Episode 53
พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป
“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่
ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...
“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”
“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”
“อือ”
“เพราะ?”
“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”
“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”
“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง
“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”
“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”
“นั่นสินะ”
“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอย่างนั้น
“ฉันรักเธอเพราะว่าเธอแรดต่างหาก เฮฮา เป็นตัวของตัวเองและก็ด่าเก่ง” เกลียดดดด คำแบบนั้นไม่ต้องเอามาพูดก็ได้
“นั่นมันข้อเสียของฉันชัด ๆ”
“ฟังยังไงมันก็เป็นข้อดีต่างหาก”
“ดียังไง”
“นิสัยแบบนี้ของเธอผู้ชายคนอื่นมักเข้าไม่ถึง ฉันเลยไม่ต้องหึงบ่อย ๆ”
“ทำอย่างกับเคยหึง” หากไม่นับเรื่องพี่คลาส ฮีลมันก็ไม่เคยเผยความรู้สึกนั้นกับผู้ชายคนอื่นเลยสักครั้ง
“พอดีว่าอยู่เป็น”
“ยังไง”
“ก็หึงอยู่ในใจไง”
“คนเก่ง” ยื่นมือไปบีบที่พวงแก้มของฮีลเบา ๆ หลังชมเสร็จ
“ฉันไม่ได้เก่ง ฉันแค่ไม่อยากเสียเธอไป”
“อือ แต่ตอนนี้ฉันเป็นของนายแล้วนะ เชิญหึงได้ตามสบาย”
“แน่นอน ฉันจะเก็บโอกาสนั้นไว้อย่างดีเลย”
“รักนายนะ คำนี้ฉันเคยบอกไปหรือยัง”
“เคย...” มือที่จับแก้มถูกเปลี่ยนให้มาทาบที่หน้าอกข้างซ้าย “ครั้งแรกเธอพูดเพราะเป็นคำสั่งฉัน ส่วนครั้งที่สองเธอพูดกับลูกปลา”
“งั้นฟังดี ๆ นะ ฉันจะพูดกับนาย พูดจากใจจริง” นิ่งไปหนึ่งอึดใจก็เปรยยิ้มหวาน ๆ “ฉันรักนาย มินนี่รักฮีล”
“พอใจแล้ว” รับรู้ว่าอีกฝ่ายหัวใจเต้นแรงขึ้นก็ในตอนที่มันบอกว่าพึงพอใจ
แต่จะพูดหรือไม่พูด คำนั้นมันไม่ได้มีความสำคัญสักเท่าไรหรอก เพราะเราข้ามขั้นกันไปไกลแล้ว
ติ๊ง!
กำลังอยู่ในชั่วโมงโรมานซ์ทว่าก็มีเหตุให้ต้องหยุดบรรยากาศดี ๆ เอาไว้เสียก่อน เมื่อเสียงแจ้งเตือนของมือถือดังขึ้น ระหว่างที่ฮีลเอื้อมมือไปคว้ามันมาเช็กฉันก็เอนตัวซบลงบนแผงอกแกร่ง ก่อนจะเพ่งสายตาไปมองจอมือถือแล้วก็ได้อ่านข้อความนั้นพร้อม ๆ กัน
