Episode 52
จูบมัดจำ
“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้าย
แต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อน
เพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน
“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้า
เฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่ม
เป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย
“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”
“แก!”
“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”
ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำ
สงสารนะ แต่ผู้ใดกระทำผิดผู้นั้นย่อมต้องรับผลกรรม
“บุษ...” เสียงทุ้มโทนนุ่มของพ่อเรียกชื่ออดีตเมียตัวเอง พร้อมทั้งเดินเข้ามาใกล้คล้ายมีอะไรอยากจะพูด ทว่าท่านก็หันมาพูดกับฉันก่อน “พ่อแวะมาหาน่ะ”
ฉันพยักหน้าให้ เป็นเชิงว่าให้พ่อคุยกับเธอเถอะ
“บุษ...”
“คุณคะ คุณ...” แม่มิรินคลานเข่าเข้าไปหา เกาะที่สองขากำยำของอดีตสามีตนเอง “ช่วยมิริน ช่วยมิรินที”
“ฟังผมนะ” พ่อทรุดกายลงกับพื้น คุกเข่าแล้วตบบ่าของเธอเบา ๆ “ถ้าคุณรักลูก คุณต้องให้ลูกได้มีเวลาสำนึกผิด คุณต้องให้มิรินได้เรียนรู้บทเรียนที่ตัวเองทำไว้”
“คุณ...ฮืออออ”
“ผมรักมิรินนะ รักเหมือนลูกคนหนึ่งเลย” เมื่อพ่อพูดถึงตอนนี้ฉันก็เบือนหน้าหนี ฉันไม่ได้น้อยใจอะไรพ่อแล้วแหละ และพอเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว
พ่อรักมิรินและรักฉันด้วย แต่การที่ท่านเอาใจมิรินมากกว่าเป็นเพราะยัยเด็กคนนั้นดูไร้เดียงสา อ่อนโยน และบอบบาง การเลี้ยงดูจึงแตกต่างกัน วันแรกที่สองคนนั้นเข้ามาอยู่ในบ้านฉันจดจำแววตาหวาดหวั่นของมิรินได้ดี
ฉันเพิ่งเข้าใจเรื่องนี้ก็ในตอนที่ไปบ้านฮีลเมื่อวันก่อนนี่เอง แม่ฮีลเองก็เลี้ยงพี่ฮัทกับไอ้ฮีลแตกต่างกัน แต่เพราะไม่มีปัจจัยอื่น ๆ มาเป็นตัวแปรร่วม ครอบครัวของฮีลเลยอยู่กันอย่างเข้าใจ
“ฉะ...ฉันเสียใจ ฉันเสียใจ”
ฟังแค่นั้นฉันก็ปลีกตัวออกมา อาหารที่กำลังจะทานก็ดันกลืนมันลงท้องไม่ลง เพราะจู่ ๆ ก็รู้สึกหดหู่ วูบหนึ่งฉันแอบรู้สึกเสียใจที่ทำลายอนาคตของมิริน แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้น จิตใจด้านเลวมันก็บอกกับฉันว่าตัวเองทำถูกแล้ว
คนเลวต้องได้รับผลกรรม
ฉันขึ้นคอนโดแล้วใช้น้ำเย็น ๆ ช่วยปลอบประโลม หลังไถตัวลงในอ่างอาบน้ำก็รู้สึกสงบขึ้น สัมผัสได้ถึงอะไรอุ่น ๆ ตรงไรผมในตอนที่ยันตัวลุกขึ้นจากมวลความชุ่มฉ่ำ
ยกมือลูบหน้าตัวเองแล้วลืมตามอง เห็นร่างสูงกำลังนั่งอยู่ก็รู้ว่าตัวเองโดนขโมยจูบ
“นิสัยไม่ดี มาขโมยจูบคนอื่น”
“หวง?”
