LOGIN“ไข่มุก” หนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก คุยเก่ง ชีวิตมีแต่การเรียนกับชานมไข่มุกแก้วโปรดเท่านั้น ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยมีความรักเลย แล้วอยู่มาวันหนึ่งโลกก็เล่นตลกผลัก “ผู้ชาย หล่อ เซอร์ ปากร้าย” เข้ามาชนเขาจนเกือบล้มก้นจ้ำเบ้ากับพื้นดีนะที่เขาคนนั้นคว้าไว้ทัน “นี่จะจ้องกันอีกนานไหม ปล่อยผมได้หรือยัง จ้องผมขนาดนี้อย่าบอกนะว่ากำลังหลงเสน่ห์ผม” นี่คือการเจอกันครั้งแรกของไข่มุกกับผู้ชายของเขา ไข่มุกหลงเสน่ห์เขาเข้าอย่างจังและตั้งปณิธานไว้ว่า “คนนี้แหล่ะคือผู้ชายของไข่มุก ผมจะจีบคุณแล้วนะ” ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร ไม่กี่วันต่อมาก็มีเสียงฮือฮาในมหาวิทยาลัยว่ามีร้านชานมไข่มุกมาเปิดใหม่ ชานมอร่อย คนชงชาแซบ ทำให้ไข่มุกผู้รักการกินชานมต้องรีบไปพิสูจน์ พอไปถึงก็พบว่าพ่อค้าชานมสุดแซบนั้นก็คือคนที่เขาหมายปองไว้นั่นเอง ไข่มุกจึงเข้าไปเป็นลูกค้าประจำของร้านซึ่งการไปแต่ละครั้งก็จะพกความฮา ความโก๊ะ ความน่ารักไปฝากพ่อค้าและโพสต์จีบพ่อค้าลงโซเชียลทำให้มีแฟนคลับติดตามมากมาย ส่วนพระเอก(ต้นน้ำ) มีหรือจะยอมถูกจีบฝ่ายเดียว จีบมา จีบกลับไม่โกงนะครับ
View More“โอ๊ย หิว หิว หิว หิวจะแย่อยู่แล้ว นี่ขนาดซัมเมอร์ ไม่ได้เรียนภาคปกตินะ กว่าอาจารย์จะปล่อยออกมาได้ ท้องฉันร้องครวญครางจะแย่อยู่แล้ว”
หว่าหวาหญิงสาวร่างอวบท้วมในชุดนักศึกษาเสื้อตัวโคร่งกระโปรงพรีทบ่นอุบอิบทำหน้าหงิกหน้างอ หลังจากเลิกคลาสเรียนออกมา
“นี่ยัยช้าง หิวอะไรเบอร์นั้น บ่นอะไรกันนักกันหนา อาจารย์แค่เลิกช้าแค่ 5 นาทีเอง ทำอย่างกับว่าอาจารย์เลิกเลทเป็นชั่วโมงงั้นแหละ ดูพุงแกซิใหญ่ขนาดนี้ ยังจะหิวอีกรึ”
ใบเฟิร์น นักศึกษาสาวหน้าสวยหุ่นดีในชุดกระโปรงสั้นแค่คืบกับเสื้อนักศึกษาตัวเล็กที่กระดุมแทบปริ เอานิ้วไปจิ้มพุงกะทิของหว่าหวา อย่างหมั่นไส้
“บอกกี่ครั้งแล้ว ว่าให้เรียกชื่อฉัน ดูปากฉันนะ ฉัน ชื่อ หว่า หวา เข้าใจมั้ยยัยเฟิร์น”
