Episode 50
โอกาสแก้ตัว
พลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถาม
สีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย
“มีอะไรเหรอ”
“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย
“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”
“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ
“ไม่มีอะไรหรอก”
“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”
“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย
“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”
“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่นออกมาหลังได้ยินคำอธิบาย อะไรอะ นึกว่าจะมีความหมายน่ารัก ๆ เสียอีก
“มินนี่ ชื่อนี้คนเรียกบ่อยแล้ว มันดูไม่พิเศษ ฉันอยากเป็นคนพิเศษ”
“เกลียดนายได้ไหม ทำไมช่วงนี้พูดเก่งจัง”
“อยู่ในช่วงทำให้เมียรักเมียหลงไง”
“หืม” ฉันยิ้มออกมา ถึงแม้ความหมายของประโยคนั้นจะสื่อว่ารักของเราอยู่ในช่วงโปรโมชัน หมดโปรแล้วทุกอย่างอาจจะน้อยลงกว่าเดิม แต่เพราะท่าทางหน้านิ่ง ๆ ลักษณะดูซื่อ ๆ แบบนั้นทำให้เอ็นดู “แค่นี้นายยังไม่พอใจอีกเหรอ” จริง ๆ ฉันว่าฉันเองก็แสดงออกไปเยอะเหมือนกันนะ หากเทียบกับแต่ก่อนก็นับว่ามากขึ้นเป็นกองเลยแหละ
“ไม่ กับเธอยังไงก็ไม่รู้จักพอหรอก” คำนี้หมายความว่ามันจะจัดโปรตลอดไปใช่ไหม เดี๋ยวนี้มันชักจะรังแกฉันไปใหญ่แล้ว ชอบมาทำให้ใจเต้นแรง ถ้าหัวใจวายขึ้นมาจะทำยังไง จะรับผิดชอบยังไง
“ไอ้บ้าเอ๊ย!” ฉันแก้เก้อโดยการยกมือขึ้นไปยีเส้นผมสีเทาเล่นเบา ๆ อย่างมันเขี้ยว
พูดเลยว่าตกหลุมรักแฟนตัวเองรอบที่ร้อย
“เรื่องนั้นคงต้องลองคุยกับพี่คลาสอีกรอบ ให้เขาช่วยพูดหน่อยเผื่อเป็นแบบที่นายว่า”
“คงต้องงั้น”
“อือ”
“นอนได้แล้ว” ถูกดันให้พลิกกายนอนหงาย ปรับท่าทางให้อยู่ในท่าสบาย ๆ แล้วคนข้าง ๆ ก็บอกให้ฉันพักผ่อน เนื่องจากวันนี้ทั้งวันเราเครียดกันมามากพอแล้ว ทั้งติดต่อตำรวจเรื่องคดีชนแล้วหนีของมอเตอร์ไซค์คันนั้นที่เข้ามารับเคราะห์แทน พร้อมทั้งพยายามให้มันเป็นข้อพิพาทระหว่างเจ้าของรถยนต์บีเอ็มกับฉัน ผู้ที่เกือบจะถูกชน
“ฝันดีนะ” ยืดใบหน้าขึ้นไปจูบเบา ๆ ตรงพวงแก้มของอีกฝ่าย ก่อนที่ฉันจะรับสัมผัสอุ่นตรงไรผมเป็นสิ่งตอบแทนในเวลาถัดมา
“ฝันดีครับคุณเมาส์”
ช่วงบ่ายของอีกวัน...
เราเข้ามาหาพี่คลาสที่โชว์รูมรถบิ๊กไบก์หลังจากเลิกเรียน พร้อมทั้งอธิบายเรื่องที่กำลังเป็นกังวล พี่คลาสรับปากว่าจะช่วยจัดการให้ จากนั้นก็มานั่งทานข้าวกัน
“เรื่องไอ้เก่งพี่จัดการไปบ้างแล้ว ส่วนเรื่องคลิปตอนนี้มันน่าจะคิดว่าถูกทำลายไปแล้ว คงชะล่าใจและคิดว่าจะจบที่การโดนอัด!”
