แชร์

บทที่ 6

ผู้เขียน: อิษสรา | ISSARA
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-08-29 12:58:54

“มีอะไรกันหรือเปล่าคะ” ฉันถามขึ้นในขณะที่พาตัวเองนั่งลงบนเก้าอี้ ธาดาละสายตาจากฉันหันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ

“ไม่มีอะไรลูก ผู้หญิงคนนั้นคงเป็นคนสุดท้ายที่จะเข้ามาก่อกวนเทียนแล้วแหละนะ” คุณป้าพูดกับฉันพร้อมกับอมยิ้ม

“ไม่มีทางค่ะ เทียนจัดการพวกเธอไม่เคยซ้ำหน้าในทุกวันอยู่แล้ว เทียนชินแล้วค่ะ”

“เชื่อป้าสิว่าจะไม่มีใครมากวนใจหนูแล้ว” คุณป้าก็พูดอะไรที่มันมั่นใจขนาดนี้ ฉันได้แต่พยักหน้า และสนใจกับอาหารตรงหน้าต่อ

“อาทิตย์หน้าจะกลับไทย” ธาดาที่นั่งเงียบอยู่นานพูดขึ้น

“กลับประเทศไทย” ฉันถามย้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ก็หมอนี่ไม่เคยมีความคิดจะกลับไปเลยน่ะสิ

“อือ” ธาดาตอบกลับพร้อมกับเงยหน้ามองฉัน

“ได้ค่ะ แล้วจะกลับกี่วันคะ”

“ถาวร” ฉันหยุดมือที่กำลังจิ้มผัก และเงยหน้ามองเขาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“อะไรเข้าสิงเหรอคะคุณธาดา”

“อุ๊บ” เสียงหัวเราะของคุณป้าทำให้ธาดาต้องหันไปมองแม่ของเขา

“ก็กลับไปทำงานเต็มตัวไง เดี๋ยวจะไม่มีเลขาในอีกห้าเดือนข้างหน้าละ”

“ค่ะ เดี๋ยวฉันจะหาเลขาคนใหม่มาให้ค่ะไม่ต้องห่วง” อีก 5 เดือนฉันต้องรีบหาคนมาแทน และสอนงานให้เร็วที่สุด

“ไม่ต้องรีบก็ได้”

“คุณธาดาเรื่องมากค่ะ ไม่รู้ว่าคนใหม่จะทนได้นานแค่ไหน ยังไงก็ต้องรีบ เดี๋ยวจะไม่ทัน” ฉันรู้นิสัยเขาดียิ่งกว่าพ่อแม่เขาอีก

“รู้ด้วยว่าฉันเรื่องมาก”

“ใช่ คุณธาดาเรื่องมากค่ะ”

“เดี๋ยวเธอลาออกจากการเป็นเลขาวันนี้ แล้วมาเป็นเมียแทน”

“ธาดา” ฉันเรียกชื่อเขาเพื่อเตือนสติ และหันไปสบตาคุณป้า ซึ่งเธอเอาแต่นั่งยิ้ม

“พูดจริง” เขาย้ำคำเดิมแล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม

“หุบ ปาก” ฉันขยับปากพูดช้าๆชัดๆแบบไม่มีเสียง

“เทียน ปีนี้ก็อายุยี่สิบแปดแล้วใช่มั้ย” คุณป้าหันมาถามฉันในขณะที่ฉันยังคงด่าธาดาทางสายตา

“ค่ะคุณป้า” ฉันตอบรับเธอ แต่ยังคงไม่ละสายตาจากเขา

“เทียนไขชอบผู้ชายแบบไหน”

“อะไรที่ตรงกันข้ามกับธาดาค่ะ” เธอพูดจากใจจริงไม่มีการเสแสร้ง คุณป้าได้แต่ส่ายหัว และหันไปมองลูกชายของตัวเอง

“แต่ฉันชอบเธอนะ” สิ้นเสียงของธาดา ฉันก็เงยหน้ามองเขาอีกครั้ง วันนี้หมอนี่พูดมากเกินกว่าปกติ ซึ่งปกติก็พูดมากอยู่แล้วนั่นแหละ

“คุณป้าอย่าสนใจคำพูดสมองกลับของเขาเลย” ฉันพยายามอธิบาย ก็เขาน่ะตั้งใจจะให้คุณป้าเข้าใจผิดหรือไง

“ป้าว่า...” ฉันหันไปมองคุณป้าที่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง

“...”

