และเก็บถุงอาหารที่แกะแล้ว เธอต้องทำความสะอาด เพื่อเอาไปทิ้ง เดินไปหยิบรีโมทแอร์ ปรับอากาศไล่กลิ่นอาหารพวกนี้ให้หมดห้อง
อีกมือเลื่อนไปหยิบสเปร์ปรับอากาศ เพื่อทำให้บรรยากาศห้องนี้สดชื่น เพราะว่าหลังจากนี้ เธอจะมีกิจกรรมพิเศษกับอ๊อฟ และรู้กันแค่สองคน
“พร้อมรึยังล่ะ?” เด็กสาวซึ่งเริ่มวางอาหารในมือที่หมดแล้ว หันไปหยิบเบียร์มาซดอีกเฮือกใหญ่ และเริ่มจะได้อาการมึนเมามาบ้างแล้ว เขาก็อยากจะได้อารมณ์กับข้าวหอมเหมือนกัน
******
เด็กสาวสองคนกำลังนั่งสวมกอด จูบแลกลิ้นหลับตา พลางตวัดปลายลิ้นเข้าหากัน มือบางสวมกอด และลูบไล้ไปตามร่างกายตามจุดต่างๆ ไปเรื่อยๆ
“อื้อ...” ข้าวหอมครวญแผ่วอย่างพอใจ หลังจากอิ่มท้องได้ข้าว และซดเบียร์จนนึกครึ้มอกครึ้มใจ ความเย็นภายในห้องก็ช่างทำให้นึกอยากจะออกกำลังมันๆ กับเพื่อนสาวตรงหน้ายามนี้ ระหว่างจูบแลกลิ้นบดเบียดเพลิดเพลิน
“หวานดีจัง” อ๊อฟแผ่วเสียงบอก เริ่มออกแรงดันกายของข้าวหอมลดต่ำลงนอนราบหงาย พลางใช้มือหนึ่งสอดลงไปเบื้องล่างกาย พยายามปลดตะขอกางเกงขาสั้น และสอดมือเข้าไปใต้กางเกงใน
พยายามควานหาเนินสามเหลี่ยมเรียบนูน เต็มได้ด้วยขนดกนุ่มมือ พึ่งเริ่มขึ้นได้ไม่นาน กายข้าวหอมสั่นไหวอย่างหวาดกลัว เมื่อมือของอ๊อฟกำลังเลื่อนต่ำ และแนบเนื้อในที่ลับ
“อ้า... อ๊อฟ...สอดนิ้วเข้าไปสิ รู้สึกดีจัง” ข้าวหอมสวมกอดด้วยสองแขนพลางนึกยิ้มหวาน รับจูบจากฝ่ายตรงข้ามอย่างหิวกระหายของหวานหลังจากกินข้าวและเบียร์แล้ว เธออยากสวมกอดเรือนกายเขาอย่างนี้ต่อไป
แม้ว่าอ๊อฟจะเริ่มมีหน้าอกจากการกินยาคุมแล้วก็ตาม แต่ความเป็นชายของเขายังอยู่และเริ่มแข็งตึง ซึ่งอวบอูมอยู่บนหน้าท้องเธอตอนนี้...
