MasukNew meeting and new relationship. – II
2/4
“พี่พาลิน” ฉันร้องเรียกเมื่อเห็นพี่สาวเดินเข้ามา “ลมอะไรหอบมาคะ”
“ลมคิดถึงน่ะสิ” ฉันส่ายหัวไปมาเบา ๆ ให้กับพี่สาวปากหวานคนนี้ ทั้งที่เราพึ่งเจอกันเมื่อวันก่อน “พ่อบอกให้พี่มาเตรียมตัวเราที่จะไปเจอว่าที่เจ้าบ่าวพรุ่งนี้”
“ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเบะปาก
“เอาน่า ไปดูก่อนเผื่อหล่อก็ได้นะ” ฉันถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ “เดี๋ยวพี่กับพี่วินจะช่วยพูดอีกแรงแล้วกัน แต่ให้ผ่านพรุ่งนี้ไปก่อนนะ”
พี่สาวหยิกแก้มฉันเบา ๆ ก่อนจะมองด้วยสายตารักใคร่เหมือนอย่างเคย เราสองคนสนิทกันมากแม้จะห่างกันหลายปี แต่กับพี่วินก็สนิทมากเหมือนกัน
"ไม่เอาสิ" หมาน้อยของพี่อย่างอแงเลยน๊า พี่สาวส่งกำลังใจมากให้ "พี่รู้ว่าณินไม่อยากมีความรัก แต่ลองไปดูก่อน ไม่คลิกกันก็ไม่เสียหายอะไร ถือว่าไปเยี่ยมญาติสักคนก็แล้วกัน"
“ไม่ว่าจะคิดยังไงณินก็ไม่อยากแต่งงานอยู่ดี” ฉันพูดอย่างเศร้า ๆ “ณินไม่รู้จักเขาเลย แล้วณินเองก็ไม่คิดอยากแต่งงานด้วย พี่ก็รู้”
“พี่รู้... แต่เราจะอยู่เกาะแกะพี่ พี่วินไปจนแก่เลยไง?” พี่สาวเอียงคอถาม
“ใช่ ณินจะอยู่กันลูกอีกคนของพี่ ๆ ตลอดไป” ฉันซบหน้าลงกับไหล่พี่สาว
“แต่ถ้าณินได้แต่งงานพี่ก็จะสบายใจว่าณินจะมีคนดูแล ปู่กับย่าก็จะได้สบายใจด้วยที่ณินได้แต่งงาน” ฉันถอนหายใจอีกหน พี่ ๆ อยากให้มีใครสักคนคอยดูแลเพราะเป็นห่วง ในขณะที่ฉันนั้นรู้สึกว่าการอยู่คนเดียวก็ไม่เห็นจะยากอะไรเลย ถึงจะเหงาบ้างแต่ก็ไม่ได้เป็นไร
“ณินดูแลตัวเองได้นะ” ฉันงอแง
“พอเลย ไม่พูดเรื่องเศร้าละ ไปทำสวยกัน” พี่สาวลากฉันออกมาแล้วขึ้นรถเธอ ตอนนี้พี่สาวรับผิดชอบงานในเครือบริษัทซึ่งเป็นธุรกิจการประกันภัย ทั้งสังหาริมทรัพย์ และอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงพวกประกันภัยอุบัติเหตุ กับประกันสุขภาพก็ด้วย
พ่อวางมือให้เธอทำเต็มตัว แต่ว่าบริษัทนำเข้ารถซึ่งเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของบ้านพ่อยังไม่ได้ส่งต่อให้ใคร พี่วินเองก็ประกาศชัดว่าไม่ทำแน่
พี่วินน่ะเขาเป็นคนฉลาดมาก เขาจบมหาลัยตั้งแต่อายุได้สิบแปดปี เริ่มธุรกิจสตาร์ทอัปเกี่ยวกับเกม และ E-sport ตอนอายุสิบเก้า ตอนนี้เขารวยมากเลยนะ และพี่ชายฉันจะสนับสนุนการเงินฉันเสมอเลยและเขาให้บัตรไม่จำกัดวงเงินฉันมาด้วยหนึ่งใบ เขาก็ไม่มีภรรยาและไม่เคยคิดจะมี