“หนูเทียนเหมาะกับการเป็นลูกสะใภ้ป้ามากเลยนะ”

เคร้ง! ส้อมในมือร่วงกระทบจาน ฉันหันไปมองหน้าคุณป้าด้วยความตกใจ และหันกลับมามองธาดาอีกที

“คุณป้าโดนธาดาเป่าหูเหรอคะ อย่าไปฟังเขามากค่ะ เทียนรู้ว่าเขาเป็นยังไง” ฉันปาดสายตามองไปยังธาดาที่นั่งไม่รู้ร้อนรู้หนาว

“ป้าพูดจริงนะ”

“คุณป้าคะ หมดหวังเรื่องลูกสะใภ้ดีกว่าค่ะ เขาโกหกคุณป้าเรื่องที่จะหาลูกสะใภ้ใช่มั้ยคะ” ฉันไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรกับแม่ตัวเองบ้าง แต่ทำไมคุณป้าดูยิ้มมีความสุขมากมายขนาดนี้

“ฉันบอกแม่ว่าจะแต่งงานกับเธอ” ธาดาพูดพร้อมกับเท้าคางเอียงหน้ามองฉัน

“ธาดา” ฉันเรียกชื่อคนตรงหน้า และถอนหายใจออกมา

“เทียน มีแฟนแล้วค่ะ” ฉันพูดออกไปและส่งยิ้มให้คุณป้า ท่านเองก็มีสีหน้าตกใจไม่น้อย ส่วนธาดา...เขาชี้นิ้วใส่ตัวเองก่อนที่จะเอ่ยปากพูด

“ฉันไง” ธาดายิ้มให้ฉันอย่างกวนประสาท

“อ้อ แม่โอเคเลยนะ” คุณป้ายิ้มอย่างอารมณ์ดี

“...” ส่วนฉันจ้องหน้าเขาอย่างคาดโทษ เดี๋ยวรอให้คุณป้ากลับไปก่อนเหอะ

“ก็เดี๋ยวเธอต้องหาเลขาให้ฉันนี่ เธอก็ขยับขึ้นมาดูแลฉันเต็มตัวเลยสิ” ธาดายังคงไม่หยุดพูดมาก

“...” ฉันได้แต่เงียบเพราะเกรงใจคุณป้าที่ยังคงนั่งอยู่

“คุณแม่ก็โอเค ทางบ้านของเธอ เดี๋ยวให้แม่ไปจัดการ”

“...” ฉันสูดหายใจเข้าปอดและพยายามไม่สนใจที่เขาพูด

“ทั้งคู่ก็ยี่สิบแปดกันแล้วใช่มั้ยปีนี้ เหมาะแก่การ...”

“ไม่ค่ะ” ฉันพูดขึ้นก่อนที่คุณป้าจะพูดจบ

“ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอจะปฏิเสธ” ธาดาเท้าคางมองฉันที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา

“เทียนไม่เหมาะกับคุณธาดาหรอกค่ะ คุณธาดามีนักธุรกิจสาวสวยมากมายมาชอบ เทียนเป็นแค่ลูกสาวแม่บ้านไงคะ เพราะฉะนั้นนะคะ...!”

“ฉันชอบเธอนะเทียน” ก่อนที่ฉันจะพูดจบธาดาก็พูดสวนมาทันที คำพูดของเขาทำให้คุณป้ายิ้มอย่างพอใจ ส่วนฉันมองเขาด้วยความตกใจ ฉันรู้ว่าเขามันบ้า แต่ไม่คิดว่าจะบ้าได้มากขนาดนี้

“นั่นแหละหนูเทียน ป้ารู้ใจลูกชายของป้าดี”

