10
ไม่ซ้ำหน้า
@บลูมูนบาร์
(หนึ่งในบาร์ชื่อดังหลังมหาลัยอเธน่า)
บลูมูนบาร์จะมีสระว่ายน้ำอยู่กลางบาร์ และมีวงดนตรีสดเล่นตลอดทั้งคืน สลับกับการเป็นเพลงแนว EDM ทุก ๆ เที่ยงคืนจะกิจกรรมโยนเหล้าราคาลงไปในสระว่ายน้ำ หากลูกค้าคนไหนที่กระโดดลงไปในสระแล้วงมเหล้าขึ้นมาได้ ก็จะได้เหล้าขวดแพงนั้นไปในทันที
และที่ยิ่งไปกว่านั้นคือบาร์แห่งนี้เป็นการถือหุ้นรวมกันระหว่างศิษย์เก่าจากคณะวิศวะล้วน ๆ จึงไม่แปลกเลยที่พวกเราจะนับว่า บลูมูนบาร์คือถิ่นฐาน แต่ก็ไม่ใช่บาร์จะไม่รับคนจากคณะอื่น ๆ เลย เพราะถ้ามีแต่วิศวะมาเที่ยว
คงไม่มีสาว ๆ สวย ๆ เต็มบาร์แบบทุกวันนี้แน่
"เข้างานมาก็เจอภาพบาดตาบาดใจเลยวะ..พี่มีนาหักอกกูซ้ำแล้วซ้ำเล่า" ไอ้ออโต้คล้องคอของฉันเหมือนคนที่ยืนไม่ไหว มันจับที่อกตัวเอง พลางบีบน้ำตา เมื่อเห็นพี่มีนาของตัวเองอยู่ในอ้อมกอดของเพอร์ซุส
ทั้งสองโยกย้ายไปตามเสียงเพลง ก่อนจะโน้มหน้าจูบนัวกันไปโดยไม่แคร์สายตาของคนรอบ ๆ ที่ซุบซิบนินทากันให้แซด
"มึงอย่าเวอร์ได้ไหม..มึงกับพี่เขายังไม่เคยคุยกันเลยด้วยซ้ำ กูเห็นมึงน่ะคุยแต่กับรูปโปสเตอร์หน้าตึกของเขา" ฉันถอนหายใจและมองไปทางเพื่อนตัวเองแบบเอื้อม ๆ
"จริง ๆ มันก็ไม่ได้แค่คุยนะเว้ย....มันนะชะ (ช่วยตัวเอง) " ไอ้โยหยิบมือของไอ้ออโต้ขึ้นมาพร้อมกับโยกไปมา ๆ
"อี๋ ๆ ๆ ไอ้พวกโรคจิต" ฉันรีบสะบัดมือไอ้ออโต้มันออกไปทันควัน
"ทำไมฉันต้องมาเรียนในสาขาที่มีแต่คนหื่น ๆ ด้วยวะเนี่ย" ฉันยกมือปิดหูตัวเองและเดินผ่านพวกมันที่ยืนเถียงกันไปเถียงกันมา
"แหมไอ้โย สาบานว่ามึงไม่คิด" ไอ้ออโต้แย้งขึ้น
"สองสามครั้งไม่นับปะ" มันยกนิ้วบอกก่อนจะหันไปมองทางพี่มีนาด้วยความเสียดายแบบสุด ๆ
ในตอนที่ฉันกำลังจะเดินกลับไปที่โต๊ะ เพอร์ซุสก็เดินจูงมือพี่มีนาเดินผ่านหน้าของฉันไป ซึ่งเขาก็ไม่ลืมที่จะหันมามองฉันและยักคิ้วใส่เบา ๆ
"พี่มีนาเขาจะรู้ตัวไหมเนี่ย..ว่าไอ้ผู้ชายหน้าหล่อสันดานต่ำช้าคนนี้ มันอันตรายแค่ไหน" ฉันทำได้แค่มองตามแผ่นหลังของรุ่นพี่สาวไปด้วยความเป็นห่วง เพราะเมื่อไม่กี่วันก่อนยังล่อกับนางแบบสาวชื่อดังอยู่เลย
มาวันนี้มาล่อดาวคณะวิศวะ ไม่รวมกับที่อาร์เดลเล่าเรื่องที่หลอกฟันสาว ๆ เกือบจะทั้งมหาลัยแล้วด้วย
"วัดพระบาทน้ำพุ Is calling you มาก ๆ " ฉันแบะปากก่อนจะเดินตรงไปที่โต๊ะประจำของกลุ่มเรา ๆ
โต๊ะยืนประจำกลุ่ม
"เออไอ้พิมพ์..เมื่อเย็นไอ้อาร์เดลแม่งเดินไปทักคนผิดด้วยนะ" ไอ้เลโอที่เจอหน้าฉันก็รีบเผาเพื่อนรักตัวเองทันที
"มันเขาไปกอดคอเข้าไปเลย เพราะคิดว่าเป็นมึง!!"
