MasukYOH PART
การเดินทางมายังคฤหาสน์ของตระกูล Ifandis นั้นเหมือนกับการก้าวเข้าสู่โลกคู่ขนานที่ผมไม่เคยคิดว่าจะได้สัมผัส ผมนั่งอยู่ในรถคันหรูหราของเลขาภัทร ที่มีระบบรักษาความปลอดภัยหนาแน่นราวกับรถหุ้มเกราะ มองดูถนนสายส่วนตัวที่ทอดยาวผ่านประตูเหล็กขนาดใหญ่ที่ได้รับการดูแลอย่างเข้มงวด
คฤหาสน์ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าผมนั้นไม่ใช่แค่บ้าน แต่เป็นปราสาทหินอ่อนสีขาวนวลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมกรีก-โรมันอย่างแท้จริง มีเสาหินขนาดมหึมาเรียงรายอยู่ด้านหน้า และรูปปั้นเทพเจ้ากรีกจำนวนนับไม่ถ้วนประดับอยู่ตามโถงทางเดินและสวนหย่อม เมื่อมองขึ้นไป ผมสัมผัสได้ถึงความโอ่อ่าและอำนาจที่แผ่ออกมาจากทุกอณูของสถานที่แห่งนี้
นี่คือบ้านของ... อพอลโล่ ความคิดนั้นทำให้ผมรู้สึกประหลาดใจอย่างที่สุด
ทันทีที่รถจอดสนิท พนักงานหลายคนก็รีบออกมาต้อนรับอย่างสุภาพและนอบน้อม เลขาภัทรเปิดประตูให้ผม ก่อนที่ผมจะเห็นร่างสูงสง่าที่กำลังยืนรออยู่ตรงบันไดทางเข้า
คุณพอล หรือ อพอลโล่ ในชุดเสื้อเชิ้ตสีดำและกางเกงขายาวสีเข้ม ยืนสงบนิ่ง แต่ดวงตาของเขากลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่รุนแรงเมื่อได้เห็นผม
"ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ... โย"
คำพูดของเขาทำให้หัวใจผมสั่นไหว มันฟังดูจริงใจและเต็มไปด้วยความผูกพันที่ลึกซึ้ง
"ขอบคุณครับ" ผมตอบสั้น ๆ พยายามเก็บซ่อนความประหม่าไว้
คุณพอลไม่รอช้า เขาก้าวลงมาจากบันไดและเดินตรงเข้ามาหาผม ก่อนจะยื่นมือมาจับมือผมอย่างแผ่วเบา แต่ก็หนักแน่น
"ผมได้สั่งให้คนเตรียมห้องพักของคุณไว้เรียบร้อยแล้ว" เขาพูดพลางพาผมเดินผ่านโถงทางเข้าขนาดใหญ่ "ผมได้เลือกห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออก ห้องที่มีแสงแดดส่องถึงยามเช้า... ห้องที่คู่ควรกับไฮยาซินธ์ของผม"
ผมรู้สึกเหมือนถูกร่ายมนตร์ ทุกคำพูดของเขา ทุกการกระทำ ล้วนแต่เชื่อมโยงผมเข้ากับตำนานนั้นอย่างไม่มีทางปฏิเสธ
"คุณพอล... ผมยังต้องทำความเข้าใจเรื่องทั้งหมดอีกมาก" ผมสารภาพ
"ผมรู้ครับ และผมจะอยู่ตรงนี้เพื่อตอบทุกคำถามของคุณ" เขาพาผมเดินขึ้นบันไดหินอ่อนที่สลักลวดลายอย่างปราณีต "ผมตั้งใจที่จะไม่ซ่อนอะไรจากคุณอีกแล้ว โย ผมจะให้ความจริงใจทั้งหมดที่ผมติดค้างคุณมานับพันปี"
