นาเนียร์เดินหน้าบึ้งออกมาจากคอนโดของตัวเอง หลังจากที่ก่อนหน้านี้กลุ่มเพื่อนในคณะได้โทรไปชวนมากินหมูกระทะข้างคอนโดของเธอ โดยครั้งแรกหญิงสาวพยายามที่จะปฏิเสธ เนื่องจากตัวเองอยากนอนพักผ่อน แต่พอโดนเพื่อนหลายคนต่างโทรรบเร้าให้ลงมากิน เพราะร้านหมูกระทะมันอยู่ติดกับคอนโดของเธอพอดี ซึ่งตัวเธอนั้นรู้สึกรำคาญเพราะถ้าไม่ลงมาก็คงโดนโทรก่อกวนอยู่แบบนั้น
โดยหญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ร้านหมูกระทะก็เห็นกลุ่มเพื่อนของตัวเองที่กำลังนั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งพอหนึ่งในกลุ่มเพื่อนเห็นเธอก็รีบโบกมือเรียก นาเนียร์จึงรีบเดินเข้าไปแต่พอกำลังจะเอ่ยทักทายเพื่อน ก็โดนพนักงานเสิร์ฟของร้านเดินชนอย่างจัง จนเธอล้มคะมำหงายหลัง ก้นกระแทกกับพื้นอย่างแรงจนรู้สึกเจ็บจี๊ด "เจ็บจัง"
"ขอโทษครับ"
"ขอโทษแล้วมันหายเจ็บหรืองะ..." นาเนียร์รู้สึกอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก เพราะตัวเองก็ไม่ได้อยากมาที่นี่อยู่แล้ว แถมยังมาเจอเหตุการณ์แบบนี้แล้วอารมณ์ฉุนเฉียวมันก็พุ่งปรี๊ด กำลังจะเอ่ยต่อว่าคู่กรณีออกไป พอเงยหน้าสบต่ออีกฝั่งแล้ว แต่ก็ต้องเงียบปากลง เพราะชายหนุ่มตรงหน้านั้น หน้าตาหล่อเหลามาก ซึ่งตัวหญิงสาวได้แต่บ่นพึมพำในใจ 'นี่มันสเปกเราเลยนี่หว่า'
"ผมขอโทษจริง ๆ ครับคุณลูกค้า ผมไม่ทันระวัง เพราะผมมัวแต่มองบิลอาหารในมือ ผมขอโทษครับ"
"....." โดยพอชายหนุ่มตรงหน้าเอ่ยขอโทษยกใหญ่ แต่เธอก็ไม่ได้ตอบอะไรเขาไป เอาแต่จ้องมองหน้าหล่อ ๆ ของเขา
"แกเป็นอะไรมากไหมเนี่ยนาเนียร์" เพื่อนของนาเนียร์หลายคนต่างลุกเพื่อมาดูเพื่อน
"....."