พ่อรู้ดีว่าพี่วินไม่อยากมีความรัก แต่ท่านก็ไม่เคยบังคับพี่ชายฉันเลย อาจจะเคยพูดถึงเรื่องการแต่งงานบ้าง แต่พอพี่ชายยืนกรานว่าไม่ พ่อก็ถอดใจ
“ณินว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยที่ณินต้องแต่งงาน” ฉันเริ่มบ่นระหว่างที่กำลังเดินเลือกชุดที่จะต้องใส่ไปธุระพรุ่งนี้ “ณินไม่เห็นว่าการแต่งงานมันจะดีตรงไหน”
“มันดีนะ” พี่สาวเริ่มแย้ง “เวลาที่ต้องรอสามีกลับบ้าน รอกินข้าวด้วยกัน มันดีจะตาย”
“แต่พี่กับพี่เอ็กซ์รักกัน” ฉันเถียงแม้ว่าตอนแรกเริ่มของคความสัมพันธ์ พี่สาวฉันไม่ได้มีท่าทีอยากจริงจังก็เถอะ แต่พอพี่พาลินเปิดใจก็กลายเป็นว่าดีมาก และฉันก็ดีใจที่เธอได้แต่งงานกับคนที่เป็นรักแท้ของเธอ พี่เอ็กซ์เองก็เข้ากันได้ดีกับครอบครัวเรา “ไม่ได้ถูกจับแต่งงานกันแบบณินนี่นา”
“พี่ว่าชุดนี้สวยนะ” แล้วพี่สาวก็เปลี่ยนเรื่องเมื่อเดินมาถึงชุดหนึ่งซึ่งเป็นเดรสผ้าทวิสชมพูอ่อนยาวประมาณเข่าของฉัน “น้องสาวพี่สวยใส่อะไรก็สวย”
“แต่ณินว่าชุดนี้สวยกว่านะ” ฉันหยิบเดรสยาวสีเหลืองลายดอกยาวถึงข้อเท้าขึ้นมา “สดใสดี”
“งั้นพี่ซื้อให้สองชุดเลยดีมั้ย” พี่สาวเสนอและฉันก็สนองให้อย่างไม่ต้องสงสัย “พรุ่งนี้พี่วินบอกว่าจะไปกับเรา กับพ่อด้วยนะ พี่ว่าก็คงดีเหมือนกันณินจะได้รู้สึกดีขึ้น หรือว่าจะให้พี่กับพี่เอ็กซ์ไปด้วยดี”
“ไม่เป็นไรค่ะ แค่พี่วินก็โอเคแล้ว” ฉันตอบไปและพี่สาวก็ลูบไหล่ฉัน ก่อนจะส่งชุดให้พนักงานไปคิดเงินพร้อมกับวางบัตรเครดิตลงกับถาดรอง
ชีวิตฉันถึงแม้จะไม่ได้โชคดีเรื่องความรักทั้งจากผู้ชายและจากคนเป็นพ่อ แต่ก็ยังถือว่าโชคดีที่ไม่ได้ขัดสนทางการเงิน เลยทำให้งานอดิเรกของฉันน่าจะเป็นการใช้เงินเพื่อคลายความเครียด ความทุกข์ ความเศร้า ความเหงาในใจนั่นล่ะ
พ่อฉันก็ไม่ได้สนใจหรอกว่าฉันจะใช้เงินไปกับอะไร มากหรือน้อยแค่ไหน ฉันได้รับบัตรเครดิตไม่จำกัดวงเงินตั้งแต่อายุสิบสาม พอพี่ชายฉันเริ่มประสบความสำเร็จด้านธุรกิจฉันก็มีเพิ่มมาอีก ไหนจะเงินปันผลจากหุ้นในธุรกิจปีละหลายล้านบาท
ชีวิตฉันแทบไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แต่ก็นะการอยู่เฉย ๆ ทำให้เริ่มฟุ้งซ่านและฉันก็ชอบที่จะทำให้ตัวเองยุ่งกับการเรียนการทำงานอยู่ตลอด เลยไม่ได้อยู่เฉย ๆ และในขณะเดียวกันเพื่อนฉันก็ทยอยแต่งงานมีครอบครัวไปทีละคน ๆ ทีละคน ทั้งเพื่อนสมัยมัธยม สมัยมหาลัยก็ด้วย
สายของวันถัดมาฉันกับพ่อและพี่ชายก็เดินทางมาที่สัตหีบ และมาที่บ้านของเพื่อนพ่อซึ่งรับรู้อีกทีว่าเป็นนายทหารเรือตำแหน่งใหญ่โตในจังหวัดนี้
ฉันจำได้ว่าคุณปู่กับคุณย่าเคยพูดถึงอยู่สองสามครั้ง ว่าเมื่อก่อนเป็นเพื่อนของพ่อที่โตมาในระแวกบ้านเดิมของปู่กับย่า
ไม่นานนักคนขับรถก็จอดรถลงที่บ้านหลังหนึ่งเป็นบ้านสองชั้นขนาดประมาณสี่ห้องนอน และในรั้วเดียวกันก็มีบ้านชั้นเดียวอีกหนึ่งหลัง ตัวบ้านก็ค่อนข้างร่มรื่นและมีสวนดอกไม้สวนหย่อมที่ใหญ่พอสมควร และไม่นานนักก็มีชายหญิงวัยเท่ากันกับพ่อเดินออกมาต้อนรับ
“นี่ธาวินลูกชายคนโตของฉัน ส่วนนี่ญาณินลูกสาวคนเล็ก” พ่อแนะนำฉันให้รู้จักกับอาไตรรงค์และอาพิมาลาซึ่งเป็นเพื่อนของพ่อ
ฉันก็ตกใจมากเมื่อคุณอาคนนั้นเป็นผู้หญิงที่ฉันช่วยเอาไว้ที่วัดเมื่อหลายวันก่อน และฉันก็พึ่งไปเยี่ยมท่าเป็นหนที่สองที่โรงพยาบาลเมื่อวานซืนแล้วฉันก็เจอกับเต
“ตายจริง นี่หนูคนนั้นไงพี่ที่ช่วยฉันที่โรงพยาบาล” คุณอาพิมาลาบอกสามีเพื่อให้มองฉันชัด ๆ และฉันเองก้จำได้ดีเพราะว่าเคยเจอคุฯอาไตรรงค์แล้วหนหนึ่งเหมือนกัน
“พี่นนท์ ลูกสาวพี่น่ะน่ารักมากเลยนะ วันที่พิมเป็นลมหมดสติถ้าไม่ได้หนูคนนี้ประคองคงล้มหัวฟาดพื้นไปแล้ว” คุณอากอดแขนฉันแล้วลูบแขนฉันไปด้วย
“คุณอาหายดีแล้วใช่ไหมคะ” ฉันเริ่มถามบ้างและพอเห็นว่าเป็นคนที่เคยเจอกันสองหนแล้วฉันก็รู้สึกว่ามันผ่อนคลายลงกว่าตอนที่คิดเอาไว้มาก
“ดีขึ้นมากแล้วจ้ะ” ท่านตอบฉันพร้อมรอยยิ้มที่แสนอบอุ่นและจริงใจ “ไป ๆ เข้าบ้านกันก่อน”
“แล้วนี่ลูกชายแกไปไหนล่ะ” ฉันได้ยินเสียงพ่อถามคุณอาไตรรงค์ที่เดินตามหลังเราเข้ามา และคุณอาพิมก็กอดแขนฉันไม่ยอมปล่อย ราวกับว่าดีใจหนักหนาที่ได้เจอฉันและดีใจที่ฉันนั้นเป็นลูกสาวของพ่อ
“มีงานด่วนที่เรือต้องออกไปแต่เช้า แต่เห็นว่ากำลังกลับมา” คุณอาไตรตอบพ่อและเราก็ไปนั่งกันโซฟาและฉันก็ต้องนั่งข้างคุณอาพิมอย่างเสียไม่ได้ แล้วพี่ชายฉันเลยต้องนั่งโซฟาเดี่ยวอีกตัวที่อยู่ใกล้ฉันแทน “อย่างนี้แหละหนูญาณิน เป็นทหารเรือถ้ามีภารกิจด่วนก็ต้องไปทันที เลี่ยงไม่ค่อยได้”
