Home / โรแมนติก / Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ / #พี่หลามคนจริง EP.5 ภูมิแพ้ (เธอ) (2) จบตอน

Share

#พี่หลามคนจริง EP.5 ภูมิแพ้ (เธอ) (2) จบตอน

last update Last Updated: 2025-02-21 04:28:04

ย้อนไปในเวลาเดียวกัน...

[พาร์ท : ฉลามดุ]

ผมแทบตาสว่างเมื่อนิ้งโทรมา และตาสว่างเข้าไปอีกเมื่อเธอพูดประโยคนี้

[นิ้งรอฉลามนานแล้วนะ] ผมเหมือนหูฝาด ก็เลยหรี่ตาฟังเธอเงียบๆ โดยเลือกที่จะไม่พูดอะไรออกมาแทน

“...”

[นึกว่าจะตื่นแล้ว รีบมาหาได้มั้ยคะ]

ผมเด้งตัวขึ้นจากเตียงทันที หัวใจเต้นโครมครามไปหมดเมื่อเพิ่งรู้ว่าตัวเองหูไม่ฝาด นิ้งเป็นคนพูดจริงๆ ว่ะ เธอแทนตัวเองว่านิ้ง แถมยังพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนแบบเด็กๆ ด้วย

วันนี้มันวันดีอะไรวะ กูตายแล้วเหรอ แต่ทำไมเห็นสวรรค์ชัดจังเลย

“... ได้ดิ” ผมสะกดอารมณ์แล้วพยายามควบคุมเสียงให้นิ่งที่สุด ไม่อยากตื่นตูมไปเอง เธออาจจะแค่พูดเฉยๆ ไม่ได้คิดอะไรก็ได้ “เดี๋ยวจะรีบออกไป”

[อะ... อื้อ]

“ห้ามหนีไปไหนนะ” แต่พอเห็นว่าเธอครางรับสั้นๆ ผมก็รู้สึกโลภขึ้นมา ก็เลยมีข้อต่อรองนิดหน่อย

[อื้อ]

“ถ้าหนีเราจะไปตามถึงหน้ามหาลัยเลย”

[อะ... อื้อ! รีบมาเลยนะ] เสียงเธอแกว่งไปนิดๆ ด้วยว่ะ [ถ้าไม่รีบมานิ้งก็จะไม่รอแล้ว]

“...”

[จะไม่รอจริงๆ นะ]

“รู้แล้วครับผม! จะรีบออกไปเดี๋ยวนี้ เลิกทำเสียงแบบนั้น” ผมแทบจะสบถออกมา ใจสั่นไปหมดแล้วตอนนี้ โคตรชอบเสียงแบบนี้ของเธอ แต่ในขณะเดียวกันพอคิดว่าเธอจะไปทำเสียงหวานแบบนี้กับคนอื่นก็หงุดหงิดลึกๆ

[ทะ... ทำไมอ่ะ ไม่ชอบเหรอ] แต่เพราะเสียงผมมันดูหัวเสียไปหน่อยมั้ง เธอก็เลยถามกลับมาด้วยน้ำเสียงอ่อนลง แถมยังติดอ่างเหมือนจะผิดหวังหรืออะไรสักอย่าง แต่ผมแม่งโคตรอยากจะบอกเลยว่ามันตรงกันข้าม

ผมจะบ้า

“ชอบดิ”

[...]

“แล้วก็อยากให้เธอพูดแบบนี้แค่กับเราคนเดียวด้วย” ผมพูดไปตามตรง ไม่รู้หรอกว่าเธอจะไปไม่เป็นหรืออะไรยังไง ผมก็แค่ไม่อยากโกหกว่าตัวเองรู้สึกยังไงก็แค่นั้น “แต่ได้ยินแล้วไม่โอเคไง รู้ปะ... เรากลัวว่าเราจะไม่ทำแค่ไปส่งเธอเฉยๆ”

[หะ... หา?]

“เรากลัวจะเผลอหน้ามืด ก็แบบว่า... ฮะๆ” ผมพยายามเว้นไว้ในฐานที่เข้าใจแล้วนะ แล้วปลายสายก็เงียบไปพักหนึ่ง ก่อนที่นิ้งจะเลือกที่จะตัดบทผมเสียงแกว่งๆ เหมือนเธอจะเขินมากจนพูดกับผมต่อไม่ได้ อันนี้ผมคิดเอาเอง

[วะ... วางแล้วนะ รีบมานะ]

“ได้ เจอกัน” ผมไม่ซีเรียสหรอกถ้าเธอจะวางสายตอนนี้ เพราะอีกเดี๋ยวก็ต้องเจอหน้ากันอยู่ดี ผมรอจนเธอกดวางสายไป ก่อนที่จะเอามือมาปิดหน้าตัวเองแล้วทึ้งหัวอย่างแรง