"ดีน่ะ ผัวเขาไม่ต่อยหน้าเอา" ไอ้เลโอเสริมพร้อมกับลูบหน้าไอ้อาร์เดลแบบกลัว ๆ
"ไอ้เพื่อนส้นตีน..บางเรื่องไม่ต้องเล่าก็ได้ปะ?" อาร์เดลมองไอ้เลโอ ก่อนจะกระดกเบียร์แบบเสียหน้าเล็กน้อย
"ว่าแต่ผู้หญิงคนนั้นเหมือนไอ้พิมพ์ขนาดทักผิดได้เลยเหรอ? " ไอ้ออโต้เอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้อยากเห็น
"ก็มันเจอสาวคนหนึ่ง ใส่ชุดเดรสที่มันซื้อให้มึง มันก็ไม่ดูตาม้าตาเรือเดินไปกะจะแซวเขา ปรากฏว่าเขามากับผัวจ่ะ" ไอ้เลโอพูดเสริมขึ้น แต่ทว่าพอฉันได้
หยุดคิดประมวลคำพูดของเพื่อนดี ๆ แล้วก็แอบคิดขึ้นมาได้ว่า..หรือคนที่พวกมันเจอจะเป็นพิ้งพราว น้องสาวของฉันกันแน่
"เจอที่ไหนอะ?" ฉันถามกลับไปทันควัน
"คอนโดพวกกูไง" โยตอบกลับมาอย่างไม่ได้คิดอะไร
"คนที่เจอ..ใช่เด็กผู้หญิงผมยาวดำ มีหน้าม้าปะ?"
"เออใช่ ๆ หน้าตาน่ารักดีด้วยนะ" โยพยักหน้าตอบกลับตามตรง
(…) ฉันวางขวดเบียร์ลงทันทีเมื่อได้ยินว่าพิ้งไปอยูแถว ๆ คอนโดของไอ้วาโยกับไอ้อาร์เดล เพราะโซนนั้นมันไม่ได้ใกล้กับห้างสรรพสินค้าเลยด้วย
"ถ้าหน้าตาน่ารักดี ...คงไม่ได้เหมือนไอ้พิมพ์แล้ว" ไอ้ออโต้ไม่คิดจะพลาดโอกาสเอาคืนฉันเลยจริง ๆ ฉันหันไปแยกเขี้ยวใส่มันเล็กน้อย
"ถามทำไมวะ? ..หรือมึงรู้จักน้องเขา?" อาร์เดลที่เงียบอยู่นานก็เลิกคิ้วถามขึ้นด้วยใบหน้าที่ดูจริงจัง
ในตอนแรกฉันก็ไม่ค่อยอยากบอกกับพวกมันเท่าไหร่ ก็ยอมรับตามตรแหละว่าหวงน้องสาว ถึงแม้ว่าเพื่อนแต่ละคนจะไม่ได้มีประวัติแย่เรื่องผู้หญิง แต่ก็ไม่อยากเสี่ยง เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นมาจะเสียเพื่อนกันเปล่า ๆ
"เออ..น่าจะเป็นน้องสาวกูเองแหละ" ฉันพยักหน้ารับไปตรง ๆ
"พอดีน้องมาขอนอนด้วยที่หอพักแล้วไม่มีชุดใส่น่ะ..เลยให้ยืมไป" ฉันอธิบายไปก่อนจะยกเบียร์เย็น ๆ กระดกดับความเครียดไปพลาง ๆ