“ไม่เป็นไรค่ะ” ฉันตอบเสียงเบา ดูเหมือนภายในบ้านจะยังไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์อะไรมากมายนัก
คุณอาเล่าว่าพึ่งย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน แต่ท่านซื้อที่บ้านหลังนี้ไว้สักพักแล้ว ด้านหลังเป็นสวนผักและสวนผลไม้เล็ก ๆ คุณอาอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่ที่บ้านหลังนี้ และถึงแม้ว่าอาการป่วยมะเร็งระยะสุดท้ายมาเยือนท่านแต่ก็เห็นว่าท่านพยายามอย่างมากที่จะทำตัวแข็งแรงที่สุด
“หนูญาณินรู้มั้ยจ๊ะ ว่าหน้าตาเหมือนหนูเหมือนดาริณ คุณแม่หนูมากเลย” คุณอาพิมาลาพูดพร้อมกับเอียงหน้ามามองฉันก่อนจะยกมือขึ้นมาลูบแก้มและน้ำตาคลอขึ้นมา
ฉันโตมาแบบไม่เคยเจอตัวจริงของแม่เลยแต่ใคร ๆ ก็พูดกันว่าฉันเหมือนแม่ฉันมาก และฉันก็เห็นรูปแม่นะ มันก็เหมือนจริง ๆ แหละ แต่แม่จะตัวเล็กกว่าฉัน ทั้งคุณปู่คุณย่า แล้วก็คุณตาคุณยายก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าฉันเหมือนแม่มาก โดยเฉพาะรอยยิ้ม
“ตอนที่แม่หนูท้องหนูอยู่ เธอพูดกับอานะว่ามีลูกตั้งสามคนแล้วก็อยากจะให้ลูกเราใครสักคนแต่งงานกัน แล้วอาก็ดีใจนะที่เป็นหนู” คุณอายังคงพูดไปและน้ำตาคลอไปซึ่งฉันก็ไม่รู้จะพูดอะไรดีเลย ภายในใจฉันไม่รู้สึกอะไรกับการแต่งงานเลยสักนิด “ถ้าหนูกับลูกชายอาได้แต่งงานกันอาก็คงจะไปเจอหน้าแม่หนูได้อย่างสบายใจสักที”
“อย่าพูดอย่างนั้นเลยค่ะ” ฉันจับมือท่าน “คุณอาจะต้องหายนะคะ”
“จริงพิม ไม่ใช่ว่าจะรักษาไม่ได้สักหน่อย” พ่อเสริมคำพูดของฉัน
“แล้วหนูคิดยังถึงยอมตกลงล่ะ หน้าตาก็สวยอาไม่คิดว่าจะโสดมาจนถึงตอนนี้เลยนะ” คุณอาไตรถามฉันแล้วก็ยิ้มให้
“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมา
ฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาเป็นตาเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจเหมือนกัน
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III4/4“ณินรู้ว่าพ่อเกลียดณิน ไม่รักณิน แต่ไม่ต้องแสดงออกให้เห็นมากขนาดนั้นก็ได้ค่ะ” ฉันให้หลังมือปาดน้ำตาออก และฉันก็เจ็บจนชาไปเลยล่ะ “เพราะแค่ที่ผ่านมาพ่อก็แสดงออกมันมากพอแล้ว”“เพราะแกเกิดมาแล้วก็ทำให้ผู้หญิงที่ฉันรักที่สุดในชีวิตต้องจากโลกนี้ไป” ฉันหลับตาลงอย่างข่มกลั้นอารมณ์ “แกไม่เคยทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าที่แกเกิดมาเลยสักครั้ง แกเคยไหมที่จะทำให้ฉันรู้สึกมีคุณค่า มีประโยชน์ที่แกเกิดมา มีสักครั้งไหมที่ทำให้ฉันภูมิใจ”น่าแปลกจริงเชียวที่ฉันเจอคำพูดรุนแรงขนาดนี้ใจฉันกลับรู้สึกไม่สะทกสะท้านอะไรขึ้นมาเลยสักนิด ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำตาจะไหลออกมาเพิ่มได้อีก มันจุก ตื้อตันในคออย่างบอกไม่ถูกเลย“เกิดมาแกเคยมีอะไรดีไหม ถ้าแกอยากให้ฉันยอมรับแกในฐานะลูก แกก็ควรจะทำตัวให้เป็นประโยชน์โดยการแต่งงานกับเขาซะ”“พ่อไม่เคยภูมิใจ ไม่เคยเห็นคุณค่า ไม่เคยเห็นประโยชน์ในตัวณินเพราะพ่อไม่เคยมองเลยต่างหาก” ฉันจ้องหน้าพ่อและรู้สึกว่านี่ก็เห็นครั้งแ
กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้ากรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III3/4เพราะฉันไม่เคยสัมผัสคำว่าแม่มาก่อนในชีวิต แล้วฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ฉันจะต้องมารับผิดชอบความรู้สึกของแม่เขา รับผิดชอบคำสัญญาของพ่อแม่เราด้วย“ฉันไม่ได้มีหน้าที่มารับผิดชอบความรู้สึกของพ่อแม่ใคร ฉันบอกแล้วไง” ฉันพูดกับด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นและเรียบเฉย คุณเป็นแฟนที่ดีให้ฉันไม่ได้ แล้วฉันจะไปเชื่อได้ยังไงว่าคุณจะเป็นสามีที่ดีฉันกอดอก จ้องมองเขา และคิดว่าฉันเคยรักผู้ชายคนนี้มากขนาดไหน และตอนนั้นฉันรักเขาลงไปได้ยังไง แต่ตอนนั้นฉันจำได้ว่าฉันรักเตมากแค่ไหน แต่มีคนสอบฉันว่าให้เปลี่ยนความรักที่มีเป็นความโกรธ ถ้าทำได้เราจะเกลียดชังเขามากกว่าที่เคยรักเป็นพันเท่า ๆ“ผมเปลี่ยนไปแล้ว ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณเชื่อดี แต่ขอโอกาสให้ผมได้ทำให้ดูสักครั้งได้ไหม” ฉันไม่เคยเห็นเตพูดด้วยความจริงใจขนาดนี้มาก่อน มันเหมือนตอนที่เตอยากเป็นแฟนกับฉัน และเหมือนตอนที่เขาอยากไปจากฉันด้วย พอคิดถึงความเก่าหนหลังมันก็ทำให้ฉัน...เบ้ปากเส
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III2/4“คุณเตบอกว่าอยากคุยจริง ๆ นะคะ เค้าบอกจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณณินจะยอมคุยด้วย” ฉันกรอกตามองบนอย่างเหนื่อยหน่าย เขานี่พูดไม่รู้เรื่องเลยหรือไงนะ“งั้นบอกเขาไปค่ะว่าณินจะนอน