“ขอบคุณค่ะ ว่าแต่เจ็บหนักไหมคะ”
“คิดว่าไงล่ะ” ถึงคำถามนี้ฉันก็ปรายตามอง พี่คลาสเป็นผู้ชายที่ดาเมจรุนแรงมาก ทั้งเนื้อทั้งตัวหนั่นแน่นและเต็มไปด้วยรอยสัก กร๊าวใจอีมินนี่สุด ๆ อะ หากว่าเราไม่ใช่พี่น้องกันฉันคงแอบเลียปากไปแล้ว
กับพี่เก่งไม่ต้องสืบเลย คงกระอักเลือดออกมาเป็นลิตรแน่ ๆ
“อะ...แฮ่ม!” รอยยิ้มของฉันหวานเกินไปจนคนข้าง ๆ กระแอมไอใส่ ไรนัก! ฉันแค่ยิ้มให้พี่ชายตัวเองไหมล่ะ
“อะ ถ้ามีอะไรติดคอก็รีบกลืนมันลงไป” ประชดประชันเสร็จก็ยื่นแก้วน้ำไปให้ หวงเกินเบอร์จริงนะ ไอ้คนนี้!
“หึ!” พี่คลาสสบถในลำคอตอนหันไปมองฮีล “พี่จัดการเรื่องคลิป ส่วนเรื่องมิรินเราก็จัดการกันไปนะ”
“แน่นอนค่ะ มินต้องลากคอมันออกมาจากที่ซ่อนให้ได้”
“ทำเก่งจังนะเราอะ”
“อีกไม่นานมันต้องออกมาแน่ อีกไม่นาน” ฉันกัดฟันพูดอย่างอดกลั้นเมื่อนึกถึงมัน ก่อนส่งเข้าคุกก็อยากมีเวลาสักห้านาทีให้ตัวเองได้เอาคืนสักนิดสักหน่อย
“ช่วงนี้มิรินอาจจะซ่อนตัวอยู่ แต่เราเผลอเมื่อไหร่มันออกมาแน่”
“ค่ะ”
คุยกับพี่คลาสต่ออีกหน่อยโดยที่ฮีลมันนั่งฟังอยู่เงียบ ๆ ตามนิสัย ก่อนจะลากลับในเวลาต่อมา ทว่าไม่ได้กลับไปที่คอนโดหรอก เราออกตามหาที่อยู่ของมิรินเพราะอยากช่วยตำรวจอีกแรง
อย่างมันอะ ถ้าไม่รีบจัดการคงได้กลับมาลอบทำร้ายฉันอีกแน่ ๆ
“เฮ้อออ เหนื่อย ทำไมอีพวกนี้ถึงได้ปกป้องเพื่อนตัวเองจัง ทั้งที่มันทำผิดขนาดนั้น” ฉันถามที่อยู่จากเพื่อนมิรินจนเหนื่อยแล้ว อยากรู้เหลือเกินว่ามันไปซุกหัวอยู่ที่ไหน
“ไปพักกันเถอะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว”
“เสียใจ นายคงไม่ได้พัก ไอดีมันตั้งวงเหล้าอีกแล้ว เตรียมทุกอย่างรอแล้วด้วย”
“ดีเลย อย่างนี้เธอยิ่งมีแรง”
เพียะ!