"เออ!! และอีกอย่างคนที่น้องกูไปด้วยไม่ใช่ผัวนะเว้ย!!" ฉันไม่ลืมที่จะหันไปชี้หน้าไอ้เลโอ โทษฐานที่มันพูดจาไม่ให้เกียรติน้องสาวของฉัน
"เขาเป็นแค่เพื่อน ๆ กันเว้ย!!" ฉันเถียงแทนน้องสาวแบบสุดใจ
"แน่ใจเหรอ?" อาร์เดลตอบรับด้วยโทนเสียงแปลก ๆ ทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจเข้าไปอีก
"แน่!" ฉันกระแทกเสียงตอบกลับไปก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลาเกือบ ๆ สองทุ่มกว่า
"กูขอออกไปคุยโทรศัพท์ก่อนแล้วกันนะ" ฉันเงยหน้าบอกเพื่อน ๆ และรีบเดินเลี่ยงออกคุยโทรศัพท์ที่โซนลานจอดรถเพื่อหาที่เงียบ ๆ โทรหายัยพิ้ง
___________
ลานจอดรถ
ในตอนที่ฉันพยายามกดโทรหาพิ้ง แต่ยัยน้องจอมดื้อก็กดตัดสายฉันไม่หยุดเลยจริง ๆ
"ถ้าคุณพ่อกับแม่รู้ว่าเราปล่อยน้องไปดูหนังดึก ๆ แบบนี้..มีหวังโดนด่าแน่" ฉันเริ่มกังวล และทั้งโทรทั้งก้มหน้าพิมพ์ข้อความไปหาพิ้งพราว ซึ่งปลายทางขึ้นว่า อ่านแล้ว แต่เธอกับไม่ตอบอะไรกลับมาเลย
ข้อความทางไลน์
พิมพ์ตะวัน : พิ้ง..อยู่ไหน?
พิมพ์ตะวัน : ถ้าพิ้งไม่ตอบคำถามของพี่..พี่จะฟ้องคุณพ่อน่ะ ว่าพิ้ง..
ยังไม่ทันที่ฉันจะพิมพ์ข้อความเสร็จ ปลายทางก็โทรกลับเข้ามาหาในทันที
ครืดด ครืดด~ สายเรียกเข้าพิ้งพราว..
(นี่พี่พิมพ์เป็นบ้าอะไรอีกเนี่ย..พิ้งก็กลับมาอยู่ที่ห้องไง)
"ห้อง?"
(ก็หอพี่พิมพ์ไง..ตัวเองต่างหากออกไปเที่ยวดึก ๆ ดื่น ๆ ยังจะมาทำสั่งสอนคนอื่น) ยัยพิ้งสวนกลับฉันมาทันควัน
"โอเค ๆ ที่พี่โทรหาก็เพราะเป็นห่วงนะ...อีกอย่างเดี๋ยวสักพักพี่ก็กลับแล้ว"
"พอดีที่คณะพี่เขามีงานนิดหน่อยนะ" ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบประโยคดีปลายสายก็แทรกขึ้นมาทันทีเลย
(ถ้าไม่มีอะไรก็แค่นี้นะ พิ้งง่วงจะนอน!)