รุนแรงชิบหาย... นิ้งนี่เป็นบุคคลอันตรายต่อหัวใจผมจริงๆ ว่ะ

“ตาสว่างเลยกู” ผมผุดลุกออกไปจากเตียง แต่พอนึกถึงหน้าเธอที่มองหน้าผมเมื่อวาน ผมก็เซจนไปชนกับผนัง เอาหัวโขกมันแรงๆ เมื่อรู้สึกว่าหน้าชาเพราะคิดเองเขินเองซะงั้น ตอนแรกก็คิดว่าป่วย แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นภูมิแพ้

ภูมิแพ้นิ้ง

เน่ามั้ย? เออ เน่าดี

ผมใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวไม่ถึงสิบนาทีก็เสร็จ

ตอนเดินออกมาก็ก้มลงมองนาฬิกาในโทรศัพท์นิดหน่อย เห็นว่ายังไม่สายมากผมก็เลยคว้ากุญแจรถบนหลังตู้เย็น แล้วรีบเดินเร็วๆ สับเท้าลงบันไดหนีไฟลงมาด้านล่าง

ผมมองเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองทันทีพอเดินเข้ามาในลานจอดรถ แต่พอดีวันนี้ผมมารับนิ้งด้วยอะไรที่ใหญ่กว่านั้น ก็เลยเดินเลยไปที่รถออดี้ของไอ้พัสที่ยืมมาพร้อมกับเข้าไปสตาร์ทรถ ซึ่งปกติผมเป็นคนขับรถเร็วทั้งมอเตอร์ไซค์และรถยนต์ แต่ดูท่าวันนี้คงต้องลดความเร็วลงหน่อย

จะเพราะใคร? ก็น้องนิ้งของผมไง

ขับออกไปก็เปิดเพลงในรถไปด้วย ซึ่งปกติผมชอบฟังร็อค เมทัลลิก้า หรือเพื่อชีวิตอะไรทำนองนี้ แต่วันนี้สงสัยต้องเปิดเพลงสบายๆ ฟังซะแล้ว ก็เพราะอีกฝ่ายน่าจะชอบฟังอะไรนุ่มๆ มากกว่าล่ะนะ

ผมฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี ขับปาดคันนู้นคันนี้ไปตามความเคยชิน เอาน่า... ไหนๆ ตอนนี้นิ้งก็ไม่อยู่ ก็ทำสันดานปกติไปก่อน รอให้นิ้งมาปราบผมอีกทีตอนเข้ามานั่งในรถก็ได้

แต่เออว่ะ เพื่อนเธอก็เข้ามานั่งด้วย ไม่ได้มีแค่เธอกับผมนี่

แต่แล้วไงวะ ผมไม่ได้แคร์นักหรอก

ผมฮัมเพลงแล้วคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปจนกระทั่งเห็นตัวหอพัก เอาจริงๆ มันก็ใกล้กับคอนโดของผมอยู่ไง แต่หอพักของเธอมันดูเป็นสไตล์โมเดิร์นหน่อยๆ แล้วติดกับถนนใหญ่เลย ซึ่งต่างกับคอนโดผมที่ค่อนข้างเก่า ที่ดูก็รู้เลยว่าครอบครัวเธอน่าจะมีฐานะ

แต่เธอก็ยังยอมคุยกับผู้ชายปอนๆ อย่างผม ยอมให้โอบ ยอมให้กอด เหมือนนิ้งไม่ได้รังเกียจผู้ชายอย่างผมเลย

ผมอยากเป็นแฟนเธอ อยากให้เธอเป็นของผมไวๆ จังวะ

แล้วผมก็ไม่รู้ว่าจะอดทนไปได้นานแค่ไหน ถ้าเกิดนิ้งยังน่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้

ผมขับตรงเข้ามาจนมาถึงหน้าหอพัก แล้วเปิดกระจกรถเมื่อเห็นคนตัวเล็กๆ ในชุดนักศึกษาที่หน้าเหวอขึ้นมาพอเห็นผมโผล่หน้าออกมาแล้วฉีกยิ้มให้เธอ เพื่อนที่ชื่อส้มหวานก็โบกมือให้ผมเหมือนกัน เธอมองรถผมแล้วดูตื่นเต้น

“นิ้ง! ขึ้นรถเร็วๆ” เพื่อนเธอพูดแล้วเดินไปลากนิ้งที่ไม่กล้ามองหน้าผมขึ้นมา เหมือนคนตรงหน้าจะรู้ว่าผมคิดอะไรอยู่ เพราะเธอเปิดประตูที่นั่งข้างคนขับออกมาแล้วผลักคะนิ้งที่ยืนทำหน้ามึนงงเข้ามาข้างใน แล้วปิดประตู

ระหว่างที่ส้มเปิดประตูมานั่งข้างหลังผม ผมก็กดเปลี่ยนเพลงแล้วฉีกยิ้มให้คะนิ้งที่นั่งมองหน้าผมเอ๋อๆ แต่โคตรน่ารักเลย ละลายไปหมดแล้วครับ

“ไม่คาดเข็มขัดเหรอ?” ผมถาม พยายามสะกดใจไว้ไม่ดี๊ด๊ามากจนเกินเหตุ แล้วเธอก็เบิกตาโตแล้วหันไปหาเข็มขัดอย่างลนลาน แต่เพราะมันไม่ทันใจผมก็เลยขยับตัวเข้าไปใกล้คะนิ้งจนได้กลิ่นหอมๆ เหมือนมันเป็นกลิ่นแชมพู สบู่ แป้งเด็ก อะไรทำนองนี้ ผมหรี่ตาลงมองคอเสื้อของเธอในขณะที่ติดเข็มขัดนิรภัยให้ แล้วอยู่ดีๆ ก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา

เพราะเธอตัวเล็ก คอเสื้อมันเลยกว้าง กว้างจนผมเห็น...