เมื่อเรามาถึงห้องพัก ห้องนั้นใหญ่โตและหรูหรากว่าอพาร์ตเมนต์ที่ผมเคยอยู่มากนัก มีระเบียงที่มองเห็นทิวทัศน์ของเมือง และที่สำคัญที่สุด... มีความรู้สึกที่อบอุ่นและปลอดภัยอย่างประหลาด
"นี่คือห้องของคุณ" คุณพอลบอก "ส่วนห้องของผมอยู่ติดกัน ถ้าคุณต้องการอะไร... แค่เรียกชื่อผมเท่านั้น"
ผมหันไปมองเขา "คุณพอล... ผมขอเวลาทำใจสักครู่ได้ไหมครับ ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วเกินไป"
"แน่นอนครับ" เขาตอบอย่างเข้าใจ "ผมจะให้เวลาคุณ... แต่ผมขอให้คุณเข้าใจว่าการที่ผมเร่งรัดทุกอย่างเป็นเพราะผมกังวลเรื่องความปลอดภัยของคุณ คุณเจสัน... เขาไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ แน่นอน"
ทันใดนั้น ดวงตาของคุณพอลก็หันไปมองที่โต๊ะข้างเตียง ที่มีแจกันดอกไม้ขนาดใหญ่ตั้งอยู่
"ผมเกือบลืม" เขายิ้มเล็กน้อย แต่เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความรักอย่างแท้จริง "ดอกทานตะวันที่ผมส่งมาให้วันนี้ มันถึงมือคุณแล้วใช่ไหม"
"ครับ พี่ยี่หวาเป็นคนรับไว้" ผมตอบ
"ดีมากครับ" เขาเดินเข้าไปใกล้แจกันดอกทานตะวันสีเหลืองสดใสที่ตอนนี้ถูกจัดวางไว้อย่างงดงาม "คุณรู้ไหมว่าดอกทานตะวันเป็นดอกไม้ที่เกี่ยวข้องกับตำนานของ ไคลที (Clytie) นางอัปสรที่หลงรักผม แต่ผมเมินเฉยต่อเธอ"
ผมฟังอย่างตั้งใจ
"ดอกทานตะวันหันหน้าเข้าหาดวงอาทิตย์เสมอ นั่นคือความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง" คุณพอลมองผม "ผมรู้ว่าการมอบดอกทานตะวันนั้นเป็นการระลึกถึงรักที่ไม่สมหวัง แต่สำหรับเรา... มันมีความหมายที่ต่างออกไป"
เขาเอื้อมมือมาสัมผัสกลีบดอกทานตะวันอย่างแผ่วเบา "สำหรับผม... ดอกทานตะวันคือการประกาศว่า ความรักของผมจะจงรักภักดีต่อคุณเพียงคนเดียว ไม่ว่าจะมีใครคนอื่นเข้ามาในชีวิตผมก็ตาม... ผมจะหันหน้าเข้าหาแสงสว่าง... ซึ่งก็คือคุณเสมอ"
คำพูดที่อ่อนโยนแต่ทรงพลังนั้นทำให้ผมรู้สึกว่ากำแพงที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้องตัวเองกำลังพังทลายลง
"ขอบคุณครับ... สำหรับความหมายที่สวยงาม" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
"พักผ่อนเถอะครับ" คุณพอลถอยห่างออกมาเล็กน้อย "ผมจะรอคุณที่ห้องรับประทานอาหาร... เราจะทานมื้อค่ำด้วยกัน"
PAUL PART
