เอาจริงๆ เลยนะเขาไม่ค่อยชอบที่จะกลับบ้านสักเท่าไรเขาชอบอยู่ที่คอนโดส่วนตัวของเขามากกว่า… เพราะอะไรน่ะเหรอเพราะที่บ้านมันน่าเบื่อ เบื่อที่จะต้องฟังพ่อบ่น.. พ่อนะบ่นแต่คำเดิมๆ คำว่าอะไรน่ะเหรอ?
“ถ้าฉันมีลูกสาวสักคนก็คงจะดี.. ชีวิตฉันคงจะทำอะไรผิดพลาดไปสักอย่างที่มีแต่ลูกชาย.. สร้างแต่ความวุ่นวายและปวดหัว.. ถ้าพวกแกคิดจะมีหลานนะฉันขอหลานสาวเยอะๆ ก็แล้วกัน.. หลานชายไม่ต้องนะหนวกหูน่ารำคาญ.. ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเป็นหลานชาย.. เจ้าพวกนั้นจะได้เชื้อพ่อมันมามากขนาดไหน…”
ถ้าเขาจะมีลูกนะเขาจะไม่มีลูกสาวเด็ดขาด เขาจะไปทำเด็กหลอดแก้ว เขาจะไปให้โรงพยาบาลช่วยเอาแค่ลูกชายพอ สาเหตุที่ไม่อยากมีลูกสาวเพราะเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเขาทำกับผู้หญิงมาเยอะนั่นแหละเขากลัวว่าผลกรรมมันจะไปตกที่ลูกสาวของเขา..
ตึกตึกตึก…
“คุณไคล์.. คิดถึงจังคุณไคล์ของป้า…”
หมับ…
“ป้านวล… เป็นยังไงบ้างครับ..”
“ไม่ดีค่ะ คุณไคล์ไม่กลับบ้านไม่คิดถึงป้า.. คุณหนูคนอื่นๆ ก็ไม่ค่อยกลับ.. ปล่อยคนแก่ให้รอนานแสนนาน.. ไม่รู้ว่าจะได้เจออีกทีวันไหนหรือคงจะได้เจออีกทีตอนงานศพป้ารึเปล่าก็ไม่รู้..”
หึ…
ดึงดราม่าซะงั้น..
“โอ๋ๆ ก็มาแล้วไงครับแล้วไอ้สองตัวนั้นมันไม่กลับบ้านเหรอครับ?”
“ก็เหมือนคุณไคล์นั่นแหละค่ะ.. ไปๆ ป้าทำอาหารไว้รอ มีแต่ของโปรดทั้งนั้น…”
“ดีนะเนี่ยที่ผมไม่กินข้าวมาก่อน.. ดีเลยครับผมจะกินให้พุงแตกไปเลย…” แบบนี้ตลอดเลย.. เขารู้หรอกน่าว่าป้านวลคิดถึงพวกเขาแต่พวกเราทั้งสามคนก็โตๆ กันแล้วดังนั้นพวกเราก็อยากจะใช้ชีวิตของตัวเองบ้าง.. จะให้เรามาเป็นลูกแหง่ของพ่อและป้านวลไปตลอดมันก็ไม่ได้นะ.. โตจนป่านนี้แล้วจะสามสิบแล้วนะเว้ย.. ไม่ได้ซิ
“ค่ะ.. ถ้าไม่พุงแตกนะป้าจะหยิกให้เนื้อเขียวเลย..”
เชอะ…
^_^
~~~~~~~~~
ซ่า….
