Share

จ๊ะเอ๋ยัยแบน

Author: light sky
last update Last Updated: 2025-10-03 18:40:54

1

จ๊ะเอ๋ยัยแบน

ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเมื่อคืนฉันสามารถขับรถกลับมาบ้านได้อย่างปล่อยภัยไร้รอยขีดข่วน ถึงฉันจะไม่รู้ว่าตัวเองเมาหนักขนาดไหน แต่ไอ้อาการปวดหัวจวนจะระเบิดแบบนี้ก็คงจะหนักเอาการอยู่แหละ

ฉันลุกขึ้นพยายามพาร่างของตัวเองไปยังห้องน้ำอย่างยากลำบาก หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ดูเหมือนว่าสติของฉันจะเริ่มกลับคืนมา ภาพความทรงจำเมื่อคืนก็ไหลย้อนมาเป็นฉากๆ

ฉันจำได้ว่าหลังจากเรียนเสร็จฉันก็ได้รับโทรศัพท์จากคุณพ่อก่อนจะทะเลาะกันอย่างรุนแรง ฉันที่ในตอนนั้นรู้สึกเสียใจและเสียความรู้สึกก็เลยเลือกที่จะหาที่เงียบๆ นั่งคนเดียว

ที่ที่ฉันเลือกนั้นเป็นร้านชิลบาร์ที่พอได้ยินชื่อผ่านหูมาบ้าง จำได้ว่าฉันสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มานั่งจิบอย่างเหม่อลอย รู้แค่ว่าตอนนั้นไม่อยากจะกลับบ้าน จนเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ ฉันเริ่มมึนหัวก็เลยตั้งใจว่าจะไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

แต่ก็นั่นแหละพอเท้าถึงพื้นปุ๊บร่างของฉันก็ร่วงปั๊บ แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ตั้งสติลุกขึ้นใหม่อีกครั้ง เดินเป๋ไปเป๋มาจะล้มแหล่มิล้มแหล่ก่อนจะสะดุดเข้ากับส้นสูงของตัวเอง

“กรี๊ด!!!”

ฉันจำได้แล้ว! ไอ้ลามกนั่น...มัน...ไอ้บ้านั่นมันมาจับหน้าอกฉัน! ฉันฟุบหน้าลงกับหมอน กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง ทำผิดแล้วไม่พูดขอโทษสักคำ แถมยังหนีเข้าห้องน้ำชายไปอีก ถ้าฉันไม่เมาอย่าหวังเลยว่าฉันจะทำแค่ชี้หน้ามัน ฮือออ!

เจอกันเมื่อไหร่แม่จับทำอาจารย์ใหญ่แน่!

ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!

“คุณหนูคะ ป้าเข้าไปได้ไหมคะ”

“ค่า” พูดเสร็จร่างป้าสายใจสตรีวัยเกือบหกสิบก็เปิดประตูเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก “มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมทำหน้าแบบนั้น...”

“คุณท่านให้มาตามคุณหนูค่ะ”

“ไม่ไปค่ะ!”

“โธ่ คุณหนูคะไปเถอะค่ะ คุณท่านเป็นห่วงคุณหนูมากนะคะ” ป้าสายใจพูดเสียงอ่อน แววตาฝ้าฟางนั่นฉายแววขอร้องอยู่ในที

“ก็ได้ค่ะ พิมพ์เห็นแก่ป้าสายใจนะคะ”

ฉันบอกก่อนจะลุกขึ้นไปกอดป้าสายใจแน่นๆ แล้วเดินออกจากห้องนอนของตัวเองไปยังห้องทำงานที่เต็มไปด้วยหนังสือเรียงกันขึ้นไปเป็นชั้น

ก๊อก!...

