เกือบสองสัปดาห์ที่กวินไม่ได้แวะไปหาหญิงสาว เพราะบาดแผลที่ได้รับยังไม่สมานดี หากเจอหน้าเธอเขากลัวจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ เขาไม่อยากบังคับเธอนอนด้วยจากการฝืนใจซ้ำ ๆ ซาก ๆ ไม่อยากเห็นเธอขัดขืนต่อต้าน
เขาอยากได้เธออย่างเต็มใจ แม้วันแรกที่เจอเธอเขาจะใช้กำลังบังคับ นั่นเพราะเขามีเหตุผล จำต้องทำให้เธอเป็นภรรยาทางพฤตินัยด้วยวิธีนั้น เพื่อผูกมัดไม่ให้เธอกล้าจากเขาไปไหน มันคือเงื่อนไขข้อตกลงที่เขาต้องยอมรับ เพราะรับปากคนบางคนเอาไว้ และอีกอย่างก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเธอเอง
“แม็ก...ช่วยไปติดต่อกับช็อปในห้างของเรา ที่เขาขายสินค้าที่ผู้หญิงชอบใช้ และพวกช็อปเสื้อผ้าให้หน่อย ตามลิสต์ที่วันสุขจดมาให้ เธออยากซื้อของ” กวินบอกลูกน้องมือขวาพร้อมกับยื่นกระดาษที่ได้รับมาจากป้านางเมื่อสองสามวันก่อนให้แม็ก
ธุรกิจในประเทศไทยที่ยุ่งเหยิง กวินจัดการจนทุกอย่างเริ่มลงตัวเข้าที่เข้าทาง วันนี้เขากลับมาบ้านพักในตอนเย็น พร้อมกับเจ้าของช็อปสินค้า พร้อมคนติดตามมีทั้งผู้หญิงและผู้ชายแท้และไม่แท้ นำสินค้ามาให้วันสุขได้เลือกซื้อ ตามรายการที่เธอร้องขอ ด้วยอิทธิพลของกวิน การยกช็อปมาที่บ้านนั้นแสนง่ายดาย เพียงแค่เขาชี้นิ้วเหล่าเจ้าของธุรกิจก็ตอบสนองอย่างว่าง่าย
“ไปเรียกคุณวันสุขลงมา” เขาออกคำสั่งกับป้านาง
“ค่ะ”
วันสุขเดินลงบันไดมาพร้อมกับหญิงมีอายุ กวินที่นั่งรออยู่บนโซฟาตัวหรู เห็นเธออยู่ในชุดเดรสชีฟองแสนบางเบา ไร้การป้องกันปกปิดมิดชิด ไม่ต่างไปจากใส่ชุดว่ายน้ำทูพีช จนเห็นสัดส่วนหญิงสาว ทำให้เขารู้สึกไม่พอใจ เนื้อหนังมังสามันมีแค่เขาสามารถเชยชมได้เพียงคนเดียว ทว่าตอนนี้ดันเผยต่อสายตาชายอื่น ต่อให้คนผู้นั้นจะเป็นเพศที่สามไม่ใฝ่หาผู้หญิงก็ตาม
สายตาของเหล่าผู้คนในห้องโถงใหญ่แทบหลุดจากเบ้า พวกเขาชื่นชมรูปร่างของเธอผ่านสายตา ในขณะที่วันสุขค่อย ๆ เดินนวยนาดจับราวบันไดลงมา เธอเดินเข้าใกล้กวินที่นั่งกอดอกขบฟันแน่น จ้องมองเธอด้วยแววตาเกรี้ยวโกรธ
“กลับไปเปลี่ยนชุดเดี๋ยวนี้!” เสียงกร้าวดุจเจ้าป่าเอ่ย ทำให้เหล่าคนในห้องโถงรีบก้มหน้ามองต่ำ สองมือกำแน่นด้วยความสั่นกลัว
“เปลี่ยนทำไมชุดนี้ก็สวยออก แถมใส่สบายด้วย” เธอต้องการยั่วโมโห เดินนวดนาดชมเครื่องประดับที่จัดเรียงบนโต๊ะและเสื้อผ้าที่แขวนอยู่บนราว โดยไม่ได้สนใจคำสั่งของกวิน แผนการแสบสันอยากปั่นคนตัวโต เพื่อหวังให้เขาหยุดสนใจและปล่อยเธอไป
“ถ้าไม่เปลี่ยน ฉันจะลากเธอออกไปยืนหน้าบ้านด้วยชุดนี้! หรือไม่ก็จะยกเธอให้กับผู้ชายสักคนที่อยู่ตรงนี้”
“นายไม่ทำแบบนั้นหรอก” เธอพูดท้าทายด้วยน้ำเสียงมาดมั่น แม้ลึกในใจจะหวั่นก็ตาม
“ลองดูก็ได้!”
