"แกจะไปจริง ๆ เหรอฝน มันอันตรายมากเลยนะ…" น้ำอิงจับมือฉันแน่นระหว่างที่เรากำลังนั่งรอรถโดยสารประจำทาง ใช่แล้ว…วันนี้ฉันตัดสินใจจะเข้าเมืองหลวงเมืองแห่งความโหดร้ายที่พรากพี่สาวที่รักของฉันไป
"ฉันตั้งใจแล้วอิง ฉันจะไม่ยอมให้พี่ฟ้าตายฟรี มันต้องชดใช้…" เขาไม่เพียงแต่พรากพี่สาวอันเป็นที่รักแต่ยังทำร้ายหลานของฉันที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวไปจากกัน แต่จะปล่อยให้คนแบบนั้นลอยหน้าลอยตาในสังคมต่อไปได้อย่างไร วันที่พี่สาวฉันทรมานเจียนตายผู้ชายคนนี้คงกำลังเสวยสุขกับใครสักคน ทำไมฉันต้องปล่อยให้เขามีความสุขทั้งที่พี่สาวฉันเลือกหนทางแห่งความตายเป็นทางออก
จะใหญ่คับฟ้าแค่ไหนแต่ปลายฝนคนนี้สัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เขาต้องชดใช้กรรมที่ก่อให้ได้
"พี่นัตตี้บอกว่าเขาไม่ธรรมดาเลย ปลายฝนฉันเป็นห่วงแกนะ"
"ยิ่งใหญ่มาจากไหนฉันก็ไม่สน ฉันต้องพามันมาก้มกราบขอขมาพี่ปลายฟ้าให้ได้"
"ฉันห้ามแกไม่ได้แล้วใช่ไหม…" เสียงน้ำอิงอ่อนลง ในตอนนี้เอาช้างมาฉุดก็เอาฉันไม่อยู่แล้ว ในใจของฉันสุมไปด้วยไฟของความแค้น ทั้งที่อีกไม่นานฉันจะได้มีความสุขกับพี่สาวของฉันแล้วแท้ ๆ แต่เพราะมันคนเดียวทำให้รอยยิ้มโลกทั้งใบของฉันใจแตกสลายจนหันไปพึ่งกับความตาย เพราะมันคนเดียว…
"ถ้าแกรักฉันก็อย่าห้ามฉันอิง ฉันตัดสินใจแล้ว แล้วจะไม่เปลี่ยนใจ"
"งั้นแกก็ดูแลตัวเองแล้วกัน ไว้ฉันจัดการธุระที่บ้านแล้วจะตามขึ้นไป"
"อื้ม รถมาพอดี ไว้เจอกันนะ"
"ฉันต้องคิดถึงแกมากแน่ ๆ เลย" เราสองคนกอดกันกลมเกลียว ฉันกับน้ำอิงเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่จำความได้ เราเป็นเด็กต่างจังหวัดที่ไม่เคยได้ออกไปไหน นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันจะได้เข้าสู่เมืองความวุ่นวายที่เคยเห็นเพียงแค่ในสื่อ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่มีความกลัวที่แวบเข้ามาในหัวของฉันเลย มีแต่จะอยากไปให้ถึงในเร็วไวเพราะฉันอยากแก้แค้นไอชั่วนั้นเต็มทีแล้ว
"ไปนะ…" ฉันรีบขึ้นรถโดยสารที่จะเดินทางเข้าตัวเมือง แล้วต้องต่อเครื่องเพื่อบินไปกรุงเทพ ใช้เวลาถึงสองชั่วโมงก็มาถึงเมืองของความศรีวิไลช่างแตกต่างกับบ้านนอกที่ฉันอยู่เหลือเกิน
