แต่ก่อนจะไปหาผู้ชายคือต้องไปเรียน เพราะยังเหลือวิชาคาบบ่ายอีกสองวิชา ตั้งแต่ขึ้นปีสามมาบอกเลยว่าสาหัส วิชาเรียนดูเหมือนน้อยแต่เป็นวิชาหินทั้งนั้น ถึงจะบ้าผู้ชายมากแต่ตะวันก็รักอนาคตเช่นเดียวกัน
กิจการของที่บ้านในส่วนของมารดาเป็นงานเกี่ยวกับแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นบริษัทชุดชั้นใน แบรนด์เสื้อผ้าทั้งของบุรุษ สตรี ไหนจะมีแบรนด์เสื้อผ้าเด็กในเครือ RAWEE Group ที่ประธานรวีมารดาของหญิงสาวสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรงและความภาคภูมิใจ ท่านหมายมั่นปั้นมือไว้ว่าทั้งตะวันและอาทิตย์[1]จะต้องมารับช่วงต่อ
เรื่องบริหารตะวันอาจไม่ถนัด หากแต่เธอชอบศิลปะ มีหัวทางด้านการออกแบบและดิไซน์ อย่างน้อยก็จะสามารถช่วยต่อยอดให้กับธุรกิจของมารดาได้ในวันข้างหน้า หญิงสาวตั้งมั่นมาเสมอว่าเธอจะทำให้ได้ พ่อกับแม่ต้องภูมิใจในตัวเธอและน้องชาย
ตะวันทำได้ดีเสมอและหวังว่าจะทำดีต่อ ๆ ไป
กว่าจะเลิกเรียนคาบสุดท้ายเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบสิบเจ็ดนาฬิกาแล้ว ทว่านักศึกษาแฟชั่นดิไซน์ก็ยังไม่ได้แยกย้ายกลับบ้านเพราะต้องอยู่ประชุมเรื่องธีมงานที่จะต้องรังสรรค์ขึ้นมาเพื่อโชว์ในนิทรรศการประจำปีของคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเจพีที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
ผลงานในครั้งนี้จะเป็นตัวตัดสินว่าเกรดจะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจหรือไม่ และกว่าภารกิจจะเสร็จลุล่วงก็เกือบมืดค่ำ
“ไปไหนต่อไหม” ตะวันเอ่ยถาม และเพื่อนทั้งสามคนก็พร้อมใจส่ายหน้าตอบเหมือนกันว่า...
“ไม่!”
“เหนื่อยจะตายชักแล้ว ขอกลับไปนอนเถอะ” ต้าเหนิงเสียงยานคาง วันนี้ใช้พลังงานไปเยอะ ไหนจะแผนงานต่าง ๆ ที่ยังต้องกลับไปทำต่อ
“โห รีบกลับไปไหน ไปร้านนั่งชิลด้วยกันก่อน” แม้จะเหนื่อยล้าสายตัวแทบขาดหากตะวันก็ยังมีจุดหมายที่ต้องไปให้ได้
“ถามแบบนี้คือยังไง มึงจะไปไหนอีกตะวัน” ตาคมกริบของจูลี่สบมองตะวันอย่างหมายมาด
“ก็ว่าจะไปตามหา...” พูดไม่ทันจบแจ็กกี้ก็พูดขัด
“ผู้ชาย?” ยายเพื่อนเวรพูดไว้ตั้งแต่เที่ยงแล้วว่าจะแต่งหน้าสวย ๆ ไปหาปรมะ และตะวันไม่เคยพูดเล่น ยิ่งวันนี้ได้ยินมาว่าเด็กคณะนิติศาสตร์มีเลี้ยงสายรหัสที่ร้านชิลใกล้มหาวิทยาลัย มีหรือตะวันจะไม่อยากตามไป