กวินเหมือนถูกวันสุขท้าทาย เขาโกรธจนเลือดขึ้นหน้า ขบฟันแน่นจนเห็นสันกรามชัดเจน วันสุขเริ่มหวั่นกลัวเมื่อเห็นแววตาดุร้ายของเขา แต่เธอก็ยังทำใจดีสู้เสือ
“นาย!” กวินมองไปยังคนเข็นราวเสื้อผ้าของช็อปดัง ซึ่งดูแล้วเขาเป็นชายชาตรีทั้งแท่ง
“ผะ ผมเหรอครับ” ความซวยมาเยือนเขาแล้ว ทั้งที่เป็นเพียงลูกน้องธรรมดาของช็อปเสื้อผ้าเท่านั้น แม้กระทั่งนายจ้างของเขาก็ไม่อาจจะเสนอความเห็นคัดค้านได้ ด้วยรู้ถึงอำนาจและอิทธิพลของชายผู้นี้
“คิดว่าเธอเป็นยังไง” กวินถามความเห็น
“สะ สวย ดะ ดูดีครับ” เขาก้มหน้าตอบด้วยน้ำเสียงติดขัด
คำตอบของเขาช่างเหมือนดาบสองคม หากตอบอีกแบบหนึ่ง ก็อาจดูถูกมาเฟียผู้ทรงอิทธิพลว่าตาต่ำ แต่คำตอบนี้ก็เหมือนจะฆ่าเขาให้ตายได้ ล้วนอยู่ที่อารมณ์เจ้าของคำถาม
“ฉะ...” วันสุขกำลังอ้าปากตอบโต้ แต่ปากของเธอดันช้ากว่าเขา
“งั้นก็เอาเธอกลับไปเป็นเมียเลยดีไหม?”
“แต่ผมมีแฟนแล้วครับ เรากำลังจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้” รีบปฏิเสธทันควัน
“เอาไปเป็นเมียน้อยแล้วกัน ไม่ต้องแต่งให้มากพิธี ดีเสียอีกไม่ต้องเสียเงินค่าสินสอดเยอะแยะมากมาย” กวินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา เหมือนคนไร้ความรู้สึกไม่มีหัวใจ
“ไม่!” วันสุขตะโกนเสียงดังลั่น
ทุกคนที่อยู่ในอาณาบริเวณนั้น ก้มหน้านิ่งแทบไม่ทัน สถานการณ์ดูลุกลามบานปลายขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งที่พวกเขาต้องการมาขายสินค้า ทำธุรกิจ
“หากว่าชอบเธอจนอดใจไม่ไหว ฉันมีห้องรับรองให้นาย จะทำอะไรก็ทำตามใจ”
“นายบ้าไปแล้วเหรอ ฉันไม่ใช่สิ่งของหรือสมบัติที่นายจะยกให้ใครก็ได้” วันสุขเริ่มกลัว เพราะจากสีหน้าและน้ำเสียงของกวินตอนนี้ เขาสามารถทำตามปากว่าได้
“เร็วสิ! ก่อนที่กูจะเปลี่ยนใจเอาชีวิตมึงแทน” กวินเร่งเร้าคนที่ยืนมือสั่นจนยากจะควบคุม เขากลัวชีวิตจะหาไม่ จนก้าวขาแทบไม่ออก
คนงานเข็นราวผ้า ฝืนคว้าข้อมือของหญิงสาว แต่เธอยื้อยุดฉุดกระชากไม่ยินยอม วันสุขมองกวินด้วยความไม่เข้าใจ ปากบอกว่าเธอคือภรรยาทางพฤตินัย แล้วทำไมถึงยกเธอให้ชายอื่นอย่างง่ายดายเช่นนี้
“เธอไม่เหมาะจะเป็นนายหญิงของฉันแล้ว ร่างกายของเธอถูกชายอื่นเชยชมไปทั่ว ตอนนี้เธอเหมือนผู้หญิงโสเภณีที่มีมลทิน” คำตำหนิที่ออกจากปากของเขา เหมือนฝ่ามือหนักตบเข้าใบหน้าเธออย่างแรง
“ไม่ได้! นายยกฉันให้ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ เขาบอกอยู่ว่ามีแฟนแล้ว เขากำลังจะแต่งงาน...นายมันบ้า!”
