ไม่เอาแล้วเธอจะไม่กินเหล้าอีกเป็นอันขาด.. แล้วนังเพื่อนตัวดีนี่ตั้งแต่วันนั้นยังไม่ไ้ด้ยินข่าวคราวของมันเลย.. มันยังอยู่ดีมีสุขใช่ไหม… และเรื่องที่เธอเมาจนลากผู้ชายเข้าโรงแรมนั้น.. พอๆๆ ไม่พูดๆ ไม่เอาไม่คิด.. แต่สิ่งทำให้เธอต้องมานั่งสำนึกผิดอยู่จนถึงตอนนี้ก็คือน้องบีมถามว่าทำไมเธอไม่กลับบ้าน น้องบีมคิดว่าเธอจะทิ้งน้องบีม.. แม่ขอโทษ.. กว่าน้องบีมจะหายโกรธและหายน้อยใจเธอก็ใช้เวลาเป็นอาทิตย์ล่ะ.. เอาเป็นว่าเธอจะไม่ดื่มอีกเธอจะไม่ดื่มอีกเป้นอันขาด.. เมาแล้วลากผู้ชายเข้าโรงแรมแบบนี้.. พอค่ะบอกเลย..
“ สุคะน้องบีมทานอะไรรึยังคะ” ตอนนี้เธอจะต้องถามสุก่อนว่าน้องบีมได้กินอะไรรึยังเพราะเธอว่าจะซื้อของกินเข้าไปน่ะสิ เธอไม่อยากให้สุทำงานเยอะแยะแค่เลี้ยงน้องบีมก็เยอะแล้วเธอไม่อยากให้สุทำเกินตัว.. เธอสงสารสุ
“กินนมไปหนึ่งแก้วค่ะคุณโบตั๋น.. ”
“งั้นเอาแบบนี้เดี๋ยวโบตั๋นจะซื้อของกินเข้าไปเองพี่สุไม่ต้องทำนะคะ..” บอกตามตรงเธอรักและเป็นห่วงสุมากๆนะ สุเหมือนน้องสาวของเธอคนนึงด้วยความที่อายุน้อยกว่าเธอไม่กี่ปีแต่ว่าความสามารถในการเลี้ยงเด็กและงานบ้านต่างๆเธอล่ะอึ้งเลย.. เธอยังทำไม่ได้เท่าสุเลย…เธอคิดว่าถ้าสุจะมีครอบครัวเธอจะเป็นคนหาให้เองเธอจะคัดกรองให้สุเอง.. สุต้องได้ผู้ชายที่ดี.. เธอไม่อยากให้สุต้องมาเป็นแบบเธอ..
ตอนนี้งานก็เริ่มเบาบางแล้วเหลือแค่ตามอะไหล่ที่มันขาดตลาดเธอต้องติดต่อไปทางประเทศผู้ผลิต และอีกไม่นานของน่าจะมาส่งดังนั้นมันเลยทำให้เธอต้องอยู่ที่ทำงานไปก่อน.. เธอเองก็อยากกลับบ้านแล้วนะแต่ติดที่ว่าของจะมาส่งนี่แหละและเธอจะต้องตรวจเช็คของก่อน.. ถ้าไม่ดีเธอจะได้ทำเรื่องตีกลับเลยถ้าเกิดเธอนำอะไหล่มาใส่รถให้ลูกค้าแล้วรถลูกค้ามีปัญหาตามมาทีหลัง.. งานช้างเลยนะเธอเคยทำพลาดมาแล้วครั้งนึงดังนั้นเธอจึงพอมีประสบการบ้าง…
วันๆนึงเขาต้องทำงานกี่อย่างกันนะ เขาทำแทบจะทุกอย่างแล้วเนี่ยตกลง แล้วอะไรอีกเนี่ย.. เขาจะต้องไปเอารถให้เจ้านายเขาอีกเหรอ? ไปเองไม่ได้รึยังไงวะ งานก็เยอะพอตัวแล้วยังใช้ไปเรื่อยเปื่อยแต่ถามว่าทำอะไรได้ไหม? ก็ไม่… ทำอะไรไม่ได้เลยนอกจาก ครับ และทำในสิ่งที่เจ้านายสั่ง
“สวัสดีครับผมมารับรถให้คุณxxxครับ” ร้อนก็ร้อนเขายังจะต้องมาทำเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ด้วย.. ชีวิตไอ้โค้กจะนั่งในออฟฟิศสบายๆตากแอร์เย็นไม่ได้เลยเหรอ?