“แม่ง” ผมสบถออกมาแล้วก็หน้าร้อนอยู่คนเดียว คะนิ้งมองหน้าผมอย่างหวาดๆ เล็กน้อย เธอหันไปมองด้านหลัง แล้วผมก็ไม่รู้หรอกว่าเธอมองอะไร เพราะส้มหลับอยู่ ผมก็เลยพูดออกมาในขณะที่ขับรถออกไปจากบริเวณหอพักของเธอ “เสื้อเธออ่ะ... มันเปิด”

“อะ... เหรอ จริงเหรอ” เธอทำตาโตแล้วก็ลนลานเอามือปิดคอเสื้อของตัวเอง ผมเหลือบมองแล้วกลืนน้ำลายลงคอ แล้วก็แทบจะทุบพวงมาลัยรถเมื่อรู้สึกว่าจะกลืนน้ำลายทำไมวะ คิดอะไรของมึงอยู่ มาคิดอะไรตอนนี้! “ขอบคุณนะ”

“อ่า... ไม่เป็นไร”

“...”

“เราแค่หวงเธอเฉยๆ” พอพูดจบหน้าของคะนิ้งก็แดงเถือกไปจนถึงลำคอ ผมเหลือบมองแล้วก็อยู่ดีๆ ก็เกิดเขินตามเธอไปด้วย ก็ผมเผลอมองคอเธอแล้วมัน...

“ถ้าเธอไม่เปลี่ยนเสื้อให้เป็นไซส์ดีๆ ล่ะก็เราจะโกรธแน่คอยดู...” ผมพึมพำอยู่คนเดียว แล้วก็เห็นว่าคะนิ้งมองไปข้างหลังอีก แล้วจู่ๆ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองผมนิ่งเหมือนไม่ได้ยินคำที่ผมพูดไปเมื่อกี้เลยสักคำ

ซึ่งมันไม่ใช่นิสัยปกติของคะนิ้งไง ผมก็เลยหันกลับมาสบตาเธอบ้าง “มีอะไรนิ้ง?”

“คะ... คือนิ้ง” คะนิ้งอึกอัก ตาเธอก็ล่อกแล่กมองซ้ายมองขวาเหมือนคิดอะไรอยู่ “เย็นนี้... มารับนิ้งด้วยได้มั้ยคะ”

ผมเบิกตากว้าง

แทนตัวว่านิ้งอีกแล้วว่ะ ชอบชะมัด

“ได้” ผมตอบรับไป ทำใจให้นิ่งไว้ไอ้เสือ “แล้วมีอะไรอีกมั้ย?”

ผมไม่มีสมาธิขับรถแล้วว่ะ เพราะเธอเนี่ย

“ก็...” คนตัวเล็กทำสีหน้าครุ่นคิด “ถะ... ถ้าวันไหนฉลามว่าง”

“...”

“พานิ้งไปซื้อของทำรายงานด้วยนะ” ผมมองหน้าหวานๆ ของเธอไม่ละสายตาแบบแทบจะไม่ได้หันไปดูถนนข้างหน้าเลย แล้วก็โชคดีที่มันติดไฟแดงอยู่ ผมก็เลยเห็นนิ้งที่หน้าแดงขึ้นทีละระดับได้หมด

นิ้งอ้อนผมเหรอ เธอกำลังอ้อนผมอยู่ใช่รึเปล่า

“นิ้ง...” ผมพูดขึ้นมา ไหนๆ ก็ติดไฟแดงแล้วผมก็ “งั้นหลามขอไรอย่างดิ”

“อะ... อะไรเหรอ?” นิ้งมองหน้าผมอย่างสงสัย แล้วจังหวะนั้นผมก็เคลื่อนตัวเข้าไปหาเธอแล้วเอื้อมมือข้างหนึ่งขึ้นมาแตะที่แก้มของเธอเบาๆ

เธออยากทำตัวน่ารักเองนะ ช่วยไม่ได้

“ขอหอมทีได้มั้ย”

“อะ... อะไรนะ” คนตัวเล็กแทบผงะแล้วทำตาโตทันที แววตาของเธอสั่นระริกอย่างหวาดกลัว ซึ่งผมก็แทบจะตบปากตัวเองแรงๆ สักทีเมื่อลืมไปว่าตัวเองจะอดทนแล้วคะนิ้งพูดอะไรไว้ก่อนหน้านั้น เธอดูเหมือนคนไม่เคยมีแฟนมาก่อน แล้วก็ดูไม่คุ้นเวลาอยู่กับผู้ชาย

