LOGIN
เสียงลมหายใจของตัวเองดังชัดเจนในความเงียบ ภัทรมองป้ายชื่อหน้าห้องประชุมที่เขียนว่า “President Way Akirah Vattanakul” พลางสูดลมหายใจลึกจนสุด ความทรงจำเมื่อห้าปีก่อนย้อนกลับเข้ามาในหัวราวกับหนังม้วนเก่าที่ใครเปิดซ้ำ
ครั้งสุดท้ายที่เขาเห็นชื่อ “เวย์” ไม่ได้อยู่บนป้ายทองคำในตึกสูงแบบนี้ แต่เป็นชื่อในโทรศัพท์ ที่เขาปล่อยให้ดังอยู่นานก่อนกดปิดเสียง...และหายไปจากชีวิตอีกฝ่ายโดยไม่มีคำลา ภัทรยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยกมือเคาะประตูเบาๆ “เข้ามา” เสียงทุ้มเย็นตอบรับจากด้านในสั้นและเฉียบจนหัวใจของเขากระตุกวูบ เขาผลักประตูเข้าไปอย่างช้าๆ แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านกระจกใสบานใหญ่ที่กินพื้นที่เกือบทั้งผนัง ทอแสงสีทองสะท้อนโต๊ะทำงานไม้เข้มและเฟอร์นิเจอร์หรูเรียบทุกชิ้นในห้อง และชายคนนั้น…นั่งอยู่ตรงโต๊ะทำงานกลางห้อง สูทสีดำสนิทขับให้ร่างสูงสง่ากว่าที่เคยเห็น ใบหน้าคมเฉียบภายใต้แว่นตากรอบบางดูสุขุมจนแทบมองไม่ออกว่าในใจคิดอะไร เวย์เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามาในห้อง ดวงตาคมเข้มใต้คิ้วหนาแฝงประกายบางอย่างที่อ่านไม่ออก “นักศึกษาฝึกงาน?” เวย์ถามสั้น เสียงเรียบไม่ต่างจากตอนอยู่ในห้องประชุมเมื่อเช้า ภัทรพยายามยิ้ม มือกำแฟ้มแน่นจนข้อนิ้วขาว “ครับ ผมชื่อภัทร มาจากมหาวิทยาลัย—” “ไม่จำเป็นต้องแนะนำมาก ฉันรู้แล้วว่ามาจากที่ไหน” คำพูดนั้นทำให้ภัทรนิ่งงัน เขารู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่าย “จำได้” — แม้จะไม่ได้เอ่ยชื่อออกมาตรงๆ เวย์เอนตัวพิงพนักเก้าอี้ สายตาคมจับจ้องไม่วางราวกับกำลังอ่านใจคนตรงหน้า “ห้าปีไม่เจอกัน นายดูโตขึ้น...แต่ก็ยังพูดน้อยเหมือนเดิม” เสียงหัวใจภัทรดังอยู่ในหู เขาพยายามรักษาสีหน้าให้เรียบที่สุด “คุณเปลี่ยนไปมากครับ” “แน่นอน” เวย์ยิ้มเย็น “บางคนต้องเปลี่ยน...เมื่อถูกทิ้งไว้กับความว่างเปล่า” ความเงียบเข้าปกคลุมห้องอีกครั้ง ภัทรหลบตา เขาอยากพูดคำขอโทษ อยากอธิบายว่าทำไมวันนั้นถึงเลือกจากมา แต่เมื่อเห็นสีหน้าเรียบนิ่งของเวย์ คำทุกคำกลับติดอยู่ในลำคอ “ฉันไม่คิดว่านายจะมีหน้ากลับมาเหยียบที่นี่” เวย์พูดต่อเสียงต่ำ “แต่ในเมื่อมาถึงแล้ว...ก็อยู่ให้ได้” “ครับ ผมจะไม่ทำให้คุณลำบากใจ” ภัทรตอบเบาๆ แต่เสียงนั้นกลับสั่นจนตัวเองยังได้ยิน “ฉันไม่ได้ลำบากใจ แค่กำลังคิดว่าจะเริ่มเอาคืนจากตรงไหนก่อนดี” คำพูดนั้นเย็นเฉียบกว่าลมในห้อง ภัทรเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นเพียงดวงตาที่เคยอบอุ่น บัดนี้กลับแข็งกระด้างราวเหล็กเย็น “ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม แต่ผมกลับมาเพราะอยากแก้ไข ไม่ใช่หนีอีกแล้วครับ” เวย์หัวเราะในลำคอเบาๆ “คำพูดดีนะ แต่ฉันไม่เชื่อคำสัญญาเก่าๆ ของคนที่เคยเดินหนีทั้งน้ำตา นายจะพิสูจน์ได้ยังไง...