“เข้ามา” ไม่ทันที่จะได้เคาะประตูเป็นครั้งที่สอง เสียงเข้มแฝงไปด้วยอำนาจนั่นก็ดังขัดขึ้นมาเสียก่อนราวกับว่ากำลังคอยอยู่ก่อนแล้ว

“สวัสดีค่ะ” ฉันกล่าวเสียงเรียบยกมือขึ้นไหว้คนเป็นพ่อ ก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาสีดำหม่น แทนที่จะดูขลังกลับแลดูหดหู่ชะมัด

“เมื่อคืนไปไหนมา”

“ร้านเหล้าค่ะ”

“คนเดียว?”

“ค่ะ”

คุณพ่อถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่กับท่าทีมึนตึงของฉัน ร่างท้วมวัยห้าสิบห้าปีนั่นเดินมาพร้อมกับแฟ้มสีดำก่อนจะวางลงบนโต๊ะแก้วตรงหน้าฉัน

“อะไรคะ” ฉันถามพลางปรายตามองแฟ้มตรงหน้า แม้จะรู้คำตอบอยู่ในใจแล้วก็เถอะ

“คนที่ลูกต้องคบหา”

“ไม่ค่ะ พิมพ์จะไม่ยอมให้คุณพ่อมาบังคับพิมพ์ได้อีกแล้ว” ฉันพูดเสียงแข็ง เงยหน้าสบตาคุณพ่ออย่างไม่เกรงกลัว

“ลูกต้องยอม เพราะพ่อจะไม่ยอมเสียผลประโยชน์เหมือนกับคราวตายูอีกแล้ว”

“ที่พิมพ์ยอมเรื่องของยูเพราะพิมพ์ชอบเขาจริงๆ พิมพ์พยายามรั้งเขาไว้ทุกอย่างแล้วแต่...” ฉันเว้นวรรคกลืนคำสะอึกลงคอ “แต่ในเมื่อผู้ชายเขาไม่ยอมพิมพ์ก็ต้องปล่อย”

“พ่อรู้ว่าลูกเสียใจ แต่ครั้งนี้พ่อขอได้ไหม” คุณพ่อเอ่ยด้วยน้ำเสียงเว้าวอน

“ไม่ค่ะ!”

“พิมพ์!”

“ถ้าคุณพ่อยังดื้อดึงพิมพ์จะย้ายไปอยู่ข้างนอก!” ฉันว่าเสียงท้าทาย และแน่นอนว่ามันไม่ใช่คำขู่ของหญิงสาววัยยี่สิบสองที่พ่อไม่รักเท่านั้น เพราะฉันจะทำมันจริงๆ

“ยังไงลูกก็ต้องไปดูตัว!” คุณพ่อพูดเสียงเข้มกว่าตอบกลับมา

“คุณพ่อดื้อเองนะคะ” ฉันว่าทิ้งท้ายก่อนจะเดินออกมาจากห้องทำงานของคุณพ่อด้วยอารมณ์ที่โกรธขึ้งปนน้อยใจ

พอกันที!

ฉันเก็บเสื้อผ้าลากกระเป๋าลงบันไดอย่างทุลักทุเลท่ามกลางเสียงห้ามปรามของป้าสายใจ ฉันก็ไม่อยากจะทำแบบนี้หรอกนะแต่ฉันทนมามากพอแล้ว มากเสียจนถ้าต้องอยู่บ้านนี้อีกคืนฉันต้องกลั้นใจตายแน่ๆ

“คุณหนูอย่าทำแบบนี้เลยนะคะ”

“ให้พิมพ์ไปเถอะนะคะ พิมพ์ยอมให้คุณพ่อเข้ามาบงการชีวิตพิมพ์ไม่ไหวอีกต่อไปแล้วค่ะ ขนาดคนที่จะอยู่กับพิมพ์ไปจนตายพิมพ์ยังเลือกเองไม่ได้เลย”

ฉันว่าอย่างอัดอั้นรู้สึกว่าน้ำตามันจะไหลออกมาเสียให้ได้ ป้าสายใจเป็นแม่นมของฉันเป็นคนเลี้ยงดูฉันมา เป็นคนที่ให้ความรักความเอาใจใส่มากกว่าพ่อแม่แท้ๆ ของฉันเสียอีก

“คุณหนูครับ!”