“ไม่ค่ะ คุณป้า” คุณป้ายกนิ้วแตะปากประมาณว่าให้ฉันเงียบ และยกโทรศัพท์มือถือตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะ หน้าจอโทรศัพท์บอกเวลาการโทรออกเป็นเวลาเกือบ 1 ชั่วโมง

ติ๊ด! คุณป้าเปิดกล้องวิดีโอคอล ภาพบนจอปรากฏหน้าแม่และพ่อของฉัน รวมไปถึงคุณพ่อของธาดา

(เทียนไข~) พวกเขาเรียกฉันอย่างพร้อมเพรียง

“สวัสดีครับทุกคน” ธาดากล่าวทักทาย ในขณะที่ฉันยังคงช็อกกับสิ่งที่เกิดขึ้น

(ธาดาป้าคิดถึงหนูนะ) แม่ฉันพูดด้วยความอารมณ์ดี นี่มันอะไรกันพวกเขาฟังมาตั้งแต่ต้นเลยเหรอเนี่ย

“คิดถึงคุณป้าเหมือนกันครับ หรือต้องเรียกคุณแม่”

“ธาดา” ฉันเรียกชื่อเขาเพื่อให้หยุด แต่ธาดากับยักคิ้วใส่ฉันอย่างกวนประสาท

(เทียนไข ทำไมทำเสียงดุแบบนั้นล่ะ) เสียงพ่อดังออกมาจากโทรศัพท์ เมื่อเห็นว่าพ่อดุฉัน ธาดาก็ทำหน้าตาน่าสงสารเข้าไปอีก

“นี่มันเรื่องอะไรกันคะทุกคน” ฉันหันไปจ้องมองโทรศัพท์ของคุณป้า

(ก็...พวกเรามารอฟังการสารภาพรักของธาดายังไงล่ะ) พวกเขาทั้ง 3 คนพูดพร้อมกัน

“อะไรกันคะเนี่ย” ฉันที่ยังงงไม่หาย

(เอาไว้กลับมาไทยแล้วเราค่อยมาคุยกันนะเทียน) แม่พูดกับฉันด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม เมื่อเห็นรอยยิ้มของพวกเขาฉันก็อารมณ์เย็นลง

“แม่ เดี๋ยวเถอะนะ” ฉันคาดโทษแม่ตัวเอง ซึ่งแม่ก็แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน และหันไปคุยกับธาดาต่อ

(ธาดาจะกลับไทยวันไหนลูก ป้าคิดถึงสุดหล่อจะแย่แล้ว) ขวัญใจแม่ฉันเองแหละหมอเนี่ย

“ไม่เกินอาทิตย์นี้ครับ”

(ป้าจะทำความสะอาดห้องรอเลยนะ)

“รบกวนด้วยนะครับคุณป้า อ้อ แล้วก็เตรียมห้องให้เทียนอยู่ข้างผมด้วยนะครับ”

“ไม่ต้องค่ะแม่ เทียนจะอยู่ห้องเดิม” ฉันพูดพร้อมกับจิ้มผักเข้าปาก ไม่สนใจว่าทุกคนจะมีสีหน้าแบบไหน

“งั้นให้เทียนอยู่ห้องเดียวกับผมเลย”

“ไม่ค่ะ เทียนจะออกไปอยู่ข้างนอก” ฉันยังไม่ละสายตาจากอาหารตรงหน้า

“ถ้าเธอยังปฏิเสธอีกฉันจะพูดแล้วนะ” เมื่อธาดาพูดจบฉันก็เงยหน้ามองเขาทันที ธาดาส่งยิ้มกว้างมาให้ ใบหน้าหล่อนั่นฉันอยากซัดสักที

“...” เอาไงกับหมอนี่ดีเนี่ย ถ้าฉันยังดึงดันเขาก็จะพูดความลับของเราทั้งคู่

“เอายังไงดีคะคนสวย” ยิ่งมีคุณแม่อยู่ด้วย เขายิ่งกวนประสาทฉัน

“อยู่ห้องข้างๆค่ะ”

(โอเค เดี๋ยวแม่จัดห้องไว้ให้นะลูก) คุณแม่ดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ พวกผู้ใหญ่กำลังคิดอะไรกันอยู่