ว่าคราวนี้มันต่าง?” ภัทรกลืนน้ำลายฝืด เขาไม่มีคำตอบ มีเพียงสายตาที่สั่นระริกกับหัวใจที่เต้นแรงจนแทบทะลุอก เวย์ลุกขึ้นเต็มความสูง เดินอ้อมโต๊ะมาหยุดตรงหน้า ภัทรเงยหน้ามองด้วยความรู้สึกหลากหลาย ทั้งกลัว ทั้งดีใจ ทั้งเจ็บ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ แบบเดิมลอยแตะปลายจมูก — กลิ่นเดียวกับที่เคยกอดกันในคืนฝนตกเมื่อหลายปีก่อน “ตั้งแต่พรุ่งนี้ มาประจำที่ฉันโดยตรง” เสียงเวย์เยือกเย็น “ครับ?” “อยากเริ่มต้นใหม่ไม่ใช่เหรอ ก็มาเริ่มตรงนี้สิ ใต้สายตาฉันเอง” ภัทรเม้มปากแน่น สุดท้ายก็พยักหน้า “ครับ ผมจะทำให้ดีที่สุด” เวย์ยิ้มบางๆ — รอยยิ้มที่ทั้งเจ็บปวดและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน “ฉันหวังว่าจะไม่เหมือนตอนนั้น...ที่นายบอกว่าจะไม่หนี แล้วก็หายไป” เขาหันหลังกลับ เดินไปที่หน้าต่าง เงาแดดยามเย็นทอดลงบนพื้นข้างเท้า ภัทรมองภาพนั้นด้วยหัวใจที่สั่นไม่หยุด การกลับมาครั้งนี้...อาจไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ที่ง่าย แต่มันคือโอกาสสุดท้าย — ที่เขาจะ “ขอรักอีกครั้ง” จากคนที่เขาไม่เคยลืม ---หลายวันหลังจากเหตุการณ์คืนนั้น ความเงียบเข้ามาแทนที่เสียงโกลาหลในชีวิตของภัทรกับเวย์รามหายตัวไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย มีเพียงข่าวลือว่าเขาละทิ้งทุกอย่างและเดินทางออกนอกประเทศ — เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักภัทรยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกสูง ลมเย็นพัดผ่านเส้นผมอย่างอ่อนโยน เขามองวิวเมืองในยามค่ำคืน แสงไฟสะท้อนบนกระจกตา ทำให้เขาเห็นภาพตัวเองในอดีตที่เหนื่อยล้าและสับสนตอนนี้…เขาไม่ใช่คนคนนั้นอีกแล้วเสียงฝีเท้าดังขึ้นเบื้องหลัง ก่อนร่างสูงของเวย์จะปรากฏในแสงไฟสีส้มของโคมบนดาดฟ้าเวย์ยังคงดูเข้มขรึมเช่นเคย แต่รอยยิ้มที่มุมปากบ่งบอกถึงความสบายใจที่เขาไม่ได้แสดงมานาน“คิดอะไรอยู่?” เวย์ถาม พลางเดินเข้ามาใกล้จนยืนเคียงกัน“คิดว่ากว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เราผ่านอะไรกันมามากแค่ไหน” ภัทรตอบเบา ๆ “บางที…ความเจ็บปวดมันอาจจำเป็น เพื่อให้เราเข้าใจคำว่ารักจริง ๆ”เวย์พยักหน้า ดวงตาสีเข้มของเขาจ้องมองเมืองตรงหน้า “ฉันเคยคิดว่ารักคือการครอบครอง แต่ตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วว่ารักคือการยืนอยู่ข้างกัน แม้โลกจะพังลงก็ตาม”ภัทรหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนเอื้อมมือไปจับมืออีกฝ่าย “นายพูดอย่างกับพระเอกหนัง”“ฉันก็เป
ค่ำคืนในออฟฟิศยังคงตึงเครียด รามและผู้ติดตามของเขายืนตรงกลางห้อง พลางมองภัทรกับเวย์ด้วยสายตาเย็นชา“คืนนี้…ทุกอย่างจะจบลงที่นี่” รามพูดเสียงเข้มภัทรสูดลมหายใจลึก พยายามรวบรวมความกล้า หลังจากหลายปีของความสับสน ความเจ็บปวด และความแค้น มาถึงวันนี้ เขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำลายความรักและความเชื่อมั่นของเขากับเวย์อีกเวย์ยืนข้าง ๆ เขา มือทั้งสองประสานกันแน่น