การ์ดราวห้าคนเดินเข้ามาล้อมฉันไว้ทันทีที่ฉันกำลังจะก้าวออกจากบ้าน คนพวกนี้คงได้รับคำสั่งมาจากคุณพ่อสินะ คิดจะห้ามด้วยวิธีนี้งั้นเหรอ!

“ถ้าเข้ามาแล้วทำให้ฉันมีรอยขีดข่วน คุณพ่อเอาพวกนายตายแน่” ฉันขู่ฟ่อทั้งๆ ที่ไม่รู้ว่าฉันจะมีค่าพอให้คุณพ่อทำอย่างนั้นได้หรือเปล่า

ส้นสูงของฉันเดินไปทีละก้าวขณะที่มีพวกการ์ดล้อมตัวอยู่ไม่ห่างแต่ก็ยังไม่มีใครเข้ามาประชิดตัว ฉันใช้โอกาสที่พวกการ์ดกำลังมองหน้ากันเลิ่กลั่กรีบวิ่งฝ่าวงล้อมเท่าที่ร่างกายจะเอื้ออำนวยได้จนมาถึงรถมินิคูเปอร์ของฉันที่จอดรออยู่

“จับตัวคุณหนูเอาไว้” เสียงกัมปนาทดังขึ้นมาจากคนเป็นพ่อที่กำลังตะโกนสั่งการ์ด

ด้วยวินาทีฉุกเฉินฉันรีบถอดส้นสูงก่อนจะเขวี้ยงใส่การ์ดคนหนึ่งที่ทำทีจะพุ่งเข้ามาและเป็นโชคดีเป็นอย่างมากที่มันดันแสกกลางปักเข้าหน้าไปเต็มๆ

ฉันรีบโยนกระเป๋าใส่รถก่อนจะถอดส้นสูงอีกข้างขว้างตามเข้าไปติดๆ คราวนี้ฉันไม่มีเวลามาดูผลงานตัวเองรีบแทรกตัวเข้าไปในรถประจำที่คนขับแล้วออกตัวทันที ยังดีที่ฉันมีรีโมตคอนโทรลประตูทำให้ฉันไม่ต้องพึ่งลุงยามที่กำลังเข้ามาขัดขวางตอนนี้

“ระวังตัวด้วยสิคะ เดี๋ยวก็โดนรถชนเอาหรอกค่ะ” ฉันเลื่อนกระจกลงแล้วชะโงกหน้าหันไปพูดกับลุงยามที่นั่งลงไปกองอยู่กับพื้นอย่างเหนื่อยหอบด้วยรอยยิ้มร่า

อ่า...ในที่สุดฉันก็ออกจากบ้านมาจนได้

ฉันนั่งฮัมเพลงโยกตัวไปมาท่ามกลางถนนที่มีรถราแน่นขนัด แต่ฉันกลับไม่รำคาญเหมือนทุกทีอีกแล้วเพราะอิสระกำลังรอฉันอยู่ข้างหน้านั่นไง

เกือบสองชั่วโมงต่อมารถของฉันก็เข้าจอดที่ลานจอดรถของคอนโดแห่งหนึ่งย่านมหาวิทยาลัย ไม่มีใครมีคีย์การ์ดห้องของฉันนอกจากตัวฉันเอง และนั่นหมายถึงคุณพ่อจะส่งใครมาบุกลักพาตัวฉันกลับไปบ้านไม่ได้แน่นอน อย่างน้อยก็ช่วงเดือนถึงสองเดือนนี้อะนะ

ฉันก้าวลงจากรถก่อนจะเดินดุ่มๆ เข้าคอนโดไปแล้วรีบเร่งฝีเท้าเมื่อเห็นว่าลิฟต์กำลังเปิดพอดีตามด้วยร่างของชายตัวสูงคนหนึ่งที่เดินเข้าไป