เพื่อนทั้งสามไม่ทันเปิดปากเทศนาว่าให้รักนวลสงวนตัว อย่าไปยอมใจอ่อนให้ปรมะง่าย ๆ เสียงข้อความจากสมาร์ตโฟนในมือตะวันก็ดังขึ้น หญิงสาวก้มลงอ่านมันครู่เดียวก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
“โอเค กลับคอนโดดีกว่าเนอะ ไม่ไปก็ได้” พูดจบก็ยิ้มหน้าบานเดินสาวเท้าก้าวไว ๆ ไปขึ้นรถซูเปอร์คาร์คันหรูทันที ปล่อยเพื่อนทั้งสามคนให้ยืนเกาหัวงงงันอยู่อย่างนั้น
“มันเป็นอะไรของมัน”
“เปลี่ยนอารมณ์ไวฉิบหาย”
“แล้วนั่นมันจะรีบไปไหนน่ะ”
“หึ ไม่รู้” ถามกันเองอยู่สามคนเพราะตะวันไม่อยู่ตอบคำถาม สุดท้ายก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
ปรมะ โชติภิวรรธ หรือปลื้ม นักศึกษาคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยชื่อดัง ดีกรีว่าที่เกียรตินิยมเหรียญทอง บุตรชายคนโตของทนายวิศรุตและปาริฉัตรดาราดัง ทายาทตระกูลโชติภิวรรธที่มั่งคั่ง เป็นตระกูลดัง เก่าแก่และมีชื่อเสียงมากตระกูลหนึ่งในประเทศที่เมื่อได้เอ่ยถึงใคร ๆ ต่างก็ต้องรู้จักและคุ้นหู
เรื่องร่ำรวยและฉลาดไม่ต้องพูดถึงเพราะตระกูลนี้ล้วนประกอบอาชีพแพทย์ ทนายความ และทำธุรกิจต่าง ๆ อีกมากมาย
ปรมะได้รับดีเอ็นเอที่ดีไม่ว่าจะเป็นเบ้าหน้าหล่อเหลาราวกับพระเจ้าปั้น รูปร่างกำยำล่ำสัน ความสูงเกินมาตรฐานชายไทย และเรื่องมันสมองแน่นอนว่าเชื้อต้องไม่ทิ้งแถว เป็นถึงลูกท่านวิศรุตทนายความรุ่นเก๋า ทั้งความฉลาดและไหวพริบไม่เป็นสองรองใคร ปรมะฉลาดเป็นกรด หลักแหลม แพรวพราวและลื่นไหล...
ถ้าใช้ในเรื่องที่ดีก็ดีไป แต่นี่อะไร
“โคตรเหี้ย!”
[1] พระเอกจากเรื่อง My Honey คนนี้ของผม โดย นามปากกาหญิงเพียว
หญิงสาวใช้เวลาในการเตรียมของกลับไทยเกือบครึ่งเดือนจนเพื่อนบ่นว่าจะเตรียมอะไรหนักหนา[ที่นานนี่เตรียมของกลับไทยหรือเตรียมใจกันค้า...] จูลี่บ่น สี่สาวโทรหากันในคืนก่อนที่ตะวันจะเดินทาง“เตรียมของค่ะ ลองมามีลูกอ่อนที่ชื่อแจ็คสันหยางดูสิคะเพื่อนขา... จะรู้ว่าเรื่องเยอะขนาดไหน” ตะวันบ่นกลับ ทำเอาอีกสามคนพร้อมใจกันพยักหน้ารับอย่างเข้าใจกันว่าแจ็คสันเรื่องเยอะ ไอ้นี่ก็จะเอาไป ไอ้นั่นก็หวง ยิ่งบอกว่าไปอยู่สักพักใหญ่เด็กชายยิ่งอยากเอาของทุกชิ้นในห้องและของเล่นที่เป็นของตัวเองไปด้วยกันหมด