“ก่อนหน้านี้บอกว่าอยากออกไปเดินเล่นไม่ใช่หรือไง นี่ไงฉันสนองให้เธอแล้ว มีคนพาเธอออกไปข้างนอกมีอิสระตามที่เธอต้องการ ไม่พอใจหรือไง?”
“กวิน!”
“พาเธอไปให้พ้นหน้าฉัน!” น้ำเสียงของกวินเอ่ยออกมาทุกคนสัมผัสได้ว่าเขาโกรธจัด
บรรยากาศในห้องโถงตึงเครียด เหล่าเจ้าของธุรกิจไม่มีใครกล้าเอ่ยห้ามสักคน ได้แต่ก้มหน้ามองพื้น ยืนกุมมือแน่น เพราะพวกเขากลัวไม่มีลมหายใจบนโลกนี้อีก เพราะการหายไปของพวกเขา มันง่ายมากสำหรับกวิน
คนงานเข็นราวผ้าลากวันสุขไปยังห้องที่มีบอร์ดี้การ์ดนำทาง เขาไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันซวยอะไร ออกจากบ้านก้าวขาผิดข้างหรืออย่างไรก็ไม่รู้ ลึกในใจเขาไม่ได้ต้องการผู้หญิงคนนี้ เพราะมีแฟนอยู่แล้วเป็นตัวเป็นตน การลากวันสุขทำไปเพราะกลัวตาย
น้ำตาของหญิงสาวเอ่อคลอ เธอพยายามฝืนแรงฉุดรั้ง ร้องเสียงลั่น ร่างกายสั่นเทาเพราะหวาดกลัว
“เดี๋ยว!” กวินตะโกนตามหลัง เมื่อวันสุขทิ้งห่างจากเขาราวสิบก้าว
เธอสะบัดมือจนหลุดแล้ววิ่งมายืนด้านหลังของกวินในระยะห่างเพียงหนึ่งก้าว เพราะสีหน้าของเขาตอนนี้เหมือนซาตานร้ายที่พร้อมใช้ความรุนแรงกับเธอ หรือไม่ก็อาจจะบีบคอเธอให้ตายได้
“ฉันยังไม่ได้สั่ง วิ่งกลับมาทำไม”
“ไม่นะ ฉันไม่เป็นเมียน้อยของเขา ฉันเป็นภรรยาของนายไปแล้ว” เธอออกปากยอมรับสถานะที่เคยปฏิเสธ
“ก่อนหน้านี้หนักแน่นว่าจะพยายามหาทางหนีไม่ใช่เหรอ ทำไมตอนนี้ถึงดูกลัวนักล่ะ” คำพูดของกวินทำให้วันสุขรู้สึกเสียหน้า เธออยากจิกหัวแล้วตบเขาให้สาแก่ใจ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเธออาจจะเจอหายนะมากกว่านี้อีก
“ถ้าไม่อยากไปเป็นเมียน้อยเขาก็จูบฉันสิ ยืนยันในความเป็นภรรยาของฉัน...อ้อนวอนขอให้ฉันรับเธอกลับมา แสดงให้ดูน่าสงสาร น่าเห็นใจเหมือนตอนที่บีบน้ำตาอย่างวันนั้น” คำสั่งของกวินทำให้วันสุขควันออกจากหู ความเกลียดลุกโชนในใจเธออีกครั้ง อยากจะฆ่าเขาให้ตายลงตรงนี้ แต่สถานการณ์มันไม่เอื้ออำนวย เพราะเธอตกเป็นรอง
วันสุขกัดฟันกำมือแน่น ค่อย ๆ เดินมาตรงหน้าของเขา เขย่งเท้าแล้วจูบลงริมฝีปากของกวินตามที่เขาออกคำสั่ง ทุกคนในห้องโถงได้แต่จินตนาการภาพของชายหญิง ไม่กล้าเงยหน้ามองแม้แต่คนเดียว