“โอ๊ย....ก็ชื่อแกไม่สมกับตัวเลยอ่ะ เรียกยัยช้างแหละดีแล้ว เมื่อไหร่ที่แกหยุดกินแล้วผอมลงนั่นแหละ ชื่อหว่าหวาถึงจะเหมาะกับแก ดูซิพุงย้วยพุงย้อยไปหมดแล้ว อดข้าวสามวันก็ไม่ตายหรอก”
แล้วใบเฟิร์นก็เข้าไปขยำพุงหว่าหวา และจี้เอว อย่างมันมือ สองสาวหยอกล้อหัวเราะเล่นกันคิกคัก แล้วทั้งคู่ก็หันไปมอง ไข่มุก หนุ่มน้อย หน้าหวาน ผิวขาว มีลักยิ้ม รูปร่างผอมบาง และด้วยส่วนสูงเพียง 168 เซนติเมตร ทำให้ไข่มุกดูเป็นผู้ชายน่ารัก ตัวเล็กตัวน้อย หนึ่งเดียวของแก๊งสาว ที่ตอนนี้เอาแต่นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
“เป็นอะไรไปไข่มุก ทำเป็นเงียบขรึม มันผิดปกตินะเนี่ย”
ใบเฟิร์นหันไปทักเพื่อนรัก
“นั่นซิ มีไรไม่สบายใจหรือเปล่า ปรึกษาหว่าหวาคนนี้ได้นะเพื่อน”
“ไม่มีอะไร ก็แค่รอว่าเมื่อไหร่เธอสองคนจะหยุดตีกันสักที จะได้ไปหาอะไรกินกัน”
“พูดถึงเรื่องของกิน เราจะไปกินอะไร ที่ไหนกันดี”
หว่าหวารีบเปลี่ยนเรื่อง พร้อมดวงตาเป็นประกาย
“งั้นเราไปกินที่โรงอาหาร ใกล้ๆ กันดีมั้ย ได้กินเร็วด้วย”
ไข่มุกเสนอ
“โรงอาหารอีกแล้ว ไม่เบื่อกันบ้างหรืองัยคะ คุณไข่ ฉันอยากจะกินพิซซ่า หรือไม่ก็สเต๊กอ่ะ”
ใบเฟิร์นเสนอทำเสียงอ้อน
“ไม่ได้หรอก เดือนนี้เราหมดโควต้าพิซซ่าแล้ว เอาไว้เดือนหน้าค่อยไปกินกัน”
ไข่มุกบอก
“ฉันเลี้ยงก็ได้นะแก แต่ไม่เลี้ยงยัยช้างนะ เพราะยัยช้างกินจุ”
“งั้นฉันโหวด ไปกินที่โรงอาหารเหมือนไข่มุกเพราะฉันจะกินข้าวขาหมูแล้วต่อด้วยก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋นอีกหนึ่งชาม”
หว่าหวาผู้ที่ไม่ได้สนใจในสถานที่ สนใจแต่ปริมาณเพียงอย่างเดียว ออกความเห็น“ว้าย ว้าย ว้ายยยช้างจะกินหมู”
ใบเฟิร์นหันไปล้อเลียนหว่าหวาแล้วแลบลิ้นใส่ หว่าหวาเห็นก็สะบัดหน้าหนีแล้วเชิดใส่ไม่สนใจคำพูดใบเฟิร์น
“กินที่โรงอาหารนี่แหละ เดี๋ยวหว่าหวาจะหิวจนเป็นลม เดือดร้อนต้องมาช่วยกันลากอีก”
ไข่มุกแอบแหย่หว่าหวาไปนิด แล้วเข้าไปกอดพุงลูบพุงหว่าหวาด้วยกลัวว่าเพื่อนจะงอน
“ก็ได้ ที่ยอมเนี่ยเพราะไม่อยากเหนื่อยตอนยัยช้างเป็นลมหรอกนะ"
“ชิ.. ก็แพ้โหวดอะนะ”
หว่าหวาหันไปทำหน้าท้าทายก่อกวนใบเฟิร์น จนไข่มุกต้องมาห้ามทัพทั้งคู่อีกรอบ