Fang: พี่ฮีลคะ ทำอะไรอยู่คะ
“นายจะจัดการผู้หญิงคนนี้ยังไง” ดูยัยน้องมันจะตื๊อไม่หยุดเลย ทั้งที่รู้ว่าฉันเป็นแฟนฮีล
“ไม่เอาไง ก็แค่อยู่เงียบ ๆ แบบที่เคยทำ” ฮีลมันก็เป็นของมันแบบนี้อะเนอะ ชอบอยู่เฉย ๆ ไม่ชอบทำอะไรยุ่งยาก
“แล้วแต่” ตอบแค่นั้นก็ไสแก้มเข้ากับอกอุ่น ๆ สูดกลิ่นกายของฮีลเข้าไปเต็มปอด
ฉันว่าอีกไม่นานยัยน้องมันคงเลิกยุ่งกับไอ้ฮีลไปเอง ยังไงก็ไม่มีใครแย่งฮีลไปจากฉันได้หรอก ฉันเชื่ออย่างนั้นจริง ๆ
“ไม่หวงกันเลย”
“หวงอะไร ก็ในเมื่อฉันเชื่อในตัวนาย อย่าทำให้ฉันผิดหวังนะ”
“ครับ”
“นอนเถอะ” ค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงหลังจากนั้น ทว่าก็ถูกพลิกให้นอนราบไปกับเตียงเสียก่อน
“ขอทวงจูบหน่อย”
ว่าแล้วก็สอดมือเข้ามาใต้เสื้อ ก่อนบีบเคล้นมันเบา ๆ ไม่นานนักก็ค่อย ๆ จัดการเสื้อผ้าของฉันจนเหลือเพียงร่างเปลือยเปล่า
คนข้างบนมองฉันด้วยแววตาหยาดเยิ้ม แถมยังเต็มไปด้วยความอบอุ่น
รัก...รักเหลือเกิน
ฉันสื่อแววตากลับไปบ้างหลังได้รับมามากมาย บอกย้ำความรู้สึกผ่านทางดวงตาที่กำลังประสานกัน
เฝ้าทบทวนถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่ผ่านมาด้วยกัน ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องของเราจะกลายมาเป็นแบบนี้ได้ เปลี่ยนจากเพื่อนมาเป็นแฟน และถ้าหากเป็นไปได้ฉันก็อยากให้มันคงอยู่อย่างนี้ตลอดไป
ความรู้สึกที่เปี่ยมล้นทำให้ฉันต้องเอื้อมมือขึ้นไปหา แต่ด้วยระยะห่างทำให้ฉันแตะไม่ถึงคนข้างบน ฮีลจึงก้มตัวลงมาหาฉันอีกนิด ใช้ริมฝีปากกรุ่นร้อนจูบซับปลายนิ้วอย่างอ่อนโยน จูบย้ำ ๆ ไล่จากปลายนิ้วโป้งเรื่อยไปจนถึงปลายนิ้วก้อย
ค่อย ๆ ตวัดมือไปโอบรอบลำคอแกร่ง ออกแรงรั้งให้หันมารับจูบจากริมฝีปากของตัวเอง สอดแทรกเรียวลิ้นเข้าไปในปากแล้วขยับอย่างอ่อนโยนไปตามสัมผัสที่ได้รับ
ไม่นานนักทุกอย่างก็ดุเดือดขึ้น คนข้างบนผละปากออก มือที่ฟอนเฟ้นหน้าอกฉันยันกับฟูกนุ่ม ๆ แล้วดีดตัวลุกไปถอดเสื้อผ้าตัวเอง
“จูบฉันบ้าง” เท่านั้นฉันก็ทรงตัวนั่ง ห่อเรียวปากรับสัมผัสจากแก่นกายร้อนแล้วกดลงไปหนึ่งจุ๊บ ใช้ฝ่ามือทั้งสองคอยช่วยให้จูบนี้สร้างความกระสันไปด้วย แล้วใช้ปลายลิ้นโลมเลียไปรอบ ๆ จนฮีลครางดังในลำคอ