“เปียกแล้วนะ น่าฟัดชะมัดเลย” อ๊อฟครวญมอง ลดดวงตาต่ำ เขาควรถอดเสื้อผ้าเธอให้หมดตัว เพื่อดูร่างกายผู้หญิงของข้าวหอมได้ทั้งหมด เขายังต้องเรียนไปและหาเงิน เพื่อการศัลยกรรมเป็นผู้หญิงอย่างสมบูรณ์
ถ้าไม่ติดว่าเงินไม่พอ เขาคงแปลงเพศและได้ผู้เป็นผัวไปแล้ว เขาไม่อยากเป็นผู้ชายอีกต่อไป เพราะต้องเสียเงินให้ผู้หญิง แต่ไม่มีผู้หญิงคนไหนจะให้เงิน นอกจากร่วมรักหลับนอนมีเซ็กซ์ให้แก่เขา
ถ้ายังมีองคชาตินี้อยู่ เขาคงจะต้องใช้มันระยะนี้กับข้าวหอมไปก่อน จนกว่าจะมีโอกาสหาเงินสักก้อนไปผ่าตัดแปลงเสียง และตัดมันออกเพื่อแปลงสภาพให้เป็นผู้หญิง เมื่อนั้นเขาจะได้มีความสุขแบบไม่ต้องมาแทงใครอีก
******
ร่างกายเปลือยเปล่าของข้าวหอมปรากฏตรงหน้า เรือนหน้าสาวนวลขาวปนแดงระเรื่อรอบแก้ม หลังจากดื่มเบียร์ไปแล้ว เธอเริ่มมึนเมามองตอบเขายิ้มหวาน รอเขาบุกเข้าโจมตีอย่างที่ใจเธอต้องการ
ข้าวหอมนอนราบยกเข่าตั้งชันพลางถ่างขาเปิดออกเล็กน้อย เห็นอ๊อฟคุกเข่าอยู่ข้างหน้า ใช้นิ้วมือถูไถกับร่องสวาทด้านนอก และสอดแหย่ปลุกอารมณ์ข้าวหอมได้ช่วงหนึ่งแล้ว
อ๊อฟผมยาว และร่างเล็กบาง หน้าตาสละสลวย แทบจะเหมือนผู้หญิงทุกอย่าง ต่างตรงที่เขาเป็นผู้ชาย ที่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นผู้หญิง อ๊อฟอยากได้ห้องพักร่วมกับผู้ชาย แต่เกรงว่าจะถูกเพื่อนร่วมห้องข่มขืน เพราะเขาหน้าสวย จึงต้องทำตัวเป็นผู้หญิง มาแบ่งเช่าห้องกับข้าวหอมแทน
“ให้เราช่วยมั๊ย?” ข้าวหอมนึกอยากจะลองใช้ปากกับความเป็นชายของอ๊อฟ ซึ่งเริ่มหน้ามืดแดงก่ำ
“ก็ดีนะ” น้ำเสียงของอ๊อฟกลับมาเป็นผู้ชายอีกครั้ง ด้วยร่างกายกึ่งหญิงที่เขาพยายามเปลี่ยนแปลง
“มาสิ...” ข้าวหอมลุกขึ้นเพื่อก้มหน้าเข้าหาความเป็นชาย ใช้ปากครอบงำของสงวน และกลืนกินอย่างหิวโหย
“ซี๊ด...” สีหน้าของอ๊อฟเริ่มรู้สึกดี ราวกับล่องลอยออกไปไกล แม้ว่าจะถูกข้าวหอมใช้ปาก ดูดชิมลากลิ้นจากโคนจรดปิ่มปลายกระชากใจ และใช้ลิ้นตวัดภายในปาก โลมเลียไอติมเนื้ออุ่นอย่างเอร็ดอร่อย
“กลืนลึกๆ เลยข้าวหอม” อ๊อฟเสียวอย่างลืมตัว จนต้องแอ่นสะโพกขยับกระแทกดันองคชาติเข้าปากข้าวหอมลึกๆ เด็กสาวยังคงคาบความเป็นชายที่อวบยาว และดูดกลืนรูดคลำได้อารมณ์...