ตอนนี้เธอไม่รู้สถานการณ์ที่แน่ชัดของตระกูล การยอมจำนนเป็นเพียงหนทางเดียวที่ทำให้เธออยู่ที่นี่ต่อ เพื่อสืบหาข้อเท็จจริง และปลอดภัยจากผู้ชายคนอื่น เพราะการที่เขาประกาศกร้าวยกเธอให้คนอื่นเหมือนสิ่งของ หากพวกเขาก้าวขาออกไปจากที่นี่คงพูดถึงเธออย่างสนุกปาก จากนายหญิงของมาเฟีย กลายไปเป็นเมียน้อยของคนงานในช็อปเสื้อผ้า
วันสุขตัดสินใจทิ้งศักดิ์ศรีลงชั่วคราว หากสบโอกาสเธอจะต้องหาทางเอาคืนเขาให้สาสม
“กวินคะ อย่ายกฉันไปเป็นเมียน้อยของเขาเลยนะ ฉันเป็นภรรยาของคุณแล้วทางพฤตินัย”
วันสุขละริมฝีปากจากการจูบ เงยหน้าสบตาแล้วพูดอ้อนวอน ท่าทางของเธอทำให้กวินนึกสนุก เขารู้สึกดีเมื่อเธอเรียกชื่อของเขาอย่างอ่อนหวาน
“คืนนี้ผมจะไปหาคุณตั้งแต่หัววัน” เขากระซิบข้างหูเธอ
คำพูดที่ทำให้เธอสะดุ้ง ขนลุกไปทั้งตัว อยากกรีดร้องใส่เขาให้แก้วหูแตกทั้งสองข้าง อยากข่วนหน้าเขาให้ยับ ตบหัวให้ทิ่มลงกับพื้นแข็ง แล้วจับโขกจนสาแก่ใจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะได้ผู้ชายชั่ว ๆ แบบนี้เป็นสามี
“คุณจะยินยอมผมไม่ขัดขืน จะปรนนิบัติผมด้วยความอ่อนหวานใช่ไหม?”
“ค่ะ ฉันจะไม่ดิ้นรนขัดขืน จะทำหน้าที่เป็นภรรยาที่เชื่อฟังสามี” วันสุขก้มหน้ามองพื้นแล้วตอบรับ เธอรู้สึกอายปากเหลือเกินที่ต้องพูดประโยคที่น่าขยะแขยงแบบนี้
“ผู้หญิงคนนี้กูขอคืนแล้วกัน...มึงกลับไปทำงานตัวเองเถอะ” กวินบอกกับคนที่เขาใช้เป็นเครื่องมือกลั่นแกล้งวันสุขด้วยสีหน้าเรียบตึง อีกทั้งยังเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกขาน เขาแอบมองหน้าวันสุขด้วยรอยยิ้มอ่อน แม้ลึกในใจจะอยากหัวเราะเสียงดัง ในท่าทางของเธอก็ตาม
คนงานร้านเสื้อผ้า เหมือนได้เกิดใหม่ เขาโล่งใจดั่งยกภูเขาลูกใหญ่ออกจากอก รีบเดินกลับไปยืนจุดเดิม เขาแทบไม่กล้ามองหน้ากวินแม้เพียงเสี้ยวสายตา ยืนกุมมือก้มหน้ามองพื้นด้วยอาการหวาดกลัว
“ของที่ทุกร้านขนมาในวันนี้ ฉันจะเหมาไว้ทั้งหมด แต่ต้องหุบปากให้สนิทกับเรื่องที่เห็นและได้ยินในวันนี้ ถ้ามีใครเอาไปพูดต่อ ฉันจะทำให้มันไปเฝ้ายมบาล...แม็กจัดการเรื่องเงินให้พวกเขาด้วย”
“ครับ”
เขาบอกกับเหล่าเจ้าของร้าน เหมาสินค้าทั้งหมดเป็นการชดเชยค่าเสียเวลา และถือเป็นนัยของรางวัลที่ทำให้วันสุขพ่ายแพ้ยอมศิโรราบแก่เขา