"ยัยเนียร์"
"ฮะ!!" นาเนียร์ที่ใจลอย เอาแต่มองหน้าชายหนุ่มตรงหน้าพร้อมกับคิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ก็สะดุ้งตื่นได้สติพร้อมกับหันมาจ้องมองเพื่อนของตัวเอง "มีอะไร"
"แกเป็นอะไรมากไหมเนี่ย"
"มะ...ไม่ แค่รู้สึกเจ็บก้นนิดหน่อย"
"ผมขอโทษนะครับคุณลูกค้า" ชายหนุ่มตรงหน้าเธอไหว้ขอโทษเธอหลายครั้ง จนเธอที่เห็นแบบนั้นก็รีบเดินไปจับมือพร้อมกับส่ายหน้าว่าไม่เป็นอะไร
"ไม่เป็นอะไรหรอก แค่เจ็บก้นนิดเดียวเอง"
"ถ้ามึงเจ็บนิดเดียวก็น่าจะบอกน้องมันตั้งแต่แรก เห็นไหมสีหน้าน้องมันเสียเลย"
โดยพอเพื่อนของเธอพูดแบบนั้น เธอก็จ้องมองหน้าคนที่ตัวเองจับมืออยู่ "ขอโทษที่ทำให้เราหน้าเสียนะ"
"ไม่เป็นไรครับ เรื่องนี้ผมผิดเอง คุณลูกค้าไม่ใช่คนผิด"
"เมื่อกี้เพื่อนพี่เรียกเราว่าน้อง เราอยู่ปีไหนเนี่ย"
"ผมอยู่ปี 1 ครับ"
"ปี 1 เหรอเนี่ย ว่าแล้วเชียวพี่ไม่เคยเห็นหน้าเราเลย"
"พี่ก็เรียนอยู่ที่ LC เหรอครับ"
"ใช่ค่ะสุดหล่อ พี่เป็นรุ่นพี่เราอยู่ปี 4 แล้ว"
"อ๋อ"
"แล้วนี่พี่ทำแว่นเราร้าวเลย"
"มันไม่ใช่ความผิดของพี่หรอกครับ คนที่ผิดก็คงเป็นผม เพราะผมเป็นคนเดินชนพี่"
"มันไม่ใช่ความผิดของเราคนเดียวหรอก พี่ก็ผิดเหมือนกันเพราะมัวดูแต่ทักทายเพื่อนอยู่ แบบนี้แสดงว่าเราผิดทั้งสองค่ะ"
"....."
"น้องชื่ออะไรเหรอคะ พี่ชื่อนาเนียร์นะ เรียนวิศวะคอม"
"ผมชื่อภีมครับ วิศวะเคมี"
"โอ้โฮ เรียนเคมีด้วย สงสัยต้องเรียนเก่งมากแน่เลย"
"ไม่ขนาดนั้นหรอกครับ"
"ไม่เห็นต้องถ่อมตัวเลย" นาเนียร์พูดแซวชายหนุ่มรุ่นน้อง "ส่วนแว่นที่ร้าวเนี่ย พี่ขอซื้อให้ใหม่นะ"
"ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับคุณลูกค้า"
"แนะ ๆ ไม่เรียกว่าคุณลูกค้าสิ เรียกพี่ว่าพี่เนียร์ดีกว่าค่ะ จะได้รู้สึกสนิทสนมกันหน่อย เรียกคุณลูกค้าแล้วมันรู้สึกห่างไกลกันแปลก ๆ "
"ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับพี่เนียร์"
"พี่อยากให้ อย่าปฏิเสธเลยนะ"
"แต่ผมไม่อยากรบกวนพี่จริง ๆ ครับ เพราะอย่างน้อยเราก็ผิดทั้งสองฝ่าย ผมจะให้พี่ซื้อให้ใหม่ได้ยังไง"
"ได้สิเพราะพี่อยากซื้อให้ และก็ห้ามปฏิเสธด้วย ไม่อย่างนั้นพี่จะโกรธ" นาเนียร์ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้กับชายหนุ่มรุ่นน้อง
"อะไรเหรอครับ"
"พี่ขอเบอร์ค่ะ ไว้ถ้าเราสะดวกวันไหนพี่จะพาไปซื้อแว่นใหม่"
"พี่เนียร์"
"กดเบอร์ค่ะ" หญิงสาวพูดกดดันหนุ่มรุ่นน้องพร้อมกับใช้นิ้วเคาะหน้าจอโทรศัพท์ของตัวเอง