ผมต้องให้เวลาเธอดิวะ ไม่ใช่มาเร่งเธอแบบนี้

“ขอหอมสักที” ผมพูดกับเธอ ไม่สนว่าเพื่อนเธอจะอยู่บนรถหรืออะไร ไฟแดงยังไม่เปลี่ยนสี แล้วเวลาก็ยังเหลืออีกเยอะแยะ และผมคงทนไม่ไหว ผมชอบเธอมาก แล้วผมก็เก็บอารมณ์ไม่เก่งด้วย “นะนิ้ง”

นิ้งเลิกลั่กไปหมด เธอหน้าแดงสุดๆ อย่างคนที่กำลังเขินจัดจนทำตัวไม่ถูก จนผมอยากจะจับเธอหอมแล้วขอเป็นแฟนซะตอนนี้ แต่พอเห็นว่าผมเข้าไปใกล้อีกแล้วเธอก็สะดุ้งอย่างตื่นกลัวสุดๆ ผมก็เลยตัดสินใจที่จะ...

อดทนต่อก็ได้

“เราพูดเล่น” ผมพูดสั้นๆ แล้วกัดฟันลากใบหน้ากลับมาที่เดิม ไฟเขียวมาพอดี ผมก็เลยขับไปด้านหน้าอย่างรีบเร่ง ปาดคันนู้นคันนี้ทีไปตามแรงอารมณ์

ผมสัมผัสได้ถึงสายตาของเธอที่มองผม คนตัวเล็กหน้าแดงเถือกแล้วก็เอามือมากุมคอเสื้อไว้แน่น ผมไม่รู้ว่าหลังจากนี้เธอจะกลัวผมรึเปล่า แต่ที่ผมทำไปไม่ใช่ว่าผมไม่จริงใจแล้วหลอกแต่จะแอ้มเธอนะ

ผู้ชายคนอื่นผมไม่รู้หรอก แต่มันไม่ใช่กับผม

ผมจริงใจกับเธอมาก แล้วที่ผมอยากกอดเธอ อยากจูบเธอก็เพราะผมเป็นคนไม่ชอบเก็บความรู้สึก ผมรู้ว่ามันไม่ดี แต่ผมเก็บอารมณ์ไม่เก่งเอาซะเลย

มันเคยทนได้ แต่พอเป็นนิ้ง เธอก็เหมือนมาทำลายข้อจำกัดทุกอย่างของผม

ผมคงต้องอดทนมากกว่านี้ เพราะเธอเป็นแบบนี้ ผมจะวู่วามจนเผลอไปคุกคามเธอไม่ได้

“ละ... ล้อเล่นเหรอ” เธอทวนเสียงเบาหวิวเหมือนความรู้สึกดีเลย์ ผมเหลือบไปมองนิดหน่อย แล้วก็เห็นว่านิ้งกำลังน้ำตาคลอ

ผมเบิกตากว้าง เธอร้องไห้ทำไม?

“นิ้ง เป็นไร” ผมถามเธออย่างตกใจ แล้วอยู่ดีๆ คนตัวเล็กก็เอามือปิดหน้าแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาเหมือนเด็กๆ “นิ้ง ร้องไห้ทำไม”

“ทำไม... ถึงชอบเอาความรู้สึกเรามาล้อเล่นล่ะ” เธอพึมพำออกมาแล้วสะอื้นตบท้าย แล้วผมก็หันไปมองด้านหลังเพราะจำได้ว่าพาเพื่อนเธอมาด้วย แล้วก็เห็นว่าส้มนอนหลับไม่รู้เรื่อง

สรุปก็คือผมทำนิ้งร้องไห้เหรอวะ

ผมรีบเคลื่อนตัวรถไปจอดเทียบกับฟุตบาท แล้วเปิดเก๊ะรถดึงทิชชู่ส่งให้นิ้ง เธอไม่ได้รับมันไปแล้วเอาแต่ร้องไห้อยู่อย่างนั้นเหมือนขวัญเสีย

ทำไงดีวะ

“นิ้ง ร้องไห้ทำไม เรื่องที่เราบอกว่าเราจะหอมเธอเมื่อกี้เหรอ?” ผมถามอย่างลนลาน แล้คนตัวเล็กก็สะอื้นไม่สนใจผม เหมือนเธอกำลังโกรธอยู่ด้วย “เราแค่ล้อเล่น เราไม่เร่งเธอหรอก”

“อย่าล้อเล่นแบบนั้นอีกนะ” เธอพูดกับผมด้วยตาแดงๆ แล้วผมก็เอื้อมมือไปจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เธอก็หันหน้าหนี “ไม่เอา เราเช็ดเองได้”

เฮ้ย นี่คือนิ้งตอนกำลังโกรธเหรอวะ พยศสุดๆ

“เราขอโทษ เรา... จะพูดไงดีวะ” ผมไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดีเลยว่ะ “แต่เราไม่ได้...”