“ค่อยน่ารักหน่อย” ฉันถอนหายใจ และพยายามทำใจให้เย็นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งปกติฉันไม่ใช่คนใจร้อนหรือโมโหง่าย แต่ถ้ากับธาดาฉันต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการใช้ชีวิตให้ผ่านไปในแต่ละวัน

(พวกเราสบายใจแล้ว บายนะเด็กๆ) คุณพ่อของธาดาโบกมือลา ก่อนที่หน้าจอจะดับลง

ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ คุณแม่ธาดาเอาผ้าเช็ดปากลงบนโต๊ะอาหารและลุกขึ้นยืนพร้อมกับหยิบกระเป๋าถือติดมือไปด้วย

“เจอกันที่ไทยนะเด็กๆ”

“คุณป้าจะไปแล้วเหรอคะ” ฉันหันไปถามท่านย้ำเพื่อความแน่ใจ

“จ้า ป้ามีนัดเพื่อนเอาไว้อีก ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อนสักหน่อย ไว้เราไปเจอกันที่ไทยเลยนะ แม่ไปนะธาดา” ท่านเดินไปลูบหัวลูกตัวเอง และเดินออกจากห้องอาหารไป ธาดายังคงทานอาหารเช้าต่อโดยไม่สนใจว่าตอนนี้ฉันกำลังเป็นยังไง

ปึก! ฉันวางแก้วน้ำกระแทกลงบนโต๊ะเพื่อตั้งใจให้เขาหันมาสนใจ แต่มันก็ไม่ได้ผล ธาดาทำเป็นไม่สนใจในสิ่งที่ฉันทำ

“ธาดา” ฉันเอ่ยปากเรียกชื่อเขา ธาดาเงยหน้ามองฉันตามเสียงเรียก

“ว่า”

“คิดจะทำอะไร”

“เรื่องอะไร” เขาถามกลับด้วยสีหน้าใสซื่อ

“ก็เรื่องที่พูดกับคุณป้าแล้วก็แม่ฉันไปนั้น ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย พูดเล่นใช่มั้ย”

“ไม่”

“เคยบอกไปแล้วไง ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นลืมมันไปซะ” เรื่องน่าอายแบบนั้นน่ะ ฉันพยายามลืมมันมาตลอด

“ไม่” ธาดายังพูดคำเดิมซ้ำๆ

“....”

“ทำไมฉันต้องลืมเซ็กซ์ของผู้หญิงที่ฉันพอใจมากที่สุดด้วย” ธาดาตั้งใจเน้นย้ำคำที่ฉันไม่ต้องการได้ยินมากที่สุด

“หยุดพูดเรื่องนี้” เรื่องแบบนั้นลืมมันไปสักที

“ได้สิ เพราะฉันกำลังจะพูดเรื่องแต่งงานของเรา”

“เพ้อเจ้อ” หมอนี่มันบ้า

“เดี๋ยวก็รู้ว่าเพ้อเจ้อหรือเปล่า ว่าแต่คืนนี้เรามาย้อนความทรงจำก่อนที่เธอจะเป็นของฉันอย่างสมบูรณ์ดีมั้ย”

พึ่บ!

ฉันปาผ้าเช็ดปากใส่เขาทันทีที่พูดจบ แต่ธาดาก็รับมันไว้ได้ทันก่อนที่มันจะโดนหน้าตัวเอง แล้วเท้าคางและเอียงคอมองมาที่ฉัน

“ฉันเป็นแค่เลขา ท่องเอาไว้ด้วย”

“ครับดุจัง เทียนไขเป็นเลขา...ที่กำลังจะเป็นเมียของธาดา”

ฉันเอนหลังพิงพนักเก้าอี้อย่างหมดแรงจะด่า พูดอะไรไปเขาก็ไม่เคยสำนึก นับวันหมอนี่ยิ่งวุ่นวายกับฉันมากขึ้นกว่าเดิม เพราะเราอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็กงั้นเหรอที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ไม่มีทางที่คนแบบเขาจะชอบฉัน หมอนี่ไม่เคยรักใคร ที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีแฟน ฉันรู้มาตลอดว่าธาดารักใครไม่เป็น