“พอได้แล้ว ไปกินกันเถอะ ถ้าเธอทั้งคู่ยังอยากจะทะเลาะกัน ตีกัน ก็เชิญ เราไปก่อนนะ”
ไข่มุกเดินนำหน้าสองสาวมุ่งตรงไปที่โรงอาหาร จนสองสาวต้องรีบวิ่งตามมา
“เดี๋ยวสิ ไข่มุกรอพวกเราด้วย”
เมื่อสามคนถึงโรงอาหาร หว่าหวาก็ไม่ผิดคำพูด เดินถือจานข้าวขาหมู มาพร้อมกับ ก๋วยเตี๋ยวอีกหนึ่งชาม ส่วนใบเฟิร์นกับไข่มุกก็ถือชามก๋วยเตี๋ยวกันมาคนละชาม แล้วก็มานั่งกินด้วยกัน
“นี่ไข่มุกเธอจะประหยัดไปไหนเนี่ย กินที่โรงอาหารทุกวัน แถมยังกินแต่ก๋วยเตี๋ยวเหมือนเดิมด้วย ไม่เบื่อหรือไง”
ใบเฟิร์นถามขึ้นมาก็เพราะว่ากลุ่มของหล่อนจะกินแต่ข้าวที่โรงอาหาร จะมีบ้างที่ย้ายไปกินตามคณะต่างๆ แต่ก็ยังคงคอนเซปเป็นโรงอาหารอยู่ดี นานๆ ที ถึงจะชวนกันไปตามร้านหรู ร้านดังในห้างสรรพสินค้าหรือไม่ก็คอมมิวนิตี้มอลล์ต่างๆ
“แหมแก ถ้าฉันเป็นลูกเจ้าสัวแบบแกนะ ก็คงกินหรูอยู่แพงได้หรอกนะ เดี๋ยวรอฉันทำงานก่อน แล้วค่อยว่ากัน”
ไข่มุกพูดขึ้นมา
“เอ่อ..คุณไข่คะ ได้ข่าวว่า พวกเราพึ่งจะจบปีหนึ่งเตรียมตัวจะขึ้นปีสองกันเองนะคะ รอทำงานนี่ ต้องรออีกสามปีเลยนะ มีหวังอิฉันแห้งเหี่ยวตายกันพอดี”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า อะไรแห้ง อะไรเหี่ยวจ๊ะเฟิร์น”
“แหม.. ทีเรื่องแบบนี้ไวเชียวนะไอ้คุณไข่จอมหื่น”
ใบเฟิร์นหัวเราะ
“ฉันหื่นตรงไหน ก็แค่คิดว่า เธอคงหมายถึงพุงแห้งผิวหนังเหี่ยวก็แค่นั้นเอง”
ทั้งสามคนกินอาหารกันไปแล้วคุยเม้าส์มอยกันไปอย่างสนุกสนาน
“เออนี่ ยัยเฟิร์น ช่วงนี้ไม่ค่อยเห็นหนุ่มๆ ในสต๊อคของเธอมาวอแวเลย หายไปไหนกันหมด”
“ถามทำไมยัยช้าง ถามหาของกินอะดิ”
“ก็ไม่เถียงนะ ลาภปากฉันนี่นา”
“จริงด้วย ช่วงนี้หายเงียบไปหมดเลยจริงๆ ทำไมเธอกลายเป็นคาสิโนวี่กลับใจแล้วหรือเฟิร์น”
ไข่มุกเองก็รู้สึกได้เช่นเดียวกับหว่าหวา
“ไม่มีอะไรหรอกแก ฉันก็แค่เบื่อ ไม่มีอะไรน่าตื่นเต้นเลย ยิ่งพี่วุฒินะ เจอกันก็ชวนไปดูแต่หนัง เรื่องไหนออกก็จะดูไปหมดทุกเรื่อง น่าเบื่อจะตาย ฉันก็เลยบอกว่าช่วงนี้ฉันเรียนหนัก เหนื่อยอย่าพึ่งมายุ่ง เดี๋ยวคิดถึงฉันโทรหาเอง”
“แล้วหนุ่มวิศวะคนนั้นหล่ะ”