ตุ๊ด ๆ ๆ ๆ พิ้งพราวกดตัดสายไปทันทีที่เธอพูดจบ
___________
ฉันยืนกำโทรศัพท์ตัวเองอยู่นาน ตาก็เหลือบมองไปทางรถแท็กซี่ที่จอดอยู่ อย่างลังเลใจจริง ๆ ว่าควรกลับไปเช็คอีกทีดีไหมว่าน้องกลับมาจริงรึเปล่า
"ไม่เอาน่าพิมพ์..น้องคงไม่โกหกหรอก" ฉันส่ายหน้าและยืนเถียงตัวเองอยู่พักใหญ่ ๆ
"พิ้งคงจะอยู่หอแล้วจริง ๆ " ฉันพยายามจะไม่คิดมากเรื่องที่ไอ้โยกับไอ้อาร์เดลพูด
ที่ฉันเป็นห่วงมาก เพราะคุณพ่อกับแม่เลี้ยงยัยพิ้งมาแบบไข่ในหินเลย ฉันแค่กลัวว่าน้องสาวจะถูกใครหลอกเอาง่าย ๆ
______________
ฉันเหลือบไปมองทางบาร์อย่างชั่งใจ ถ้าหนีกลับก่อน พวกมันคงตามไปเคาะถึงห้องแน่ ๆ
"เฮ่อ.." ฉันถอนหายใจและดูนาฬิกาที่บอกเวลาสามทุ่มพอดีเลย
"อยู่สักครึ่งชั่วโมงแล้วกัน แล้วค่อยชิ่งพวกมัน" ฉันนึกในใจซึ่งในตอนที่กำลังจะเดินหันหลังกลับเข้าไปในผับ
อ๊อด แอ๊ด ๆ ๆ ๆ มีเสียงบางอย่างดังขึ้น ไม่ใกล้ไม่ไกลฉันสักเท่าไหร่
"อืม..อะ...อ่าส์!" เสียงครางของใครบางคนทำให้ฉันหยุดชะงักฝีเท้า และหันมองไปรอบ ๆ ในทันที
ความมืดมิด จู่ ๆ ประตูรถแบรนด์หรูคันหนึ่งก็เปิดออกมา ซึ่งมันก็คือคนที่ฉันยืนพิงคุยโทรศัพท์อยู่พอดีเลย
ฟุ่บ!!
"ซี้ด..โคตรดีเลยมีนา ~" ร่างสูงที่คุ้นเคยดีเปิดประตูก้าวลงจากรถ พร้อมกับยืนสวมใส่กางเกงยีนพลาง รัดเข็มขัดต่อหน้าต่อตาของฉัน
เขาหันไปยิ้มตาเยิ้ม ๆ ให้กับคนในรถ พร้อมกับหยิบห่อทิชชูและขวดน้ำเปล่าออกมาด้วย
"พะ..เพอร์ซุส?" ฉันจำสีผม ส่วนสูง ของเขาได้ดีแม้ว่าเขาจะยืนในมุมมืดก็ตาม เพราะเอาจริง ๆ มันไม่มีคนจิตปกติที่ไหนจะลากสาวมากินกันในรถกลางลานจอดรถหลังผับแบบนี้แน่
ยอมรับนะว่ามหาลัยอินเตอร์ เด็กอินเตอร์ เป็นอะไรที่เปิดเผยกันเอามาก ๆ และก็ค่อนข้างจะเสรีในหลาย ๆ เรื่อง และนักศึกษาส่วนมาก ไม่ย้ายมาจากไฮสคูลที่เมืองนอก ก็คือเด็กโรงเรียนอินเตอร์กันมาก่อนแล้ว ...