ฉันส่ายหน้า แต่ที่พูดออกไปแบบนั้นเพราะจูบนั้นทำให้ฉันตกใจอยู่เล็กน้อยต่างหาก นึกว่ามีแมลงอะไรตกลงมาใส่เสียอีก
“อือ คุณเมาส์คงไม่มีสิทธิ์หวง” ฮีลตอบ กดยิ้มมุมปากเล็กน้อยแล้วพูดต่อ “หวงกับคนที่จูบทุกส่วนมาแล้วแบบนี้ไม่ได้นะ”
เกลียด เกลียดท่าทางหยอดให้เขินแบบนั้นของมัน ทำหน้านิ่ง ๆ มากสุดก็แค่กระตุกยิ้มมุมปากแล้วพูดให้ใจเต้นแรง
“ตอนนี้ก็อยากจูบ” อยากจูบแล้วทำไมไม่เข้ามาล่ะ “แต่พ่อคุณเมาส์รออยู่”
“งั้นถ้าพ่อกลับจะมาให้จูบ”
ว่าแล้วก็หยัดกายลุกขึ้นจากน้ำ ถึงจะเขินหน่อย ๆ แต่ไม่มีทางที่ฉันจะบิดตัวม้วน ไม่มีทางที่จะแสดงอาการเก้อ ๆ ให้มันเห็นมากมายจนได้ใจไปหรอก
ซงจุงกิอะพระเอก แต่ซงจุงฮีลมันตัวร้าย ดังนั้นฉันจะไม่มีทางทำให้แฟนตัวร้ายของตัวเองได้ใจเป็นอันขาด
“อ๊ะ!” ฉันร้องออกมาเมื่อถูกรวบตัว ก่อนถูกผลักให้หลังชิดกำแพง “อะไรเนี่ย!”
“ขอวางมัดจำหน่อย”
“มัดจำอะไร” มุ่นคิ้วขึ้นอย่างงุนงงในท่าทางเจ้าเล่ห์ของฝ่ายนั้น ฉันไม่ใช่สินค้าที่จะมีค่ามัดจำสักหน่อย
ปลายนิ้วอุ่นไล้เบา ๆ ตรงเรียวปากของฉัน ฮีลก้มตัวลงมา ใช้ริมฝีปากตัวเองทาบทับกับริมฝีปากบางเบา ๆ หนึ่งหน กดเบา ๆ ตรงนั้นแล้วผละออกไป เว้นช่วงให้ฉันได้หายใจเพียงแค่สองวิเห็นจะได้ก็ทาบลงมาซ้ำจุดเดิม พร้อมแทรกเรียวลิ้นเข้าไปด้านใน
กลิ่นปากของฮีลหอมหวานมากขึ้นเป็นเท่าตัวเมื่อไร้รสบุหรี่ ฉันจึงค่อย ๆ ขยับตอบอย่างเคลิบเคลิ้ม
ฮีลยังไม่ได้เลิกบุหรี่นะ แต่กำลังพยายามอย่างหนักมากเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของฉัน และฉันก็เห็นว่ามันทำได้ดีเพราะนี่ก็เกือบจะบ่ายแล้ว แต่ปอดก็ยังบริสุทธิ์ ไม่ได้สูดนิโคตินเข้าปอดไปสักนิดเดียว
“พอใจยัง” หลังจูบเนิ่นนานฉันก็เอ่ยถาม
อะไรคือการใช้จูบมัดจำจูบ เจ้าเล่ห์จริง ๆ
“ยัง แค่นี้ยังน้อยอยู่” ทั้งที่จูบฉันอย่างสนุกปากเนี่ยนะ จูบกันจนเคลิ้ม ไล้ฝ่ามือยุ่มย่ามไปทั่วร่างกายฉันขนาดนี้ยังมาบอกว่ายังอีก
“ของจริงต้องโดนจูบทุกสัดส่วน”
ปึก!