ฉันตีแขนมันแรง ๆ นี่มันจะบอกว่าฉันขี้เหล้าใช่ไหม
“อย่าตีฉันถ้าฉันพูดความจริง” คนข้าง ๆ กวนตีนหน้านิ่ง นั่นทำให้ฉันพูดไม่ออกไปเลยทีเดียว ก็จริงแหละ เวลานี้หากได้เหล้าเข้ม ๆ สักสามสี่แก้วจะดีมาก จึงเลือกสงบปากสงบคำใส่ ก่อนเอื้อมมือไปคาดเข็มขัดให้เรียบร้อยเตรียมพร้อมจะเดินทาง “งั้นคืนนี้คุณเมาส์จะเมา ดูแลด้วย”
Mirin’s Part
“แม่ มิรินหิว”
“งั้นรอแป๊บนะ เดี๋ยวแม่ออกไปซื้อของให้กิน!” แม่พูดออกมาด้วยความหงุดหงิดใจ ตอนนี้เราย้ายออกมาอยู่กันสองคน ไม่มีคนให้จิกหัวใช้อย่างเมื่อก่อนแล้ว ทุกอย่างจึงต้องทำเองหมด
“โอ๊ย! อยากออกไปข้างนอก ไปกินข้าวร้านอาหาร ไปร้านกาแฟ” ฉันบ่นออกมาหลังจากทนอุดอู้อยู่แต่ในห้องนี้เกือบจะครบอาทิตย์ ถ้าไม่ใช่เพราะอีมินนี่ชีวิตฉันคงไม่จนตรอกได้ถึงขนาดนี้ ถ้าชีวิตมันพังลง ถ้าพี่ฮีลมาช่วยมันช้ากว่านี้อีกนิดป่านนี้มันคงกลายเป็นคนที่ถูกทิ้งไปแล้ว พ่อคงไม่อยากได้มันเป็นลูกเมื่อรู้ว่าลูกสาวแสนรักเปื้อนราคีจนเสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ส่วนพี่ฮีลก็คงจะได้หันมามองฉันสักครั้ง
เกลียด เกลียดมันที่สุด ถึงแม้ที่ผ่านมาฉันจะใช้ลูกอ้อนยื้อพ่อให้สนใจได้ แต่ก็เพียงแค่ความรักเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้น ส่วนสมบัติมันก็ได้ไปหมดอยู่ดี
เราสองคนแม่ลูกทำดีด้วยขนาดนี้แทนที่จะเห็นใจกันหน่อย แต่มันไม่เคยยอมรับฉันสักครั้งเลย ไม่เลย!
“แล้วมันเป็นเพราะใครล่ะ ไม่ใช่เพราะแกเหรอที่ทำเรื่องชั่ว ๆ ไว้อะ!” แม่พูดออกมาอย่างเหลืออดเมื่อโดนฉันโวยวายใส่ คงอยากจะด่าฉันให้ดัง ๆ จนได้ยินไปถึงเจ็ดแปดซอยถัดจากนี้แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะอายที่ตัวเองเกือบจะมีลูกสาวขี้คุก!
“หนูทำเพื่อเรานั่นแหละ ใครจะอยากให้พ่อทิ้งแม่ล่ะ!”
“นี่แกโง่หรือแกโง่! ฉันกำลังจะเจรจากับมันเรื่องสมบัติอยู่แล้วเชียว เพราะแกตัดสินใจทำเรื่องสิ้นคิดแบบนี้ไง เราเลยต้องลำบากกัน!”
“ก็ไม่คิดว่าจะพลาดนี่คะ ใครอยากให้เรื่องมันเป็นแบบนี้ล่ะ” ฉันเองก็ไม่คิดว่าจะกลายเป็นตัวเองที่เจอเรื่องแย่ ๆ ทั้งที่ตั้งใจจะให้เกิดกับอีมินนี่แท้ ๆ
“แล้วจะทำยังไงล่ะคราวนี้ ผู้ชายของแกมันก็ปอดแหก ไม่มาช่วยแก้ปัญหาอะไรเลย”
“ช่างมันปะไร แต่ยังไงหนูก็ต้องทำให้แผนตัวเองสำเร็จให้ได้ ต้องทำให้มันเป็นนางเอกหนังโป๊ นอกจากพ่อและพี่ฮีลจะรังเกียจแล้ว มิรินก็จะใช้คลิปนั้นข่มขู่มัน ให้มันลืมเรื่องของมิรินไปซะ!”