“รอสักครู่นะคะ…”
ตึกตึกตึก….
“สวัสดีค่ะมารับรถให้คุณ xxx ใช่ไหมคะ.. เอ๊ะ… นาย!! ” ให้ตายสิทำไมโลกมันแคบขนาดนี้เนี่ย นี่ฉันต้องมาเจอไอ้คนบ้าคนนั้นในพื้นที่ของฉันเนี่ยนะ.. พระเจ้า… ทำไมช่างใจร้ายกับเธอนักนะ..
“อ้าว.. คุณนี่เอง… คิดถึงจนขนาดต้องตามผมมาเลยเหรอครับ?” ที่แท้ก็ผู้หญิงคนนั้นนี่เอง.. แล้วทำมถึงมาอยู่ที่นี่นะ?
“ หน้าอย่างฉันเนี่ยนะจะตามนาย.. ประสาท.. ไร้สาระ ถ้านายจะมาที่นี่แล้วมากวนประสาทฉันก็กลับไปเถอะ..”
“ ใครบอกล่ะครับ ผมจะมาบอกว่าเงินค่าตัวผมที่คุณให้วันนั้นน่ะ.. มันค่อนข้างน้อยไปหน่อยนะครับคุณน่ะหิ้วผมกลับโรงแร..”
อุ๊บ…
“ หุบปากนะไม่งั้นฉันจะตบจริงๆด้วย.. ตามมานี่…”
ไอ้บ้าเอ้ย.. จะมาพูดแบบนี้กับเธอไม่ได้นะ และที่สำคัญคนของเธอเยอะแยะไปหมดถ้าคนอื่นได้ยินเข้าคนพวกนั้นจะเอาเธอไปพูดยังไงเล่า.. แล้วดูทำพูดเข้าทำอย่างกับเธอหิ้วเด็กเอ็นเข้าโรงแรม.. แต่เอ๊ะ เธอเองก็เป็นคนจ่ายเงินให้หมอนั่นนี่นา..
ตึกตึกตึก…
“ นายต้องการอะไรกันแน่…”
“ ผมต้องการ… ”
“นี้.. อย่ามาพูดจาน่าเกลียดแบบนี้กับฉันนะ.. ไม่มีทาง นายไม่มีทางที่จะได้แอ้มฉันอีกรอบแน่นอน.. ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต.. ไอ้คนนิสัยไม่ดี..” ไอ้ทุเรศเอ้ย..
หึหึ..
“ ผมยังไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเลยนะ ผมแค่มารับรถเฉยๆ.. คุณน่ะสิคิดมาก ติดเรทนะครับความคิดของคุณน่ะ…” ตลกดี.. และน่ารักอีกด้วย.. ยิ่งพอทำให้โมโหนะ.. ยิ่งน่ารักขึ้นไปอีก..
0//0
“อะ.. อ้าว.. งั้นเหรอ.. อ๋อ.. รถคุณxxx ใช่ไหม..” ฮึย.. บ้าจริงโบตั๋นนะโบตั๋น..
“ว่าแต่… คุณชื่ออะไรเหรอครับจะได้เรียกถูก..”
“ ไม่จำเป็นต้องรู้.. ตามมาสิ ยืนซื่อบื่ออยู่ได้..” เหอะ.. คิดว่าตัวเองหล่อ.. หล่อตายแหละชิ…
“ถ้าไม่บอกแบบนี้.. งั้นก็เรียกว่า.. ที่รักของเค้า… ก็แล้วกันนะครับ ปะ..”
หมับ!!!
0//0
“ดะ.. เดี๋ยว.. นี่นายจะบ้าเหรอ.. ปล่อยมือฉันนะ.. ปล่อยเดียวนี้..” ไอ้คนบ้า.. มาจับมือฉันได้ยังไงกันแล้วอะไรล่ะ มาเรียกฉันว่าที่รักของเค้า.. จะบ้าเหรอ?
“อย่าดื้อ ถ้าดื้อจะโดนจูบ.. และจะทำจริงๆด้วย.. ลองได้นะไอ้โค้กไม่กลัวนะจะบอกให้..” เอาสิ ถ้าดื้อนักพ่อจูบโชว์พนักงานแม่งเลย..
คนนิสัยไม่ดี.. ขู่เธอเหรอ? คอยดูเถอะเธอจะเอาคืนให้สาสม… รู้จักนังโบตั๋นน้อยไปซะแล้ว..อย่ามาท้าทายระบบเธอนะ.. แม่จะฟาดให้หลังหักเลยคอยดู..