ผมมองดูประตูปิดลงเบื้องหลังโย หัวใจของผมเต็มไปด้วยความปิติที่ได้เห็นไฮยาซินธ์กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของผมอีกครั้ง คฤหาสน์ Ifandis เป็นปราการที่แข็งแกร่งที่สุดที่ผมจะมอบให้เขาได้ มันคือ กรงทอง ที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อปกป้อง สมบัติ ที่ผมตามหามานับพันปี
ผมรู้ว่าโยยังคงสับสน แต่ผมจะอดทน ผมได้รอคอยมานานกว่าที่มนุษย์จะจินตนาการได้ การรอคอยอีกเพียงเล็กน้อยเพื่อสร้างความเชื่อใจนั้นไม่ใช่เรื่องยาก
ผมเดินลงบันได และสั่งการให้หัวหน้าพ่อบ้านเตรียมมื้อค่ำที่เรียบง่ายแต่เป็นมงคล
'พ่อบ้าน เตรียมอาหารค่ำที่ปรุงจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด' ผมสั่ง 'และสำหรับดอกไม้บนโต๊ะอาหาร... ผมต้องการดอกลิลลี่สีขาวเท่านั้น'
ดอกลิลลี่สีขาวสื่อถึงความบริสุทธิ์ของความรัก ผมต้องการให้โยรู้สึกถึงความจริงใจและบริสุทธิ์ใจของผม
ผมเดินไปยังห้องทำงานส่วนตัวทันที ผมต้องการให้แน่ใจว่าการโจมตีทางธุรกิจต่อเจสันนั้นเป็นไปตามแผน
'คุณภัทร สถานการณ์ของเจสันเป็นอย่างไรบ้าง'
'เรียนคุณพอล การโจมตีทางธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างสูงครับ บริษัทคู่แข่งที่เราซื้อหุ้นไป ได้เปิดการฟ้องร้องเจสันในคดีฉ้อโกงที่เกี่ยวกับการทำธุรกิจสีเทาหลายคดี นอกจากนี้ เรายังเผยแพร่ข้อมูลบางส่วนที่ทำให้หุ้นของบริษัทเขาตกลงถึง 30% ในช่วงบ่ายนี้ เขาจะต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ ในการจัดการเรื่องนี้ครับ' ภัทรรายงานอย่างภาคภูมิใจ
"ดีมาก" ผมตอบด้วยรอยยิ้มเย็นชา "ผมไม่ต้องการให้เขาว่างพอที่จะคิดถึงเรื่องอื่นนอกจากความอยู่รอดของตัวเอง"
'นอกจากนี้... คุณแพตทริกโทรมาครับ เขาถามถึงคุณนันทยศ'
"ต่อสายให้ผม" ผมสั่ง
ไม่นานเสียงของแพตทริก น้องชายผมก็ดังขึ้น
“พอล! นายทำอะไรลงไป! นายจู่ ๆ ก็เอาตัวพี่ชายแฟนฉันมาไว้ที่บ้าน แถมยังก่อสงครามกับไอ้เจสันนั่นอีก! ยิมเล่าให้ฉันฟังทั้งหมดแล้ว!” แพตทริกถามอย่างฉุนเฉียว
"นายหมายถึงเรื่องที่ฉันปกป้องคนที่ฉันรักจากอันตรายน่ะเหรอ แพตทริก" ผมตอบอย่างใจเย็น "นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผล แล้วยิม... เขาปลอดภัยดีใช่ไหม"
“ยิมปลอดภัยดี... แต่เรื่องเทพเจ้ากรีกอะไรนั่นมันบ้าไปแล้วนะ! นายกำลังพาตัวเองเข้าสู่เรื่องที่อันตรายนะพี่!”