******
เบสพยายามหลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีทางดันองคชาต มุดส่วนหัวเข้าร่องสวาทที่คับแน่น มันปิดสนิทแน่น เธอถอยร่างหนีเขาตลอดเวลา สีหน้าเบ้ร้องเจ็บปวด ผลักเขาออกห่าง เบสจึงเข้าไปสวมกอดเฌอแตมเอาไว้ ให้เธอคลายกังวลหายเกร็ง“พี่จะลองดูใหม่นะ” เบสลดกายลงต่ำ เคลื่อนร่างช่วงบนอยู่ระหว่างกลางของหญิงสาว แววตาของเฌอแตมค่อนข้างกังวลกับเบสว่า เขาจะทำอะไรต่อไปเบสจับเรือนขาของเฌอแตมถ่างออกกว้างอีกครั้ง สอดเรือนกายช่วงบน อยู่แก่นกลางกายเธอ ยื่นริมฝีปากเข้าหาปากทางเข้า สอดลิ้นแหย่แลบเลียเพิ่มความเปียกและชุ่มชื้นมากพอ จะปล่อยให้ความเป็นชายของเขาไหลลื่นได้ง่ายขึ้นเด็กสาวเสียวจนตัวสั่น ลดความเจ็บปวดจนถ่างขาได้มากขึ้น และลดอาการเกร็งไปได้ เบสเห็นว่าเฌอแตมกำลังสุขใน เคลิบเคลิ้มจนลืมตัว เขาคลานเข่าเข้าหา จับเด็กสาวพลิกกายนอนตะแคงข้างสวมกอดเธอจากเรือนหลัง และสอดนิ้วแหย่ในร่องสวาทเธอให้เสียวสั่น โดยไม่ทันระวังเขาจะบุกอีก... เบสจ่อองคชาตใกล้ๆ ให้ตรงทางเข้า ออกแรงดันให้ไหลลื่นเข้าไปฝ่าพรหมจรรย์ของเฌอแตม จนเธอไม่ทันระวังตัว“อ๊า!!! ....อ๊า!!!!!” เด็กสาวกรีดร้องลากเสียงหลงดังและยาวมาก จนเสียงของเฌอแตมเล็ดลอดออกไปถึงนอกประ
เมื่อตัวรถหรูไปจอดที่หอพักของเฌอแตม ทำให้โจอี้รู้สึกว่า ถ้าเบสคบกับเฌอแตมคงได้หิ้วไปเอากันที่บ้านคฤหาสน์บ่อยๆ แน่ๆ จึงได้เพียงแค่พูดขู่ไปก่อน“ขอบคุณพี่โจอี้นะคะ ที่มาส่ง” เฌอแตมรักษามารยาทเข้าไว้ แม้ว่าสองมือจะไปกดที่ร่องก้น ปวดระบมเสียวแปลบ เจ็บปวดแสบเสียเธอรู้สึกแย่ หน้าขมวดคิ้ว“ถ้าเธอปากโป้งล่ะก็... ฉันจะเสียบก้นเธอให้เจ็บกว่านี้ ห้ามบอกเบสนะ” โจอี้ขู่กับเฌอแตม ให้เรื่องวันนี้มีแค่เขากับเธอที่รู้กัน“พี่จะไม่ทำร้ายหนู และไม่ห้ามคบกับพี่เบสใช่มั๊ยคะ?” เฌอแตมถามในขณะที่ยังรู้สึกระบมก้นอยู่ เขาต้องมาทำแบบนี้กับเธอรึ ถึงจะยอมให้เพื่อนสนิทคบกัน แบบนี้ก็มีด้วย แววตาเธอมองโจอี้อย่างหวาดกลัว“ถ้าทำให้เบสมันเสียใจล่ะก็... รับรองได้ว่าเธอจะต้องเจ็บปวดกว่านี้แน่ๆ”“หนูสัญญาค่ะพี่โจอี้!!! หนูจะไม่ทำให้พี่เบสเสียใจ” เด็กสาวกลัวจะต้องถูกทำให้เจ็บปวดรูก้นแบบนี้อีก เธอรีบรับปากอย่างหวาดกลัว แล้วมองรถสปอร์ตหรูจากไปอย่างรวดเร็ว...“อย่างน้อยก็ขอบคุณพี่เบสนะคะ ที่ไม่ทำลายพรหมจรรย์หนู” เด็กสาวเสียงอ่อน และเริ่มรู้สึกทุเลาจากปากทวารซึ่งถูกสวนมาอย่างรุนแรงเฌอแตมรู้สึกได้ว่า ร่องก้นกำลังเปียกกับน้ำเหน