เมื่อเขามาถึงห้องสิ่งแรกที่เขาทำก็คือถอดเสื้อผ้าและเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำให้ความร้อนที่อยู่ในร่างกายมันเบาลง.. เขาไม่ได้โดนวางยาหรืออย่างใด แต่ที่เขาร้อนมันเป็นเพราะอารมณ์ของเขาที่มันปะทุขึ้นมาหลังจากที่เขาได้คุยกับพ่อ.. วันนี้ที่เขาแวะเข้าบ้านเพื่อไปคุยกับพ่อเพราะเขาเองถามไอ้ทัตมันก็ตอบไม่ได้เพราะมันเองก็ไม่รู้ดังนั้นเขาจึงต้องเข้าไปเอง.. และเมื่อไปถึงข้าวที่กำลังกินอร่อยๆ มันกลับทำให้เขาต้องรู้สึกอิ่มและมันแทบพุ่งออกมาทันที…
“ฉันจะให้แกแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนฉัน.. ลูกของเจ้าพงศ์น่ะ แกน่าจะรู้จัก…”
เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นเขาก็ยิ้มน่ะสิทำไมเขาจะไม่รู้จักลุงพงศ์ เพื่อนรักคนสนิทของพ่อตั้งแต่สมัยที่พ่อของเขาเรียน และไม่มีเงินทองพวกท่านทั้งสองสนิทกันมาก ไม่ว่าจะทำอะไรพวกท่านมักจะมีกันและกันเสมอ และตอนนี้พ่อของเขาจะให้เขาแต่งงานกับลูกสาวของลุงพงศ์.. ทำไมเขาจะไม่แต่งล่ะ…
“กับมายด์เหรอครับ?”
“น้องมิ้นท์.. แกรู้จักน้อง..”
“แต่พ่อครับ.. ทำไมไม่เป็นมายด์”
“ฉันเลือกแล้ว.. และแกต้องแต่งงานกับน้องมิ้นท์”
ครืด…
“ผมกลับก่อน…”
…..
นั่นเป็นประโยคที่ทำให้เขาแทบจะระเบิดออกมาให้ได้.. เขารู้จักสิ น้องมิ้นท์อะไรเนี่ยทำไมเขาจะไม่รู้จัก.. แต่แล้วยังไงรู้จักแล้วยังไงเขาไม่ได้ชอบยัยเด็กคนนั้น เขาไม่ได้ชอบเลยสักนิด เขาชอบมายด์ ทำไมไม่เป็นมายด์ แล้วทำไมพ่อต้องให้เขาแต่งงานกับยัยเด็กนั้นด้วย.. สาเหตุมันคืออะไรกันแน่…
“ฉันไม่มีทาง.. ไม่มีทางแต่งงานกับเธอหรอก.. ต่อให้ฉันจะต้องถูกตัดออกจากกองมรดกเพียงเพราะไม่ต้องแต่งงานกับเธอฉันก็ยอม…”
กระแสน้ำที่ราดไหลลงมามันก็ยังไม่สามารถทำให้เขานั้นใจเย็นขึ้นมาได้เลยสักนิด.. เพราะเขาเป็นพี่ชายคนโตเหรอ? มันเลยทำให้ทุกอย่างต้องมาตกอยู่ที่เขาทั้งหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเกี่ยวกับธุรกิจต่างๆ และยังจะมาเรื่องนี้อีก.. ทำไมวะ เกิดก่อนแล้วมันจำเป็นต้องรับผิดชอบก่อนตลอดเลยเหรอวะ…