บ้านหลังงามสุดหรูเริ่มต้นเช้าวันใหม่ด้วยเสียง...“เฮ้ย! ชั้นวางขวดนมวางตรงนี้ก่อน มึงจะเอาไปเก็บที่อื่นทำไมวะคีย์!?”“เพราะมึงวางขวางทางเดิน! เดี๋ยวกูเหยียบลื่นล้มหัวแตก ใครจะอุ้มหลาน!?”“อุ้มหลาน? นี่ลูกกู!!”เสียงปะทะของสองคุณพ่อและคุณอาผู้เห่อหลานสนั่นไปทั้งบ้าน จนแม่บ้านต้องเดินอ้อมไปอีกทาง เพราะไม่อยากถูกลูกหลงจากสงครามของสองชายวัยสามสิบกว่า ๆวันสุขที่เพิ่งลงจากชั้นบน มาพร้อมลูกน้อยในอ้อมแขน ส่งสายตามองสองท่านผู้ใหญ่ ที่เถียงกันเรื่องขวดนมกับผ้าเช็ดตัวแบบไม่มีใครยอมใครเธอวางลูกเบา ๆ บนเบาะเด็ก แล้วกอดอกมอง แล้วเอ่ยเสียงนิ่งแต่ฟาดหัวใจ“นี่พวกคุณไม่คิดจะไปทำงานกันบ้างเหรอ?”ห้องทั้งห้องเงียบลงในพริบตา คีย์ยักไหล่ก่อนตอบเสียงเรียบ“มีลูกน้องดูแลอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นเลยนี่”กวินพยักหน้ารับตามทันที“ใช่ ผมเซ็นมอบอำนาจรองผู้บริหารไว้หมดแล้วครับที่รักไม่ต้องกลัวเลย มีแม็กดูแลบัญชี มีบอดี้การ์ดชุดเต็มรับมือทุกสถานการณ์”“แล้วฉันล่ะ?” วันสุขถามนิ่ง ๆ“คุณเป็นแม่ของลูกผม เป็นวีไอพีของบ้านนี้” กวินตอบพร้อมส่งยิ้มละมุนวันสุขถอนหายใจยาว “งั้นแม่ของลูกจะไปจัดตารางงานต่อ ฝากเลี้ยงลูกด้วยนะ
เสียงรถสปอร์ตหรูจอดสนิทหน้าบ้าน พร้อมกับกวินที่เดินลงจากรถในชุดลำลอง แต่ความขึงขังยังเต็มพิกัด เขาไม่ใช่แค่มาเฟียระดับโลกอีกต่อไป...แต่เป็นคุณพ่อมือใหม่ ที่เตรียมทุกอย่างไว้ละเอียดยิ่งกว่าแผนลอบสังหารศัตรูระดับประเทศ"ชุดเด็กพร้อม""เปลไฮเทคสั่งตรงจากเยอรมันติดเซ็นเซอร์ตรวจจับลมหายใจ""กล้องวงจรปิดในห้องนอนลูกมีระบบเอไอจับอารมณ์""หุ่นยนต์ป้อนนมอัตโนมัติสำรอง 2 ตัว""ยามรักษาความปลอดภัยรอบบ้านเพิ่มอีกหนึ่งทีม"คีย์ที่เดินมาด้วยถึงกับยกมือทาบอก"มึงแน่ใจนะว่านี่ลูก ไม่ใช่ผู้นำประเทศ"กวินปรายตามองเพื่อนอย่างนิ่งขรึม “ลูกกูเกิดมาทั้งที ต้องปลอดภัยที่สุดในโลก”วันสุขที่พุงโตมาก ๆ เดินออกมาช้า ๆ ด้วยสีหน้ายิ้มละมุน“กวินคะ บางอย่างมันเกินไปแล้วค่ะ ขนาดตู้เสื้อผ้าเด็กยังมีระบบสแกนฝุ่น PM 2.5 ก่อนเปิด”กวินรีบเข้ามาประคองเธอทันที “อย่าเดินเร็วแบบนั้นสิครับเดี๋ยวลื่น”“จะลื่นได้ไงคะ พื้นบ้านคุณมันสะอาดกว่าห้องผ่าตัดโรงพยาบาลอีก...” เธอยิ้มขำ ๆกวินจูบเบา ๆ ที่หน้าผากเธออย่างแสนรัก “ผมไม่เสี่ยงแม้แต่วินาทีเดียว คุณกับลูกคือทั้งชีวิตของผม”กลางดึกที่มีเพียงแสงจันทร์อ่อน ลอดผ่านกระจกหน้าต่างเ