"แล้วฝนคิดหรือยังว่าจะเอายังไงต่อไป" พี่นัตตี้เป็นคนอาสามารับฉันที่สนามบิน พี่สาวฉันโชคดีจังที่เพื่อนแบบพี่นัตตี้ ถึงเธอจะไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วแต่พี่นัตตี้ก็ยังดีกับฉันไม่เปลี่ยนแปลงไปเลย
"คงจะหางานทำเป็นอันดับแรกค่ะ"
"คิดหรือยังว่าอยากทำงานอะไร"
"ถ้าเป็นไปได้คงจะทำสายงานที่ฝนจบมา แต่ระหว่างหามีอะไรก็คงทำไปก่อน ฝนไม่เลือกงานหรอกค่ะ"
"พี่ก็อยากฝากฝนทำงานนะ แต่สายงานของพี่มันไม่เหมาะกับฝน ขอโทษด้วยนะ" พี่นัตตี้ทำงานเป็นเอ็มซีงานมอเตอร์โชว์ต่าง ๆ คงจะรู้มาจากพี่ฟ้าแล้วว่าฉันไม่ใช่สายเดียวกับพี่เขาเลย เข้าใกล้สักนิดก็ไม่มี ถึงหน้าตาจะจัดอยู่ในประเภทพอไปวัดไปวากับเขาได้แต่การพูดโฆษณาเอาใจลูกค้าแบบพี่นัตตี้ฉันทำไม่ค่อยถนัด
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ แค่พี่ช่วยหาห้องเช่าให้ฝนก็ขอบคุณพี่มากแล้วจริง ๆ"
"ไม่ต้องเกรงใจ เราก็เหมือนน้องสาวของพี่เหมือนกัน"
"พี่ปลายฟ้าโชคดีมากเลยนะคะที่มีเพื่อนดี ๆ แบบพี่นัตตี้ แต่ไม่น่าไปเจอกับผู้ชายเฮงซวยนั้นเลย" ตอนนี้ทั้งความเศร้าและความแค้นกำลังตีกันอยู่ในหัวของฉัน ฉันไม่ได้บอกพี่นัตตี้ว่ามาที่นี่เพราะอยากแก้แค้นแทนพี่สาวแต่กลับอ้างว่าฉันอยากมาทำงาน เพราะไม่อยากให้เพื่อนพี่สาวเป็นห่วงฉันคิดว่าเรื่องนี้ฉันจัดการเองได้ แอบได้ข้อมูลเรื่องแฟนพี่ปลายฟ้าจากพี่นัตตี้มาเยอะพอแล้ว
"มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอดเลยนะ ไม่ต้องเกรงใจ พี่ต้องกลับไปทำงานต่อแล้ว ไว้เจอกันนะปลายฝน" ส่งพี่นัตตี้กลับบ้านฉันก็มาสำรวจห้องเช่าที่ไม่ใหญ่และไม่เล็กไปสำหรับฉัน จัดการเก็บข้าวของเครื่องใช้ให้เข้าที่พอมาอยู่ที่ใหม่ก็รู้สึกเหงาแปลก ๆ ไม่มีน้ำอิงที่มาหาที่บ้านทุกวันและป้าแย้มที่ใจดีทำอาหารมาให้ว่าแล้วก็คิดถึงเหมือนกัน
ฉันจัดการต่อสายตรงหาน้ำอิงเพื่อนสนิทคนเดียว ปลายสายไม่ปล่อยให้รอนานรับสายฉันอย่างรวดเร็วพร้อมกับเสียงหวานที่เอ่ยทักทาย
(ฝนถึงหรือยัง แกโอเคใช่ไหม?)
"ฉันไม่ได้มารบนะอิง ก็ต้องโอเคอยู่แล้ว"
(แต่ที่แกทำมันอันตรายยิ่งกว่ารบอีก แกกำลังจะทำสงคราม)
"แกไม่ต้องห่วงฉันหรอก ฉันเข้มแข็งขนาดไหนแกก็รู้ ฉันไม่ปล่อยให้ตัวเองเป็นอะไรไปหรอก"
(ดื้อสมกับที่เป็นปลายฝนจริง ๆ)
"งั้นแค่นี้แหละ ฉันต้องไปทำธุระต่อแล้ว แค่โทรมาบอกว่าฉันถึงที่หมายปลอดภัยไม่ต้องเป็นห่วง"
(ธุระที่ว่าคือไปหาเขาใช่ไหม?)