เสียงหัวใจทั้งคู่เต้นสอดประสานเป็นจังหวะเดียวกัน“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…เราจะสู้ด้วยกัน” เวย์กระซิบรามหัวเราะเย็น พลางเปิดเอกสารที่เก็บความลับทั้งหมด “ถ้าอย่างนั้น…ลองดูว่า ใครจะแข็งแรงกว่ากันจริง ๆ”ทันทีที่เขาพูดจบ ผู้ติดตามของรามเริ่มเคลื่อนไหว แต่ภัทรไม่ได้ถอยหลัง เขาก้าวเข้ามาข้างหน้า ชี้ตาไปที่ราม “ฉันไม่กลัวนาย และฉันจะไม่ยอมให้ใครทำลายความสัมพันธ์ของฉันกับเวย์”เวย์ยิ้มบาง ๆ พลางยกมือสัมผัสแขนภัทร “เราอยู่ด้วยกัน…ทุกสถานการณ์”การเผชิญหน้ากลายเป็นการต่อสู้ทางความคิดและอารมณ์ รามพยายามบีบให้ทั้งคู่แตกแยก แต่ทุกครั้งที่เขาพูด ภัทรและเวย์กลับจับมือแน่นขึ้น ความรักที่แท้จริงของพวกเขาไม่สามารถถูกแยกออกได้ง่าย ๆรามมองด้วยความโกรธ แต่แล้
ค่ำคืนนั้น ห้องประชุมใหญ่ในออฟฟิศเต็มไปด้วยความตึงเครียด ทุกคนในนั้นรู้สึกได้ถึงแรงกดดันรอบตัว แต่สำหรับภัทรและเวย์ มันหนักหนาสาหัสยิ่งกว่าที่เคยเจอรามยืนตรงกลางห้อง ดวงตาคมเย็นกว่าทุกครั้งที่พบหน้า เขาไม่เพียงแค่ถือความแค้นส่วนตัว แต่ยังถือความลับที่ซ่อนอยู่ในอดีตของภัทร และมันกำลังถูกเปิดเผยต่อหน้าทุกคน“เวย์…ภัทร…คืนนี้นายจะเห็นทุกอย่างที่ฉันรู้” รามพูดช้า ๆ พลางยิ้มเย็นภัทรเงยหน้าขึ้น ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธและความระแวง “ราม…พูดให้ชัดเจน ว่านายต้องการอะไร”รามหัวเราะเบา ๆ “ฉันต้องการความจริงทั้งหมด นายคิดว่าการเก็บความลับไว้จะปกป้องใครได้หรือ?”เวย์ก้าวเข้ามาข้าง ๆ ภัทร มือแน่นกำ แต่สายตาไม่ละจากราม “ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น…เราจะเผชิญมันด้วยกัน”รามหยิบแฟ้มบางอย่างจากกระเป๋าแล้ววางบนโต๊ะ พลิกเปิดเอกสารและภาพถ่ายบางส่วน“นี่คือสิ่งที่ภัทรพยายามปิดซ่อน…และเกี่ยวข้องกับบริษัทเก่า ความสัมพันธ์กับคนสำคัญ และการตัดสินใจที่ส่งผลต่อทุกคนที่นี่”ภัทรกลืนน้ำลาย รู้ดีว่ามันถึงเวลาต้องเผชิญ แต่หัวใจเขากลับสั่นแรง ไม่ใช่เพราะกลัวราม…แต่เพราะกลัวความจริงจะทำลายสิ่งที่เขาและเวย์สร้างขึ้น“แต่ฉัน…
ค่ำคืนในออฟฟิศเวย์เงียบสงัดผิดปกติ ไฟจากโต๊ะประชุมส่องสว่างเพียงเล็กน้อย แต่ละเงาของห้องเหมือนซ่อนความลับบางอย่างที่รอคอยให้ถูกเปิดเผยภัทรยืนอยู่ข้างหน้าต่างมองออกไปนอกเมือง แต่ใจไม่ได้อยู่ที่วิวคืนนี้ เขากำลังคิดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป เมื่อราม — ศัตรูเก่าที่ครั้งหนึ่งทำให้เขาต้องสูญเสียทุกอย่าง — ปรากฏตัวอีกครั้งประตูห้องเปิดออกเบา ๆ เสียงรองเท้ากระทบพื้นทำให้ทั้งสองคนหันไปมอง“ราม…” เวย์พูดเสียงเรียบ แต่สายตาคมจับจ้องเขาอย่างไม่ไว้ใจรามก้าวเข้ามาในห้อง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มเย็นชา ดวงตาเหมือนมีประกายคมกริบ “เวย์…นานแล้วนะ ไม่เจอกันแบบตัวต่อตัว”ภัทรเม้มปากแน่น เขารู้สึกถึงแรงกดดันรอบตัว รามไม่ได้มาเพียงเพื่อสนทนา แต่เหมือนมาทวงทุกอย่างคืน — ทั้งอดีต และความลับที่ถูกฝังไว้“ราม…เรามาที่นี่เพราะอะไร” เวย์ถามเสียงเข้ม แต่ใจของเขาก็เริ่มเต้นแรงเหมือนกันรามหัวเราะเบา ๆ แล้วหยุดตรงกลางห้อง “เรื่องบางอย่างที่นายคิดว่าซ่อนอยู่ดีแล้ว…ไม่ใช่แบบนั้นนะเวย์” เขาหันไปมองภัทร “และภัทร…นายคงคิดว่ามันจบไปแล้ว แต่ความจริงมันไม่เคยหายไปไหน”คำพูดของรามทำให้หัวใจภัทรสะท้าน เขารู้ทันทีว่าอ