และในตอนนั้นเองชายหนุ่มรุ่นน้องก็ยอมรับโทรศัพท์ไปกดเบอร์ของตัวเอง พร้อมกับยื่นกลับมาให้เธอ โดยหญิงสาวก็จัดการพิมพ์ชื่อของเจ้าของเบอร์โดยอีโมจิรูปหัวใจทิ้งท้าย แล้วกดบันทึกและเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋ากางเกงของตัวเองไว้
"งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ" ภีมชายหนุ่มรุ่นน้องก็เดินออกไป นาเนียร์จึงเดินมานั่งลงบนที่ว่างที่เพื่อนเตรียมเอาไว้ให้ พร้อมกับเพื่อนที่นั่งอยู่รอบข้างต่างเอ่ยแซว
"แก่นี่มัน เห็นของดีไม่ได้เลยนะ"
"ถ้ารู้ว่ามีของดีอยู่ใกล้คอนโดขนาดนี้ ฉันจะลงมาอ่อยทุกวันเลย เสียดายเพิ่งรู้"
"แกเพิ่งรู้ก็ไม่แปลกหรอก เพราะฉันก็เพิ่งรู้เหมือนกัน เมื่อกี้ฉันถามน้องมันแล้ว น้องมันบอกว่าเพิ่งมาทำงานที่นี่ได้ไม่นาน"
"อ๋อ~~"
"ตอบเสียงยานแบบนี้คืออะไร"
"อะไรของแกยัยจีจี้" หญิงสาวถามเพื่อนออกไปอย่างไม่ใส่ใจ พร้อมกับคีบชิ้นหมูที่สุกพร้อมกินมากินอย่างเอร็ดอร่อย
"แกสนใจน้องมันเหรอ"
"ก็เด็กมันน่าสนใจนี่หว่า เห็นแค่ครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลย"
"แกอย่าพูดอะไรน่าตลกเลย คนอย่างแกรักใครเป็นด้วยเหรอวะ"
"อ้าวอีจีจี้ กูก็คนนะจ๊ะ มันก็ต้องรักคนเป็นสิ"
"แต่ปกติมึงไม่สนใจเด็กนะ"
"คนนี้อาจจะพิเศษใส่ไข่ก็ได้ ใครจะไปรู้"
"ปล่อยให้เด็กมันไปมีอนาคตที่ดีเถอะ"
"แล้วอยู่กับฉันมันไม่มีอนาคตหรือไง สวย รวย และเป็นถึงอดีตดาวมหาลัยด้วย"
"ก็มึงเจ้าชู้ไง" เพื่อนสาวสองที่นั่งอยู่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามก็พูดตะโกนข้ามมา จนเธอที่ได้ยินก็แสดงสีหน้าไม่ค่อยดีนัก
"กูเจ้าชู้ยังไงอีฝ้าย"
"อ้าว!! ก็มึงควงผู้ชายไปทั่วเลย"
"ก็แค่ควงเปล่าวะ ควงเล่น ๆ พวกมึงทุกตัวก็รู้ว่ากูยังซิงอยู่"
"มึงพูดขนาดนี้แสดงว่ามึงจริงจังใช่ไหม" จีจี้ที่นั่งอยู่ติดเธอก็พูดออกมาด้วยสีหน้าจริงจัง
"ยังไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่ แต่แค่เห็นหน้าน้องมันครั้งแรกก็รู้สึกถูกใจเลย แบบถูกใจอยากเอามาเป็นของตัวเอง" นาเนียร์พูดเสร็จ ก็หันหลังกลับไปมองยังชายหนุ่มรุ่นน้องที่กำลังนั่งพูดคุยอยู่กับเพื่อนอย่างออกรสออกชาติ 'น่ารักจัง น้องภีม'