"ไม่ว่านายจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม... ฉันกำลังปกป้อง ไฮยาซินธ์ ของฉัน และฉันจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมาทำร้ายเขาได้อีก" ผมพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น จนแพตทริกต้องเงียบไป
“ฉัน... ฉันไม่เข้าใจเรื่องนี้ แต่ถ้าโยปลอดภัย... ฉันจะช่วยนาย” แพตทริกยอมอ่อนข้อลง “ฉันจะใช้เครือข่ายของฉันจับตาดูเจสันอีกแรง”
"ขอบใจมาก แพตทริก" ผมรู้สึกถึงความผูกพันในครอบครัวที่ยังคงอยู่ "ฉันต้องการให้นายทำความคุ้นเคยกับโยด้วย... เขาคือคนที่จะอยู่กับเราตลอดไป"
ผมวางสายจากน้องชาย ความมั่นใจของผมกลับมาเต็มเปี่ยม เจสัน ได้ถูกจัดการไปชั่วคราวแล้ว และ ไฮยาซินธ์ ก็อยู่ภายใต้การปกครองของผม
ผมลุกขึ้นยืนและเดินไปที่ระเบียง มองดวงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า พรุ่งนี้... ผมจะได้ต้อนรับ แสงอรุณ ของผมอีกครั้ง
YOH PART
ผมยืนอยู่ที่ระเบียงห้องพัก มองทิวทัศน์ยามค่ำคืนของเมืองที่ดูเหมือนแสงดาวจากที่สูงนี้มันอยู่ใกล้แค่เอื้อม ผมรู้ว่านี่คือชีวิตใหม่... ชีวิตที่ผมเป็น ไฮยาซินธ์ ที่อยู่ภายใต้การปกป้องของ อพอลโล่
ทุกอย่างที่นี่หรูหรา โอ่อ่า และปลอดภัย... แต่ผมรู้สึกเหมือนเป็นนกที่ถูกขังไว้ในกรงทอง
นี่คือสิ่งที่ผมเลือกเอง
ผมเดินกลับเข้ามาในห้อง และมองดูช่อดอกทานตะวันบนโต๊ะ ข้อความที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความจงรักภักดีนั้นทำให้ผมรู้สึกอบอุ่น... และตื้นตันใจ
ผมหยิบชุดเสื้อผ้าที่พนักงานเตรียมไว้ให้ขึ้นมาสวมใส่ (ซึ่งเป็นเสื้อผ้าแบรนด์หรูที่ผมไม่คุ้นเคยเลย) ก่อนจะเดินออกจากห้องและตรงไปยังห้องรับประทานอาหาร
คุณพอลยืนรอผมอยู่แล้วข้างโต๊ะอาหารขนาดใหญ่ ที่ประดับด้วยดอกลิลลี่สีขาวบริสุทธิ์มากมาย
"คุณดูดีมากครับ โย" คุณพอลชมด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรัก
"ขอบคุณครับ" ผมตอบ ก่อนที่เราจะนั่งลงเผชิญหน้ากันบนโต๊ะอาหารที่ยาวเกินไป
"ผมได้แจ้งให้พี่ยี่หวาทราบแล้วว่าพรุ่งนี้จะมีการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ และผมได้มอบหมายให้ภัทรจัดการเรื่องการย้ายของส่วนตัวของคุณ" คุณพอลพูดพลางรินไวน์ให้ผม
"ขอบคุณมากครับ"
"คุณมีคำถามอะไรไหมครับ โย... อะไรก็ได้" เขาถามอย่างเปิดใจ
ผมมองเข้าไปในดวงตาของเขา "เรื่องในอดีตชาติ... มันมีโอกาสที่จะเกิดโศกนาฏกรรมซ้ำอีกไหมครับ"
คุณพอลวางแก้วไวน์ลงทันที ใบหน้าของเขาเคร่งเครียด "ผมขอสาบานต่อพลังแห่งดวงอาทิตย์ว่า... ตราบใดที่ผมยังมีลมหายใจอยู่ โศกนาฏกรรมจะไม่เกิดขึ้นกับคุณอีก ผมจะทำลายทุกอย่างที่จะทำร้ายคุณได้"