“เทียนไขฉันรักเธอ” ธาดาพูดพร้อมกับกะพริบตาปริบๆ คิดว่าน่ารักมากหรือไง

“หุบปาก” ฉันด่าออกไปทันทีด้วยความรำคาญ

“ฮ่า ฮ่า” และเขาก็หัวเราะชอบใจที่แกล้งฉันสำเร็จ บอกแล้วไงว่าหมอนี่ไม่ได้ชอบฉันจริงหรอก แค่ตั้งใจกวนประสาทมากกว่า

“หยุดเพ้อเจ้อนะธาดา ฉันยืนยันคำเดิมเรื่องลาออก”

“...” เขาหยุดหัวเราะทันทีและหันกลับมามองหน้าฉัน สายตาที่เปลี่ยนไปจากความขี้เล่นกลายเป็นดุดัน

“...” เขาเงียบ ฉันก็เงียบ ต่างคนต่างเงียบ

ครืด!

จนในที่สุดเขาก็ลุกจากเก้าอี้และเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้ฉันนั่งมองตามแผ่นหลังกว้างเพียงลำพัง ปล่อยหมอนั่นเถอะเดี๋ยวอารมณ์ดีก็กลับมาเอง

เวลา 20.00น.

เขาหายไปตั้งแต่ตอนนั้นยันมืดก็ยังไม่ยอมโผล่หัวออกมาจากห้อง เป็นอะไรขึ้นมาอีก กับฉันนี่มีปัญหาตลอด กับคนอื่นไม่เห็นจะมีอารมณ์แบบนี้บ้างเลย นึกว่าอยู่กับเด็ก 3 ขวบ

ก๊อกๆ ฉันเคาะประตูห้องของเขา และยืนรอก็ไม่มีเสียงตอบรับออกมา

“ถ้าตายแล้วก็ช่วยส่งเสียงหน่อย” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจอยู่หน้าห้อง สิ่งที่ได้กลับมามีเพียงความเงียบเท่านั้น

“....” เงียบ

“โอเค จะถือว่าตายก็แล้วกัน” ฉันบ่นอยู่หน้าห้อง และหันหลังเดินออกห่างจากประตูทันที

แอ๊ด! เสียงประตูเปิดออก ทำให้ฉันต้องหันกลับไปมอง ใบหน้ายุ่งเหยิงของธาดาทำให้ฉันขมวดคิ้วแทบจะชนกัน

“ไม่คิดจะง้อเลยเหรอ” เขาถามด้วยความหงุดหงิด ท่อนบนเปลือยเปล่า เหลือเพียงกางเกงขายาวที่เขาสวมใส่อยู่เท่านั้น

“ไร้สาระ”

“เธอทำร้ายจิตใจฉัน”

“....” ฉันยืนมองเขาและถอนหายใจเบาๆ

“เธอไม่รักฉัน”

“พูดอะไรน่ะ” เขาเดินเข้ามาใกล้ก่อนที่จะโน้มหน้าให้อยู่ในระดับเดียวกัน

“อยากจูบ” ฉันขยับตัวถอยห่างจากเขาทันที สายตามองไปยังคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้ใจ

ถึงในบ้านจะไม่ได้มีแค่เรา 2 คน แต่ยังไงคนอื่นก็ฟังคำสั่งของธาดาเป็นหลัก แล้วเขาก็อยากทำอะไรก็ทำ ไว้ใจไม่ได้สักเรื่อง

“ถ้าอยากมากจะให้เรียกผู้หญิงมาให้มั้ยคะ”

“ฉันเบื่อแล้ว” ฉันขมวดคิ้วจนมันจะเข้ามาชนกัน อยู่ๆหมอนี่ก็เป็นอะไรขึ้นมา

“ไม่ส่งท้ายก่อนกลับไทยเหรอคะ ผู้หญิงเสียใจแย่เลยค่ะที่คุณธาดาทำกับพวกเธอแบบนี้”

“หยุดพูดประชดเพราะหึงฉันสักที”

“พูดอะไรน่ะ” คำพูดหลงตัวเองของธาดาทำให้ฉันถึงกับพูดไม่ออก

“ถ้าเราแต่งงานกันก็ไม่ต้องปรับตัวอะไรเลยนี่เนอะ เพราะเทียนรู้ใจฉันทุกอย่าง” ธาดาเริ่มพูดถึงเรื่องชวนอ้วกอีกครั้งด้วยสีหน้าเพ้อฝัน

“....”