เรียกได้ว่าย้ายบ้าน จนตะวันต้องปรามว่าเราไม่สามารถเอาทั้งหมดนี้ไปได้แจ็คสันเลยใช้เวลาเลือกนานมาก ไหนจะบอกว่าอยากอำลาญาติ ๆ ทุกคนด้วยการวนไปนอนทุกบ้านหลังละคืน ดูมันนะ! กว่าจะยอมเสด็จมาได้ลึก ๆ คือแจ็คสันกำลังกลัว ไม่ชินที่ต้องเดินทางไกล เด็กชายไม่เคยมาอยู่ที่ไทยเลยสักครั้งเท่าที่เขาจำความได้ เขาโตและชินกับคฤหาสน์ตระกูลหยาง ที่นั่นคือเซฟโซน ตะวันและคนอื่น ๆ จึงไม่อยากเร่ง รอจนกว่าเด็กน้อยจะสบายใจการเดินทางในวันพรุ่งนี้ก็เป็นการเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว มีการสแกนตั้งแต่นักบินยันพนักงานระดับล่างของสายการบิน
“โทษทีมึง”“ไม่เป็นไรมึง แต่อีนั่นเป็นอะไรก่อน ทางตั้งเยอะแยะไม่เดิน ขอโทษไม่เป็นรึไง” ตะวันตวัดค้อนใส่หลังไว ๆ ของคนที่เดินมาชน ที่ตอนนี้เดินห่างไปไกลลิบแล้ว“คุณหนูเป็นอะไรไหมครับ” บอดีการ์ดก้าวเข้ามาถามด้วยภาษาจีน ตะวันปัดมือตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า...“ไม่เป็นไร แค่เลอะ”“ไปล้าง ๆ นั่นห้องน้ำ” ตะวันกับต้าเหนิงพากันเดินเข้าห้องน้ำใกล้ ๆ โดยที่จูลี่และแจ็กกี้ก็ตามไปด้วยกัน แยกกันเข้าห้องน้ำชาย เหล่าบอดีการ์ดสองคนยืนรอแถวนั้นแต่ยังเว้นระยะห่างเพราะตะวันสั่งว่าอยากได้ความเป็นส่วนตัวห้องน้ำนี้มีทางเข้าสองทาง กล้างขวางแต่คนไม่พลุกพล่านสองสาวช่วยกันล้างทำความสะอาดเอาคราบเหนียว ๆ จากน้ำเชื่อมและคราบสีเหลืองจากมะม่วงไทยออกจากเสื้อราคาแพงของตะวันที่วันนี้เลือกใส่สีขาวมา“โอ้ย ออกยากด้วยนะ กลับไปซักที่บ้านเถอะ”“เออ จากที่สกปรกไม่มาก ตอนนี้เปียกเป็นทางเลยมึง สรุปเลอะกว่าเดิม” ตะวันพูดขำ ๆ“เคมึง กูฉี่แป๊บ” ต้าเหนิงเข้าห้องน้ำ ตะวันเลยก้มหน้าควานหาลิปสติกในกระเป๋ามาเติมปาก หากทันทีที่เงยหน้าขึ้นมามองกระจก ลิปสติกสีชมพูพีชยังไม่ทันได้จรดลงบนริมฝีปากบาง ตะวันก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นชายฉกรรจ์สองคน