เพนต์เฮาส์หรู ชั้นบนสุดใจกลางเมืองหลวง ซึ่งทางด้านนอกระเบียงกว้าง มีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ตั้งอยู่ในชั้นเดียวกันหลังจัดการทำความสะอาดร่างกายและอุ้มแฟนสาวไปนอนบนเตียงเรียบร้อย ตัวเขาเองก็พยายามข่มตาให้หลับไปด้วย แต่เพราะว่าร่างกายที่ยังตื่นตัวอยู่ เลยทำให้สุดท้าย ภีมตัดสินใจออกมาว่ายน้ำอยู่ในสระส่วนตัวประจำที่พักแห่งนี้เขายังรู้สึกมีอารมณ์ค้างคา แต่จะให้ปลุกเธอขึ้นมาทำอีกรอบก็คงไม่ดี เพราะแฟนเขากำลังอยู่ในช่วงเรียนรู้งาน ซึ่งคงเหนื่อยมาก เขานั้นไม่อยากเอาแต่ใจจนเกินไปประมาณหนึ่งชั่วโมงเศษแล้วที่นาเนียร์หลับไป ในที่สุดหญิงสาวรู้สึกตัวตื่น เพราะเธอยังคงติดค้างอยู่ในความรู้สึก ว่าอยากใช้เวลาในคืนพิเศษกับเจ้าของวันเกิดให้มากกว่านี้หญิงสาวค่อย ๆ ขยับร่างกายลุกขึ้นนั่งบนเตียงกว้าง และก้มมองสำรวจตัวเองที่อยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวตัวโคร่งของเจ้าของห้อง ก่อนริมฝีปากอิ่มจะยกยิ้มบางไม่ว่าจะกี่ครั้ง การได้สวมใส่เสื้อผ้าของแฟนหนุ่ม ก็ทำให้เธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก คงจะเป็นความรู้สึกที่ว่า กำลังถูกโอบกอดอยู่ตลอดเวลาล่ะมั้งทว่าเมื่อมองไปยังข้างกาย เธอกลับไม่พบคนที่ควรจะนอนอยู่ด้วยกันคิ้วเรียวขมวดเข้
วันต่อมา..."อะไรวะ นี่ไม่คิดจะมาง้อ แถมยังไม่โทรหาจริงดิ" ภีมบ่นพึมพำออกมาด้วยความหัวเสีย เพราะหลังจากเมื่อวานที่เขานอนรอให้แฟนสาวโทรมาง้อทั้งคืน แต่เธอก็ไม่โทรเลย แถมผ่านมาวันนี้อีก ทั้งที่เป็นวันเกิดของเขาแท้ ๆ ถึงจะไปทำงานไกลถึงสิงคโปร์ แต่การส่งข้อความมาอวยพรวันเกิดเขา มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรนี่ "หรือจะเบื่อกันแล้วนะ" ชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาแฟนสาว แต่โทรยังไงเธอก็ไม่รับเหมือนเมื่อวานเลย "หรือจะคุยงานอยู่ เลยปิดเครื่องนะ" เขาได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดยาว พร้อมกับเดินออกจากลิฟต์ เพื่อจะกลับห้องของตัวเอง ภีมใช้คีย์การ์ดแตะเข้าไปในเพนต์เฮาส์หรูของตัวเอง พร้อมกับเดินเข้ามาด้านใน แต่ก็ต้องตกใจ เพราะตอนนี้ในห้องของเขา กลับเต็มไปด้วยลูกโป่งที่ลอยเต็มห้องไปหมด ซึ่งพอชายหนุ่มเห็นแบบนั้นก็ยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แล้วรีบเดินตามหาแฟนสาวของตัวเอง "พี่เนียร์ อยู่ไหนครับ" ภีมตะโกนออกมาเสียงดัง พร้อมกับเดินเข้าไปในครัว แต่กลับไม่มีใครอยู่เลย ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินเข้าไปในห้องนอน ก็ต้องตกใจตะลึงตาค้างกับภาพตรงหน้า "อะไรเนี่ย"ชายหนุ่มจับจ้องหญิงสาวไม่วางตา มองสำรวจเรือนร่างเย้ายวนในชุดบ