“อืมมม” ฝ่ามือหนาสอดเข้ามาภายในเส้นผมสีดำของฉัน พร้อมกันนั้นร่างสูงที่กำลังฟินสุด ๆ ก็เด้งเอวสวน ตอกตรึงแก่นกายใหญ่เข้าออกด้วยตัวเองจนฉันรู้สึกจุก แต่เพราะเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังสุขล้ำจึงอดทนไว้ไม่ยอมปล่อยปาก จนฮีลปลดปล่อยความสุขออกมามากมายล้นปากฉัน
ฉันกลืนน้ำสีขาวนั้นลงไป ได้รับรอยยิ้มบาง ๆ จากทางนั้นเป็นการตอบแทน
“เก่งมาก” ว่าแล้วก็ก้มตัวลงมาจูบตรงไรผมของฉัน พร้อมทั้งคุกเข่านั่งลงบนเตียง ไถตัวลงไปต่ำอีกนิดแล้วเริ่มใช้ริมฝีปากอันร้ายกาจจูบฉัน
“อ๊า” ลิ้นของฮีลยังคงอุ่นเหมือนเดิม มันสร้างความสุขสมให้ฉันจนต้องตอบสนองด้วยท่าเดิม ๆ คือการเด้งเอวขึ้นให้ริมฝีปากแนบกับกลีบเนื้อมากขึ้น ความเสียวซ่านทำให้ฉันครางดังขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่อายว่าใครจะมาได้ยิน
จนในที่สุดก็สุขสม
“เป็นแฟนฉันห้ามเหนื่อย!” แค่ฉันหอบหายใจมันก็คิดว่าฉันจะถอยอะเนอะ ไม่มีทาง ยังไงฉันก็ไม่มีวันยอมแพ้มันเป็นแน่
จึงยันตัวลุกแล้วเปลี่ยนไปคร่อมร่างแฟนตัวร้าย ก่อนยกสะโพกขึ้นเพื่อให้ท่อนเอ็นร้อนได้สอดใส่เข้าไป
“อืมมม ดีจัง” กี่ครั้งกี่ทีก็รู้สึกดีไปหมด ยิ่งตอนที่เราเปลี่ยนสถานะกันแล้วฉันยิ่งฟิน
ค่อย ๆ ขยับขึ้นลงอย่างช่ำชอง เริ่มจากจังหวะเชื่องช้าเป็นรัวเร็ว โชว์ความแซ่บโดยการหมุนเอวเบา ๆ ให้อีกฝ่ายครางออกมา
“อ่า” ถูกใจแล้วก็กัดปากยั่ว มือของฮีลที่กำลังเคล้าคลึงตรงทรวงอกจึงย้ายมาที่ปากของฉัน ก่อนสอดนิ้วเข้ามาให้ดูดเล่น
“ขี้ยั่ว!”
เราไม่ได้จบกันแค่ท่วงท่านั้น คราวนี้ฮีลเป็นฝ่ายผลักฉันให้นอนลงกับเตียง แทรกตัวเองเข้าไปกลางหว่างขาแล้วขยับท่อนเอ็นเข้าออกจนฉันต้องระบายความเสียวโดยการกำผ้าปูแน่น
เรียวขาที่อ้านานทำให้รู้สึกเมื่อย ยังไม่ทันจะร้องท้วงก็ถูกอีกฝ่ายรวบเข้าหากันและพาดไปยังบ่าด้านซ้าย ก่อนโถมกายเข้ามาอย่างแรงจนฉันครางอื้ออึง
แต่แค่นี้ยังไม่จบหรอก ถึงร่างสูงจะหอบหายใจทว่าก็ยังไม่ยอมปล่อยสายธารสีขาวออกมาสักที ฮีลเปลี่ยนให้ฉันยืนกับพื้นแล้วโก่งตัวลงใบหน้าแนบกับขอบเตียง สอดใส่ท่อนเอ็นร้อนเข้ามาในร่องคับแคบอย่างเน้น ๆ กระแทกกระทั้นด้วยจังหวะที่ดุเดือดจนได้ยินเสียงเตียงขยับ
“อะ...อ๊า จะ...เสร็จ” ฉันร้องบอก เวลานี้ฉันมีความสุขเหลือเกิน ทั้งที่โดนคนข้างหลังกระทำอย่างป่าเถื่อนเสียขนาดนี้
“พร้อมกันนะ”
เพียะ!