เช้าวันถัดมา ภัทรและเวย์นั่งประชุมในห้องบอร์ดชั้นสูง บรรยากาศเต็มไปด้วยความตึงเครียด แต่ไม่ใช่เพราะงาน หรือคู่แข่งทางธุรกิจ แต่เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจของทั้งสองสายตาของเวย์ยังคงจับจ้องภัทรอย่างอดไม่ได้ ใบหน้าคมเข้ม แต่ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและความหวง“นายแน่ใจนะว่าจะจัดการเรื่องนี้เอง” ภัทรถามเสียงเรียบ แต่ใจกลับเต้นแรง“ฉันแน่ใจ” เวย์ตอบสั้น ๆ ก่อนจะก้มลงดูเอกสารบนโต๊ะแต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นข้อความเข้าในระบบบริษัท แสดงชื่อผู้ส่งว่า “ลินา” — เลขาคนสนิทของเวย์ และเป็นคนที่เคยเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้ภัทรและเวย์ต้องแยกจากกันภัทรขมวดคิ้วทันที “ลินา?”เวย์เห็นท่าทีของภัทร แววตาของเขาเข้มขึ้นเล็กน้อย “คงมีเรื่องจากอดีตโผล่มาอีกแล้ว”ภัทรถอนหายใจเฮือกใหญ่ น้ำหนักในใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ทุกครั้งที่เห็นชื่อของลินา ความทรงจำเก่า ๆ ถูกปลุกขึ้นมา — ความเข้าใจผิด ความเสียใจ และความเจ็บปวด“ผมไม่อยากให้เรื่องเก่า ๆ มายุ่งกับเราอีก” ภัทรพูดเสียงเข้ม แต่แฝงด้วยความกังวล“ฉันก็ไม่อยากให้มันยุ่งเหมือนกัน” เวย์ตอบ แต่สายตายังคงจับจ้องข้อความที่เข้ามาข้อความจากลินาเป็นสั้น
เช้าวันใหม่ ภัทรตื่นขึ้นพร้อมกับเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังอยู่ข้างหัวเตียง แต่ใจของเขาไม่ได้สงบเหมือนปกติ มันกลับเต็มไปด้วยความสับสนและแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาพยายามปฏิเสธมานานทุกครั้งที่เขานึกถึงเวย์ — แม้เพียงแวบเดียว — หัวใจของเขาก็เต้นแรงเหมือนครั้งแรกที่พบกันในบริษัท ความคิดที่บอกให้เขาหลีกเลี่ยง กลับถูกความทรงจำของความอบอุ่นและรอยยิ้มของเวย์กลบจนหมดภัทรลุกขึ้นเดินไปที่หน้าต่าง มองออกไปยังเมืองที่ค่อย ๆ ตื่น แต่แทนที่จะรู้สึกสงบ เขากลับรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองถูกรั้งไว้ด้วยเชือก invisible ของเวย์และเหมือนสัญชาตญาณบางอย่างกำลังเรียกเขาให้ไปขณะที่กำลังเตรียมตัวออกจากบ้านเพื่อไปทำงาน ประตูห้องเปิดพร้อมเสียงทุ้มเรียบ “ภัทร…”เขาหันไปพบเวย์ยืนอยู่ที่ประตู สายตาคมดุแต่ไม่แข็งกร้าวเหมือนทุกครั้งที่เจอ มีเพียงบางอย่างที่อ่อนโยนซ่อนอยู่“มาทำไม?” ภัทรถามเสียงเรียบ พยายามซ่อนแรงสั่นในเสียง“ฉันคิดว่า นายอาจจะยังไม่พร้อม แต่ฉันอยากให้รู้ไว้...ว่าฉันไม่ปล่อยมือจากนายง่าย ๆ” เวย์ตอบ แล้วค่อย ๆ ก้าวเข้ามาใกล้ระยะห่างระหว่างพวกเขาแคบลงจนแทบจะสัมผัสกันได้ ภัทรพยายามเบี่ยงหน้า แต่เวย์ก้าวตามทุกจังห