แต่ยังไงฉันก็ยังไม่ชินอยู่ดีที่จะได้กับภาพคนมีอะไรกันแบบโต้ง ๆ กลางแจ้งขนาดนี้
"อะ...ไอ้ฝรั่งบ้า วิปริต ไอ้โรคจิต คนอะไรจะอยาก..xxx ตลอดเวลา " ฉันพึมพำเบา ๆ และรีบยกมือปิดตาตัวเองเอาไว้และเดินเลี่ยง ๆ ไปให้ห่างจากเขามากที่สุด
ตึก ตึก ตึก …
"ที่พึมพำ ๆ เนี่ยด่าฉันเหรอ?" ร่างสูงเดินตามหลังของฉันมาติด ๆ ซึ่งต่อให้ฉันวิ่งหนีก็คงหนีไม่พ้นอยู่ดี ดูจากขาที่ยาวของอีกฝ่ายที่ก้าวแค่สองสามก้าวก็ประชิดตัวฉันได้แล้ว
"เออด่า แล้วจะทำไม?" ฉันหันกลับไปเผชิญหน้าอย่างไม่ยอมเช่นกัน
"..ก็นายมันโรคจิตนี่น่า ถ้าอยากมากทำไมไม่กลับทำที่ห้องตัวเองฮะ?"
"แล้วเธอมาเสือกอะไรด้วย? ถ้าฉันจะเอาใคร ตรงไหน ที่ไหน เมื่อไหร่? " เขาพูดพร้อมกับโยนห่อทิชชูใส่ถังขยะที่อยู่ด้านหลังของฉัน
ก่อนจะเปิดขวดน้ำเทล้างมือตัวเองและ..ฟิ่ว ๆ ๆ
"ฉันไม่ได้แตกใส่หน้าเธอนิ" เขาไม่พูดเปล่าแต่สะบัดน้ำใส่หน้าของฉันอย่างจงใจหาเรื่อง
"นี่!!" ฉันยกมือขึ้นปิดใบหน้าตัวเองด้วยความรังเกียจหยดน้ำเปล่าเหล่านั้น
"อีกอย่างเธอเองก็โรคจิตเหมือนกัน ที่แอบมายืนฟังเสียงคนเขากำลังเอากันน่ะ" ร่างสูงพูดพร้อมกับใช้ลิ้นของเขาดุ้น ๆ กระพุ้งแก้มและมองฉันด้วยสายตาที่ยียวนกวนส้นเท้าเป็นที่สุด
"ฉันไม่ได้แอบฟัง แต่นายต่างหากที่ชอบมีในที่สาธารณะ!! ไอ้!! ไอ้วิปริต" ฉันกำหมัดแน่นและจ้องหน้าเขาอย่างเอาเรื่อง เพราะฉันแค่เดินออกมาคุยโทรศัพท์ใครจะคิดว่าเขาจะลากสาวมากิน ตับ ๆ ๆ กันในรถวะ!
"….จิ๊ ๆ ๆ ถ้าเธอต่อยหน้าหล่อ ๆ ของฉันอีกละก็…" ร่างสูงหัวเราะใส่หน้าฉัน และเหลือบมองหมัดของฉันอีกครั้ง
"ระวังชะตาเธอจะขาดน่ะ" แกว่งนิ้วชี้ไปมา ๆ ก่อนจะแตะที่ปลายจมูกของฉันเบา ๆ
"งั้นเหรอ..แต่คนอย่างนาย ฉันว่าอีกไม่นานก็คงได้ไปอยู่วัดพระบาทน้ำพุ แล้วล่ะ " ฉันพูดขึ้นลอย ๆ เพราะไม่อยากจะยืนเถียงกับไอ้ฝรั่งหื่นกามนี่ต่อแล้วจริง ๆ
หมับ! เขาคว้าแขนของฉันเอาไว้
"..ฉันไม่เข้าวัด?" ร่างสูงเลิกคิ้วถามกลับเหมือนงง ๆ กับคำพูดของฉัน
"ฉันหมายถึง มั่วไม่ซ้ำหน้าแบบนายน่ะ ระวังจะเป็น HIV ตาย!!"
🌦️🌦️🌦️🌦️🌦️🌦️