Episode 29
ขอเวลา
หลังจากได้ฟังฉันบอกรักมันก็กดยิ้มมุมปากแล้วทำหน้านิ่งหน้าตายต่อ แต่ฉันดันต้องมานั่งครุ่นคิดเกี่ยวกับการกระทำของมัน
ทุกคนต่างเฮฮา ส่วนฉันก็ด้วย ทว่าความสงสัยนั้นยังไม่หายไป วันนี้กลับไปเราต้องคุยกันสักหน่อย
“ฮีลมานี่เซ้~” ฉันตบเตียงเบา ๆ ทั้งที่นั่งโงนเงนจะหลับอยู่รอมร่อ แต่อีกใจก็อยากคุยกับมันให้รู้เรื่อง
“อือ”
“ทำไม...อึก...” สะอึกไปแป๊บหนึ่งก่อนจะพยายามมองตามันเพื่อจับเท็จ “เกมหมุนขวดนั่นทำเพื่ออะไร”
“อยากฟัง” มันก็ตอบตรง ๆ อะนะ แต่ออกไปทางกวนตีนหน่อย ๆ
“อยากฟังเพราะต้องการแกล้งหรือต้องการรักกก ฮื้ออ”
เงียบไปอึดใจเดียว “คิดว่าไง” ถามหยั่งเชิงแล้วก็ถอดเสื้อที่เลอะเหล้าออก ปล่อยท่อนบนให้เปลือยเปล่าแล้วมองตาฉันหลังโยนเสื้อเน่า ๆ นั้นทิ้งไปอย่างไม่ไยดี
“พูดความจริงนะ”
“ถ้ารับความจริงไม่ได้เธอจะทำยังไง” ทางเดียวที่ฉันจะรับความจริงไม่ได้คือการที่มันบอกรักฉัน ดังนั้นจึงยกมือห้ามก่อนจะผลักมันออก เพื่อสื่อสารว่าไม่ต้องการที่จะฟังต่อแล้ว
“ไม่ต้องพูดละ ออกไปได้แล้ววววว”
“ฉันจะนอนนี่”
“ไม่ให้นอนนน” อ่า! ปวดหัวชะมัด แต่ยังต้องมาต่อปากต่อคำกับคนพูดไม่รู้เรื่องอีก
“และฉันจะพูด” มึนสุดก็มันนี่แหละ เวลานี้ตอนนี้ฉันเข้าใจสิ่งที่น้องฟางมันจะสื่อโดยที่ไม่ต้องพิสูจน์อะไรทั้งนั้น เพราะอีกไม่นานมันก็คงจะพูดออกมา
“แต่ฉันไม่อยากฟัง ฉันรู้ว่านายจะพูดอะไรแต่ฉันไม่อยากฟัง!” พยายามบ่ายเบี่ยงอย่างถึงที่สุด ในขณะที่ร่างตัวเองกำลังเอนตัวลงกับเตียง
โอ้! ให้ตาย ฉันเมา มากด้วย...