จากวันที่เขาเจอมอลลี่ถีบออกมาจากห้องเขาก็รีบตรงดิ่งไปหาลูกน้องเขาทันที พวกมันก็ดูสับสนเหมือนกันที่อยู่ๆเขาเอ่ยปากถามพวกมันว่าเขาควรจะทำยังไงกับมอลลี่ดี.. ดูเหมือนมอลลี่จะไม่ยอมกลับไปกับเขาง่ายๆ.. เมื่อเขาเปิดปากพูดกับไอ้แม็กซ์เกี่ยวกับเรื่องของมอลลี่ มันก็พูดบางสิ่งออกมาและนั่นทำให้เขาโมโหและถีบมันเข้าให้หนึ่งที..“ ตรงไหน.. เกรี้ยวกราดตรงไหน เอาแต่ใจตัวเองตรงไหน… พูดดีๆนะไอ้แม็กซ์..” ไอ้แม็กซ์มันกล่าวหาว่าเขาเป็นคนเกรี้ยวกราดและเอาแต่ใจตัวเอง.. ถ้าเขาลดตรงนี้ลงมาได้บางทีมอลลี่อาจจะกลับไปกับเขาก็ได้…“เจ้านายเป็นทุกตรงครับไม่เชื่อก็ลองถามคนอื่นดูได้.. ถ้าเจ้านายลดอีโก้ที่สูงปรี๊ดของเจ้านายลงมาสักนิด… ผมว่าคุณมอลลี่เธออาจจะพูดดีๆด้วยก็ได้นะครับ.. ผมอยากให้เจ้านายมีครอบครัวที่น่ารัก.. ใครๆก็รู้และดูออกว่าเจ้านายหวงคุณมอลลี่ และการหวงของเจ้านายนั่นก็หมายถึงว่าเจ้านายรู้สึกดีกับคุณมอลลี่..เชื่อผมเถอะครับเผื่ออะไรๆจะดีขึ้น.. ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยต้องการผู้ชายที่อ่อนโยน หวงใย และใส่ใจครับ..” จะบอกว่าเขาไม่เคยมีความรักก็ไม่ใช่ เขาเคยมีแฟนเขาเคยมีคนรักแต่ด้วยอาชีพที่เขาทำมันทำให้เขาต้องคอยระแวง
ตอนแรกเขาก่ะว่าจะเช่าโรงแรมพักแบบสบายๆแต่ดูเหมือนว่ามอลลี่จะดื้อและพยศเอามากๆ ไม่ใช่แค่มอลลี่แต่ยังมีแม่สาวน้อยตัวจิ๋วนี่ด้วยเพียงแค่เปลี่ยนที่เจ้าตัวก็ร้องไห้โย ร้องไห้เสียงดังจนห้องข้างๆต้องมาเคาะประตูว่าเสียงเด็กรบกวน.. เขาล่ะอยากจะตะบันให้หน้าแหกไปเลย.. เสียงเด็กร้องใครจะไปห้ามได้เล่า และเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่มอลลี่พูดว่าสาวน้อยตัวจิ๋วติดที่นอนของตัวเองและไหนจะตุ๊กตาตัวโปรดด้วยมันเลยทำให้เขาต้องตามมาที่หมู่บ้านเล็กๆคับแคบที่เขาน่าจะเรียกกันว่าหมู่บ้านชาวประมง.. เขาจะนอนได้ไหมเนี่ย.. แต่ไม่ได้เขาจะต้องเฝ้ามอลลี่กับแม่หนูจิ๋วคนนี้เอาไว้ตลอด…“นั่นใครน่ะหนูมล.. หล่อน่ะ แต่จะดูไปก็คล้ายๆกับหนูมีนาของป้าอยู่นะ… พ่อฝรั่ง.. โอ้.. เฮโล่..”“สวัสดีครับผมพูดไทยได้ ฟังไทยได้ แม่ผมเป็นคนไทยครับ.. ผมหน้าเหมือนมีนามากเหรอครับ?”“อือๆ ใช่ๆ ดูสิโครงหน้าเดียวกันเลยนะ จมูกโด่งๆนี่ด้วย แล้วไหนจะสีผมอีก.. ว่าแต่.. หายหัวไปไหนมาล่ะถึงได้มาเอาจนป่านนี้.. ฉันกำลังจะหาผัวใหม่ให้แม่หนูมลอยู่เลย ลูกชายเจ้าของโรงแรมน่ะหล่อนะ รวยด้วย และชอบแม่หนูมลกับมีนามากๆด้วย.. ”เสียงลมหายใจฟึดฟัดๆของเขามันทำให้เธอรู้สึก