ฝ่ามือหนาตีที่แก้มก้นฉันแรง ๆ ทว่ามันกลับสร้างความเร้าใจจนฉันต้องเพิ่มเสียงขึ้น เสียงของฉันสั่นน้อย ๆ เพราะการกระเพื่อม มือไม้เริ่มปัดป่ายไปทั่ว บางครั้งก็จิกหมอน บางครั้งก็กำผ้าปู ระบายความเสียดเสียวออกมาทุกอย่างจนรับรู้ถึงความร้อนที่พุ่งเข้าใส่ ตามด้วยเสียงครางครั้งสุดท้าย
“อ่า”
ร่างสูงไม่ได้ผละออกไปไหน ยังคงสอดประสานส่วนกลางกายไว้ที่ร่องของฉันทั้งที่ส่วนนั้นกำลังอ่อนแรงลง ใบหน้าคมคายฟุบลงกับแผ่นหลังอันเปียกชื้นของฉัน จูบซับเบา ๆ ตรงนั้นอย่างไม่นึกรังเกียจกลิ่นเหงื่อเหม็น ๆ
“รักเธอจัง”
“รู้แล้ว หยุดพูดให้ฉันตกหลุมรักนายไปมากกว่านี้ได้แล้ว”
“ไม่เอา ฉันอยากให้เธอรู้ รู้ว่าการที่รักใครมาก ๆ มันมีความสุขขนาดไหน”
“พูดอย่างกับฉันไม่รักนาย” อย่างกับฉันไม่รู้
“รักสิ ฉันรู้ แต่ฉันอยากให้รักมากขึ้นอีก”
“เหรอ คราวนี้นายจะทำอะไรต่อล่ะ” จะพูดอะไรต่ออีก แค่นี้ฉันก็รักมากมายจนนับความรู้สึกออกมาเป็นตัวเลขไม่ได้แล้วนะ
“สารภาพความจริง”
“ความจริงอะไร”
ฮีลถอนตัวตนออกไป พร้อมทั้งปล่อยให้ฉันได้กลับไปนอนสบาย ๆ บนเตียง แต่เพียงแค่ไม่นานก็เบียดเสียดตัวเองเข้ามาแล้วตวัดแขนมาโอบกอดเอาไว้
“เธอเป็นคนแรกของฉันมินนี่” ประโยคนั้นทำฉันไม่เชื่อจนต้องเป็นฝ่ายพลิกตัวขึ้นไปคร่อมร่างแกร่งเอาไว้ จ้องตาของฮีลประมาณว่า ‘จริงดิ’ เพราะไม่อยากจะเชื่อ
“เธอคิดว่าฉันโกหกเหรอ”
“คะ...คือฉันก็คิดว่านายก็เก่ง” เก่ง เก่งมาก ๆ ด้วยสำหรับครั้งแรกของผู้ชายที่ชื่อฮีล ความร้ายกาจของเอวทำให้ฉันรู้สึกอยากเป็นครั้งที่สอง และมีครั้งสาม สี่ จนเรื่องของเรากลายเป็นความสัมพันธ์แบบเซ็กซ์เฟรนด์ไง
“คนมันมีพรสวรรค์”
ปึก!
“น่าภูมิใจมากเลยหรือไงฮะ!” ฉันทุบเบา ๆ ที่ตัวมัน ของแบบนี้มันน่าอวดที่ไหนกัน
“แต่พรสวรรค์นั้นทำให้เธอติดใจนะ”
“หยุดพูดไปเลยนะ”
“เธอบอกรักฉันแล้ว คราวนี้จะบอกกับคนอื่นว่าฉันเป็นแค่เพื่อนไม่ได้แล้วนะ” พยักหน้าให้เพื่อบอกว่าโอเคแล้วก้มตัวลงไปหา ก่อนสัมผัสที่เรียวปากของฮีลเบา ๆ
รักจัง รักมากกกก
ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายหน้านิ่งอย่างมันจะสามารถแทรกซึมเข้ามาภายในใจฉันได้เก่งขนาดนี้ จนฉันหนีความรู้สึกตัวเองไม่ได้
ในท้ายที่สุด เรื่องระหว่างเราก็ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนกันอีกต่อไปแล้ว...