อยากจะผลักมันออกไปให้ไกลแต่ก็ทำได้เพียงแค่นอนบ่นงึมงำ “อึก...หยุดนะ ถ้านายพูดออกมาเราเลิกเป็นเพื่อนกันนนน”
ฉันเคยคิดว่าถ้าจบความสัมพันธ์ Friends With Benefits แล้วเรายังสามารถเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่หากมันหลุดคำนั้นออกมาฉันก็ไม่รู้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อ
“ฉันรักเธอมินนี่” แล้วในที่สุดมันก็พูดออกมา
อ๊ะ! โคตรหนัก รับรู้ว่าร่างกายตัวเองถูกทับโดยร่างหนาก็เบ้หน้าออกมา ลมหายใจกรุ่นร้อนที่เป่าไล่ยาวมาถึงลำคอสูงขึ้นไปจนถึงใบหูสร้างความกระสันให้กับฉัน
บ้าจริง เวลาเมาแล้วติดง่ายตลอด
“เลิกเป็นเพื่อนกับฉันไปเลย เพราะตอนนี้ฉันจะเป็นผัวเธออย่างเดียว” น้ำเสียงพร่ากระซิบข้างหู ทำฉันอยู่ไม่สุขจนมือที่พยายามจะดันมันออกก็กลายเป็นลูบไปทั่วแผ่นหลังเปลือยเปล่า
“ม่ายยย” ตลกตัวเองฉิบ พยายามที่จะปฏิเสธมันแต่มือไม้กลับเงอะงะ
“อึก...ฉะ...ฉันจะอ้วก” จากตอนแรกที่อยาก ความอยากจะอ้วกก็ดึงความรู้สึกนั้นออกไปหมด
“เดี๋ยวพาไปอ้วก” แล้วร่างของฉันก็ลอยหวือ โอ้ว คราวนี้แย่ยิ่งกว่า อาการคลื่นเหียนตีรวนขึ้นมาจนจุกอยู่ที่ลำคอ ฉันพยายามอดทนอย่างถึงที่สุดและสุดท้ายความอดทนนั้นก็เป็นผล
จนมันพาคนเมาอย่างฉันมายังห้องน้ำได้ทันเวลา
“ฮีล...” ในตอนที่โดนอุ้มมาอาบน้ำก็เรียกชื่อมัน คนที่อยู่ในอ่างเดียวกันจึงเงยหน้าขึ้น นัยน์ตาคู่คมสื่อความลึกซึ้งออกมาแล้วใช้มือที่กำลังลูบไล้ร่างกายฉันมาประคองใบหน้าเกลี้ยงเกลาแทน
“ครับ...เมีย” ประโยคเดียวกันเด๊ะกับเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนดังออกมาจากปากมัน ก่อนที่ริมฝีปากสีคล้ำอย่างคนที่ชอบสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจจะประกบเข้าปากฉัน
“ไม่เอา ไม่เอาแบบนี้” ฉันว่า ส่ายหน้าไปด้วย
ฉันรับไม่ได้จริง ๆ รับความรู้สึกของมันไม่ได้
“ไม่สน จะเอา” ว่าแล้วก็อ้อมมือเข้ามาโอบกอดแล้วรั้งร่างของฉันให้ซุกลงกับอ้อมอก ก่อนอุ้มฉันให้ลอยหวืออีกครั้ง เช็ดตัวให้จนแห้ง แล้วดึงร่างของฉันนอนลงบนเตียง
“ลองดูสักครั้งไหม คบกับฉันสักครั้ง”
“ฉันเด็ดนะ”
“หล่อด้วย”
“รวยด้วย”
“แล้วฉันก็รักเธอมาก”
ได้ยินนะ ได้ยินชัดทุกถ้อยคำแต่ความง่วงกลับเล่นงานจนฉันต้องปิดเปลือกตาลง แล้วเข้าสู่ห้วงนิทราในอ้อมกอดมัน
“อ่า...ปวดหัวชะมัด”
ตื่นมาพร้อมกับอาการปวดหัวอย่างหนักหน่วง จึงยกมือขึ้นนวดคลึงขมับก่อนควานมือไปหาน้ำเปล่าที่ตั้งอยู่บนหัวเตียงมาดื่ม
คนที่เพิ่งบอกรักฉันยังไม่ไปไหน มันยังนอนฝันหวานอยู่ข้าง ๆ ฉันนี่แหละ