“รอด้วยค่ะ” ฉันบอกเสียงเกือบตะโกน

ประตูลิฟต์เปิดรออยู่ในขณะที่ฉันยังก้าวเท้าเร็วๆ ตามไปก่อนจะชะงักเมื่อผู้ชายที่ฉันเจอดันเป็นคนเดียวกันกับที่จับหน้าอกฉัน

“ไอ้บ้าลามก” ฉันชี้หน้าด่าเขาอีกครั้งพลางก้าวถอยหลังออกจากตัวลิฟต์ไปด้วย

หมอนี่หรี่ตามองฉันเล็กน้อยก่อนจะคลี่ยิ้มยียวน สายตาของเขาละจากหน้าฉันแล้วลากต่ำไปเรื่อยๆ “อ๋อ! นึกว่าใครที่แท้ก็คุณนมแบนนั่นเอง”

“ไอ้...ไอ้...” ฉันเอ่ยปากสั่น เอามือไขว้กันวางบนไหล่อย่างปกปิดพื้นที่ส่วนตัวให้พ้นจากสายตาไอ้บ้าตรงหน้าที่ตอนนี้ยังจ้องหน้าอกฉันไม่เลิก

“โอ๊ยนี่คุณ ผมให้เวลาคุณไปคิดคำด่ามาว่าผมมาตั้งคืนนึง นี่ยังคิดไม่ออก? กากว่ะ!”

กากงั้นเหรอ!

ไอ้บ้านี่มันด่าฉันว่าเป็นเศษเหลือเดนที่ไม่มีความดีงั้นเหรอ! ที่ฉันด่าเขาไม่ออกเพราะไม่รู้ว่าจะสรรหาคำไหนมาครอบคลุมนิสัยแย่ๆ ของเขาต่างหากล่ะ

“ไอ้บ้า!”

“อุปส์ วะฮ่าๆๆๆ” ทันทีที่ฉันด่าออกไปนายนี่ก็ปิดปากอย่างกลั้นขำก่อนจะทนไม่ได้โพล่งหัวเราะขึ้นมาพลางมองหน้าฉันอย่างกับเป็นตัวตลก

“หัวเราะบ้าอะไร!”

“ก็หัวเราะคุณนะสิ นี่คุณรู้ไหม ว่าเพื่อนผมด่าผมว่าไอ้เหี้ย ไอ้สัตว์นรก ไอ้เนรคุณ ก็ยังไม่สะเทือนถึงรูขุมขนผมเลย แล้วนี่คุณด่าผมว่าบ้า? โคตรจี้เลยว่ะแม่ง”

= [] =!

ติ๊ดดดดด

“ลิฟต์ร้องแล้วอะคุณ คุณไปขึ้นตัวอื่นได้ไหม บอกตามตรงผมนะไม่อยากขึ้นลิฟต์กับคุณเลย ไปนะ” นายนั่นพูดคนเดียวอย่างไม่ฟังฉันสักนิด

“ฉันก็ไม่อยากขึ้นลิฟต์ตัวเดียวกับนายเหมือนกัน!”

ฉันว่าเสียงขุ่น ทว่าก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดลงนายนั่นก็มองฉันด้วยสายตาวิบวับแล้วยิ้มโชว์ฟันแถมยังยกมือขึ้นโบกมือลาฉันด้วยท่าทางกวนโอ๊ยที่สุด

“บ๊ายยยย~~อ้อ! เดี๋ยวนี้เขาฮิตไม่ใส่รองเท้ากันแล้วเหรอคุณ ฮ่าๆๆ”

ฉันเข้าห้องของตัวเองด้วยอารมณ์หงุดหงิดที่ยังค้างคาอยู่หลังจากเจอกับหมอนั่น ไอ้ผู้ชายบ้ากาม! ฉันก้าวเท้าฉับๆ ไปทางห้องครัวเพื่อหาน้ำดื่มดับอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน จะว่าไปนายนั่นเป็นผู้ชายคนแรกเลยนะที่ฉันด่าไป

ปกติฉันเคยด่าใครที่ไหนล่ะ

หลังจากที่อารมณ์ตัวเองเริ่มคงที่ ฉันเลยเช็กของภายในห้องว่ายังขาดเหลืออะไรบ้าง ยังดีที่ฉันไม่ใช่คนมีเวลาไปช็อปปิงตามประสาผู้หญิงมากนัก เงินในบัญชีที่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่โอนเข้ามาให้ทุกเดือนเลยยังพอเหลือจ่ายประทังชีวิตช่วงนี้ไปได้สักระยะหนึ่ง

ตึง! ตึง! ตึง!

ฉันขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อย่างเท้าเข้ามาห้องนอนแล้วได้ยินเสียงตึงตังดังมาจากผนังอีกด้าน ฉันย่นคิ้ว ปกติคอนโดนี้มันเป็นห้องเก็บเสียงไม่ใช่เหรอแล้วทำไมถึงยังมีเสียงเล็ดลอดออกมาได้ล่ะ หรือว่าอาจจะเป็นเพราะห้องอยู่ติดกัน ฉันพยักหน้าให้กับความคิดของตัวเองก่อนจะสำรวจของที่ขาดต่อไป

ถ้าไม่ติดว่าผ่านไปสิบนาทีแล้วเสียงนั้นยังดังไม่หยุด

ฉันวางสมุดโน้ตลงบนโต๊ะก่อนจะตัดสินใจเดินออกจากห้องเพื่อไปเจอกับเจ้าของห้อง อย่างน้อยก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่องเพราะบางเวลาฉันก็ต้องใช้สมาธิในการอ่านหนังสือเป็นอย่างมาก

กริ๊ง~~

ฉันกดกริ่งที่หน้าห้อง รออยู่สักพักก็มีคนมาเปิดประตูให้ ฉันชะงักไปเล็กน้อยเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้านั้นเป็นผู้หญิงรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน แต่สภาพเธอนั้นไม่ค่อยเรียบร้อยนัก ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแค่ผ้าเช็ดตัวพันอยู่แค่ผืนเดียวเท่านั้น ผมเผ้าก็ยุ่งเหยิงราวกับไปออกรบมา

อย่าบอกนะว่าเสียงนั่น...โอ๊ย! ทำไมถึงนึกไม่ออกตั้งแต่ทีแรก

“พี่วางคีย์การ์ดคืนไว้บนโต๊ะนะ” ก่อนที่ฉันจะพูดอะไรออกไปก็มีเสียงทุ้มดังขึ้นขัดเสียก่อน ตามมาด้วยร่างของเจ้าของเสียงที่อยู่ในเสื้อผ้าครบถ้วนแต่กระเซอะกระเซิงไม่แพ้กัน

ไอ้บ้าลามกนั่น!!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ตึกตัก...

      10ตึกตัก...ตึกตัก... “คุณพิมพ์คะ”“อีกแล้วเหรอคะ”ฉันร้องถามด้วยประโยคเดิมซ้ำๆ ทุกวันเมื่อทันทีที่ฉันย่างกรายมาในคอนโดหลังจากเลิกเรียนก็จะมีเสียงจากพนักงานเอ่ยเรียกชื่อฉันเอาไว้ฉันกลอกตาอย่างเบื่อหน่ายสาวเท้าไปยังล็อบบี้ก่อนจะรับดอกไม้กุหลาบแบบเดิมที่ขยันส่งมาทุกวันอย่างรำคาญ การ์ดใบเล็กที่แนบไว้ถูกฉันเพิกเฉยอีกครั้งเมื่อมันมีแต่ข้อความชวนเลี่ยนจนฉันตัดสินใจว่าจะไม่เปิดอ่านมันให้เสียสายตาอีก“ไม่ได้บอกเขาเหรอคะว่าไม่ต้องส่งมาอีก”“บอกค่ะ”“แล้วได้บอกเขาไหมคะว่าดอกไม้ทุกช่อที่ส่งมานั้นพิมพ์โยนใส่ถังขยะทุกครั้ง”“บอกค่ะ”ผู้ชายดื้อด้าน...ฉันถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วจัดการทิ้งช่อดอกไม้ลงถังขยะอีกหนอย่างไม่รู้สึกเสียดายในความสวยของมันสักนิด‘พ่อยอมลูกแล้ว...แต่เหมือนว่าฝั่งนั้นเขาจะชอบลูกจริงๆ’คำพูดของบิดายังคงวนเวียนอยู่ในสมองเมื่อตอนที่ฉันต่อสายไปถามท่านว่าจู่ๆ คนที่ชื่อแทนอะไรนี่โผล่มาได้ยังไงกัน และคำตอบที่ได้มาทำให้ฉันเบ้ปาก ชอบฉ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ชัวร์ป้าบ!