"อื้ม ว่าจะไปดูลาดเลาสักหน่อย ไม่ต้องห่วงฉันยังไม่ลงมือหรอก"
(ดูแลตัวเองด้วย อย่าดื้อให้มากรู้ไหม)
"จ้าแม่~" แล้วปลายสายก็ตัดไป ฉันรีบเปลี่ยนเสื้อแล้วตรงไปหารถเมล์หน้าปากซอย วันนี้ตั้งใจแค่จะไปดูหน้าไอผู้ชายเฮงซวยที่คร่าชีวิตพี่สาวฉันไป ถ้าความอดทนยังมากพอวันนี้ฉันจะก็คงแค่จะดูหน้าตามันอย่างเดียว
"แม่ไม่สบายเหรอครับ?" เดลตาปรายมองหน้าฉันที่นอนเหงื่อซกข้างกายของเดนิสอีกที จะบอกลูกไปตรง ๆ ก็ไม่ได้ว่าแม่ไม่ใช่ไม่สบายแต่แค่ถูกพ่อของเขารังแกมาสภาพเลยเหมือนซอมบี้ตายซากแบบนี้…"เปล่าครับ แม่ไม่ได้เป็นอะไร แค่ข้างนอกมันร้อนนิดหน่อย""ถ้าแม่อ่านไม่ไหวผมอ่านให้น้องฟังก็ได้นะครับ" โถ่…พ่อเทพบุตรสุดหล่อของแม่ แค่นี้ก็หลงรักไม่ไหวแล้วเหมือนเห็นคุณดีแลนย่อส่วนในร่างของเดลตาไม่มีผิดเลย"แม่ไหวครับ แล้ววันนี้ลูกรักของแม่สองคนอยากฟังนิทานเรื่องไหนดีคะ?""อันนี้!!!" เดนิสชิงพี่ชายตอบยกใหญ่ และแน่นอนว่าเดลตาไม่เคยขัดใจน้องสาวมีแต่จะเสียสละเพื่อน้องได้ทุกอย่าง ลูกฉันแสนดีไม่มีใครเกินเลย"ปาป๊า~" ยังไม่ทันที่ฉันจะเล่าเดนิสก็ลุกพรวดจากเตียงนอน ก่อนที่จะกระโดดกอดคนเป็นพ่อของเขาที่เพิ่งเข้ามาอย่างตื่นเต้น"ทำไมยังไม่นอนอีกคะหื้ม…" คุณดีแลนกดหอมแก้มลูกสาวตัวดี แล้วอุ้มมานอนข้างกายเดลตาที่ขยับมากอดฉันแทนจริงอย่างที่เขาบอกไม่มีผิด ส่วนใหญ่ลูกชายจะติดแม่และลูกสาวจะติดพ่อบ้านฉันเป็นแบบนั้นเลย เดลตาจะสุขุมเมื่ออยู่กับพ่อของเขาขณะที่อยู่กับฉันเขาก็จะขี้อ้อนและแสดงความรักไม่เคยอาย ส่วนเดนิสผลพลอยมาจากที่ฉัน
ก็อก ๆ"ปลายเข้าไปนะคะ" ประตูห้องทำงานของดีแลนถูกเปิดออกด้วยร่างของภรรยาสาว เธอเดินยิ้มเข้ามาพร้อมกับถาดที่ถือพายแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกมาจากตู้อบร้อน ๆปลายฝนวางมันไว้บนโต๊ะทำงาน ก่อนที่จะหย่อนตัวนั่งลงบนตักแกร่งแล้วโอบรอบคอคนเป็นสามี"ลูกล่ะ?" เรียวปากหนาเอ่ยถามพร้อมกับฝ่ามือหนาที่โอบเอวคอดแล้วกระชับกายให้ชิดกับเรือนร่างกำยำ"ขึ้นไปอาบน้ำแล้วค่ะ""เหนื่อยไหมคะ ปลายเอาพายมาให้""นิดหน่อย""งั้นปลายป้อนนะ""อยากให้นวดมากกว่า""นวดก็ได้ค่ะ สบายมาก" ปลายฝนพูดจบก็บีบเข้าที่หลังคอของคนตัวสูงตามคำขอ เธอใช้สองมือออกแรงแล้วบีบคลายความเมื่อยล้าเพื่อให้เขาบรรเทา ช่วงนี้ดีแลนกำลังมีโปรเจ็คใหม่ให้ต้องดูแลมากมายนับไม่ถ้วน ไหนจะงานหลักของเดรโกที่เขากลับมาเป็นประมุข กิจการโรงแรมที่กำลังขยายตัว รวมไปถึงคาสิโนหลายที่ที่ทุกอย่างเหมือนจะถาโถมเข้ามาจนเขาไม่ค่อยมีเวลาพักผ่อน"ให้ปลายเข้าไปช่วยไหมคะ?" ปลายฝนเสนอความเห็นจนคนที่หลับตาผ่อนคลายต้องลืมตาขึ้นมามอง"แค่เธอเลี้ยงลูกก็เหนื่อยมากแล้ว แค่นี้ฉันจัดการเองได้""แต่ปลายเคยเป็นเลขาคุณนะ ปลายสามารถช่วยคุณได้เยอะเลย" เคยเป็นที่แปลว่าตอนนี้ไม่เป็นแล้ว หลังจากที