เสียงล้อเครื่องบินแตะรันเวย์สนามบินนานาชาติประเทศไทย พร้อมกับเสียงถอนหายใจของคีย์ ผู้ที่เป็นมือขวาคู่ใจและเพื่อนรักเพื่อนตายของกวิน ในวันนี้ไม่ได้กลับมาเพื่อเคลียร์ศัตรู ไม่ได้กลับมาเพื่อคุมธุรกิจ... แต่กลับมาเพราะจะตั้งชื่อลูกให้เพื่อน“บอส! คุณคีย์กลับมาแล้วครับ!” แม็ก คนสนิทของกวิน รายงานอย่างขึงขัง แต่พอเห็นคนตัวสูงเดินเข้ามาพร้อมกระเป๋าล้อลาก และตุ๊กตาหมีสีฟ้ายักษ์ บรรยากาศก็เปลี่ยนทันที“อ้าว... พวกแกไม่ยืนตั้งแถวต้อนรับหลานฉันเหรอ!” คีย์ตะโกนลั่น“ลูก! กู! ไอ้คีย์” เสียงกวินดังมาจากด้านหลังด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ตึงเป๊ะ“เอ้า กวิน! กูรีบกลับมาเพราะเรื่องนี้เลยนะ ไหนหลานอยู่ไหน กูจะตั้งชื่อให้ว่าลีโอดีไหม หรือคาเรน ถ้าเป็นผู้หญิงชื่อนี้ความหมายดีนะ”กวินยกคิ้ว “สรุปมึงจะตั้งชื่อลูกกู?”คีย์ยักไหล่ “ก็หลานกูปะวะ”“คุณคีย์จะเห่อเกินไปแล้ว” แม็กพึมพำเบา ๆ จนวันสุขที่ยืนอยู่ข้าง ๆ หลุดหัวเราะ“นี่! อย่าคิดว่ากูจะไม่หาของเล่น นี่ซื้อมาครึ่งชั้นวางของในห้างแล้ว!” คีย์พูดอย่างภาคภูมิใจ พลางหยิบของเล่นเด็กอ่อนขึ้นมาโชว์เป็นชิ้น ๆวันสุขส่ายหัวพลางยิ้มกริ่ม“คุณคีย์คะ หลานยังไม่คลอดนะคะ อีก
คฤหาสน์ธาราพิพัฒน์หนึ่งเดือนหลังพิธีเปิด Phoenix Sovereign V.2ช่วงเย็นอบอุ่น แสงอาทิตย์สาดลอดผ้าม่านผืนบาง วันสุขเดินลงบันไดอย่างสบาย ๆ แต่กลับไม่เจอใครเลยในบ้าน แม้แต่แม่ของเธอก็หายตัวไปเงียบ ๆ ตั้งแต่ช่วงบ่ายสวนด้านหลังคฤหาสน์ เส้นทางไม้เรียงด้วยกลีบดอกกุหลาบ เสียงเพลงคลาสสิกแผ่วเบาลอยมา วันสุขเดินตามกลิ่นหอมบาง ๆ ของลาเวนเดอร์ จนถึงศาลากลางสวน ที่ถูกประดับด้วยไฟระยิบระยับ ภายในศาลามีโต๊ะอาหารสำหรับสองที่ ไวน์แดง แชนเดอเลียร์คริสตัล และแม่ของเธอ ยืนยิ้มอยู่ข้างประตู “แม่?” วันสุขงงจนแทบหลุดยิ้ม แม่ของเธอยิ้มแล้วเดินมากุมมือเธอ“แม่เคยเห็นแววตาผู้ชายแบบเดียวกับพ่อของลูกครั้งหนึ่ง ในดวงตาของกวิน และวันนี้แม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ ในฐานะแม่ของลูกสาวที่กำลังจะถูกรักตลอดไป”เสียงเท้าคนเดินเข้ามาเงียบ ๆ กวินในชุดสูทเรียบหรู ก้าวออกมาจากเงาไม้ ไม่มีบอดี้การ์ด ไม่มีปืน ไม่มีอำนาจ มีแค่แหวนในกล่องเล็ก ๆ และแววตาที่อ่อนโยน เหมือนพระจันทร์กลางคืนที่ไม่มีเมฆ“วันสุข ผมเคยสัญญากับพ่อคุณว่าจะดูแลคุณ แต่ตอนนี้ผมไม่ได้อยากดูแลคุณเพราะสัญญาอีกแล้ว…”เขาคุกเข่าลงตรงหน้าเธอ ยื่นกล่องแหวนออกมา มือข้างหนึ