ณินตื่นเมื่อไหร่ก็ค่อยคุย” แม่บ้านทำท่าทางเลิ่กลั่กเมื่อฉันบอกแบบนั้น และฉันก็คิดอะไรบางอย่างออก “พี่ตาไปบอกเขานะคะว่าถ้าอยากคุยก็รอณินตื่นก่อน แต่ถ้ารอไม่ไหวก็ไสหัวกลับไป บอกเขาตามนี้เลยนะคะ”“กะ ก็ได้ค่ะคุณณิน” แม่บ้านตอบรับและฉันก็กลับเข้าไปนอนต่อ คือฉันง่วงนอนมาก ๆ แล้วก็ไม่ชอบใจเวลาที่ฉันถูกรบกวนจากการนอน แม่บ้านที่บ้านจะรู้ดีว่าฉันไม่ชอบและจะไม่เคยปลุกฉันหากไม่มีอะไรเร่งด่วน และไม่มีอะไรสำคัญฉันหลับไปนานจนนาฬิกาปลุกดังขึ้น ซึ่งน่าจะถึงเวลาเที่ยงของวันนี้แล้ว แม้ฉันจะนอนดึกแค่ไหนฉันจะไม่ตื่นเกินเที่ยงเลย หลังจากนอนตื่นแล้วฉันก็อาบน้ำอาบท่า แต่งตัวอย่างอารมณ์ดีเพราะคิดว่าเตคงรอไม่ไหวและกลับไปแล้วล่ะมั้งพออาบน้ำแต่งตัวอีกครั้งชั่วโมงเสร็จฉันก็เดินนวยนาดลงมาจากห้องด้วยอารมณ์ดีพลางคิดว่าวันนี้จะมีอะไรกินเป็นมื้อเที่ยง หรือจะสั่งอะไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – III1/4“ทำหน้าอย่างกับโลกจะแตกเลยณิน” ระหว่างมื้อค่ำที่ฉันนั่งทานข้าวอยู่กับพี่ชายคนโตของฉัน ซึ่งวันนี้เขานอนที่บ้าน ไม่ได้กลับไปนอนที่อพาร์ทเม้นท์ของเขา ส่วนใหญ่แล้วพี่วินจะอยู่ห้องชุดของโครงการหนึ่งซึ่งห้องนั้นก็ค่อนข้างจะหรูหราอยู่มาก ฉันไปหาพี่ชายบ่อยครั้งนะบอกเลยว่าห้องเขาค่อนข้างที่จะไฮเทคฯ สมกับเป็นผู้นำด้านไอที“พี่วินพูดกับพ่อให้หน่อยได้ไหม ณินไม่อยากแต่งงาน” ฉันเริ่มเปิดประเด็นเพราะวันนี้ฉันกะจะพูดกับพ่อแล้วแต่ว่าพอส่งฉันกับพี่วินลงที่บ้านพ่อก็ไปทำงานต่อทั้งที่วันนี้เป็นวันเสาร์ ชีวิตพ่อมีแต่งาน“พี่ก็เห็นว่าณินก็ชอบคุณอาทั้งสองคนนี่นา” พี่ชายถามมา“ณินชอบคุณอาค่ะ แต่ณินไม่ชอบลูกชายเขา” ฉันบอกไปก่อนจะใช้ซ่อมหมุนเส้นพาสตาอย่างเซ็ง ๆ “ณินพูดจริงนะเรื่องที่บอกว่าไม่อยากแต่งงานแล้วน่ะ”“พี่เข้าใจ” พี่ชายเอื้อมมือมาจับมือฉัน แต่พ่อดูจริงจังมากนะ“พ่อเกรงใจพี่มากนะพี่วิน ถ้าเกิดว่าพี่วินพูดพ่อจะต้องยอมใจอ่อนแน่ ๆ” ฉันร้องขออย่างมีหวัง พี่ชายก็ทำหน้าคิดหนักพอดูเราทุกคนในบ้านรู้ว่าพ่อเป็นคนยังไง เป็นคนคำไ