“ทำไม อยากให้กลับไปว่างั้น” ตะวันถาม สีหน้าหญิงสาวราบเรียบเหมือนกับน้ำเสียง“แค่ถาม... กูสงสารหลาน”“สงสารอะไร แจ็คไม่เคยถามถึงพ่อเลยสักครั้ง” เธอเลี้ยงแจ็คสันมาอย่างดี คิดว่าให้ความรักความอบอุ่นกับลูกได้เต็มที่ และเพราะตอนนี้แจ็คสันอาจจะยังเด็กเกินกว่าจะถามถึงบิดาผู้ให้กำเนิด หรืออาจเพราะความไม่ขาด มีคนรักมากมาย อบอุ่นจนล้นแจ็คสันเลยไม่เคยถามอะไร ส่วนโตไปจะถามไหมค่อยว่ากันอีกที“เออ กูก็ลืมว่าทุกวันนี้ลูกมึงมีแดดดี้เยอะมาก...” แจ็กกี้ปล่อยขำเมื่อคิดถึงบรรดาผู้ชายที่เข้ามาขายขนมจีบให้ตะวัน รูปหล่อ ฐานะรวยมาก และโพรไฟล์ดี ๆ ทั้งนั้นแล้วพวกนั้นก็ยังอยู่เป็น ส่วนใหญ่จะเข้าทางแจ็คสันอีกต่างหาก คนไหนเอาใจเก่งถูกใจแจ็คสันเรียกแดดดี้หมดไม่สนว่าแม่อย่างตะวันจะชอบไหม ล่าสุดของเล่นเต็มบ้านจนต้องมีโกดังเก็บไม่รู้ว่าหากปรมะรับรู้จะทำสีหน้าอย่างไร ตะวันที่เคยให้ความสำคัญกับมันเพียงคนเดียว ไม่เคยมองใคร ตอนนี้เป็นดวงตะวันที่เฉิดฉาย ส่วนตัวมันเอง แม้จะหันมองตะวันให้เต็มตายังทำไม่ได้ กับลูกชายก็ยังไม่เคยได้เห็นหน้า ถ้าตะวันเกิดมีคนรักใหม่ไม่รู้ปรมะจะยอมถอดใจหรือจะกัดลิ้นหนีตายไปเสียก่อนสี่สาวช็อปปิ
“เอ้อ ว่าจะถามอยู่ เรื่องที่จะฟ้องเป็นไงบ้าง ได้ทนายรึยัง” ตะวันหันมาสนใจเรื่องทองแก้บนเส้นนั้นที่มีเรื่องมีราวกันเธอเคยเตือนแล้วว่าให้เอาทองปลอมไปใส่ให้ย่านาคเพราะตอนบนก็ไม่ได้ระบุเสียหน่อยว่าแก้บนด้วยทองอะไรแบบไหน น้ำหนักเท่าไหร่ แล้วดูสิ จูลี่มันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ ซื้อทองคำแท้หนักตั้งสิบบาทไปแก้บน ฝ่ายนั้นก็หัวหมอไม่ยอมคืน สุดท้ายก็มีเรื่องกันจนได้ ได้ยินว่าวันก่อนเพื่อนบอกจะไปคุยกับทนายไม่รู้ว่าของสำนักงานไหนตะวันรอคำตอบอยู่นานแต่ทั้งจูลี่และแจ็กกี้กลับชะงักนิ่งไปจนผิดสังเกต“เป็นอะไรกัน มีปัญหาอะไรกัน อย่าบอกนะว่าฟ้องเอาคืนไม่ได้ เฮ้ย มันต้องได้สิแก มันยังเป็นสิทธิ์ของคนแก้บนนะ เรายังไม่ได้ยกให้เขาเลย ยอมได้ยังไง” ตะวันเริ่มตีโพยตีพายเมื่อเพื่อนไม่ตอบ จนสุดท้ายเป็นแจ็กกี้ที่ทนไม่ไหวตัดสินใจเปิดปากเล่า“ตะวัน กูมีเรื่องจะเม้า” แจ็กกี้ตั้งท่าจะเม้าจริงจังให้หายคันปาก อยากโทรมาเล่าตั้งแต่ก่อนบินมาฮ่องกงแล้วด้วยซ้ำแต่จูลี่สั่งห้ามไว้ และตอนนี้ก็เช่นกันที่กำลังโดนจูลี่ตะครุบปิดปากอย่างไว“มึงหยุด!”“อื้อ! อีออก” แจ็กกี้ที่โดนอุดปากดิ้นรน เรียกเพื่อนด้วยภาษาดอกไม้“มีอะไร” ตะวันหรี่