ระหว่างที่โจอี้วิ่งไปส่งงานที่มหาลัย เขาเห็นเบสยังคงคุยกับรุ่นน้องคนเดิม ทำไมโจอี้จะไม่รู้จัก เพราะเป็นรุ่นน้องรหัสของเบส ท่าทางจะตีสนิทและพยายามดูใจกับเบสให้สนิทขึ้นไปอีก เขาจะไม่ยอมให้รุ่นน้องคบกับเบสหรอกเพื่อนยังไงก็ห่วงอนาคตเพื่อน มันยังไม่ถึงเวลาที่ดีสำหรับเบสหรอก และอีกอย่างโจอี้ยังไม่อยากยกเบสให้ใครตอนนี้“เอาไว้วันหยุดสุดสัปดาห์นี้ เฌอแตมไปเที่ยวบ้านพี่เบสได้ใช่มั๊ยคะ?” หญิงสาวยิ้มอ่อนๆ เพื่ออยากจะมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่น และลึกซึ้ง เธอพร้อมสำหรับเวลานี้ กับผู้ชายที่ชอบ“อ่อ ได้สิ เคยหรือยัง?” เบสแค่อยากแน่ใจว่า เขาจะได้ของมือหนึ่ง ใหม่แกะกล่อง“แหม พี่เบสล่ะก็... เฌอแตมยังไม่เคยผ่านมือใครเลยนะคะ พูดอะไรมาแบบนั้น เขินนะคะ” เด็กสาวก้มหน้าเขินหน้าแดง มือสั่นจนเหงื่อออก เบสลองจับดูอยากรู้ว่าเธอโกหกหรือเปล่า“นี่ถามจริง เคยมีแฟนหรือเคยได้กันกับใครมาก่อนหรือเปล่า” เบสจริงจังเพราะเขาอยากเปิดบริสุทธิ์ผู้หญิง เหมือนที่โจอี้ชิงเปิดซิงทวารเขา“เอาไว้สุดสัปดาห์ พี่เบสค่อยดูเองล่ะกันค่ะ แต่ถ้าพี่เบสเปิดซิงหนู พี่ต้องรับผิดชอบหนูทั้งชีวิตนะ ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ”เฌอแตมบอกออกไปอย่างมั่นใ
ช่วงเย็นที่หมดเวลาเรียน เบสค่อนข้างกระวนกระวาย กลัวโจอี้จะรู้ว่ามีรุ่นน้องรหัสของตัวเองมาขอเขาเป็นแฟน โจอี้จะโกรธเขาหรือเปล่านะ อีกอย่างเบสก็รับปากกับพ่อแม่แล้วว่าจะไม่มีแฟนผู้หญิงจนกว่าจะฝึกงานปีสามเบสคิดมาตลอดบ่ายจนเรียนไม่รู้เรื่อง เขาไม่เคยนอนกับผู้หญิง นอกจากถูกโจอี้รุกอยู่ตลอดเวลา เขาก็อยากจะใช้ความเป็นชายของตัวเอง ไปเสียบผู้หญิงคนไหนสักคนเหมือนกัน อย่างน้อยตอนนี้ก็มีผู้หญิงเข้ามาหาเขาแล้วเบสรู้สึกว่าไม่อยากพลาดโอกาสนี้ ที่จะได้มีแฟนผู้หญิงกับเขาสักคน อย่างน้อยถุงยางที่เขามี ถ้าโจอี้ไม่ใช้ เขาก็จะเอามาใช้เองกับผู้หญิงสักคน และตอนนี้เขาก็เห็นเฌอแตม มาบอกรักแบบนี้แล้ว มันจะต้องมีโอกาสแบบนั้นบ้างล่ะโจอี้กำลังเดินอยู่ข้างเบส เพราะว่าวันนี้เขาไม่อยากไปเล่นบาสฯ จึงคิดว่าชวนเบสไปดูหนังพักผ่อน และไปหาอะไรอร่อยๆ กินค่อยกลับบ้านไปขุดทองมันๆ กับเบสอย่างเดิม“พี่เบสคะ? หนูขอคุยอีกรอบได้มั๊ยคะ?” เสียงเด็กสาวดังขึ้นข้างหลัง ทำให้โจอี้หันกายกลับไป พบว่ารุ่นน้องยกมือไหว้เขาเป็นมารยาท เบสจึงบอกให้เพื่อนชายรอเขาสักครู่“มีอะไรกับรุ่นน้องรึ? เบส?” โจอี้ถามด้วยสายตาสับสน ราวกับไม่อยากให้อยู่ตามล