คำสาบานนั้นทำให้ผมรู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่และจริงจังของเขา ความหวาดกลัวเริ่มจางหายไป ถูกแทนที่ด้วยความเชื่อใจอย่างสุดซึ้ง
ผมยิ้มเล็กน้อย "งั้น... อพอลโล่... ผมขอให้คุณพาผมไปทำความรู้จักกับ ไฮยาซินธ์ คนนี้ให้ดีขึ้นได้ไหมครับ"
รอยยิ้มของคุณพอลสว่างไสวราวกับดวงอาทิตย์ที่เพิ่งขึ้น "แน่นอนครับ... ยินดีเป็นอย่างยิ่ง"
JASON PART
ผมกลับมาถึงบ้านตัวเองด้วยอารมณ์ที่พลุ่งพล่านราวกับพายุที่กำลังก่อตัว ข่าวสารจากทนายความยิ่งทำให้ความโกรธของผมเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ พอล พีธรธนัส กำลังเล่นงานผมอย่างหนักหน่วงด้วยอำนาจที่เขาควบคุมได้
"มันไม่ยุติธรรม!" ผมตะโกนใส่ผู้ช่วยที่กำลังยืนตัวสั่นอยู่หน้าผม
'คุณเจสันครับ! ถ้าเราไม่หาทางหยุด Ifandis เราอาจจะต้องปิดบริษัท!' ผู้ช่วยของผมกล่าวอย่างหวาดกลัว
"ปิดเหรอ?" ผมยิ้มอย่างบ้าคลั่ง "ไม่มีทาง! ฉันจะไม่มีวันยอมให้ไอ้เทพดวงอาทิตย์นั่นทำลายทุกอย่างที่ฉันสร้างมา! และที่สำคัญที่สุด... มันไม่มีสิทธิ์แย่ง สมบัติ ของฉันไป!"
เสียงในหัวของผม... เสียงของเซฟิรัส มันยิ่งดังขึ้นเมื่อผมโกรธแค้น
เขาขโมยความรักของฉันไป! ครั้งนี้ฉันจะต้องได้มันคืน!
ผมเดินเข้าไปในห้องทำงาน และมองดูรูปปั้นจำลองที่ทำจากหินอ่อน... รูปปั้นของ ไฮยาซินธ์
ผมยื่นมือออกไปสัมผัสรูปปั้นนั้นอย่างหลงใหล "แกคิดว่าแค่กำแพงหินอ่อนกับผู้คุมโง่ ๆ จะสามารถขังแกไว้ได้เหรอ... ที่รัก"
ผมรู้ดีว่าตระกูล Ifandis มีระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา แต่ผมก็มีสิ่งที่พวกเขามองข้ามไป... อำนาจที่มองไม่เห็น
ผมโทรหาคนของผม... เครือข่ายใต้ดิน ที่ผมสร้างขึ้นมาเพื่อจัดการกับงานที่ "สกปรก"
"ฉันต้องการให้พวกแกหาทางเข้าไปในคฤหาสน์ของ Ifandis" ผมสั่งด้วยเสียงกระซิบที่เย็นยะเยือก "ไม่ต้องไปสนใจเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยภายนอก... ฉันต้องการให้พวกแกหาทางแทรกซึมเข้าไปในบรรดาคนงาน หรือพนักงานภายใน... สร้างความวุ่นวาย เล็กน้อยที่ทำให้พวกเขาวางใจ"
'แต่คุณเจสัน... นั่นมันอันตรายมากนะครับ' ลูกน้องคนหนึ่งตอบ
"อันตรายเหรอ?" ผมหัวเราะ "ชีวิตของแกเทียบไม่ได้กับสิ่งที่ฉันต้องการ! ไปทำตามที่ฉันสั่ง! และถ้าใครคนไหนสามารถพา นันทยศ สถิรถาวร ออกมาจากที่นั่นได้... ฉันจะให้รางวัลที่มหาศาลที่สุดเท่าที่แกจะจินตนาการได้!"
ผมวางโทรศัพท์ลง ใบหน้าของผมเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นที่น่ากลัว
พอล ได้พา ไฮยาซินธ์ เข้าไปในกรงทอง... แต่เขากำลังดูถูก ลม ที่สามารถพัดผ่านรอยร้าวเล็ก ๆ ได้เสมอ
สงครามระหว่างแสงและเงาเพิ่งเริ่มต้น... และผมมั่นใจว่าครั้งนี้ เซฟิรัส จะไม่แพ้ อพอลโล่ อีกต่อไป
TBC.