THE END
แต่มีตอนพิเศษต่อน้า ><
ตอนพิเศษ 2ขอแต่งงานฉบับซงจุงฮีล“โหหหห นังดาวยั่ว วันนี้มาในลุคสตรีตเลย” ลูกปลาพูดขึ้นเมื่อฉันเดินออกมาจากห้องพักไรง่ะ มาถึงนี่ทั้งทีก็ต้องแต่งตัวให้อินเทรนด์หน่อยสินี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ฉันได้ออกมาเที่ยวต่างประเทศอีกครั้ง แน่นอน ติ่งอย่างฉันก็ต้องเลือกเกาหลีเป็นประเทศแรก“ไม่ได้เที่ยวซะนาน ต้องอินเทรนด์หน่อย” เชิดหน้ามั่น ๆ แล้วพูดออกมา ก่อนปรายตามองคนอื่นวันนี้เพื่อน ๆ ต่างก็อยู่ในชุดเดรสสีขาวกันหมด เพราะนัดกันไว้ว่าธีมสีขาว ซึ่งฉันรู้แล้ว แต่ไม่เอาอะ ฉันไม่ชอบใส่เดรสสีขาว ก็เลยเลือกใส่เป็นชุดนี้แทน“ไม่ได้! ชุดนี้เอาไว้ใส่พรุ่งนี้ วันนี้ใส่ให้เข้าธีม” แสนดีเริ่มพูดขัด ข้าง ๆ มันเป็นพี่รามที่มาด้วยในวันนี้“ใช่! ดูสิ ขนาดเดมี่ยังใส่ชุดสีขาวเลยเนอะเดมี่เนอะ”“แอ๊” เสียงเด็กน้อยร้องขานรับ ทำให้ฉันต้องยื่นมือไปบีบแก้มนุ่มนิ่มของเดมี่ ลูกสาวตัวน้อย ๆ ของยัยลูกพีชเชื่อไหมว่าสองคนนี้น่ะรักกันมาก เพราะหลังจากเรียนจบลูกพีชก็มอบของขวัญวันเกิดให้แก่คุณป๋าทันทีนั่นก็คือการปล่อยตัวเองให้ท้องตั้งแต่ก่อนจบ เนื่องจากอายุอานามของคุณป๋าก็ไม่ใช่น้อย ๆ คู่นี้จึงต้องรีบมีกันหน่อยน่ารักเนอะ
ตอนพิเศษ 1คำขู่ของซงจุงฮีล“ไปแล้วนะ”“อือ มากอดที”เข้าสวมกอดแฟนตัวเองเอาไว้แน่นเพื่อแทนความคิดถึง ก่อนคลายมันออกหลังจากชื่นใจพอแล้ว ฉันจ้องดวงตาสีนิลของฮีล แววตาคู่นั้นยังคงนิ่งสงบอยู่เหมือนเคย ทว่ามุมปากที่ยกยิ้มทำให้ใบหน้านั้นไม่ดูไร้ชีวิตชีวามากเท่าใดวันนี้ฉันจะต้องพาพนักงานบริษัทไปทริปเที่ยวประจำปีที่ทะเลสุราษฎร์ฯ ซึ่งเป็นนโยบายอย่างหนึ่งที่ช่วยสร้างกำลังใจให้กับพนักงาน เรียกได้ว่าเป็นโบนัสอีกก้อนเลยก็ว่าได้“เดินทางดี ๆ ถึงแล้วโทรหาด้วย”“โอเค เสร็จแล้วตามมานะ” ฉันพยักหน้า ก่อนมองอีกฝ่ายด้วยความคิดถึง หากไม่ติดว่าฮีลเองก็มีงานที่ต้องทำเหมือนกันฉันคงอ้อนวอนขอให้มันไปด้วยกันตั้งแต่วันนี้แล้ว แต่เพราะอีกฝ่ายก็งานยุ่งพอสมควรเลยทำอย่างที่คิดไว้ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นฮีลก็ยังอุตส่าห์รับปากว่าหากเสร็จงานแล้วจะรีบตามมาจริง ๆ แล้วเราสองคนไม่เคยห่างกันนานเลย“อือ”หลังจากนั้นก็เดินไปขึ้นรถเพื่อออกเดินทาง ใช้เวลาจนเย็นก็เดินทางมาถึงที่นี่ ฉันเลือกที่จะเข้าห้องพักในทันทีแล้วนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย ก่อนจะตื่นมาพบกับพระอาทิตย์ตกในยามเย็นทะเลที่นี่สวยมาก สวยพอ ๆ กับทะเลตอนนั้นเลย ตอนที่ฉัน