“... ถ้าไม่ได้จริงจังตั้งแต่แรกก็อย่ามาจีบสิ” ผมชะงักไปเมื่อได้ยินแบบนั้น เธอพูดว่าอะไรนะ “ฮึก ตอนแรกก็คิดว่าจะจริงจังกับหนู แต่จริงๆ แล้วเห็นหนูเป็นของเล่นเหรอ”

“จริงจังดิ นิ้งพูดไรเนี่ย” ผมของขึ้นจริงเลยคราวนี้ เธอพูดมาได้ไงวะว่าผมไม่ได้จริงจัง ผมชอบเธอจะตาย ชอบจนอีกนิดจะหายใจเข้าออกเป็นชื่อคะนิ้งอยู่แล้ว “เราแค่ไม่อยากเร่งเธอ”

“...”

“หรือเธอจะให้เราจหอมเธอจริงๆ อ่ะ ทำได้นะ แค่เราทำไม่ลง” ผมแทบบ้า หน้าผมร้อนไปหมดตอนพูดประโยคนี้ด้วยความโมโห แล้วนิ้งก็สงบลงด้วย “นิ้งอาจจะคิดว่าเราชอบฉวยโอกาส เราชอบคุกคาม หรือเราชอบบังคับใจเธอ เรารู้ว่าที่เราทำมันไม่ใช่วิธีจีบที่ดีมากมายเท่ากับผู้ชายคนอื่นที่มาจีบเธอ”

“...”

“แต่เราพูดได้คำเดียวเลยว่าเราแม่งโคตรชอบเธออ่ะ เราโคตรอดทนเพื่อเธอ ก็เธอบอกเองว่าคุยกันไม่เท่าไหร่ เวลาที่เผลอ เราถึงต้องดึงตัวเองกลับมา แล้วเตือนตัวเองไว้ไง”

“...”

“ถามว่าอยากหอมเธอจริงๆ ตามที่พูดไปมั้ย? อยากดิวะ แต่เธออยากได้เวลาถูกปะ เราก็ให้อยู่”

“...”

“แต่ทำไมต้องพูดอย่างงี้วะ ดูถูกความรักของเราชิบหายเลย” ผมระเบิดอารมณ์ออกมาตรงๆ คนตัวเล็กเงียบไปทันที เธอหยุดร้องไห้ทันที แล้วผมก็ขับรถไปข้างหน้าต่อโดยเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่ออีก

จนถึงมหาลัย ส้มหวานเพิ่งสะดุ้งตื่นขึ้นตอนนั้น เธอดูเหมือนไม่รู้เลยว่ามีอะไรเกิดขึ้นระหว่างผมกับคะนิ้ง ร่างเล็กเหลือบมองผมตอนที่ดันส้มลงมาจากรถ แต่ผมไม่ได้มองเธอกลับ

ผมไม่ได้โกรธเธอหรอก แต่เรื่องอารมณ์น้อยใจมันห้ามกันไม่ได้

ทำไงวะ ก็ชอบไปแล้วอ่ะ ทำใจโกรธไม่ลงหรอก

จนถึงเวลาเลิกเรียนของนิ้ง พอผมเรียนเสร็จก็รีบออกมาเลย ถึงผมจะน้อยใจแต่ก็มารับเธอตามที่เธอขอไว้ก่อนหน้านั้นจริงๆ

คิดดูดิ แล้วมาบอกว่าผมไม่จริงจัง ผมมองเธอเป็นของเล่น ผมยอมทำขนาดนี้ยังคิดว่าไม่จริงจังอีกเหรอ

จนมาจอดรถรอได้ไม่นานนักผมก็เห็นเธอ คะนิ้งยืนอยู่หน้าประตูมหาลัย เธอไม่ได้มากับส้มหวาน แล้วก็ดูเหมือนจะมองรถผมด้วยสีหน้าตื่นกลัวหน่อยๆ ก่อนที่จะเดินมาอย่างระแวดระวัง

แกรก

จนกระทั่งเธอเปิดประตูเข้ามาแล้วจ้องหน้าผมหน้าวีดๆ ผมก็เลยไม่พูดอะไร ไม่มองหน้าเธอด้วย จนเธอมองซ้ายมองขวาอย่างอึดอัด ผมก็เลยถามสั้นๆ

“เพื่อนเธออ่ะ?” คะนิ้งชะงักไป เธอสบตากับผม แล้วก็ตอบเสียงตะกุกตะกัก

“เอ่อ... ส้มมีธุระกับที่คณะน่ะ” เธอพูดกับผมด้วยเสียงที่โคตรเบา ผมก็เลยไม่ถามอะไรต่อ หน้าแม่งร้อนไปหมดเลยกู ผมแม่งน้อยใจจนขึ้นหน้าเลยว่ะ สังเกตได้สักพักแล้วว่านิ้งมองผมนานมาก จนเธอตัดสินใจพูดอะไรบางอย่าง

“ฉลาม” เธอเรียกชื่อผม

“...”