หลายเดือนต่อมา... "ป่านนี้พี่เนียร์จะทำอะไรอยู่เนี่ย" หลังจากที่ภีมเรียนวิชาคาบสุดท้ายของวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็รีบขับรถเฟอร์รารี่สีดำของตัวเองมาตามถนน มุ่งตรงสู่บริษัทของแฟนสาว ที่อยู่ไกลจากมหาวิทยาลัยของเขาค่อนข้างมากในตอนนี้เขาเรียนอยู่ปีสอง ส่วนแฟนสาวอย่างนาเนียร์ หญิงสาวได้เรียนจบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตอนนี้เธอก็ได้เข้าไปทำงานในบริษัทพ่อของตัวเอง "คิดถึงจัง" ชายหนุ่มบ่นพึมพำ พร้อมกับร้องเพลงคลออยากมีความสุข ครั้งแรกเขาว่าจะโทรถามเธอก่อน ว่าหญิงสาวว่างไหม แต่พอคิดดูอีกที อยากไปเซอร์ไพรส์มากกว่า ไม่รู้ว่าถ้าเห็นเขาแล้วจะตกใจมากแค่ไหนและที่เขาตัดสินใจไปหาหญิงสาวที่บริษัทในครั้งนี้ เนื่องจากเขาไม่ได้เจอหน้าเธอมาหลายวันแล้ว เพราะพี่เขาหลังจากที่เรียนจบ ก็ได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน ส่วนภีมก็ย้ายมาอยู่เพนต์เฮาส์ที่พ่อของตัวเองให้คนเตรียมเอาไว้ให้ แล้วงานร้านหมูกะทะที่เขาเคยทำหลังจากเลิกเรียน ตอนนี้ก็ไม่ได้ทำแล้ว เพราะผู้เป็นพ่อสั่งห้าม โดยท่านให้เหตุผลว่าอยากให้ตั้งใจเรียนมากกว่า ซึ่งชายหนุ่มก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะตอนนี้เขาอยู่ปีสอง งานก็เข้าข้างเยอะ แทบไม่มีเวลาทำอะไรเลย พอข
"มานั่งสิ"พอพ่อของเขาพูดออกมาแบบนั้น พี่ชายของเขาอย่างภาม ก็เดินนำแฟนสาวมานั่งลงที่โต๊ะอาหาร ส่วนแฟนกับลูกของเธอ ก็นั่งลงด้านข้าง"ใบบัวครับ นี่พ่อของผม""สวัสดีค่ะคุณพ่อ หนู 'ใบบัว' นะคะ ส่วนตัวเล็กนี่ชื่อ 'ใบบุญ' ค่ะ สวัสดีคุณปู่เร็วลูก""สวัสดีค่ะคุณปู่ หนูชื่อใบบุญค่ะ เป็นลูกสาวของคุณแม่ใบบัว" เด็กหญิงตัวน้อยพูดน้ำเสียงเจี๊ยวจ๊าวชวนน่าฟัง"น่ารักจังเลย อายุกี่ขวบแล้ว" พ่อของเขาที่นั่งอยู่ ก็เลยสอบถามพี่สะใภ้ด้วยความเอ็นดูหลานสาวตัวน้อย"ห้าขวบแล้วค่ะคุณพ่อ""เข้าโรงเรียนแล้วใช่ไหม""ใช่ค่ะ"พ่อของเขาก็เอ่ยพูดคุยกับพี่สะใภ้ถามเกี่ยวกับสารทุกข์สุขดิบ จนพี่ชายของเขาที่นั่งอยู่ก็ยังไม่ได้แนะนำพี่น้องให้รู้จัก จึงเอ่ยพูดแทรกขึ้นมา"มาต่อกันดีกว่าครับใบบัว นี่พี่ชายของผมชื่อภูมิ""สวัสดีค่ะคุณภูมิ เราน่าจะอายุเท่ากันนะคะ""คุณใบบัวรู้ได้ยังไงครับ""คุณภามบอกค่ะ""อ๋อครับ""แล้วนี่น้องชายของผม ชื่อภีม และนั่งด้านข้างนั้นที่นาเนียร์แฟนของไอ้ภีมมัน""สวัสดีค่ะพี่ใบบัว""สวัสดีจ๊ะน้องนาเนียร์ ยินดีที่ได้รู้จักนะ""สวัสดีครับพี่สะใภ้ ผมภีมนะ""พะ...พี่สะใภ้อะไรกันล่ะค่ะ พี่กับคุณภาม ยังไม่แ