หว่าหวาถาม ซึ่งถ้าจะให้ลิสต์รายชื่อหนุ่มในสต๊อคของใบเฟิร์น หนึ่งหน้ากระดาษ A4 ยังไม่รู้ว่าจะพอหรือเปล่า เพราะด้วยความที่ใบเฟิร์นเป็นคนสวย หุ่นแซบและอัธยาศัยดี ใครๆ ก็อยากเข้าหา และการที่มีหนุ่มมาจีบใบเฟิร์นหลายๆ ครั้งก็มักจะมีขนมติดไม้ติดมือ มาเส้นไหว้เพื่อนสนิทอย่างเขากับไข่มุก อยู่เสมอ
“แทนคุณน่ะเหรอ ความจริงรูปร่างหน้าตานี่เป็นสเปคฉันเลยนะ ติดแต่ว่าแอคติวิตี้นางเยอะเกิน ปั่นจักรยาน วิ่ง เดินป่า พวกเธอคิดว่าคุณหนูใบเฟิร์นอย่างฉันจะไหวไหมล่ะ เหนื่อยก็เหนื่อย ร้อนก็ร้อน ตากแดดตากลมผิวฉันเสียหมดพอดี กลับมาทีไรต้องเร่งไปเข้าสปา คิดแล้วก็เหนื่อย”
“จ้าแม่คนสวยเลือกได้”
ไข่มุกและหว่าหวาพูดออกมาพร้อมกัน ซึ่งทั้งสองเริ่มหมั่นไส้ในความมั่นหน้า มั่นตาของเพื่อนสาวไฮโซคนนี้ซะแล้ว ถึงแม้ใบเฟิร์นจะบอกว่าตัวเองเป็นลูกคุณหนู แต่พออยู่กันในกลุ่มเพื่อน ใบเฟิร์นก็ไม่เคยเรื่องมากเลย กลับเป็นคนที่ตามใจเพื่อนทั้งคู่ตลอด
“เออนี่ ถามแต่เรื่องของฉันแล้วเรื่องเธอล่ะไข่มุก มีใครมาจีบบ้างหรือยัง”
ใบเฟิร์นหันไปถามไข่มุก แล้วไข่มุกก็ชี้มาที่หน้าอกของตัวเองทำหน้างง
“ถามเราเหรอ??”
*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*~*สวัสดีค่ะ .. วันนี้พาน้องไข่มุกกับเดอะแก๊งมาทำความรู้จักกับแม่แม่ทุกคน ฝากเอ็นดูน้องด้วยนะคะ🥰
วันนี้เลิกเรียนผมกับเพื่อนสาวก็ไปหาอะไรกินกัน สำหรับต้นน้ำแฟนผมนะหรือ เขาแวะไปดูที่ร้านก่อนแล้วเขาจะแวะมารับผมอีกที ซึ่งปกติหลังเลิกเรียนถ้าวันไหนผมว่างผมก็จะไปขลุกกับเขาที่ร้าน ไปช่วยเขาเก็บร้าน ทำตัวเหมือนประหนึ่งเป็นเมียเจ้าของร้าน นี่ผมคิดอะไรไปเนี่ย ฮ่า ฮ่า ฮ่าแต่วันนี้ผมต้องแบ่งเวลาให้เพื่อนสาวบ้างไม่อย่างนั้นพวกนางจะงอนผม เพราะตั้งแต่ผมมีแฟน ผมก็จะตัวติดกับต้นน้ำตลอด“นี่ยัยคุณไข่ นั่งเหม่ออะไร” “ห่างผู้นิดหน่อย ถึงกับเหม่อเลยหรือไง ให้มันน้อยๆ หน่อย ตอนในคลาสเรียนก็นั่งกระหนุงกระหนิงตัวติดกัน นี่ไม่ถึงชั่วโมง ทำมาเหม่อลอย เดี๋ยวปั๊ดจะโดนฟาดสักผลัวะ”“โอ๊ย.. ที่ไม่เห็นเดี๋ยวเลยก็ฟาดมาแล้วนะ ยัยเฟิร์น” “ทำไม จะฟ้องผัวเหรอ”“เฟิร์นพูดน่าเกลียดอ่ะ”“นี่คุณไข่ ฉันก็อยากรู้ว่าเธอกับต้นน้ำอ่ะ แบบว่า ได้กันหรือยังอ่ะ”หว่าหวาถามแล้วจ้องมองหน้าไข่มุกทำตาวิ้ง ไข่มุกได้แต่ส่ายหน้า“อะไรกัน นายนั่นกามตายด้านหรือไง ไข่มุกของพวกเราน่ารักขนาดนี้ ที่ก็ต้องสองเดือนแล้วยังไม่ซ่ำกันอีก ทนได้ไงนะ”“เฟิร์นอ่ะ”“ก็จริงไหมละ ดูหุ่นแซบก็นึกว่าจะเด็ด ที่ไหนได้ทึ่ม มีของดีอยู่ใ