“... คาดเข็มขัดให้นิ้งหน่อยค่ะ” ผมเหลือบมองเมื่อเธอพูดลงท้ายว่าค่ะกับผม แล้วก็เห็นว่าเธอหน้าแดงไปหมดเหมือนเธอจะไม่ชินที่พูดแบบนั้น

นิ้งง้อผมเหรอ? หรืออะไรวะ

แต่สุดท้ายผมก็เอี้ยวตัวไปคาดให้เธออย่างว่าง่าย แต่สีหน้าผมก็ยังตึงๆ อยู่

จนผมหันกลับไป แล้วขับรถออกไปข้างหน้าต่อ นิ้งก็ยังมองผมอยู่จนผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ เธอง้อผมอยู่จริงๆ เหรอวะ แต่เธอก็ไม่ได้ดูมีใจให้ผมขนาดนั้นนะ เธอกลัวผมจะตายไม่ใช่เหรอ

“ฉะ... ฉลาม” เธอเรียกผมอีก ผมก็เลยเหลือบไปมองโดยไม่พูดอะไร

“ว่า?”

“ฉลาม... จะเลิกจีบนิ้งมั้ย?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.52 หลับตา (2)

    “เราจะมั่นใจได้ยังไง... ว่าเราจะไม่ร้องไห้เพราะฉลามอีกอ่ะ?” เพราะฉันใจอ่อนง่ายทุกครั้งพอเป็นเขา ทะเลาะกันหนักๆ ฉลามก็แค่เดินมาพูดอะไรสักอย่าง จนฉันรู้สึกว่าทุกอย่างมันจะดีขึ้น แต่ก็ไม่เคยแสดงออกมาจริงๆ เลยว่ามันจะดีขึ้นกว่าเดิม “... เราจะมั่นใจได้ยังไงว่าหลังจากนี้ทุกอย่างจะดีขึ้น”“...”“ฮึก... ฉลามจะให้เราเชื่อได้จากตรงไหนเหรอ” สุดท้ายฉันก็แพ้ให้ความอ่อนแอขี้แยของตัวเอง ฉันร้องไห้ออกมาตรงนั้นเพราะเจ็บจนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว น้ำตาบังฉันจนมองไม่ออกว่าฉลามกำลังทำสีหน้าแบบไหนอยู่“ไปคุยที่รถได้มั้ยวะ”ฉันได้ยินเสียงเขาตอบกลับมา ก่อนที่ข้อมือฉันจะถูกเขาจูงให้เดินตามไปด้วยกัน ฉันสะอื้นออกมาตอนที่ถูกใส่หมวกกันน็อคแล้วติดที่ล็อคตรงใต้คางให้ แล้วฉลามก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซต์ของเขา“ระ... เราไม่กลับกับฉลามนะ ไม่เอา” ฉันพูดทั้งน้ำตา แล้วเขาก็จ้องหน้าฉันนิ่ง ตอนแรกฉันก็คิดว่าฉลามจะขับรถออกไปเลย ไม่ก็ว่าฉันว่างี่เง่า ดื้อ เป็นผู้หญิงน่ารำคาญ แต่ต่อมาทั้งตัวของฉันก็ถูกเขาดึงเข้ามากอดไว้“กลับเหอะ” เขากระซิบเสียงหนักข้างหูฉันที่เบิกตาโต แล้วกอดฉันแน่นขึ้น“...”“มีเรื่องจะคุย”สุดท้ายฉันก็นั่งรถไปกับเขา

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.52 หลับตา (1)

    [... โห ปกติพี่บอกรักนิ้งยังงี้เลยเหรอ]ผมนิ่งไปหลังจากที่พูดกับนิ้งไปตรงๆ แล้วเสียงที่ตอบกลับมาไม่ใช่นิ้งแต่เป็นส้ม“นิ้งไม่อยู่เหรอวะ” ผมถามตรงประเด็นทันที แล้วปลายสายก็ตอบกลับมา[ใช่ค่ะพี่ วันนี้ส้มหยุดอ่ะเลยได้นอนอยู่ที่ห้อง นิ้งเค้าไปเรียน สงสัยจะลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้อง]“...”[ว่าแต่นี่พี่โทรมาง้อนิ้งเหรอ ดีแล้วแหละ]“แล้วนิ้งยังอยู่นั่นปะ เลิกกี่โมง? วันนี้เรียนวิชาไร?” ผมไม่สนเรื่องยิบย่อยแล้วถามกลับไป ส้มเงียบไป ส่วนผมก็ร้อนใจแทบบ้า จนเธอตอบกลับมา[น่าจะใกล้เลิกแล้วอ่ะพี่ วันนี้เรียนวิชาเดียว] เธอบอก แล้วผมก็ทำท่าจะกดตัดสายแล้วใส่กางเกงจะได้ไปรับเธอที่มหาลัยก่อนที่เธอจะกลับไปก่อน ผมกลัวว่าจะไม่ทัน [แต่พี่หลาม ส้มมีอะไรจะบอกแหละ]“ไว้วันหลังได้ปะ พี่รีบว่ะ”[แต่เป็นเรื่องนิ้งนะ พี่หลามไม่ฟังหน่อยเหรอ] ผมนิ่งไป แล้วรูดซิปกางเกงขึ้น“งั้นพูดมา”[ถ้าพี่หลามจะไปง้อนิ้งรอบนี้อ่ะ ส้มว่าต้องมีแต่ใจล้วนๆ เลยอ่ะ]“...”[นิ้งอ่ะน้อยใจพี่มากเลย ส้มก็ไม่ได้จะบอกว่าพี่ผิดฝ่ายเดียวหรอกนะ ส้มรู้ว่าบางทีคนเป็นแฟนกันก็ชอบใช้อารมณ์เหนือเหตุผล] ผมยืนฟังที่เธอพูดเงียบๆ [ส้มรู้ว่าพี่หลามรักนิ้งมาก

