Chapter 7: The Apollo Pact and the Declaration of War

YOH PART

​ผมกลับมาถึงห้องเสื้อ Appealing พร้อมกับหัวใจที่เต้นรัวเหมือนกำลังวิ่งแข่งมาราธอน ข้อมูลที่ได้รับจากคุณพอลมันถาโถมเข้ามาในหัวจนผมแทบรับไม่ไหว พี่ยี่หวากับยิมรีบเข้ามาหาผมด้วยสีหน้ากระวนกระวายทันที

​"โย! คุยกันรู้เรื่องไหม! เกิดอะไรขึ้นที่สวนสาธารณะ!" พี่ยี่หวาถามอย่างรวดเร็ว

​"พี่โยเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ดูเหมือนไม่สบายเลย" ยิมจับแขนผม

​"พี่ไม่เป็นไร... แต่ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้ว" ผมพยายามรวบรวมสติ "คุณพอล... เขาเล่าเรื่องในฝันของพี่ให้ฟังทั้งหมดแล้ว"

​เมื่อผมตัดสินใจเล่าทุกอย่างออกไป ทั้งเรื่องเทพเจ้ากรีก อพอลโล่ ไฮยาซินธ์ เซฟิรัส และการกลับชาติมาเกิดของพวกเรา รวมถึงความเชื่อของเขาที่ว่าคุณเจสันคือร่างที่ถูกครอบงำด้วยความริษยาของเซฟิรัส... พี่ยี่หวากับยิมก็เงียบกริบไปทันที

​พี่ยี่หวาเป็นคนแรกที่ทำลายความเงียบ "นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยโย! แกเอาจริงเหรอ? นี่มันตำนานปรัมปรานะ!"

​"แต่พี่หวา... รายละเอียดทุกอย่างในฝันของผม... เขาพูดได้หมดเลย ไม่มีใครเคยรู้เรื่องนี้" ผมพยายามอธิบาย "และความรู้สึกของเขา... มันเป็นความรักและความเจ็บปวดที่ผมรู้สึกในฝันเหมือนกัน"

​ยิมมองผมอย่างพิจารณา "ผมเคยอ่านตำนานรักของอพอลโล่กับไฮยาซินธ์... โศกนาฏกรรมรักที่เทพเจ้าไม่สามารถช่วยได้" เขาพูดอย่างแผ่วเบา "ถ้ามันเป็นจริง... นั่นหมายความว่าพี่โยกำลังถูกคุกคามจากโชคชะตาอีกครั้ง"

​"นั่นแหละคือสิ่งที่เขาบอก" ผมถอนหายใจยาว "เขาบอกว่าจะใช้ทุกทรัพยากรของ Ifandis Group เพื่อปกป้องผม และ... เขาขอให้ผมย้ายไปอยู่กับเขา"

​พี่ยี่หวาเบิกตากว้าง "ย้ายไปอยู่กับเขา!? บ้าไปแล้วเหรอโย! แกกำลังจะตัดสินใจเรื่องใหญ่แบบนี้เลยเหรอ!"

​"พี่ไม่มีทางเลือกมากนักหรอกพี่หวา" ผมสบตาพี่ยี่หวาอย่างหนักแน่น "คุณเจสันไม่ใช่แค่ลูกค้าที่อยากได้สูท แต่เขาคือ 'ผู้ล่า' ที่มองเห็นผมเป็นเหยื่อ และผมรู้สึกถึงอันตรายนั้นจริง ๆ การได้อยู่ภายใต้การปกป้องของตระกูล Ifandis... มันอาจจะเป็นทางรอดเดียวของผม"

​"แต่การแลกอิสรภาพกับความปลอดภัยมันคุ้มกันเหรอโย" พี่ยี่หวาถามอย่างเป็นห่วง

​"ผมจะทำให้มันคุ้มค่า" ผมตอบ "ผมบอกเขาไปแล้วว่าผมจะย้ายไปอยู่กับเขา และผมจะให้เขาเป็นลูกค้าคนเดียวของผมอย่างเป็นทางการ แต่มีข้อแม้..."

​ผมหยุดหายใจเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ

​"ผมจะให้เขาจ้างพี่กับลีเป็นทีมงานของผม เพื่อที่ผมจะได้ไม่ตัดขาดจากโลกของผมไปทั้งหมด และผมต้องสามารถออกมาทำงานที่ร้านได้บ้างตามที่ผมต้องการ"

​พี่ยี่หวาเงียบไปพักหนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเหนื่อยใจ "แกนี่มันยี่หวาตัวที่สองชัด ๆ... เป็นไงเป็นกัน! ถ้าคุณพอลตกลง... พี่จะไปด้วย! พี่ไม่ยอมให้แกไปเผชิญกับเทพเจ้ากรีกที่ไหนคนเดียวหรอก!"