**คัตซีนต่อจาก EP36**“ขึ้นไปดูห้องเราไหม” “ดูอะไร” “อยากดูอะไรก็จะเปิดให้ดูหมดเลย” “ไม่เอา ไม่อยากดู จะกลับแล้ว”ต้นน้ำพลิกตัวเข้าไปคร่อมคนงอแงไว้ ซึ่งท่าทางตอนนี้มันล่อแหลมมาก เพราะไข่มุกกระเถิบหนีจนหลังชิดผนังโซฟาและไหลลงมาในท่ากึ่งนั่งกึ่งนอน ไข่มุกไม่อาจจะขยับหนีไปไหนได้ เพราะโดนล็อคจากแขนและขาของต้นน้ำที่คร่อมตัวเองไว้“ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ หรือ” “รู้สึกอะไรล่ะ” ไข่มุกตอบเสียงสั่น เพราะต้นน้ำในเวลานี้ดูน่ากลัวมาก เหมือนเสือที่กำลังขย้ำกวางน้อยได้ทุกเวลา ต้นน้ำเอาจมูกเกลี่ยไปที่โหนกแก้มของคนใต้ร่างแล้วกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูว่า“ก็รู้สึกแบบนี้ไง”ต้นน้ำฝังจมูกไปที่แก้มฟู แล้วจรดริมฝีปากไปที่ลำคอขาว ลากไล้เลียและแอบฝากรอยคีสมาร์คจางๆ ไว้ ทำเอาไข่มุกขนลุกเกรียวเสียวไปทั้งลำคอ ต้นน้ำทิ้งจูบไปที่ริมฝีปากนุ่มอีกครั้ง ซึ่งไข่มุกในใจก็อยากจะต่อต้าน แต่ร่างกายกับตอบสนองรับจูบของต้นน้ำ ครั้งที่สามแล้วสินะที่เรียวลิ้นของทั้งคู่ได้สัมผัสเกี่ยวกระหวัดกัน รสจูบที่อ่อนโยนขัดกับบุคลิกที่แข็งกร้าวของต้นน้ำนั้นเหมือนกำลังพยายามจะกระชากวิญ
เช้าวันเปิดเทอมไข่มุกตื่นเช้ามาด้วยความอารมณ์ดี วันนี้เขาจะรีบไปเช็คอินที่ร้านชานมไข่มุกเป็นคนแรกแต่เช้า ก่อนเข้าคลาสเรียนตอนสิบโมงเช้า แค่คิดว่าจะได้เจอกับต้นน้ำไข่มุกก็ยิ้มแก้มปริ ทั้งที่เขาพึ่งเจอกันเมื่อวานและห่างกันไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเลย ‘รีบอาบน้ำดีกว่า’ไข่มุกมายืนหมุนตัวหน้ากระจกสำรวจความเรียบร้อยของตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะคว้ากระเป๋าเป้ใบน้อยสะพายที่หลังแล้วเดินออกจากห้องไปมหาวิทยาลัย แต่ยังไม่ทันได้ก้าวออกจากห้อง