จากวันที่เขาได้แวะไปหาเพื่อนสนิทของมอลลี่เขาก็สั่งให้คนของเขากลุ่มหนึ่งไปคอยเฝ้าดูอยู่ห่างๆเผื่อว่ามอลลี่จะแวะมาหาเพื่อนแต่แล้วก็ไม่มีความคืบหน้าอะไรเลยสักนิด… ส่วนบ้านของเธอที่มีพ่อและแม่อยู่เขาก็ให้คนอีกกลุ่มเฝ้าเอาไว้.. ดูเหมือนไม่มีการเคลื่อนไหวเลยสักนิด.. เขาเองก็จนปัญญาเพราะเขาไม่รู้ว่าเธอไปอยู่ที่ไหนได้.. แล้วของสำคัญชิ้นนั้นมันคืออะไร.. หน้าตามันเป็นแบบไหน ชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่… โอ้ย คิดแล้วก็ปวดหัว…“นายครับ.. พวกเราไปดูทุกที่ที่คิดว่าคุณมอลลี่จะไปได้จนหมดแล้วนะครับ.. ผมคิดว่าคุณมอลลี่ไม่น่าจะเสี่ยงพาตัวเองมาเจอเพื่อนสนิทและครอบครัว.. ถ้าสมมุติว่าเธอขโมยของของครอบครัวเจ้านายจริง.. ผมว่าเธอจะต้องนำไปขายและจะต้องพาตัวเองไปกบดานที่ที่ไม่มีใครรู้จักเธอนะครับเพราะถ้าเธอออกมาให้ครอบครัวหรือว่าเพื่อนสนิทพบเจอ.. มันอาจจะไม่ปลอดภัยกับตัวเธอ..”“นั่นสิ.. มึงนี่ฉลาดนะไอ้แม็กซ์ เป็นครั้งแรกที่มึงพูดได้ดี.. ว่าแต่.. จะไปหาที่ไหนได้วะ..” นั่นสิทำไมเขาไม่คิดถึงเรื่องนี้ ถ้าเธอขโมยของจริงๆเธอคงจะไม่พาตัวเองมาในพื้นที่สุ่มเสียงแบบนี้ และยิ่งเป็นของสำคัญของครอบครัวเขาด้วยแล้ว.. เออๆ เป็นครั้งแร
ในที่สุด… ในที่สุดเธอก็ได้กลับมาอยู่เมืองไทยแล้ว.. การกลับมาครั้งนี้ของเธอมันมีความเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องเลยทีเดียว.. เธอกลับมาไทยครั้งนี้เธอไม่ติดต่อใครจริงๆจัง เบอร์มือถือของเธอเธอก็เปลี่ยนใหม่หมด มีบ้างเป็นบางครั้งที่เธอโทรไปหาแม่และพ่อ บอกข่าวของเธอให้พวกท่านทราบให้พวกท่านได้รู้ว่าเธอยังอยู่ดีมีแรงไม่เป็นอะไร เธอขออยู่เงียบๆคนเดียวเธอให้เหตุผลกับพวกท่านไปว่าเธออยากจะอยู่ที่ที่สงบๆ เธออยากอยู่แบบคนธรรมดากับชีวิตที่สุดแสนจะธรรมดาและเธอก็ได้เจอแล้ว..“แม่หนูมล.. กินข้าวๆ.. เร็วๆ”“จ้า.. กำลังจะไปจ้ะ…”อึบ…“ไปกินข้าวกันนะคะ…”เธอที่ปลีกตัวออกจากความวุ่นวายในทุกด้าน.. ตั้งแต่เธอกลับมาจากอเมริกาเธอก็เลือกไปที่ที่ไกลที่สุด ถามว่าไกลสำหรับคนอื่นไหม.. ก็อาจจะไม่นะแต่สำหรับเธอมันก็ยังไกลอยู่ดีเพราะเธอไม่ค่อยได้ออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้เลยเวลาเธอจะไปเที่ยวไหนเธอมักจะมีพ่อและแม่ของเธอติดสอยห้อยตามไปด้วยแต่ครั้งนี้ไม่มีพวกท่านมาด้วยสำหรับเธอมันเลยดูไกล.. เรื่องที่เธอมีลูกสาว… เธอยังไม่ได้บอกใครทั้งนั้นว่าเธอมีน้อง.. ตอนเธอมาที่นี้ใหม่ๆเธอเองก็ยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าเธอท้องเธอแค่รู้สึกว่าตัวเองเห