เอาจริงนะ ตอนนี้ฉันทำตัวไม่ถูกเลย มันเป็นเพื่อนสนิทฉันเลยนะเว้ย! สนิทกันมาแต่ไหนแต่ไร เคยพึ่งพามันมาแต่ไหนแต่ไร จะให้เลิกเป็นเพื่อนกันมันก็ยากอยู่
แต่ฉันรับความรู้สึกฮีลไม่ได้จริง ๆ
“หิวไหม” ฮีลลุกขึ้นมากอดฉัน ก่อนเลื่อนมือขึ้นมากอบกุมเต้าอวบ
ทะลึ่งตลอด! เรื่องเซ็กซ์มันเอาแต่ใจ แต่ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมมันอีกแล้ว
“พอเถอะ! นายไม่มีสิทธิ์แตะต้องร่างกายฉัน”
“...” มันเงียบ มือที่ตะปบหน้าอกเคลื่อนต่ำลงมาถึงเอวแล้วออกแรงกระชับแน่น ปลายจมูกไล้ไปตามผิวแก้มของฉันแล้วคลอเคลียเล่นอยู่อย่างนั้น
ขึ้นชื่อเรื่องความเย็นชา แต่เพิ่งรู้ว่ามันหน้าด้านด้วยก็คราวนี้แหละ
เฮ้ออออ ถอนหายใจใส่ซะเลย
“ฟังทันหรือเปล่า เรื่องเมื่อคืน”
อันไหนอะ ที่มันอวดสรรพคุณอะเหรอ
ฉันเด็ดนะ
หล่อด้วย
รวยด้วย
หรืออันที่มันพูดคำต้องห้าม
แล้วฉันก็รักเธอมาก
ทันสิ ไม่ว่าประโยคไหนก็ทันหมดแต่ฉันไม่อาจรับความรู้สึกนั้นได้จริง ๆ “เราหยุดเถอะ ฉันทำไม่ได้”
“อย่าปิดกั้น เธอขาดฉันไม่ได้หรอก”
“ฉันขาดเซ็กซ์ไม่ได้ต่างหาก” เถียงกลับไปแทบจะทันทีแบบไม่ต้องคิด
“อย่าโกหกฉัน คนอย่างเธอที่ปิดกั้นความรู้สึกเก่งคงได้แต่หลอกตัวเอง ฉันเป็นผัวเธอนะ ฉันรู้มาตลอด”
“...” รู้อะไร มันจะมารู้ดีกว่าฉันได้ยังไง
“เธอหลงฉันจะตายมินนี่” ไม่ใช่
“ทั้งแอบหึงฉัน” ไม่ใช่!
“ติดร่างกายฉัน” ไม่ใช่!
“ติดกอดฉัน” ไม่ใช่!
“ติดจูบฉัน” ไม่ใช่!
ไม่ใช่! ที่ตอบตัวเองในใจไปก่อนหน้านั้นคือฉันโกหก ฉันติดร่างกายของมัน ติดกลิ่น ติดกอด ติดจูบ แล้วยังเคยหวงที่มีดาวมหา’ลัยมาจีบอีก
ปิดกั้นตัวเองเหรอ?
“หันหน้ามานี่สิ” ค่อย ๆ หันหน้าไปมองมัน สบนัยน์ตาคมก็รับรู้ถึงความรักที่ฮีลมีให้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฮีลสื่อออกมาแบบไม่ปิดบัง “คำนั้นถ้าเธอพูดมันออกมาโดยที่ฉันไม่ต้องสั่งก็คงจะดี”
เราสองคนประสานสายตากัน ก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะแตะเข้ากับริมฝีปากของฉันแล้วส่งจูบที่หวานหยดย้อยและนุ่มนวลให้ เนิ่นนานกระทั่งฉันที่นั่งตัวแข็งยอมให้มันจูบแล้วยังเผลอไผลจูบตอบมันกลับไป จนถึงช่วงเวลาที่ต้องผละปากออกก็ยังรู้สึกเสียดาย
“ตอบสิ ตอบว่าจูบเมื่อกี้เธอไม่ได้รู้สึกอะไร”
“ไม่...” ฉันตอบด้วยความสับสน เอาจริงนะ ก็อย่างที่มันบอกเลย ฉันปิดกั้นจนแยกไม่ออกแล้วว่าความรู้สึกที่มีต่อมันคืออะไรกันแน่
“ฉันขอเวลา!”
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น