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.51 เอาอะไรไปโกรธเธอ (4) จบตอน

    “มึงรู้ปะเจ๊” ผมกระดกแก้วที่สามรวดเดียวแล้วเอียงหน้าไปคุยกับมัน “ตั้งแต่เกิดมา กู... ไม่เคยเจ็บเหี้ยๆ ขนาดนี้กับผู้หญิงคนไหนเลยว่ะ”“เฮ้ย อีหลาม มึงเมายังวะเนี่ย” เจ๊ตบหน้าผม แล้วผมก็ปัดมือมันออก“กูไม่เมา” ผมพูดตรงๆ มันแค่มึนๆ แต่ที่ผมพูดเพราะแม่งเฮิร์ท “กูเจ็บตั้งแต่คำที่เค้าบอกว่ากูไม่เคยเข้าใจเค้า กูเอาแต่ใจ ชอบพูดเหี้ยๆ กับเค้า”“...”“แม่งก็จริงว่ะ กูแม่งเหี้ยแบบนั้นแหละ ผู้หญิงมันเลยชอบทิ้งกูไปไง” ผมพูดแล้วแค่นหัวเราะ “แล้วเดี๋ยวกูก็จะถูกนิ้งทิ้งอีก กูแม่งทำห่าไรก็ล้มเหลวไปหมด”“แล้วมึงรู้ได้ไงว่าน้องจะทิ้งมึง?”“กูแค่คิด ใครแม่งจะทนกับคนอย่างกูวะ”“โอ้ย อีหลาม มึงคิดว่าน้องเค้าเป็นคนแบบอีพวกนั้นรึไงวะ มีสติหน่อย สมองมึงรวนแล้วเหรอ”เจ๊พูดแล้วตบหน้าผมซ้ำอีกให้ตื่น แต่แม่งหยุดไม่ได้แล้วว่ะ ผมกดดัน ผมไม่รู้ว่าต้องทำไง ผมคิดเรื่องเธอในหัวเยอะมาก ที่ผ่านมาในหัวผมมีแต่เรื่องที่ผมเป็นคนแบบนี้แล้วกลัวนิ้งจะทนไม่ไหว ผมรู้ตัวเอง หลังจากทะเลาะตอนนั้นผมก็อยากดีกว่านี้ แต่แม่ง...“คงงั้นมั้ง” ผมตอบลอยๆ แล้วหัวเราะส่งๆ“อีหลาม มึงฟังกูนะ เรื่องพวกนี้มันต้องคุย มึงมานั่งคิดว่าเค้ามองมึงแบบนั

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.51 เอาอะไรไปโกรธเธอ (3)

    ทันทีที่ฉันพูดจบประโยคนั้น ฉลามก็เงียบไป เขาเงียบไปนานมากจนฉันใจโหวงๆ ฉันถือสายรอเขาตอบกลับมาอยู่แบบนั้นสักพัก ใจเต้นรัวไปหมดเพราะอยากรู้ว่าเขาจะตอบอะไรกลับมา จนสุดท้าย...[โอเค เข้าใจล่ะ] ฉันสะดุ้งน้อยๆ ตอนที่จู่ๆ เขาก็สวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบแปลกๆ [เราแม่งเหี้ยเองว่ะ]“...”[ถ้านิ้งไม่อยากให้เราขับตามเราไม่ไปก็ได้]“...”[แค่นี้นะ]ติ๊ดฉันชะงักไปเมื่อเขาตัดสายฉันทันทีที่พูดจบประโยคนั้น ใจฉันหายวูบไปเลย แล้วมันก็เป็นแบบนั้นไปตลอดทาง... หรือมันจะถึงทางตันแล้วนะผ่านมาสองวันได้แล้วหลังจากนั้น... เราแทบไม่เจอหน้ากันเลยฉันกลับมาถึงห้องกับส้มหวานอย่างปลอดภัยจนถึงเช้าวันต่อมา ฉลามไม่โทรมาหา เขากลับมารึยังฉันก็ไม่รู้ แล้วก็ไม่รู้ด้วยว่าหลังจากนี้เราทั้งคู่จะยังเหมือนเดิมอยู่มั้ย ก่อนจะวางสายไปเสียงเขานิ่งมากจนผิดปกติเลย ตอนไปมหาลัยส้มก็ไปส่งเราเลยยิ่งไม่ได้เจอกันเข้าไปใหญ่แต่ฉันรู้แค่ว่าเขากลับมาทำงานแล้วหลังจากที่ได้โทรคุยกับพี่เพทายนั่นล่ะ[อีหลามอ่ะนะ? ก็มาทำงานปกตินี่ ช่วงนี้มันก็อยู่ไม่นานด้วย มันไปสมัครงานเพิ่ม] ฉันนิ่งไปนิดหน่อยตอนที่พี่เพทายอธิบายมาแบบนั้นหลังจากที่เธอโทรม