Episode 53พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไป“ทำไมถึงพามาที่นี่อะ” ฉันเอ่ยถามหลังจากย่างสามขุมเข้ามาในคอนโดของตัวเอง จะว่าไปก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันที่ฉันไม่ได้เข้ามาอยู่ที่นี่ตั้งแต่เกิดเรื่องนั้น...“มันเป็นที่ที่ฉันอยากมา”“หืม...” ฉันร้องหืมในลำคอ มองใบหน้าอีกฝ่ายแล้วพยายามเดาความคิดของฮีล “ทำไมอะ ถ้าเราจะเดตกัน นายก็จะเลือกเดตที่นี่เหรอ”“อือ”“เพราะ?”“มันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของคุณเมาส์...” เซอร์ไพรส์กับคำตอบที่ได้มาก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดแค่นั้นของผู้ชายหน้านิ่งอย่างฮีล ถึงกับทำให้ฉันรู้สึกเหมือนถูกหยอดให้เขินซ้ำแล้วซ้ำเล่า “พื้นที่ที่ฉันอยากจะเข้าไปมาก”“อือ แต่ตอนนี้ก็ทำสำเร็จแล้ว พอใจหรือยัง”“เข้าห้องเถอะ อยากโดนป้อนจูบแล้ว” ฝ่ามือหนาออกแรงรั้งให้ฉันเดินเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง“ถามจริงนะ ถ้าวันไหนไม่ได้จูบจะเบื่อฉันไหม ถ้าวันไหนที่ฉันให้เรื่องเซ็กซ์กับนายไม่ได้”“ถามอะไรแปลก ๆ” ฮีลตอบ ทรุดกายลงกับเตียงใหญ่ขนาดคิงไซซ์แล้วพูดต่อ “ห่างกันมาเป็นเดือนก็เคยมาแล้ว”“นั่นสินะ”“หยุดกังวลไปได้เลยว่าฉันจะรักเธอเพียงเพราะแค่เซ็กซ์” น้ำเสียงนั้นไม่ได้ส่อแววน้อยใจ แต่ฟังแล้วออกเจ้าเล่ห์อย่างไรอ
Episode 52จูบมัดจำ“อีมินนี่! แกทำลูกฉัน!” เสียงนี้ดังมาก่อนตัวจนฉันต้องหันไปมอง ก่อนพบผู้หญิงคนที่เคยอยู่ในตำแหน่งแม่เลี้ยงกำลังวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทางคุกคาม ทว่าสองมือกลับไร้เครื่องมือประทุษร้ายแต่เมื่อกี้เหมือนทางนั้นจะพูดอะไรผิดไปนะ ลูกสาวของมันต่างหากที่ทำฉันก่อนเพราะเธอพุ่งเข้ามาอย่างไร้การตรึกตรอง การส่งเสียงมาก่อนตัวในระยะร้อยเมตรจึงทำให้ฮีลกับพี่ฮัทที่นั่งทานข้าวอยู่กับฉันรีบกันออกไปได้ทัน“อีมินนี่ ฮืออออ” หลังจากที่ทำอะไรฉันไม่ได้เธอก็ทรุดลงกับพื้นพร้อมทั้งร้องไห้โฮ ก่อนจะรำพันไปเรื่อยเปื่อยคล้ายคนบ้าเฮ้อออ เห็นแล้วถึงกับต้องพรูลมหายใจออกมา ทำไมสองคนนั้นถึงเอาแต่คิดว่าฉันเป็นตัวต้นเหตุ ทั้งที่ความจริงคือพวกมันต่างหากที่เป็นคนเริ่มเป็นคนเข้ามาทำให้ชีวิตครอบครัวของฉันวุ่นวาย“รอสงเคราะห์คนที่อยู่ในเรือนจำก็พอ อย่าเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในนั้นเลย”“แก!”“ไม่ต้องมาเรียก! ฉันใจดีแค่ไหนที่ให้มันไปนอนในคุกเฉย ๆ ไม่ทำกับมันเหมือนที่มันจะทำกับฉันก็บุญแล้ว!”ตอบแค่นี้คนข้างล่างก็มองฉันด้วยแววตาเคียดแค้น ถัดมาแววตาก็อ่อนลงเหมือนคนหมดหวัง นั่งเหม่อลอยบนพื้นคอนกรีตด้วยดวงตาที่ปริ่มน้ำส