“ดี! ไปแก้ปัญหาให้ได้ ป่านนี้มันวิ่งโร่แจ้งความไปแล้วมั้งว่าแกตั้งใจจะปองร้ายมัน คดีเก่าเคลียร์ได้แล้วยังขยันสร้างคดีใหม่อีก”
“โอ๊ย! มันจะเอาหลักฐานอะไรมาชี้ก็เรื่องเก่ามันจบไปแล้ว หนูก็แค่โดนเรื่องชนแล้วหนี แต่ถ้าอยากสบายใจนะ ก็ขอแค่มีอะไรเด็ด ๆ มากดขี่มัน แค่นี้มันก็ไม่กล้าหือกับเราแล้ว” ฉันกดยิ้มออกมาหลังจากนั้น ก่อนหันไปมองแม่ด้วยแววตามีเล่ห์ “ขอตังค์ด้วย จะไปจ้างผู้ชายสักสิบคนมาจัดการมัน ครั้งนี้ต้องสำเร็จ!”
แม่ทำหน้าเหมือนไม่อยากจะให้ แต่ก็ไม่ได้ขัดใจฉัน จึงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบธนบัตรมาปึกหนึ่ง “เงินตัวเองมีก็ไม่อยากจะใช้! เอาไป! แล้วขู่เอาเงินจากพวกมันมาด้วย”
“รู้แล้วน่า! หนูไม่โง่เหมือนแม่หรอก” เราสองคนมีเงินเหลือกันไม่มาก ก่อนหน้านี้เราสุขสบายก็จริงเพราะพ่อให้บัตรเครดิตใช้แทนที่จะเป็นเงินโอนเข้าบัญชี อยู่บ้านก็มีคนคอยหุงหาอาหารให้ ทำให้แม่ไม่เคยเรียกร้องอะไรสักอย่างนอกจากใช้เงินอย่างฟุ่มเฟือยไปวัน ๆ ตอนนี้จึงต้องมาใช้ชีวิตอย่างประหยัดอดออม แต่ก็ไม่ย่ำแย่ขนาดนั้น เพราะฉันยังมีเก็บจากการอ้อนพ่ออยู่บ้าง แต่ก็แค่หลักล้านต้น ๆ ใช้ไม่นานก็หมด แถมตอนนี้ยังไม่มีช่องทางทำมาหากินอีก อีกหน่อยเราคงได้ลำบากกัน
“มิริน! ฉันเป็นแม่แกนะ!”
ก๊อก ๆ
“ไปเปิด!” แม่ออกคำสั่งแล้วเดินหนีขึ้นชั้นสอง ฉันจึงต้องเดินกระฟัดกระเฟียดไป ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดล็อกกลอนก็ส่องตาแมวดูลาดเลาเสียก่อนว่าคนที่เข้ามาหาเป็นใครกัน
ยัยป้าข้างบ้านคนนี้อีกละ ตอนนี้ฉันไม่อยากผูกมิตรกับใครทั้งนั้น ไม่รู้จะมาทำไมนักหนา!
แกรก!
“สวัสดีค่ะป้า!” ปรับสีหน้าให้เป็นปกติแล้วเปรยยิ้มออกมาหลังจากนั้น
“จ้า พอดีป้าเอาขนมมาฝาก ทำเผื่อไว้เยอะเลย” หลุบตามองขนมในจาน สีสันสดใสมากแต่ฉันไม่ชอบกินขนมไทย ทำมาทำไมก็ไม่รู้!
“โห! น่าทานมากค่ะ ขอบคุณนะคะ” ทว่าก็ต้องคีปลุคเป็นสาวเรียบร้อยแทนที่จะทำสีหน้าหน่าย ความตอแหลฉันทำจนชินชาไปแล้ว
“ใช่ไหมหนู ไป เข้าไปกินกัน”
ถอยหลังนิดหน่อยให้คนที่มาใหม่ได้เดินเข้าไปในบ้าน ฉันคิดว่าลูกหลานแกคงไม่มีใครเหลียวแลถึงได้เหงาจนแวะมาหาฉันบ่อยเสียขนาดนี้ พอย้ายมาอยู่ที่นี่ไม่ทันไรก็มีขนมมาส่งมากมาย แถมยังมาบ้านฉันบ่อยกว่าอยู่บ้านตัวเองอีก จนฉันกับแม่รำคาญ!