โทรศัพท์เขาก็สั่นพร้อมโชว์หน้าจอเป็นเบอร์ของใบเฟิร์นเพื่อนรักเขานั่นเอง“ฮัลโหลว่าไงเฟิร์น”“นี่เธอออกจากห้องหรือยัง”“กำลังจะออกจ้า มีอะไรหรือเปล่า”“งั้นรอแป๊บ เดี๋ยวฉันไปรับ”“มารับทำไม เจอกันที่คณะเลยก็ได้”“เออน่า.. อย่าขัดใจแม่สิ แม่บอกจะไปรับก็รอหน่อยนะ”“งั้นก็ได้ .. เดี๋ยวเราไปรอที่ป้ายรถเมล์หน้าหอนะครับ คุณแม่”“เค.. อีกสิบนาทีเจอกัน”ไข่มุกเดินไปนั่งรอใบเฟิร์นที่หน้าหอพัก ไม่นานรถเก๋งที่คุ้นเคยก็มาจอดเทียบท่าหน้าป้ายรถเมล์ ไข่มุกเดินไปเปิดประตูด้านหลัง เพราะตรงตำแหน่งตุ๊กตาหน้ารถโดนหว่าหวาจับจองเสียแล้ว“นี่นึกอย่างไรถึงมารับเราหน่ะ”“ก็ไม่นึกไงหรอก แค
Baifern: นี่ยัยลูกสาว เราจะเจอกันกี่โมง ขุ่นแม่จะได้ไปรับถูกไข่มุกมองข้อความที่เด้งโชว์ที่หน้าจอ แล้วก็นึกได้ว่าวันนี้แผนการแรกของเขาคือ นัดกับหว่าหวาและใบเฟิร์นเพื่อนรักเพื่อมาเคลียร์ใจกับต้นน้ำ แต่ตอนนี้คงไม่ต้องแล้ว เพราะทั้งกายและใจของไข่มุกก็ยกให้ต้นน้ำไปหมดแล้ว‘จะบอกสองคนนั้นอย่างไรดีนะ’ไข่มุกคิด แล้วก็พิมพ์ข้อความตอบกลับไปว่าLittle Pearl: ไม่ต้องแล้วจ้า เราเคลียร์เรียบร้อยแล้วBaifern: ยังไง ไปเคลียร์กันตอนไหนLittle Pearl: เดี๋ยวเล่าให้ฟังพรุ่งนี้นะBaifern: ทำไมต้องพรุ่งนี้ด้วยล่ะ เล่ามาตอนนี้เลยเรื่องความใจร้อนไม่มีใครเกินใบเฟิร์น สักพักใบเฟิร์นก็โทรเข้ามาหาไข่มุกพอดี“ยังไงคะ คุณไข่ เล่ามาเลย ไปเคลียร์กันตอนไหน แล้วเป็นไงบ้าง”“ไม่มีอะไรจ้าเฟิร์น ทุกอย่างโอเคดี แล้วพรุ่งนี้ค่อยคุยกันนะ”“อ้าวก็ฉันโทรมาแล้ว ก็เล่าตอนนี้สิ ทำไมต้องรอพรุ่งนี้ด้วยล่ะ”“ฉันไม่ค่อยสะดวกคุยตอนนี้นะสิ เดี๋ยวค่อยคุยกันเนอะ”“นี่ยัยคุณไข่ เธอมีอะไรปิดบังฉันหรือเปล่า แล้วทำไมเสียงเบาจัง พูดดังๆ หน่อยสิ ไม่ค่อยได้ยินเลย”ไข่มุกค่อยๆ ลุกเดินออกไปหน้าบ้าน ก็มีเสียงเล็กๆ เรียกและวิ่งมาเกาะขาไว้“พี่ค