Episode 51ห้านาทีMinnie’s Part“ว้ายยยย” เกือบจะลื่นล้มหัวแตกเข้าให้เมื่อเดินเข้ามาก็เจอกับพื้นเปียก ๆ ไม่รู้ว่าป้าแม่บ้านทำอะไรหก ถ้าฮีลไม่รับไว้ป่านนี้ฉันคงเจ็บตัวไปแล้วล่ะมั้งคราวซวยจริง ๆ เลยช่วงนี้ ฉันว่าชีวิตฉันยังไม่ถึงวัยเบญจเพสเลยนะ“ขอโทษค่ะคุณ หนูนาเผลอทำน้ำหก” ถึงตอนนี้ฉันก็มองหน้าไอ้ฮีลเป็นเชิงถามว่าคนนี้ใคร วันนี้จู่ ๆ ก็มีใครที่ไหนไม่รู้ชื่อหนูนาเข้ามาที่นี่ แล้วมือที่จับไม้ถูพื้นนั่นหมายความว่ายังไงก็ไม่รู้“เอ่อ...สวัสดีค่ะ หนูนามาช่วยป้าจ๋าทำงานเพราะวันนี้แกป่วยค่ะ” ฉันปรายตามองเด็กสาวที่อยู่ในชุดเดรสสีชมพูสวมทับด้วยผ้ากันเปื้อน มัดผมเรียบร้อยดูน่ารัก แถมยังสวมแมสก์ปิดปากอย่างมิดชิดก็รู้ว่าช่วงนี้มันต้องป้องกัน แต่แอบคิดว่ามันไม่ร้อนเหรอถ้าจะใส่ตอนทำงานขนาดนี้ เพราะก่อนหน้านี้ก็ไม่มีใครอยู่ในคอนโด ไม่เห็นจะต้องกังวลอะไรเลย“เหรอ งั้นตามสบายนะ”“ค่ะ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”“อือ” ว่าแล้วก็เดินไปหย่อนก้นลงบนโซฟาตัวเก่ง ก่อนหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาไถไปเรื่อยเปื่อยแก้เบื่อ “ฮีล ลืมบอกว่าเมื่อเช้าพี่คลาสเอาคลิปนั้นมาให้แล้วอยู่ในห้องน่ะ”“อือ หิวไหม” ร่างสูงนั่งลงข้าง ๆ ก่อนวาดแข
Episode 50โอกาสแก้ตัวพลิกตัวไปหาคนที่กำลังนอนหงายแล้วใช้มือไพล่หลังคออยู่ ท่าทางของฮีลคล้ายกำลังคิดอะไรสักอย่าง และดูคิดมากจนฉันต้องหันไปถามสีหน้าฮีลไม่ได้ฟ้องหรอก แต่เพราะค้างอยู่แบบนี้นานแล้ว ก็เลยต้องตั้งคำถามสักหน่อย“มีอะไรเหรอ”“เรื่อง Memory Card” ฮีลตอบสั้น ๆ บอกแค่นั้นฉันก็พยายามนึกตาม ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาสองวันแล้ว แต่เรายังไม่ได้หลักฐานชิ้นนั้นกันเลย“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง ก็คุณเลขาเขาบอกว่ายังติดธุระนี่!”“ฉันกลัวว่าทางนั้นจะอยากแก้แค้นแทนเมียตัวเอง” ฮีลคงหมายถึงอาเกริกสินะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเรื่องของผู้ใหญ่เป็นยังไง แต่เรื่องของฉันกับพี่คลาสอะลงตัว ส่วนกับอาเค้กท่านก็ดูเอ็นดูฉันพอสมควร เดาจากท่าทางที่แสดงออกในวันนั้นฉันคิดเป็นอื่นไม่ได้จริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอก”“อย่าพูดแบบนี้คุณเมาส์ ทั้งที่ตัวเองเกือบจะโดนกระทำตั้งหลายรอบ”“เข้าใจก็ได้ ว่าแต่คุณเมาส์นี่คืออะไรเหรอ” ยกคางไปเกยเข้ากับแผงอกแกร่งแล้วช้อนสายตาขึ้นมอง ตั้งแต่วันนั้นฉันยังไม่รู้ความหมายของคำว่า ‘เมาส์’ เลย“คือชื่อของเธอไง” ฝ่ามือหนายกขึ้นลูบศีรษะฉันเบา ๆ “มินนี่ เมาส์”“โหยยยย ไรอะ ไม่อินเลย” บ่น