“โอ้ย กัดกันไม่พัก!” ตะวันส่ายหน้าแล้วบ่นยิ้ม ๆ เวลาผ่านไปหลายปี เหล่าเพื่อนสนิทก็ยังกัดกันไม่เว้นแต่ละวัน มีเปลี่ยนไปบ้างก็เรื่องการใช้คำที่ไม่หยาบคายกันมาก ยิ่งในตอนที่อยู่ต่อหน้าหลาน กลัวเด็กมันจะจำจูลี่ แจ็กกี้ และต้าเหนิงบินมาหาเพื่อนกับหลานที่ฮ่องกงบ่อยมาก ซื้อของเล่นมาฝากหลานทุกครั้ง สนิทกับคนตระกูลหยาง โดยเฉพาะปู่และย่าของตะวันที่เอ็นดูทุกคนเหมือนลูกเหมือนหลาน พวกท่านเคยขอบคุณทั้งสามคนที่คอยมาสร้างรอยยิ้มให้ตะวันและแจ็คสันเหลนรักบ่อย ๆ รวมถึงคนในบ้านด้วยจนคุณอาโจชัวสุดหล่อสายเปย์ของตะวันถึงขั้นมอบสิทธิพิเศษให้บรรดาเพื่อนทั้งสามสามารถบินฟรีไทยฮ่องกงแบบไม่จำกัดครั้ง จัดชั้นที่นั่งบิสซิเนสคลาสให้ เพื่อที่ตะวันหลานรักจะได้เจอเพื่อนบ่อย ๆ ไม่เหงามาก จนทุกวันนี้ตะวันอยู่ดีมีความสุข กินได้นอนหลับ หน้าตาสดใสขึ้นในทุก ๆ วัน สิ่งนี้ต่างหากที่มันประเมินค่าไม่ได้สิ่งที่คนตระกูลหยางเชื่อเหมือนกันคือ ‘แม่ที่มีความสุขเท่านั้น ถึงจะสามารถเลี้ยงดูลูกให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้’แจ็คสัน หยาง ทายาทของตระกูลหยางจะได้เติบโตขึ้นมาเป็นอย่างดี และมีความสุขอย่างไรล่ะ“แล้วของขวัญของฉันล่ะ?” ตะ
ได้ยินจากปากเพื่อนสนิทของหญิงสาวก็ยังอดดีใจไม่ได้ ดีใจที่ตะวันสดใส แม้ส่วนลึกก็แอบเจ็บปวดใจเมื่อเขาไม่ใช่เหตุผลหลักที่ทำให้ตะวันยิ้มได้อีกแล้วก็เท่านั้นเรื่องตะวันพอได้รู้บ้าง ตอนนี้เธอไว้ผมสั้นประบ่า หน้าตามัธยมแต่นมมหาลัย ยิ่งผมสั้นยิ่งเหมือนเด็ก เป็นเด็กที่โคตรน่าเอาเธอน่ารัก ผิวขาวจัด เวลามือเขาบีบหรือสัมผัสจะขึ้นสีชมพูชัดมาก เมื่อก่อนเขามักชอบให้เธอไว้ผมยาว ปล่อยสยาย เพราะอะไรน่ะหรือ ก็เพราะหวงต้นคอขาว ๆ ของเธอ ไม่ชอบให้ใครมอง กลัวจะมีใครหลงเวลาได้เข้าใกล้ กลิ่นตัวตะวันหอมจะตายชักคิดถึงเรื่องตะวันวนเวียนอยู่ในหัวตลอด แต่เรื่องลูกเขาไม่เคยรับรู้อะไรทั้งนั้นนอกจากเพศว่าเป็นเด็กผู้ชายตะวันเคยอัปรูปลูกชายอยู่บ้างสองสามครั้ง แต่ก็ไม่เคยได้เห็นหน้า เป็นเพราะการรักษาความปลอดภัยในฐานะทายาทตระกูลหยาง ยิ่งเป็นผู้ชายยิ่งต้องระมัดระวังแต่หญิงสาวกลับโดนวิจารณ์ มีชาวเน็ตคอมเมนต์ถามเหตุผล ตะวันก็ให้เหตุผลว่าเพราะอยากรักษาสิทธิ์ของลูก และนั่นทำให้เธอโดนด่ายับว่ากระแดะและคำด่าทอเสียดสีสารพัดทั้งที่จริงการจะเปิดหรือไม่เปิดหน้าลูกเป็นสิทธิ์ของตะวัน ไม่ได้เกี่ยวห่าเหวอะไรกับพวกมันเลยด้วยซ้ำค