หลายวันต่อมา...ครืด ครืดภีมลืมตาตื่นเพราะได้ยินเสียงโทรศัพท์ดังรบกวน โดยเขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูว่าใครโทรมา พอเห็นว่าเป็นอายุทธ เลขาพ่อของตัวเอง ชายหนุ่มกดรับสายทันที เพราะกลัวว่าคนที่นอนกอดเขาอยู่จะตื่น เนื่องด้วยวันนี้เป็นวันหยุด เขาอยากให้แฟนสาวนอนหลับได้เต็มอิ่ม"ครับคุณอา" ชายหนุ่มตอบเสียงอู้อี้กับปลายสาย(เพิ่งตื่นเหรอครับ)"ใช่ครับคุณอา"(ผมขอโทษด้วยที่โทรมารบกวนตั้งแต่เช้า แต่พอดีคุณภูเพิ่งแจ้งอาเมื่อกี้ ว่าให้โทรบอกเราว่าให้มาทานข้าวด้วยกันที่บ้านเย็นนี้)"เย็นนี้เหรอครับ" เขาพูดทวนพร้อมกับก้มมองคนที่นอนซบอกเขาอยู่(ใช่ หรือว่าเราไม่ว่าง)"ก็ไม่ได้ว่างอะไรครับ พอดีผมมีทำงานตอนเย็น แต่ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวผมจะลาก็ได้"(ครับ แล้วคุณภูก็ให้คุณภีมชวนแฟนมาด้วย ท่านอยากเจอ)"ผมจะลองชวนเธอนะครับ แต่ไม่รู้ว่าเธออยากไปหรือเปล่า" เพราะเขาก็ไม่สามารถที่จะตัดสินแทนแฟนสาวตัวเองได้ ต้องสอบถามความสมัครใจของเธอก่อนว่าอยากไปหรือเปล่า(ครับคุณภีม งั้นอาขอวางสายก่อนนะ""ครับคุณอา" ภีมตอบออกไปพร้อมกับกดตัดสาย และยื่นเอาโทรศัพท์ไปวางไว้ที่เดิมและในขณะนั้นเอง คนที่นอนกอดเขาอยู่ก็ค่อย ๆ กระชับกอ
"ลงไปกันเถอะ"โดยพอคนด้านข้างพูดออกมาแบบนั้น ภีมจึงรีบดันเปิดประตู พร้อมกับเดินลงมายืน ชายหนุ่มมองสำรวจบ้านหลังขนาดไม่ใหญ่มาก"ไปกัน"ราชาเดินนำเขาเข้ามาในบ้าน ส่วนเขาก็รีบเดินตามมาติด ๆ ซึ่งพอเข้ามาด้านในแล้วภีมก็พบกับชายหญิงคู่หนึ่ง ที่กำลังนั่งอยู่ห้องโถงของบ้าน โดยเขาเดาว่าน่าจะเป็นพ่อกับแม่ของแฟนสาวตัวเอง เพราะใบหน้าของชายกลางวัย ค่อนข้างเหมือนกับคนตัวเล็กมาก"อาศักดิ์ น้านันต์สวัสดีครับ""อ้าวราชา สวัสดีลูก แล้วนั่นใครมาด้วยเหรอ""อ๋อ นี่ภีมแฟนของยัยเนียร์ครับ"โดยพอราชาแนะนำเขา ภีมจึงรีบยกมือไหว้ทั้งสองคนอย่างนอบน้อม ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม"หะ! แฟนของลูกสาวอา""ใช่ครับ""ทำไมลูกสาวอา ไม่พาแฟนมาแนะนำให้อารู้จักบ้างเนี่ย" พ่อของคนรัก ก็เดินมายืนอยู่ตรงหน้าเขา"คบกับลูกสาวพ่อนานหรือยัง""จะสองเดือนแล้วครับ""ก็ไม่นาน ลูกสาวพ่อเป็นยังไงบ้าง ดื้อไหม""ไม่เลยครับ พี่เนียร์ไม่เคยดื้อกับผมเลย""พี่เนียร์... เรียกแบบนี้แสดงว่าเป็นรุ่นน้องของลูกสาวพ่อ""ใช่ครับ ผมเพิ่งอยู่ปีหนึ่งครับ""คิดยังไงมาคบกับลูกสาวพ่อ"โดยพอคนด้านหน้าถามมาแบบนั้น เขาก็มีน้ำเสียงอ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้ว่าตัวเองจะตอบไปยัง