PAUL PARTสามปีผ่านไปนับตั้งแต่การต่อสู้ครั้งสุดท้ายบน เกาะโซลาริส (Solaris Island) และการแต่งงานของเรา โลกทั้งใบของผมเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผมไม่ได้เป็นแค่ อพอลโล่ หรือ พอล พีธรธนัส มหาเศรษฐีผู้ทรงอิทธิพลอีกต่อไป แต่ผมได้เป็น สามี และที่สำคัญที่สุด... พ่อ ของลูกชายที่สมบูรณ์แบบของเราศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ ได้เสร็จสมบูรณ์แล้ว อาคารทรงพิณขนาดมหึมาที่ถูกสร้างขึ้นจากกระจกและเหล็กกล้าสีทองตั้งตระหง่านอยู่กลางเกาะ มันไม่ใช่แค่สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในโลกเท่านั้น แต่ยังเป็น สัญลักษณ์แห่งชัยชนะของความรัก ที่ดึงดูดผู้คนจากทั่วโลกให้มาศึกษาเรื่องพลังงานทางเลือกและสถาปัตยกรรมแห่งอนาคต เกาะทั้งเกาะถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานที่สะอาดและอบอุ่น และดอกไฮยาซินธ์ที่โยปลูกไว้ก็เติบโตอย่างงดงามผมยืนอยู่ที่หน้าต่างในห้องนอนของผมที่คฤหาสน์ Ifandis ในยามบ่ายที่อบอุ่นของฤดูใบไม้ผลิ มองดูสวนที่เต็มไปด้วยดอกไฮยาซินธ์ที่กำลังเบ่งบานอย่างสวยงาม ผมไม่ได้สวมชุดสูท แต่สวมเสื้อผ้าลำลองที่ยังคงดูเนี้ยบตามสไตล์ของผม มือของผมกำลังอุ้ม ลูกชาย ของเราไว้ในอ้อมแขน"ดูสิครับ ไฮยาซินธ์น้อย" ผมกระซิบกับลูกช
YOH PARTหกเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากการวิวาห์ของเรา ช่วงเวลานี้ไม่ใช่แค่การปรับตัวเข้าสู่ชีวิตคู่เท่านั้น แต่เป็นการสร้าง รากฐานใหม่ ที่มั่นคงสำหรับชีวิตนิรันดร์ของเรา คุณพอลไม่ได้เป็นแค่สามี แต่เขาเป็นเหมือน แกนกลาง ที่ให้ความมั่นคงและความมุ่งมั่นในทุกสิ่งที่ผมทำโครงการ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ บนเกาะที่ถูกเปลี่ยนชื่อไปแล้ว กำลังคืบหน้าไปอย่างน่าทึ่ง ชื่อใหม่ของเกาะคือ เกาะแสงอาทิตย์ (Solaris Island) ซึ่งเป็นการตัดสินใจร่วมกันของเราเพื่อเน้นย้ำถึงพันธสัญญาแห่งแสงสว่างของเราผมในฐานะ สถาปนิกแห่งแสง (Architect of Light) เดินทางไปที่เกาะสัปดาห์ละสามครั้ง โดยมีคุณพอลไปกับผมเสมอ การได้ทำงานเคียงข้างเขาในฐานะ หุ้นส่วนชีวิต และ หุ้นส่วนธุรกิจ ทำให้ผมรู้สึกเติมเต็มอย่างที่สุด ผมค้นพบว่าความสามารถในการออกแบบเสื้อผ้าของผมนั้นสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบสถาปัตยกรรมขนาดใหญ่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ โดยเน้นที่การใช้งานของวัสดุ การสะท้อนแสง และความงามของรูปทรงในวันนี้... เราเดินทางมายังเกาะพร้อมกับทีมงานวิศวกรและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับสูง เรากำลังจะติดตั้ง ผลึกควอตซ์ ขนาดใหญ่