“ที่ผ่านมาก็เหมือนเราใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาตลอด”

“....”

“อยู่ ๆ ก็จะมีเจ้าสาวเป็นของตัวเอง แล้วก็...” ธาดาไล่สายตามองและเดินเข้ามาใกล้

“....” ฉันยืนมองผู้ชายตรงหน้าที่เดินเข้ามาใกล้

“สวยมากซะด้วย”

“รำคาญ” พูดจบก็หนีเขาทันที ปล่อยให้เขายืนหัวเราะชอบใจอยู่แบบนั้น เรื่องบ้าอะไรเกิดขึ้นในชีวิตฉันอีก มีทางเดียวต้องหาคนมาแทนตัวเองให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“เราสองคนจะเรียกแทนตัวเองว่าอะไรกันดีเหรอเทียนไข “

“ไม่...” รำคาญชะมัดเลย

“เรียกว่าอะไร” ธาดายังไม่หยุดกวนประสาทฉัน จนในที่สุดต้องหยุดเดิน และหันมาจ้องหน้าเขา

“ให้เรียกว่าอะไรดีล่ะ หมู หมา หรือจะเอาตัวอะไรก็เลือกมาสักอย่าง” ธาดายิ้มมุมปากและจ้องหน้าฉัน

“เทียน”

“อะไร”

“เทียนไขของธาดา” เมื่อได้ยินคำพูดปนน้ำเสียงกวนประสาทของเขาทำให้ฉันต้องเดินเข้าไปหา

“ธาดา” เขาจ้องหน้าฉันและส่งยิ้มให้ ฉันยอมรับมาตลอดว่าเขาน่ะหล่อมาก แต่มันใช้ไม่ได้กับฉัน

“ว่า”

“หยุดความคิดบ้าบอนี่ซะ ทางพ่อกับแม่ของฉันจะจัดการเอง แล้วก็คุณป้าและคุณลุง นายต้องไปอธิบายให้พวกเขาเข้าใจ” ไม่ว่าเขาคิดจะเล่นสนุกอะไร แต่ฉันจะไม่ยอมให้มันเกิดขึ้นจริงเด็ดขาด

“ไม่...บ้านฉันดูแลเธอมาตั้งเยอะ ตอบแทนกันหน่อยสิ” สายตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป

“คุณป้ากับคุณลุงทวงเหรอ”

“เปล่า ฉันทวงเอง”

“สิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้ก็ชดใช้อยู่นี่ไง”

“คิดว่าพอเหรอ” ฉันรู้ว่ามันไม่พอกับสิ่งที่ฉันได้รับ

“ฉันจะหาเงินมาใช้คืนให้ทั้งหมดโอเคนะ” พูดจบก็หันหลังเดินกลับห้องตัวเองทันที

“อยากมีปัญหากับฉันก็ลองดู”

น้ำเสียงของเขาไม่ได้พูดเล่น ธาดากำลังโมโหจริงๆ ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อน แต่มันยังไม่เคยเกิดขึ้นกับฉัน ตอนนี้ทำอะไรไม่ถูก แต่การหันไปเถียงกับธาดาก็ไม่ใช่เรื่องดีแน่ สายตาคมจ้องมองคนตัวเล็กที่ยืนหันหลังให้เขา เธอไม่ยอมหันกลับมาให้เขาเห็นหน้าอีก เทียนยืนนิ่งอยู่แบบนั้นสักพัก และเดินเข้าไปห้องไปทันที

“โอกาสมาแล้ว ใครจะยอมทำเป็นเรื่องเล่นกัน...”