ความรู้สึกของไข่มุกตอนนี้รู้สึกสับสนไปหมด ถึงแม้คนข้างๆ ก็พยายามทำให้เขารู้สึกอบอุ่น และเชื่อมั่นในตัวเขา แต่สิ่งแวดล้อมในตอนนี้สิ มันใช่ที่ไหน ที่ที่เขายืนอยู่ตรงนี้ก็คือบ้านที่เขาอยู่กับลูกกับเมียเขา ลูกเขาก็ทั้งน่ารักน่าเอ็นดู ภรรยาเขาก็สวยและดูใจดีมากๆ แต่ผมก็ไม่เข้าใจภรรยาเขาอยู่ดีว่าทำไมถึงยอมให้สามีตัวเองมามีใครได้อีกคน แล้วคนคนนั้นก็เป็นผมที่เป็นผู้ชาย เธอยอมได้อย่างไรกัน‘หรือว่าที่เขาว่ากันว่า ผู้หญิงที่มีลูกแล้วความต้องการในเรื่องอย่างว่าจะลดลง เพราะฉะนั้นหลายคนจึงปล่อยสามีตัวเองไปหาเศษหาเลยนอกบ้านได้ เป็นเพราะแบบนี้หรือเปล่า และที่เขายอมผม ก็เพราะผมเป็นผู้ชาย ยังไงก็ไม่มีโอกาสท้อง นั่นหมายความจะไม่สามารถสร้างปัญหาหรือความยุ่งยากให้นางในอนาคตได้ แหมเห็นเรียบร้อยแบบนี้ก็ร้ายใช่เล่นนะ เดี๋ยวคอยดูเถอะถ้านายชานมติดใจผมขึ้นมาเมื่อไหร่ แล้วไม่ยอมไปกิจกรรมกับหล่อน หล่อนจะมาโวยวายทีหลังไม่ได้นะ’‘เอ๊ะ... นี่ผมกำลังคิดอะไรอยู่นี่ สงสัยดูละครน้ำเน่าหลังข่าวมากไปหน่อย ไข่มุก นะ ไข่มุก’ยังไม่ทันที่ผมจะได้คิดอะไรเลอะเลือนไปมากกว่านี้ เจ้าก้อนกลมศัตรูหัวใจที่แสนจะน่ารักของผมก็วิ่งดุ๊กดิ
“บอกแล้วไง ว่าอย่าดื้อ เด็กดื้อต้องโดนลงโทษนะครับ”“...”“ไปขึ้นรถ”“จะไปไหนล่ะ”“ตามมาน่ะ”“เราจะไปกินโจ๊กที่ข้างหอ”ต้นน้ำหันมามองไข่มุก แล้วดึงมือให้เดินตามมาที่รถ พอมาถึงต้นน้ำก็ขึ้นคร่อมรถ แต่ไข่มุกก็ยังยืนนิ่งอยู่“ลืมวิธีการขึ้นแล้วหรือไง หรือว่าจะต้องให้อุ้มขึ้น”“ไม่ต้อง ไม่ต้อง เราขึ้นเองได้”ไข่มุกตอนเสียงสั่นลนลาน เพราะเขาเชื่อแล้วว่าคนอย่างต้นน้ำนั้นบ้าบิ่นกว่าที่เขาคิดไว้มาก เขาสามารถทำบ้าๆ แบบที่พูดได้ โดยไม่สนโลกอีกด้วย ใครจะไปคิดว่าจะมีใครกล้ามายืนจูบกลางที่โล่งแจ้งมีผู้คนเดินผ่านไปมาพลุกพล่านแบบนี้ แต่ต้นน้ำก็ทำ ครั้งนี้ไข่มุกจึงรีบปีนขึ้นคร่อมบิ๊กไบค์ทันทีต้นน้ำมองคนที่มีอาการลนลานอย่างพอใจ เขาเอื้อมไปหยิบหมวกกันน็อคแล้วจะเอามาส่งให้อีกคน ซึ่งตอนนี้เอาแต่นั่งก้มหน้ามองเบาะรถ จนเขาสงสัยว่าที่เบาะรถมีอะไรน่าสนใจกว่าหน้าเขางั้นหรือ ต้นน้ำค่อยๆ เลื่อนมือเข้าไปจับคางมนแล้วเชยขึ้นให้สบตาเขาอย่างเบามือ พลางก็ใช้ปลายนิ้วหัวแม่มือของเขาเกลี่ยแตะที่ริมฝีปากบางนุ่มละมุนน่าสัมผัส นอกจากใบหน้าหวานที่ชอบทำสีหน้าทะเล้นใส่เขาที่ทำให้เขาชอบมอง แล้ว ก็ยังมีริมฝีปากที่เจื้อยแจ้วไม่หย






Comments