เขายอมรับว่าวันนั้นเขาได้ทำรุนแรงกับเธอไปนิดแต่แล้วยังไงละ ในเมื่อเขาเคยบอกเคยเตือนแล้วแต่มอลลี่ไม่ยอมฟัง.. เขาก็ต้องสั่งสอนกันบ้าง.. หลังจากวันนั้นเธอแทบจะไม่พูดไม่จา ไม่แม้แต่จะได้ยินเสียงหัวเราะหรือเสียงทะเลาะกับเจมส์เลย… ลูกชายของเขาก็พยายามที่จะชวนเธอทะเลาะแต่เธอเลือกที่จะเงียบใส่และนิ่งเฉย.. และนั่นมันเริ่มทำให้เขารู้สึกได้ว่าเจมส์เปลี่ยนไปอีกครั้ง…ตึกตึกตึก…“เจสัน.. เจสัน!!! ออกมาคุยกับแม่หน่อย…”เฮ้อ.. แม่เขามาทำไมอีกเนี่ย… ท่านยอมขับรถจาก Mexico มา Arizona มาหาเขาแบบนี้.. คงจะมีเรื่องอะไรอีกแล้วสินะ… น่าเบื่อจริงๆ เขากับแม่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาเสมอ แม่ที่พยายามจัดแจงให้เขาอยู่ในกรอบแบบไทยๆ ส่วนแด๊ดก็พยายามสอนให้เขาวางตัวเป็นผู้นำแข่งแกร่ง อย่าไปยอมใคร.. เขาเลยขอเลือกตามแบบที่แด๊ดสอน ส่วนแม่ของเขา เขาก็ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง.. แล้วแต่อารมณ์น่ะแต่จะไม่ฟังเสียส่วนใหญ่…“มีอะไรครับมาดาม วิลตัน.. ”“ เด็กคนนั้นอยู่ไหน… ”“คนไหนครับ? ”“แกอย่ามาเล่นลิ้นกับฉัน ไปตามเด็กคนนั้นลงมาคุยกับฉันหน่อย…”“มอลลี่น่ะเหรอ? แม่มีอะไรจะคุยกับเธอ?” เขารู้สึกแปลกๆแล้วนะ ทำไมแม่ต้องอยากคุยกับมอลลี่ด้
Arizona…ตั้งแต่ที่เขามีมอลลี่ติดสอยห้อยตามมาด้วยทุกอย่างในชีวิตก็แปลกไปหมดทุกเรื่อง ทั้งเรื่องลูกน้อง ลูกชาย และบ้าน.. มันแปลกไป แปลกไปในทิศทางที่นำพาซึ่งความปวดหัว…“เจมส์ ยูจะทำแบบนี้ไม่ได้นะ…”นั่นไง.. ตอนนี้ทะเลาะกับลูกชายสุดที่รักของเขาแล้ว.. ทะเลาะกันได้ทุกวัน ทะเลาะกันได้ทั้งวัน เขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมแค่มอลลี่มาอยู่ที่นี่เจมส์ถึงเป็นคนพูดเยอะ ชอบแกล้ง และมีความยิ้มมุมปากบ่อยขึ้น..“แล้วยูจะทำไม ทุกอย่างในบ้านนี้เป็นของแด๊ด.. เงิน และของทุกอย่างที่นี่.. ไอจะทำหรือจะกินอะไรก็ได้ ยูเป็นแค่ผู้อยู่อาศัยและไม่รู้ว่าจะไปเมื่อไรดังนั้นยูไม่ควรจะทำแบบนี้กับไอ..”“รู้.. ฉันก็ไม่ได้อยากอยู่ที่นี่..”ขวับ…เธอเองก็รู้ว่าเธอไม่ใช่เจ้าของบ้านเธอเป็นผู้อยู่อาศัยที่ถูกจับมาด้วยเรื่องราวบ้าๆบอๆที่เธอก็ไม่ค่อยจะเข้าใจสักเท่าไร… เธอจำได้ว่าวันนั้นเธอตื่นขึ้นมาและเธอพยายามหนีเออออกมาได้นะแต่เมื่อเธอลองเดินไปเรื่อยๆเธอก็รู้ว่าเธออยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน.. ไม่นานคนของเจสันก็มาเอาตัวเธอกลับไป.. เมื่อเธอกลับมาถึงบ้านหลังนั้นเขาก็ตะคอกใส่เธอ ด่าว่าเธอด้วยคำพูดคำจาที่เธอเองก็ทั้งตกใจและเสียใจอยู่ ถามว่า