    9ชัวร์ป้าบ!“ขอบคุณนะคุณที่มาส่ง” นายตุ่นพูดขึ้นเมื่อฉันพาเขามาเอารถที่คณะอีกครั้ง พอถามว่าทำไมไม่ขับรถของตัวเองไปตั้งแต่ทีแรกเขาก็ตอบกลับมาว่า‘เดี๋ยวคุณขับรถหนีผมไง กันไว้ก่อน’หนักใจกับผู้ชายคนนี้จริงๆ ...“ไม่เป็นไร” ฉันปรายตามองเขาแล้วบอกเสียงราบเรียบ ก่อนจะออกรถอีกครั้งถ้านายนั่นไม่วิ่งตามแล้วใช้มือเคาะท้ายรถฉันอะนะ“คุณๆ”“มีอะไร” ฉันเลื่อนกระจกรถลงก่อนจะถาม“ขอเบอร์ๆ” นายนั่นว่าพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเลข“เพื่อ?” ฉันขมวดคิ้วจนย่น เงยหน้าขึ้นมองร่างสูงอย่างสงสัยว่าเขาจะมาขอเบอร์ฉันทำไม จะว่าเกิดพิศวาสก็ไม่ใช่อีก ใครเขาพ่นคำกวนเบื้องล่างทุกสองนาทีแบบนี้กับคนที่ชอบกันล่ะ“เผื่อได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมไง”“นายจะตามเรื่องต่อเหรอ ฉันว่าไม่ต้องหรอก เสียเวลาเปล่าๆ”“ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วไงคุณ อีกอย่างมันก็เกิดที่คณะผมด้วย ถ้าเกิดคนทำมันไม่ได้เจาะจงที่คุณขึ้นมาล่ะ บางทีพวกมันอาจจะเล็งเด็กคณะผมอยู่ก็ได้นะ”“นายนี่ดูรักคณะจังนะ”“คณะใครใครก็รักไหมคุณ พูดแปลกๆ” นายตุ่นส่ายหน้าเอือมๆ “ตกลงจะให้ไหมเนี่ยเบอร์น่ะ หรือต้องไปถูเอาตามต้นไม้เหมือนขอหวย?”“จะไม่ให้เพราะปากแบบนี้ไง คนอะไรปากร้ายชะมั

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ว่างมั้ยคุณ?