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II4/4ฉันได้แต่อดทนและคิดว่าฉันเองจะอดทนเอาไว้แล้วค่อยกลับไปคุยกันพ่อที่บ้านก็ได้ ฉันอยากจะรักษาหน้า รักษาความรู้สึกของคนป่วยอย่างคุณอาไว้ เพราะฉันไม่สามารถที่จะแต่งงานกับเตได้จริง ๆ อันที่จริงก็คงไม่ต้องพูดถึงขั้นแต่งงานหรอก แค่มองหน้ายังไม่อยากจะมองเลยที่ทนกลืนข้าวลงได้ทั้งที่นั่งข้างเขาฉันก็แทบจะใช้พลังทั้งหมดชีวิตที่มีแล้ว“เต พาญาณินไปเดินเล่นหน่อยสิ เดินคุยกันจะได้ทำความรู้จักกันไว้” หลังจากทานผลไม้เป็นของหวานกันไปแล้วพ่อก็เป็นฝ่ายบอกกับเตไปเอาตรง ๆ วันนี้แทบจะไม่ให้ฉันได้มีโอกาสออกบากเรื่องแต่งงานเลยสักครั้งเดียว ฉันจะได้แค่ตอบคำถามที่ผู้ใหญ่ถามหรือพูดเรื่องอื่นเท่านั้น“ได้ครับลุง” เตรับคำราวกับว่ารอโอกาสนี้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าฉันจะไม่อยากใช้เวลาร่วมกับเตมากเกินไปกว่านี้ได้ฉันก็จำใจ เพราะฉันอยากจะบอกเตว่าฉันไม่มีวันนที่จะแต่งงานกับเขาเตพาฉันเดินมาที่สวนหลังบ้านซึ่งเป็นสระน้ำและมีดอกบัวอยู่หลายกอ ลายล้อมไปสวนพืชผักนานาพันธุ์ และสวนดอกไม้ด้วย อีกฝากฝั่งของสระน่าจะเป็นสวนผลไม้ซึ่งมองด้วยสายตาฉันก็เห็
คำเตือน กรุณาเม้นด้วยถ้อยคำสุภาพด้วยจ้าNew meeting and new relationship. – II3/4“คือหนู....” ฉันอยากบอกว่าฉันไม่อยากแต่งงาน ถ้าพูดออกไปตอนนี้เลยก็น่าจะดีแต่ว่าในตอนนั้นเองก็มีคนใหม่เดินเข้าประตูมาฉันก็ตกใจมากที่เห็นว่าคนนั้น ๆ คือเต เขายืนอยู่หน้าประตูและฉันเห็นว่าทุกคนหันไปมองเขาคนเดียว เขาเองก็มองมายังฉันด้วยสีหน้าที่แปลกใจแต่ฉันตั้งสติและรู้ตัวได้ว่าฉันไม่อยากจะให้ใครตรงนี้รู้เรื่องอดีตของฉันกับเตจึงได้พยายามส่งสายตาให้เขารู้เป็นนัย ๆ ว่าฉันนั้นไม่อยากให้ใครรู้“มาแล้วเหรอเจ้าเต “คุณอาไตรทักลูกชายที่อยู่ในชุดวอร์มซึ่งน่าจะเป็นของหน่วยงาน “ลุงกับพี่ ๆ เขามารออยู่นานแล้วนะ ทำไมถึงพึ่งมา”“พึ่งจัดการงานเสร็จนะครับ” เขาพูดและรอบมองมายังฉันอยู่อีกหน แต่วันนี้ฉันรู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้งเพราะความรู้สึกตื่นตะลึง และเกลียดขี้หน้า “ขอโทษทีที่ให้รอนะครับ”“ไม่เป็นไร มันเป็นเรื่องงาน มา ๆ นั่งก่อน” พ่อฉันพูดแล้วก็บอกให้เขามานั่ง ซึ่งที่ว่างที่เหลือตอนนี้ก็คือโซฟาตัวเดียวกันกับฉัน และที่ว่างคือข้างแม่เขากลายเป็นว่าแม่ของเขาคั่นกลางระหว่างฉันกับเขาอยู่ ฉันควบคุมสีหน้าและอารมณ์เอาไว้แม้ว่าจะ







![Evil Engineerร้ายรักวิศวะเลว [ไนต์]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)