ตึก ตึก!เสียงฝีเท้าหนังราคาแพงกระทบกับพื้นห้องให้เกิดเสียงดังทุกท่วงท่าการเดิน พนักงานหลากหลายคนในละแวกพากันถอยหลังชิดขอบแล้วจ้องมองร่างดูดีทั้งสองไม่วางตา หนึ่งในนั้นคือดีแลนสวมสูทสีดำสุขุมส่วนอีกคนก็คือเจ้าของโรงแรมแห่งนี้เด็กชายเดลตาวัยห้าขวบที่วันนี้อยู่ในชุดสูทสีกรมท่าและหูกระต่ายสีดำเดินทางมาดูงานโรงแรมด้วยตัวเอง"สะ สวัสดีค่ะคุณดีแลน" พนักงานต้อนรับพนมมือไหว้เสียงติดขัด เพราะความหล่อของทั้งสองคนนั้นดันเปล่งประกายจนเธอเกือบเผลอหลวมตัว"วันนี้มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?" ดีแลนถามเสียงเรียบ"ไม่มีค่ะ ทุกอย่างปกติดี ลูกค้าเยอะเหมือนเดิมเลยค่ะ""อืม" ว่าจบดีแลนก็ผละความสนใจจากพนักงานแล้วหันมาย่อตัวนั่งเพื่อคุยกับลูกชายคนเดียว"ให้ลุงอีธานพาไปเดินเล่นก่อนหรือเปล่า เดี๋ยวพ่อจะต้องไปทำงาน" ช็อตนั้นทำพนักงานหลายคนตายเรียบ เขาเย็นชากับคนนอกทุกคนแต่เมื่อเป็นลูกชายชายหนุ่มกลับใช้เสียงนุ่มขึ้นแทบทุกคำที่พ่นออกมา"ไม่ครับ ผมอยากไปทำงานกับป๊า" เด็กน้อยตอบเต็มเสียง เขาเป็นเด็กที่โตเกินกว่าไวไปมาก สุขุม และเย็นชา ถอดแบบดีแลนในร่างของเด็กน้อยสองร่างเดินขึ้นลิฟต์ผู้บริหารกดขึ้นไปยังชั้นสูงสุดที่เป
งานแต่งงานริมทะเล D&P"สวยมาก เหมือนตุ๊กตาเลย" เสียงน้ำอิงเอ่ยกับเพื่อนสนิทที่อยู่ในชุดเจ้าสาวแสนสวย เป็นชุดเดรสฟูฟ่องสีขาวยาวเสมอเข่าและรองเท้าผ้าใบสีขาวปล่อยผมยาวถึงแผ่นหลังเป็นการใส่ชุดแต่งงานที่รองรับความปลอดภัยของเจ้าสาวท้องอ่อนเป็นอย่างดีด้วยความเห็นด้วยของดาร์ลินและดีแลนที่ไม่อยากให้เธอเหนื่อยกับงานแต่งมาก วันนี้จึงถูกจัดเป็นงานแต่งงานเล็ก ๆ ริมทะเลที่เชิญแต่แขกคนสนิทราว ๆ ยี่สิบคน ซึ่งเป็นงานที่ปลายฝนเองก็ชอบมาก งานเล็ก ๆ ที่มีแต่คนที่เธอรู้จักแถมสถานที่จัดยังเอาใจเธอที่เป็นคนชอบทะเลมีคนรักมากมายรวมตัวกันแค่นี้ก็มีความสุขจนล้นออกจากหัวใจแล้วแต่แน่นอนหลังจากที่เธอคลอดทายาทของตระกูล งานแต่งก็จะถูกจัดขึ้นอีกครั้งเพื่อต้อนรับสะใภ้เดรโกอย่างสมฐานะ เป็นพิธีการที่ถึงปลายฝนจะไม่ได้อยากให้มันเกิดขึ้นเพราะสิ้นเปลือง แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เพราะดีแลนเองเป็นถึงทายาทของเดรโกตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคมจะน้อยหน้าก็คงจะไม่ได้"แกพร้อมหรือยัง จะถึงเวลาแล้ว" น้ำอิงเอ่ยให้คนเหม่อส่องกระจกรู้สึกตัว จนเธอยกยิ้มแล้วลุกขึ้นประตูห้องแต่งตัวก็ถูกเปิดออกมา"ลุงมารับลูกสาวอีกคนของลุง" คนเอ่ยคือดัสติน เขากางแ