กรุงเทพฯ สำนักงาน Phoenix Sovereign แห่งใหม่วันสุขในชุดสูทสีครีมเข้ม กวินอยู่ข้างกายในลุคมาดนิ่ง และคีย์เดินตามในมาดเงียบขรึม บรรยากาศในห้องประชุมใหญ่เต็มไปด้วยพันธมิตร นักลงทุนระดับโลกและสื่อชั้นนำ“ขอบคุณทุกคนที่มาวันนี้ค่ะ...” วันสุขเปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงมั่นคงเบื้องหน้าจอขนาดใหญ่ฉายสไลด์เปิดเผยโครงการลับ D-CHAIN พร้อมภาพของ เลิศศักดิ์ ณัฐพงศ์ ที่ถูกจับกุมแล้ว สร้างเสียงฮือฮาจนดังทั่วห้อง!“ผู้ชายคนนี้เคยพยายามเปลี่ยน Phoenix ให้กลายเป็นอาวุธทางเศรษฐกิจ ใช้เพื่อควบคุมระบบการเงินในโลกมืด วันนี้เขาถูกปลดจากทุกอำนาจอย่างถาวร”เสียงปรบมือเริ่มดัง แต่วันสุขยกมือขึ้นห้ามเบา ๆ“ยังไม่จบค่ะ…เพราะคนที่ร่วมมือกับเขายังมีชีวิตอยู่ และกำลังเตรียมแผนใหม่”บรัสเซลส์ ฐานลับของ Oblivion Techเซเลน่ากำแฟ้มข่าวเลิศศักดิ์แน่น หน้าเธอนิ่งสนิท...แต่นัยน์ตาแดงก่ำ“พวกเขารวมพันธมิตรแล้ว งั้นเราจะสร้างฝ่ายตรงข้ามขึ้นมาเองบ้าง”เธอสั่งเปิดโปรเจกต์ใหม่ในระบบลับของบริษัทชื่อว่า Oblivion Mind AI แบบไม่ผ่านคณะกรรมการควบคุม แต่ถูกออกแบบให้ตัดสินใจได้ในระดับรัฐบาล“ถ้า Phoenix จะควบคุมโลกด้วยความสมดุล Obli
แฟรงก์เฟิร์ต เวลา 09:18 น.วันสุขเปิดโน้ตบุ๊กขึ้น หน้าจอแสดงข้อมูลชุดใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนชื่อไฟล์คือ Phoenix.Layer.2 Blackroom เอกสารภายในคือแผนขยายอิทธิพล Phoenix ที่ไม่เคยเปิดใช้พ่อของวันสุขเคยร่วมออกแบบโครงสร้างนี้ร่วมกับสามนักวิจัยเอไอระดับโลก แต่มันถูกแช่แข็งไว้ เพราะมันควบคุมได้มากเกินไปกวินเดินเข้ามา พร้อมถือถ้วยกาแฟสองใบ“คุณเปิดหมากแล้วใช่ไหม?”วันสุขหันมายิ้ม“อืม…ถึงเวลาทำให้เซเลน่ารู้ว่า ฉันไม่ได้มีแค่สิทธิ์บน Phoenix แต่มีทางเลือกใหม่ที่เธอไม่มี”เซเลน่าอยู่ตรงโถงล็อบบี้ตึกประชุมหลัก เธอได้รับอีเมลฉบับหนึ่งจาก WS.DP-Corp รหัสที่เธอจำได้ดีว่าคือวันสุข หัวข้ออีเมล:Let’s make it global. But on my terms. (เรามาทำให้มันเป็นระดับโลกกัน...แต่ต้องตามเงื่อนไขของฉัน)เธอเปิดเมล สิ่งที่แนบมาคือแผนของ Phoenix Layer 2 ที่วันสุขเป็นคนถือลิขสิทธิ์ร่วมโดยสมบูรณ์ พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า…“คุณเสนอ Phoenix Oblivion…ฉันเสนอ Phoenix Sovereign มาร่วมโต๊ะใหม่ ที่ฉันเป็นเจ้าภาพสิ”เซเลน่ากำแก้วกาแฟแน่นเล็กน้อย ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ“เธอเริ่มเดินเกมของตัวเองแล้วสินะ…”@ห้องของวันสุ