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.51 เอาอะไรไปโกรธเธอ (2)

    “ฉะ... ฉลามใจเย็นก่อนได้มั้ย” ฉันแทรกขึ้นมา แล้วเม้มริมฝีปากแน่น “เราไม่ได้อยู่ในรถผู้ชายคนไหนหรอก เรากลับกับส้ม เค้าเป็นเพื่อนส้ม”[...]“แล้วที่เราต้องกลับแบบนี้เพราะเราทะเลาะกันไม่ใช่เหรอ ฉลามก็ไล่เราด้วย... เราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำไมอ่ะ”[ก็นิ้งจะไปเองปะ?]“อื้อ... ใช่ เราจะไปเองแหละ เพราะงั้นเราก็จะไปจริงๆ แล้ว” ฉันโพล่งขึ้นมาเพราะเห็นว่าฉลามเองก็ไม่ใจเย็นที่จะคุยกับฉันเลย ฉันเองที่พยายามจะเย็นในตอนแรกๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน[ก็บอกว่าให้มันวนรถกลับมาไง]“เราเลยมาแล้วนะ วนกลับไม่ได้หรอก”[นิ้ง กลับมา]“...”[ได้ยินมั้ยวะ บอกให้กลับมาไง]ใจฉันวูบไป ความรู้สึกน้อยใจตีตื้นขึ้นมา เพราะฉลามไม่เคยฟังฉันเลย จะเอาแต่ใจตัวเองอยู่อย่างเดียว เขาบังคับให้ฉันทำนู่นทำนี่ตามใจเขา บอกให้ฉันเข้าใจเขา แต่พอถึงทีฉันบ้าง เขากลับไม่เคยเข้าใจอะไรเลย“... ฉลามเห็นเราเป็นอะไรเหรอ?” ฉันโพล่งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงสั่นๆ “ไล่เรากลับ พอเราจะกลับจริงๆ ก็มารั้งเรา... ก่อนหน้านี้ก็อยากให้เรากลับไม่ใช่เหรอ”[ก็มันแม่ง...]“หลายครั้งแล้วนะที่เรายอมลงให้ฉลามตลอด เวลาฉลามหงุดหงิดใส่เราก็พยายามอดทน... เราก็แค่ไม่อยากเลิก อยากอ

  • Hood X Mania จีบเเบบผู้ชายฮาร์ดคอ   #พี่หลามคนจริง EP.51 เอาอะไรไปโกรธเธอ (1)

    [SALAMDU : SIDE]“ทำไมไม่รับสายวะ”ผมพึมพำอย่างหงุดหงิดตอนที่กดโทรศัพท์เข้าเบอร์นิ้งจนจะสามสิบสายได้แล้ว แต่เธอก็ไม่รับ ผมกดตัดสายแล้วโทรออกอยู่ซ้ำๆ ตอนที่พิงรถอยู่ด้านนอกแล้วจุดบุหรี่สูบ พ่นควันออกมาตอนที่เห็นว่าฟ้าเริ่มมืด ผมเงยหน้าขึ้นมอง แล้วดูดมวนบุหรี่อัดควันเข้าปอดตอนที่กดโทรหาเธออีกพอเธอตัดสายไปอีกผมก็พ่นควันบุหรี่ออกมาแรงๆ อย่างขัดใจ ก่อนที่จะเปิดประตูเข้าไปในรถแล้วเปิดกระจกไว้จะได้ดูดบุหรี่ด้านนอก พร้อมกับขับวนหาเธอแถวๆ นั้นไปด้วยผมเห็นมีคนนั่งรถเข้ามา แต่เดินเข้าไปดูแล้วไม่ใช่ผมโทรไปหาไอ้โป้งให้บอกเบอร์โรงแรมห่านั่นให้ผมแล้วเพราะก่อนออกมาผมรีบจัดเลยลืมถามมา แล้วมันก็เป็นคนโทรจองให้ ก่อนหน้านั้นผมโทรถามเบอร์รถโรงแรมคันอื่นแล้วไล่โทรไปทุกสาย แต่มีสองเบอร์ที่โทรไม่ติด นอกนั้นก็ไม่ใช่ผมขับออกไปวนหานิ้งที่สถานีขนส่งไรนี่สองสามรอบได้ เพราะเธอเองก็ไม่น่าจะไปที่ไหนได้นอกจากที่นี่ ตอนนี้ก็อีกรอบ แต่พอไม่เจอผมก็จอดรถทิ้งไว้แถวๆ นั้นแล้วเดินไปนั่งที่ม้านั่งใกล้ๆ เพราะผมไม่รู้จะทำไงพอบุหรี่มันหมดมวนผมก็ทิ้งลงพื้นแล้วใช้ส้นตีนขยี้ ก่อนที่จะหยิบมวนใหม่มาจุดสูบอีกเพราะผมเครียด เกือบจ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status