ถึงจะรำคาญแต่เราสองคนแม่ลูกก็ต้อนรับป้าแก่ ๆ ข้างบ้านเป็นอย่างดี ป้าแกคงจะขี้เหงาจริง ๆ เพราะตั้งแต่มาก็เมาท์ไม่หยุดเลย
“เออ หนูนี่น่ารักมากเลยนะ น่าเอ็นดูด้วย มีงานทำหรือยังจ๊ะ ป้าจะแนะนำให้”
“งานอะไรเหรอจ๊ะป้า”
“แม่บ้านน่ะ” เหอะ! ดูหน้าฉันด้วย สะสวยเสียขนาดนี้จะให้ไปทำงานแม่บ้าน สมองเอาอะไรคิด! “ป้าแขนขาไม่ค่อยจะดีเลยว่าจะลาออก ถ้าหนูสนใจป้าจะแนะนำหนูกับคุณฮีลให้”
แต่เดี๋ยวนะ! คุณฮีล? คงไม่ใช่คนเดียวกันหรอกมั้ง “ป้าทำงานแม่บ้านที่ไหนคะ”
“ที่คอนโดคาซ่าเฮาส์จ้า” ชัดเลย! ต้องใช่แน่ ๆ
“จริงเหรอจ๊ะป้า” ฉันยื่นมือไปจับมือเหี่ยว ๆ แล้วยิ้มออกมาด้วยความดีใจ “ป้าจะลาออกวันไหนคะ”
“จริง ๆ ว่าจะลาออกเลยเพราะป้าปวดหลังกับปวดขาไปหมดแล้วหนู คนแก่ก็แบบนี้แหละ แต่ต้องรอให้คุณเขาหาคนใหม่ได้ก่อน ป้าน่ะเกรงใจ ไม่กล้าบอกว่าตัวเองเจ็บด้วยซ้ำ ทำงานกับคุณเขาน่ะสบายมากเลย ได้เงินมากกว่าเงินเดือนเป็นกอบเป็นกำ ป้าเลยมาแนะนำไง”
“สนใจจ้ะป้า ขอบคุณที่แนะนำนะคะ”
“จ้า งั้นเดี๋ยวไว้ป้าพาไปแนะนำกับคุณเขานะ”
“เดี๋ยวค่ะ! วันนี้ป้าไม่ต้องไปทำความสะอาดเหรอคะ”
“ไปจ้า อีกเดี๋ยวก็ไปแล้ว”
“งั้นเอางี้ ป้าเจ็บขาป้าไปพักก่อนเลย วันนี้หนูไปทำแทนเองดีไหมจ๊ะ”
“แต่ว่า...” ป้าทำหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด เพราะเอาเข้าจริงมันดูเสียมารยาทมากที่ให้ใครไม่รู้มาทำแทนโดยไม่ได้บอกกล่าวล่วงหน้า แต่โอกาสนี้มันเป็นโอกาสดี ๆ ที่ฉันจะได้แก้ตัว จึงทำทีเป็นเด็กสาวไร้เดียงสาไม่รู้ความ มีเพียงความตั้งใจที่จะแบ่งเบาให้แกเอ็นดู
“นะ ๆ หนูเป็นห่วงป้า”
“ก็ได้จ้า งั้นเดี๋ยวป้าไปเอาคีย์การ์ดให้นะ”
“ค่ะ ได้เลย หนูจะทำสุดความสามารถให้คุณเขาเอ็นดู จะได้มีเงินเยอะ ๆ” พูดออกไปแบบนั้นทว่าในใจน่ะหัวเราะลั่นไปแล้ว ที่เหลือก็เพียงแค่หาโอกาสเข้าไปจัดการอีมินนี่ในตอนที่ไม่มีคนอยู่ที่นั่น
คอยดูเถอะ ครั้งนี้ฉันจะไม่พลาดอีกเป็นอันขาด!
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น