YOH PARTชีวิตหลังจากสงครามนั้นไม่ใช่แค่ความสงบสุข แต่มันคือ นิรันดร์ ผมไม่จำเป็นต้องกังวลว่าแสงอาทิตย์จะร้อนแรงเกินไป หรือสายลมจะพัดพาความสุขไปจากผมอีกแล้ว เซฟิรัส ได้ถูกส่งกลับไปยังมิติที่ว่างเปล่า และโลกทั้งใบของผมก็ถูกโอบอุ้มไว้ด้วยความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลงของ พอล พีธรธนัสช่วงเวลาที่รอคอยงานวิวาห์เป็นเหมือนช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความปิติยินดี เราไม่ได้รีบร้อน แต่ใช้เวลาทุกนาทีในการทำความเข้าใจซึ่งกันและกันอย่างลึกซึ้งในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง และในฐานะเทพเจ้าที่ค้นพบความรักที่แท้จริงผมยังคงทำงานเป็นดีไซเนอร์และสถาปนิกอย่างเต็มตัว ควบคุมการออกแบบ ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ไฮยาซินธ์ อย่างใกล้ชิด ซึ่งคุณพอลก็ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ การทำงานเคียงข้างเขาทุกวันทำให้ผมรู้สึกถึงความมั่นคงที่ไม่มีอะไรมาสั่นคลอนได้งานวิวาห์ของเราไม่ได้ยิ่งใหญ่โอ่อ่าตามแบบฉบับมหาเศรษฐี แต่ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่ายและเป็นส่วนตัวในคฤหาสน์ Ifandis ที่ถูกประดับประดาด้วยดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจำนวนมหาศาล ซึ่งคราวนี้เป็นดอกไม้ที่ถูกปลูกในสวนของคฤหาสน์เอง ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของทีมงานพิเศษ เพื่อให้
ณ ดินแดนแห่งตำนานที่ประดับประดาด้วยโอลิมปัสอันตตระหง่านและทะเลอีเจียนสีครามเข้มในส่วนต่างๆ ของเทพเจ้าและมนุษย์ถูกถักทอด้วยใยแห่งโชคชะตาและการนำเสนอเรื่องราวหนึ่งที่ยังคงดำเนินต่อไปหัวใจของผู้คนตลอดหลายยุคสมัยคือตำนานความรักแต่โคโลราโดนาฏกรรมระหว่างอพอลโล (Apollo) สุริยเทพผู้เจิดจรัสและไฮยาซินทัส (Hyacinthus) เจ้าผู้ปกครองแห่งสปาร์ตา ผู้นำรูปงามเหนือมวลมนุษย์บทที่ 1: การจุติของการทำเช่นนั้นเพื่อเป็นที่รัก1.1 อโล่พอล: เทพแห่งความสมบูรณ์แบบพอลต่อหน้าพระเจ้าและเป็นผู้นำที่เคารพที่สุดแห่งโอลิมปัสพื้นฐานโอรสของเทพซุสและเทพีลีโตเป็นพี่ชายของเทพีอาร์เทมิสในตำแหน่งของเขานั้นศูนย์กลางแห่งการเชื่อมต่อในดนตรี กวี หลังคาเหล็ก การแพทย์ และคำทำนายที่วิหารเดลฟีดูแลของเขาในอินดัจเทพบุตรในเครื่องแบบของเกรย์ผู้นำสายการบินสีทองสว่างไสวราวกับรัศมีแห่งดวงตะวัน ตัวตนของเขาคือความโดดเด่นที่เป็นผู้นำได้เป็นแหล่งที่มาของแรงบันดาลใจและศิลปะทุกแขนงแต่ภายใต้ความสมบูรณ์แบบอันไร้ที่ติ อพอลโล่ก็มีความอ่อนไหวและความรักใคร่เยี่ยงเทพและมนุษย์ทั่วไป1.2 ไฮยาซินทัส: ร้านพิซซ่าแห่งสปาร์ตาณ ดินแดนสปาร์ตา ดินแดนแห่งนักร