เสียงคลื่นทะเลที่ซัดสาดเข้ามาที่ชายฝั่งพร้อมกับลมที่พัดพากลิ่นทะเลอันหอมสดชื่นทำให้ใครก็ตามที่ได้มาเที่ยวทะเลต่างก็ต้องชื่นชอบและผ่อนคลาย.. ตอนนี้เธอพาทุกคนมาเที่ยวทะเลจะว่าเธอพามาก็ไม่ถูก ต้องบอกว่ากั๊ฟพามามากกว่า.. กั๊ฟมาครอบครัวเขาและครอบครัวเธอมาเที่ยวทะเลตามที่เขาสัญญาเอาไว้… กั๊ฟเลือกเช่าบ้านพักตากอากาศริมชายหาดและมีพื้นที่ใช้สอยส่วนตัวสำหรับพวกเราเอาไว้ด้วย.. แม่แป้งบอกว่าจะออกไปซื้ออาหารทะเลกับพ่อของเธอ.. เพราะว่าพ่อน่าจะมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อมากกว่าแม่แป้ง แม่แป้งทำอาหารเป็นแต่เลือกซื้อของไม่เป็นดังนั้นหน้าที่ในการเลือกซื้อก็เลยตกเป็นของพ่อเธอ…^_^“ว่าไงคะคนสวยของแม่… น่ารักเชียว.. กั๊ฟ.. ให้น้องอ้ายเดินเองบ้าง.. น้องอ้ายน่าจะชอบ..”“อีฟ.. เรากลัวเปลือกหอยจะบาดเท้าลูกนี่นา..”“แล้วยังไงกัน บาดก็บาดสิ มันคือเรื่องธรรมชาติที่เราเองก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้.. ให้ลูกได้ทำในสิ่งที่เจ้าตัวไม่เคยทำบ้างก็ได้เราจะคอยตามโอ๋ลูกไปตลอดไม่ได้นะกั๊ฟ…”“แต่เราเลือกที่จะหลีกเลี่ยงได้นิอีฟ…”เฮ้อ.. ก็เป็นซะแบบนี้ไง.. เวลาเธอจะทำอะไรเธอก็ต้องแอบอยู่เสมอ.. กั๊ฟน่ะหวงลูกมากเกินไป หวงจนบาง
จากวันนั้นมาถึงวันนี้เธอก็เรียนมาจนครบหนึ่งปีการศึกษาแล้วและเธอก็มีเพื่อนใหม่ที่ชื่อไชน์… ไชน์กับกั๊ฟชอบทะเลาะกันมาก และสิ่งที่ทำให้เธอตกใจก็คือไชน์เป็นว่าที่คู่หมั้นของคิม… ซึ่งเรื่องนี้เธอกับกั๊ฟก็พึ่งจะรู้ได้ไม่นานส่วนไชน์ก็พึ่งจะได้เจอกับคิมไม่นานเหมือนกัน.. แต่เธอขอบอกเลย พูดตามความคิดของเธอเลยนะ.. คิมน่าจะเอาไชน์ไม่อยู่หรอก.. ไชน์เป็นผู้หญิงที่มั่นใจในตัวเองมากๆ มีความคิดเป็นของตัวเองขั้นสุด แล้วตอนนี้เธอคิดว่าลูกสาวของเธอเริ่มติดน้าไชน์มากๆ ด้วย ทุกครั้งที่แวะมาหาเธอที่บ้านไชน์มักจะหอบหิ้วของเล่นของกิน เสื้อผ้าและอะไรต่อมิอะไรมาให้น้องอ้าย.. ไชน์มีมุมที่น่าเสมอเวลาที่เจ้าตัวเล่นกับเด็ก.. ไชน์ชอบพูดกับเธอว่าไชน์อยากมีลูกเยอะๆ ด้วยความที่ไชน์เองเป็นลูกสาวคนเดียว.. จะว่าคนเดียวก็ไม่ใช่ คือแม่ของไชน์มีแค่เธอคนเดียวแต่ไชน์มีพี่ชายพี่สาวต่างแม่อีกสองคนแต่ก็ไม่ได้สนิทกันมากเพราะพวกพี่ๆ อายุต่างจากไชน์เยอะอยู่พอสมควรจะมีก็แค่พี่สาวที่พอคุยกันได้บ้างแต่ก็ไม่ถึงกับสนิทดังนั้นเธอจึงถูกตามใจจากคนเป็นพ่อและคนเป็นแม่มากๆ เธออยากได้อะไรก็ต้องได้ เธออยากทำอะไรเธอก็จะทำ แต่ไชน์เป็นคนที่นิสัยดีส