    8 ว่างไหมคุณ? วันนี้เป็นอีกวันที่ฉันกลับมาอ่านหนังสือกับเพื่อนกลุ่มเดิม บรรยากาศมันค่อนข้างจะดีกว่าที่ฉันคิดไว้มากพอสมควรเลยล่ะ ความอึดอัดที่ฉันมีต่อยูเริ่มน้อยลงอาจจะเป็นเพราะเราแต่ละคนต่างสนใจกับตำราเรียนจนลืมคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาก็เป็นได้ แต่ในทางกลับกันวันใดที่มีพี่คิมมาช่วยติวด้วยฉันกลับรู้สึกอึดอัดมากขึ้นทุกที ฉันสามารถสัมผัสถึงสายตาที่เขาคอยจ้องมองฉันอยู่เสมอแม้ว่าฉันจะไม่ได้มองหรือคุยกับเขาก็ตาม เหมือนอย่างวันนี้ “น้องพิมพ์” ฉันหยุดกึกทันทีเมื่อเจอพี่คิมยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ฉันเงยหน้าไปมองเขาด้วยใบหน้าเรียบเฉยแม้นัยน์ตาจะสั่นไหวไปด้วยความตื่นตระหนกก็ตาม “มีอะไรเหรอคะ” ฉันถามพลางเหลือบมองซ้ายขวาอย่างหาทางเอาตัวรอด “พิมพ์ยังไม่เลิกหายกลัวพี่เหรอครับ” “....” “พี่ไม่ได้คิดร้ายกับพิมพ์จริงๆ นะคะ” “ค่ะ” ฉันรับคำอย่างขอไปที ตั้งใจว่าจะเดินเลี่ยงแต่ร่างสูงกลับเดินตามมาขวางทำให้ฉันต้องร่นเท้าถอยหลังทันที “พี่คิมมีอะไรก็บอกมาตรงๆ ดีกว่าค่ะ” “พี่...พี่ชอบน้องพิมพ์” “...” “น้องพิมพ์ไม่ได้ตกใจเลยเหรอครับ” “นิดหนึ่ง...มั้งคะ” ฉันตอบออกไปด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ไม่ได้ยินดียินร้ายอ

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   คนร้าย

    7คนร้ายฉันก้าวฉับๆ เดินเข้ามาในบ้านของตัวเองที่ยังคงเงียบเชียบแม้ว่าจะมีการ์ดและแม่บ้านอยู่กันหลายคนก็ตาม คนแรกที่ฉันเจอหน้าก็คือป้าสายใจที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินออกมาจากห้องครัวมาหาฉันด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มแสดงออกถึงความดีใจแม้ว่าฉันจะออกจากบ้านนี้ไปยังไม่ถึงสองอาทิตย์ดีก็ตาม“คุณหนูของป้า จะกลับมาอยู่บ้านแล้วใช่ไหมคะ”“เปล่าหรอกค่ะ” พูดเสร็จป้าสายใจก็หน้าสลดขึ้นมาอย่างผิดหวัง ฉันก็ได้แต่ลูบหลังท่านอย่างปลอบประโลม “คุณพ่ออยู่ไหมคะ”“โรงพยาบาลโทรตามให้ไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะค่ะ ส่วนคุณผู้หญิงก็ไปทำงานเมื่อเช้านี่เอง”ทางสะดวก...“งั้นเดี๋ยวพิมพ์ขึ้นไปเอาของบนห้องก่อนนะคะ”“คุณหนูจะรับอะไรไหมคะ ของว่างดีไหม”“ไม่ล่ะค่ะ พิมพ์กะว่าจะเข้ามาเอาของแป๊บเดียวเดี๋ยวก็กลับแล้วค่ะ” ฉันบอกแล้วคลี่ยิ้มให้ป้าสายใจก่อนจะพาตัวเองขึ้นมาบันไดมายังชั้นสองและแทนที่ฉันจะเลี้ยวซ้ายไปยังห้องนอนของตัวเอง ฉันกลับตัดสินใจเลี้ยวขวาเดินดุ่มไปยังห้องทำงานของคุณพ่อ โชคดีที่ประตูไม่ล็อกทำให้ฉันสามารถเข้าไปข้างในได้ก่อนจะกวาดมองไปทั่วห้องอย่างนึกคิดถึง ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าช่วงเวลาที่ผ่านมาบางครั้งฉันมักจะคิดถึงคุณพ่อคุณแม

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   หลง...?