​ยิมพยักหน้าเห็นด้วย "ผมจะคอยช่วยดูนายแพตทริกให้ดีเอง... เขาจะต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน"

​ผมรู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้างอย่างประหลาด การได้รับการสนับสนุนจากคนที่ผมรักทำให้ผมรู้สึกว่าการตัดสินใจครั้งนี้ไม่เดียวดายเกินไป

​ผมโทรหาคุณพอลอีกครั้งเพื่อแจ้งการตัดสินใจและข้อแม้ของผม

​“ผมตกลงทุกอย่างครับ โย” เสียงของคุณพอลตอบกลับมาทันที “ผมดีใจมากที่คุณเชื่อมั่นในตัวผม พี่ยี่หวากับน้องลีจะเป็นทีมงานส่วนตัวของคุณอย่างสมเกียรติ และคุณสามารถเข้ามาดูแลร้าน Appealing ได้ตามที่คุณต้องการ ส่วนเรื่องที่พัก... ผมจะส่งคนไปรับคุณเย็นนี้”

​"เร็วไปไหมครับคุณพอล" ผมถามอย่างประหลาดใจ

​“เร็วครับ แต่จำเป็น เมื่อคุณตัดสินใจที่จะอยู่ภายใต้การปกป้องของผมแล้ว ผมจะไม่ให้คุณอยู่ภายใต้ความเสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว” น้ำเสียงของคุณพอลฟังดูเด็ดขาด “เตรียมของสำคัญไว้นะครับ ผมจะส่งเลขาภัทรไปจัดการเรื่องอื่น ๆ ให้คุณทั้งหมด ผมอยากให้คุณไม่ต้องกังวลเรื่องอะไรเลย”

​"ครับ... คุณพอล" ผมตอบรับด้วยความรู้สึกที่ตื้นตันอย่างประหลาด

​PAUL PART

​ทันทีที่ผมวางสายจากโย ผมก็หันไปออกคำสั่งกับภัทรทันที

​"ภัทร จัดการเรื่องทั้งหมดที่ผมสั่งไว้" ผมสั่งด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "ติดต่อพี่ยี่หวาและน้องลีของร้าน Appealing เพื่อให้เซ็นสัญญาเป็นทีมงานส่วนตัวของคุณโย และเตรียมเงินเดือนที่สมน้ำสมเนื้อกับการเป็นทีมงานของ Ifandis"

​"รับทราบครับคุณพอล" ภัทรรับคำอย่างรวดเร็ว

​"เรื่องที่สำคัญที่สุด..." ผมเน้นเสียง "ไปรับคุณโยมาที่คฤหาสน์ของผม เดี๋ยวนี้ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีใคร... โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจสัน ตามเขามาได้แม้แต่เงา"

​"ผมจะนำรถที่ติดตั้งระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดไปรับคุณนันทยศเองครับ"

​ผมมองนาฬิกา... เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงที่โยจะมาถึงบ้านของผม

​ผมเดินออกจากห้องทำงานส่วนตัว และตรงไปยังห้องโถงหลักของคฤหาสน์ Ifandis บ้านหลังนี้ถูกสร้างขึ้นด้วยสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมันอันโอ่อ่า ตกแต่งด้วยภาพวาดเทพเจ้าและประติมากรรมหินอ่อนที่เลียนแบบสไตล์คลาสสิกของโบราณ

​ผมสั่งให้คนงานเตรียมห้องนอนที่ใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุด ซึ่งเป็นห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกเพื่อให้แสงแดดยามเช้าส่องถึง ผมต้องการให้เขาได้ตื่นขึ้นมาด้วยแสงอาทิตย์ของผม

​ผมเดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ มองออกไปที่สวนด้านหลัง ผมสังเกตเห็นว่าแสงแดดกำลังสาดส่องลงบนต้นไม้ใหญ่ที่ผมสั่งให้นำมาปลูกเมื่อหลายปีก่อน... ต้นไฮยาซินธ์สีม่วง ที่ผมปลูกไว้เพื่อระลึกถึงเขา

​“โย... ตอนนี้คุณกำลังกลับบ้านแล้ว”

​ผมรู้ว่าการเปิดเผยความจริงเรื่องอดีตชาติทำให้โยต้องเผชิญกับความสับสนอย่างรุนแรง แต่ผมก็รู้ว่ามันเป็นทางเดียวที่ผมจะสามารถอธิบายการกระทำที่เร่งรัดของตัวเองได้

​ผมคืออพอลโล่ และความรักที่ผมมีต่อไฮยาซินธ์นั้นไม่ได้จางหายไปไหน การสูญเสียเขาในครั้งก่อนเป็นบาดแผลที่ไม่มีวันหาย และผมจะไม่ยอมให้โศกนาฏกรรมนั้นเกิดขึ้นซ้ำสอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ เซฟิรัส ได้ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งในร่างของเจสัน

​เจสัน...

​ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาหัวหน้าฝ่ายกฎหมายของ Ifandis Group

​"ผมต้องการให้คุณดำเนินการทางกฎหมายกับบริษัทของเจสันให้ถึงที่สุด" ผมสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา "หาข้อบกพร่องทางบัญชี หรือการทำธุรกิจสีเทาทุกอย่างที่เราสามารถใช้เป็นข้อกล่าวหาได้ ผมต้องการให้เขาต้องเผชิญกับความวุ่นวายทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในชีวิต จนกว่าเขาจะไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่นนอกจากเรื่องของตัวเอง"

​'แต่คุณพอล... นั่นอาจจะทำให้เกิดสงครามทางธุรกิจครั้งใหญ่ได้นะครับ' ทนายความลังเล

​"ผมไม่ได้แค่อยากทำธุรกิจ" ผมตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ "ผมกำลังทำสงครามเพื่อปกป้องสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม ถ้าคุณทำไม่ได้... ผมจะหาคนอื่นมาแทน"

​'เข้าใจแล้วครับคุณพอล ผมจะดำเนินการทันที'

​JASON PART

​ผมยืนอยู่ที่มุมตึกตรงข้ามสวนสาธารณะ มองดูรถคันหรูของ Ifandis Group ขับพา นันทยศ สถิรถาวร ออกไปจากบริเวณนั้น

​เขาตัดสินใจแล้วสินะ... ที่จะเลือก พอล

​ผมรู้ดีว่านันทยศเป็นเหยื่ออันโอชะ แต่ผมก็รู้ว่าการแข่งขันกับ พีธรธนัส ไม่ใช่เรื่องง่าย พอลเป็นทายาทผู้ทรงอิทธิพลที่สุดของตระกูล Ifandis ตระกูลที่ควบคุมแทบจะทุกอย่างในโลกธุรกิจ

​แต่ผมไม่ได้สนใจแค่โลกธุรกิจ... ผมสนใจ พลัง และ ความงาม ที่อยู่ในตัวนันทยศ

​เมื่อครู่ที่ผมเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันใต้ต้นไม้ใหญ่ ความรู้สึกริษยาที่คุ้นเคยก็เข้าครอบงำจิตใจของผม

​นั่นคือสิ่งที่เคยเป็นของฉัน! เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวของผม เทพดวงอาทิตย์คนนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะแย่งชิงความงามนั้นไป!

​ผมรู้ว่าความคิดเหล่านี้มันบ้า แต่ผมไม่สามารถควบคุมมันได้เลย ทุกครั้งที่ผมเห็นนันทยศ ผมรู้สึกเหมือนถูกดึงเข้าไปในกระแสความบ้าคลั่งที่เต็มไปด้วยความต้องการ

​เซฟิรัส... ผมพึมพำกับตัวเอง แกกำลังทำอะไรกับฉัน

​ไม่นานหลังจากนั้น โทรศัพท์ของผมก็ดังขึ้น... เป็นเลขาของผมเอง

​'คุณเจสันครับ! แย่แล้ว! บริษัทของเรากำลังถูกโจมตีทางธุรกิจอย่างหนัก! Ifandis Group... พวกเขาเข้าซื้อหุ้นบริษัทคู่แข่งของเราและกำลังใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายเพื่อฟ้องร้องเราหลายคดี!'

​ผมกำโทรศัพท์แน่นจนข้อขาว "พอล พีธรธนัส..." ผมเค้นเสียงออกมาจากลำคอ "แกกำลังประกาศสงครามกับฉัน"

​แต่สงครามนี้... ไม่ใช่แค่เรื่องเงิน

​ผมยิ้มออกมาอย่างเย็นชา นันทยศ คือรางวัล และ พอล คืออุปสรรค

​ถ้าอยากทำสงคราม... ฉันก็จะให้สงครามกับแก

​ผมมองไปทางทิศที่รถของคุณพอลขับออกไป

​"ผมไม่สนใจหรอกว่าคุณจะเป็นใคร หรือคุณพอลเป็นใคร นันทยศ... สิ่งที่ผมอยากได้... ผมต้องได้"

​ผมกลับไปที่รถของตัวเองทันที ผมไม่ได้สนใจเรื่องธุรกิจแล้ว สิ่งที่ผมต้องการตอนนี้คือการหาทางเข้าไปในปราการของตระกูล Ifandis

​ผมจะต้องดึง ไฮยาซินธ์ กลับมาอยู่ภายใต้ลมของผม... ไม่ว่าจะต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตาม

​TBC.