ตื่นเต้นมากๆ เลย.. วันนี้เป็นวันเปิดเทอมครั้งแรกเธอรู้สึกตื่นเต้นสุดๆ การที่เธอต้องกลับมาเรียนที่นี้โดยไม่มีบอมเพื่อนสนิทของเธอบางครั้งมันก็น่ากลัวอยู่นะและด้วยที่เธออายุเยอะกว่าคนอื่นๆ ในคลาสด้วย.. มันทำให้เธอทำตัวไม่ค่อยถูก…“ณิชา จิตขจร..”“มาค่ะ…” เปิดเทอมวันแรกมันมักจะตื่นเต้นแบบนี้สินะแต่ทุกครั้งมันไม่ค่อยกังวลเท่าไรเพราะมีบอมอยู่ข้างๆ แต่วันนี้ไม่แล้ว.. เพื่อนของเธอเรียนจบกันไปหมดแล้ว..“นึกว่าใคร.. ครั้งนี้จะกลับมาเรียนจนจบไหมเนี่ยณิชา..”“จบค่ะอาจารย์..”แฮะๆเพียงสิ้นประโยคของอาจารย์ประจำภาควิชาเสียงของนักศึกษาคนอื่นก็ดังขึ้นมาทันที.. เธอไม่รู้หรอกว่านักศึกษาคนอื่นซุบซิบเธอเรื่องอะไรแต่ที่แน่ๆ เธอจะไม่ใส่ใจกับอย่างอื่นเธอจะใส่ใจแค่เรื่องเรียนเท่านั้น.. ออ.. เธอลืมบอกไป หลังจากที่กั๊ฟพยายามขอร้องให้เธอท้องลูกคนที่สองอีกครั้งเธอก็ไม่ไว้ใจเขาอีกเธอเลยซื้อยาคุมมาเผื่อไว้มีทั้งที่บ้านและในกระเป๋าของเธอ.. เขาน่ะเจ้าเล่ห์จะตาย… ไว้ใจไม่ได้ ส่วนน้องอ้ายก็เริ่มคลานแล้วตอนนี้คลานเร็วมาก เร็วจนบางครั้งพวกเราก็เหนื่อยสุดๆ เหนื่อยวิ่งตามเพราะกลัวว่าน้องอ้ายจะไปชนหรือร่วงจากบันไดนะสิ.. ดื
เขาและอีฟใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันในบ้านหลังเล็กๆที่แม่ได้สร้างเอาไว้ให้จะว่าอึดอัดไหมก็ไม่นะเพราะว่าการมาอยู่ที่บ้านของแม่มันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดอะไรเลยสักนิดแต่กลับต่างกัน มันกลับทำให้เขารู้สึกว่านี่อาจจะเรียกว่าครอบครัว ความรู้สึกแบบนี้เขาไม่รู้จักมานานมากๆแล้ว.. อาหารฝีมือแม่.. เขาเองก็แทบจะจำไม่ได้ และยังมาเจอแฟนพี่เบิร์ดอีก.. คือแบบทำอาหารแม่งโคตรอร่อย ราวกับว่าเป็นคนสอนแม่เขายังไงยังงั้น แต่สิ่งที่เขาเห็นแล้วก็คิดว่ามันน่าแปลกมากๆก็คือ.. แฟนพี่เบิร์ดกับพี่เบิร์ดแม่งแบบ.. พี่เบิร์ดแกบังคับแฟนแกรึเปล่าวะ.. แต่จะว่าไป.. เขาเองก็บังคับ ช่างแม่งเถอะ เอาเป็นว่าอย่างน้อยๆเขาก็มีอีฟ น้องอ้าย และแม่อยู่ด้วย ส่วนป๊าก็.. มาบ้างเป็นบางครั้ง.. บางครั้งของเขาก็คือวันเว้นวัน เมื่อก่อนไม่อยากไปไหนเลย วันๆอยู่แต่บ้านพอตกกลางคืนก็ออกไปทำงาน ไปคุมร้าน แต่ช่วงนี้ป๊าอยู่ไม่ติดบ้านเลยเพราะว่าขยันมาหาหลานและมาหาเมียป๊าด้วย.. บางทีการที่เขาได้ดูคนแก่เล่นตัวมันก็เป็นอะไรที่สนุกดีนะ.. ตลกดี… “อีฟ.. เค้าไปคุยกับพี่ไคล์ให้แล้่วนะ พี่ไคล์บอกว่าเปิดเทอมหน้าอีฟก็ไปเรียนได้เลย.. ” พรึบ.. “จริงเหรอ? แต่ว่