เสียงทุ้มพึมพำกับตัวเอง และเดินกลับเข้าห้องไป ผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเปิดทางขนาดนี้แล้ว มีเหรอที่เขาจะปล่อยให้หลุดมือ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 122

    (น้องชื่ออะไรครับ)(พรนับพรรณ ปริยากรสกุล ชื่อเล่นพันดาวค่ะ) พันดาวแนะนำตัวเองแล้วทุกอย่างก็ดูเงียบไป“ทำไมเงียบล่ะพันดาว”(…) ไม่มีเสียงตอบรับทุกอย่างเงียบ แม้แต่เสียงรอบข้าง“ส่งเสียงไอก็ได้พันดาว”(…) ยิ่งเงียบแบบนี้ฉันก็อยู่นิ่งต่อไปไม่ไหว แต่จังหวะที่หันหลังกลับไปมองก็มีเสียงแทรกดังลอดเข้ามาในห

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 121

    “คุณพ่อไปรับทีไรจะมีแต่คุณครูมองตลอดเลย” ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขียนฝันฟ้องฉันแบบนี้ เขียนฝันหวงพ่อสุด ๆ“ไม่เป็นอะไรค่ะ ทุกคนสามารถมองคุณพ่อได้ เพราะคุณพ่อเขารู้ว่า...ต้องมองที่ใคร” ฉันปาดสายตามองไปยังธาดา ซึ่งเขาก็อมยิ้มและเดินเข้ามาข้างกันแล้วยกยกมือโอบไหล่“พ่อมองแค่แม่ของเขียนฝันกับน้องพันดาวมาตลอดต

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 120

    “ไม่ต้องหรอกครับ ผมสั้นน่ารักนะ พี่ชอบผู้หญิงผมสั้น”“...เอ่อ ปะ ไปก่อนนะคะ!” เธอถูกชมจนเสียอาการจนรีบกล่าวลาแล้วรีบวิ่งหนีไปทันที“แต่สิ่งที่ชอบมากที่สุดก็คือเทียนไข” พออยู่กันสองคนก็มากวนประสาทฉันแทน“เฮ้อ...”เช้าวันต่อมา“เทียนตัดผมสั้นเหรอ” เสียงธาดาดังขึ้นจากด้านหลังในระหว่างที่ฉันกำลังยืนรอเข

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 119

    (ช่วงวัยเด็กของเทียนไขกับธาดา (ช่วงเกรด7หรือมัธยมชั้นปีที่ 1) ปึง!ประตูห้องครัวหอพักคนงานถูกเปิดออกเต็มแรง พร้อมกับเด็กชายผู้เป็นคุณหนูของบ้านนี้ และยังเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวหัวหน้าแม่บ้านอย่าง...เทียนไข“เทียนไข! ทำไมไม่บอกว่าจะสอบเข้าด้วยคะแนนเต็มเพื่อไปอยู่ห้องคิงล่ะ เรานึกว่าเทียนจะเลือกทำคะแ

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 118

    “ยุงไม่กัดแต่ปวดหัวมากเลย อะไรกันสองคนนี้” เมื่อนั่งฟังอยู่นานฉันก็ทนต่อไปไม่ไหวจนต้องขอพูดอะไรบ้าง“เด็กเวรนี่กวนประสาทค่ะ”“ถ้าจะด่าคนอื่นไม่ต้องมีคะขา”“โอเค ไอ้เด็กเวรนี่กวนตีน” ไม่สำนึกเลยสินะ“ก็เลยมาเลี้ยงเบียร์ย้อมใจแบบนี้เหรอ”“นั่งฟังมันบอกรักเมียตัวเองอยู่นี่ไง ไม่มีใครใจดีเท่าฉันแล้วนะ”

  • Love Textbook ตำรารักพิชิตหัวใจ   บทที่ 117

    “หายไปไหนของเขา”เสียงบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตาสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อหาตัวธาดาที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนสักพักแล้ว โทรศัพท์ก็ไม่พกติดตัวนี่เดินรอบแล้วเหลือแต่ที่หอพักคนงาน แต่ปกติธาดาจะไม่ได้ไปที่นั่นถ้าไม่มีธุระสำคัญ“ป้าขวัญคะ เห็นคุณธาดามั้ย” ในระหว่างที่กำลังหยุดยืนคิดอยู่หน้าบ้านใหญ่ ป้าขวัญ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status