ออกแรงทุบที่ลาดไหล่อย่างแรงหนึ่งหนทันทีเมื่อได้ยินคำนั้น “ถอยออกไปก่อน อย่าลืมว่าพ่อรออยู่”
“มีแรงแค่นี้เหรอคุณเมาส์”
“แล้วจะให้แรงแค่ไหน”
“แรงแบบที่ทำให้ฉันคิดว่าคุณเมาส์ปฏิเสธมันจริง ๆ” โอ๊ยยยย! เกลียด ฉันกรีดร้องกับคำพูดของฮีลอยู่ในใจ
“ฉันไม่ได้อยากจะปฏิเสธสักหน่อย แต่แค่บอกให้หยุดก่อน ถ้าขืนนายยังไม่ปล่อยฉันตอนนี้ฉันจะป้อนจูบนายด้วยตัวเองแทน”
“หึ” คำตอบนั้นทำให้อีกฝ่ายอมยิ้มออกมาพลางหัวเราะในลำคอ “ไปเถอะ ไม่งั้นฉันจะอดใจไม่ไหว”
แล้วก็ค่อย ๆ คลายอ้อมกอดให้ฉันได้ไปแต่งตัว ก่อนเดินออกมาหาพ่อที่นั่งรออยู่ตรงห้องรับแขก
“มินนี่”
“คะ”
“ลูกโกรธพ่อหรือเปล่า” พ่อถามด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล ท่านอาจจะคิดว่าฉันรู้สึกไม่ดี จึงได้หนีขึ้นคอนโดก่อนทั้งที่พ่อมาหา
“ไม่โกรธค่ะ” ก็อย่างที่บอกไว้ เวลานี้ฉันเข้าใจความรู้สึกของพ่อแล้ว
“มินไม่โกรธพ่อแล้วล่ะ เพราะมินเข้าใจหมดทุกอย่างแล้วว่ามิรินไม่ได้แย่งความรักของพ่อไป”
“มิน ลูก...”
“ยัยเด็กคนนั้นน่ะบอบบางและต้องการความเอาใจใส่เป็นพิเศษพ่อถึงได้แสดงออกมากกว่า ผิดกับหนูที่เป็นคนแข็งกระด้าง”
“ขอบคุณที่ลูกเข้าใจนะ พ่อรักมินมากจริง ๆ”
“ค่ะ...” เวลานี้ฉันไม่กล้าพูดคำว่ารักกับพ่อด้วยซ้ำ จึงเม้มปากแน่นแล้วนั่งลงข้าง ๆ เขา
“พ่อเองก็ทำเรื่องผิด ๆ ไว้เยอะ มินถึงได้เป็นแบบนี้” เราไม่ได้คุยกันสองคนอีกต่อไปแล้ว เพราะตอนนี้ร่างสูงก็กำลังเดินเข้ามาท่ามกลางบทสนทนาของเราสองคนพ่อลูก พร้อมทั้งทรุดกายลงฝั่งตรงข้ามฉัน
“พ่อดีใจที่ฮีลรักลูกสาวของพ่อนะ”
“ครับ...ผมรักเธอมาก” รับรู้ถึงความจริงใจของอีกฝ่ายเมื่อได้เห็นแววตาจริงจังไม่มีเล่น ซึ่งมาพร้อมกับน้ำเสียงหนักแน่น
“พ่อขอโทษจริง ๆ นะลูก แต่...”
“แต่อะไรคะ หวังว่าพ่อคงไม่อยากกลับไปหาแม่อีกนะ”
“พ่อ...” ท่าทางอ้ำอึ้งทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองต้องเดาไม่ผิด ก่อนที่พ่อจะก้มหน้าลงเหมือนหนักใจมาก ๆ
ก็ท่านเคยรับปากฉันไว้แล้วนี่นา
“หนูไม่เอาเรื่องของพ่อมาปิดกั้นตัวเองอีกต่อไปแล้ว ส่วนเรื่องพ่อกับแม่ หนูก็ไม่อยากบังคับอะไรใครหรอกค่ะ ปล่อยให้แม่ตัดสินใจเอง”
รอยยิ้มของพ่อไม่ได้กว้างเสียทีเดียว เพราะตอนนี้แม่กำลังมีรักครั้งใหม่
ฉันรู้ว่าพ่อกำลังจับตาดูแม่อยู่ห่าง ๆ
เรื่องนี้ฉันสังหรณ์ใจไปเองก็จริง แต่เพราะก่อนหน้านั้นพ่อก็แอบตามดูฉัน แล้วมันจะไม่แปลกไปหน่อยเหรอหากเขาไม่ตามดูอดีตภรรยาของตัวเองที่เคยผูกพันกันมาเนิ่นนาน
มันเป็นสิ่งที่เขาควรได้รับมานานแล้ว ความรู้สึกเจ็บที่รู้ว่าคนที่ตัวเองรักกำลังมีใจให้คนอื่นน่ะ แต่เรื่องของพ่อกับแม่มันต่างกัน ก็ตรงที่แม่ไม่ได้นอกใจพ่อ
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น