ในที่สุดเขาก็ได้เมียสักทีและที่นี้แม่ของเขาก็จะได้ไม่ต้องกระแหนะกระแหนเขาเกี่ยวกับเรื่องลูกเรื่องหลาน.. เพราะตอนนี้แม่เขาได้พาอีฟและน้องอ้ายไปอยู่บ้านท่านแล้วนั่นเลยทำให้เขาต้องมาอยู่บ้านแม่แทน.. เมื่อก่อนเขาไม่อยากมาที่นี่สักเท่าไรเพราะมาทีไรเขามักจะเจอแม่บ่นเรื่องนิสัยที่เหมือนป๊าไปทุกวันๆ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่แล้วเพราะว่าตอนนี้เมียและลูกของเขามาอยู่กับแม่ถามว่ามาตอนไหน.. ก็ตอนที่เขาพาอีฟไปจดทะเบียนสมรสนั่นแหละ แม่นะรีบพาน้องอ้ายกลับบ้านท่านทันทีเมื่อมาถึงคอนโดเขาและอีฟหาลูกไม่เจอจนเขาต้องโทรหาป๊าและป๊าก็บอกว่าแม่ได้พาน้องอ้ายมาที่บ้านของท่านแล้วสุดท้ายอีฟร้องไห้.. กว่าจะปลอบได้หลังเขานี่แทบขาด.. เพราะอะไรน่ะเหรอ? เพราะว่าอีฟฟาดเอาๆ แล้วก็ด่าเขายกใหญ่แต่ไม่ได้ด่าคำหยาบคายนะจะเรียกว่าด่าก็ไม่ได้เรียกว่าบ่นจะดีกว่า…“อีฟ.. ไปทำงานด้วยกันไหม.. เค้าจะได้มีกำลังใจ..”“ไม่ว่างต้องเลี้ยงน้องอ้าย…”“ก็เอาน้องอ้ายไปด้วยไง.. เอาไปเลี้ยงที่นั่นก็ได้…”“ไม่.. น้องอ้ายยังเล็กน้องอ้ายไม่ควรที่จะเจอกับสิ่งแบบนั้น…”“ก็ถูก.. งั้นไม่ไปทำงานมันละ..” “ไม่ได้นะกั๊ฟนายจะไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้ไม่ได้นะ…”
เธอนะอยากจะออกจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนั้นตอนนั้นเลยเอาจริงๆ เธอได้ยินจากปากของ อดีตสามีเธอว่าเจ้าลูกชายตัวดีของเธอมันมีหลานให้เธอแล้วเธอนะดีใจจนน้ำตาไหลเธอทำตัวไม่ถูก เธอพึ่งจะบอกกับเจ้าเบิร์ดไปหยกๆ ว่ารีบมีหลานให้เธอทีเธออยากเลี้ยงหลาน (Past to you ย้อนเวลาไปพบรัก) เธอพูดยังไม่ถึงเดือนเลยตอนนี้เธอก็มีหลานเป็นของตัวเองแล้ว.. เธออยากเห็นหลานมากๆ เธออยากดูหน้าตาว่าจะน่ารักน่าชังขนาดไหน…“ขับรถให้มันเร็วกว่านี้ได้ไหม…”“จะรีบไปไหนกัน.. ทำตัวอย่างกับตัวเองเป็นวัยรุ่นไปได้รีบร้อนเกินคน…” เฮ้อ.. อดีตภรรยาของเขานี่ก็ใจร้อนเกินคนไปนะ เขาไม่แปลกใจเลยว่าไอ้ความใจร้อนและการขับรถเร็วน่ะได้มากจากใคร.. ไอ้กั๊ฟมันได้มาจากแม่ของมันหมด…“ฉันไม่ได้พูดกับคุณ ช่วยหุบปากอุ๊ย.. เงียบปากทีนะน่ารำคาญ…” ชิ.. อยากคุยด้วยตายแหละ จุ้นจ้านไม่เข้าเรื่อง…“พูดกับผัวไม่เพราะ…”“อดีต..” “อดีตแล้วไงถึงยังไงเราก็ได้กันจนมีลูกมาแล้ว..”“หุบปาก”“ดุฉิบหาย… แบบนี้ถึงได้รัก…”ขวับ..“ถ้าคุณยังไม่หุบปากฉันจะตบปากคุณจริงๆ แล้วนะคุณกษิดิศ..” อย่าให้ความอดทนอันน้อยนิดของเธอสิ้นสุดลงนะ.. ถ้าเธอได้โมโหเธอไปสุดนะ…“พี่ดิศ เมื่อก่อนเร