ณ บ้านหลังงานของเบส เป็นคฤหาสน์ใหญ่โต พ่อแม่ของเขาอยู่ในฐานะมหาเศรษฐีก็ว่าได้ แต่ไม่ค่อยว่างจะอยู่กับเบส พวกเขารู้จักกับโจอี้ และวางใจให้คบหากัน ดีกว่าจะมีแฟนเป็นผู้หญิงในวัยเรียนเบสไม่ทำให้พ่อแม่รู้สึกเป็นห่วงเรื่องการศึกษา หลังจากมีโจอี้เป็นเพื่อนสนิทในร.ร.ชายล้วนตั้งแต่เรียนม.ปลายแล้ว แต่พ่อแม่ของเบสหารู้ไม่ว่า ลูกชายเขาไม่ได้เป็นผู้ชายปกติธรรมดาทั่วไป เบสเป็นชายรักร่วมเพศ ไม้ป่าเดียวกันกับโจอี้ความมั่งคั่งมั่งมีของพ่อแม่เบส ทำให้โจอี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่เพื่อนสนิทตัวติดกันเท่านั้น เขายังรักและเป็นห่วงเพื่อนคนนี้เสมอ อย่างใจจริงว่า ชีวิตของเบสจะต้องได้ดีแน่ๆ ไม่ว่าจะหน้าตา ฐานะ ความสามารถ การกีฬา การเรียนโจอี้จึงไม่เคยคิดจะทิ้งเพื่อนให้ตกอยู่ในอันตราย แม้กระทั่งในสนามบาสเกตบอล มันเป็นเพียงแค่เกมส์ และโจอี้ตั้งใจจะหาเงินพาเบสเที่ยวอยู่แล้ว ถ้าเกมส์บาสเกตบอลไม่แพ้ไปเสียก่อน เขาไม่อยากถูกตราหน้าว่าเกาะเพื่อนกิน เขารักเบส!เสียงสายน้ำฝักบัวดังไม่ขาดสาย เสียงหัวเราะของชายสองคนกำลังสนุกสนานด้วยกันในห้องน้ำส่วนตัว ภายในห้องนอนของเบส มีอ่างน้ำวน และสายน้ำฝักบัวสาดสายลงมาอย่างเย็นฉ่ำโจอี้
ในรั้วมหาวิทยาลัยชื่อดัง ท่ามกลางนศ.มากมาย เดินผ่านไปมาระหว่างเปลี่ยนคาบเรียน ชายหนุ่มสองคนเป็นเพื่อนรักเพื่อนสนิท ที่ไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลา พวกเขาสนุกสนานตามวัย และกำลังกึ่งวิ่งกึ่งเดิน เพื่อไปเล่นกีฬาด้วยกันเสียงรองเท้าผ้าใบกำลังดังกระทบกับพื้นโรงยิมในร่ม และเสียงสนั่นของลูกบาสเกตบอล ตบกระทบกับพื้นเป็นจังหวะสลับกับรองเท้าผ้าใบตลอดเวลาเบส เลี้ยงลูกบาสในมือ ระหว่างวิ่งอยู่บนสนาม เสื้อกล้ามสีขาวคาดสีคาด และกางเกงสีขาวลายเดียวกัน พลิ้วไหวระหว่างเขากำลังวิ่งอยู่ในสนาม รอบด้านถูกล้อมด้วยฝ่ายตรงข้าม หวังจะมายื้อแย่งลูกบาสจากมือเขา“ส่งมา ทางนี้!!!” เพื่อนรักตะโกนเรียก หวังให้เบสโยนลูกบาสให้แก่เขา ตั้งใจจะโยนเข้าห่วงซึ่งสูงกว่าสามเมตรลูกบาสถูกโยนแต่ไกล เพื่อให้ถึงมือโจอี้ แต่พลาดไปเพราะอีกฝ่ายวิ่งเข้ามาขวาง แย่งบอลออกจากมือโจอี้ ระหว่างลอยกลางอากาศ แววตาชายหนุ่มมองอย่างสุดเซ็ง แล้วออกวิ่งเพื่อหวังจะไปขวางและแย่งลูกบอลมาอีกครั้ง“น่าจะโยนสูงกว่านี้” โจอี้วิ่งเข้ามาสมทบกับเบส บ่นอุบอิบ และคิดแผนหาทางแย่งลูกบาสในเกมส์นี้ใหม่“โดนขวางตั้งสามคน ใครจะโยนสูงกว่านั้นได้ มันก็แย่งไปได้พอดี” เบ