บทที่ 56 แนะนำตัว"เธอจะไม่แนะนำฉันให้ครอบครัวเธอรู้จักเหรอ?" ร่างบางปรายมองคนที่เพิ่งจะเอ่ยจบ ทั้งสองยังคงยืนอยู่ตรงหน้าที่เก็บอัฐิของพ่อแม่และพี่สาวปลายฝน เมื่อได้ยินดังนั้นคนตัวเล็กก็ยกยิ้มขึ้น ก่อนที่จะเอื้อมไปจับฝ่ามือใหญ่แล้วพูดกับเจดีย์เล็ก ๆ ตรงหน้า"พ่อแม่พี่ฟ้า…คนนี้คือแฟนหนูเองค่ะคุณดีแลน""สวัสดีครับคุณลุงคุณน้าแล้วก็พี่ปลายฟ้า" ดีแลนเอ่ยเสียงอ่อนโยนเปลี่ยนจากจับมือเล็กมาโอบรอบเอวคอดไว้หลวม ๆ"ทั้งสามคนไม่ต้องเป็นห่วงปลายฝนนะครับ ผมจะดูแลเธอให้ดีที่สุด และไม่มีทางทำให้เธอเสียใจเด็ดขาด""ถ้าเขาผิดคำพูด พ่อกับแม่หักคอเขาได้เลยนะคะ" ปลายฝนพูดติดขำ เจอเรื่องเครียดมามากพอแล้ว ตอนนี้ในใจรู้สึกสบายราวกับปุยนุ่นเลย"วันนี้ฝนไม่ได้พาแค่คุณดีแลนมาให้พ่อแม่และพี่รู้จักนะ แต่วันนี้ฝนจะบอกทุกคนว่าฝนมีลูกแล้วนะคะ หลานของทุกคนอยู่ในท้องของฝนแล้ว" ปลายฝนลูบหน้าท้องแบนราบขอบตาเริ่มรื่นด้วยความดีใจยิ่งได้คิดว่าหากครอบครัวรับรู้จริง ๆ คงจะมีความสุขมากกว่านี้"ถึงจะไม่มีทุกคนอยู่กับฝนแล้ว แต่ฝนก็ไม่เหงาแล้วนะคะ ฝนกำลังจะมีครอบครัวเป็นของตัวเองแล้ว เราจะอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้ง พ่อกับแม
วันนี้ดีกว่าทุกวันคือมีคุณดีแลนไปทำงานพร้อมกันด้วย เขาบอกว่ากิจการโรงแรมใหม่เคลียร์จนเสร็จหมดแล้วกำลังอยู่ในขั้นตอนการเปลี่ยนชื่อจากไรอันเป็น DELTA.P งงไหมว่าทำไมไม่อยู่ในเครือเดรโกแล้วเป็นชื่อนี้ได้ แรก ๆ ฉันก็ไม่เข้าใจไม่ต่างแต่เพิ่งได้เฉลยจากเขาที่ว่าเดลต้ามาจากชื่อลูกของเรา ใช่…เขาได้ชื่อลูกตั้งแต่เขาเพิ่งอายุครรภ์แค่สามเดือนไม่รู้เพศเลยด้วยซ้ำแต่ไม่ว่าจะหญิงหรือชายชื่อเดลต้าก็เหมาะสมทั้งคู่ ส่วนดอทพีคือชื่อตัวแรกของฉันที่คุณดีแลนตั้งใจจะให้โรงแรมนี้เป็นของลูกแต่มีฉันอยู่ร่วมด้วยโรงแรมนี้เป็นทรัพย์สินส่วนตัวไม่เกี่ยวกับเดรโก เขาจึงมีอำนาจหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์และพร้อมโอนเป็นชื่อลูกเมื่อถึงเวลาที่เขามีความสามารถมากพอ ฉันเองก็ไม่ได้ขัดอะไร เห็นด้วยกับความคิดของเขาทุกอย่างรวมไปถึงชื่อลูกของเราสองคนด้วย"ฉันมีเรื่องจะบอกเธอ…" ระหว่างทางไปบริษัทคนตัวโตก็พูดขึ้น เขาเอื้อมมือจับฉันไว้แน่นจนฉันสัมผัสได้ว่ามันเป็นเรื่องไม่ค่อยดี"คะ?""มันอาจจะไม่เหมาะสมที่ฉันจะพูดในตอนที่เธอกำลังท้อง แต่ฉันไม่อยากปิดบังกับเธอและคิดว่าเธอสมควรต้องรู้ แต่ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงฉันก็ตามใจเธอทุกอย่างและอยู่ข้