    6หลง...?“ขอบใจนะแบงค์ที่มารับ” ฉันว่าขึ้นเมื่อพาตัวเองมาอยู่ในรถเก๋งของเพื่อนที่ฉันโทรวานให้มารับให้ไปเรียนด้วยกัน“ไม่เป็นไรหรอก แล้วรถอะเรียกช่างมาแล้วใช่ไหม”“เรียกแล้ว เดี๋ยวตอนเย็นก็คงได้แล้วแหละ”“อ่าหะ”“ช่วงนี้อ่านหนังสือที่ไหนเหรอ ว่างๆ มาอ่านด้วยกันสิ”“พอดียุ่งๆ น่ะ ถ้าว่างวันไหนค่อยโทรไปนะ”แล้วภายในรถก็ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมามีเพียงเสียงคนพูดข่าวในวิทยุช่วงเช้าเท่านั้นที่ไม่ทำให้บรรยากาศเงียบจนเกินไป ใช้เวลาไม่นานนักรถของแบงค์ก็ขับมาจอดที่หน้าตึกเรียน“พิมพ์ขึ้นไปเรียนก่อน เดี๋ยวเราเอารถไปจอด”“ขอบใจนะ”ฉันกล่าวอีกครั้งก่อนจะเดินลงมาจากรถ เวลาเหลืออีกประมาณยี่สิบนาทีกว่าจะถึงแปดโมงฉันจึงเดินไปหาอะไรกินที่เซเว่นก่อนจะขึ้นไปยังห้องเรียน“คุณครับ” ฉันชะงักเท้าเมื่อมีผู้ชายในชุดกาวน์มายืนอยู่ตรงหน้า ด้วยความที่ดูจากเครื่องแต่งกายแล้วฉันจึงยกมือไหว้เขาอย่างเสียไม่ได้ถึงเขาจะเป็นผู้ชายเมื่อคืนก็เถอะ“เมื่อคืนผมไม่ได้มีเจตนาจะทำอะไรคุณนะครับ”“ค่ะ” ฉันรับคำอย่างขอไปที ถึงเขาจะเป็นรุ่นพี่แต่การที่ไปโผล่คณะของคนอื่นกลางดึกมันเป็นสิ่งที่น่าแปลกไม่ใช่หรือไง“ที่ผมตามคุณไปเพราะผมเห็

  • Get out! ว่าที่คุณหมอตัวร้ายกับนายวิศวะหน้าโฉด   ไปส่งปะล่ะ

    5ไปส่งปะล่ะ?เสียงแตรรถที่ดังขึ้นทำให้ฉันละสายตาจากโทรศัพท์เงยหน้าขึ้นไปมองผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในรถ เขาส่งยิ้มให้มาให้ฉันอย่างจริงใจในขณะที่ฉันทำเพียงแค่หรี่ตาเท่านั้น“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ”“ไม่ค่ะ” ฉันตอบแทบจะทันทีหลังจากนั้นก็ก้มหน้ากดหาเลขอู่รถแถวนี้ “สวัสดีค่ะพอดีรถยางแบนน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าพอจะสะดวกมาเปลี่ยนให้ไหมคะที่ลานจอดรถตึก X คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.K ค่ะ”“ขอโทษด้วยนะครับพอดีว่าช่างของเราเลิกงานกันหมดแล้ว ถ้ายังไงขอเป็นพรุ่งนี้เช้าได้ไหมครับ” ฉันกัดริมฝีปากอย่างครุ่นคิดกับคำตอบที่ได้รับ บางทีฉันอาจจะไปขอนอนกับเพื่อนที่หอพักของนักศึกษาแพทย์ในมหาวิทยาลัยก็เป็นได้“ได้ค่ะ” หลังจากนั้นฉันก็บอกรายละเอียดข้อมูลไปก่อนจะกดวางสายฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจ้องมองอยู่ก่อนจะชะงักเล็กน้อยเมื่อตอนเหลือบตาขึ้นไปมองก็เห็นผู้ชายคนเดิมยังคงนั่งอยู่ในรถ คราวนี้ฉันรู้สึกถึงความไม่ชอบมาพากลสักเท่าไหร่นัก พอมองซ้ายมองขวาก็รับรู้ถึงความเปลี่ยววังเวงขึ้นมา“คุณไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมมาดีแค่เห็นว่ารถคุณยางแบนก็เท่านั้น”“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันโทรเรียกช่างแล้ว” ฉันตอบอย่างขอไปที“ป่านนี้แล้วยังมีอู่เปิดอีกเหรอ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status