YOH PARTผมถูกยัดเข้าไปในรถตู้สีดำอย่างรุนแรง ความรู้สึกสิ้นหวังถาโถมเข้าใส่เมื่อผมเห็นใบหน้าของ เจสัน หรือ เซฟิรัส ที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งและโทสะที่ระงับไม่อยู่ เขานั่งอยู่ข้าง ๆ ผมในรถตู้ที่แล่นออกไปอย่างรวดเร็วราวกับจะฉีกอากาศ"ปล่อยผมไปนะเจสัน! คุณทำอย่างนี้ไม่ได้!" ผมตะโกนใส่เขา พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่เหลืออยู่เจสันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียงหัวเราะของเขาแหบแห้งและเต็มไปด้วยความวิปลาส "ไม่ได้เหรอ ไฮยาซินธ์? แกคิดว่าไอ้เทพดวงอาทิตย์ของแกจะทำลายฉันได้ง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ! เขาทำลายฐานของฉัน! แต่ฉันก็ทำลาย สัญลักษณ์ ที่เชื่อมแกไว้กับเขาแล้ว!" เขาชี้ไปที่คอของผมที่ว่างเปล่า"คุณทำลายแค่จี้!" ผมสวนกลับด้วยความโกรธแค้น "คุณทำลายความรู้สึกของผมที่มีต่อเขาไม่ได้! ผมรักคุณพอล! ผมเลือกที่จะอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ของเขา!"คำพูดนั้นทำให้ใบหน้าของเจสันบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บปวดและความริษยาที่รุนแรงกว่าการโจมตีทางกายภาพใดๆ "โกหก! แกต้องรักฉัน! แกต้องอยู่กับ ลม! ฉันเป็นคนพาแกออกไปจากแสงอาทิตย์ที่น่าเบื่อของเขาเอง! เขาคือผู้ควบคุม! ส่วนฉันคืออิสรภาพ!""คุณไม่ได้พาผมออกไป! คุณพยายามจะฆ่
YOH PARTหลังจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เซฟิรัสโจมตีคฤหาสน์ด้วยพลังงานลมที่มองไม่เห็น ทำให้ระบบไฟฟ้าและระบบเตือนภัยของบ้านเสียหายอย่างหนัก แม้ดอกไฮยาซินธ์สีม่วงจะถูกทำลายทั้งหมด แต่จิตใจของผมกลับแข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาดผมไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวอีกต่อไป ความโกรธแค้นของเซฟิรัสทำได้เพียงแค่ตอกย้ำความมุ่งมั่นของผมที่จะปกป้อง อพอลโล่ และ ความรัก ของเรา"เขาทำลายดอกไม้ได้ แต่เขาจะทำลายความคิดของผมไม่ได้หรอกครับคุณพอล" ผมยืนยันกับคุณพอลในสตูดิโอตัดเย็บส่วนตัวของเราคุณพอลในชุดสูทสีเทาเข้มที่ผมตัดเย็บให้ ยืนกอดอกมองผมด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความเชื่อมั่นและเสน่ห์ที่ยากจะต้านทาน"ผมรู้ครับ โย" เขาตอบ "พลังของ เซฟิรัส คือการสร้างความวุ่นวายทางจิตใจ แต่คุณได้แสดงให้เขาเห็นแล้วว่าคุณคือ แสงสว่าง ที่ไม่สามารถดับได้""เราต้องสร้าง ศูนย์วิจัยพลังงานแสงอาทิตย์ บนเกาะเซฟิรัสให้เร็วที่สุดครับ" ผมพูดอย่างกระตือรือร้น "มันจะไม่ใช่แค่อาคาร แต่จะเป็น สัญลักษณ์ ที่จะประกาศให้เขารู้ว่า ยุคแห่งแสงอาทิตย์ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว"ในช่วงสองสัปดาห์ถัดมา ผมทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับโครงการนี้ ผมได้กลายเป็น สถาปนิกแห่งแสง







